คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 07 : IT'S JUST BEGUN
7
ลู่ฮานนึกหงุดหงิดประโยคที่เซฮุนพูดกับเขาตอนอยู่ที่ค่าย
'เอาเป็นว่า...หลังจากกลับจากค่ายแล้วเสี่ยวลู่อยากได้คนเลี้ยงหนังสักเรื่องไหมครับ?'
ทำคนอื่นเขางอนแล้วยังจะมาชวนไปดูหนังอีก จะบ้ารึไง ใครจะไปยอมดูด้วย อยากจะดูก็ดูไปคนเดียวเถอะเจ้าเด็กบ้า ในหัวของลู่ฮานสรรหาสารพัดคำมาใช้ด่าเซฮุนในใจ แต่...
อะไรคือการที่ลู่ฮานมายืนรอเซฮุนอยู่หน้าโรงหนังของห้างสรรพสินค้าที่เซฮุนเป็นฝ่ายนัดแล้ว แถมยังมาก่อนเวลาอีกด้วย...อีกคนนัดประมาณเที่ยงตรง ลู่ฮานล่อมาก่อนเวลานัดสี่สิบนาที แถมวันนี้ใส่ชุดเก่งของตนมาเสียด้วย เสื้อยืดลายทางขาวดำสลับตัวเก่งและกางเกงเดพสีดำตัวโปรดพ่วงด้วยรองเท้าแวนส์สีแดงผ้าแคนวาสคู่สุดที่รัก
ลู่ฮานก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องทำอะไรบ้าบอขนาดนี้ แต่ก็ต้องหยุดสงสัยตัวเองไว้เพียงเท่านั้นเมื่อสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้นมาเสียก่อน ถ้าเป็นปกติลู่ฮานจะกองมันไว้อย่างนั้นแหละ คงจะข้อความจากเครือข่ายโทรศัพท์ไม่ก็ไลน์เข้า แต่ทว่าวินาทีนี้มือเรียวกลับรีบล้วงสมาร์ทโฟนออกมาดูการแจ้งเตือนที่ปรากฏบนหน้าจอทันที
xehunter : ถึงรึยังครับ?
เซฮุนและลู่ฮานแลกไอดีไลน์กันตอนอยู่ที่ค่าย ซึ่งเซฮุนเป็นคนขอ ตามอนุสัยของลู่ฮานแล้วเขาไม่ใช่คนติดสมาร์ทโฟน ลู่ฮานดองไลน์ไว้จนจะครบสองพันแล้วล่ะมั้ง แต่หลังจากได้ไอดีไลน์ของเซฮุนมาลู่ฮานกลายเป็นคนที่ติดสมาร์ทโฟนไปโดยปริยาย เฝ้ารอดูว่าเมื่อไหร่ที่รุ่นน้องคนสนิทจะทักมา สุดท้ายลู่ฮานก็ทนไม่ไหวจนต้องทักไปเสียเอง ลู่ฮานทักเซฮุนโดยการทำเป็นส่งคำเชิญเล่นคุ้กกี้รันให้กับเซฮุนและรอดูปฏิกิริยาตอบสนองกลับ และมันเป็นอย่างที่ลู่ฮานคาดไว้
'xehunter : ดึกดื่นไม่นอนมัวแต่เล่นเกมนะครับเสี่ยวลู่'
คืนนั้นลู่ฮานนอนหลับฝันดีเลยล่ะ
นิ้วเรียวสไลด์ปลดล๊อคหน้าจอเพื่อจะพิมพ์ข้อความตอบกลับคู่สนทนา ทว่ากลับมีคนโทรเข้าเสียก่อนซึ่งลู่ฮานไม่ทราบว่าเป็นเบอร์ของใครแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รับมัน
"ฮัลโหล"
( ถึงรึยังครับเสี่ยวลู่ )
ดวงตากลมเบิกตากว้างอย่างตกใจและไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ถ้าลู่ฮานไม่ได้คิดไปเองคนที่โทรมาต้องเป็นเซฮุนเพราะเขาจำน้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์ของอีกคนได้แม่นยำ
"ซ-เซฮุนเหรอ?"
( ครับ พี่ถึงรึยัง? พอดีเห็นไม่ตอบไลน์ ผมก็เลยเสียมารยาทโทรมา ขอโทษนะครับ )
"อ-อื้อ ถึงแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ว-ว่าแต่...นายถึงรึยัง?"
( หันมาทางขวาสิครับ )
ลู่ฮานบ้าจี้หันไปทางขวาตามคำสั่งของเซฮุน ลู่ฮานมองเห็นเซฮุนกำลังเดินมาทางเขาพร้อมกับรอยยิ้มโดยถือสมาร์ทโฟนแนบหูไว้ ลู่ฮานเบิกตากว้างอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่เพราะเซฮุน หากแต่เป็นเพราะชุดที่เซฮุนใส่อยู่ต่างหาก เพราะชุดที่เซฮุนใส่มา...มันเหมือนลู่ฮานอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ถอดแบบตั้งแต่เสื้อยืดลายทางขาวดำสลับกัน กางเกงเดพสีดำ จะไม่เหมือนก็แค่รองเท้าผ้าใบของอีกฝ่ายและกระเป๋าคาดเอวสีดำที่เจ้าตัวเอามาคาดกับลำตัวในแนวเฉียงแทน
"บอกฉันทีว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ" ลู่ฮานพูดขึ้นเมื่อเซฮุนเดิมเข้ามาประชิดตัวลู่ฮานเป็นที่เรียบร้อย
"เรื่องบังเอิญแน่นอนครับ สาบานได้" เซฮุนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มพลางชูสามนิ้วขึ้นมาเป็นท่าประกอบ
"บ้าน่า...อะไรจะเหมือนกันขนาดนี้..."
"เหมือนตรงไหนครับ? ชุดเราเหมือนกันก็จริงอยู่ ผมใส่แล้วดูเฉยๆ แต่..." เซฮุนเว้นประโยคไว้ให้คนฟังลุ้นในใจเล่นๆ "เสี่ยวลู่ใส่แล้วน่ารัก"
คนฟังหน้าขึ้นสีทันทีแต่กลับแกล้งทำเป็นพยักหน้าเออออตามแล้วหันไปมองทางนั้นทางนี้กลบเกลื่อน ลู่ฮานแอบมองร่างของเขากับเซฮุนที่มันสะท้อนในกระจกใสของร้านอาหาร ดูยังกับคู่รักใส่เสื้อคู่กันเลยแฮะ...ทันใดนั้นแก้มใสก็มีริ้วสีแดงขึ้นมาจางๆเมื่อนึกได้ว่าตัวเองเผลอคิดอะไรบ้าๆออกไป
"ว่าแต่นายเอาเบอร์ฉันมาจากไหนน่ะ?"
"ขอมาจากคยองซูน่ะครับ เผื่อจำเป็นต้องใช้อย่างเหตุการณ์เมื่อกี้ไง"
ลู่ฮานพยักหน้า นิ้วเรียวรีบกดเมมเบอร์โทรศัพท์ของเซฮุนไว้ในเครื่องทันที ลู่ฮานตัดสินใจเมมเบอร์โทรศัพท์ของเซฮุนว่า
'SEHUNA'
อมยิ้มกับตัวเองอยู่คนเดียวจนกระทั่งเซฮุนถามขึ้นมา "เสี่ยวลู่อยากดูเรื่องไหนครับ?" เซฮุนถามขึ้นเมื่อบัดนี้พวกเขายืนอยู่หน้าหน้าจอแสดงตารางเวลาฉายหนัง
"เซฮุนอยากดูเรื่องไหนเหรอ?"
"ตามใจเสี่ยวลู่สิครับ ผมพามาเลี้ยงหนังเป็นการไถ่โทษ เพราะงั้นผมก็ต้องตามใจเสี่ยวลู่สิครับ จริงไหม?"
ทำไมเซฮุนเรียกเขาว่า 'เสี่ยวลู่' แล้วมันให้ความรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นเรียกกันนะ นี่ลู่ฮานคิดผิดรึเปล่าที่ให้เซฮุนเรียกตนว่าเสี่ยวลู่
"อืม..." ดวงตากลมไล่มองรายชื่อหนังลงมาเรื่อยจนถึงรายชื่อหนังที่ตนสนใจจะดูเป็นพิเศษก่อนจะชี้ไปยังหน้าจอ "เอาเรื่องเนี้ย รอบเที่ยงครึ่งแบบซับไทย"
เซฮุนเลิกคิ้วเมื่อพบว่าหนังเรื่องที่ลู่ฮานอยากดูนั้นเป็นหนังแนวฆาตกรรมเลือดสาด "สายโหดนะเรา" ลู่ฮานยิ้มพลางยักคิ้วให้เซฮุน "ตามนั้นครับ เสี่ยวลู่รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมขอไปซื้อตั๋วแปปนึง"
ลู่ฮานทำตัวเป็นเด็กดียืนรอเซฮุนอยู่ที่เดิมปล่อยให้เจ้ามือไปซื้อตั๋วหนัง มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดดูนั่นนี่เรื่อยเปื่อยแก้เก้อระหว่างรอเซฮุน ทว่าเรียวหน้าสวยกลับต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อจู่ๆก็มีบุคคลปริศนามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
บุคคลที่ลู่ฮานแทบไม่อยากจะเจอหน้าที่สุดในโลก
บุคคลนามว่า 'คิมจงอิน'
ลู่ฮานถอนหายใจแรงๆหนึ่งที "มีธุระอะไร?" เสตามองไปทางอื่นๆทั้งๆที่กำลังถามอีกฝ่าย
"มาทำอะไรที่นี่?" จงอินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งซึ่งสวนทางกับใบหน้าหล่อคมที่ฉายแววหงุดหงิด
"ดูหนัง"
"กับใคร?" ลู่ฮานจิ๊ปากอย่างขัดใจ
ลู่ฮานเกลียด...เกลียดที่คิมจงอินพูดจาราวกับมีสิทธิ์ในตัวเขา
"ฉันถามว่ากับใคร เสี่ยวลู่ฮาน" จงอินถามย้ำเมื่อคนตรงหน้ายังคงทำหูทวนลมและไม่ตอบคำถามของตน
"อย่า...มา...ยุ่งกับฉัน" ลู่ฮานเค้นน้ำเสียงออกมาด้วยความยากลำบาก เพราะประโยคที่ลู่ฮานกล่าวออกไปมันช่างสวนทางกับความรู้สึกที่แท้จริง
"เลิกยุ่งกับมันซะ ไอ้เดือนวิศวะที่นายคลุกคลีอยู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะลู่ฮาน"
"ฉันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ กลับไปหาคยองซูซะจงอิน ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย"
จงอินสูดลมหายใจลึกอย่างสงบสติอารมณ์โมโหของตัวเอง "ฉันเตือนนายแล้วนะลู่ฮาน เลิกยุ่งกับมันซะแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
สงครามประสาทจบลงเมื่อจงอินเดินจากไป ลู่ฮานสูดหายใจลึก ยังคงมองคนที่เดินจากไปอย่างไม่ละสายตาไปไหน เขาเกลียดทุกคำที่จงอินพูดกับเขา ทุกท่าทางที่แสดงท่าทีเป็นเจ้าของ และเขายิ่งเกลียดมันมากกว่าเดิมเมื่อจงอินพูดถึงเซฮุนในทางที่ไม่ดีแบบนั้น
"เมื่อกี้...ใช่คิมจงอินแฟนของคยองซูรึเปล่าครับ?" ลู่ฮานพยักหน้าตอบ "เขามีธุระอะไรกับเสี่ยวลู่เหรอ?"
น่าแปลก พอเป็นเซฮุนที่พูดราวกับมีสิทธิ์ในตัวของลู่ฮานแทนที่จะเป็นจงอินนั้น ลู่ฮานกลับชอบมัน
"เขามาปรึกษาเรื่องเขียนแบบน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" ลู่ฮานโกหกคำโต "ไหนล่ะตั๋ว เดี๋ยวฉันเก็บไว้ให้"
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเก็บไว้ให้เอง" มือหนาเก็บตั๋วสองใบใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Omega เรือนโปรดขึ้นมาดูเวลา เข็มสั้นและยาวชี้บอกเวลาเที่ยงสิบนาที "ไปหาอะไรทานเล่นก่อนเข้าโรงไหมครับเสี่ยวลู่?"
--
หลังจากเซฮุนชวนลู่ฮานไปหาอะไรทานเล่นฆ่าเวลารอหนังฉาย ลู่ฮานเลยตัดสินใจลากเซฮุนมาร้านกาแฟชื่อดังของห้างแห่งนี้ เพราะเป็นร้านที่ตนชอบและมาทานกับเพื่อนบ่อยๆ
"ไอซ์คาราเมลมัคคิอาโต้ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ ชิมไหม?" มือเล็กยื่นแก้วเครื่องดื่มของตนให้อีกฝ่ายแต่ก็ต้องชักมือกลับคืนเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ "อ้อใช่ นายไม่ชอบของหวาน ฉันลืมไป"
"กาแฟร้อนที่สั่งได้แล้วค่ะ" พนักงานสาววางกาแฟร้อนลงตรงหน้าเซฮุน เขาเตรียมจะอ้าปากบอกพนักงานสาวว่าเขาไม่ได้เป็นคนสั่งเครื่องดื่มนี้มาหากแต่ลู่ฮานก็พูดไขข้อข้องใจขึ้นมาเสียก่อน "ฉันสั่งมาให้เองแหละ ตอบแทนที่เลี้ยงหนังไง"
"เกรงใจจังครับ เลี้ยงกาแฟร้อนตั้งแก้วนึง"
ริมฝีปากบางเบะออกอย่างหมั่นไส้ทันที "งั้นก็ไม่ต้องกิน"
เซฮุนหลุดยิ้มในใบหน้าหงิกงอที่ดูน่ารักน่าชังของลู่ฮานอย่างช่วยไม่ได้ "กินครับกิน"
"ไม่ทานเค้กเหรอครับ? ผมเห็นเขาขายเค้กที่พี่ทานตอนเราไปทานข้าวด้วยกันตอนนั้น"
ลู่ฮานรู้สึกดีใจที่เซฮุนจำได้ว่าตนชอบกินอะไร ใบหน้าสวยยิ้มบางๆให้รุ่นน้องตรงข้าม "ไม่ล่ะ ไว้กินวันหลังดีกว่า อีกห้านาทีเดี๋ยวหนังก็จะเข้าแล้วด้วย"
"งั้น...ไว้วันหลังเดี๋ยวผมพามาเลี้ยงแล้วกัน เพราะผมติดค้างพี่ไว้" ลู่ฮานเตรียมจะปฏิเสธเพราะความเกรงใจแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเซฮุนและลู่ฮานเคยสัญญากันไว้ว่าถ้าไปทานอะไรด้วยกันคราวหน้าเซฮุนจะเป็นคนออก
"ใจดีแถมขยันเอาใจจังนะ ถ้านายมีแฟน แฟนนายคงเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยล่ะ" สาบานได้ว่าที่ลู่ฮานพูดออกไปแบบนั้นเพียงเพราะอยากจะแหย่ให้รุ่นน้องตรงหน้าเขินก็เท่านั้น (ถึงแม้มันจะเป็นความจริง)
"แล้วเสี่ยวลู่อยากเป็นคนโชคดีคนนั้นไหมครับ?" แต่ลู่ฮานไม่นึกเลยว่าการที่ตนพูดประโยคนั้นออกไปเหมือนขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ
ใบหน้าสวยเริ่มมีสีแดงริ้วๆที่แก้มขาวนั่น ลู่ฮานทำก้มใช้หลอดดูดเครื่องดื่มของตัวเองแก้เก้อ ลู่ฮานเขินเกินกว่าจะสบตากับเซฮุน
กะจะทำให้เซฮุนเขิน ไหงตัวเองกลับเป็นฝ่ายเขินเสียได้
เซฮุนยิ้มขำกับท่าทางของลู่ฮานจนมือเรียวเอื้อมไปหยิกแขนของเซฮุนจนเจ้าตัวร้องโอ้ยโทษฐานที่บังอาจมาทำให้ลู่ฮานเขินแบบนี้ ดวงตากลมเผลอก้มต่ำไปมองเสื้อยืดของอีกฝ่ายที่เหมือนของตัวเองทุกกระเบียดนิ้ว
เหมือนคู่รักที่ใส่เสื้อคู่กันจริงๆนั่นล่ะ...
"ด-ได้เวลาแล้วล่ะ ไปกันเถอะเซฮุน" ร่างบางลุกขึ้นพรวดพราด อันที่จริงลู่ฮานไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เที่ยงเท่าไหร่แล้ว ลู่ฮานแค่ไม่รู้จะทำตัวยังไงหลังจากโดนเซฮุนหยอดคำหวานใส่
"ขอโทษนะครับ" ร่างสูงลุกขึ้นตามลู่ฮานก่อนที่ทั้งสองจะหันไปตามต้นเสียง เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนระดับม.ปลายกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเซฮุนและลู่ฮาน แว่บนึงที่ลู่ฮานสงสัยว่านี่มันอยู่ในเวลาเรียนทำไมเด็กคนนี้ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้?
"ครับ?" เซฮุนเป็นคนตอบแม้เซฮุนจะตอบด้วยถ้อยคำสุภาพแต่ทำไม...ลู่ฮานรู้สึกว่าใบหน้าของเซฮุนดูไม่พอใจเด็กหนุ่มคนนี้ยังไงก็ไม่รู้
"มีแฟนรึยังครับ?"
"เอ่อ...คือ..."
สถานการณ์เช่นนี้ลู่ฮานไม่เคยจะชินกับมัน แม้ว่าเขาจะโดนเข้ามาจีบกี่ครั้งต่อกี่ครั้งลู่ฮานก็ไม่เคยชินได้เสียที ลู่ฮานทำอะไรไม่ถูก เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของเซฮุนที่ดูหงุดหงิดจนน่ากลัว ในใจหวังลึกๆว่าเซฮุนจะช่วยหรือปกป้องลู่ฮานให้หลุดจากสถานการณ์เช่นนี้
"คือ...ฉัน..."
"ว่าไงครับ?"
"ย-ยังครับ"
เซฮุนทนเห็นผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับลู่ฮานไม่ได้
"งั้นผมขอไลน์พี่ได้ไหมครับ?"
และเซฮุนจะไม่ทนมันอีกต่อไป
"ขอโทษนะครับ พวกเรามีธุระจะต้องไปทำ คงไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระ ขอตัว" จบประโยคเซฮุนรีบคว้ามือลู่ฮานให้เดินตามตนที่กำลังเดินออกจากร้านนี้ไปทันที
ลู่ฮานมองเซฮุนสลับกับมือหนาที่กอบกุมมือของเขาไว้ "ซ-เซฮุน"
"ให้ตาย...พี่อย่าไปคุยกับผู้ชายที่ไหนสุ่มสี่สุ่มห้าอีกนะ อย่าคุย อย่าเข้าใกล้ อย่าให้ไลน์และเบอร์กับผู้ชายที่ไหน"
"ห-หา?"
"ผมหึง"
--
ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังจอฉายหนังขนาดใหญ่อย่างใจจดใจจ่อแต่ทว่าลู่ฮานไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้หนังฉายถึงไหนและพูดอะไรไปบ้างเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างๆตน ประโยคเมื่อครู่ที่เซฮุนพูดกับลู่ฮานยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่ไปไหน
'ให้ตาย...พี่อย่าไปคุยกับผู้ชายที่ไหนสุ่มสี่สุ่มห้าอีกนะ อย่าคุย อย่าเข้าใกล้ อย่าให้ไลน์และเบอร์กับผู้ชายที่ไหน'
'ผมหึง'
บ้า...เด็กนี่ต้องบ้าแน่ๆ กล้าพูดประโยคน่าอายแบบนี้ออกมาได้ยังไง แค่ลู่ฮานเป็นคนฟังก็อายจะตายอยู่แล้ว จู่ๆก็มาพูดจาราวกับเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวลู่ฮานทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่...ทำไมลู่ฮานถึงรู้สึกดีและชอบมันขนาดนี้นะ
มือเรียวถูกันไปมาราวกับหวังให้มันสร้างความอบอุ่นให้ตัวเขาขึ้นมาบ้างเพราะเครื่องปรับอากาศเย็นในโรงหนังเริ่มทำให้ลู่ฮานแสบผิวไปหมดแล้ว
"หนาวเหรอครับ?" เซฮุนหันมาถามรุ่นพี่หน้าสวยข้างๆด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นลู่ฮานเอามือมาถูกันสลับไปมากับใช้มือลูบเข้าที่แขนของตน
ลู่ฮานไม่ได้ตอบอะไร เจ้าตัวเพียงแต่พยักหน้า
เซฮุนเอื้อมมือหนาของตนไปจับกับมือเรียวของลู่ฮานที่เย็นยะเยือกแม้ลู่ฮานจะตกใจกับการกระทำฉาบฉวยของเซฮุนแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออกมีแต่ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"มือเย็นเชียว เชื่อแล้วครับว่าหนาว"
"อ-อื้อ"
"เพราะฉะนั้นต้องจับมือกันไว้แบบนี้นะครับจะได้ไม่หนาว"
เซฮุนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ลู่ฮานเม้มปากเสมองกลับไปยังจอฉายหนังขนาดใหญ่พลางนึกในใจว่าตรรกะบ้าบออะไรจับมือแล้วมันหายหนาว แต่น่าแปลกที่ลู่ฮานรู้สึกอบอุ่นขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะตรงใบหน้านี่ล่ะที่ลู่ฮานรู้สึกอุ่นจนร้อนและลู่ฮานรู้ดีเลยว่าหน้าเขาต้องแดงมากแน่ๆ
รู้ทั้งรู้ว่านี่เป็นแผนหลอกจะฉวยโอกาสแต่ลู่ฮานก็ยินยอม
--
เซฮุนจับมือของลู่ฮานอยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยไปไหน จนกระทั่งถึงตอนที่เซฮุนจะขับรถไปส่งลู่ฮานที่คอนโด ถ้าลู่ฮานไม่ดีดหน้าผากให้เซฮุนปล่อยเจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะขับรถด้วยมือข้างเดียว
"นายก็มีรถนิ ทำไมวันนั้นถึงขึ้นรถเมล์ล่ะ?" ลู่ฮานหมายถึงวันที่เขาพบกับเซฮุนวันแรก
"พอดีตอนปีหนึ่งผมเอารถไปเฉี่ยวเข้า พ่อกับแม่ก็เลยยึดกุญแจรถผมเป็นการทำโทษ แต่ก็อย่างที่เห็นแหละครับ ผมได้รถคืนแล้ว"
"ปีหนึ่งก็ซ่าซะแล้วเหรอหื้ม?"
"ปีสองก็ซ่าอยู่นะครับ" พูดจบมือหนาก็เอื้อมไปจับมือของลู่ฮานที่วางกองอยู่บนหน้าตัก
"ได้ทีจับใหญ่เลยนะ"
"ไม่อยากให้จับก็สะบัดออกสิครับ" ลู่ฮานเบะปากแสร้งทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนที่จะจับมือของอีกคนให้แน่นขึ้น "มือนายเย็นจัง หนาวเหรอ?"
"เปล่าหรอกครับ มือผมเย็นเป็นปกติอยู่แล้ว"
น่าแปลกที่เซฮุนมือเย็นแต่ยามที่ลู่ฮานจับเข้ากับมือของเซฮุนนั้นเขากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
"เขาว่ากันว่าผู้ที่มือเย็นกลับกันหัวใจจะอบอุ่น จริงรึเปล่า?" ยื่นหน้าไปเอียงคอถามคนขับรถจำเป็นอย่างน่ารักทั้งๆที่มือของทั้งสองยังจับกันอยู่
"ไม่เอาน่าเสี่ยวลู่ ผมพึ่งจะได้รถคืนมาเองนะ พี่ทำแบบนี้เดี๋ยวผมก็ได้เฉี่ยวรอบสองหรอกครับ"
ลู่ฮานหันมาหัวเราะคิกคักกับตัวเองคนเดียวที่ทำให้เซฮุนเสียสมาธิได้จนมือหนาถึงกับยอมหลุดจากการกอบกุมแล้วขึ้นมาหยิกแก้มรุ่นพี่หน้าสวยอย่างหมั่นเขี้ยว
"อยู่เฉยๆสิไอ้บ้า" ลู่ฮานจับมือของเซฮุนที่กำลังหยิกแก้มตนออกแล้วตีมือของเซฮุนเบาๆก่อนจะจับเข้ากับมือของเซฮุนแล้วกองไว้บนหน้าตักดังเดิม
"เดี๋ยวนี้ดุจังครับ"
"ก็เด็กมันดื้อ อ๊ะ ถึงแล้วล่ะเซฮุน" เซฮุนเลี้ยวรถเข้าจอดที่ลานจอดรถคอนโดของลู่ฮาน มือเรียวข้างที่ไม่ได้จับกับมือของเซฮุนอยู่ปลดเข็มนิรภัยออกก่อนจะขยับมือเป็นเชิงให้เซฮุนปล่อย "นายจับมือฉันอยู่แบบนี้แล้วฉันจะขึ้นห้องได้ยังไงหื้ม?"
"อยากให้ขึ้นไปส่งไหมครับ?"
"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็เอาเปรียบนายสิ เพราะถ้านายขึ้นไปส่งนายก็ต้องลงมาข้างล่างคนเดียว แค่นายเลี้ยงหนังฉันก็รู้สึกเหมือนเอาเปรียบเด็กจะแย่แล้วโอเซฮุน"
เซฮุนหัวเราะเบาๆในลำคอ "โอเคครับ พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยนะครับ"
ลู่ฮานพยักหน้าพลางยิ้มให้เซฮุนก่อนจะเปิดประตูรถออกไป ทว่าก่อนที่ลู่ฮานนั้นจะออกจากรถไปนั้นร่างบางเอี้ยวตัวหันมาหาเซฮุนเสียก่อน กลีบปากหนากำลังจะเอ่ยถามอีกฝ่ายว่าลืมของหรืออะไร หากสัมผัสนุ่มนวลที่เกิดจากการที่ลู่ฮานประทับริมฝีปากลงบนแก้มของเซฮุนทำให้เขาต้องเงียบไปเสียก่อน
"กู๊ดไนท์นะ ขอบคุณที่เลี้ยงหนังและอย่ากลับบ้านดึกนะรู้ไหม" ลู่ฮานว่าพลางใช้มือของตนหยิกเข้าที่แก้มของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยวหมายจะเอาคืนก่อนจะเดินออกจากรถไปทิ้งให้เซฮุนยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า
ระหว่างที่ลู่ฮานอยู่ในลิฟท์นั้นเขาเอาแต่คิดทบทวนเรื่องราวระหว่างเขากับโอเซฮุน ที่ผ่านมาไม่ใช่ลู่ฮานไม่รู้ว่าอีกคนคิดอย่างไรกับเขา และมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งวันนี้ มันทำให้ลู่ฮานมั่นใจว่าเซฮุนไม่ได้คิดกับเขาเพียงแค่พี่น้อง ลู่ฮานเองก็รู้ตัวดีว่าความรู้สึกรักและชอบที่เขาเคยมอบให้ใครคนหนึ่งมันกำลังจะถูกมอบให้กับเซฮุนและลู่ฮานเชื่อว่าเซฮุนก็รับรู้ได้จากการกระทำของเขา
คงจะไม่ผิดถ้าหากเขาอยากจะเริ่มต้นคำว่ารักกับเซฮุน
ไม่มีวันที่ลู่ฮานจะเลิกยุ่งกับเซฮุน เขาจะไม่ทำตามคำสั่งของจงอิน ถึงเวลาแล้วที่ลู่ฮานต้องเดินออกมาจากคิมจงอินสักที
#ฟิคบสต เฮ้อเพลีย ยาวอีกละ ถถถถถถถถถถถ
เฮะเฮะ ไคลู่อะไรเราไม่รู้เรื่องงงงงงงงงงงงงงง
ขอบคุณคอมเม้นท์และขอบคุณที่เปิดเข้ามาอ่านนะคะอิอิ <3
ความคิดเห็น