ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คนในนิยาย
        ท้องฟ้าโรยตัวมืดลง นุสราอยู่เงียบคนเดียวๆ ในห้องนอนอันเป็นพื้นที่ส่วนตัว หญิงสาวยังคงสงสัยในความฝันเมื่อคืน เธอจึงตัดสินใจหยิบหนังสือปกหนังสีแดงเล่มหนามาเปิดดูตอนที่นาเดียได้พบกับชายหนุ่มปริศนาคนนั้น ข้อความบนหน้ากระดาษเก่าๆ เหลืองๆ ออกน้ำตาลมีความว่า
       
        เป็นครั้งแรกที่นาเดียได้พบกับปีเตอร์ในชุดคลุมสีดำดูลึกลับน่าค้นหา หัวใจได้ลอยไปหาเขาโดยไม่รู้ตัว
       
        นุสรารีบปิดหนังสือโดยไม่คิดจะอ่านต่อแล้วพาตัวเองให้ตกอยู่ในห้วงความคิดอันสับสน
        อะไรกันเนี่ย ไม่ เราไม่ใช่นาเดีย มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
        หญิงสาวตัดสินใจเลิกนึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อนและคิดซะว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญของการประมวลผลของสมองเท่านั้น
ทันใดนั้น สายลมพัดหวือผ่านหน้าต่างจนม่านบางพลิ้วเป็นระลอก มันแรงจนปกหนาๆ ของหนังสือเล่มนั้นเปิดออก หน้ากระดาษดัง พรึ่บพรั่บ!!! ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาพลิกมันอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
        เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น อสูรร่างยักษ์ตัวดำทะมึนดวงตาวาวโรจน์เป็นสีแดงดังเปลวเพลิงลุกโชติช่วงปรากฏกายออกมาจากหนังสือราวกับภาพยนตร์แนวระทึกขวัญแฟนตาซี นุสราเองกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะเป็นลมล้มพับไป
        นุสราลืมตาพบตัวเองนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบแม้ว่าจะอยู่ในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมกับสตรีเพศอย่างเธอ
        “เฮ้อ! ที่แท้ก็ฝันไป คิดมากอีกแล้วนะยัยบี” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองเบาๆ
        และแล้วภาพตรงหน้าทำเอาหญิงสาวอึ้งตะลึงงันอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่ความฝันอย่างที่คิด ชายหนุ่มผิวขาวสะอาดรูปร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันแข็งแรงราวกับรูปปั้นนักรบกรีกโบราณ ใบหน้าเรียบเฉยแววตาแข็งกร้าว โดยรวมเขาดูไม่ต่างจากบุคคลปริศนาในความฝันกำลังยืนจ้องเธอเขม็งอยู่ปลายเตียงทำเอานุสราได้แต่นั่งตัวแข็งแน่นิ่งด้วยความตกใจ
        ไม่น่าเชื่อ ปีเตอร์ออกมามีตัวตนจริง
       
        \"ปีเตอร์” หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ
        “เจ้าคือนาเดียผู้กลับชาติมาเกิด” วัตสันเปล่งภาษามนุษย์เป็นประโยคแรกทำเอาเธอประหลาดใจไม่น้อยก่อนจะโต้แย้งกลับ
        “ฉันไม่ใช่นาเดีย” สายตาพลันจับภาพตรงหน้าอย่างเด่นชัดก่อนจะนึกบางสิ่งขึ้นได้
        ปีเตอร์ยืนนุ่งลมห่มฟ้าอยู่นี่หว่า
        เธอกรี๊ดวี้ดว้ายและหลับตาปี๋ตามสัญชาตญาณของผู้หญิงเมื่อพบเห็นเพศตรงข้ามเปลือยทำให้ปีเตอร์ตระหนักถึงสิ่งที่หญิงสาวต้องการสื่อจึงหันไปคว้าผ้าเช็ดตัวใกล้มือมานุ่งปกปิดของลับ
        “เปิดตาสิ”
        นุสราลืมตาช้าๆ ด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะวางใจมองเต็มตาเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
        “นาเดีย ขอบใจมากนะที่ปลดปล่อยข้า” ชายหนุ่มเริ่มปริปากพูดอีกครั้งแม้ว่าน้ำเสียงดูราบเรียบไร้อารมณ์
        “บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่นาเดีย” นุสรายังคงเถียงจนคอขึ้นเอ็นอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนจะเอ่ยถาม
        “ทำไมเจ้าพูดภาษาแปลกๆ ไป”
        “สำหรับฉันคุณก็พูดแปลกๆ เหมือนกัน นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้วนะ ว่าแต่คุณเถอะ ปีเตอร์ คุณออกมาได้ยังไง”
        ดูเหมือนปีเตอร์พอจะเข้าใจในคำพูดของนาเดียยุคไอทีจึงตอบกลับไป
        “ข้าอยู่ในยุคโบราณที่ยังเชื่อในเวทมนตร์ ข้าถูกสาปให้โดนกักขังในหนังสือ” เขาชี้หนังสือนิยายแฟนตาซีปกหนังเล่มหนาเล่มนั้นก่อนจะกล่าวต่อ
        “ปีเตอร์ พอจะบอกฉันได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” นุสราพยายามซักถามเพื่อไขข้อสงสัยมากมายในหัวสมอง
        “วัตสันบอกให้ข้าไปฆ่าเจ้าให้ตาย”
        “วัตสัน คนรักของนาเดีย?” หญิงสาวเลิกคิ้วเชิงถาม
        “ใช่ มันแอบมีชู้ ข้าจับตัวเจ้ามาได้แล้วแท้ๆ แต่ข้าดันใจอ่อนปล่อยให้เจ้าหนีไป วัตสันมันเลยให้พ่อมดมาสาปข้าให้ถูกขังอยู่ในหนังสืออย่างทุกข์ทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์”
          “คุณก็ถูกปลดปล่อยแล้วนี่นา ปีเตอร์ แต่ทำไมคุณถึงไม่ได้ไปเกิดใหม่ล่ะ” นุสราพูดโดยอ้างหลักความเชื่อทางศาสนา
          “คำสาปยังไม่ได้ถูกปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์”
          “แล้วเมื่อไหร่ล่ะ” หญิงสาวยังคงเป็นเจ้าหนูจำไมซึ่งเต็มไปด้วยความสงสัย
          “ข้าเองก็ไม่รู้”
          “สรุปว่าฉันจะต้องช่วยคุณแก้คำสาปเหรอเนี่ย” เธอเกาหัวแกรกๆ ออกอาการเซ็งเล็กน้อยเพราะต้องมาพัวพันยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่น(ก็ปีเตอร์นั่นแหละ)ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
        “ฉันจะนอนก่อนนะ คุณก็ออกไปนอนบนโซฟาข้างนอกก็แล้วกัน” สิ้นสูดคำพูดประโยคนั้น นุสราล้มตัวลงนอนหลับโดยไม่สนใจเลยว่าปีเตอร์จะเป็นยังไง
       
        เป็นครั้งแรกที่นาเดียได้พบกับปีเตอร์ในชุดคลุมสีดำดูลึกลับน่าค้นหา หัวใจได้ลอยไปหาเขาโดยไม่รู้ตัว
       
        นุสรารีบปิดหนังสือโดยไม่คิดจะอ่านต่อแล้วพาตัวเองให้ตกอยู่ในห้วงความคิดอันสับสน
        อะไรกันเนี่ย ไม่ เราไม่ใช่นาเดีย มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
        หญิงสาวตัดสินใจเลิกนึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อนและคิดซะว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญของการประมวลผลของสมองเท่านั้น
ทันใดนั้น สายลมพัดหวือผ่านหน้าต่างจนม่านบางพลิ้วเป็นระลอก มันแรงจนปกหนาๆ ของหนังสือเล่มนั้นเปิดออก หน้ากระดาษดัง พรึ่บพรั่บ!!! ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาพลิกมันอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
        เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น อสูรร่างยักษ์ตัวดำทะมึนดวงตาวาวโรจน์เป็นสีแดงดังเปลวเพลิงลุกโชติช่วงปรากฏกายออกมาจากหนังสือราวกับภาพยนตร์แนวระทึกขวัญแฟนตาซี นุสราเองกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะเป็นลมล้มพับไป
        นุสราลืมตาพบตัวเองนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบแม้ว่าจะอยู่ในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมกับสตรีเพศอย่างเธอ
        “เฮ้อ! ที่แท้ก็ฝันไป คิดมากอีกแล้วนะยัยบี” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองเบาๆ
        และแล้วภาพตรงหน้าทำเอาหญิงสาวอึ้งตะลึงงันอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่ความฝันอย่างที่คิด ชายหนุ่มผิวขาวสะอาดรูปร่างล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันแข็งแรงราวกับรูปปั้นนักรบกรีกโบราณ ใบหน้าเรียบเฉยแววตาแข็งกร้าว โดยรวมเขาดูไม่ต่างจากบุคคลปริศนาในความฝันกำลังยืนจ้องเธอเขม็งอยู่ปลายเตียงทำเอานุสราได้แต่นั่งตัวแข็งแน่นิ่งด้วยความตกใจ
        ไม่น่าเชื่อ ปีเตอร์ออกมามีตัวตนจริง
       
        \"ปีเตอร์” หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ
        “เจ้าคือนาเดียผู้กลับชาติมาเกิด” วัตสันเปล่งภาษามนุษย์เป็นประโยคแรกทำเอาเธอประหลาดใจไม่น้อยก่อนจะโต้แย้งกลับ
        “ฉันไม่ใช่นาเดีย” สายตาพลันจับภาพตรงหน้าอย่างเด่นชัดก่อนจะนึกบางสิ่งขึ้นได้
        ปีเตอร์ยืนนุ่งลมห่มฟ้าอยู่นี่หว่า
        เธอกรี๊ดวี้ดว้ายและหลับตาปี๋ตามสัญชาตญาณของผู้หญิงเมื่อพบเห็นเพศตรงข้ามเปลือยทำให้ปีเตอร์ตระหนักถึงสิ่งที่หญิงสาวต้องการสื่อจึงหันไปคว้าผ้าเช็ดตัวใกล้มือมานุ่งปกปิดของลับ
        “เปิดตาสิ”
        นุสราลืมตาช้าๆ ด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะวางใจมองเต็มตาเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
        “นาเดีย ขอบใจมากนะที่ปลดปล่อยข้า” ชายหนุ่มเริ่มปริปากพูดอีกครั้งแม้ว่าน้ำเสียงดูราบเรียบไร้อารมณ์
        “บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่นาเดีย” นุสรายังคงเถียงจนคอขึ้นเอ็นอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนจะเอ่ยถาม
        “ทำไมเจ้าพูดภาษาแปลกๆ ไป”
        “สำหรับฉันคุณก็พูดแปลกๆ เหมือนกัน นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้วนะ ว่าแต่คุณเถอะ ปีเตอร์ คุณออกมาได้ยังไง”
        ดูเหมือนปีเตอร์พอจะเข้าใจในคำพูดของนาเดียยุคไอทีจึงตอบกลับไป
        “ข้าอยู่ในยุคโบราณที่ยังเชื่อในเวทมนตร์ ข้าถูกสาปให้โดนกักขังในหนังสือ” เขาชี้หนังสือนิยายแฟนตาซีปกหนังเล่มหนาเล่มนั้นก่อนจะกล่าวต่อ
        “ปีเตอร์ พอจะบอกฉันได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” นุสราพยายามซักถามเพื่อไขข้อสงสัยมากมายในหัวสมอง
        “วัตสันบอกให้ข้าไปฆ่าเจ้าให้ตาย”
        “วัตสัน คนรักของนาเดีย?” หญิงสาวเลิกคิ้วเชิงถาม
        “ใช่ มันแอบมีชู้ ข้าจับตัวเจ้ามาได้แล้วแท้ๆ แต่ข้าดันใจอ่อนปล่อยให้เจ้าหนีไป วัตสันมันเลยให้พ่อมดมาสาปข้าให้ถูกขังอยู่ในหนังสืออย่างทุกข์ทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์”
          “คุณก็ถูกปลดปล่อยแล้วนี่นา ปีเตอร์ แต่ทำไมคุณถึงไม่ได้ไปเกิดใหม่ล่ะ” นุสราพูดโดยอ้างหลักความเชื่อทางศาสนา
          “คำสาปยังไม่ได้ถูกปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์”
          “แล้วเมื่อไหร่ล่ะ” หญิงสาวยังคงเป็นเจ้าหนูจำไมซึ่งเต็มไปด้วยความสงสัย
          “ข้าเองก็ไม่รู้”
          “สรุปว่าฉันจะต้องช่วยคุณแก้คำสาปเหรอเนี่ย” เธอเกาหัวแกรกๆ ออกอาการเซ็งเล็กน้อยเพราะต้องมาพัวพันยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่น(ก็ปีเตอร์นั่นแหละ)ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
        “ฉันจะนอนก่อนนะ คุณก็ออกไปนอนบนโซฟาข้างนอกก็แล้วกัน” สิ้นสูดคำพูดประโยคนั้น นุสราล้มตัวลงนอนหลับโดยไม่สนใจเลยว่าปีเตอร์จะเป็นยังไง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น