คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : ตอนที่ 38++นางไม้++
เวียงพิงค์สอดส่ายสายตามองหาทหารพรานบุญสิน
แต่วันนี้ไม่เห็นตัวเลย ทั้งที่ปกติเห็นตามเป็นเงาอวัศย์แทบไม่ห่าง
ในบริเวณรีสอร์ตไม่มีแน่ หล่อนจึงลองเดินแวะเวียนไปชะโงกมองแถวแนวป่า
เผื่อว่าจะเจอตัว
“พี่บุญสิน
อยู่แถวนี้หรือเปล่า”
“หมอเรียกผมเหรอครับ”
เวียงพิงค์ได้ยินเสียงก่อนเห็นตัว
เมื่อหันไปจึงเห็นทหารพรานบุญสินยืนหอบอยู่ตรงหน้า
“ใช่
ฉันตามหาพี่ตั้งนาน”
“เดี๋ยวนะหมอ
ผมขอนั่งพักก่อน” บุญสินยกมือขอเวลานอก
ทิ้งตัวลงนั่งบนรากไม้
เวียงพิงค์ตามไปหยุดยืนดูเขานั่งหอบ
“ทำไมท่าทางเหนื่อย
ๆ”
“เพิ่งเสร็จงานคุ้มกันรถสัปเหร่อน่ะหมอ”
“รถสัปเหร่อ ?”
“รถสายพานลำเลียงพลเอพีซีไงล่ะหมอ
งวดนี้ตายไปสอง เจ็บอีกสาม ต้องรีบส่งกลับแนวหลัง
พวกหมอก็ยังอุตส่าห์ตามมารังควานไม่ให้พวกผมได้ส่งเพื่อนกลับสบาย ๆ ทำไมนะหมอ
เราก็คนไทยด้วยกันแท้ ๆ ทำไมต้องมาทำร้ายกันแบบนี้” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกความเหนื่อยล้าทดท้อใจ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เวียงพิงค์ทำหน้าเศร้า
หล่อนปล่อยให้บุญสินพักหายใจหายคอครู่หนึ่ง
แม้รู้ว่าที่จริงเขาก็ไม่ได้มีลมหายใจแล้ว
“พี่บุญสิน
ฉันมีเรื่องจะถามเกี่ยวกับคนที่ชื่ออนล” เมื่อเห็นเขาหายเหนื่อย
หล่อนก็เกริ่นเข้าเรื่อง
ทหารหนุ่มเงยหน้ามอง
ทำตาปริบ ๆ
“เรื่องของอนลกับหมอชล
พี่บุญสินรู้อะไรเกี่ยวกับสองคนนี้บ้าง เรื่องของสองคนนี้เป็นมายังไง” เวียงพิงค์พยายามจะต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นออกมาเป็นภาพที่สมบูรณ์
ทางไหมซีคงให้ข้อมูลอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว
ก็คงเหลือแต่บุญสินเป็นความหวังของหล่อน
“เอ๊ะ
หมอนี่ก็ถามแปลก เรื่องของตัวเองแท้ ๆ หมอไม่รู้ดีกว่าผมอีกหรือ” บุญสินนิ่วหน้า ก่อนทำท่าตกใจ
“หรือว่าหมอดูพวกเราฆ่ากันตายทุกวันจนเลอะเลือนไปแล้วอย่างเพื่อนผมบางคน”
“ใช่
ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว พี่บุญสินเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม”
เวียงพิงค์รับสมอ้างตามข้อสันนิษฐานของบุญสินเสียเลย
“ได้ แต่ผมก็เล่าตามที่ไอ้นลมันเล่าให้พวกผมฟังนะ
จะมีอะไรจริงอะไรเท็จบ้างผมไม่รับรอง คงมีหมอกับไอ้นลเท่านั้นที่รู้ความจริง”
หญิงสาวพยักหน้าหงึก
ๆ ก้มลงหาที่นั่ง ใช้รากไม้เป็นเก้าอี้อย่างที่บุญสินทำ เมื่อผู้ฟังประจำที่แล้ว
ผู้เล่าก็เริ่มต้นเรื่องราวของเขา
“วันนั้น ผมกับไอ้นลเป็นเวรลงไปเฝ้าแหล่งน้ำ
พอดีผมปวดหนัก ก็เลยขอแยกไปทำธุระ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่ามันเจอนางไม้เข้าให้”
บุญสินนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
สำหรับเขาเหมือนมันเพิ่งผ่านมาไม่นาน
แต่ที่จริงมันคือเหตุการณ์ที่ผ่านมาสามสิบกว่าปีแล้ว
เพียงแต่บุญสินยังไม่รู้ตัวเท่านั้น
‘เฮ้ย ปวดท้องว่ะ
...เข้าป่าก่อนละกัน’ บุญสินบอกเพื่อนแล้วแบกปืนแยกไปอีกทาง
‘เอ๊า ไอ้นี่’
อนลมองตามเพื่อนแล้วก็ส่ายหัว ตะโกนตามไปว่า
‘อย่าทิ้งรอยไว้ให้พวกไอ้เปียมันสะกดรอยตามไปดมขี้นะเว้ย’
บุญสินโบกมือกลับมาโดยไม่หันมามอง
แวบเดียวก็หายลับเข้าไปในป่า
อนลเดินไปตามทางสู่จุดหมายเดิม
นั่นคือแหล่งน้ำที่เพิ่งค้นพบใหม่ ก่อนถึงเขาได้ยินเสียงเหมือนคนเล่นน้ำ
ปืนในมือถูกตั้งลำขึ้นเตรียมพร้อม ฝีเท้าของทหารหนุ่มผ่อนจังหวะลง
ทุกย่างก้าวเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
อนลก้มตัวต่ำ
ใช้ต้นหญ้าวัชพืชอำพรางตัว จรดเท้าเข้าไปใกล้ริมน้ำ
ยินเสียงเสียงน้ำสาดกระเซ็นชัดเจนขึ้น เขาแหวกต้นหญ้าดู เมื่อเห็นที่มาของเสียง
มือที่กำปืนแน่นในทีแรกก็คลายลง ที่แท้เป็น...นางไม้นี่เอง
‘นั่นใครน่ะ’
ดูเหมือนหญิงสาวจะรู้ตัวเข้าแล้ว
หล่อนตกใจหันขวับมองมาตรงจุดที่อนลซุ่มอยู่ มือจับที่ขมวดปมผ้าถุงตรงหน้าอกทันที
ดวงตากลมโตจดจ้องมองหาที่มาของเสียงสวบสาบอย่างระแวงภัย
อนลรู้ตัวว่าถูกจับได้แล้ว
คงเป็นช่วงที่เขาเผลอระวังตัว เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นอันตราย
เขาจึงตัดสินใจยกมือชูอาวุธขึ้นสูงแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืดตัวขึ้น
ก้าวเดินไปแสดงตัวที่ริมตลิ่ง
‘ใจเย็น ๆ ครับ
ผมมาดี’
‘นางไม้’ ทำตาเขียวขวับใส่เขา
เมื่อรู้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญก็รีบขึ้นตลิ่ง คว้าผ้ามาห่อตัวมิดชิดอย่างรวดเร็ว
เมื่อเก็บของได้แล้วก็ตั้งท่าจะเดินหนี
อนลรีบก้าวฉับ ๆ
อ้อมไปดักอีกฝั่ง
‘เดี๋ยวก่อน’
+++++++++++++++++++
ขอฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ ^^
|
|
ความคิดเห็น