คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3++เยี่ยมบ้าน++
จื๋อตั๋วพ่อของไหมซี เป็นชายร่างผอม ผิวกร้านแดด
วัยห้าสิบกว่าไล่เลี่ยกับพ่อของเวียงพิงค์
แนะนำตัวทักทายกันแล้ว
เขาก็บอกให้ลูกสาวไปหาน้ำท่ามารับรองแขก
ท่าทางโอบอ้อมอารีของผู้ใหญ่ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลาย
เหมือนได้เจอญาติผู้ใหญ่ของตน
“ได้ยินชื่อมานาน
ได้เจอตัวจริงกันเสียทีนะหนูพิ้งค์” จื๋อตั๋วนอนเอนหลังอยู่กับพื้น
เด็ก ๆ จึงต้องนั่งลงที่พื้นด้วย
เวียงพิงค์ยิ้มหวานแล้วตอบว่า “ค่ะพ่อ พิ้งค์อยากมาเที่ยวบ้านไหมนานแล้ว แต่หาโอกาสไม่ได้เสียที”
“สอนพิเศษเด็กบนนู้นเป็นยังไงล่ะ” เจ้าของบ้านถาม
ลูกสาวรายงานให้เขาทราบมาก่อนแล้วว่าปิดเทอมนี้สมัครมาเป็นครูอาสาที่บ้านเกิด
มีเพื่อนสนิทติดตามมาด้วย ปีนี้ทั้งคู่เรียนจบพอดี ไหมซีจบเอกอังกฤษ
ส่วนเวียงพิงค์จบครุศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศึกษา
ต่างคนต่างยังไม่ได้ทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เห็นว่าอยากจะค้นหาตัวตน
ค้นหาสิ่งที่อยากทำ ระหว่างนี้ก็อยากทำอะไรคืนสู่สังคมบ้าง
เขาเห็นว่าได้มาใกล้บ้านจึงไม่คัดค้านอะไร
“ดีค่ะ
เด็ก ๆ น่ารัก หลายคนมีหัวทางศิลปะ” เวียงพิงค์ตอบในส่วนของตน
จื๋อตั๋วพยักหน้า
ยิ้มด้วยความเอ็นดู “เห็นไหมชมให้ฟังว่าเพื่อนสนิทวาดรูปสวย นั่นไง รูปที่หนูวาด
ไหมเขาก็เอาใส่กรอบติดไว้นั่น”
เขาพยักพเยิดหน้าไปที่ผนัง
คือรูปวาดของไหมซีฝีมือเพื่อนสนิท เจ้าตัวเอากลับมาบ้านครั้งนู้น
ร่อนอวดคนทั้งบ้าน ชื่อเวียงพิงค์จึงเป็นที่รู้จักสำหรับคนบ้านนี้ดี
แม้ยังไม่เห็นตัวแต่ก็เหมือนรู้จักกันมานานนม
“เดี๋ยวพ่อหายป่วยแล้วจะขอให้วาดมั่ง
อยากมีใส่กรอบสวย ๆ สักรูป”
“ได้ค่ะพ่อ” เวียงพิงค์ตอบรับด้วยความยินดี
จื๋อตั๋วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดปากไอค่อกแค่กแล้วก็ค่อยถามลูกสาวว่า
“ตกลงฝากเพื่อนไปนอนที่รีสอร์ตใช่ไหม”
“จ้ะพ่อ
คุยกับพี่วัศย์ไว้แล้ว”
“อืม
ดีแล้วละ บ้านนี้มันคับแคบน่ะหนูพิ้งค์ ช่วงนี้เจ้าสัวกับเมียก็อยู่ด้วย
หนูไปนอนที่นู่นสบายกว่า” เขาหมายถึงลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้
เวียงพิงค์พยักหน้ารับทราบ
ตอบว่านอนที่ไหนก็ได้ แค่ได้มาเที่ยวบ้านเพื่อนก็ดีใจมากแล้ว
คุยอีกครู่หนึ่งหล่อนก็ขอตัวออกมาเดินเล่น ปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกันเป็นการส่วนตัวเพราะไหมซีไม่ได้กลับบ้านมาสองเดือนแล้ว
คงจะมีอะไรพูดกันมากมาย
เวียงพิงค์เดินลัดเลาะไปทางหลังบ้าน
ผ่านแนวต้นไม้ที่ไหมซีชี้ว่าเป็นแนวแบ่งเขตที่ดิน
หล่อนเห็นกลุ่มคนงานก่อสร้างกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น
จึงเดินตรงเข้าไปหาด้วยความสนใจ อยากรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
ระหว่างกำลังเดินอยู่นั้น มีใครคนหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากแนวต้นไม้ข้าง ๆ
สาวชาวกรุงถึงกับร้องสะดุ้งตกใจ
“ว้าย
!” หล่อนถอยกรูด มองชายแต่งกายซอมซ่อผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง
โผล่ออกมายืนตรงหน้าโดยไม่ให้สุ้มเสียง
เมื่อเขาจ้องตาหล่อน
แล้วย่างสามขุมเข้ามา เวียงพิงค์ก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ
"อย่าเข้ามานะ!"
+++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น