ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โอบรักไว้ด้วยสายหมอก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3++เยี่ยมบ้าน++

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 64






    จื๋อตั๋วพ่อของไหมซี เป็นชายร่างผอม ผิวกร้านแดด วัยห้าสิบกว่าไล่เลี่ยกับพ่อของเวียงพิงค์  แนะนำตัวทักทายกันแล้ว เขาก็บอกให้ลูกสาวไปหาน้ำท่ามารับรองแขก ท่าทางโอบอ้อมอารีของผู้ใหญ่ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้เจอญาติผู้ใหญ่ของตน 

                    “ได้ยินชื่อมานาน ได้เจอตัวจริงกันเสียทีนะหนูพิ้งค์” จื๋อตั๋วนอนเอนหลังอยู่กับพื้น เด็ก ๆ จึงต้องนั่งลงที่พื้นด้วย

                    เวียงพิงค์ยิ้มหวานแล้วตอบว่า “ค่ะพ่อ พิ้งค์อยากมาเที่ยวบ้านไหมนานแล้ว แต่หาโอกาสไม่ได้เสียที”

                    “สอนพิเศษเด็กบนนู้นเป็นยังไงล่ะ” เจ้าของบ้านถาม

                    ลูกสาวรายงานให้เขาทราบมาก่อนแล้วว่าปิดเทอมนี้สมัครมาเป็นครูอาสาที่บ้านเกิด มีเพื่อนสนิทติดตามมาด้วย ปีนี้ทั้งคู่เรียนจบพอดี ไหมซีจบเอกอังกฤษ ส่วนเวียงพิงค์จบครุศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศึกษา ต่างคนต่างยังไม่ได้ทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เห็นว่าอยากจะค้นหาตัวตน ค้นหาสิ่งที่อยากทำ ระหว่างนี้ก็อยากทำอะไรคืนสู่สังคมบ้าง เขาเห็นว่าได้มาใกล้บ้านจึงไม่คัดค้านอะไร

                    “ดีค่ะ เด็ก ๆ น่ารัก หลายคนมีหัวทางศิลปะ” เวียงพิงค์ตอบในส่วนของตน

                    จื๋อตั๋วพยักหน้า ยิ้มด้วยความเอ็นดู “เห็นไหมชมให้ฟังว่าเพื่อนสนิทวาดรูปสวย นั่นไง รูปที่หนูวาด ไหมเขาก็เอาใส่กรอบติดไว้นั่น”

                    เขาพยักพเยิดหน้าไปที่ผนัง คือรูปวาดของไหมซีฝีมือเพื่อนสนิท เจ้าตัวเอากลับมาบ้านครั้งนู้น ร่อนอวดคนทั้งบ้าน ชื่อเวียงพิงค์จึงเป็นที่รู้จักสำหรับคนบ้านนี้ดี แม้ยังไม่เห็นตัวแต่ก็เหมือนรู้จักกันมานานนม

                    “เดี๋ยวพ่อหายป่วยแล้วจะขอให้วาดมั่ง อยากมีใส่กรอบสวย ๆ สักรูป”

                    “ได้ค่ะพ่อ” เวียงพิงค์ตอบรับด้วยความยินดี

                    จื๋อตั๋วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดปากไอค่อกแค่กแล้วก็ค่อยถามลูกสาวว่า “ตกลงฝากเพื่อนไปนอนที่รีสอร์ตใช่ไหม”

                    “จ้ะพ่อ คุยกับพี่วัศย์ไว้แล้ว”

                    “อืม ดีแล้วละ บ้านนี้มันคับแคบน่ะหนูพิ้งค์ ช่วงนี้เจ้าสัวกับเมียก็อยู่ด้วย หนูไปนอนที่นู่นสบายกว่า” เขาหมายถึงลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้

                    เวียงพิงค์พยักหน้ารับทราบ ตอบว่านอนที่ไหนก็ได้ แค่ได้มาเที่ยวบ้านเพื่อนก็ดีใจมากแล้ว คุยอีกครู่หนึ่งหล่อนก็ขอตัวออกมาเดินเล่น ปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกันเป็นการส่วนตัวเพราะไหมซีไม่ได้กลับบ้านมาสองเดือนแล้ว คงจะมีอะไรพูดกันมากมาย

                     เวียงพิงค์เดินลัดเลาะไปทางหลังบ้าน ผ่านแนวต้นไม้ที่ไหมซีชี้ว่าเป็นแนวแบ่งเขตที่ดิน หล่อนเห็นกลุ่มคนงานก่อสร้างกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น จึงเดินตรงเข้าไปหาด้วยความสนใจ อยากรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ ระหว่างกำลังเดินอยู่นั้น มีใครคนหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากแนวต้นไม้ข้าง ๆ สาวชาวกรุงถึงกับร้องสะดุ้งตกใจ

                    “ว้าย !” หล่อนถอยกรูด มองชายแต่งกายซอมซ่อผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง โผล่ออกมายืนตรงหน้าโดยไม่ให้สุ้มเสียง

                    เมื่อเขาจ้องตาหล่อน แล้วย่างสามขุมเข้ามา เวียงพิงค์ก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ

                 "อย่าเข้ามานะ!"

    +++++++++++++++++++++++++++++


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×