คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2++ยินดีต้อนรับสู่เขาค้อ++
ช่วงสาย สองสาวเพื่อนรักโบกรถขนกะหล่ำปลีของชาวม้งบนภูทับเบิกลงมาที่เขาค้อ
สองสาวนั่งอยู่บนเบาะตอนหน้า ไหมซีคุยเป็นเพื่อนพี่คนขับอยู่ตลอด
ส่วนเวียงพิงค์ไม่ค่อยพูดอะไร มองวิวข้างทางสลับกับยกยาดมขึ้นอังจมูก
จนไหมซีสังเกตเห็นเพื่อนสูดยาดมหลายทีจึงทักขึ้นมาว่า
“เมารถเหรอ”
“เวียนหัวนิดหน่อย
เราว่าตอนขึ้นมาทางไม่ชันขนาดนี้นะ”
“เราขึ้นภูทับเบิกมาอีกทางหนึ่ง
ไม่ใช่ทางนี้ ทางนี้ชันกว่าขับยากกว่าแต่ก็ใกล้กว่านะ” ไหมซีอธิบายแล้วก็บอกว่า
“ถ้าเมาก็พยายามหลับไป
เดี๋ยวถึงแล้วเราปลุกเอง”
“ไม่อยากหลับเลย” เวียงพิงค์มองออกไปนอกหน้าต่าง
วิวข้างทางเขียวขจี มองแล้วสดชื่นสบายตา
ตอนนี้หมอกยังไม่สลายตัว ระหว่างทางก็เห็นทะเลหมอกมาตลอด
ในมุมองศาที่เปลี่ยนไปตามความคดเคี้ยวของถนน สวยไปคนละแบบ
เวียงพิงค์ถือคติตลอดมา
เวลาไปเที่ยวจะไม่นอนหลับระหว่างการเดินทาง
เพราะไม่อยากพลาดโอกาสดูบ้านเมืองของเขา นอกจาก ‘จุดหมายปลายทาง‘
ที่ตั้งใจไปให้ถึงแล้ว เวียงพิงค์คิดว่าสิ่งที่เก็บเกี่ยวได้ ‘ระหว่างทาง’
ก็เป็นประสบการณ์ดี ๆ ได้เหมือนกัน
รถวิ่งลงตามถนนคดเคี้ยวไปได้สักพัก
ความชันก็เริ่มลดลง ทำให้อาการมึนศีรษะของเวียงพิงค์ดีขึ้น
เจ้าถิ่นบอกว่า
“ตอนนี้เราเข้าทางหลวงหมายเลข 12 แล้วนะพิ้งค์ ถนนเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ เลย”
“มิน่าล่ะ
ยังดูใหม่อยู่เลย” เวียงพิงค์มองถนนลาดยางเรียบกริบกว้าง 4 เลน วิวสวยตลอดข้างทาง
มีหมอกลอยฟุ้งเป็นหย่อม ๆ ด้วย
น่าจะเป็นถนนที่สวยที่สุดสายหนึ่งที่เวียงพิงค์เคยเห็นมาในชีวิตนี้
“ถนนเส้นนี้แหล่งท่องเที่ยวเพียบ
พอทำใหม่แล้ววิ่งสบาย” ไหมซีบอกต่อ
รถวิ่งไปสักพักหนึ่งก็เกือบถึงทางแยก
ไหมซีรีบชี้ชวนให้เพื่อนมองขึ้นไปบนยอดเขาฝั่งหนึ่ง
“ทางขวานี่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
ที่พิ้งค์อยากมาไง ไว้จะพามาวันหลังนะ”
เวียงพิงค์มองตาม เห็นรูปถ่ายวัดแห่งนี้มาสักพักแล้ว
อยากจะขึ้นไปกราบสักการะ ยลโฉมความงดงามสักที
เมื่อรถขนผักเคลื่อนเข้าสู่เขตเขาค้อ
เวียงพิงค์ก็เริ่มสังเกตเห็นป้ายรีสอร์ตตั้งติด ๆ กันแทบไม่ได้เว้นช่วง
ที่จริงหล่อนก็พอรู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ย่อมต้องมีรีสอร์ตมาก แต่ก็ไม่นึกว่าจะมากมายขนาดนี้
ชนิดที่ว่าป้ายรีสอร์ตบ้านพักแทบจะตั้งเกยกันเลยด้วยซ้ำ
“รีสอร์ตเต็มไปหมดเลย”
“สร้างใหม่เรื่อย
ๆ จะมีเยอะกว่าบ้านคนละ”
“แล้วไม่แย่งนักท่องเที่ยวกันเหรอ”
“ช่วงโลว์ซีซั่นก็อาจจะมีบางที่เงียบบ้าง
ก็ต้องลดราคาสู้กัน แต่ช่วงไฮส่วนใหญ่เต็มหมดนะ พี่วัศย์บอกว่าคู่แข่งเยอะ
เราก็ต้องมีจุดเด่นจุดแตกต่างเป็นจุดขายของเรา และการประชาสัมพันธ์ก็สำคัญ
แกศึกษาดูลู่ทางหลายทางอยู่ เห็นว่าตอนเปิดจะเชิญนักรีวิวมืออาชีพมาเข้าพักด้วย”
เรื่องสร้างรีสอร์ตนี้เป็นโครงการมาตั้งแต่สมัยป้าของหล่อนยังอยู่แล้ว
เริ่มสร้างไปได้เล็กน้อย ป้าก็ป่วยหนัก
ลุงเขยของหล่อนจึงปล่อยค้างเติ่งไว้อย่างนั้น ต่อมาลุงเขยตาย
ลูกชายของเขาได้มรดกที่ดินจึงเข้ามาสานต่องานที่แม่เลี้ยงกับพ่อริเริ่มไว้
“พี่วัศย์คนนี้เป็นญาติฝ่ายไหนของไหมนะ” เวียงพิงค์ถามถึงคนที่หล่อนจะต้องไปขออาศัย
จำได้ว่าไหมซีเคยพูดถึงอยู่บ้าง แต่หล่อนลืมลำดับญาติไปเสียแล้ว
“เป็นลูกชายของลุงเขยเรา
แต่เป็นลูกติดมาจากภรรยาเก่านะ ไม่ใช่ลูกกับป้าเรา”
“อ้อ”
“ลูกกับป้าเราก็มี
ลูกสาว แต่เสียไปตั้งแต่เก้าขวบ”
สาวชาวกรุงพยักหน้า
นับดูแล้วก็ไม่ใช่ญาติสายตรง แต่ฟังจากไหมซีพูดถึงมาหลายครั้ง
ดูเหมือนจะสนิทสนมกันพอสมควร
“พี่
ๆ จอดข้างหน้านี่ได้เลยค่ะ” สาวเจ้าถิ่นหันไปบอกคนขับรถ
หนุ่มใหญ่ชาวม้งจอดรถข้างทาง
ฉีกยิ้มกว้างให้อย่างใจดีเมื่อสองสาวหันมายกมือไหว้ขอบคุณ จากนั้นไหมซีก็เดินนำเพื่อนแบกกระเป๋าเป้
เดินต่อไปอีกร้อยเมตรก็เจอป้ายไร่สตรอว์เบอร์รี ไหมซีเปิดประตูรั้วไม้เข้าไป
เวียงพิงค์จึงเดาได้ว่าถึงที่หมายแล้ว
“ที่กว้างเหมือนกันเนอะ” สาวชาวกรุงสำรวจพื้นที่บ้านเกิดของเพื่อนสาว
ด้านหน้าเป็นแปลงสตรอว์เบอร์รี
เนื้อที่กว้างขวางพอสมควร ถัดไปไม่ไกล
หล่อนเห็นบ้านไม้ใต้ถุนเตี้ยตั้งเด่นคู่กับต้นไม้ใหญ่ คงจะเป็นบ้านของไหมซีนั่นเอง
“ที่บ้านเราสุดแค่ต้นไม้ตรงนู้น
เลยจากนั้นก็เป็นที่ของพี่วัศย์” ไหมซีชี้ไปยังแนวต้นไม้ถัดออกไปอีก
ที่ดินของพ่อกับป้าของหล่อน
ไม่เคยทำเขตรั้วแบ่งแยกชัดเจน ด้วยเพราะเจ้าของที่สองผืนเป็นเครือญาติ
เดินไปมาหาสู่กันได้เสมอ
เวียงพิงค์ยกมือป้องแดดมองตาม
เห็นพื้นที่รีสอร์ตที่กำลังก่อสร้างเลา ๆ แล้ว นั่นสินะ ที่นอนของหล่อนในคืนนี้...
ไหมซีพาเพื่อนเดินผ่านแปลงสตรอว์เบอร์รี
เวียงพิงค์ถือโอกาสสำรวจไปด้วย
“ยังไม่ออกลูกเลย
จำที่ไหมเอาไปฝากได้ อยากกินอีก” นึกถึงสตรอว์เบอร์รีลูกโตรสหวานอมเปรี้ยวที่ไหมซีนำไปฝากเพื่อนที่มหาวิทยาลัยทุกปีแล้วเวียงพิงค์ก็เปรี้ยวปาก
“ช่วงปลายปีต้นปีนู่นละ
พิ้งค์มาเร็วไปนิด เอาไว้ออกแล้วจะเก็บไปฝากอีกนะ หรือไม่ต้นปีพิ้งค์มาอีกสิ
ช่วงนั้นหมอกที่เขาค้อกำลังสวย”
“ชวนแล้วไม่เกรงใจนะ”
“ยังเหลืออะไรต้องเกรงใจกันอีกล่ะ”
สองสาวหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
แล้วไหมซีก็ชวนว่า “ไปไหว้พ่อกันเถอะ”
++++++++++++++++++++
|
ความคิดเห็น