ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : act I คำสัญญาในวัยเด็ก
การแสดงบัลเล่ต์เรื่องGiselle(จิเซล) รอบสุดท้ายของคณะบัลเล่ต์เอบิงด้อนที่จัดขึ้น ณ โรงละครซึ่งจุคนไดัประมาณพันกว่าที่นั่งแห่งหนึ่งในเมืองอ๊อกซฟอร์ดประเทศอังกฤษมีผู้เข้าชมเต็มทุกที่นั่งเพราะคณะบัลเล่ต์นี้เป็นคณะบัลเล่ต์ที่มีชื่อเสียงมากคณะหนึ่ง ผูัที่รับบทเป็นจิเซลและอัลเบรชในรอบนี้ก็คือมาเรน่า ไรท์และโทชิกิ ไค ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักเรียนบัลเล่ต์ที่ถูกคัดเลือกจากโรงเรียนให้มีโอกาสได้ร่วมแสดงกับนักบัลเล่ต์อาชีพของคณะ
ทันทีที่ไคปรากฎตัวบนเวทีก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชม
“อุ๊ยนั่น อัลเบรชออกมาแล้วล่ะลาล่า” หญิงสาวคนหนึ่งสะกิดเพื่อนที่นั่งข้างๆ
“แต่ นั่นไม่ใช่คาร์ลอส พระเอกในดวงใจฉันนี่นาแพท”ลาล่าพูดพร้อมกับยกกล้องส่องทางไกลขึ้นดู
แพทก้มอ่านข้อมูลของนักแสดงที่มีอยู่ในสูจิบัตรที่เธอได้รับ
“โทชิกิ ไค(16)กับมาเรน่า ไรท์(16) นักเรียนจากโรงเรียน Abingdon Ballet School”
“ โอ้โห นี่ขนาดเป็นนักเรียนยังเต้นได้ดียังกับมืออาชีพเลยนะเนี่ย สมแล้วที่เป็นคณะบัลเล่ต์ชื่อดัง”แพทออกความเห็น
“ใช่ๆ โดยเฉพาะพระเอก เพิ่งจะอายุแค่สิบหกยังหน้าตาดีขนาดนี้ ถ้าโตกว่านี้คงจะหล่อน่าดู ยังงี้ฉันต้องขอสมัครเป็นแฟนคลับแล้วล่ะ” ลาล่าพูดเสริมด้วยท่าทีที่เคลิ้มฝันจนทำให้แพทอดที่จะขำเพื่อนของเธอไม่ได้ แต่เธอก็เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน
การแสดงของไคและมาเรน่าได้รับการตอบรับจากผูัชมเป็นอย่างดีเพราะรูปร่างหน้าตาและการเต้นที่ถูกต้องสวยงาม การสี่ออารมณ์ของตัวละครก็ทำได้ดี
เรื่องราวก็ได้ดำเนินมาถึงตอนจบ วิญญาณของจิเซลที่กลายเป็นวิลลี่เนื่องจากความรักที่ไม่สมหวังได้ช่วยอัลเบรชให้พ้นจากมนต์สะกดของเหล่าวิลลี่ก่อนจะค่อยๆหายกลับเข้าหลุมฝังศพไป ทิ้งให้อัลเบรชเศร้าเสียใจเพราะการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของหญิงที่ตนรักเพียงลำพัง จากนั้นม่านบนเวทีก็ค่อยๆปิด เป็นฉากจบที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมได้เป็นจำนวนมากเพราะไคและมาเรน่าสามารถสื่ออารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างท่วมท้น
ทันทีที่การแสดงจบ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องแสดงความชื่นชมก็ดังกึกก้อง
ไปทั่วทั้งฮอลล์เป็นระยะๆ
“เสียงปรบมือดังมากเลยนะโทชิกิ”
“นั่นสิ ไปกันเถอะมาเรน่า ออกไปโค้งให้คนดูกัน”ไคจับมือมาเรน่าให้ไปที่หน้าเวทีด้วยกันเมื่อม่านเปิดอีกครั้ง เหล่าบรรดานักแสดงทั้งหมดต่างก็ออกมารวมตัวกันบนเวที บรรดาตัวละครหลัก วาทยากรผู้ควบคุมวงออเคสตร้าและผู้อำนวยการสร้าง ทยอยกัน
ออกมาโค้งเพื่อแสดงความขอบคุณและรับช่อดอกไม้จากผู้ชมจนกระทั่งม่านปิดแล้วจริงๆ การแสดงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ที่ด้านหลังของโรงละคร เหล่าสต๊าฟและนักแสดงต่างพากันเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บข้าวเก็บของเพื่อแยกย้ายกลับบ้าน มีบางส่วนก็นัดกันไปเลี้ยงฉลองกันต่อ
ไคเองก็กำลังจะกลับหอพักเช่นกัน ขณะที่กำลังรอรถประจำทางก็มีรถคันหนึ่งมาจอดตรงหน้า “โทชิกิ ฉันกำลังจะไปทานข้าวกับพ่อแม่ ไปด้วยกันไหม” รถคันนี้เป็นของมาเรน่านี่เอง เธอบอกให้พ่อจอดรถเพื่อชวนไคไปทานข้าวด้วยกัน
“ขอบใจที่ชวนนะมาเรน่าแต่ฉันอยากกลับหอเร็วๆน่ะ ” ไคปฏิเสธคำชวนเพราะเขาอยากกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้เขาคิดจะออกเดินทางกลับญี่ปุ่นแต่เช้า
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ บาย”
ไคโบกมือตอบ แล้วรถของมาเรน่าก็เคลื่อนออกไป ส่วนไคก็ยืนรอรถประจำทางอยู่สักพักรถประจำทางก็มา ไคจึงขึ้นรถกลับหอพัก
เมื่อไคกลับมาถึงหอพักอาจารย์ผู้ดูแลหอก็เรียกตัวไว้เนื่องจากมีโทรศัพท์ทางไกลจากญี่ปุ่น
“สวัสดีครับ ไค โทชิกิพูดครับ”
((โทชิกิคุง นี่น้าเองนะ)) คนที่โทรมาหาเขาคือทาคุโตะเป็นน้องชายแท้ๆของโทโกะแม่ของเขานั่นเอง ((น้าจะโทรมาถามว่าพรุ่งนี้จะมาถึงญี่ปุ่นกี่โมง จะได้ไปรับ))
“น่าจะไปถึงช่วงดึกๆหน่อยครับ”
((โอเค ถ้ามาถึงเมื่อไรก็รีบโทรมาบอกนะจะได้รีบไปรับ คนที่คฤหาสน์ทัตสึนากิเขาบ่นคิดถึงจะแย่แล้ว บอกว่าอยากเจอตัวไวๆ))
“ขอบคุณครับคุณน้า แล้วเจอกันนะครับ”ไคยิ้มน้อยๆอย่างอ่อนโยนเมื่อนึกถึง
ทุกคนที่คฤหาสน์ทัตสึนากิ
((อื้อ แล้วเจอกัน))
ไค โทชิกิ เด็กหนุ่มอายุสิบหกปี เป็นนักเรียนของโรงเรียนAbingdon Ballet School แห่งนี้มาได้หกปีแล้ว เขาเลือกเรียนที่นี่เพราะการสอนบัลเล่ต์ของที่นี่เข้มงวดมากและพ่อของเขาก็เคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนด้วย
นักเรียนของที่นี่จะอยู่ร่วมกันในหอพักของโรงเรียนเพื่อให้คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นและเป็นการลดเวลาการเดินทางเพื่อให้นักเรียนมีเวลาสำหรับการเรียนมากขึ้น
ห้องพักของไคอยู่ชั้นสาม เมื่อขึ้นมาถึงจะต้องเดินผ่านห้องโถงซึ่งทำเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่ห้องนั่งเล่นนี้จะเป็นที่ที่นักเรียนจะมานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันเรื่องการเรียนและเรื่องสัพเพเหระ เขาพบมุทสึกิ จุนซึ่งเป็นรูมเมทของเขากับเพื่อนคนอื่นๆกำลังศึกษาการเต้นจากวีดีโออยู่
“กลับมาแล้วเหรอคุณพระเอก เหนื่อยเลยนะวันนี้” มุทสึกิชอบเรียกไคว่าคุณพระเอกก็เพราะว่าเวลาที่มีการแสดงเขามักจะได้เป็นตัวเอกอยู่บ่อยครั้ง
“อา” ไคพยักหน้ารับ
“พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางแล้วใช่มั้ยล่ะ”
“พรุ่งนี้นายมีการแสดงอีกเหรอ ฮอตจริงนะนายเนี่ย”
“ไม่ใช่ หมอนี่เขาจะกลับญี่ปุ่นต่างหากล่ะ”
“ฮ้า! กลับญี่ปุ่น? ทำไมล่ะ?”
“ ฉันได้ยินพวกอาจารย์เค้าคุยกันว่าจะรับนายเข้าคณะด้วยนะ คณะบัลเล่ต์ที่อื่น
ก็มาทาบทามนายไว้ตั้งเยอะ”
“ฉันตั้งใจว่าจะกลับไปเรียนต่อให้จบมัธยมปลายก่อนน่ะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
“น่าเสียดายนะ โดยเฉพาะพวกสาวๆถ้ารู้ว่านายไม่อยู่ที่นี่แล้วคงจะเศร้ากันน่าดู”
“หมอนี่ไม่สนใจสาวๆที่นี่หรอกน่า เพราะเขามีสาวในดวงใจให้กลับไปหาอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ รักแรกตั้งแ่สมัยเด็กๆที่นายเคยพูดถึงไง” ไคไม่พูดอะไรมีเพียงรอยยิ้มน้อยๆแทนคำตอบ
“ยิ้มแบบนี้แสดงว่าใช่น่ะซี่ ชักอยากจะเห็นหวานใจของนายซะแล้วซิ”
พอได้ยินดังนั้นมุทสึกิจึงควักเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง”ฉันมีรูปของเธอด้วยนี่ไง คนที่ผมสีฟ้าๆน่ะ”เขาโชว์รูปในโทรศัพท์ให้เพื่อนๆมารุมดู เป็นรูปของเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาว ใส่ชุดบัลเล่ต์สีขาว ผมสีฟ้าถูกเกล้าขึ้นและสวมมงกุฎอันเล็กๆ ไคร้องเฮ้ยด้วยความตกใจ รูปของเขาถูกเจ้าเพื่อนตัวดีมาแอบโหลดเอาไปตอนไหนกันนะ
“ไหนๆ ว้าว!น่ารักอ่ะ”
“น่ารักใช่มั้ยล่ะ ฉันเคยได้คุยกับเธอด้วย”
"นายนี่ชอบแอบมาดูโทรศัพท์ของฉันอยู่เรื่อย"
"แค่นิดๆหน่อยๆเอง ทำเป็นงกไปได้ แล้วนี่จะเข้าห้องแล้วเหรอ"
“จะรีบไปคุยสาวกับล่ะซิ ใช่ม้า"
"หนวกหูน่า!"
"ไม่ต้องเขินหรอกน่า แหมๆอิจฉาคนมีแฟนจริงๆเล้ย ฮ่าๆๆๆๆ” เมื่อถูกแซวแบบนี้แล้ว ไคจึงรีบเดินกลับห้องด้วยความเขินโดยมีเสียงหัวเราะของเพื่อนๆไล่หลัง
.
.
.
.
“ว้าว! พี่คะดูสิๆ ไวท์คริสต์มาสล่ะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ค่อยๆปรอยปรายลงมา และมีเด็กผู้ชายที่น่าจะมีอายุมากกว่าเดินตามข้างหลัง
“พี่คะ อย่างฉันเนี่ยจะเป็นพรีม่าบัลเลริน่า*ได้หรือเปล่านะ”เด็กผู้หญิงคนนั้นหันกลับไปถามคนที่เธอเรียกว่าพี่
( * พรีม่าบัลเลริน่าคือนักบัลเล่ต์หญิงที่เป็นตัวเอกที่เก่งที่สุดและโดดเด่นที่สุด)
“นั่นสินะ อย่างไอจิอาจจะเป็นได้ก็ได้นะ”เด็กชายคนนั้นตอบยิ้มๆ เมื่อได้ยินดังนั้นเด็กหญิงยิ้มอย่างอารมณ์ดี ดูท่าทางเธอจะพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
"แล้วพี่ละคะ ไม่อยากเป็นอะไรบ้างเหรอ?"
เด็กชายนิ่งอยู่พักหนึ่ง"นั่นสิถ้าไอจิเป็นพรีม่าได้ พี่ก็จะตั้งคณะบัลเล่ต์ให้ไอจิเป็นตัวเอกประจำคณะเลยดีมั้ย?"
"ดีค่ะ พี่พูดจริงๆนะ?"
"จริงสิ! สัญญาเลย" แล้วเด็กชายก็ยื่นตุ๊กตากล่องดนตรีที่เตรียมเอาไว้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้เด็กหญิง
......ฝัน.......?
ไอจิค่อยๆลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกตัว เธอค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะหยิบกล่องดนตรีซึ่งเป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่ได้รับเมื่อหกปีก่อนมาไขลาน เสียงของมันทำให้ชวนนึกถึงสมัยตอนเป็นเด็กๆ
สงสัยเป็นเพราะเมื่อคืนเธอคุยโทรศัพท์กับไคเลยทำให้เธอฝันถึงเรื่องเมื่อตอนหกปีที่แล้วในคืนเทศกาลคริสต์มาส เธอกับไคได้ไปชมการแสดงบัลเล่ต์เรื่องThe Nutcracker ของคณะบัลเล่ต์Bolshoi(บอลชอย)ที่นิวเนชันแนลเธียร์เตอร์โตเกียวด้วยกัน ไอจิประทับใจการแสดงของสเวทลาน่าที่เล่นเป็นSugar plum fairy(ชูการ์พลัมแฟรี่)มากจึงคิดอยากเป็นพรีม่าบัลเลริน่าแบบเธอ
“อรุณสวัสดิ์เอมิ”ไอจิจัดการธุระส่วนตัวเสร็จจึงเดินลงมาที่โต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ถัดจากห้องครัว
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะไอจิ วันนี้มีกิจกรรมที่โรงเรียนเหรอ”เอมิค่อยๆส่งถ้วยโกโก้อุ่นๆให้ ไอจิค่อยๆรับมาดื่ม การดื่มโกโก้อุ่นๆในตอนเช้าทำให้ไอจิรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก
"อื้อ อาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมเค้านัดให้ไปซ้อมการแสดงสำหรับวันปฐมนิเทศน่ะ"
"อือฮึ งั้นฉันก็จะได้ดูไอจิขึ้นเวทีนะสิพยายามเข้านะไอจิ"เอมิยกอาหารเชัาที่ชิซึกะเตรียมไว้มาให้ไอจิและต้วเธอเอง อาหารเช้าวันนี้คือสลัดอะโวคาโดกับกุ้งและขนมปังทาเนยพีนัทบัตเตอร์
"ขอบใจจ๊ะเอมิ"
เซ็นโด ไอจิและเซ็นโด เอมิ ทั้งสองคนเป็นนักเรียนของโรงเรัยนมิยาจิกักคุเอ็น ปีนี้ไอจิเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นปีสาม ส่วนเอมิก็เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่หนึ่งซึ่งจะต้องเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศด้วย
"ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ" ไอจิลุกเอาจานที่กินเสร็จแล้วไปลัางให้เรียบร้อยจากนั้นก็สำรวจตัวเองเล็กน้อยก่อนออกจากบ้าน "ไปแล้วนะคะ"
เซ็นโด ไอจิและเซ็นโด เอมิ ทั้งสองคนเป็นนักเรียนของโรงเรัยนมิยาจิกักคุเอ็น ปีนี้ไอจิเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นปีสาม ส่วนเอมิก็เลื่อนชั้นเป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่หนึ่งซึ่งจะต้องเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศด้วย
"ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ" ไอจิลุกเอาจานที่กินเสร็จแล้วไปลัางให้เรียบร้อยจากนั้นก็สำรวจตัวเองเล็กน้อยก่อนออกจากบ้าน "ไปแล้วนะคะ"
" ไปดีมาดีนะจ๊ะ"
เมื่อไอจิไปถึงที่โรงเรียนก็ได้เจอกับคาสึมิและยูกะเพื่อนสนิทที่อยู่ห้องเดียวกันและชอบบัลเล่ต์เหมือนกันอีกด้วย
"ไม่ได้เจอไอจิตั้งสองวัน คิดถึงจังเล้ย" คาสึมิตรงเข้ากอดไอจิทันทีที่ได้เจอกัน เธอชอบกอดไอจิมากเพราะไอจิตัวนุ่มนิ่มแล้วก็หอม
“เวอร์ไปแล้วคาสึมิจัง"
"ไอจัง คาสึมิจัง รีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าชมรมสายนะ" ยูกะเร่งเพื่อนทั้งสองคนให้รีบๆไปเปลี่ยนชุดก่อนเข้าชมรม
ห้องชมรมของพวกเขาอยู่ในหอประชุมทัตสึนากิฮอล์ซึ่งเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ของโรงเรียนมิยาจิกักคุเอ็น ห้องชมรมกว้างมีกระจกเงาและบาร์สำหรับวางมือขณะฝึกเต้นอยู่รอบหัอง เพดานสูงประดับด้วยไฟสปอต ไลต์ พื้นไม้ยกสูงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของนักเรียน
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณมิซากิ"
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะ"พวกไอจิพากันทักทายมิซากิซึ่งเป็นรุ่นพี่ในชมรม ทุกคนพากันยืดกล้ามเนื้อเพื่อเป็นการวอร์มร่างกาย
"ปีนี้ชมรมเราจะแสดงเรื่องอะไรกันนะ"ไอจิถามขึ้นด้วยความอยากรู้
"ไม่รู้สิ แต่ปีที่แล้วสนุกมากเลย นายคิชิดะแต่งตัวเป็นผู้หญิง เล่นเอาคนดูฮากันทั้งหอประชุม เสียดายที่ไอจิไม่สบายเนอะ" คาสึมิย้อนความเรื่องการแสดงเมื่อปีที่แล้ว
"ปีที่แล้วพวกเราเล่นเรื่องซินเดอเรลล่าจ๊ะ โควรินจังกับอิชิดะคุงเป็นซินเดอเรลล่ากับเจ้าชาย ส่วนคุณคิชิดะแล้วก็ฉันกับคาสึมิจังเล่นเป็นแม่เลี้ยงกับพี่สาวที่คอยแกล้งโควรินจังจ๊ะ"ยูกะเล่ารายละเอียดให้ไอจิฟัง
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งพวกอาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมก็มา
"เอ้า!เด็กๆทุกคนวอร์มร่างกายแล้วก็ไปประจำที่บาร์เลย เราจะเริ่มกันแล้วนะ
"ไอจัง คาสึมิจัง รีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าชมรมสายนะ" ยูกะเร่งเพื่อนทั้งสองคนให้รีบๆไปเปลี่ยนชุดก่อนเข้าชมรม
ห้องชมรมของพวกเขาอยู่ในหอประชุมทัตสึนากิฮอล์ซึ่งเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ของโรงเรียนมิยาจิกักคุเอ็น ห้องชมรมกว้างมีกระจกเงาและบาร์สำหรับวางมือขณะฝึกเต้นอยู่รอบหัอง เพดานสูงประดับด้วยไฟสปอต ไลต์ พื้นไม้ยกสูงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของนักเรียน
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณมิซากิ"
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะ"พวกไอจิพากันทักทายมิซากิซึ่งเป็นรุ่นพี่ในชมรม ทุกคนพากันยืดกล้ามเนื้อเพื่อเป็นการวอร์มร่างกาย
"ปีนี้ชมรมเราจะแสดงเรื่องอะไรกันนะ"ไอจิถามขึ้นด้วยความอยากรู้
"ไม่รู้สิ แต่ปีที่แล้วสนุกมากเลย นายคิชิดะแต่งตัวเป็นผู้หญิง เล่นเอาคนดูฮากันทั้งหอประชุม เสียดายที่ไอจิไม่สบายเนอะ" คาสึมิย้อนความเรื่องการแสดงเมื่อปีที่แล้ว
"ปีที่แล้วพวกเราเล่นเรื่องซินเดอเรลล่าจ๊ะ โควรินจังกับอิชิดะคุงเป็นซินเดอเรลล่ากับเจ้าชาย ส่วนคุณคิชิดะแล้วก็ฉันกับคาสึมิจังเล่นเป็นแม่เลี้ยงกับพี่สาวที่คอยแกล้งโควรินจังจ๊ะ"ยูกะเล่ารายละเอียดให้ไอจิฟัง
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งพวกอาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมก็มา
"เอ้า!เด็กๆทุกคนวอร์มร่างกายแล้วก็ไปประจำที่บาร์เลย เราจะเริ่มกันแล้วนะ
ก่อนซ้อมการแสดง ทุกคนจะทบทวนท่าบัลเล่ต์พื้นฐานก่อนโดยเริ่มจากการเต้นที่บาร์เมื่อจบการเต้นที่บาร์แล้วก็จะเป็นการเต้นกลางฟลอร์และจบด้วยการคูลดาวน์
พอจบการฝึกก็ให้ทุกคนได้พักสักครู่ ระหว่างนั้นอาจารย์นิตตะก็เล่าเรื่องละครที่จะเล่นในคราวนี้ให้ฟังแบบย่อๆ
จิเซลเป็นละครบัลเล่ต์ในยุคสมัยโรแมนติก เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของหญิงสาวผู้มีนามว่าจิเซล จิเซลเป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาผู้อ่อนต่อโลกและมีหัวใจที่ไม่แข็งแรง วันหนึ่งเธอได้พบกับอัลเบรชชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งซึ่งเป็นถึงขุนนางชั้นสูงแห่งตระกูลซิลเลเซียแต่ปลอมตัวมาเป็นชาวบ้านเพื่อจะมาพบกับเธอซึ่งถูกหมายตาเอาไว้ จิเซลตกหลุมรักอัลเบรชในทันทีโดยไม่ฟังคำเตือนของฮิลลาเรี่ยนชายผู้แอบรักเธอมาเป็นเวลานาน จนวันหนึ่งเธอก็ได้รู้ความจริงว่าชายที่เธอรักนั้นเป็นถึงขุนนางชั้นสูงและเขาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอกลายเป็นคนเสียสติและสิ้นใจไปในที่สุด
หลังจากที่จิเซลตายเธอก็กลายเป็นวิลลี่
ฮิลลาเรี่ยนและอัลเบรชที่มาเยี่ยมหลุมศพของจิเซลที่อยู่ในป่าในตอนกลางคืนก็ถูกเหล่าวิลลี่ทั้งหลายบังคับให้เต้นรำ ฮิลลาเรี่ยนเกือบจะตายเขาหมดสติในป่าส่วนอัลเบรชได้จิเซลช่วยเหลือไว้ได้ เธอให้อภัยในความผิดของอัล
เบรชและบอกลาก่อนจะจากไปในตอนเช้า
“ผู้ชายอะไรเลวมาก น่าจะถูกฆ่าให้ตายไปเลย!” ระหว่างที่ฟังเรื่องราวของจิเซลคาสึมิอินกับบทมากถึงกับแช่งชักหักกระดูกอัลเบรชตลอดเรื่องเลยทีเดียว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆของไอจิต่างก็ออกความเห็นกันต่างๆนาๆ
“น่าๆ มันเป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นนะคาสึมิจัง”ยูกะปลอบคาสึมิให้ใจเย็นลง “แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะตบอัลเบรชให้หายแค้นแล้วหันไปคบกับ ฮิลลาเรี่ยนแทนซะเลยละมั้งนะ”
ยูกะหัวเราะฮุฮุแต่ทำหน้าน่ากลัวจนคาสึมิรู้สึกสยอง”ยูกะนี่ก็แอบโหดเหมือนกันนะเนี่ย”
“ถ้าเป็นผมผมจะไม่ทำอย่างอัลเบรชเด็ดขาด”
“อัลเบรชนี่ศัตรูของผู้หญิงชัดๆ”
“นั่นสิ ทรยศคู่หมั้นตัวเองไม่พอ แถมยังมาหลอกจิเซลอีก”
“ใช่ๆ ให้จิเซลเป็นแฟนกับฮิลลาเรี่ยนยังจะดีซะกว่า”
“เอ้าๆทุกคนฟังทางนี้ก่อน ครูจะประกาศรายชื่อตัวแสดงแล้วนะ” ครูนิตตะรีบห้ามก่อนที่บทสนทนาจะบานปลายไปมากกว่านี้
“เซ็นโด ไอจิจัง เล่นเป็นจิเซลนะ”
“เอ๋~~~~~~~~~~?” ไอจิออกอาการตกใจทันทีที่ได้ยิน
“สึซึกาโมริ เร็นคุง เป็นอัลเบรช”
“ยอดไปเลย ยินดีด้วยนะเร็นจัง”อาซากะแสดงท่าทางดีใจกับเพื่อนสนิท
“ขอบใจนะอาจัง”
“อิชิดะ นาโอกิคุงเป็นฮิลลาเรี่ยน”
“โอ้!”
ครูนิตตะแจกแจงบทให้จนครบทุกคน อาซากะเล่นเป็นคู่หมั้นของอัลเบรช ยูริเล่นเป็นราชินีของเหล่าวิลลี่ มิซากิกับเพื่อนๆของไอจิและสมาชิกที่เหลือเล่นเป็นชาวบ้านกับเหล่า
วิลลี่
“ให้เราเป็นจิเซลจะดีเหรอเนี่ย”
“น่าๆ ไอจิเป็นจิเซลนั่นแหละดีแล้ว”
“ใช่ๆไอจิน่ะเหมาะกับบทจิเซลจะตาย”
“ฉันเห็นด้วย ก็เพราะไอจิน่ะน่ารักน่าแกล้ง ดูไร้เดียงสา แถมยังดูหลอกง่ายด้วย” ไอจิช๊อคกับความคิดเห็นจากเพื่อนๆ นี่เราดูเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ย เธอยืนสลดอยู่ตรงมุมห้อง
“ไอจังๆ” เร็นเรียกไอจิจากข้างหลังและยื่นนิ้วชี้ไปใกล้ๆแก้มของไอจิโดยกะระยะให้พอดี
‘จึ๊ก' เมื่อไอจิหันไปนิ้วของเร็นก็จิ้มที่แก้มเธอแล้วไอจิยิ่งสลดเข้าไปใหญ่ นี่เราเป็นพวกที่ถูกหลอกเอาได้งายๆจริงๆซินะ
“มาพยายามด้วยกันนะไอจัง”เร็นยิ้มขำท่าทางของไอจิด้วยความเอ็นดู
“ค่ะ”
จากนั้นไอจิกับเร็นก็ซ้อมเต้นคู่กัน ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปซ้อมเต้นตามบทที่แต่ละคนได้รับโดยมีอาจารย์มาร์คและอาจารย์นิตตะคอยดูแลให้คำแนะนำ
“ยินดีด้วยจ้าไอจิ แบบนี้ต้องทำอาหารสูตรพิเศษสไตล์ชิซึกะซะแล้ว” เมื่อไอจิกลับถึงบ้านเธอเล่าเรื่องที่เธอถูกเลือกให้เป็นจิเซลให้ชิซึกะและเอมิฟัง ชิซึกะดีใจมาก ถึงกับทำอาหารเมนูพิเศษเสียเต็มโต๊ะ
“คุณแม่ทำอาหารฝรั่งเศสแบบฟูลคอร์สเลยเหรอเนี่ย”
“ฉลองที่ไอจิได้เป็นจิเซลจ๊ะ ทานเยอะๆนะ”
“ดีใจด้วยนะไอจิ”
“ขอบใจจ๊ะเอมิ”
หลังอาหารมื้อเย็นก็ได้เวลาพักผ่อน ไอจิก็จะเอารองเท้าบัลเล่ต์มานั่งเย็บซ่อมแซมที่ห้องนั่งเล่น เธอเห็นชิซึกะกับเอมินั่งอยู่ก่อนแล้วก็เลยเข้าไปนั่งด้วย ชิซึกะกำลังดูอัลบั้มรูปถ่ายสมัยที่เธอยังเป็นนักบัลเลต์อยู่ “พอดีแม่นึกถึงตัวเองตอนสมัยสาวๆน่ะจ้ะเลยเอารูปออกมาให้เอมิดูด้วย
“คุณแม่สวยมากเลยค่ะ”ไอจิออกความเห็นเมื่อได้ดูรูปถ่ายของแม่เธอ
ชิซึกะยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วเธอก็ทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้“จริงสิ!แม่จำได้ว่าแม่มีชุดของจิเซลที่เคยใส่ตอนสมัยสาวๆเก็บไว้อยู่นี่นา เดี๋ยวแม่เอามาให้ไอจิลองใส่ดูดีกว่านะจ๊ะ ว่าแล้วเธอก็ไปหาชุดที่เธอพูดถึง
ชุดจิเซลของชิซึกะเป็นชุดทูทู่แบบโรแมนติกยาวถึงครึ่งน่อง ตัวเสื้อเป็นเสื้อคอระบายส่วนแขนเสื้อแบบตุ๊กตาตกแต่งด้วยริบบิ้นสีนำ้เงินเข้ม มีผ้ารัดใต้อกที่ทำจากผ้าสเปนเด็กซ์สีฟ้านำ้ทะเลตกแต่งด้วยริบบิ้นสีฟ้า กระโปรงเป็นผ้าเนื้อบางเบาสี่ชั้นชั้นในสุดเป็นสีฟ้าอ่อน ไอจิลองใส่ก็ปรากฎว่าใส่ได้พอดี
“แหม ไม่ต้องแก้เลยนะเนี่ย ใส่ได้พอดีเลย”พอลองให้เกล้าผมและประดับด้วยดอกไม้สีขาวก็ทำให้ไอจิดูเป็นสาวน้อยที่ไร้เดียงสามากขึ้น ชิซึกะบอกว่าไอจิเหมือนตัวเองตอนสมัยสาวๆมาก
“ไอจิน่ารักจัง”
“ขอบใจจ๊ะเอมิ”ไอจิพูดขอบคุณเบาๆด้วยความเขินอาย
“ไอจิ หนูว่าเราเอาวีดีโอเก่าๆที่คุณแม่เป็นจิเซลมาดูกันเถอะ”
“อื้อ!ก็ดีเหมือนกันนะ”
??????????????????????????????????
สวัสดีค่ะผู้อ่านที่รัก อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เราลองแก้เนื้อเรื่องใหม่ให้ยาวขึ้นแล้วนะคะ
ตอนงานปฐมนิเทศนี้ก็ตั้งใจว่าจะแบ่งเป็น 2 องก์ เหมือนละครบัลเล่ต์ค่ะ
สำหรับใครที่เป็นผู้รู้ทางด้านบัลเล่ต์ ก็ให้คำแนะนำหรือชี้แจงมาได้นะคะ แบบว่าผู้เขียนก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้ลึกซึ้งมาก(แต่ก็ยังอยากจะเขียน)
สำหรับตอนหน้า ไอจิจะได้ขึ้นเวทีซะทีนะคะ ก็ขอฝากสาวน้อยบัลเล่ต์กับคุณพระเอกไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น