ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    vanguard fan art room

    ลำดับตอนที่ #3 : Cherry bloosom in Hitsue (part 1)

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 60


                   "วิชานินจา กงจักรเพลิงสังหาร!" อาจารย์มาร์คทึ่อยู่ในคราบของนินจามาสเตอร์M กำลังใช้ท่าไม้ตายเพื่อ เผด็จศึกคู่ต่อสูัตรงหน้า
                
                   "ป้องกันด้วยกริมริปเปอร ์และให้ อัศวินแห่งความมืดรูกอสช่วยอินเตอร์เซ็พ!" อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้จัดการ ได้ ง่ายๆ งัดการ์ดที่มีออกมาป้องกัน สุดกำลัง
                  
                   "จบเทิร์นแล้วครับ" พอสิ้นเสียง อาจารย์มุราคาบายาชิก็เอามือทาบอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอจิและ นาโอกิที่อยู่ข้างๆอาจารย์ที่ปรึกษา ของตนก็พลอยลุ้นไปด้วย
             
                      ตามปกติแล้ว ไอจิ นาโอกิ ชินโงและมิซากิจะทำกิจกรรมชมรมกันที่โรงเรียน  แต่ก็มีบางวันที่มิซากิต้องเฝ้าร้านซึ่งก็คือร้านการ์ดแคปปิตอลแห่งนี้ที่เป็นของน้าชาย   พวกไอจิจึงชวน กันมาเล่นการ์ดกันที่นี่แล้วก็จะได้เจอคนในชมรมแวนการ์ดของโรงเรียนฮิตสึเอะอยู่เสมอๆ วันนี้ก็เช่นกัน
                      "ฝีมือไม่เลวเลยนะครับ อ.มุราคาบายาชิ สมแล้วที่เป็นที่ปรึกษาชมรมการ์ดไฟต์ที่มีชื่อเสียง"  
            
                      "แหม ผมก็ดูพวกเด็กๆเขาเล่นกันซะมากกว่า ไม่ได้มีฝีมืออะไรมากมายหรอกครับ" คราวนี้ถึงทีของอ.มุราคาบายาชิโจมตีบ้าง เขาหยิบ การ์ดจากกองขึ้นมาใบหนึ่งมาไว้ใน มือ แล้วส่งการ์ดเกรดสามลงมาใน ช่องแวนการ์ด แล้วใช้สกิลของเรียลการ์ดทำให้ในสนามตอนนี้ม ีการ์ดที่พร้อมจะโจมตีได้ทั้งสามแถว
      
                       "ความจริงวันนี้ที่เชิญมาก็เพราะมีเรื่องอยากจะมาเชิญชวนน่ะครับ"
     
                       ตอนนี้การ์ดในแดมเมจโซนของ อ. มาร์คมีห้าใบแล้วในมือของเขา มีแต่การ์ดเกรดสามซึ่งเป็นการ์ดที่ไม่
    สามารถใช้ป้องกันได้ ต้องเสี่ยงดวง เอาเท่านั้น
     
                       และดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมื่อ  อ.มุราคาบายาชิหยิบการ์ดได้ทริกเกอร์ทั้งสองใบ ในขณะที่ อ.มาร์ค ไม่ได้ทริกเกอร์ใดๆเลยจึงเป็น ฝ่าย แพ้ไปตามระเบียบ
             
                       "ละครเวที? " พวกไอจิทำเสียงตื่นเต้น
          
                       "เยส! อีกสองอาทิตย์โรงเรียนฮิตสึเอะของเราก็จะมีงานวัฒนธรรม แล้วไงล่ะ แล้วแวนการ์ดก็เป็นเกมสุดฮิตในโรงเรียนก็เลยคิดว่าถ้าทำ
    เป็นละครเวทีแล้วให้ไคคุงกับไอจิคุง เป็นตัวหลักละก็ ต้องมีคนมาดูเยอะแน่ๆ                      

                       "แข่งแวนการ์ดในงานโรงเรียน งั้นเหรอน่าสนุกดีนี่ พยายามเข้านะไอจิ!" นาโอกิดูมีไฟขึ้นมาทันที

                      "ครูก็คิดว่าน่าสนุกเหมือนกันนะ  ถ้าชมรมเราทำประโยชน์ให้ได้ก็ยินดีครับ"  
        
                       "ถ้างั้นก็ ชินโงคุง!" เมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียว อาจารย์มาร์คดีดนี้วดังเป๊าะ ส่วนชินโงก็งัดเอา กล่องรวมคอลเลคชั่นนิยายที่ตัวเอง เขียนไว้ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบมาตั้งบนโต๊ะ

                       "ดูเหมือนได้เวลาออกโรงของท่านชินโงคนนี้ วางใจได้เลย เพื่อความสำเร็จผมได้เตรียมบทละครเจ๋งๆสำหรับงานโรงเรียนคราวนี้ไว้แล้ว รับรองว่ามันต้องเหมาะกับเซ็นโดคุงกับคุณไค โทชิกิแน่นอน"

                      "นี่นัดกันเอาไว้แล้วใช่มั้ยเนี่ย"  ไอจิกับมิซากิทำสีหน้าแปลกๆเมื่อเห็นกล่องนั้นส่วนนาโอกิทำตาเป็นประกายรอฟังเรื่องราว  ไคไม่แสดง
    สีหน้าใดๆ  คนที่เหลือก็ทำหน้ายิ้มๆ  ส่วนชินโงเจ้าของบทละครก็เริ่มเล่าเรื่อง

                       "นานมาแล้ว มีท่านหญิงตระกูลขุนนางท่านหนึ่งมีนามว่า อาเมะมิโกะ เป็นบุตรตรีคนเล็กของเสนาบดีฝ่าย ฟูจิวาระ ฮิเอยาสึ นางเป็นดรุณีน้อยผู้มีใบหน้างดงามน่ารัก มีดวงตากลมโตเป็นสีฟ้ากระจ่างใส ผิวขาวราวหิมะ ส่วนเรือนผมนั้นเล่าก็เป็นสีนำ้เงินยาวสลวยนุ่มลื่นดุจแพรไหม  
            
                        นอกจากจะงดงามแล้ว นางยังเป็นท่านหญิงที่มีความสามารถหลายอย่างเช่น การแต่งโคลงกลอน ร่ายรำ หรือการเล่นโคโตะ นอกจาก
    นี้ยังชื่นชอบการสู้รบเช่นเดียวกับบิดา อีกด้วย
          
                        เพราะเหตุนี้เองท่านหญิงอาเมะ มิโกะ จึงมีขุนนางหนุ่มๆจำนวนไม่น้อยมาเฝ้าเพียรส่งเพลงยาวอยู่เนืองๆเพื่อหวังจะครอบครองจะหัวใจของ นาง แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่ยอมมอบหัวใจให้แก่ชายใดเลยเพราะชายที่ นางแอบมีใจให้อยู่แล้วนั้นคือท่านทาจิบานะ โทชิกิ ราชองครักษ์หนุ่มแห่ง
    ตำหนักเซเรียว ชายที่นางรู้จักและคุ้นเคยตั้งแต่ยังเด็ก 

                        แต่ด้วยความที่นางเป็นกุลสตรีและท่านโทชิกิก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมาเป็นพิเศษ  นางจึงต้องคอยเก็บความรู้สึกของตนเองเรื่อยมา จนวันหนึ่ง
              
                        ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ขององค์จักรพรรดิซึ่งในขณะนั้น เป็นเดือนสี่ ที่ตำหนักเซเรียวดอก ซากุระกำลังบานสะพรั่ง เหล่าขุน
    นางช่วยกันจัดงานฉลอง  มีการแสดงดนตรี ร่ายรำและการแข่งขันการรบจำลองซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหล่าขุนนางให้ความสนใจมากที่สุด
                 
                        ในงานนั้นท่านหญิงอาเมะมิโกะได้ร่วมรำถวายพระพรกับนางกำนัลในวัง และนางก็เป็นสตรีนางเดียวในหมู่ขุนนางที่เข้าร่วม แข่งการสู้รบจำลองด้วย 

                       และแล้วนางก็ได้รับรู้ความในใจของท่านโทชิกิเมื่อต้องแข่งชิงชนะเลิศ  ท่านโทชิกิเองก็ปรารถนาที่จะครอบครองนางมาเป็นเวลานานแล้ว
    แต่ด้วยความเป็นเหมือนพี่น้อง กลัวว่านางจะรับไม่ได้  เขาจึงต้องทนเก็บความรู้สึกเรื่อยมา "ข้าเป็นเพียงผู้ชายที่ขี้ขลาดคนหนึ่ง ที่กลัวถูกท่านปฏิเสธ
    แต่ตอนนี้ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะทำให้ท่านเป็นของข้าให้ได้"

                     "ข้าแพ้แล้วค่ะ แพ้ตั้งแต่เมื่อได้รับรู้ความรู้สึกของท่าน"  ผลการแข่งขันนั้นนางเป็นฝ่ายแพ้  ผู้ชนะได้รับพระราชทานรางวัลมากมายจากองค์จักรพรรดิ  ทาจิบานะ โทชิกิ ได้ก้มหัวสู่ขอท่านหญิงจากท่านเสนาบดีผู้เป็นบิดาของนางต่อหน้าสาธารณะชน  ส่วนท่านเสนาบดีที่เฝ้ามองคนทั้งสองมานานแล้วก็ยอมรับองครักษ์หนุ่มเป็นบุตรเขย

                     "แล้วเรื่องราวก็จบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง เป็นยังไงบ้างบทละครของผม" บรรดาคนฟังยังนั่งฟังด้วยสีหน้าตามเดิม  ไคก็ดูจะมีสีหน้าเหมือนเดิม
    แต่ความจริงแอบเขินกับบทละคร ส่วนไอจิทำหน้าแดงตอนท้ายๆ

                    " ทีนี้เรามากำหนดตัวแสดงกัน แน่นอนว่าบทท่านหญิงกับท่านองครักษ์ต้องเป็นเซ็นโดคุงกับคุณไค โทชิกิ " แล้วชินโงก็แจกบทให้คนอื่นๆ
    อ.มาร์คเป็นองค์จักรพรรดิ อ.มุราคาบายาชิเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้าย  มิซากิและที่เหลือเป็นนางกำนัลกับขุนนาง  ทุกคนได้รับบทละครไปทั่วๆกัน

                  "ฝากตัวด้วยนะไคคุง " ไอจิยังคงทำหน้าแดงอยู่
     
                  " อา "  แล้วทั้งคู่ก็ซ้อมบทด้วยกันบ้างเล่นการ์ดด้วยกันบ้าง จนถึงเย็น

                "จริงด้วย พวกเรามีรายงานวิชาเคมีที่ต้องทำนี่นา" หลังจากนั้นซักพักชินโงก็นึกรายงานกลุ่มที่อาจารย์สั่งขึ้นมาได้

                "คุณคามุย พรุ่งนี้มีสอบภาษาอังกฤษนะครับ" เรย์จิกับเอจิก็เช่นกัน

               "ตายชัก!ลืมสนิทเลย ยังไม่ได้อ่านเลยซักกะตัว  สอบซ่อมอีกแน่" คามุยส่งเสียงโวยวายเอามือขยี้หัวตัวเอง

              " เอ่อ ช่วยติวให้เอามั้ย คามุยคุง"

               "ใจเย็นๆครับ คุณคามุย" 

               "ช่วยคุณคามุยด้วยนะครับคุณไอจิ" เรย์จิกับเอย์จิช่วยกันปลอบคามุย

               "งั้นก็กลับกันเถอะ อย่าลืมหาเวลามาซ้อมละครด้วยนะ" แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป






    ทักทายกันท้ายตอน

              เป็นยังไงบ้างคะ กับบทละครของชินโงคุง  ไม่ได้เขียนซะนานผู้อ่านทุกท่านสบายดีหรือเปล่าเอ่ย แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ


                    

                     

     
                       
                 
                       
                 
                      
           
             
             
                  
























          
           

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×