คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #00 :: INTRO
INTRO
แปลก
แปลกมากๆ
ทุกสิ่งรอบตัวบนรถโดยสารประจำทางสาย
06 มันแปลกตาไปเสียหมด
ทั้งๆที่แค่เปลี่ยนจากรถยุโรปคันหรู มาเป็นยานพาหนะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าใหญ่ที่บรรจุคนไว้จนแน่น
เสียงจ้อกแจ้กจอแจของเด็กนักเรียนชายหญิงดังเซ็งแซ่ไปทั่วรถ พนักงานออฟฟิศอีกประปรายที่เอาแต่ก้มหน้าจ้องสมาร์ทโฟน
ไม่ก็จดจ้องนาฬิกาข้อมืออย่างร้อนรน
เลยไปข้างหลังรถก็จะเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มในชุดเสื้อช็อปที่ส่งเสียงดังโวยวายอีกโขยงใหญ่
อืม
เป็นภาพแปลกตาที่โอเซฮุนควรจะทำใจให้ชิน
เพราะนับจากนี้ไปอีกเกือบเดือน(หรืออีกหลายเดือน?)
เด็กหนุ่มตัวขาวคงต้องจำใจใช้บริการมันไปทุกเช้าเย็น
สาเหตุก็เรียบง่าย
ไม่มีอะไรซับซ้อน คือคนขับรถประจำตระกูลโอดันเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน
ไม่สามารถทำหน้าที่ขับรถได้ไปสักพักหนึ่ง และเนื่องจากคุณคังโฮดงถือเป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูล
คุณพ่อจึงไม่อาจตัดใจจ้างคนขับรถใหม่มาได้
กรรมจึงมาตกอยู่ที่คุณหนูโอผู้ไม่เคยนึกคิดอยากขึ้นรถประจำทางมาก่อนในชีวิต
(กลอกตามองบน)
พาหนะขับเคลื่อนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายักษ์ที่แออัดเป็นปลากระป๋องค่อยๆเลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน
ผิดกับหัวใจดวงน้อยของคุณหนูตระกูลโอที่เต้นตึกตักเป็นกลองชุด
ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากอย่างรู้สึกประหม่าจากสายตาหลายสิบคู่ในรถที่หันมามอง
แน่นอนว่าเรือนผมสีชมพูอ่อนสว่างกับร่างที่จัดว่าสูงของเซฮุนทำให้เป็นจุดเด่นได้ไม่ยาก
แต่คงไม่เท่าชุดยูนิฟอร์มสีเหลืองสดใสของโรงเรียนมัธยมชื่อดังคยองกีที่ร่างบางสวมอยู่
แน่ล่ะ
เคยมีเด็กคยองกีที่ไหนใช้บริการรถสาธารณะกันบ้างล่ะ
ยิ่งมาโผล่ในรถเมล์แออัดแบบนี้ยิ่งทำให้เซฮุนกลายเป็นจุดสนใจเข้าไปใหญ่
ร่างผอมบางกอดกระเป๋าสะพายหนังแท้สีน้ำตาลเข้มไว้แน่นราวกับเกรงกลัวว่าจะมีคนวิ่งมากระชากมันออกไปจากตัว
ตาเรียวรีหลุบมองซ้ายทีขวาทีอย่างระแวง
เซฮุนเคยได้ยินข่าวที่มีเด็กเทคนิคตีรันฟันแทงกันบนรถเมล์จนคนโดนลูกหลงถึงกับเสียแขนขาไปก็มี เพราะฉะนั้น ตอนนี้เด็กหนุ่มถึงได้พยายามที่จะเดินเบียดตัวออกจากกลุ่มเด็กโรงเรียนชายล้วนตัวสูงใหญ่เพื่อพาร่างของตัวเองไปที่บริเวณส่วนต้นของรถให้ได้มากที่สุด
ตาเรียวเหลียวไปมองกลุ่มเด็กหนุ่มเสื้อช็อปสีกรมที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงแขนอย่างเริ่มร้อนใจเพราะเสียงทะเลาะเบาะแว้งเล็กๆของชายหนุ่มตัวเล็กในชุดเสื้อช็อปของวิทยาลัยเชวอนกับเด็กตัวสูงใหญ่ของโรงเรียนชายล้วนแทฮันที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“มึงมองหน้ากูทำไม !?”
เซฮุนพยายามหาช่องว่างเพื่อที่จะเบียดตัวออกไปอย่างสุดชีวิต
“เปล่า กูว่าหน้ามึงนี่เท่ดีนะ ..”
.
.
“เหมือนส้นตีนกูเลย”
เซฮุนต้องออกไปจากตรงนี้อย่างเร็วที่สุด!
แต่ ..
‘พลั่ก’
“ไอ้เหี้ยเอ้ย!”
เซฮุนสะดุ้งโหยงทันทีที่เด็กหนุ่มตัวสูงโรงเรียนแทฮันซัดลงไปเต็มหมัดบนหน้าตี๋ๆของเด็กเทคนิคเชวอนคนนั้น(ซึ่งเซฮุนแอบสังเกตว่าบนเสื้อปักว่าบยอน
แบคฮยอน) เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้นไปทั่วรถ
หลังจากนั้นเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อมีเด็กตัวสูงหลายคนจะเข้ามารุมกระทืบบยอนแบคฮยอนที่ยืนแหกปากอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่กลางวง
นี่มันหมาหมู่นี่นา!
เสียงสบถด่าทอดังลั่น
และหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เข้าตะลุมบอนกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ร่างบางหัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัว ตาเรียวกวาดมองหาพื้นที่ปลอดภัยที่สุดในบริเวณนี่ที่กลายเป็นสนามประลองขนาดย่อมๆ
เสียงหมัดแลกหมัด เนื้อกระทบเนื้อดังพลั่กๆทำเอาคนตัวขาวสะดุ้งทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น
เด็กผู้ชายตัวสูงใหญ่หลายคนในชุดยูนิฟอร์มสีดำของโรงเรียนแทฮันที่ส่งเสียงตะโกนเย้วๆกลายเป็นกำแพงมนุษย์ที่ปิดกั้นไม่ให้ร่างบางสามารถออกไปได้
นั่นคือโอเซฮุนตกอยู่กลางวงล้อมของการทะเลาะวิวาทไปเสียแล้ว
..
โอ้มายก๊อด
ใครก็ได้มาพาเขาออกไปจากตรงนี้ที!
“ไอ้ห่าจงอิน
ไอ้จงอิน!” เสียงตะโกนดังลั่นจากเด็กเทคนิคร่างเล็กที่กำลังจะโดนรุมยำตีนจากเด็กแทฮันตัวเท่าหมีควายที่เซฮุนเคยเห็นตอนไปซาฟารีกับครอบครัวตอน
6 ขวบ แน่นอนว่าถึงเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนั้นจะเก่งกาจขนาดไหน
แต่การโดนคน 3 คนที่มีขนาดร่างกายใหญ่กว่าค่อนข้างมากย่อมเสียเปรียบเป็นธรรมดา
“ไอ้จงอิน ตื่น!”
เซฮุนผินหน้าตามเสียงตะโกนดังลั่นไปทางมุมในสุดของเบาะนั่งด้านหลัง
เห็นผู้ชายผิวสีแทนท่าทางงัวเงียจากการถูกปลุกโดยเสียงอันดังของเพื่อนที่กำลังจะโดนรุมอัด
มือใหญ่ของคนที่ถูกเรียกว่า ‘จงอิน’ ยกขึ้นมาขยี้ตาที่ง่วงงุน ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาพอดีแล้วทำหน้างงเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปทางต้นเสียงที่กำลังอยู่กลางวงปะทะ
“ไอ้จงอิน!”
.
.
.
แล้วหลับตาลงไปเหมือนเดิม
ฮะ ……….
บอกทีว่าเมื่อกี้เซฮุนไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย
เสียงสบถด่าทอที่ไม่สามารถออกอากาศได้ของแบคฮยอนดังลั่นรถ
พร้อมนิ้วกลางป้อมชูใส่คนที่เพิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราไปเมื่อสักครู่ ร่างเล็กดูโกรธอยู่พอสมควร
แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเท่าไรหรอก มั้ง?
“เดี๋ยวมึงได้เจอตีนกูแน่!”
ไปกระทืบกันที่อื่นได้มั้ยเนี่ย!!
เซฮุนสบถคำด่าในใจด้วยความกลัว
พยายามมุดฝ่าวงแขนใหญ่โตเพื่อออกไป แต่ก็ไม่สำเร็จ
ร่างบางจึงได้แต่ยืนตัวลีบเกาะพนักเบาะไว้ด้วยใจระทึก นึกอยากวาร์ปพาตัวเองออกจากรถเมล์ไปที่โรงเรียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสองป้ายเหมือนในหนังฝรั่ง
แต่แน่ล่ะว่าโอเซฮุนไม่ใช่กัปตันเคิร์ก ที่บีมไปยานนู้นยานนี้ได้ตามใจชอบ และนี่คือฟิค
ไม่ใช่หนังเรื่อง star trek เขาจึงต้องมาติดแหงกอยู่ในนี้ไงโว้ยยยยย
เสียงชกต่อยที่ฟังดูน่ากลัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
โอเซฮุนหลับตาปี๋เอาหัวทุยๆของตัวเองซุกไว้บนเบาะนั่งด้วยความกลัว
จะให้มานึกโทษตัวเองที่ตอน
10 ขวบไม่ยอมไปเรียนเทควันโด้ต่อเพราะขี้เกียจตอนนี้ก็คงไม่ทันซะแล้ว
..
“อยากเจ็บตัวมากรึไง ทำไมถึงมายืนตรงนี้”
เสียงทุ้มขึ้นจมูกดังขึ้นข้างหู
ทำให้เซฮุนเงยหน้าที่ซุกกับเบาะนั่งด้วยความตกใจ ผู้ชายผิวแทนหน้าง่วงที่เมื่อสักครู่เพิ่งหลับไปต่อหน้าต่อตา
แต่ตอนนี้กลับเอาตัวเข้ามาบังลูกเตะของแบคฮยอนที่เหวี่ยงมาได้อย่างน่าตกใจ
เซฮุนมั่นใจว่าถ้าไม่ได้คนคนนี้มาบังเอาไว้
หลังของเขาต้องช้ำไปหลายวันแน่ๆ ..
“ขะ ขอบคุณ”
“อะไรนะ”
“ฉันบอกว่า ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้”
ร่างบางเพิ่มเสียงพูดให้ดังขึ้น
คนตัวสูงที่ยืนเบียดเขาอยู่ตอนนี้ทำเพียงพยักหน้ารับเบาๆแล้วหันกลับไปมองบยอนแบคฮยอนที่กำลังโดนรุมกระทืบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“นาย” แรงดึงเบาๆที่ชายเสื้อ
พร้อมกับเสียงเรียกแผ่วเบาทำให้จงอินหันหน้ากลับไปมองคุณหนูโรงเรียนคยองกีตัวขาว
เลิกคิ้วเล็กน้อยแทนคำถามว่ามีอะไร
“นายไม่ไปช่วยเขาเหรอ” หน้าตากังวลคิ้วเข้มขมวดมุ่นทำเอาจงอินลอบยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”
เสียงนิ่งๆกับหน้าตาเรียบเฉยราวกับไม่ใส่ใจของคนผิวแทนทำให้เซฮุนอ้าปากเหวอเล็กน้อย
แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวจนหัวแทบคะมำเพราะจู่ๆรถเมล์ก็เบรกดังเอี๊ยด
ดีที่มีแขนหนาๆของผู้ชายหน้ามึนคอยรั้งตัวเอาไว้ ไม่งั้นร่างบางคงต้องล้มจับกบแน่ๆ
“ขอบคุณ .. อีกรอบนะ”
อ้อมแอ้มขอบคุณเสียงเบาด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมแขนที่รัดไว้หลวมๆ
อีกฝ่ายส่งเสียงขานรับในคอแผ่วเบาแล้วหันหน้ามึนๆออกไปอีกทาง
‘ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน’
บรรยากาศอึดอัดหายไปในทันที่เสียงบีบแตรจากคนขับดังขึ้นยาวราวกับจะไล่ให้พวกที่ตีกันลงไปจากรถ
มือเรียวคลำหัวตัวเองป้อยๆเพราะเมื่อกี้เผลอสะดุ้งตัวไปชนกับผนังรถ
ไม่รู้จะโนรึเปล่า
เด็กหนุ่มในชุดเสื้อช็อปสีกรมต่างทยอยกันลงจากรถเป็นบรรยากาศจอแจ
รวมถึงบยอนแบคฮยอนที่ชี้หน้าพวกโรงเรียนแทฮันอย่างอาฆาตก่อนจะเดินลงรถไปด้วยสภาพเหมือนลูกหมาถูกฟัด
ไม่วายก่อนจะพ้นจากประตูรถ ยังโผล่แขนป้อมๆมาชูนิ้วกลางใส่จนเซฮุนได้ยินเด็กแทฮันส่งเสียงฟึดฟัดกันยกใหญ่
นี่คือป้ายที่พวกเด็กเทคนิคเชวอนต้องลง
และแน่นอนว่าเซฮุนก็ต้องลงป้ายนี้เช่นกัน
โรงเรียนมัธยมชื่อดังคยองกีห่างกับวิทยาลัยเทคนิคเชวอนเพียงรั้วกั้น
ทำให้ตอนนี้เซฮุนได้แต่เดินตัวลีบผ่านกลุ่มนักเรียนเทคนิคที่ส่งเสียงตะโกนโวยวาย
และทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่จนคนตัวขาวแทบไม่กล้าเดิน
“ไอ้ห่าจงอินเดี๋ยวนี้เด็ดดอกฟ้าเหรอวะ
คนจริงสาดดดดดด”
“เบื่อเมื่อไรก็แบ่งพวกกูมั่งนะเว้ย
วี้ดวิ่ว”
(กลอกตามองบน)
เซฮุนหันกลับไปมองด้านหลัง
เห็นคนตัวสูงผิวสีแทนที่ช่วยเขาไว้ถึงสองครั้งสองคราบนรถเมล์กำลังเดินตามหลังมาห่างๆ
หน้ามึนๆคล้ายคนง่วงนอนหันมาสบตากับเซฮุนเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางราวกับไม่ได้สนใจอะไรมากเท่าไร
ร่างบางทำหน้าไม่ถูกก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวเพื่อให้ถึงโรงเรียนเร็วๆ อีกห้านาทีก็ถึงเวลาวิชาคหกรรมแล้ว
เขาไม่อยากถูกมิสเตอร์คิมดุเอาตั้งแต่หัววันหรอกนะ
เสียงเดินจังหวะเอื่อยเฉื่อยยังคงตามหลังมาอย่างสม่ำเสมอ
พิลึกคน
เมื่อขาเรียวพาร่างตัวเองมาถึงหน้าประตูโรงเรียน
เซฮุนก็หันหน้ากลับไปมองเด็กช่างตัวสูงนิสัยพิลึกนั่นอีกครั้ง
ตาเรียวรีประสานกับตาคมเข้มที่ดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาแล้วรีบเดินเร็วๆเข้าเขตโรงเรียนจนลืมทักทายแม้กระทั่งสารวัตรนักเรียนตัวสูงที่ยกมือทักทายเก้อที่หน้าประตู
แก้มขาวแดงเห่อเป็นลูกมะเขือเทศ
เพราะคิมจงอินคนนั้นไม่ได้เดินเลยผ่านหน้าโรงเรียนไปที่ร้านสะดวกซื้อ
หรือว่าร้านอาหารทางตรงข้าม แต่เด็กช่างพิลึกคนนั้นกลับจ้องหน้าเซฮุนนิ่งๆ
แล้วเดินกลับไปทางเดิมพร้อมด้วยเสียงโห่แซวจากทางหน้าประตูสวิทยาลัยเชวอนที่ดังขึ้นมาในทันทีทันใด
นี่ตกลงว่าเดินมาส่งกันจริงๆเหรอเนี่ย . .
ให้ตายสิ ทำไมโอเซฮุนต้องเขินด้วยเนี่ย
ไอ้บ้าเอ๊ย!
100%
เนื้อเรื่องยังคงเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่เปลี่ยนคือนิสัยเซฮุนที่อาจจะไม่ได้แบ๊วๆเหมือนตอนเก่า
แต่ก็ไม่ได้แมนจ๋าอะไรขนาดนั้นนะคะ ถ้าใครไม่ชอบเวอร์ชั่นนี้ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ เพราะเราก็ไม่
สามารถจะไปเขียนให้มันใสๆได้ ความจริงคือนิสัยแบบนี้คือที่คิดไว้ตั้งแต่แรกเลยอ่ะค่ะ และภาษา
เขียนก็ไม่เหมือนเดิมด้วย ต้องขอโทษคนที่รอด้วยจริงๆนะคะถ้ามันอาจจะไม่ถูกใจเหมือนเก่า TT_TT
แท็กเดิมเลยค่ะ #เด็กช่างคฮ
.
ความคิดเห็น