ตอนที่ 4 : GRAVITY FOUR l น้องตัวนุ่มนิ่ม 30%
"เลิกเขี่ยข้าวแล้วกินดีๆ"เซฮุนปรามน้องสาว ที่เอาแต่หน้ามุ่ยเล่นข้าวเปล่า หลังจากที่เขาสั่งแกมบังคับให้นั่งทานข้าวด้วยกัน เป็นเขามากกว่าไม่ใช่เหรอที่สมควรจะต้องโกรธ เจ็บตัวไม่พอ ยังต้องมาลิ้นชาเพราะไข่เจียวเค็มปี๋นี่อีก
"ก็เจบอกแล้วนี่ว่าไม่หิว"ไม่วายยังมาเถียงกัน นี่ยังไม่สะสางเรื่องปาโมเดลกันดั้มที่เขาซื้อมาวางโชว์ใส่หัวเลยนะ
"ไม่หิวก็ต้องกิน ตัวก็แห้ง ยังจะไม่กินข้าวอีก"ปากร้าย ก็คนเขาไม่หิว ทำไมต้องมาบังคับให้กินด้วย อันที่จริงอาหารฝีมือพี่เลย์มันอร่อยมากๆ แต่พอมานั่งกินสองต่อสองกับพี่เซฮุนแล้วมันรสชาติเป็นยังไงก็ไม่รู้
เจสสิก้าแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาชัดเจนก่อนจะตักไข่เจียวใส่จานแล้วยัดใส่ปากคำใหญ่ และคงช้าเกินไปที่พี่ชายจะห้ามได้ทัน
"แหยะ"ยัยเด็กอวดเก่งคายทุกอย่างลงไปในจาน ใบหน้าเหยเกบวกกับน้ำตาที่คลอเบ้าทำให้เซฮุนสมน้ำหน้าแกมสงสารอยู่ลึกๆ
"ตะกละ"ถึงมือจะดันแก้วน้ำไปใกล้มือ แต่ปากก็ไม่วายจิกกัดน้อง เจสสิก้าคว้าแก้วน้ำมาดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะทำตาขวางใส่เพราะคิดว่าพี่ชายแกล้งตัวเอง ทำเป็นกินเหมือนไม่เค็มเพื่อให้เธอตายใจสินะ!"มองทำไม"
"ทำไมพี่ไม่บอกเจว่ามันเค็ม"
"ไม่เค็ม"
"มันเค็ม"
"แล้ว?"
"แล้วที่พี่แกล้งไม่เค็ม เพราะตั้งใจจะแกล้งกันใช่ไหม"มู้ดในการกระเดือกข้าวของเซฮุนหลดลงทันที เขาวางช้อนลงแล้วกอดอกมองน้องสาวที่ถลึงตาแสดงความเกลียดชังมาให้ด้วยสีหน้าว่างเปล่า เจสสิก้าโมโหจนตัวสั่นไปหมด
"ไข่นี่ใครทำ"คำถามแรกก็พาคนโมโหร้ายสะอึก
"ก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดว่ามันจะเค็มนี่"
"แล้ว?"
"แล้วพี่ก็แกล้งเจไง"
"อย่าทำตัวเหมือนแม่ไม่ได้สั่งสอนได้มั้ย"เจสสิก้านิ่งอึ้งไปกับคำพูดแรงๆ ของคนเป็นพี่ เซฮุนจ้องน้องสาวเขม็ง"ทำผิดแล้วทำไมต้องคอยโทษคนอื่น"
หน้าคนฟังชาไปหมด มือเล็กที่วางบนหน้าขากำเข้าหากันแน่น ปากเล็กเม้มจนเจ็บ แต่คงไม่เจ็บเท่าคำพูดพวกนั้นที่พ่นออกมา เธอรู้ว่าตัวเองก็มีส่วนผิด แต่ก็เพราะพี่เซฮุนด้วยไม่ใช่หรอ ที่ชอบหาเรื่องแกล้งกันตลอด รู้หรอกว่าเกลียดกันขนาดไหน แต่ทำไมต้องมาว่าแม่ไม่สั่งสอนด้วย ทั้งที่แม่สั่งสอนเธออย่างดีมาตลอด
"ขอโทษสิ เงียบทำไม"เซฮุนใจอ่อนยวบตั้งแต่เห็นตากลมแป๋วคลอน้ำตา แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาก็อยากดัดนิสัยให้เจ้าตัวคิดได้เสียที ที่เขายอมก้มหน้าก้มตากินไข่เจียวเค็มๆ นี่เพราะเขาเป็นคนสั่งให้น้องทำ และก็อยากรักษาน้ำใจเลยตั้งใจไว้แล้วว่าจะทานมันให้หมด แต่เจสสิก้ากลับมองไปอีกแบบ มันชวนให้รู้สึกโมโหไม่ได้
"ขอโทษค่ะ"
"พี่ไม่อนุญาตให้กลับก่อนนะ รอไปพร้อมกัน ถ้าออกมาไม่เจอละน่าดู"ร่างเล็กที่ลุกพรวดขึ้น ตั้งใจจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดชะงัก ถลึงตามองคนเจ้าบงการอย่างกรุ่นโกรธ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากเดินไปนั่งบนโซฟา เซฮุนละสายตาจากแผ่นหลังเล็กกลับมาที่อาหารบนโต๊ะ ความอยากอาหารของเขาไม่เหลือแล้ว เลยลงมือเก็บมันไปไว้ที่ห้องครัว ก่อนจะกลับมานั่งโซฟาข้างๆ คนตัวเล็ก
เจสสิก้าเขยิบหนี พร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนคนโง่ ใบหน้าน่ารักเสหนีไปทางอื่น ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเห็นหน้าคนใจร้าย แต่สายตาก็ดันไปอยู่ในระดับเดียวกับกรอบรูปครอบครัวที่มีกันพร้อมหน้าพร้อมตาซะได้
"มาที่นี่ทำไม"น้ำเสียงของเซฮุนดูเบาลงไปมาก เขายอมโอนอ่อนเพราะใจเย็นขึ้นหลังจากไปล้างจานมา แล้วยิ่งมาเห็นว่าเจ้าตัวเล็กน้ำตาไหลเป็นทางเลยอดลงให้ไม่ได้
"แม่ให้มาขอโทษเรื่องเมื่อวานค่ะ"ส่วนน้องเองพอเห็นรูปครอบครัวก็สงบสติอารมณ์ได้ อย่างน้อยแม่ก็อยากให้เราไม่ทะเลาะกัน และที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อจะขอโทษจากใจจริง
"ไม่ต้องมาก็ได้ มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น"เจสสิก้าหันมามองหน้าพี่ชาย ที่ยังคงเย็นชาอยู่เสมอเวลาอยู่กับเธอด้วยความผิดหวัง เพราะเธอไม่มีความสำคัญกับเขา คำขอโทษไร้ค่าที่จะพูดออกไปก็คงไม่สำคัญเช่นกัน
"ค่ะ"เพราะจุกจนพูดไม่ออก จึงทำได้แค่เสมองไปทางอื่นแทน โดยที่ไม่ทันได้เห็นสายตาวูบไหวของเซฮุนที่มองมา
"พี่ต้องทำงาน รอก่อน แล้วค่อยกลับพร้อมกัน"ไร้ซึ่งการตอบรับไม่ว่าจะเป็นท่าทาง หรือน้ำเสียง เขาถูกน้องสาวเมินโดยสมบูรณ์ คนตัวโตผ่อนลมหายใจออกแล้วลุกเดินหายไปในห้องนอน
คนที่กำลังน้อยใจปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมา พร้อมกับก้อนสะอื้นที่ทำให้ร่างเล็กสั่นไหว จะผ่านไปกี่ปีพี่เซฮุนก็ยังเป็นคนเดียวที่ใจร้ายกับเธอ บางทีมันก็ทำให้เจสสิก้าคิดว่า หากเธอไม่ถูกเก็บมาเลี้ยงก็คงจะดีกว่านี้ อย่างน้อยก็คงไม่ถูกเขาเกลียด หลายปีที่ผ่านมาระหว่างเรามันเต็มไปด้วยความอึดอัด ราวกับว่าเมื่อไหร่ที่มีเธอ พี่เซฮุนก็เลี่ยงหายไปตลอดเลย เธอก็อยากลองหายไปแบบไม่คิดถึงใครดูบ้าง
อย่างรู้เหมือนกันว่าพี่เซฮุนจะคิดถึงเธอ...เหมือนที่เธอคิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่เซฮุนพูดจาเย็นชาใส่น้องมากนะ น้องอ่อนไหวเข้าใจหน่อยย