ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #30 : pretty 3 -100%-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.96K
      12
      6 ม.ค. 58

    Pretty pretty boy III

    Markbam

     

    .

    .

     

     

                    “พี่มาร์ค~” แบมแบมเรียกคนรักเสียงอ้อน “แบมคิดการบ้านข้อนี้ไม่ออก” ว่าจบก็เบะปากลงเป็นการยืนยัน ว่าการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ (ที่แบมแบมยังคงไม่ชอบอยู่เหมือนเดิม) ทำให้แบมแบมแก้มกลมสมองมึนไปหมด

                    ให้แบมไปเตะบอลยังดีกว่านั่งทำการบ้านเลย...

                    “ไหน” มาร์ควางโน๊ตบุ๊คของเขาเอาไว้ ลุกเดินมาหาคนรักที่นั่งอมลมอยู่ที่เดิม มาร์คสังเกตมาสักพักแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าการบ้านเลขจะสร้างปัญหาให้แบมแบมไม่น้อยเลย “ทำไม่ได้ทุกที เรียนพิเศษเพิ่มอีกดีไหมเนี่ย”

                    “ม่ายอาวแล้ววววว” แบมแบมยู่หน้า จำได้แม่นว่าเมื่อปีก่อนจะต้องไปนั่งทรมานอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชา เกือบจะเป็นบ้าไปเลยเวลาที่ได้ยินสูตรมึน ๆ พวกนั้น “ทำไมต้องเรียนเลขด้วยก็ไม่รู้ บู้ว ไม่เห็นสนุกเลย”

                    มาร์คอมยิ้ม ส่ายหน้ากับคนรักแก้มกลมที่เอาแต่บ่นไม่เป็นภาษา แบมแบมเป็นเด็กที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียน ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่มีการบ้านเยอะมากแค่ไหน แต่จะมีก็แค่วิชาคณิตศาสตร์ (ที่มาร์คคิดว่าเขาถนัดมากที่สุด) นี่แหละ ที่ดูจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเด็กชายกันต์พิมุกต์คนนี้จริง ๆ

                    “ไม่ได้เรียนให้สนุกอย่างเดียวนี่ เรียนก็ต้องได้ความรู้ ได้ความอดทน” มาร์คว่า แล้วโน้มตัวลงอ่านสมุดการบ้านของเด็กน้อย ว่ามีเรื่องยากอะไรที่ทำให้แบมแบมแก้ไขโจทย์ไม่ได้บ้าง คนอายุน้อยกว่าที่อยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นพี่กลาย ๆ กำลังฟ้อง(?)เจื้อยแจ้วไม่หยุด ว่าโจทย์เลขข้อนี้โหดร้ายมากเกินไป

                    แบมแบมบอกกับมาร์คอย่างจริงจัง ว่าต่อให้ใช้นักเรียนม.ปลายปี 2 ทั้งชั้นมาช่วยกัน ก็คงจะแก้ไขโจทย์ข้อนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

     

                    ซึ่งมันใช่ซะที่ไหนล่ะ

     

                    “ถ้าพี่ทำได้ในสองนาทีล่ะ”

                    “ไม่นับ เพราะพี่มาร์คเป็นเด็กปีสี่ เก่งกว่าม.ปลายปีสองทั้งหมดรวมกัน ทำได้ก็ไม่แปลกหรอกนะครับผม!” เด็กน้อยของมาร์คแก้ตัวอย่างน่ารัก มาร์คหัวเราะ กดปลายคางลงบนศีรษะของแบมแบมแล้วเริ่มอธิบายให้เด็กม.ปลายฟังอย่างง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน มาร์คก็ทำให้เด็กน้อยงึมงำออกมาได้ว่า “ทำไมตอนทำเองมันไม่เห็นจะง่ายแบบนี้...”

                    “แบมไม่ตั้งใจด้วยหรือเปล่า หืม?” มาร์คแกล้งแหย่ “ถ้าแบมไม่ตั้งใจ หรือรู้สึกไม่อยากทำ ก็คิดอะไรไม่ออกอยู่แล้วล่ะ เข้าใจไหม~~” มาร์คพูดเสียงหยอกล้อ แกล้งถูคางลงบนหัวกลมด้วยความหมั่นเขี้ยว จบลงด้วยกดจมูกลงเบา ๆ บนผมของเด็กน้อย

     

                    ช่วยไม่ได้ที่เขารู้สึกว่าแบมแบมน่ารักขึ้นทุกวัน ... อาจจะไม่ใช่แค่คนอื่นที่รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปมาก ยอมรับว่าแม้แต่ตัวมาร์คเอง เขาก็คิดว่าตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ

                    

                     “หิวง่ะ” อยู่ ๆ แบมแบมก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง ยังไม่ทันที่มาร์คจะได้กลับไปนั่งทำงานที่เดิมด้วยซ้ำ แล้วก็ต้องแอวหัวเราะกับท่าทางน่ารัก ๆ ที่กำลังลูบป้อย ๆ ที่ท้องของแบมแบม “ทำไมต้องขำล่า~ เพราะว่าทำการบ้านแบมก็เลยเสียพลังงานเยอะไงพี่มาร์ค หิวเลย”

                     “โอเค งั้นลงไปหาอะไรกินก่อนดีไหม?”

                     “ม่าย” ปฏิเสธแทบจะทันที ทำเอาคนอายุมากกว่าเลิกคิ้วด้วยความงุนงง แบมแบมยิ้มกว้าง ไม่ปล่อยให้คนรักสงสัยนาน “เพราะแบมจะทำอาหารเอง!

                     “นึกอะไรขึ้นมาล่ะเรา”

                     “แค่อยากทำน่ะครับ ไม่ได้ทำมาตั้งนานแล้วนี่นา พี่มาร์คไม่คิดถึงฝีมือแบมเหรอครับ” แกล้งถามคนรักเสียงใส จัดการปิดสมุดการบ้านเข้ากระเป๋า แล้ววิ่งเข้าไปเปิดประตูตู้เย็นเช็คอาหารทันที “โอ๊ะ ของสดเหลืออยู่นิดเดียวเท่านั้นเอง พี่มาร์ค เราลงไปซุปเปอร์มาเก็ตกันดีกว่าครับ”

                     แบมแบมตัดสินใจด้วยตัวเองทุกอย่าง แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่มาร์คจะปฏิเสธด้วย...

                     เขาไม่ได้ตามใจแบมแบม แต่แค่ไม่อยากขัดใจเท่าไหร่ก็เท่านั้นเอง

                    

                     มาร์ค ต้วนที่ตัดสินใจทิ้งงานของเขาเอาไว้ (มันเหลืออีกแค่นิดหน่อยเท่านั้น และคาดว่าคงจะต้องมีมากกว่าเดิม ถ้าหากได้รับโทรศัพท์จากอิมแจบอมหรือโอเซฮุน) ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ ๆ กับคอนโดของเขาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ถึงจะไม่ใกล้กับที่พักสักเท่าไหร่ มาร์คก็เลือกที่จะขับรถออกมาอยู่ดี

                     เพราะถ้าขืนเดินมา แบมแบมคงได้แพ้อากาศจนไม่สบายแน่ ๆ

                     “แบม ใส่หมวกด้วยสิ” มาร์คเรียกคนรักตัวเล็กเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดประตูลงไป เพราะอากาศที่ไม่ดีกับสุขภาพของแบมแบมเท่าไหร่นัก “เดี๋ยวไปเจออากาศชื้น ๆ ก็ป่วย”

                     “แบมแข็งแรงจะแย่ ไม่ป่วยง่าย ๆ หรอกน่า” ถึงปากกลม ๆ จะแก้ตัวแบบนั้น แต่ก็ยอมเอื้อมมือไปคว้าหมวกไหมพรมสีอ่อนในมือของพี่มาร์คอยู่ดี “ใส่ก็ได้~ ใส่แล้วจะได้อุ่น ๆ”

                     กันต์พิมุกต์พูดเสียงสดใส ฉีกยิ้มให้กับคนรัก แล้วเปิดประตูรถกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดเข้าไปในซุปเปอร์ด้วยความเคยชิน ถ้าหากเป็นที่อื่นมาร์คคงไม่ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กไปเอง แต่เป็นเพราะแบมแบมและเขามาที่นี่จนแทบจะสนิทกับพนักงาน (เขาก็แค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยกับพวกเขาเท่าไหร่ ถึงมาร์คจะเห็นหลายคนชอบมองแบมแบมจนเขารู้สึกรำคาญ ใช่ เขาหึงนั่นแหละ) เพราะความคุ้นชินสถานที่ดี มาร์คเลยรู้ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

                    

                     มาร์คอาจจะดูทั้งรักทั้งหวงแบมแบมมากเกินไป แต่เขาก็เพิ่งเข้าใจคำที่ครอบครัวของเขาเคยบอกเอาไว้ ถ้าหากวันหนึ่งเราได้เจอคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับคน ๆ นั้น เราจะรู้สึกว่ามีค่า สำคัญ และอยากจะรักษาให้ดีที่สุดเท่าที่คน ๆ หนึ่งจะทำได้...

                     เหมือนกับป๊าและแม่ของมาร์ค เหมือนกับครอบครัวของแบมแบมที่ทั้งรักและห่วงลูกชายตัวน้อย ๆ คนนี้ยิ่งกว่าใคร นั่นเป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่มาร์ค ต้วนไม่เคยอยากให้แบมแบมอยู่ห่วงไกลสายตา

                    

    มาร์คเดินเข้าไปหาคนรักที่เข็นรถนำเข้าไปก่อน ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มติดอยู่ไม่จางหาย เดือนมหาลัยฉายาเจ้าชายน้ำแข็งยังคงเป็นที่จับจ้องเหมือนทุกครั้ง แต่จะมีความหมายอะไร ในเมื่อสายตาของมาร์คแทบจะไม่เคยหันไปทางคนอื่นเลย คงต้องบอกว่าเสียใจด้วยหากต้องการทอดสะพาน

    ทว่าจังหวะสายตาของมาร์คทำให้ขาของเขาหยุดชะงัก มาร์คตั้งใจจะเดินเข้าไปหาคนรัก และห่างออกไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเขาก็จะเดินไปหาแบมแบมได้ แต่เขากลับปล่อยให้แบมแบมห่างออกไป เพราะเขาได้เห็นภาพเคยคุ้นของใครบางคน...

     

    เป็นไปไม่ได้... เธอจะกลับมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

    ในเมื่อเธอหายไปและไม่เคยติดต่อกลับมา... มันไม่มีทางเป็นไปได้ ...

     

    “แค่ตาฝาดน่ามาร์ค” เขาเตือนตัวเองเช่นนั้น ยกมือขึ้นบีบขมับด้วยความไม่เข้าใจ หน้าอกข้างซ้ายของเขาเต้นรัว ในสมองของเขากำลังสับสน เขาไม่ต้องการให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่มีแม้แต่เสี้ยวความคิดว่าอยากจะให้ร่างกายและหัวใจของเขามันตอบสนองแบบนี้ และไม่ใช่เพราะหาสาเหตุไม่ได้

     

    เขามั่นใจถึงต้นเหตุดีเลยต่างหาก

     

    “ก็แค่เรื่องฝังใจ... ฉันไม่ได้รักเธออีกต่อไปแล้ว มาร์คไม่ได้รัก... เบซูจีอีกต่อไปแล้ว”

     

    -30%-

     

     แบมแบมไม่แน่ใจว่ามีอะไรแปลกไปจากเดิมหรือไม่ ...

    “พี่มาร์ค ไม่สบายรึเปล่าครับ” เพราะคนรักของเขาดูเงียบไปจนเรียกได้ว่าแปลก พักหลังมาไม่บ่อยนักที่จะเกิดอาการเช่นนี้กับพี่มาร์ค เพราะมีแต่จะพูดหรือแกล้งเขาจนน่าประหลาดใจเท่านั้น “หรือว่าอาหารไม่อร่อยครับ?”

    “เปล่า...” มาร์คตอบแค่นั้น ระบายยิ้มอ่อน ๆ ให้กับเด็กน้อยแก้มกลมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทางกังวลกับเขา “พี่ไม่ได้เป็นอะไรแบม แค่มึนหัวนิดหน่อย ได้นอนก็คงหายแล้ว”

    “ถ้างั้นวันนี้พี่มาร์คไม่ต้องทำงานแล้วนะ! แบมจะเอาโน๊ตบุ๊คกับโทรศัพท์ของพี่มาร์คไปซ่อนให้หมดเลย~ ไม่ให้พี่เซฮุนโทรมาปรึกษาแล้วด้วย” แบมแบมพูดแจ้ว ๆ แล้วเดินไปทำอย่างที่บอก มาร์คหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของคนรัก ถ้าเซฮุนมาได้ยินคงไม่อยากจะเชื่อหู เพราะเด็กน้อยของเขาแอบใส่น้ำเสียงที่ดูจะเคืองพี่เซฮุนไม่น้อยเลยล่ะ “พี่แจบอมกับพี่แจ๊คสันก็ห้ามกวนเหมือนกัน แบมต้องบอกทุกคนไว้ให้หมดเลย เพราะวันนี้เป็นวันพักของพี่มาร์ค~

     

    ทำไมถึงเป็นห่วงเขาได้มากขนาดนี้นะ... แล้วทำไมเขาถึงกล้าไปคิดถึงคนที่เคยทำร้ายเขา คนที่เคยทำให้เขาเจ็บปวดจนเหมือนจะตาย

    เลิกคิดถึงผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ทุกอย่างแค่ผ่านมาแล้วผ่านไป มันไม่มีอะไรสำคัญเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    “แบม มาหาพี่หน่อยสิ” มาร์คเรียกเด็กน้อยของเขาให้เข้ามาหา แบมแบมที่กำลังนั่งกอดฟัดเจ้าแมวขนปุยก็เดินเตาะแตะมาหาและนั่งลงข้าง ๆ ดวงตากลมใสมองเขาและยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง มาร์ครั้งเอวของคนรักให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเอาไว้หลวม ๆ เกยคางบนไหล่เล็ก หลับตาและคิดถึงรอยยิ้มของแบมแบมที่คงกำลังมีอยู่บนใบหน้าตอนนี้ ซึบซับสัมผัสอบอุ่นที่อยู่ในมือของเขา

     

    รับรู้ทุกความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมาจากคนที่มาร์ครัก...

    ทุกครั้งที่เขามีเรื่องไม่สบายใจ เขาชอบที่จะมองรอยยิ้มไร้เดียงสาและไร้พิษภัยของคนรัก รอยยิ้มที่ทำให้มาร์ครู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก เพราะเพียงแค่เขามีแบมแบมอยู่ข้าง ๆ กัน ทั้งความสุขและความสงบเกิดขึ้นกับเขาได้อย่างไม่ยากเย็น การมีแบมแบมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เขาไม่ได้พูดเพื่อย้ำตัวเองบ่อย ๆ หรือทำให้ตัวเขาเองเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้น แต่มันคือความรู้สึกที่เกิดขึ้น ทั้งสมองและหัวใจของเขารู้ดีว่ามันคือเรื่องจริง...

     

    แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ความรู้สึกปวดหนึบและสับสนเมื่อเห็นใครบางคนที่คล้ายกับซูจี มันก็เกิดขึ้นจริงกับสมองและหัวใจของเขาเช่นกัน

    นั่นคือความรู้สึก... ที่เขาไม่สามารถสะกดมันเอาไว้ได้เลย

     

    “แบมว่าพี่มาร์ครีบไปพักผ่อนดีกว่า ตัวรุม ๆ จริง ๆ แล้วนะ” แบมแบมพูดหลังจากที่ยอมอยู่นิ่ง ๆ ให้คนรักใช้ต่างหมอน “ไม่งั้นไม่สบายแน่นอนนะครับ”

    “อืม... แต่ถ้าหากว่าอยากอุ่นมากกว่าเดิม แบมไปเป็นหมอนข้างให้พี่ได้รึเปล่า...” มาร์คพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น ทว่ามุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างคนเป็นต่อ “ไม่งั้นถ้าพี่ไม่สบายหนักขึ้นมา ใครจะดูแลพี่ล่ะ หืม...”

    “บู้วววว พี่มาร์คชอบอ้างไปเรื่อยเลย ถ้าอย่างนั้นลุกได้แล้วครับ เดี๋ยวแบมจะเอาน้ำดื่มกับยาแก้แพ้อากาศเข้าไปให้นะ” แบมแบมบอกด้วยน้ำเสียงสดใส มาร์คพยักหน้ากับไหล่เล็ก อิดออดอยู่สักพักก่อนที่จะยอมเดินเข้าไปในห้องนอนของเขาแต่โดยดี

     

    มีความสุขกับวินาทีนี้ก็พอ เขาไม่ขออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว หรือถ้าเขาจะขออะไรได้สักอย่าง... เขาคงขอให้เบซูจีไม่กลับมา ได้โปรด... อย่ากลับมากรีดซ้ำรอยแผลของเขาอีกเลย

     

    .

    .

     

                    หวังแจ๊คสันไม่ใช่คนไร้สาระไปวัน ๆ อย่างที่ใครเข้าใจนะครับ

                    “แม่งโคตรเหนื่อย ใกล้แข่งจริงทีไร เหมือนร่างจะแหลกสลายทุกที” บ่นครับ วินาทีนี้มีเพียงแค่บ่นเท่านั้นที่แจ๊คสันคนนิสัยดีคนนี้จะทำได้ เห็นเมื่อเทอมก่อนผมลอยไปลอยมาหาพวกไอ้มาร์คได้ทุกวัน เป็นเพราะเรื่องการย้ายยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ตารางแข่งของผมก็เลยต้องเปลี่ยนตามไปด้วย

                    ช่วงนี้พวกผมไม่ได้ติดต่อกันมาพักใหญ่ ล่าสุดที่คุยกับน้องแบม คือน้องบอกว่าไอ้มาร์คเหมือนจะป่วย ๆ ก็เลยต้องอยู่ดูแล หลังจากนั้นก็แค่คุยกันผ่านไลน์บ้าง ผมเองก็ซ้อมหนัก พวกไอ้เซฮุนไอ้แจบอมก็ทำงาน (และติดเมีย) กันทุกคน ไอ้เรื่องสังสรรค์เฮฮาเลยลดลงกันไปตามระเบียบ พูดแล้วน้ำตาจะไหล

                    “เมื่อครั้งก่อนมึงไม่ได้แข่งนะเว้ย อย่ามา อู้ไปเกือบเทอม” เพื่อนร่วมทีมอย่างนิโคลัสบ่น ทีเขาเหนื่อยมาติด ๆ กันตั้งหลายเดือนยังไม่พูดมากเลย “นั่งพักละรีบ ๆ ลุกได้ละมึง เดี๋ยวโค้ชมาเจอมึงนั่งอู้ รู้เลย รู้เรื่องเลย”

                    แจ๊คสันเบะปาก เขาเหนื่อยจริง ๆ นะไม่ได้พูดเล่น อย่างที่บอกนั่นแหละครับ เห็นผมเป็นคนลอยไปลอยมา เหมือนจะไม่จริงจังกับเรื่องอะไรเลยสักนิด แต่คิดใหม่ได้นะครับ ถ้าเกิดได้เห็นผมตอนแข่งกับตอนซ้อมอะ ผมนี่โคตรจริงจังและไม่มีการลดหย่อนให้ตัวเองทั้งนั้น...

     

                    เพราะงั้นเวลาไร้สาระ ผมก็เลยไร้สาระแบบลืมตัวลืมใจ...

     

                    “กูให้มึงอู้อีกห้านาทีก็ได้ไอ้แจ๊ค เด็กสัดแพดแวะมาหามึงอะ รีบไปหากำลังใจละรีบกลับมาได้ละสัด” นิคบุ้ยหน้าไปที่ทางประตูโรงยิม ใบหน้านิ่ง ๆ ของชเวยองแจที่กำลังเดินเข้ามาทำเอานักกีฬาร่างสันทัดกระดิกหางแทบจะทันที

     

                    แหม นิโคลัสอยากจะด่าเหลือเกิน ถ้าวิ่งสี่ขาไปหาเจ้าของได้นี่คงพุ่งไปแล้วสินะ

     

                    “เลิกทำหน้าดีใจเว่อร์ซะทีเหอะ” ชเวยองแจบ่น เขาไม่สามารถทำใจให้ชินกับอาการโอเวอร์แอคติ้งของหวังแจ๊คสันได้สักที “เอาของมาให้ เรียกร้องความสนใจจังว่าซ้อมเหนื่อย”

                    ใช่ แจ๊คสันหวังเอาแต่เรียกร้องความสนใจจากเขา ไม่ได้คิดไปเองแต่อย่างใด หลักฐานทั้งหมดสามารถอ่านได้จากในไลน์ ทั้งสติกเกอร์ ประโยคบอกเล่า แถมยังเอารูปเซลฟี่สภาพโทรม ๆ ให้เขาดูเป็นการยืนยันอีกต่างหาก

                    อืม ถ้าไม่สงสารหรือเห็นใจก็คงจะใจร้ายไปหน่อย เขาก็เลยเสียสละเวลาเลคเชอร์สักสิบห้านาที เดินไปซื้อเกลือแร่กับของหวาน ๆ มาให้นักกีฬาของมหาลัย ถือว่าทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม หรือไม่จริง?

                    “ขอบคุณนะครับน้องยองแจ” ว่าแล้วก็ยิ้มหวาน รับถุงขนมที่มีตราร้านสะดวกซื้อชื่อดังมากอดไว้อย่างหวงแหน “เย็นนี้พี่เลิกซ้อมหกโมง มารอแล้วไปกินข้าวด้วยกันป่ะครับ”

                    “ไม่รู้สิ”

                    ตามหลักคำว่าไม่รู้ของยองแจแล้ว คือเย็นนี้เราจะไปกินข้าวด้วยกันครับ ไม่ได้มโนนะ แต่ผมอยู่กับยองแจมาตั้งพักใหญ่ ทำไมเรื่องแค่นี้จะเดาไม่ได้เล่า!

                    ชเวยองแจอ่ะทำปากร้ายไม่สนใจใครไม่อย่างนั้นแหละครับ จากประสบการณ์เป็นรูมเมท(ที่หวังจะเป็นมากกว่ารูมเมทอยู่ทุกวัน) บอกได้เลยว่าไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิดเดียว

                    “ไปละ ตั้งใจซ้อมล่ะ เดี๋ยวจะทำให้มหาลัยเสียชื่อเสียงเอาได้”

     

                    ให้กำลังใจพี่อยู่ก็บอกมาดี ๆ เถอะน่าน้องยองแจ~

     

                    “ครับผม พี่จะตั้งใจซ้อมสุดความสามารถ เตรียมฉลองให้กับว่าที่แชมป์ได้เลยนะ นี่ไม่ได้โม้เลยสักนิด” แจ๊คสันพูดด้วยความมั่นใจ ก่อนที่จะถูกทำลายบรรยากาศด้วยเสียงตะโกนเรียกของเพื่อนร่วมทีม “แม่งขัดกูจริ๊ง อย่าให้ถึงตาพวกมึงบ้าง กูจะตามมาท้าวคางนอนฟังเลยไอ่สัด”

                    “บ่นมากว่ะ รีบไปซ้อมได้แล้ว พี่นิคจะเขวี้ยงดาบมาหานายอยู่ละ”

                    ดูครับ คนเรา กับไอ้นิคนี่เรียกพี่นิค กับผมนี่นาน ๆ ทีจะเรียก เรียกนายมั่งพี่มั่ง อยากจะฟังคำว่าพี่บ่อย ๆ ให้ชื่นใจเหลือเกิน แต่มาไกลได้ขนาดนี้ก็ดีแล้วครับ จะไม่หงอย จะไม่ตัดพ้ออะไรทั้งนั้น

                    “เย็นนี้เจอกัน” ชเวยองแจพูดอีกครั้งก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปจากโรงยิมนักกีฬา...

     

                    แค่นี้ก็กำลังใจก็มาเต็มถังแล้วครับ หวังแจ๊คสันพูดเลย!

     

    .

    .

     

                    ในที่สุดการซ้อมที่ยาวนานก็จบสิ้นลงสักที แน่นอนว่าผลการซ้อมออกมาค่อนข้างน่าพอใจ และสิ่งที่แจ๊คสันทำต่อมาหลังจากถอดหมวกสำหรับซ้อมออก คือสอดส่ายสายตาหาคนที่บอกว่าจะเจอกันเย็นนี้ (ตอนซ้อมผมยอมรับว่าไม่ได้สนใจครับ บอกแล้วว่าเป็นคนทำอะไรเอาจริงเอาจัง)

                    แล้วก็ต้องยิ้มกว้างเป็นฉีกถึงรูหู (ยิ้มเองสัมผัสได้เอง) เพราะเห็นว่าน้องยองแจนั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่ด้านบนของแสตนด์เชียร์ หัวใจผมนี่เต้นเป็นจังหวะรัก (ได้โปรดอย่ามองผมแบบนั้น ก็แค่พูดตามความจริง) วิ่งกระโดดข้ามบันไดทีละสองขั้นไปหาว่าที่แฟนทันใด

                    “มานานยังครับ”

                    “พักนึง นี่ซ้อมเสร็จแล้ว?” ยองแจถามกลับ เห็นสภาพชื้นเหงื่อและหัวยุ่งเหยิงก็นึกอยากด่าตัวเองว่าถามไปได้ยังไง “ไปเก็บของดิ หิวข้าว”

                    “โอเค รอแป๊บ” แจ๊คสันตอบตกลงและวิ่งไปที่เก็บของของเขาอีกครั้ง ตั้งใจจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะได้ไปกินข้าวสักที หิวท้องจะกิ่ว จะไม่ให้มีอุปสรรคอะไรมาขว้างกั้นทั้งนั้น...

     

                    แต่พอลงมาหยิบกระเป๋า แล้วก็เห็นมิสคอลเป็นร้อยสายเท่านั้นแหละ อยากจะตะโกนถามไอ้คนมาเหลือเกินว่ามีใครตายหรือยังไงวะ! โทรมาเป็นร้อยสายขนาดนี้ ไม่มาหาเขาที่มหาลัยไปเลยล่ะวะ

                    หวังแจ๊คสันคิด พยายามนึกว่าไปทำเรื่องอะไรไม่ไว้หรือเปล่านะถึงได้โดนโทรตามตัว จะเป็นใครที่โทรมาหาเยอะขนาดนี้ พอยืนคิดอยู่ได้พักใหญ่เลยได้สติ ว่าควรจะเอาขึ้นมาดูสักทีว่าใคร

                    แล้วก็อย่างที่คาด ชีวิตกูนี่มีแต่พวกมึงจริง ๆ เลยสินะ ไอ้แจบอม ไอ้เซฮุน

                    “อะไรของพวกแม่งวะ” แจ๊คสันบ่น ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ เขาพยายามคิดไปเรื่อย ๆ ว่าจะมีเรื่องอะไรให้พวกนั้นตกใจนักหนา ระหว่างที่รอให้ไอ้เซฮุนรับโทรศัพท์ หนีบมือถือไว้กับหูข้างหนึ่ง มือก็รีบเก็บของให้เรียบร้อย

                เชี้ยแจ๊ค มึงอยู่ไหน เซฮุนไม่แม้แต่จะทักทาย เสียงของเพื่อนที่เคยขึ้นจมูกและกวนตีนอยู่เสมอดูใจร้อนแบบแปลก ๆ

                    “อยู่โรงยิมดิสัส เพิ่งซ้อมเสร็จ อะไรของมึงวะ”

                    มึงรีบมาโรงบาล A ด่วนเลยไอ้เชี่ย น้องมึงถูกรถชน!’

                    ห๊ะ... กูขออีกที

                    “มึงล้อกูเล่นป่ะไอ้เหี้ยเซฮุน” น้ำเสียงจริงจังถามอย่างไม่อยากเชื่อเท่าไหร่นัก เขาไม่เคยคิดว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดกับแบมแบมได้ แน่นอนส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขารู้ว่ามาร์คจะดูแลน้องชายของเขาเป็นอย่างดี

     

                    แล้วนี่เรื่องเหี้ยอะไรกัน?!

     

                    ไม่ล้อเล่น ไม่งั้นจะโทรหามึงเป็นร้อยสายทำไมละวะ! เบอร์ยองแจกูก็ไม่มี ไอ้เหี้ยมาร์คก็หายหัวไปไหนไม่รู้ เซฮุนพูดอย่างหัวเสีย ยังไงก็แล้วแต่ มึงรีบมาเดี๋ยวนี้เลย แล้วเราค่อยมาว่ากัน

                    “เดี๋ยว มึงอย่าเพิ่งวาง น้องกู น้องกูเป็นอะไรมากรึเปล่า แล้วใครเป็นคนชน ไอ้เหี้ย กูจะไม่ยอมให้เรื่องจบแบบนี้หรอกนะ”

                    น้องปลอดภัยแล้ว ส่วนคนชนไอ้แจบอมตามเรื่องให้อยู่ มึงรีบมาก่อนเหอะ แค่นี้นะ

                    หวังแจ๊คสันแทบจะจับต้นชนปลายทุกเรื่องไม่ถูก เขาอยากจะคิดว่าตอนนี้เขากำลังฝันอยู่ เหมือนทุกอย่างที่เคยดีและดีมากที่สุดในชีวิตกำลังดิ่งลงช้า ๆ

     

                    “ไอ้เชี่ยมาร์ค มึงทำอะไรของมึงวะ”

     

                    ใช่... ในเวลาแบบนี้ทำไมถึงได้ไม่เห็นหัวมาร์ค ต้วนเลยล่ะ?

                    หายหัวไปไหนของมึงวะ ไอ้มาร์ค

     

    .

    .

     

                    -tbc-

                    คนรักกันมันต้องมีบททดสอบความรัก ฮึก... ดราม่าไม่นาน เราไม่นิยมดราม่า ขอแป๊บเดียวนะคะนะ ภาคนี้คิดว่าไม่ยาวมากด้วย แต่อยากให้พี่มาร์คน้องแบมรักกันมาก ๆ T^T

                    ไปค่ะ ส่งกำลังใจให้พี่มาร์คที่หายหน้าไปไหนก็ไม่รู้กันเถอะ

                    ปล.ปิดท้าย เปิดจองฟิคเด็กพี่มาร์คอยู่น้า~ https://docs.google.com/forms/d/1Tfdha0XYkTLbr9UXglThqILAYCzjE2qPCJsH2hI0bkY/viewform?usp=send_form

    สอบถามได้ที่ทวิตเตอร์ @_bpuppyy นะคะ >< 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×