ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #25 : {Special 2/2} บทบาทของซอกจิน! & หนุ่มดอกไม้ยูกยอม (update!)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      7
      10 ก.ย. 57

    Special chapter

    For Kimseokjin

    ไม่ใช่พระเอก ไม่ใช่ตัวร้าย แต่คุณจะสมมติให้เป็นบทบาทไหน ซอกจินตามใจพวกคุณเลยครับ

    ก็แค่อยากเล่าให้ฟังเอาที่ตัวผมสบายใจ มันก็เท่านั้น

     

     

    .

    .

     

                      คิมซอกจินครับผม

                      เดี๋ยวครับ อย่าเพิ่งทำหน้าตาเหมือนไม่ต้อนรับบทบาทของผมแบบนั้น ผมมาดีนะ ไม่ใช่ว่ามาร้าย ไม่ใช่คนกวนตีน หรือว่าชอบกวนโมโหชาวบ้านอะไรหรอกนะครับ รู้ใช่ไหมล่ะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ มันจะต้องมีเหตุผลรองรับทุกเรื่องนั่นล่ะครับ ผมเองก็เหมือนกัน ที่ต้องกลายเป็นศัตรู หรืออะไรบางอย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าไม่ถูกกับพวกมาร์คและกลุ่มของเจ้าพวกนั้น เหตุผลที่แท้จริง... ผมไม่เคยบอกให้ใครรู้ครับ

     

                      เหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยเป็นเหมือนพี่ เหมือนน้องของพวกเราต้องจบลงไป จบ... แบบไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ด้วยนะครับ

                      ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันนั่นล่ะ

     

                      แต่ผมก็อยากจะอธิบายในด้านของผมเหมือนกันนะ แค่อยากเล่าน่ะครับ พวกคุณจะเชื่อหรือว่าไม่ จะเปลี่ยนมุมมองที่เคยคิดว่าผมมันร้าย กวนตีน หรือว่าน่าหมั่นไส้มากไปได้หรือเปล่า มันไม่สำคัญหรอกครับ ถึงแม้เรื่องจริงแล้วผมจะโคตรพระเอกมากเลยก็ตาม

                      เอ้า ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เรื่องแบบนี้คนเขาเอามาพูดทำเป็นเล่นกันซะที่ไหน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มานั่งย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ไม่ค่อยจะอยากเอามาเล่าใหม่แบบนี้หรอกครับ

     

                      เรื่องที่ไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่

                      ผม คือคิมซอกจินที่ชอบเที่ยวเล่น รักสนุกไปวัน ๆ ไม่ค่อยจะสนใจอะไร ผมก็เป็นอย่างที่พวกคุณเห็น จะให้อธิบายสั้น ๆ จำกัดความเป็นตัวซอกจิน ก็ง่าย ๆ ครับ ผมก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่เคยแคร์อะไรนั่นล่ะครับ อยากใช้ชีวิตก็ใช้ อยากอยู่กับใครก็ทำตามใจ รักคนไหนก็รัก แต่ข้อเสียของผมก็คือไอ้เรื่องที่ว่าไม่คิดอะไรมากจนเกินไปเนี่ยแหละครับ

     

                      ให้สารภาพตามตรง แบบไม่มีการโกหกหรือพูดจาทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเลยนะครับ อันที่จริงแล้วผมโคตรจะถูกชะตา แล้วก็โคตรจะสนิทกับพวกมาร์ค เรียกว่าคบกันแบบให้ใจ มีเรื่องอะไรพูดกันได้ทุกอย่าง

                      แต่เรื่องไม่น่าพิสมัยที่ผมว่า

                      เรื่องระหว่างผม

                      เรื่องที่มีมาร์ค

                      เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงที่ชื่อว่าเบซูจี

     

                      เรื่องที่มันทำให้ความสัมพันธ์ดิ่งลงสู่ขั้นเลวร้าย

     

                      ถ้าหากว่าคิมซอกจินคนนี้ไม่ใช่คนไม่คิดมากเกินไป คงไม่ทำตัวบ้าบอด้วยการตกลงตอบรับคำร้องขอของซูจี

                      ยอมตกลงยอมรับว่าเป็นผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องโยนอนาคตทิ้งไป กลายเป็นคนที่ทำให้เบซูจีต้องหนีไปที่อื่นกลางคันอย่างเสียไม่ได้

     

                      ครับอันที่จริงแล้วผมไม่ใช่คนทำเธอท้อง หรือบางที่ต้องบอกว่าผมไม่เคยจะคิดเกินเลย ไม่เคยแตะต้องล่วงเกินเธอเลยด้วยซ้ำ ยอมรับครับว่าแฟนมาร์ค(ในตอนนั้น)สวยมาก สวยในระดับที่ทั้งมหาลัยคงพร้อมใจกันลงคะแนนเสียงให้หล่อนชนะแบบใส ๆ แต่ก็เท่านั้นนะครับ ในเมื่อซูจี คือคนรักของคนที่เป็นน้องชาย

                      แค่นั้นมันก็มากพอที่จะทำให้ผมเลิกยุ่ง เลิกสนใจแล้วล่ะครับ

     

                      แต่เรื่องบ้า ๆ มันดันไปจบแค่นั้น

     

                      ‘รุ่นพี่ ถ้าหากว่าฉันทำอะไรบางอย่างผิดพลาด ช่วยรับปากว่าจะช่วยฉันได้ไหมคะคิมซอกจินย้อนนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้น เขาจำได้ว่าพวกเราน่ั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหาร บางทีอาจจะรออาหารอะไรสักอย่าง รับปากได้ไหมคะ ถ้าไม่ได้คิดว่าอยากช่วยฉัน ก็ถือว่า…ช่วยรักษาความรู้สึกระหว่างฉัน…กับมาร์ค

                      ซอกจินจำได้ดีว่าเขาจ้องมองใบหน้าแสนสวยด้วยความสงสัย ตอนแรกเขาไม่ได้คิดมากนักว่าจะตกลงรับปากหรือไม่ ซูจีเองก็คงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากนักหรอกที่จะไหว้วานคนอย่างเขา

                      แล้วยิ่งมีชื่อของน้องชายคนสนิทพ่วงมาด้วยแบบนี้ ซูจีคงรู้ดีว่าเขาไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่โคตรไม่น่ารับปากให้เดือดร้อนเลยก็ตาม

     

                       ซอกจินคนนี้อาจจะยอมให้ทุกคนด่าว่าโง่ได้เลยนะครับ แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนั้นผมเองก็คิดแค่ว่าอยากช่วยให้ทุกอย่างมันจบไป

                      แต่ลืมคิดไปครับว่าทุกคนไม่ได้ง่าย ๆ สบาย ๆ อย่างที่ผมเป็น

                      ลืมคิดลืมไปเลยว่าเรื่องของความรู้สึกมันอ่อนไหวแล้วก็เปราะบางมากแค่ไหน

     

                      ‘มันเป็นความผิดของฉันความผิดพลาดที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

                      ​พูดมาตรง ๆ ก็ได้ เธอรู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องช่วยจริงไหม

                     

                      พอคิดย้อนกลับไปยอมรับตรง ๆ ว่าโคตรอยากจะแก้ไขคำพูดเลยครับ

                     

                      ฉันอยากให้รุ่นพี่บอกกับมาร์คว่าพวกเราแอบคบหากัน

                      บ้าบอใช่ไหมล่ะครับ

                      ฉันท้องค่ะ

                      แล้วก็ทำให้ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโคตรแย่ แล้วก็เหนือความคาดหมายมากที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ นอกใจมันยังไม่เท่าไหร่ใช่ไหม แต่นอกใจแล้วยังมีเรื่องท้อง

                      นี่มันเป็นเรื่องโคตรไร้สาระและบ้าบอมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอเลยล่ะ แล้วมันก็น่าด่ามากกว่าใช่ไหม ที่คนโง่แล้วก็ไม่คิดอะไรเลยอย่างไอ้หล่อที่ชื่อว่าซอกจิน มันจะยอมรับปากช่วยไป เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แล้วก็เชื่อคำพูดของซูจี ที่บอกว่าอย่างน้อยคนที่รับผิดเรื่องนี้ คนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนรักคนใหม่ คนที่สร้างเด็กตัวน้อย ๆ ที่กำลังจะลืมตามาดูโลกในอนาคต… เป็นรุ่นพี่หรือคนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตลอด มันก็คงจะดีกว่าให้มาร์ครู้ ว่าซูจีแอบไปคบหากับผู้ชายคนอื่นในช่วงเวลาที่เป็นแฟนกับมาร์ค

                     

                      ยอมให้ด่าผมว่าโง่อีกที แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดมากจริง ๆ นะว่าความสัมพันธ์มันเปราะบางมาก แล้วไอ้ที่ซูจีนำทางความคิดของผมไปแบบนั้นน่ะ มันไม่ใช่เลยสักนิด

                      ผมควรจะคิดให้มากกว่านี้ ว่าไอ้การที่ถูกคนสนิทหักหลัง มันน่าเจ็บใจ แล้วก็เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกใครก็ไม่รู้แย่งแฟนไป จริงไหมครับ

                      ซอกจินแม่งน่าจะคิดให้มากกว่านั้นสักหน่อย

                      ไอ้เรื่องใหญ่โคตร ๆ แต่ดันคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่มีอะไร มันควรจะเป็นเรื่องที่ผมช็อค แล้วก็คิดให้มากกว่านี้ ผมควรจะคิดอะไรให้มากกว่านี้จริง ๆ นะครับ

     

                      กล้าพูดได้ตรงนี้เลยครับ ถ้าหากว่าผมคนนี้สามารถเดินย้อนกลับไปแก้ไขอะไรบางเรื่องในชีวิตธรรมดา ๆ ของผมได้ การแก้ไขคำตอบที่ยอมตกลงรับปากซูจีไปวันนั้น จะเป็นเรื่องแรกที่ผมทำ ผมจะไม่มีวันทำร้ายความรู้สึกของคนที่เรียกได้เต็มปากว่าน้องชาย

                      แต่ก็ทำได้แค่คิด สุดท้ายแล้ว พอจุดแตกหักระหว่างพวกเราผ่านไป ผม… กับกลุ่มที่เคยเรียกได้ว่าเป็นน้องชาย เอาเหอะ อันที่จริงคิดแล้วผมก็เสียใจนะ แต่อยากให้มาด่าผมอีกที (สรุปแล้วผมก็ต้องปล่อยให้ทุกคนด่าอยู่ดี บางทีเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับผมขึ้นมาเลยก็ได้นะครับเนี่ย) เพราะนิสัยไม่คิดมากโคตร ๆ ไม่คิดอะไรเลยวัน ๆ ไอ้ความรู้สึกผิด แล้วก็คิดอยากจะแก้ไขมันก็เลยหายไปภายในช่วงเวลาแค่สองสามวัน

                      เบซูจีอาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่นัก โอเค กำลังคิดว่าผมแม่งไม่ได้เรื่องอยู่ล่ะสิ่ แต่จะอธิบายให้ฟังต่อเดี๋ยวนี้แหละครับ หลังจากวันนั้นเจ้าหล่อนมาบอกลาผมเพื่อไปต่างประเทศ ที่ไหนสักที่ที่ผมเองก็ไม่ได้อยากจะรู้สักเท่าไหร่ เธออาจจะไปพักใจ หาทางแก้ปัญหา หรือว่าไปตั้งต้นชีวิตใหม่ก็ไม่รู้สิครับ เออ แต่อันที่จริงไม่ต้องมาก็ได้จริงไหม ยังไงทุกอย่างมันก็พังไปหมดแล้วนี่ ถ้าผมไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อว่าซอกจิน ก็คงจะโมโห แล้วหาทางไหนสักทางเพื่อแก้ไขปัญหา

     

                      แต่พอดีว่านี่คือคิมซอกจิน

                      ผมก็เลยปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไปตามกาลเวลา ไม่ถูกกับพวกมาร์คตั้งแต่ตอนนั้น เลยเถิดมาจนถึงทุกวันนี้ ผมก็ไม่ได้แก้อะไร แถมยังชอบไปทำตัวกวนตีนใส่พวกมันเวลาเจออีกต่างหาก ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองสักเท่าไหร่หรอกครับ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อมันเป็นนิสัยของไอ้ผู้ชายโง่ ๆ บ้า ๆ ที่ชื่อว่าซอกจินนี่นา

     

                      แต่เชื่อผมเหอะ ที่ชอบไปแกล้งพวกไอ้มาร์ค แล้วก็เด็กพวกนั้นน่ะ ผมไม่ได้มีเจตนาอยากจะทำให้มันต้องคิดมาก หรือว่าไม่ได้อยากให้พวกมันเกลียด หรือแย่งชิงอะไรจากพวกมันเลยนะ เพียงแต่มันเป็นความเคยชิน เป็นนิสัยเสีย ๆ ที่ไม่ว่ายังไงก็แก้ไม่ได้ มันก็เท่านั้น

                      อ้อ แล้วที่ผมเล่าไปทั้งหมด ผมไม่ได้ต้องการอยากจะผลักความผิดไปให้ซูจี หรือว่าโทษเจ้าหล่อนคนเดียวหรอกนะครับ (ถึงแม้สมองของผมพยายามประมวลหลายครั้งแล้ว ยังไงเจ้าหล่อนก็เป็นคนผิดแต่เพียงผู้เดียวอยู่ดี) แต่ถึงอย่างนั้น อย่างน้อยผมเองก็ได้ช่วยให้มาร์คเกลียดคนที่เคยรักน้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย แน่ล่ะครับ ในเมื่อมันเทมาเกลียดผมเต็มเปาซะขนาดนั้น เอาเหอะ ถือว่าได้ช่วยพวกมันทางอ้อมก็แล้วกัน ผมเองก็ขี้เกียจจะคิดมาก หรืออยากทำอะไรให้มันมากความ

     

                      เลยตามเลยครับ เรื่องบางอย่าง รอให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม เดี๋ยวมันก็คงจะสามารถแก้ไขแล้วผ่านไปได้เองนั่นล่ะ

                      นี่มันก็เป็นนิสัยเสียของผมอีกอย่างไอ้เรื่องแบบนี้ล่ะชอบปล่อยให้เวลาแก้ไข ไม่ค่อยชอบแก้ด้วยตัวเองเท่าไหร่ เออครับ ยอมรับว่าผมนิสัยเสียมากเลยล่ะ

     

                      ตกลงว่าที่เล่า ที่อธิบายย้อนไปถึงเรื่องโง่งี่เง่า (ของผู้ชายโคตรหล่ออย่างผม) มันช่วยอะไรขึ้นมาได้บ้างไหมครับ หรือว่ามันดูน่าด่ามากกว่าเดิม คือ…  ผมก็ยังดูเป็นพวกไม่เอาไหนจริงป่ะ ยังไม่ค่อยคิดมากอยู่ดี ก็ครับ ผมแค่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ในมุมมองของผมบ้างเท่านั้นเอง

                      แล้วถ้าถามว่าผมอยากจะแก้ไขเรื่องเข้าใจผิด อยากอธิบายเรื่องจริงให้พวกนั้นได้ฟังบ้างไหม บางวันถ้าว่าง ๆ ผมก็เคยนั่งคิดนะ ว่าอยากจะทำเหมือนกัน แต่พอนั่งไปสักพัก ถ้ามีเรื่องอื่นให้ทำเมื่อไหร่ ก็ลืมไปหมดเลยว่าอยากจะคุยกับพวกนั้นให้รู้เรื่องไปซะ

                      สรุปง่าย ๆ ว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากรอเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ เท่านั้นล่ะครับ

     

                      แล้วก็

                      เรื่องของน้องแบมแบมอันที่จริงเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมอยากกวนตีนมาร์คเหมือนกันครับ คือตอนแรกที่ผมเจอน้อง วันนั้นมันคือเรื่องบังเอิญเท่านั้นจริง ๆ นะ คนชื่อซอกจินคนนี้ชอบเข้าไปที่โรงเรียนสาธิตในเครือมหาลัยครับ เป้าหมายคือเดินไปเล่นบาส ส่วนเป้าหมายรองก็แอบไปส่องเด็กบ้าง เรื่องปกติครับ ใคร ๆ ก็ทำกัน นั่นล่ะครับ แล้วก็ดันไปบังเอิญเจอเด็กผู้ชายท่าทางน่าเอ็นดูกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ไม่มองทาง เลยลองเข้าไปแกล้งทักสักหน่อย

                      แล้วโลกมันก็มีอยู่แค่นั้น กลายเป็นว่าเด็กน้อยดันรู้จักกับมาร์คซะอย่างนั้นเลยอ่ะครับ

                      แล้วผมแม่งก็เป็นคนกวนตีนที่แก้นิสัย (หรือาจจะเป็นบางอย่างที่คุณรู้ดีว่าเรียกว่าอะไร) ไม่ได้ ผมก็เลยกวนตีนด้วยการทำเป็นสนใจเด็กคนนี้มากกว่าเดิม

     

                      เออ ยอมรับก็ได้ว่าแกล้งคนเป็นน้องไปอย่างนั้น ผมไม่ได้ชอบหรือว่าอยากจะทำความรู้จักแบมแบมจริงจังหรอกครับ แล้วก็พอจะดูออกแล้วล่ะ ว่ายังไงมาร์คกับเด็กคนนี้ คงจะไม่ได้จบลงด้วยการเป็นพี่น้องธรรมดา ๆ หรอก ผมไม่ได้อวดฉลาดนะ แต่ลักษณะท่าทางแล้วน่ะ มันจะต้องมีอะไรมากเกินกว่านั้นแน่ ๆ ล่ะ

     

                      แบบนี้มันก็ยิ่งน่ากวนเข้าไปใหญ่ขอโทษจริง ๆ ที่ผมหยุดความขี้แกล้งและกวนตีนของตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลย

                      แต่ผมคอยสังเกต แล้วก็แอบช่วยอยู่ตลอดเวลานะ อย่างน้อยก็เอาใจช่วยล่ะน่า ถึงเวลาเจอแล้วติดจะกวนโมโหพวกมาร์ค (จนเกือบจะโดนชกหน้าอยู่หลายรอบ) แต่มันก็เป็นแค่เรื่องสนุก ๆ เท่านั้น

     

                      จะบอกความลับให้นะครับ ผมคิดไว้อยู่เสมอเลยล่ะ ถ้าหากวันไหนเด็กพวกนั้นเกิดปัญหา ต่อให้มันจะยากหรือลำบากมากแค่ไหน หรือคนทั้งโลกจะไม่สนใจใยดีพวกมัน ให้ทุกคนจดจำเอาไว้ได้เลย คิมซอกจินผู้ชายที่มีดีแต่หน้าตาคนนี้นี่แหละ ที่จะช่วยพวกมันเองครับ

     

                      ส่วนตอนนี้ให้พวกมันเกลียดผม แล้วก็เข้าใจผิดอย่างนี้ไปก่อนดีกว่า ผมเองก็สนุกกับชีวิตที่ได้ใช้ไปเรื่อยเปื่อยอยู่เหมือนกันล่ะครับ

                      หวังว่ามันจะไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ล่ะนะ

     

                      อย่างน้อยถ้าเบซูจีจะไม่กลับมา มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งนั่นล่ะ

                      อย่างน้อยถ้าผมห้ามใจไม่ให้ช่วยเหลือแบบผิด ๆ ได้ก็คงจะดี

     

                      อย่างน้อยแค่ให้ผมได้มองพวกมันเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ก็ไม่เลวนักหรอกนะครับ

     

                      งั้นจนถึงตอนนี้ นอกจากหน้าตาแล้ว ผมพอจะมีดีมากขึ้นหรือยัง?

                      เก็บคำตอบของพวกคุณไว้ในใจก็ได้นะครับ เพราะผมบอกแล้วว่าเรื่องพวกนี้ ผมก็แค่อยากลองเล่าให้ฟังในมุมของผมเท่านั้น

     

                      แล้วเจอกันใหม่ในวันที่ฟ้าสดใสนะครับ!

     

    END OF HIS PART!

     

     

    SPECIAL WITH FLOWER BOY

    Kim Yugyum

    หนุ่มดอกไม้ที่ไม่ได้เริ่มต้นก็ไปหลงรักคนมีเจ้าของเข้าซะแล้ว

     

                             

                              เคยได้ยินชื่อคิมยูกยอมกันมาก่อนบ้างไหมครับ?

                              ถ้าหากว่าไม่เคยได้ยินหรืออาจจะจำผมไม่ได้ วันนี้ผมขอแนะนำตัวสั้น ๆ แล้วก็ให้ทุกคนรู้จักผมให้มากกว่านี้กันดีกว่านะ

     

                              ผมชื่อยูกยอม สกุลคิมครับ

                              ปีนี้อายุเข้า 17 ปี ที่จริงแล้วจะต้องเข้าเรียนม.ปลายปีหนึ่งแล้ว แต่ว่าเมื่อปีก่อนผมสอบเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้ ประเทศญี่ปุ่นจึงได้รับเด็กผู้ชายมึน ๆ อย่างผมเข้าไปนั่งเรียนด้วยอยู่หนึ่งปีเต็ม ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนนี้ ยูกยอมถึงได้มีเวลาเดินเตร่ไปมาอยู่โดยไม่ต้องกังวลใจอะไร

     

                              ลูกพี่ลูกน้องของผมมีคอนโดอยู่ที่ใจกลางเมืองครับ ตามปกติผมก็อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนม.ต้นในโรงเรียนชื่อดังแล้ว เพราะคอนโดของพี่แทคยอน (หรืออ๊คแทคยอน พี่ชายผู้ยิ่งใหญ่ที่แหกกฏคอนโดด้วยการเลี้ยง และอาจจะเพราะพันธุ์แมวเอาไว้ อย่างไม่คิดเกรงกลัวใคร) สะดวกสบายกับการเดินทางมากกว่าเยอะ จะให้ผมไปกลับบ้านจากชานเมืองทุกวันมันก็คงไม่ใช่เรื่องใช่ไหมล่ะครับ

                              ดังนั้นเมื่อผมกลับมาจากญี่ปุ่น ผมก็เลยรีบตรงดิ่งจากสนามบินกิมโพ มาทิ้งตัวลงนั่งเล่นนอนเล่นที่ห้องนี้กว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่ผมบอกพ่อแม่แล้วนะว่ามาอยู่ที่นี่ แน่นอนครับว่าพวกท่านเป็นฝ่ายขับรถเข้ามาหา พวกเราไปทานข้าวกันตามประสาครอบครัว เห็นไหมล่ะครับว่ายูกยอมไม่ได้เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ

                             

                              ก็แค่คิดว่าอยู่คอนโดแล้วมันสบายใจดีก็เท่านั้น นอกจากจะมีแมวมาป่วนให้ปวดหัวบ้าง ที่เหลือก็นับว่าดีจนถึงขั้นดีมากเลยทีเดียว

     

                              แล้วคิมยูกยอมก็เพิ่งจะค้นพบว่ามีสิ่งที่ดีมาก ๆ (และอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาพอใจแมวของพี่แทคยอน) คือการได้พบกับเด็กผู้ชาย ที่คาดว่าคงรุ่นราวคราวเดียวกับตัวผม กำลังยืนเล่นกับแมวบ้า ๆ ที่ชอบทำให้ผมปวดประสาทอยู่ทุกวัน

                              ยกความดีความชอบให้วันนึงแล้วกันนะไอ้แมวเหมียว

     

                              ผมวิ่งเข้าไปตามหาเจ้าแมวตัวนั้นด้วยความตั้งใจ แอบยิ้มออกมานิดหน่อยเมื่อเห็นว่าคนน่ารักสะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อผมวิ่งเข้าไปหา

                              แบมแบม หลังจากที่พวกเราเริ่มต้นบทสนทนาได้ไม่นาน ผมก็ได้รู้ว่าเพื่อนบ้าน (หรือผมต้องเรียกว่าเพื่อนร่วมคอนโดกันนะ) ของผมคนนี้ มีชื่อว่าแบมแบม พวกเราอายุเท่ากัน แล้วก็เหมือนจะโชคเข้าข้างผมมากกว่านั้น เพราะโรงเรียนที่แบมแบมเรียน คือโรงเรียนอันเป็นที่รักยิ่งของผมเอง น่าเจ็บใจที่ต้องเข้าเรียนช้าไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะยังไงปีหน้าพวกเราก็ต้องเจอกันอยู่ดี

                              ถึงจะเป็นรุ่นน้องไปปีนึง แต่ยังไงผมก็มีเพื่อนที่อยู่ปีสองมาพอ อย่างน้อยก็มากพอที่จะพยายามหาทางเข้าหาแบมแบมล่ะนะ

     

                              ทว่าอีกไม่กี่นาทีต่อมา คิมยูกยอมรู้แล้วว่าปัญหาที่น่าหนักใจของเขาคืออะไร เรื่องการเรียน การเข้าหา ความใกล้ชิด หรืออะไรก็ตามที่เขาคิดเอาไว้ ในเวลานี้มันไม่น่ากลัวเท่ากับว่า

     

                              แบมแบมดูเหมือนจะเป็นคนสำคัญของพี่มาร์ค

                              ให้ตายสิครับ ผมยังไม่ทันจะได้เริ่มรุกเข้าหาแบมแบมเลยนะ ทำไมเหมือนจะเดินเจอทางตันเข้าจัง ๆ เลยล่ะ ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอกครับ แต่หลังจากที่พี่มาร์คบอกให้แบมแบมรีบกลับห้องไป แถมยังมองผมด้วยสายตาติดใจไม่พอใจแบบนั้น

     

                              ต่อให้เป็นเด็กอนุบาลสาม ผมว่ายังดูออกเลยล่ะว่าพี่มาร์คโคตรหวง แล้วก็กำลังไม่ชอบใจที่ผมดูสนใจแบมแบมมากกว่าที่ควร

                              ก็แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ในเมื่อแบมแบมน่ารักมากจริง ๆ นี่นา…

     

                              คิมยูกยอมยังไม่ยอมยกธงขาวในตอนแรก เขาหยอดมาร์คไปอีกนิดหน่อยเรื่องเกี่ยวกับแบมแบม แล้วก็ได้รับท่าทางแสดงออกอย่างแจ่มแจ้ง ว่าพี่ชายคนเย็นชานั้นทั้งรักทั้งหวงแบมแบมมากแค่ไหน

                              โอเค จัดได้ว่าพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่พ้นหน้าประตู

     

                              จะบอกว่าแปลกใจมาก ๆ จะเป็นอะไรไหมครับ ตั้งแต่เคยเห็นพี่มาร์คมา (แน่นอนว่าก่อนไปญี่ปุ่น พวกผมรู้จักกัน แล้วก็เคยทักทายกันอยู่บ้าง) เคยมีผู้หญิงแค่คนเดียวเท่านั้นที่พี่มาร์คดูจะสนใจมาก แต่ผมก็เคยเจอแค่ผ่าน ๆ อ่ะครับ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมายุ่งกับพี่เขาอีก นอกจากพวกเพื่อน ๆ ที่มักจะพกความเสียงดังและโวยวายมาด้วยทุกครั้ง

     

                              จริง ๆ แล้วยูกยอมอยากจะมีหวังต่อไปนะ แต่ว่าถ้าต้องเสี่ยงกับการทำให้โดนด่าว่าตีท้ายครัวชาวบ้าน บางทีเขาควรจะหาอะไรที่เหมาะสมกับเขามากกว่า ถึงแบมแบมจะน่ารัก แล้วก็ชวนให้เข้าหามากก็จริง แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ผมเองก็มีสาว ๆ เข้ามารุมล้อมไม่น้อยเหมือนกันล่ะน่า

     

                              น่าเสียดายที่ตัวผมเจอกับแบมแบมช้าไปหน่อย แต่ถ้าหากว่าคู่แข่งของผมคือพี่มาร์ค การยกธงขาวแล้วเดินไปทางอื่นแบบหล่อ ๆ มันก็คงจะเข้าท่ากว่า

     

                              อย่าลืมให้กำลังใจผม แล้วก็ช่วยขอให้ผมเจอคนน่ารัก ๆ แบบแบมแบมอีกสักคนนะครับ อย่างน้อยก็ทำให้หัวใจของผมกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้ก็ยังดี อ่า ให้ตายสิ กระชุมกระชวยงั้นเหรอ ทำไมผมถึงได้ใช้คำพวกนี้กันนะ มันดูเงอะงะแล้วก็โบราณสิ้นดีเลย

     

                              คิมยูกยอมจะรอเนื้อคู่ที่คงจะอยู่สถานีต่อไปแล้วกันนะครับ

                              ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่หรอกกับเรื่องนี้ ที่จริงก็แค่สนุก ๆ กับชีวิตวัยรุ่นเท่านั้นเอง

     

                              เอาล่ะครับ เรื่องเล่าสั้น ๆ ที่เกี่ยวกับตัวผม เพื่อนบ้าน แล้วก็พี่ชายข้างบ้านพอจะมีสาระ หรือทำให้ทุกคนรู้จักผมมากขึ้นหรือเปล่า?

                              ไม่งั้นเหรอครับ?

                              เอาน่า ตัวผมไม่ได้ลึกลับซับซ้อน เดาไม่ยากหรอกครับว่าเป็นคนยังไง ยูกยอมคิดแบบไหนก็แสดงออกแบบนั้น อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากก็ไม่ทำ อะไรที่ผิดศีลธรรมก็หลีกเลี่ยงถอยห่างออกมา

     

                              ง่าย ๆ สบาย ๆ สไตล์คิมยูกยอมน่ะครับ

     

                              แค่นี้พอจะจำกัดความ ความเป็นตัวผมได้หรือยัง?

                              ถ้าหากว่ายังผมคิดว่าอีกไม่นานพวกเราคงได้รู้จักกันมากกว่านี้แน่นอนครับ

     

    END SPECIAL PART

     

    See yah! Next season

    Pretty Pretty boy!

    #ฟิคพี่มาร์คของน้องแบม

     

     

    อย่าลืมติดตามสนับสนุนภาคต่อกันนะคะ!

    coming soon!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×