ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #23 : [100% with littleJ!] Special with jackson&bambam brother

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.2K
      11
      22 ส.ค. 57

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

     

     

    .

    .

    .

     

     

    “ป๊าาาาาา ทำไมอาทิตย์นี้จะไปเที่ยวไทยไม่บอกผมก่อนล่วงหน้าอ้ะ นี่นัดกะเพื่อนจะวิ่งเล่นสนามหน้าบ้าน(?) มันเสียนัดผมอ้ะ!” เด็กหนุ่มตัวน้อย(?)วัยแปดปีที่กำลังตีหน้ายุ่งกับบุพการีออกปากโวยวาย เพราะนัดสำคัญของเด็กชายหวังแจคสัน  ที่เจ้าตัวตกปากรับคำกับเพื่อนข้างบ้านเอาไว้กำลังจะพังทลายเอาง่าย ๆ เพราะการเดินทางไปประเทศไทยของครอบครัว

     

    ก็แจคสันหวังชอบเล่นสนามหน้าบ้านมากกว่านี่ นาน ๆ ทีจะได้เล่นนะ! เล่นได้ทุกวันที่ไหนเล่า

     

    “แล้วจะไม่ไป?” คุณหวังเหล่ตามองลูกชายตัวแสบ ทำไมจะไม่รู้ว่าที่ลูกคนนี้ตีหน้านิ่วคิ้วขมวดมันเป็นเพราะอะไร เลี้ยงเจ้าลิงขี้โวยวายนี่มาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย หนำซ้ำยังเป็นคนคอยดูแลทุกเรื่องของลูกชายอีกต่างหาก นั่นทำให้เขารู้ดีว่าการที่เด็กวัยแปดปีลูกชายของเขาหวงแหนวันหยุดสุดสัปดาห์มากมันเป็นเพราะอะไร

    หวังแจคสันต้องฝึกซ้อมกีฬาฟันดาบเกือบทุกวันในช่วงเย็น หรือถ้าไม่ได้ทำกิจกรรมเตรียมตัวเป็นนักกีฬาเช่นนั้น เขาก็มีความจำเป็นต้องจับเจ้าลิงนี่ไปเรียนภาษาอื่น ๆ เพิ่มอยู่ดี

     

    เพื่ออนาคตของเจ้าเด็กนี่นั่นแหละน่า คนเป็นพ่อจะไปต้องการอะไรมากกว่านี้ล่ะ

     

    “ไปดิป๊า จะทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวละป๊าไปสวีทกับหม่าม๊าเหรอ ไม่ มี ทาง!” หวังรุ่นเล็กกอดอกมองหวังรุ่นพ่อเขม็ง อันที่จริงก็แกล้งโวยวายไปอย่างนั้น รู้อยู่หรอกว่าได้ไปเที่ยวกับครอบครัวมันต้องสนุกแน่อยู่แล้ว แต่แบบรู้ใช่ไหมว่าเด็ก ๆ ก็ติดเพื่อนแล้วก็อยากจะทำทุกอย่างตามใจ

    “ไม่อยากมีน้องหรือไงไอ้หนู”

    “พูดยังกะจะมีให้ เห๊อะะะ ไม่เชื่อหรอกลุง!” ว่าไปนั่น ซ้ำยังไม่ได้พูดเปล่า ท่าทางชวนกวนอารมณ์นี่ส่อเค้าแววเยอะสิ่งมาตั้งแต่เด็กแสดงให้เห็นชัดเจน ไม่ต้องแปลกใจกับสถานการณ์ไม่รู้จักเด็กผู้ใหญ่เช่นนี้ เพราะนี่คือเรื่องปกติที่ครอบครัวหวังจะปฏิบัติต่อกัน ภาพของชายตระกูลหวังสองรุ่นจ้องหน้า (หวังรุ่นเล็กนั้นเพิ่มความเปรี้ยวใจด้วยการกอดอกแน่น ๆ ท้าทายไปด้วย) ส่วนคุณหวังที่ใครต่อใครคิดว่าน่าเคารพเกรงขาม แน่นอนว่าพวกเขาก็ควรจะรู้ดีเช่นกันว่าชายวัยกลางคนอดีตนักกีฬาคนนี้ มีดีกรีความกวนแค่ไหน

     

    สรุปได้ง่าย ๆ ว่าถ้าคุณนายหวังไม่เดินเข้ามาเอ่ยปากทักทั้งสามีและลูกชาย คงได้เห็นคนตระกูลหวัง (อันประกอบด้วยหวังตัวจ้อย และคุณหวังที่กำลังนั่งยักคิ้วให้ลูกชายอย่างไม่หยุดยั้ง) ไม่ต้องไปฟังที่ไหนเลยว่าหวังแจคสันจะโตมาเหมือนใคร

     

    จัดได้ว่าสายคุณหวังมาแรงได้ใจจริง ๆ

     

    “จะจ้องหน้ากันอีกนานไหมสองคนพ่อลูก ไปนั่งในห้องอาหารได้แล้ว ถ้ายังเล่นกันไม่เลิกม๊าจะไปเก็บโต๊ะแล้วนะ” คุณนายหวังพูดเสียงเรียบ ๆ พลางส่ายหน้ากับความไม่รู้จักโตของสามีสุดที่รัก รวมไปถึงเจ้าลูกชายจอมดื้อที่นับวันยิ่งเหมือนพ่อเข้าไปทุกวัน เหมือนยังไงน่ะหรือ?

     

    เหมือนจะมีสาระ แต่ว่าไม่ค่อยจะมีทั้งคู่เลยน่ะสิ แต่ที่เธอคิดแบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่ชอบนะ ตรงกันข้าม บางทีเธออาจจะชอบมากที่ครอบครัวของพวกเราเป็นแบบนี้ต่างหาก…

     

    “กินนนนน ไปกินข้าววววว ลุงเลิกจ้องผมได้ละ รู้แล้วน่าว่าผมอ่ะหล่อมาก ฮิฮิ”

    “หล่อเหมือนใคร” คุณหวังแกล้งถาม

    “เหมือนแม่” เด็กชายหวังตอบหน้าตาย สุดท้ายพอถูกกำปั้นเล็ก ๆ จากคุณพ่อตัวอย่าง เจ้าตัวป่วนก็รีบวิ่งปรู๊ดเข้าไปหามารดาด้วยความว่องไว

    ถามว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่น่าฟ้องหรือไม่ ก็ตอบกันไปตรง ๆ ว่ามันเป็นเรื่องประติ๋วที่ไม่ควรเอาไปฟ้องสักนิด

    “ม๊า! ผมบอกหล่อเหมือนม๊าละผิดตรงไหนอ่ะ ม๊าสวยไงผมเลยได้เชื้อมาเต็ม ๆ เลยหล่อได้ใจ(?)แบบนี้ หูย ดูลุงดิ ทำรับไม่ได้”

    “เดี๋ยวเหอะไอ้หนู เดี๋ยวได้มีน้องแล้วถูกป๊ากับม๊าเมินแน่ ๆ” คุณหวังแกล้งว่า

    “ม๊าาาา ดูเดะ ป๊าบอกจะมีน้องอีกละ ม๊ายืนยันเร็วว่าไม่มีหรอก ดูแลผมคนเดียวก็พอนะ ก็ม๊าบอกผมตลอดเวลาว่ามีแค่ผมเป็นลูกชายคนเดียวก็เหนื๊อยเหนื่อยจะแย่ละ” เด็กน้อยว่า ไม่วายถูศีรษะกลม ๆ กับต้นแขนของมารดาอย่างออดอ้อน

    เรียกได้ว่าภูมิใจกับความเป็นตัววุ่นวายของตนเอง นี่สิหวังแจคสัน

     

    ทว่าคำพูดของคุณนายหวังที่ติดจะขบขันนั้นหยุดโลกของเด็กชาย แน่ล่ะ สิ่งที่ได้ยินน่ะถ้าเป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นจริงไหม ไม่สิ ไม่ ถึงคนอื่นจะไม่ตกใจหรือคิดอะไรก็เถอะ แต่แจคจะไม่ยอมนะครับ!

     

    “ที่จริงม๊าก็กำลังจะบอกลูกเนี่ยล่ะ เดี๋ยวอีกไม่นานลูกคงได้มีน้องมาให้ดูแลอยู่หรอกนะ แจคสันจะเป็นพี่ชายคนแล้วสิเนี่ย”

     

    ม่ายอาวน้าาาาาาาาาา

     

    -30%-

     

    เด็กชายแจคสันไม่เคยเหยียบย่างเยื้องกรายเข้าประเทศไทยมาก่อนเลย ก็ตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลกได้แปดปีนั่นล่ะนะ ให้ตายสิ แปดปีนี่มันนานมาเลยใช่ไหมล่ะ

    “ไอ้ลูกลิง ยืนทำอะไรอยู่นั่นน่ะ รีบเดินมายกกระเป๋าของเราไปสิเจ้าแจคสัน จะให้ป๊าแบกเป้อันปังแมนของแกลงไปด้วยหรือยังไง” คุณหวังบ่น เพราะเจ้าลูกชายตัวแสบวัยแปดปีไม่ยอมเลิกยืนเหม่อลอยเสียที ไหนจะทำท่าหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นอีก

    ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าหวังแจคสันไปเอานิสัยทำตัวเยอะแบบนี้มาจากไหน เขาชูสามนิ้วได้เลยนะว่าไม่รู้เลยจริง ๆ (พวกคุณไม่เห็นใช่ไหมว่ามือที่หลังของผมไขว้กันอยู่)

    “ป๊ากล้าหิ้วไปป่ะล่าาาา ผมจะไปหาม๊าละ ตื่นเต้นจังมาประเทศไทยเนี่ย ไม่เคยมาเลยนะ ถือว่าดีกว่าการเล่นที่สนามหน้าบ้านล่ะเนาะ” ว่าจบ เจ้าเด็กน้อยก็รีบวิ่งดุ๊ก ๆ ไปหาคุณแม่ยังสาว ทิ้งให้คุณหวังส่ายหน้าขำ ๆ ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเดินตามลูกชายไปด้านนอก

    ประเทศไทยสำคัญกับผมมากแค่ไหนเหรอครับ อันที่จริงก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพียงแต่เพื่อนสนิทของผมตั้งรกรากอยู่ที่นี่ แล้วช่วงนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร เลยขอแวะมาเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของผมสักหน่อย ถือเป็นการพาครอบครัวมาพักผ่อนไปด้วยในตัว อันที่จริงมีเหตุผลอีกอย่างคืออยากจะเห็นหน้าหลานชาย ที่เพื่อเขาพยายามคุยโวนักหนา ว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ มันต้องมาดูหน้าหลานด้วยตัวเองสิ ถึงจะเรียกว่าคนตระกูลหวังตัวจริง

     

    รับขวัญหลานด้วยการยกให้ลูกชายตัวป่วนของเขาเป็นพี่ชายไปอีกคน มันก็คงเข้าท่าอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ

     

    .

    .

     

    หวังแจ็คสันคิดว่าเขาจะได้พักในโรงแรมที่มีสระน้ำใหญ่ ๆ เหมือนเมื่อตอนที่เขาได้ไปเที่ยวที่ประเทศอื่น ๆ หรืออย่างน้อยก็ควรจะเป็นรีสอร์ท โฮมสเตย์ หรืออะไรสักอย่างที่ไม่ใช่บ้านไม้ทรงประหลาดไม่คุ้นตาเขาแบบนี้

                      เอาจริง ๆ นะ ขอเอาใบหน้าที่หล่อตั้งแต่เด็กของแจ๊คสันเป็นเดิมพัน บ้านหลังนี้น่ากลัวชะมัด บางทีอาจจะมีสิ่งมีชีวิตลี้ลับอยู่ก็ได้เถอะ!

                      “แจ็คสัน! จะยืนทำหน้านิ่วอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมลูก มาหาคุณป้าได้แล้ว” แจ็คสันหันตามเสียงเรียก ได้ยินคนที่แม่ของเขาเรียกแทนว่า คุณป้า บ่นขึ้นมาว่ายังไม่ได้อายุมากขนาดนั้น แต่เอาเถอะ แจ็คสันเห็นด้วยนะ เพราะใบหน้าของคน ๆ นั้นก็ยังดูสาวมากเกินกว่าแจ็คสันคนนี้จะทำใจเรียกป้าได้เลยล่ะ

     

                      “โตเป็นหนุ่มแล้วนะเนี่ย” หญิงวัยกลางคนว่า เล่นเอาหนุ่มน้อยยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแทบไม่ทัน “เห็นตั้งแต่ยังพูดอ้อแอ้อยู่ด้วยซ้ำ ดูสิ ตอนนี้ส่อเค้าหล่อไม่แพ้พ่อซะแล้ว”

                      “หล่อกว่าพ่อต่างหากครับคุณน้า!” รีบตอบกลับทันทีทันใด แน่สิ หวังแจ็คสันมีความมั่นใจไม่แพ้ใครในโลกนี้อยู่แล้ว

                      “หยุดโม้ได้ละไอ้หนู เดี๋ยวเหอะเจ้านี่” คุณหวังแกล้งปราม ทิ้งกำปั้นลงไปบนศีรษะของจอมมโมนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนสนิทเชื้อสายไทยว่าพวกเขาอยากจะพัก นอนเล่นนั่งเล่นขึ้นมาบ้างแล้ว

                      “ไปสิ  ฉันก็ลืมไปเลย ห้องพักเตรียมไว้ให้เรียบร้อยนะ เรือนด้านหลังบ้าน แจ็คสัน อยากจะลองลงไปเล่นน้ำคลองดูบ้างไหมลูก”

                      คลอง…?

                      อะไรคือคลองอ้ะ?

                      “ค้ะล้องนี่คืออะไรอ้ะครับคุณน้า” ค้ะล้อง? บางทีเพื่อนสนิทของคุณหวังอย่างคุณเหมยจิง (หรือคุณน้าหลินที่แจ็คสันเรียกในภายหลัง) อาจจะงงงันหรืออยากขำออกมามากกว่า “ค้ะล้องนี่ลงไปเล่นแล้วสนุกใช่ไหม งั้นไปเล่นตอนนี้เลยนะครับ ผมอยากซาหนุกกกกก”

                      หวังแจ็คสันเกือบจะพุ่งตัวไปด้านหน้าทั้งที่ไม่รู้ว่า ค้ะล้องที่ว่านั้นมีความหมายแท้จริงว่าอะไร เด็กน้อย(ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่) รู้เพียงแค่ว่าอยากจะไปหาความสนุกทดแทนที่อดเล่นสนามหน้าบ้านกับบรรดาเพื่อนเท่านั้น (แจ็คสันอาจจะไม่คิดอะไรไปมากกว่าสนุกอีกแล้ว อย่างน้อยก็ในช่วงวัยเด็กเช่นนี้)

                      “หยุดเลยเจ้าแจ็คสัน” คุณหวังล็อคคอลูกชายที่กำลังจะก้าวเท้าไปอย่างไวว่อง “คุณจับเจ้าลูกชายไปอาบน้ำนอนพักก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นได้วิ่งวุ่นทำบ้านเหมยจิงพังก่อนใครแน่ ๆ ล่ะ”

     

    .

    .

     

                      สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ขาสั้น ๆ ที่กำลังยืนตาแป๋วอยู่หน้าหวังแจ็คสัน

                      “น่ารักจริง ๆ อย่างที่เธอชอบคุยไว้เลยนะ น้องแบมแบมของป้าเนี่ย อยากเจอมานานแล้ว ไหนเดินมาหาให้คุณป้าอุ้มหน่อยสิครับ” คุณนายหวังว่า เธอยิ้มเอ็นดูให้กับเด็กน้อย (ที่เป็นสิ่งมีชีวิตกลมป๊อกในสายตาของหวังแจ็คสัน) รวมทั้งอ้าแขนออกกว้างเป็นการต้อนรับเด็กน้อยให้เข้ามาหาตนเอง

                      ชิชิ แค่เด็กสามขวบหน้าตาบ้องแบ๊ว แล้วก็ยิ้มแก้มตุ่ยคนเดียว ทำไมถึงต้องชมขนาดนั้นด้วยนะ! แจ็คสันก็น่ารัก (แถมยังหล่อมากอีกต่างหาก) ทำไมม๊าของเขาถึงได้สนใจเจ้าหนูนี่มากกว่าเล่า! (เอาจริง ๆ นะ แบบนี้เรียกว่าเด็กขี้อิจฉาใช่ไหม แต่ไม่สนใจหรอก! ในเมื่อเขาก็อิจฉาเจ้าก้อนกลมนี่จริง ๆ นั่นล่ะ)

                      “น้องแบมแบมน่าจะเด็กกว่าแจ็คสันสี่ห้าปีได้” น้าหลินสุดแสนใจดีของแจ็คสันว่า ส่วนเจ้าเด็กน้อยวัยสามขวบที่ยังดูจะพูดได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก (แต่ก็พูดมากอยู่พอตัว นี่ไม่ได้เป็นการคิดมากเกินไปนะ แจ็คสันคิดว่าน้องคนนี้พูดมากจริง ๆ เถอะ!) กำลังเดินเตาะแตก หัวเราะตาหยีเข้าไปหาคุณม๊าของเขาที่เอาแต่หัวเราะชอบใจ

                      เชอะ! ไปตามลุงมาเล่นด้วยกันเลยไป แจ็คสันงอน!

                      (คิดเองเออเองก็เป็นกับเขาด้วยนะ)

                      “แบมแบม รู้จักพี่แจ็คสันแล้วหรือยังครับ?” คุณนายหวังแกล้งถาม ชี้นิ้วให้เด็กน้อยมองตามไปทางพี่ชายแห่งเกาะฮ่องกง(?)อย่างแจ็คสันหวัง ที่ยังยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจอยู่อีกฝั่งของห้องนั่งเล่น

                      ทว่าอย่าให้หล่อนได้แซวเชียวล่ะ ทำไมจะไม่เห็นว่าตาของเจ้าลูกชาย มองมาทางน้องแบมแบมกับเธอตลอดเวลา อยากเล่นด้วยอยู่แล้วล่ะเจ้าเด็กคนนี้

                      “ม่ายฮับ ไม่ยู้จักเลย” แบมแบมตัวน้อยว่า เด็กชายวัยเพียงสามขวบ เจ้าของดวงตาใสแป๋ว ไหนจะแก้มกลม ๆ ยุ้ย ๆ ที่น่าหมั่นเขี้ยวจนอยากจะเดินเข้าไปหยิกให้ช้ำเสียจนรู้แล้วรู้รอดนั่นอีก

                      ย๊ากกกกกกก หวังแจ็คสันหมั่นเขี้ยวเด็กที่ชื่อน้องแบมแบมมาก แต่ก็ต้องทำเป็นอดทนไม่สนใจ ไม่ได้ จะเสียหน้าว่าอยากเล่นกับน้องต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้ เสียเซล์ฟหมด หวังกำลังงอน!

     

                      “ฉันส่งเจ้าคุณไปเรียนประจำตั้งแต่ขึ้นชั้นประถม นาน ๆ ทีจะได้กลับมาเล่นกับน้องบ้าง ส่วนเจ้าแบมก็ติดพี่ชายอย่างกับอะไร พอช่วงไหนพี่กลับก็ร่าเริงผิดหูผิดตา” คุณหลินว่า “แต่พอช่วงวันแรก ๆ ที่เจ้าคุณต้องกลับโรงเรียนล่ะก็นะ กลายเป็นเด็กขี้เหงาไปเชียวล่ะ ฮะ ๆ”

                      หวาแจ็คสันเข้าใจความรู้สึกเบื่อหน่ายของการต้องอยู่คนเดียวนะ แน่ล่ะ เป็นลูกคนเดียวมาตั้งแปดปีนี่นา จะชมว่าเขาเก่งกว่าน้องแบมแบมก็ไม่ผิดหรอกนะ! แต่ถ้าถามว่าแจ็คสันเบื่อ หรือว่าคิดอยากจะลองมีน้องบ้างไหม

                      ถึงจะตอบม๊าไปว่าไม่อยากเรียนก็เถอะนะ อันที่จริงแล้วแจ็คสันก็อยากจะมีน้องชายหรือว่าพี่น้องมาอยู่ด้วยกัน เล่นด้วยกัน หรือว่าไปโรงเรียนด้วยกันนั่นแหละ ถึงจะเคยชินกับการเป็นลูกคนเดียว แถมป๊ากับม๊ายังสนิทด้วยมากขนาดนี้ แต่ลึก ๆ ก็ยังอยากมีพี่น้องที่จะเป็นเพื่อนกันได้ตลอดเวลาอยู่ดี

     

                      เอ้า ไม่ต้องมามองจับผิดแจ็คสันคนนี้แบบนั้นเลยนะ! ชิ ยอมรับก็ได้ว่าที่จริงถูกชะตากับน้องแบมแบมนี่ไม่น้อยหรอก อยากจะเข้าไปเล่นด้วยจะตาย แต่ลูกผู้ชาย(?)อย่างแจ็คสัน ก็ต้องวางท่ากันเอาไว้ก่อนจริงไหม!

     

                      “พี่แจคสาน” เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นเรียกพี่ชาย(หมาด ๆ)ให้ออกจากภวังค์ ไม่จบเพียงเท่านั้น กำแพงที่เด็กชายหวังสู้อุตส่าห์พยายามสร้างขึ้นมา (ด้วยความหวังว่ามันจะดูเท่ห์ไม่เบา) ได้พังทลายลงพร้อม ๆ กับการที่น้องแบมแบมเดินมาจิ้มบนแก้มของหวังแจ็คสัน ตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสแบบนั้นอีก

     

                      โอเค แจ็คสันยอมแพ้ ยอมรับแล้วก็ได้ว่าตาใสใสของเด็กคนนี้นี่มันชวนให้เขาอยากมีน้องชายมากเหลือเกินล่ะ บอกได้เลย! ม๊าของเขาจะต้องแอบหัวเราะรู้ทันอยู่แน่ ๆ ชิ ก็แล้วทำไมต้องมาทำตาใสใส่ด้วยเล่า!

                      ก็ก็อย่ามาแซวนะ รู้ตัวอีกทีแจ็คสันหวังก็ถูกเด็กน้อยเดินเตาะแตะนำหน้า พาไปเล่นตรงนั้นตรงนี้วิ่งวุ่นทั่วบ้าน หนำซ้ำยังเกาะติดหนึบ วิ่งตามเล่นด้วยแจราวกับว่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันมาเสียอย่างนั้น

     

                      ช่วงหนึ่งที่หวังแจ็คสันและครอบครัวบินมาพักผ่อนที่ประเทศไทยบ่อยครั้ง และนั่นเป็นช่วงที่เด็กชายหวัง เจ้าของตำแหน่งนักกีฬาเยาวชนทีมชาติในตอนนั้น อารมณ์ดียิ่งกว่าใคร ๆ เวลาได้กลับมาหาน้องชายที่ชื่อว่าแบมแบม

                      ช่วงหนึ่งที่ครอบครัวภูวกุลมีลูกชายคนกลาง นามว่าหวังแจ็คสันที่เป็นเด็กหนุ่มชาวฮ่องกงไปด้วย

                      ช่วงหนึ่งที่เด็กชายกันต์พิมุกต์ได้ไปเที่ยวเกาะฮ่องกงติด ๆ กันเพราะเจ้าตัวอยากจะไปหาพี่แจ็คสันพร้อม ๆ กับอยากไปเที่ยวดิสนี่แลนด์กับพี่นิชคุณ

     

                      ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันมันไม่ได้มีเหตุการณ์ไหนที่ทำให้แจ็คสันหวังรู้สึกรักแบมแบมมากขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่ได้มีเหตุการณ์ไหนที่สร้างความพิเศษในความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเรา เพียงแต่ว่าช่วงเวลาที่ค่อย  ๆ ใช้ไปด้วยกันกับน้องชายตาแป๋ว มันค่อย ๆ เพิ่มพูนความผูกพัน จนกลายเป็นว่าวันหนึ่งแจ็คสันรู้แล้วว่าเขาทั้งรักแล้วก็เป็นห่วงน้องชายคนนี้มากแค่ไหน

     

                       ถึงแม้จะแสดงออกไม่เหมือนชาวบ้าน หนำซ้ำยังชอบแกล้งจนน้องชายคนนี้งอนไปซะบ่อยครั้ง แถมยังทำตัวน่าเตะด้วยการยกให้ภาระหน้าที่การดูแลแบมแบม ตกไปเป็นของมาร์ค ต้วนเพื่อนรักอีกต่างหาก

     

                      ด้วยตวามสัจจริงนะ ถ้าแจ็คสันหวังไม่ไว้ใจมาร์คมาก ๆ ก็ไม่มีทางเสียหรอกที่จะยอมให้น้องชายคนนี้ ไปใช้ชีวิตอยู่กับใครก็ไม่รู้น่ะ

     

                      โอเค แอบสารภาพหน่อยนึงก็ได้ จริง ๆ แล้วก็อยากให้ไอ้มาร์คเพื่อนรัก ได้ลองรู้จักแล้วก็เปิดใจกับอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง ถึงแม้มันจะเสี่ยงไปหน่อยก็เถอะ ในเมื่อเขาไม่รู้เลยนี่นา ว่ามาร์คจะรำคาญมากไหม จะเข้ากันได้หรือเปล่า หรือสุดท้ายจะกลายเป็นสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมา

     

                      แต่ก็นับว่าประสบความสำเร็จจริงไหม

     

                      “พี่แจ็คสัน!!!

                      อีกครั้งที่เสียงของน้องชายคนเดิมยังคงเรียกความสนใจจากแจ็คสันได้เสมอ

                      “พี่คุณบอกว่าเดี๋ยวจะมาหานะะะะะะ!!!

     

                      ครับแล้วผมบอกพวกคุณไปหรือยังครับ ผมรักน้องชายที่ชื่อว่าแบมแบม (น้องที่ได้รับมาเป็นน้องโดยที่ไม่รู้ตัว) คนนี้มาก และแน่นอนครับ อีกอย่างที่ผมได้รับมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน พี่ชายที่ผมทั้งเคารพ(มาก)และรักมาก

                      พี่ชายคนโตของพวกเราอย่างพี่คุณนะครับ

     

                      ไม่ต้องสืบให้เสียเวลา เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าเรื่องไอ้มาร์คกับน้องแบมแน่ ๆ ไม่ต้องสงสัย

     

                      ทุกคนอวยพรให้ผมโชคดี สามารถหาข้อแก้ตัวให้กับสารพัดเรื่องราวของผมด้วยนะครับ น้องแบมสมหวังกับพี่มาร์คของน้องไปแล้ว แน่นอนครับ ผม และแผนการเข้าหาน้องยองแจคนในอนาคตของผมก็ต้องสำเร็จนะครับ

                      นี่ผมต้องย้อนกลับไปยืนยันนะ ว่าหวังแจ็คสันคนนี้รักน้องแบมแบมมาก แต่แบบตอนนี้มีอีกคนที่จะมาใช้อนาคตร่วมกัน ก็เลยต้องเบนเป้าหมายนิดหน่อย นี่ไม่ใช่คนกลับกลอกนะครับ รับประกันได้

     

                      “แล้วตอนนี้พี่คุณอยู่ไหนล่ะแบม”

                      “สนามบินครับผม! เดี๋ยวแบมกับพี่มาร์คจะไปรับ เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะพี่แจ็คสัน พี่คุณบอกว่ามีเรื่องค้างคาต้องคุยกับพี่แจ็คสันเยอะเล้ย!

     

                      กล้ายืนยันกับพี่ไหมน้องแบม ว่าสายตาของน้องไม่ได้แอบขำพี่อยู่ น้องกล้ายืนยันไหม

                      อวยพรให้ผมโชคดีด้วยครับทุกคน

     

     

    To be continued …

    ความในใจของพี่ชาย special part of nichkhun

     

     

     

                      เรียบ ๆ ง่าย ๆ สไตล์พี่แจ็คน้องแบม(?)นะคะ เราทำเรื่องสั้นนี้ออกมา ก็เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความน่ารักและความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย ไม่ต้องหวือหวา แต่ว่าสามารถผูกพันกันได้แบบนี้เนาะ หวังว่าทุกคนจะชอบไม่มากก็น้อยน้า อย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ แล้วก็อย่าลืมติดต่อสเปเชียลพาร์ทตอนต่อไปของพี่คุณด้วยน้า (แอบกระซิบว่าหลังพี่คุณ คือสเปของพี่ซอกจินสุดหล่อ ผู้หายไปเงียบ ๆ พร้อมกับเรื่องน่าสงสัยหลายอย่าง ฮาาาา) และหลังจากนั้น คิดว่าเด็กพี่มาร์คภาคสองคงได้เริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ!

     

                      ปล.อย่าลืมร่วมสนุกลุ้นฟิคเด็กพี่มาร์คไปนอนกอดกันด้วยน้าาาา

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×