คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : markbam baby - 5
GOT 7 Fiction
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 5
***การดื่มของมึนเมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน แต่เราก็รู้ ๆ กันเนาะ ♥***
“เอ้า น้องแบมของพี่เฟย ชน~”
ตั้งแต่ปาร์ตี้เริ่มขึ้น จนกระทั่งถึงเวลานี้... อาจารย์เฟยผู้เป็นต้นแบบของเยาวชนพูดประโยคเดิม ๆ กับลูกศิษย์แก้มกลมที่ส่งตรงจากเมืองไทยซ้ำไปซ้ำมา ถ้านับจริง ๆ คงได้สักสิบรอบก็อาจจะเป็นไปได้
มาร์คได้แต่นั่งส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกผู้พี่อย่างเฟย ทั้งที่เธอเป็นคุณครูที่ปรึกษาของแบมแท้ ๆ แต่กลับชวนให้ลูกศิษย์ตัวเองมานั่งดื่มด้วยกันอยู่แบบนี้...
ทั้งที่แบมยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือจะว่ากันอย่างตรงไปตรงมา แบมแบมยังห่างไกลกับคำนั้นไปอยู่เยอะจนไม่น่าจะมานั่งอยู่ในพื้นที่ที่มีแต่ของมึนเมาแบบนี้เลย
“พี่เฟยสุดยอดไปเล้ย แบมสัญญาว่าจะเก็บเรื่องปาร์ตี้วันนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเรานะ คัมปาย~~~”
น้องแบมแบมในวัยย่างเข้า 17 ปีนั่งอยู่ใกล้ ๆ คณครูสาวสวย พร้อมด้วยแก้วกลมใสที่บรรจุแอลกอฮอล์เอาไว้เต็มกำลัง เด็กชายกันต์พิมุกต์ไม่ได้ดื่มเข้าไปเยอะเท่าไหร่ แต่อาการหน้าขึ้นปื้นแดงคงเป็นเพราะอากาศที่ร้อนผิดปกติมากกว่า แบมบอกว่ายังไม่เมาไง ยังไม่มึนเลยด้วยซ้ำอ้ะ!
แค่นี้นะ... จิ๊บ ๆ เท่านั้นเอง
พี่ชายแบมฝึกมาดี พี่ชายบอกว่าจะได้ไม่ถูกคนอื่นหลอกเอาง่าย ๆ ไง เป็นความคิดที่ดีมากเลยใช่ไหม...
แบมก็ว่างั้น!
“แบม อย่าดื่มเยอะ” มาร์คควรจะพูดว่า ‘แบม ห้ามดื่มเด็ดขาดเลยนะ’ มากกว่าใช่ไหม
เขาคิดว่า... เขาพยายามพูดไปหลายครั้งแล้วนะ
ถ้าหากสงสัยว่าทำไมไม่อยากให้ดื่ม หรือทำไมแค่นี้ถึงห้ามแบมแบมไม่ได้ คำตอบมีอยู่ว่าหากมีเพียงแบมคนเดียวที่ดื้อแพ่งจะดื่มของมึนเมาเข้าไป คงไม่ได้ยากลำบากในการห้ามปรามนัก แต่เรื่องสำคัญกว่านั้น เขาไม่สามารถต้านทานนิสัยเฉียบขาด(แบบไม่เข้าท่า)ของผู้เป็นพี่สาวอย่างเฟยได้ ตั้งแต่เดินก้าวเท้าเข้ามาในบ้านของลูกผู้พี่ที่เป็นถึงอาจารย์ประจำชั้นของเด็กในปกครอง แค่มาร์คมองตาเฟยก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขายืนยันไปเมื่อตอนพวกเราคุยโทรศัพท์กัน มันไม่ได้ผลเลยสักนิดเดียว
บทจะระเบียบจัดก็เข้มงวดจนกลัวใจ
บทอยากจะแหกทฤษฎีท้าทายอำนาจกฎหมาย ก็เรียกเด็กอายุ 16 – 17 มานั่งดื่มด้วยกันหน้าตาเฉย
จะมีคุณครูที่ไหนในโลกอีกไหมที่เรียกให้ลูกศิษย์มาดื่มฉลองด้วยกัน หรือมาร์คต้องคิดว่าเฟยคงจะถูกใจน้องแบมคนนี้เป็นพิเศษกันล่ะ
เชื่อเขาเลยจริง ๆ
“ไม่เป็นไรพี่มาร์ค แบมไม่เมาหรอกน้า พี่ชายแบมเทรนด์มาดี พี่มาร์คไม่ดื่มด้วยกันเหรอครับ” เด็กชายแบมแบมเอ่ยถามผู้ปกครองจำเป็น ใบหน้าเริ่มขึ้นสีเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เอ่ยถาม ไหนจะดวงตากลม ๆ ที่มีน้ำใสสร้างประกายเยิ้มหวานอยู่ข้างในนั้น...
ให้ตาย
“เฟย เลิกดื่มได้แล้ว นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ” มาร์คพูดห้าม หลงจากทำเพียงแค่ปรามมาหลายต่อหลายรอบ ครั้งนี้ชายหนุ่มเป็นจริงเป็นจังมากกว่าเดิมเพราะลุกขึ้นไปดึงแก้วจากลูกผู้พี่ พร้อม ๆ กับที่เดินเข้าไปหยิบแก้วเครื่องดื่มดีกรีอ่อนที่อยู่ในมือแบมออกมา
พอจะดูรู้อยู่ว่าเด็กคนนี้ดื่มได้ แต่ยังไงก็ไม่ควรดื่มของมึนเมาดีกรีแรง ๆ ให้เสียสุขภาพจริงไหม
มาร์คไม่ได้สนับสนุนให้ทำเรื่องพวกนี้เหมือนที่เฟยทำหรอกนะ
“เฮ้! นาน ๆ ทีจะได้นั่งคุยกับลูกศิษย์ถูกคอแบบนี้นะ แบมมีเรื่องต้องปรึกษาฉันอีกเยอะ ในฐานะอาจารย์และพี่สาว เอาแก้วฉันคืนมานะมาร์ค”
หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของปาร์ตี้ (ที่บัดนี้เหลือเพียงเจ้าของงาน น้องชาย และลูกศิษย์แก้มกลมอยู่เท่านั้น) ลุกขึ้นหมายจะหยิบแก้ววิสกี้จากมาร์ค ต้วนน้องรัก แต่ความพยายามก็ไร้ผลเมื่อคนเย็นชาใช้แค่มือเพียงข้างเดียวดันไหล่ของเธอให้ลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่เดิม
ไอ้น้องบ้า คนยิ่งมึน ๆ แล้วยังผลักลงมาได้
“ชิ หยุดก็ได้ แบมอา~ เอาไว้พี่จะเรียกมานั่งดื่มด้วยกันใหม่นะ ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ น้า เป็นเด็กดีของคุณครู แล้วก็อย่าลืมเป็นเด็กดีของหนูมาร์คด้วยนะ”
“แน่นอนครับพี่เฟย~ แบมเป็นเด็กดีของทุกคนเลยน้า~”
หนูมาร์คถอนหายใจมองคนมึน(เมา)สองคนคุยกัน แบมแบมยิ้มหวานให้กับผู้มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ ก่อนที่จะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ค้อมหัวลงเป็นการทำความเคารพปิดท้าย แต่เป็นเพราะสติที่ไม่ได้ครบถ้วนเหมือนปกตินัก ถ้าหากมาร์คไม่วางแก้วลงแล้วเดินเข้าไปจับแขนแบมเอาไว้ คงได้เห็นเด็กม.ปลายหน้าทิ่มลงไปกองกับพื้นเป็นแน่แท้
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ไอ้แจ๊คสัน น้องมึงไม่ได้มีแค่ด้านดีอย่างเดียวแล้วนะ มาร์คได้แต่นึกบ่นอยู่ในใจ
“กลับก่อนนะเฟย ดูแลตัวเองด้วย” มาร์คทิ้งท้าย พอเห็นว่าลูกผู้พี่ยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ ชายหนุ่มเดินออกไปจากตัวบ้านโดยมีน้องชายหน้ากลมเดินตัวปวกเปียกคอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมแขน
มีอย่างที่ไหน อายุก็เท่านี้ ตัวแค่กระเปี๊ยกเดียวดันดื่มเทียบชั้นกับผู้ใหญ่ได้... เขาควรจะโทษตัวเองหรือโทษใครดีที่ยอมใจอ่อนปล่อยให้แบมตามใจตัวเองไปอย่างนี้
ไม่ได้คออ่อนมันก็จริงอยู่หรอก แต่ถ้าบอกว่าแบมไม่เมา มาร์คเอาหัวเป็นประกันเลยว่ามันไม่จริง
“พี่มาร์ค~ แบมยังไม่อยากกลับคอนโดเลยอ้ะ ไม่นั่งเล่นกันก่อนนะ ไว้ดึกดึ๊กดึกเราค่อยกลับแล้วกันเนาะ!”
*
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนมีเด็ก(เมา)คนหนึ่งบอกมาร์คเอาไว้ว่ายังไม่อยากกลับไปคอนโด
ตั้งใจจะพาเจ้าเด็กตาโตไปนั่งเล่นริมแม่น้ำฮันอย่างที่เขาชอบทำเสมอเมื่อมีเวลาว่าง แต่พอขึ้นรถมาได้ไม่นาน แบมแบมที่มักจะเจื้อยแจ้วชวนคุยเสมอกลับเคลิ้มหลับไปทันทีที่ได้รับแอร์เย็น ๆ จากภายในรถ...
มาร์คตามใจแบมแบมเท่าที่จะทำได้อยู่เสมอ ถ้าหากสนิทกับเขาในระดับหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงก็ได้ หากถูกร้องขอให้ช่วย หรือบอกให้ทำอะไร เขาไม่เคยปฏิเสธ แน่นอนว่าเรื่องของแบมที่เป็นน้องแจ๊คสันก็คือหนึ่งในนั้น เขาอาจจะบอกว่ารำคาญการถูกตื้อ แต่ส่วนหนึ่งที่ยอมให้เด็กคนนี้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นก็เพราะแบมคือคนสำคัญของเพื่อนรัก
มาร์ค ต้วนให้ความสำคัญกับทุกคนที่เขาคิดว่าสำคัญมากพอเสมอ... แต่ปัญหามันคงอยู่ที่ว่าทั้งชีวิตมาร์ค มีคนที่เรียกได้ว่าคบหาอย่างสนิทใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากไม่นับคนในครอบครัวของเขา...
แจ๊คสัน หวัง
โอเซฮุน
อิมแจบอม
เพื่อนสนิททั้งสามคนที่ไม่ต้องพูดอธิบายให้มากความก็เข้าใจเขาได้ มาร์คไม่ชอบสุงสิงกับใคร เกลียดมากที่สุดคือเรื่องวุ่นวาย ถ้าเป็นไปได้มาร์คชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมากกว่าต้องยุ่งกับใคร
ใครต่อใครอาจจะให้คำนิยามว่ามาร์ค ต้วนเป็นผู้ชายเย็นชา เขาไม่เถียง แล้วเขาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะนี่คือตัวตนของเขา
เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้มาร์ครู้สึกถึงความรักได้... ผู้หญิงที่ทำให้มาร์คอยากยิ้มและคอยอยู้ดูแลตลอดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
ผู้หญิงที่ถูกคิมซอกจินทำลายชีวิตเพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัว
ผู้หญิงที่มาร์ครัก... ผู้หญิงที่มีชื่อว่าเบซูจี
“โย่ว สวัสดีครับ แบมชื่อแบมแบมนะครับผม แบมมาจากประเทศไทย ตอนนี้มาเรียนต่อที่เกาหลีใต้... ไม่เอา~ แบมไม่ชอบเรียนเลขน้า แต่ว่าแบมชอบเคมีนะ งืม...”
เสียงละเมอของเด็กชายกันต์พิมุกต์ที่เอนกายอยู่บนเบาะข้างคนขับดึงมาร์คให้ออกจากภวังค์ มาร์คยกยิ้มขำ ๆ กับตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเด็กที่อยู่ข้าง ๆ เขานี่ก็นับเป็นภาระหน้าที่ที่ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด
แต่เป็นเพราะเพื่อนสนิทอย่างไอ้หวังร้องขอ มาร์คไม่ชอบให้คนมาตื้อให้มากความ และเขาบอกอยู่เสมอว่าคุณสมบัติโดดเด่นข้อแรกของแจ๊คสัน หวังคือยุทธการตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
มาร์คก็เลยต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปโดยปริยาย
เด็กดื้อเงียบอีกต่างหาก...
“กลับคอนโดแล้วกัน ยังไงเด็กคนนี้ก็คงตื่นมาเดินเล่นไม่ไหวอยู่แล้ว”
*
มินิคูเปอร์ที่มักจะตรงเข้าไปจอดยังลานจอดรถของคอนโดเสมอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในวันนี้ มาร์คจำเป็นต้องหยุดลงตรงหน้าประตูตึกระฟ้า ก่อนที่จะเดินลงมาจากตำแหน่งคนขับรถและอ้อมไปด้านที่นั่งข้างคนขับ พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเดินเข้ามาหามาร์ค เมื่อเห็นคุณชายสกุลต้วนเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือเพื่อแบก(?)ร่างกลม(?)ของเด็กชายกันต์พิมุกต์ให้ขึ้นไปบนคอนโดได้อย่างปลอดภัย
เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น สรุปได้ว่ามาร์คคงต้องปล่อยให้หลับต่อไปจนถึงห้องนอน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น มันย่อมหมายความว่าภาระหน้าที่ในการพาแบมขึ้นไป ก็เป็นของเขาโดยสมบูรณ์
“คุณมาร์คครับ ผมว่าเดี๋ยวผมช่วยขยับตัวน้องชายคุณดีกว่า แล้วค่อยให้เขาขึ้นหลังคุณไป เอ่อ ให้คุณอนุญาตก่อนนะครับ คือผมจะไม่ทำโดยพลการ”
ผู้รักษาความปลอดภัยที่ยังคงอยู่ในช่วงอายุวัยรุ่นรีบเสหลบตา ความหวังดีมีอยู่เกินร้อย แต่มาร์ค ต้วนผู้ไม่เคยไว้ใจใครเห็นได้ชัดว่าสายตาที่มากกว่าความหวังดีมันอันตราย
แบมเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก แล้วมาร์คก็รู้ดีว่าโลกสมัยนี้มันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น
เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อใช่ไหม
“ไม่เป็นไร ผมพาน้องขึ้นไปเองได้ ถ้าหากจะช่วย รบกวนช่วยขับรถของผมไปจอดให้ด้วยแล้วกันนะครับ” มาร์คพูดกับอีกฝ่ายด้วยความสุภาพ กุญแจรถถูกส่งต่อก่อนที่ชายหนุ่มจะสอดตัวเข้าไปรับร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกทั้งตัวให้โอบรอบคอเขาไว้
ยอมรับว่ามันเกินความสามารถไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ใครไม่รู้มาจับต้องตัวน้องไอ้หวังทั้ง ๆ ที่มันไม่จำเป็นหรอกจริงไหมล่ะ
“ค.. คุณมาร์คครับ แล้ว...”
“กุญแจรถผมจะลงมาเอาพรุ่งนี้เช้า”
*
หลังจากที่พาเด็กมัธยมปลายปีหนึ่งขี้เมาเข้ามานอนภายในห้องได้เรียบร้อย มาร์คเป่าปาก ยืนปรับลมหายใจให้เป็นปกติอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อคิดว่าเขาคงต้องดูแลเด็กที่ยังไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าแต่ดันหลับใส่เข้าเสียอย่างนั้น
มาร์คเป็นลูกคนเดียว รู้ไหมว่ามันยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยดูแลใคร...
“ทำไงล่ะวะเนี่ย”
บ่นเบา ๆ กับตัวเองเมื่อเห็นว่าแบมแบมยังคงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอราวกับว่าไม่เคยถูกรบกวนมาก่อน เขาควรจะดีใจหรือเสียใจที่อีกฝ่ายเมาแล้วไม่อาละวาดใส่ แต่กลับกลายเป็นเมาแล้วหลับพริ้มเป็นเด็กได้ขนาดนี้
ตลกดี... น่าหมั่นเขี้ยว แล้วก็ยังน่าหมั่นไส้ไปพร้อม ๆ กัน
เด็กน้อยอวดเก่งไม่เข้าท่า ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าไปเที่ยวไหนแล้วไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วยจะเป็นยังไง
เพราะครั้งนี้... มีเขาที่ตามไปด้วยกัน มาร์คไม่แตะของมึนเมาส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขารู้ว่าแบมต้องมีคนดูแล เฟยบังคับแบมได้แต่กับเขาไม่ (หรือบางทีเฟยอาจจะไม่ได้สนใจว่ามาร์คจะดื่มหรือไม่ดื่ม)
“ถามแจบอมแล้วกัน” อิมแจบอมคือคำตอบสุดท้าย เพื่อนรักผู้เป็นทั้งนักศึกษาวิศวะปี3 และนักท่องราตรีตัวยง ซ้ำยังมีดีกรีเป็นถึงผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่ของสถานที่อโคจรชื่อดังคงช่วยเหลือมาร์คได้ในเวลานี้
หลังจากส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อถามถึงวิธีดูแลเด็กเมาขั้นต้น แน่นอนว่าคนถูกถามส่งกลับมาแทบจะทันทีว่าใคร และในวินาทีต่อมาก็เป็นประโยคยาว ๆ ที่มาร์คอ่านแล้วได้แต่อยากจะสบถดัง ๆ ออกมา...
‘น้องแบมเมาเหรอ ไอ้มาร์ค ทำไมมึงทำแบบนี้วะ น้องไม่สมยอมก็ไปมอมเหล้า แล้วนี่จะเอาวิธีดูคนเมาไปดูแลน้องหลังจากที่มึง xxx แล้วใช่ไหม!!!’
สัปดนไม่รู้เวลา... อิมแจบอมมักเป็นคนสองบุคลิกอยู่เสมอ
‘ไอ้แจบอม ไม่เล่น บอกมา’
‘แค่นี้ทำดุ เออ ก็เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็...’
ข้อความยาวพรืดจากมนุษย์กลางคืนอย่างอิมแจบอมยังคงถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง จากที่ได้แต่ยืนมองน้องชายหลับใหลมานาน มาร์ค ต้วนเริ่มที่จะทำตามคำแนะนำจากเพื่อนรัก นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาทำให้คนอื่น คงไม่คิดว่ามาร์คจะมานั่งดูแลเพื่อนของเขาทุกคนที่เมาหัวราน้ำใช่ไหม
เสียใจด้วย ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทมากแค่ไหนมาร์คก็ไม่มีทางเสียเวลาหรอก...
แต่กับแบมแบม... บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม
‘เรียบร้อยแล้วใช่ไหม ดูน้องดี ๆ นะเว้ยมาร์ค ไม่งั้นเดี๋ยวไม่สบาย แต่ที่จริงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ดื่มแล้วหลับ พรุ่งนี้ตื่นมาก็คงหายมึนแล้ว ไม่ได้หนักมากเท่าไหร่นี่ใช่ไหม’
ยังไม่ทันที่มาร์คจะตอบกลับไป ข้อความจากแจบอมปรากฏขึ้นต่อทันที
‘หรือมึงมอมน้องหนัก ไอ้มาร์ค เจอคุกแน่มึง’
‘bye’
มาร์คตัดบททุกอย่างจบลงแค่นั้น ชายหนุ่มจัดการห่มผ้าให้กับร่างเล็กของเด็กชายกันต์พิมุกต์ ยืนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนหลับพริ้มด้วยความเอ็นดู
ไม่รู้ว่ายืนมองทำไม... แค่คิดว่ามองไปมองมาก็เพลินดีเหมือนกัน
ลองหาคำตอบเล่น ๆ ให้กับตัวเองว่าทำไมหัวใจจากที่เคยเต้นอย่างสม่ำเสมอถึงได้เกิดกระตุกผิดจังหวะ... มาร์คคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะเขาตื่นเต้นที่ไม่เคยทำให้ใครแบบนี้ก็ได้
หรือบางที... ประเทศเกาหลีช่วงนี้คงร้อนเกินไป
*
11.30 am
กันต์พิมุกต์ไม่ได้นอนเต็มอิ่มแบบนี้มานานมาก... นานมาก ๆ แล้วใช่ไหมน้า~
“กี่โมงแล้วหว่า ฮื้อออ ยังปวดหัวอยู่เลยเนาะ สงสัยจะนอนไม่พอ”
แบมแบมผู้ซุกตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนารู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตาเบา ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งรอบข้าง อย่างแรกที่เด็กน้อยถามถึงแน่นอนว่าเป็นเวลา ถึงปากกลม ๆ จะบ่นอยู่อย่างนั้นก็ตาม
แล้วเด็กชายกันต์พิมุกต์ ภูวกุลก็เบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นนาฬิกาดิจิตอลบนพนังห้องปรากฏเวลา 11 โมง 35 นาที
วันอาทิตย์สิบเอ็ดโมงครึ่ง...
“พี่มาร์คคคคคคคคคคคคคค แบมขอเวลาห้านาทีจะอาบน้ำแต่งตัวให้พี่มาร์คไปส่งสวนสนุกนะ สัญญาจะไม่ช้ากว่านั้นนนนนนนนนนน”
แบมมีนัดกับอิลฮุนตอนเที่ยง แบมจำได้ว่าวันนี้จะไปเที่ยวล้อตเต้เวิลด์ แบมจำได้จริง ๆ นะ!
อ่อย~ แต่ตอนนี้แบมมึนหัวจังเลย
“พี่มาร์คคคคคคค แบมมาแล้ว ๆ ไม่เกินห้านาทีใช่ไหม ตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลย ไปกันนะ พี่มาร์คไปส่งแบมก่อนค่อยเข้าไปมหา’ลัย ไม่ช้าไปหรอกเนาะ ไป ๆ พี่มาร์คแบมพร้อมแล้วครับ!”
“ไปไหน?”
“ง่ะ ไปสวนสนุกไง พี่มาร์คบอกว่าจะพาไปแบมส่ง...” เด็กชายกันต์พิมุกต์เสียงอ่อนลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไหนจะหน้าตาเรียบเฉยของพี่มาร์คที่ดูจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของแบมเลยสักนิด
คิดว่าจะพาไปจริง ๆ ซะอีก ก็ไหนเมื่อวานสัญญากันแล้วไงเล่า แบมไม่ได้เอาแต่ใจนะ แต่พี่มาร์คสัญญาแล้วอ้ะ สัญญาไม่เป็นสัญญาได้ยังไงกัน
“หายมึนหัวแล้วหรือยังไง จะไปเที่ยวน่ะ หืม แบม”
“ไม่มึน ๆ ไม่มึนเล้ยยยย ไปกันนะพี่มาร์ค”
โกหกนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกเนาะ ก็แบมอยากไปเที่ยวมากกว่าอยู่คอนโดง่ะ แบมแบมได้คิดนึกขอโทษผู้ปกครองจำเป็นอยู่ในใจ จำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดีว่าฝ่าฝืนคำสั่งพี่มาร์ค (แต่ทำตามความต้องการของคุณครูพี่เฟย) ด้วยกันดื่มไปไม่น้อย สภาพที่ได้รับในตอนเช้าก็เลยไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่นัก
มึนนะ... แต่แบมไม่บอกใครหรอกว่ามึนอะ!
แบมจะไปเที่ยววววววววววว
“เมื่อเช้าพี่โทรหาเพื่อนเราแล้ว”
“โทรหาเพื่อนแบมคนไหนครับ โทรไปทำไมอ้ะ พี่มาร์คคคคคค”
“อย่างอแงสิแบม ไปเที่ยววันอื่นก็ได้ วันนี้แบมไปมหา’ลัยกับพี่แล้วกัน”
เด็กชายกันต์พิมุกต์ยู่หน้า มหา’ลัยพี่มาร์คก็ไม่ต่างจากโรงเรียนของแบมหรอกจริงไหม เทียบกับสวนสนุกที่มีของเล่นตั้งเยอะให้เข้าไปหา ไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่าอะไรน่าเบื่อกว่ากัน
ฮือ คุณครูเฟยใจร้าย ถ้าหากไม่ล่อลวง(?)แบมแบมด้วยน้ำหวาน แบมก็คงได้ไปหาคุณรถไฟเหาะกลางอากาศแล้วอ้ะ
“งั้นแบมนั่งทำการบ้านอยู่ที่คอนโดเนี่ยแหละ ไม่ไปไหนทั้งนั้น!” กันต์พิมุกต์เถียง ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยใบหน้าที่เริ่มจะมู่ทู่ลงอย่างเห็นได้ชัด
ไอ้หวัง น้องมึงโคตรเอาแต่ใจ มาร์ค ต้วนอยากจะเดินเข้าไปดีดแก้มพอง ๆ นั่นให้หายหมั่นไส้ซะจริง ๆ
“ตามใจ แต่วันนี้คอนโดจะตัดไฟตอนค่ำ แล้วกว่าพี่จะทำงานเสร็จก็คงสามสี่ทุ่ม ถ้าแบมอยู่ที่นี่ได้ พี่ก็ไม่บังคับ” นับเป็นอีกหนึ่งประโยคยาว ๆ (ที่พักหลังแบมคิดว่าได้ยินบ่อยขึ้นทุกวัน) จากพี่มาร์ค
ทางเลือกของกันต์พิมุกต์มีมากซะที่ไหนกันล่ะครับ
“พอดีมีการบ้านเลขเยอะ แบมคิดว่าแบมต้องทำไม่ได้แน่ ๆ งั้นแบมไปมหา’ลัยกับพี่มาร์คแล้วกันเนาะ ถ้าแบมไม่เข้าใจข้อไหนแบมจะได้ให้พี่มาร์คสอนเลยไง... ไปครับ”
นี่แบมไม่ได้กลัวที่คอนโดจะตัดไฟเลยนะครับ
แบมพูดจริง ๆ ...
*
“อ้าว ไหนตอนแรกมาร์คบอกว่าจะไปส่งน้องแบมเที่ยวก่อนแล้วมันค่อยเข้ามา ไหงกลายเป็นว่าน้องแบมมาที่นี่กับมันได้ล่ะครับ”
รุ่นพี่โอเซฮุนยังคงความเอ็นดูเด็กชายกันต์พิมุกต์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทันทีที่ได้เห็นน้องชายแก้มกลมเดินเข้ามาก็รีบส่งเสียงถาม ไม่พอแค่นั้น ร่างสูงโปร่งยังก้าวขาเดินเข้ามาหาเด็กม.ปลายด้วยรอยยิ้มใจดี
พี่มาร์คน่าจะยิ้มเก่งเหมือนคนอื่น ๆ กับเขาบ้างเนาะ
“พอดีมีเรื่องนิ๊สสสหน่อย แบมก็เลยต้องหอบการบ้านมานั่งทำที่นี่ แหะ ๆ รบกวนพี่ ๆ ด้วยนะครับ”
“ไม่มีปัญหา มานั่งข้างพี่ก็ได้ การบ้านวิชาอะไรครับ เดี๋ยวพี่เซฮุนจะสอนให้เองนะ” เซฮุนยิ้มหวานให้กับน้องชายของเพื่อน ถึงจะเรียนกันคนละมหา’ลัย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคระหว่างมิตรภาพของแจ๊คสัน หวังแห่งมหา’ลัย S (กำลังจะทำเรื่องย้ายจากฮ่องกง) และผองเพื่อนที่อยู่มหา’ลัย Y เลยสักนิด
อันที่จริงจนถึงปัจจุบันนี้เซฮุนยังไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือคิดถูกที่สนิทกับหวัง แจ๊คสัน บางครั้งเขายังเคยแกล้งแซวมันเลยด้วยซ้ำว่าไม่ควรหลุดจากโรงพยาบาลแล้วมาปั่นป่วนโลกแบบนี้
แจ๊คสัน หวังดีทุกอย่าง... ยกเว้นสติ
(ถึงแม้อิมแจบอมและมาร์ค ต้วนจะช่วยกันยืนยันว่าโอเซฮุนไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียวก็ตาม)
“การบ้านเลข ของเด็กม.ปลาย มึงลืมไปหมดแล้ว ไอ้เซฮุน”
“มึงรู้ได้ไงมาร์ค ดูถูกกูมากเลยนะ กูเก่งเลขนะเว้ย!”
“แมทสามมึงเรียนวันนี้ พรุ่งนี้มึงยังลืม นับประสาอะไรกับเลขม.ปลาย”
มาร์ค ต้วนสวนกลับไปให้เพื่อนรักได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะสะใจของอิมแจบอมที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกัน ส่วนเด็กชายแบมแบมถึงแม้จะไม่อยากให้พี่เซฮุนถูกล้อเลียนเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอยู่ดี
ไม่รู้เรื่องพี่เซฮุนจริงเท็จแค่ไหน แบมรู้อย่างเดียวว่าพี่มาร์คเก่งวิชาคณิตศาสตร์และทุกอย่างที่เกี่ยวกับการคำนวณมาก การบ้านของแบมที่มีตัวเลขโผล่มา ส่วนมากที่ทำเสร็จได้ด้วยดี ก็เป็นเพราะพี่มาร์คช่วยสอนทั้งนั้น
ดีจังเลยน้า พี่แจ๊คสันมีเพื่อนทั้งหล่อทั้งเก่งไปหมดทุกอย่างแบบนี้~
เอ้ย แบมคิดอะไรแปลก ๆ ออกไปใช่หรือเปล่า อย่าสนใจเลยนะครับ มันก็เป็นแค่ความคิดที่วนผ่านไปมาอยู่ในหัวของแบมเท่านั้นเอง
“พี่มาร์คคคคคค ข้อนี้แบมไม่เข้าใจอ่ะ เราต้องแบ่งเซ็ทยังไง แล้วมันซ้อนทับร่วมกันแบบไหน ฮื่อ แบมไม่อยากเรียนเลขแล้วพี่มาร์ค แบมจะให้อาจารย์ทุกคนบนโลกปลดวิชาคณิตศาสตร์ออกไป”
เด็กชายกันต์พิมุกต์มีความคิดก้าวล้ำนำหน้านักเรียนคนอื่น ๆ อยู่เสมอ
“ใจเย็น ๆ สิแบม ทำไม่ได้ก็ถาม ค่อย ๆ คิดไป” มาร์คว่า ชายหนุ่มละจากงานของตัวเองเพื่อหันไปอธิบายโจทย์เลขง่าย ๆ ของเด็กม.ปลายปี 1 ให้แบมแบมฟัง
การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้เห็นเหตุการณ์อย่างอิมแจบอม และแน่นอนว่านักท่องราตรีไม่ยอมเห็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ปลายรองเท้าหนังของแจบอมรีบสะกิดเท้าโอเซฮุนให้หันมาเป็นพยานความน่ารักน่าชังไปพร้อม ๆ กัน
พวกเขาไม่เคยเห็นมาร์ค ต้วนคนนี้ใส่ใจใครมานานมากแล้ว...
มากจนแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาร์คที่เต็มไปด้วยความใจดีเป็นยังไง...
ผู้ชายเย็นชาเวลาอยู่กับเด็กที่หน้าตาน่าเอ็นดู...จะน่ารักแบบนี้พวกเขาเห็นกันทุกคู่ไหมนะ
น่าเสียดายที่แจ๊คสัน หวังไม่ได้มาเห็นภาพน้องชายที่มันบอกว่าหวงนักหวงหนาในเวลานี้ บางทีตอนนี้เขาก็อยากจะสายตรงไปบอกไอ้หวังเหลือเกินว่าไอ้ที่ที่มันคิดปลอดภัยสำหรับน้องชาย บางทีอาจจะเป็นอันตรายกับหัวใจก็เป็นไปได้นะ
ทั้งหัวใจของเด็กม.ปลาย
แล้วก็หัวใจของเด็กวิศวะโยธาปีสามที่กำลังตั้งใจอธิบายคณิตศาสตร์ง่าย ๆ ให้เด็กม.ปลายฟัง
น้ำแข็ง... อาจจะค่อย ๆ หลอมละลายเพราะความสดใสที่สว่างไสวอยู่รอบตัวของเจ้าชายตลอดเวลาก็ได้
ใครจะไปรู้
*
TBC
TALK: ใครจะไปรู้น้อ.... ♥
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกโหวต ทุกยอดเฟบเช่นเคยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ ><~
ความคิดเห็น