ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #6 : markbam baby - 5

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 57


    GOT 7 Fiction

    Adorable baby  Mark x Bambam

    By bpuppyy_

    Markbam

    Baby  5

    ***การดื่มของมึนเมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน แต่เราก็รู้ ๆ กันเนาะ ***

     

     

     

    “เอ้า น้องแบมของพี่เฟย ชน~

                    ตั้งแต่ปาร์ตี้เริ่มขึ้น จนกระทั่งถึงเวลานี้... อาจารย์เฟยผู้เป็นต้นแบบของเยาวชนพูดประโยคเดิม ๆ กับลูกศิษย์แก้มกลมที่ส่งตรงจากเมืองไทยซ้ำไปซ้ำมา ถ้านับจริง ๆ คงได้สักสิบรอบก็อาจจะเป็นไปได้

                    มาร์คได้แต่นั่งส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกผู้พี่อย่างเฟย ทั้งที่เธอเป็นคุณครูที่ปรึกษาของแบมแท้ ๆ แต่กลับชวนให้ลูกศิษย์ตัวเองมานั่งดื่มด้วยกันอยู่แบบนี้...

     

                    ทั้งที่แบมยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือจะว่ากันอย่างตรงไปตรงมา แบมแบมยังห่างไกลกับคำนั้นไปอยู่เยอะจนไม่น่าจะมานั่งอยู่ในพื้นที่ที่มีแต่ของมึนเมาแบบนี้เลย

     

    “พี่เฟยสุดยอดไปเล้ย แบมสัญญาว่าจะเก็บเรื่องปาร์ตี้วันนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเรานะ คัมปาย~~~

                   

                    น้องแบมแบมในวัยย่างเข้า 17 ปีนั่งอยู่ใกล้ ๆ คณครูสาวสวย พร้อมด้วยแก้วกลมใสที่บรรจุแอลกอฮอล์เอาไว้เต็มกำลัง เด็กชายกันต์พิมุกต์ไม่ได้ดื่มเข้าไปเยอะเท่าไหร่ แต่อาการหน้าขึ้นปื้นแดงคงเป็นเพราะอากาศที่ร้อนผิดปกติมากกว่า แบมบอกว่ายังไม่เมาไง ยังไม่มึนเลยด้วยซ้ำอ้ะ!

                    แค่นี้นะ... จิ๊บ ๆ เท่านั้นเอง

                    พี่ชายแบมฝึกมาดี พี่ชายบอกว่าจะได้ไม่ถูกคนอื่นหลอกเอาง่าย ๆ ไง เป็นความคิดที่ดีมากเลยใช่ไหม...

                    แบมก็ว่างั้น!

     

    “แบม อย่าดื่มเยอะ” มาร์คควรจะพูดว่า แบม ห้ามดื่มเด็ดขาดเลยนะ มากกว่าใช่ไหม

     

                    เขาคิดว่า... เขาพยายามพูดไปหลายครั้งแล้วนะ

                    ถ้าหากสงสัยว่าทำไมไม่อยากให้ดื่ม หรือทำไมแค่นี้ถึงห้ามแบมแบมไม่ได้ คำตอบมีอยู่ว่าหากมีเพียงแบมคนเดียวที่ดื้อแพ่งจะดื่มของมึนเมาเข้าไป คงไม่ได้ยากลำบากในการห้ามปรามนัก แต่เรื่องสำคัญกว่านั้น เขาไม่สามารถต้านทานนิสัยเฉียบขาด(แบบไม่เข้าท่า)ของผู้เป็นพี่สาวอย่างเฟยได้ ตั้งแต่เดินก้าวเท้าเข้ามาในบ้านของลูกผู้พี่ที่เป็นถึงอาจารย์ประจำชั้นของเด็กในปกครอง แค่มาร์คมองตาเฟยก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขายืนยันไปเมื่อตอนพวกเราคุยโทรศัพท์กัน มันไม่ได้ผลเลยสักนิดเดียว

     

                    บทจะระเบียบจัดก็เข้มงวดจนกลัวใจ  

                    บทอยากจะแหกทฤษฎีท้าทายอำนาจกฎหมาย ก็เรียกเด็กอายุ 16 – 17 มานั่งดื่มด้วยกันหน้าตาเฉย

                    จะมีคุณครูที่ไหนในโลกอีกไหมที่เรียกให้ลูกศิษย์มาดื่มฉลองด้วยกัน หรือมาร์คต้องคิดว่าเฟยคงจะถูกใจน้องแบมคนนี้เป็นพิเศษกันล่ะ

     

                เชื่อเขาเลยจริง ๆ

     

    “ไม่เป็นไรพี่มาร์ค แบมไม่เมาหรอกน้า พี่ชายแบมเทรนด์มาดี พี่มาร์คไม่ดื่มด้วยกันเหรอครับ” เด็กชายแบมแบมเอ่ยถามผู้ปกครองจำเป็น ใบหน้าเริ่มขึ้นสีเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เอ่ยถาม ไหนจะดวงตากลม ๆ ที่มีน้ำใสสร้างประกายเยิ้มหวานอยู่ข้างในนั้น...

     

                ให้ตาย

                   

    “เฟย เลิกดื่มได้แล้ว นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ” มาร์คพูดห้าม หลงจากทำเพียงแค่ปรามมาหลายต่อหลายรอบ ครั้งนี้ชายหนุ่มเป็นจริงเป็นจังมากกว่าเดิมเพราะลุกขึ้นไปดึงแก้วจากลูกผู้พี่ พร้อม ๆ กับที่เดินเข้าไปหยิบแก้วเครื่องดื่มดีกรีอ่อนที่อยู่ในมือแบมออกมา

     

                    พอจะดูรู้อยู่ว่าเด็กคนนี้ดื่มได้ แต่ยังไงก็ไม่ควรดื่มของมึนเมาดีกรีแรง ๆ ให้เสียสุขภาพจริงไหม

                    มาร์คไม่ได้สนับสนุนให้ทำเรื่องพวกนี้เหมือนที่เฟยทำหรอกนะ

     

    “เฮ้! นาน ๆ ทีจะได้นั่งคุยกับลูกศิษย์ถูกคอแบบนี้นะ แบมมีเรื่องต้องปรึกษาฉันอีกเยอะ ในฐานะอาจารย์และพี่สาว เอาแก้วฉันคืนมานะมาร์ค”

                    หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของปาร์ตี้ (ที่บัดนี้เหลือเพียงเจ้าของงาน น้องชาย และลูกศิษย์แก้มกลมอยู่เท่านั้น) ลุกขึ้นหมายจะหยิบแก้ววิสกี้จากมาร์ค ต้วนน้องรัก แต่ความพยายามก็ไร้ผลเมื่อคนเย็นชาใช้แค่มือเพียงข้างเดียวดันไหล่ของเธอให้ลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่เดิม

     

                    ไอ้น้องบ้า คนยิ่งมึน ๆ แล้วยังผลักลงมาได้

     

    “ชิ หยุดก็ได้ แบมอา~ เอาไว้พี่จะเรียกมานั่งดื่มด้วยกันใหม่นะ ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ น้า เป็นเด็กดีของคุณครู แล้วก็อย่าลืมเป็นเด็กดีของหนูมาร์คด้วยนะ”

    “แน่นอนครับพี่เฟย~ แบมเป็นเด็กดีของทุกคนเลยน้า~

                    หนูมาร์คถอนหายใจมองคนมึน(เมา)สองคนคุยกัน แบมแบมยิ้มหวานให้กับผู้มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ ก่อนที่จะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ค้อมหัวลงเป็นการทำความเคารพปิดท้าย แต่เป็นเพราะสติที่ไม่ได้ครบถ้วนเหมือนปกตินัก ถ้าหากมาร์คไม่วางแก้วลงแล้วเดินเข้าไปจับแขนแบมเอาไว้ คงได้เห็นเด็กม.ปลายหน้าทิ่มลงไปกองกับพื้นเป็นแน่แท้

     

                    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ไอ้แจ๊คสัน น้องมึงไม่ได้มีแค่ด้านดีอย่างเดียวแล้วนะ มาร์คได้แต่นึกบ่นอยู่ในใจ

     

    “กลับก่อนนะเฟย ดูแลตัวเองด้วย” มาร์คทิ้งท้าย พอเห็นว่าลูกผู้พี่ยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ ชายหนุ่มเดินออกไปจากตัวบ้านโดยมีน้องชายหน้ากลมเดินตัวปวกเปียกคอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมแขน

     

                    มีอย่างที่ไหน อายุก็เท่านี้ ตัวแค่กระเปี๊ยกเดียวดันดื่มเทียบชั้นกับผู้ใหญ่ได้...  เขาควรจะโทษตัวเองหรือโทษใครดีที่ยอมใจอ่อนปล่อยให้แบมตามใจตัวเองไปอย่างนี้

                    ไม่ได้คออ่อนมันก็จริงอยู่หรอก แต่ถ้าบอกว่าแบมไม่เมา มาร์คเอาหัวเป็นประกันเลยว่ามันไม่จริง

     

    “พี่มาร์ค~ แบมยังไม่อยากกลับคอนโดเลยอ้ะ ไม่นั่งเล่นกันก่อนนะ ไว้ดึกดึ๊กดึกเราค่อยกลับแล้วกันเนาะ!

     

    *

     

                    เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนมีเด็ก(เมา)คนหนึ่งบอกมาร์คเอาไว้ว่ายังไม่อยากกลับไปคอนโด

                    ตั้งใจจะพาเจ้าเด็กตาโตไปนั่งเล่นริมแม่น้ำฮันอย่างที่เขาชอบทำเสมอเมื่อมีเวลาว่าง แต่พอขึ้นรถมาได้ไม่นาน แบมแบมที่มักจะเจื้อยแจ้วชวนคุยเสมอกลับเคลิ้มหลับไปทันทีที่ได้รับแอร์เย็น ๆ จากภายในรถ...

     

                    มาร์คตามใจแบมแบมเท่าที่จะทำได้อยู่เสมอ ถ้าหากสนิทกับเขาในระดับหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงก็ได้ หากถูกร้องขอให้ช่วย หรือบอกให้ทำอะไร เขาไม่เคยปฏิเสธ แน่นอนว่าเรื่องของแบมที่เป็นน้องแจ๊คสันก็คือหนึ่งในนั้น เขาอาจจะบอกว่ารำคาญการถูกตื้อ แต่ส่วนหนึ่งที่ยอมให้เด็กคนนี้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นก็เพราะแบมคือคนสำคัญของเพื่อนรัก

    มาร์ค ต้วนให้ความสำคัญกับทุกคนที่เขาคิดว่าสำคัญมากพอเสมอ... แต่ปัญหามันคงอยู่ที่ว่าทั้งชีวิตมาร์ค มีคนที่เรียกได้ว่าคบหาอย่างสนิทใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากไม่นับคนในครอบครัวของเขา...

                    แจ๊คสัน หวัง

                    โอเซฮุน

                    อิมแจบอม

                    เพื่อนสนิททั้งสามคนที่ไม่ต้องพูดอธิบายให้มากความก็เข้าใจเขาได้ มาร์คไม่ชอบสุงสิงกับใคร เกลียดมากที่สุดคือเรื่องวุ่นวาย ถ้าเป็นไปได้มาร์คชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมากกว่าต้องยุ่งกับใคร  

                    ใครต่อใครอาจจะให้คำนิยามว่ามาร์ค ต้วนเป็นผู้ชายเย็นชา เขาไม่เถียง แล้วเขาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะนี่คือตัวตนของเขา

                    เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้มาร์ครู้สึกถึงความรักได้... ผู้หญิงที่ทำให้มาร์คอยากยิ้มและคอยอยู้ดูแลตลอดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

     

                    ผู้หญิงที่ถูกคิมซอกจินทำลายชีวิตเพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัว

                    ผู้หญิงที่มาร์ครัก... ผู้หญิงที่มีชื่อว่าเบซูจี

     

    “โย่ว สวัสดีครับ แบมชื่อแบมแบมนะครับผม แบมมาจากประเทศไทย ตอนนี้มาเรียนต่อที่เกาหลีใต้... ไม่เอา~ แบมไม่ชอบเรียนเลขน้า แต่ว่าแบมชอบเคมีนะ งืม...”

                    เสียงละเมอของเด็กชายกันต์พิมุกต์ที่เอนกายอยู่บนเบาะข้างคนขับดึงมาร์คให้ออกจากภวังค์ มาร์คยกยิ้มขำ ๆ กับตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเด็กที่อยู่ข้าง ๆ เขานี่ก็นับเป็นภาระหน้าที่ที่ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด

                    แต่เป็นเพราะเพื่อนสนิทอย่างไอ้หวังร้องขอ มาร์คไม่ชอบให้คนมาตื้อให้มากความ และเขาบอกอยู่เสมอว่าคุณสมบัติโดดเด่นข้อแรกของแจ๊คสัน หวังคือยุทธการตื้อเท่านั้นที่ครองโลก

     

                    มาร์คก็เลยต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปโดยปริยาย

                    เด็กดื้อเงียบอีกต่างหาก...

     

    “กลับคอนโดแล้วกัน ยังไงเด็กคนนี้ก็คงตื่นมาเดินเล่นไม่ไหวอยู่แล้ว”

     

    *

     

                    มินิคูเปอร์ที่มักจะตรงเข้าไปจอดยังลานจอดรถของคอนโดเสมอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในวันนี้ มาร์คจำเป็นต้องหยุดลงตรงหน้าประตูตึกระฟ้า ก่อนที่จะเดินลงมาจากตำแหน่งคนขับรถและอ้อมไปด้านที่นั่งข้างคนขับ พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเดินเข้ามาหามาร์ค เมื่อเห็นคุณชายสกุลต้วนเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือเพื่อแบก(?)ร่างกลม(?)ของเด็กชายกันต์พิมุกต์ให้ขึ้นไปบนคอนโดได้อย่างปลอดภัย

     

                    เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น สรุปได้ว่ามาร์คคงต้องปล่อยให้หลับต่อไปจนถึงห้องนอน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น มันย่อมหมายความว่าภาระหน้าที่ในการพาแบมขึ้นไป ก็เป็นของเขาโดยสมบูรณ์

     

    “คุณมาร์คครับ ผมว่าเดี๋ยวผมช่วยขยับตัวน้องชายคุณดีกว่า แล้วค่อยให้เขาขึ้นหลังคุณไป เอ่อ ให้คุณอนุญาตก่อนนะครับ คือผมจะไม่ทำโดยพลการ”

                    ผู้รักษาความปลอดภัยที่ยังคงอยู่ในช่วงอายุวัยรุ่นรีบเสหลบตา ความหวังดีมีอยู่เกินร้อย แต่มาร์ค ต้วนผู้ไม่เคยไว้ใจใครเห็นได้ชัดว่าสายตาที่มากกว่าความหวังดีมันอันตราย

     

                    แบมเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก แล้วมาร์คก็รู้ดีว่าโลกสมัยนี้มันไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

                    เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อใช่ไหม

     

    “ไม่เป็นไร ผมพาน้องขึ้นไปเองได้ ถ้าหากจะช่วย รบกวนช่วยขับรถของผมไปจอดให้ด้วยแล้วกันนะครับ” มาร์คพูดกับอีกฝ่ายด้วยความสุภาพ กุญแจรถถูกส่งต่อก่อนที่ชายหนุ่มจะสอดตัวเข้าไปรับร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกทั้งตัวให้โอบรอบคอเขาไว้

                    ยอมรับว่ามันเกินความสามารถไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ใครไม่รู้มาจับต้องตัวน้องไอ้หวังทั้ง ๆ ที่มันไม่จำเป็นหรอกจริงไหมล่ะ

    “ค.. คุณมาร์คครับ แล้ว...”

    “กุญแจรถผมจะลงมาเอาพรุ่งนี้เช้า”

     

    *

     

                    หลังจากที่พาเด็กมัธยมปลายปีหนึ่งขี้เมาเข้ามานอนภายในห้องได้เรียบร้อย มาร์คเป่าปาก ยืนปรับลมหายใจให้เป็นปกติอยู่พักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อคิดว่าเขาคงต้องดูแลเด็กที่ยังไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าแต่ดันหลับใส่เข้าเสียอย่างนั้น

     

                    มาร์คเป็นลูกคนเดียว รู้ไหมว่ามันยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยดูแลใคร...

     

    “ทำไงล่ะวะเนี่ย”

                    บ่นเบา ๆ กับตัวเองเมื่อเห็นว่าแบมแบมยังคงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอราวกับว่าไม่เคยถูกรบกวนมาก่อน เขาควรจะดีใจหรือเสียใจที่อีกฝ่ายเมาแล้วไม่อาละวาดใส่ แต่กลับกลายเป็นเมาแล้วหลับพริ้มเป็นเด็กได้ขนาดนี้

                    ตลกดี... น่าหมั่นเขี้ยว แล้วก็ยังน่าหมั่นไส้ไปพร้อม ๆ กัน

                    เด็กน้อยอวดเก่งไม่เข้าท่า ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าไปเที่ยวไหนแล้วไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วยจะเป็นยังไง

     

                    เพราะครั้งนี้... มีเขาที่ตามไปด้วยกัน มาร์คไม่แตะของมึนเมาส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขารู้ว่าแบมต้องมีคนดูแล เฟยบังคับแบมได้แต่กับเขาไม่ (หรือบางทีเฟยอาจจะไม่ได้สนใจว่ามาร์คจะดื่มหรือไม่ดื่ม)

     

    “ถามแจบอมแล้วกัน”  อิมแจบอมคือคำตอบสุดท้าย เพื่อนรักผู้เป็นทั้งนักศึกษาวิศวะปี3 และนักท่องราตรีตัวยง ซ้ำยังมีดีกรีเป็นถึงผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่ของสถานที่อโคจรชื่อดังคงช่วยเหลือมาร์คได้ในเวลานี้

                    หลังจากส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อถามถึงวิธีดูแลเด็กเมาขั้นต้น แน่นอนว่าคนถูกถามส่งกลับมาแทบจะทันทีว่าใคร และในวินาทีต่อมาก็เป็นประโยคยาว ๆ ที่มาร์คอ่านแล้วได้แต่อยากจะสบถดัง ๆ ออกมา...

     

                น้องแบมเมาเหรอ ไอ้มาร์ค ทำไมมึงทำแบบนี้วะ น้องไม่สมยอมก็ไปมอมเหล้า แล้วนี่จะเอาวิธีดูคนเมาไปดูแลน้องหลังจากที่มึง xxx แล้วใช่ไหม!!!’

                    สัปดนไม่รู้เวลา... อิมแจบอมมักเป็นคนสองบุคลิกอยู่เสมอ

                    ไอ้แจบอม ไม่เล่น บอกมา

                    แค่นี้ทำดุ เออ ก็เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็...

                    ข้อความยาวพรืดจากมนุษย์กลางคืนอย่างอิมแจบอมยังคงถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง จากที่ได้แต่ยืนมองน้องชายหลับใหลมานาน มาร์ค ต้วนเริ่มที่จะทำตามคำแนะนำจากเพื่อนรัก นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาทำให้คนอื่น คงไม่คิดว่ามาร์คจะมานั่งดูแลเพื่อนของเขาทุกคนที่เมาหัวราน้ำใช่ไหม

     

                    เสียใจด้วย ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทมากแค่ไหนมาร์คก็ไม่มีทางเสียเวลาหรอก...

                    แต่กับแบมแบม... บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม

                   

                    เรียบร้อยแล้วใช่ไหม ดูน้องดี ๆ นะเว้ยมาร์ค ไม่งั้นเดี๋ยวไม่สบาย แต่ที่จริงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ดื่มแล้วหลับ พรุ่งนี้ตื่นมาก็คงหายมึนแล้ว ไม่ได้หนักมากเท่าไหร่นี่ใช่ไหม

                    ยังไม่ทันที่มาร์คจะตอบกลับไป ข้อความจากแจบอมปรากฏขึ้นต่อทันที

                หรือมึงมอมน้องหนัก ไอ้มาร์ค เจอคุกแน่มึง

                    ‘bye’

     

                มาร์คตัดบททุกอย่างจบลงแค่นั้น ชายหนุ่มจัดการห่มผ้าให้กับร่างเล็กของเด็กชายกันต์พิมุกต์ ยืนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนหลับพริ้มด้วยความเอ็นดู

                    ไม่รู้ว่ายืนมองทำไม... แค่คิดว่ามองไปมองมาก็เพลินดีเหมือนกัน

                    ลองหาคำตอบเล่น ๆ ให้กับตัวเองว่าทำไมหัวใจจากที่เคยเต้นอย่างสม่ำเสมอถึงได้เกิดกระตุกผิดจังหวะ... มาร์คคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะเขาตื่นเต้นที่ไม่เคยทำให้ใครแบบนี้ก็ได้

     

                    หรือบางที... ประเทศเกาหลีช่วงนี้คงร้อนเกินไป

     

    *

     

                    11.30 am

     

                    กันต์พิมุกต์ไม่ได้นอนเต็มอิ่มแบบนี้มานานมาก... นานมาก ๆ แล้วใช่ไหมน้า~

     

    “กี่โมงแล้วหว่า ฮื้อออ ยังปวดหัวอยู่เลยเนาะ สงสัยจะนอนไม่พอ”

    แบมแบมผู้ซุกตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนารู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตาเบา ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งรอบข้าง อย่างแรกที่เด็กน้อยถามถึงแน่นอนว่าเป็นเวลา ถึงปากกลม ๆ จะบ่นอยู่อย่างนั้นก็ตาม

    แล้วเด็กชายกันต์พิมุกต์ ภูวกุลก็เบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นนาฬิกาดิจิตอลบนพนังห้องปรากฏเวลา 11 โมง 35 นาที

     

    วันอาทิตย์สิบเอ็ดโมงครึ่ง...

     

    “พี่มาร์คคคคคคคคคคคคคค แบมขอเวลาห้านาทีจะอาบน้ำแต่งตัวให้พี่มาร์คไปส่งสวนสนุกนะ สัญญาจะไม่ช้ากว่านั้นนนนนนนนนนน”

     

                    แบมมีนัดกับอิลฮุนตอนเที่ยง แบมจำได้ว่าวันนี้จะไปเที่ยวล้อตเต้เวิลด์ แบมจำได้จริง ๆ นะ!

                    อ่อย~ แต่ตอนนี้แบมมึนหัวจังเลย

     

    “พี่มาร์คคคคคคค แบมมาแล้ว ๆ ไม่เกินห้านาทีใช่ไหม ตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลย ไปกันนะ พี่มาร์คไปส่งแบมก่อนค่อยเข้าไปมหาลัย ไม่ช้าไปหรอกเนาะ ไป ๆ พี่มาร์คแบมพร้อมแล้วครับ!

    “ไปไหน?”

    “ง่ะ ไปสวนสนุกไง พี่มาร์คบอกว่าจะพาไปแบมส่ง...” เด็กชายกันต์พิมุกต์เสียงอ่อนลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไหนจะหน้าตาเรียบเฉยของพี่มาร์คที่ดูจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของแบมเลยสักนิด

                    คิดว่าจะพาไปจริง ๆ ซะอีก ก็ไหนเมื่อวานสัญญากันแล้วไงเล่า แบมไม่ได้เอาแต่ใจนะ แต่พี่มาร์คสัญญาแล้วอ้ะ สัญญาไม่เป็นสัญญาได้ยังไงกัน

    “หายมึนหัวแล้วหรือยังไง จะไปเที่ยวน่ะ หืม แบม”

    “ไม่มึน ๆ ไม่มึนเล้ยยยย ไปกันนะพี่มาร์ค”

                    โกหกนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกเนาะ ก็แบมอยากไปเที่ยวมากกว่าอยู่คอนโดง่ะ แบมแบมได้คิดนึกขอโทษผู้ปกครองจำเป็นอยู่ในใจ จำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดีว่าฝ่าฝืนคำสั่งพี่มาร์ค (แต่ทำตามความต้องการของคุณครูพี่เฟย) ด้วยกันดื่มไปไม่น้อย สภาพที่ได้รับในตอนเช้าก็เลยไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่นัก

     

                    มึนนะ... แต่แบมไม่บอกใครหรอกว่ามึนอะ!

                    แบมจะไปเที่ยววววววววววว

     

    “เมื่อเช้าพี่โทรหาเพื่อนเราแล้ว”

    “โทรหาเพื่อนแบมคนไหนครับ โทรไปทำไมอ้ะ พี่มาร์คคคคคค”

    “อย่างอแงสิแบม ไปเที่ยววันอื่นก็ได้ วันนี้แบมไปมหาลัยกับพี่แล้วกัน”

     

                    เด็กชายกันต์พิมุกต์ยู่หน้า มหาลัยพี่มาร์คก็ไม่ต่างจากโรงเรียนของแบมหรอกจริงไหม เทียบกับสวนสนุกที่มีของเล่นตั้งเยอะให้เข้าไปหา ไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่าอะไรน่าเบื่อกว่ากัน

                    ฮือ คุณครูเฟยใจร้าย ถ้าหากไม่ล่อลวง(?)แบมแบมด้วยน้ำหวาน แบมก็คงได้ไปหาคุณรถไฟเหาะกลางอากาศแล้วอ้ะ

     

    “งั้นแบมนั่งทำการบ้านอยู่ที่คอนโดเนี่ยแหละ ไม่ไปไหนทั้งนั้น! กันต์พิมุกต์เถียง ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยใบหน้าที่เริ่มจะมู่ทู่ลงอย่างเห็นได้ชัด

     

                    ไอ้หวัง น้องมึงโคตรเอาแต่ใจ มาร์ค ต้วนอยากจะเดินเข้าไปดีดแก้มพอง ๆ นั่นให้หายหมั่นไส้ซะจริง ๆ

     

    “ตามใจ แต่วันนี้คอนโดจะตัดไฟตอนค่ำ แล้วกว่าพี่จะทำงานเสร็จก็คงสามสี่ทุ่ม ถ้าแบมอยู่ที่นี่ได้ พี่ก็ไม่บังคับ” นับเป็นอีกหนึ่งประโยคยาว ๆ (ที่พักหลังแบมคิดว่าได้ยินบ่อยขึ้นทุกวัน) จากพี่มาร์ค

     

                    ทางเลือกของกันต์พิมุกต์มีมากซะที่ไหนกันล่ะครับ

     

    “พอดีมีการบ้านเลขเยอะ แบมคิดว่าแบมต้องทำไม่ได้แน่ ๆ งั้นแบมไปมหาลัยกับพี่มาร์คแล้วกันเนาะ ถ้าแบมไม่เข้าใจข้อไหนแบมจะได้ให้พี่มาร์คสอนเลยไง... ไปครับ”

     

                    นี่แบมไม่ได้กลัวที่คอนโดจะตัดไฟเลยนะครับ

                    แบมพูดจริง ๆ ...

     

    *

     

    “อ้าว ไหนตอนแรกมาร์คบอกว่าจะไปส่งน้องแบมเที่ยวก่อนแล้วมันค่อยเข้ามา ไหงกลายเป็นว่าน้องแบมมาที่นี่กับมันได้ล่ะครับ”

                    รุ่นพี่โอเซฮุนยังคงความเอ็นดูเด็กชายกันต์พิมุกต์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทันทีที่ได้เห็นน้องชายแก้มกลมเดินเข้ามาก็รีบส่งเสียงถาม ไม่พอแค่นั้น ร่างสูงโปร่งยังก้าวขาเดินเข้ามาหาเด็กม.ปลายด้วยรอยยิ้มใจดี

     

                    พี่มาร์คน่าจะยิ้มเก่งเหมือนคนอื่น ๆ กับเขาบ้างเนาะ

     

    “พอดีมีเรื่องนิ๊สสสหน่อย แบมก็เลยต้องหอบการบ้านมานั่งทำที่นี่ แหะ ๆ รบกวนพี่ ๆ ด้วยนะครับ”

    “ไม่มีปัญหา มานั่งข้างพี่ก็ได้ การบ้านวิชาอะไรครับ เดี๋ยวพี่เซฮุนจะสอนให้เองนะ” เซฮุนยิ้มหวานให้กับน้องชายของเพื่อน ถึงจะเรียนกันคนละมหาลัย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคระหว่างมิตรภาพของแจ๊คสัน หวังแห่งมหาลัย S (กำลังจะทำเรื่องย้ายจากฮ่องกง) และผองเพื่อนที่อยู่มหาลัย Y เลยสักนิด

     

                    อันที่จริงจนถึงปัจจุบันนี้เซฮุนยังไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือคิดถูกที่สนิทกับหวัง แจ๊คสัน บางครั้งเขายังเคยแกล้งแซวมันเลยด้วยซ้ำว่าไม่ควรหลุดจากโรงพยาบาลแล้วมาปั่นป่วนโลกแบบนี้

                    แจ๊คสัน หวังดีทุกอย่าง... ยกเว้นสติ

                    (ถึงแม้อิมแจบอมและมาร์ค ต้วนจะช่วยกันยืนยันว่าโอเซฮุนไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียวก็ตาม)

     

    “การบ้านเลข ของเด็กม.ปลาย มึงลืมไปหมดแล้ว ไอ้เซฮุน”

    “มึงรู้ได้ไงมาร์ค ดูถูกกูมากเลยนะ กูเก่งเลขนะเว้ย!

    “แมทสามมึงเรียนวันนี้ พรุ่งนี้มึงยังลืม นับประสาอะไรกับเลขม.ปลาย”

                    มาร์ค ต้วนสวนกลับไปให้เพื่อนรักได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะสะใจของอิมแจบอมที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกัน ส่วนเด็กชายแบมแบมถึงแม้จะไม่อยากให้พี่เซฮุนถูกล้อเลียนเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอยู่ดี

     

                    ไม่รู้เรื่องพี่เซฮุนจริงเท็จแค่ไหน แบมรู้อย่างเดียวว่าพี่มาร์คเก่งวิชาคณิตศาสตร์และทุกอย่างที่เกี่ยวกับการคำนวณมาก การบ้านของแบมที่มีตัวเลขโผล่มา ส่วนมากที่ทำเสร็จได้ด้วยดี ก็เป็นเพราะพี่มาร์คช่วยสอนทั้งนั้น

     

                    ดีจังเลยน้า พี่แจ๊คสันมีเพื่อนทั้งหล่อทั้งเก่งไปหมดทุกอย่างแบบนี้~

                    เอ้ย แบมคิดอะไรแปลก ๆ ออกไปใช่หรือเปล่า อย่าสนใจเลยนะครับ มันก็เป็นแค่ความคิดที่วนผ่านไปมาอยู่ในหัวของแบมเท่านั้นเอง

     

    “พี่มาร์คคคคคค ข้อนี้แบมไม่เข้าใจอ่ะ เราต้องแบ่งเซ็ทยังไง แล้วมันซ้อนทับร่วมกันแบบไหน ฮื่อ แบมไม่อยากเรียนเลขแล้วพี่มาร์ค แบมจะให้อาจารย์ทุกคนบนโลกปลดวิชาคณิตศาสตร์ออกไป”

                    เด็กชายกันต์พิมุกต์มีความคิดก้าวล้ำนำหน้านักเรียนคนอื่น ๆ อยู่เสมอ

    “ใจเย็น ๆ สิแบม ทำไม่ได้ก็ถาม ค่อย ๆ คิดไป” มาร์คว่า ชายหนุ่มละจากงานของตัวเองเพื่อหันไปอธิบายโจทย์เลขง่าย ๆ ของเด็กม.ปลายปี 1 ให้แบมแบมฟัง

     

                    การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้เห็นเหตุการณ์อย่างอิมแจบอม และแน่นอนว่านักท่องราตรีไม่ยอมเห็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ปลายรองเท้าหนังของแจบอมรีบสะกิดเท้าโอเซฮุนให้หันมาเป็นพยานความน่ารักน่าชังไปพร้อม ๆ กัน

     

                    พวกเขาไม่เคยเห็นมาร์ค ต้วนคนนี้ใส่ใจใครมานานมากแล้ว...

                    มากจนแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาร์คที่เต็มไปด้วยความใจดีเป็นยังไง...

     

                    ผู้ชายเย็นชาเวลาอยู่กับเด็กที่หน้าตาน่าเอ็นดู...จะน่ารักแบบนี้พวกเขาเห็นกันทุกคู่ไหมนะ

                    น่าเสียดายที่แจ๊คสัน หวังไม่ได้มาเห็นภาพน้องชายที่มันบอกว่าหวงนักหวงหนาในเวลานี้ บางทีตอนนี้เขาก็อยากจะสายตรงไปบอกไอ้หวังเหลือเกินว่าไอ้ที่ที่มันคิดปลอดภัยสำหรับน้องชาย บางทีอาจจะเป็นอันตรายกับหัวใจก็เป็นไปได้นะ

     

                    ทั้งหัวใจของเด็กม.ปลาย

                    แล้วก็หัวใจของเด็กวิศวะโยธาปีสามที่กำลังตั้งใจอธิบายคณิตศาสตร์ง่าย ๆ ให้เด็กม.ปลายฟัง

     

                    น้ำแข็ง... อาจจะค่อย ๆ หลอมละลายเพราะความสดใสที่สว่างไสวอยู่รอบตัวของเจ้าชายตลอดเวลาก็ได้

                    ใครจะไปรู้

     

    *

     

    TBC

     

    TALK: ใครจะไปรู้น้อ....

                    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกโหวต ทุกยอดเฟบเช่นเคยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ ><~

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×