ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7fiction] adorable baby { Markbam } / -ลงชื่อรับเงินคืน-

    ลำดับตอนที่ #4 : markbam baby - 3

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 57


    GOT 7 Fiction

    Adorable baby  Mark x Bambam

    By bpuppyy_

    Markbam

    Baby  3

     

     

                   

                    วันนี้เข้ามาหาพี่ที่ภาคนะแบม งานเสร็จเย็น ไปรับที่โรงเรียนไม่ทัน

                    ข้อความจากผู้ปกครองของเด็กชายกันต์พิมุกต์ถูกส่งมาก่อนเวลาเลิกเรียน ปกติแล้วถึงจะมีงานต่อที่คณะ มาร์คก็มักจะเข้ามารับและพาเด็กน้อยเข้าไปนั่งทำหน้าจิ้มลิ้มใต้ตึกภาควิชาโยธา แบมแบมเดาว่าวันนี้งานคงยุ่งมากจนไม่สามารถจะปลีกตัวออกมารับเขาก่อนได้จริง ๆ

     

                    ถ้าเป็นเมื่ออาทิตย์ก่อน แบมยอมรับว่าไม่อยากเข้าไป บรรยากาศคณะพี่มาร์คน่ากลัวชะมัด แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นแล้ว ที่จริงพี่ ๆ ที่เป็นเพื่อนของพี่มาร์คใจดีทุกคนเลยต่างหาก...

     

    “แบม~ ฉันอยากกินหวานเย็นที่โรงอาหารคณะวิดยา ไปกันนะ”

                    ราวกับรู้ว่าวันนี้เพื่อนแก้มป่องไม่มีผู้ปกครองมารอรับ อิลฮุนชักชวนให้เพื่อนชาวต่างชาติเดินไปคณะวิทยาศาสตร์เพื่อร้านขนมหวานอันเลื่องชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเด็กในมหาลัยหรือเด็กโรงเรียนมัธยมในเครือข่ายต่างก็ติดใจร้านที่ว่ากันทั้งนั้น

     

                    แบมก็ชอบ... ตั้งแต่เปิดเทอมมาสองสามอาทิตย์... เพิ่งได้(แอบ)ไปกินอยู่สองครั้ง

     

                    ครั้งแรก... อิลฮุนกับมินฮยอกบอกว่ายังไงก็พลาดไม่ได้ เลยโดนลากไปและกลับมาที่โรงเรียนก่อนพี่มาร์คจะมารับไปเฉียดฉิว

                ครั้งที่สอง... พออิลฮุนรู้ว่าพี่มาร์คจะมารับแบมช้ากว่าปกติ แบมรู้ตัวอีกทีก็ถูกลากมาอยู่ที่หน้าร้านขนมหวานของพี่ลู่หานคนน่ารักไปซะแล้ว

     

                    จุดขายอีกอย่างก็คงเป็นเจ้าของร้านคนนี้ล่ะมั้ง

                    แบมเป็นผู้ชายแบมยังชอบเลยง่า บอกตรง ๆ ว่าพี่ลู่หานน่ารักมากเลย ~

     

    “ไปสิ เลิกเรียนแล้วออกสตาร์ทเลยนะ ใครถึงก่อนคนนั้นจ่ายถ้วยแรก!

                   

                    แล้วคาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของกันต์พิมุกต์ถูกไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป เด็กน้อยตาโตนั่งคุยกับเพื่อน กะเกณฑ์เวลาในการไปนั่งกินขนมหวาน ก่อนที่จะรีบชิงจังหวะวิ่งจากห้องมาทันทีที่อาจารย์ประจำวิชาเดินออกไป

     

                    เมื่อเด็กชายแบมแบมมีของกินเป็นจุดหมาย... ความสามารถในการวิ่งก็ใช้ได้อย่างเต็มสูบอีกครั้ง แน่นอนว่าหวานเย็นถ้วยแรกกันต์พิมุกต์ได้กำไรไปฟรี ๆ

                    แต่ตอนวิ่งมาถึง... พี่ลู่หานที่เห็นเด็กน้อยม.ปลายยืนหอบฮักอยู่หน้าร้านถึงกับแอบหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู

     

    “น้องแบมไม่ต้องรีบวิ่งมาร้านพี่ขนาดนั้นหรอกครับคราวหน้า เดินมาพร้อม ๆ กับอิลฮุน ไม่ต้องแย่งกันไม่จ่ายหรอกน้า เดี๋ยวพี่แอบให้ฟรีก็ได้ แต่อย่าไปบอกลูกค้าคนอื่นนะ เดี๋ยวรู้กันหมดว่าพี่ลำเอียง” หนุ่มหน้าสวยผู้เป็นเจ้าของร้านหวานเลื่องชื่อแกล้งพูด ส่งถ้วยหวานเย็นสีสันสดใสให้กับเด็กชายแก้มกลมที่กลับมาหายใจในภาวะปกติเรียบร้อย ข้าง ๆ กันมีเพื่อนร่วมห้องกำลังหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของพี่ลู่หาน

     

                    ถ้าไม่ติดว่าหน้าหวานจับใจขนาดนี้ อิลฮุนคงคิดว่าพี่ลู่หานกำลังจีบแบมแล้วล่ะ

     

    “ขอบคุณครับพี่ลู่หาน~ ดีใจจัง แบมมาแค่สองครั้งพี่ลู่หานก็จำชื่อได้แล้ว” แบมแบมยิ้มหวาน ดวงตากลมหยีลงจนกลายเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพี่ลู่หานได้อีกครั้ง

     

                    จำไม่ได้ได้ยังไงกัน วันแรกที่เด็กคนนี้มาร้านของเขา ทำเอาลู่หานขำจนน้ำตาแทบจะไหลเพราะเจ้าตัวโฆษณาเกี่ยวกับสารพัดขนมของบ้านเกิด ด้วยการพูดน้ำไหลไฟดับจับใจความแทบไม่ทัน

                    เด็กน้อยมาก... แต่ก็น่ารักมากเหมือนกัน

     

    “ผมไปนั่งก่อนน้า จะทานให้อร่อยเลยครับ!

                    พี่ลู่หานพยักหน้าให้กับเด็กม.ปลาย แบมแบมยิ้มกว้าง ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินออกมาพร้อม ๆ กับพูดจ้อกับอิลฮุนไม่ได้ขาดช่วงขาดตอน เด็กหนุ่มทั้งสองหยุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวยาว โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ช่วงคล้อยบ่ายไม่คึกคักมากนัก มีเพียงแค่รุ่นพี่นักศึกษานั่งอ่านหนังสืออยู่บ้าง เดินลงมาซื้อขนมบ้าง (แว๊บนึงในความคิดตอนแบมมาที่นี่ครั้งแรก อยากเรียนคณะนี้เพราะว่ามีโรงอาหารอยู่ใต้ตึกเลยครับ หิวเมื่อไหร่... ลงมาซื้อกินได้เลย สบาย~) หลายเรื่องราวถูกยกขึ้นมาพูดคุยกันอย่างไม่รู้เบื่อระหว่างเด็กชายกันต์พิมุกต์อิมพอร์ตจากเมืองไทย และเด็กชายอิลฮุนผู้เป็นเจ้าถิ่นแห่งเกาหลี...

     

                    แบมยังมีเวลา... ตอนนี้บ่ายสามโมงตรง พี่มาร์คคงจะโทรเช็คเขาตอนใกล้ ๆ สี่โมง

                    เห็นไหม... แบมกะเวลาเอาไว้ดีแล้วล่ะน้า อยู่กับพี่มาร์คมาตั้งพักใหญ่ ทำไมจะเดาไม่ได้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ พี่มาร์คเดาไม่ยาก(?)หรอก ทำไมถึงไม่ยากเหรอครับ...

                    เพราะพี่มาร์คมีอยู่แค่หน้าเดียวเท่านั้นไง...

                    ไม่ทำตัวเหลวไหล... ก็ไม่โดนพี่มาร์คดุแล้ว... มั้ง

     

    “อยู่กับรุ่นพี่ต้วนเป็นยังไงบ้าง เท่าที่รู้... รุ่นพี่เป็นคนค่อนข้างจะเงียบ... เงียบมาก ๆ” อิลฮุนถาม เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อนึกถึงคำพูดของใครหลายคนที่ยืนยันว่ารุ่นพี่มาร์ค ต้วนคนนั้นเย็นชาอย่างร้ายกาจมากแค่ไหน

     

                    จำได้ว่ารุ่นพี่ที่เป็นถึงดาวมหาลัยเข้าไปสารภาพรักกับรุ่นพี่ต้วน... ปกติคงจะมีถ้อยคำห้วน ๆ หรือคำพูดปฏิเสธที่ถนอมน้ำใจหรืออะไรประมาณนั้นใช่ไหม ไม่เลย มันกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงไปอยู่หลายวัน เพราะรุ่นพี่ต้วนหันหลังให้กับรุ่นพี่อึนจีทันที ทั้งที่เธอยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ...

     

                    เหตุการณ์เกิดขึ้นใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์... ไม่แปลกใช่ไหมล่ะที่ข่าวจะโด่งดังจนเด็กจากโรงเรียนในเครือจะรู้เรื่องตามไปด้วย

     

    “ก็ดีนะ ... ไม่ได้โดนดุ... หมายถึงไม่โดนดุบ่อยเท่าไหร่ ไม่สิ จะพูดยังไงดี หรือแบมชินแล้วไม่รู้อ่ะ พี่มาร์คมีหน้าเดียว จะตอนบ่นหรือดุ... ยังไงก็มีหน้าเดียวอ่ะ เลยไม่รู้สึกกลัวเท่าไหร่ล่ะมั้ง” แบมแบมว่าไปตามที่คิด

     

                    ครั้งเดียวที่เห็นว่าสีหน้าของพี่มาร์คดูน่ากลัวจนไม่กล้าพูดอะไร... คือหลังจากคุยกับรุ่นพี่ที่เขาเพิ่งจะรู้ชื่อในตอนหลัง...

                    รุ่นพี่ซอกจิน

     

    “อ๋อ... เรื่องหน้าเดียวฉันไม่แปลกใจ ตั้งแต่เรียนม.ต้น ถึงจะได้เจอรุ่นพี่ไม่กี่ครั้ง แต่ส่วนมาก... ก็ไม่ค่อยเห็นแสดงอารมณ์อะไรมากนักหรอก ฉันไม่เข้าใจเท่าไหร่ รุ่นพี่ต้วนทนได้ยังไงเนาะ”

                    แบมแบมหัวเราะ เขาเองก็สงสัยไม่ต่างจากเพื่อนเช่นกัน

    “นั่นสิ ทนได้ไง ถ้าเป็นฉันนี่นะ ทำหน้านิ่ง ๆ แบบนั้นทั้งวันคงอึดอัดตาย ที่จริงชีวิตพี่มาร์คควรจะมีสีสันมากกว่านี้จริงไหม ชอบทำหน้าตาเหมือนโลกนี้ไม่มีอะไรตลก ๆ เกิดขึ้นมาเป็นสิบปีแล้ว”

     

                    ทั้งที่สำหรับแบม... อยากจะหัวเราะก็หัวเราะออกมา มันไม่เห็นจะยากตรงไหนเลยนี่นา

     

    “ไม่รู้แฮะ นิสัยส่วนตัวจะห้ามยังไงได้” อิลฮุนสรุป

     

                    เป็นอันว่าเรื่องของรุ่นพี่คนดังถูกตัดจบลงแค่นั้น เรื่องชีวิตด้านอื่น ๆ ของเด็กทั้งคู่ถูกยกขึ้นมาจุดประเด็กอีกครั้ง นั่งคุยกันไปอีกพักใหญ่จนกระทั่งเด็กชายกันต์พิมุกต์รู้สึกว่าร่างกายของเขาต้องการห้องน้ำ...

     

                    ถ้าแบมไม่ได้ชิ้งฉ่องตอนนี้ แบมต้องอดทนเดินไปไม่ถึงคณะวิศวะแน่ ๆ เลยล่ะ รับประกัน

     

    “อิลฮุน ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ ฝากของด้วย แต่ถ้านายจะเดินไปไหนระหว่างนี้ เอากระเป๋าวางไว้นี่แหละ ไม่ได้มีอะไร คงไม่หาย”

                    แบมแบมฝากฝังกระเป๋านักเรียนเอาไว้ อิลฮุนรับคำ ก่อนที่จะบอกให้เพื่อนตากลมรีบไปจัดการธุระให้เรียบร้อย เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสามโมงสี่สิบห้า ถ้าหากแบมช้ากว่านี้ คงได้ถึงวิศวะเกินเวลาที่ตั้งใจเอาไว้แน่ ๆ

     

                    อิลฮุนคิดว่ารุ่นพี่ต้วนไม่ใช่คนใจร้ายหรือเจ้าระเบียบขนาดที่ว่าต้องไปถึงตรงเวลา แต่แบมเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าหากไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรอ

                    (เพราะตอนที่รุ่นพี่ต้วนไปรับแบมครั้งแรก แบมออกมาจากเกทช้ามา ที่จริงยังรู้สึกผิด แต่แบมก็บอกอิลฮุนอีกว่าจะไม่พูดถึงอีกแล้ว กลัวโดนดุย้อนหลัง)

     

                    กันต์พิมุกต์เป็นเด็กที่มีนิสัยน่ารัก... และน่าจับมาตีให้หายหมั่นเขี้ยวในคนเดียวกัน

                    เห็นน่ารักสดใสแบบนั้น... แต่ที่จริงก็แอบแสนสันต์และเอาแต่ใจไม่แพ้ใคร

                    อิลฮุนก็พอจะจับทางได้อยู่หรอกน่า~

     

    *

     

                    เด็กชายกันต์พิมุกต์ไม่คิดว่าเขาจะเจอคนรู้จักระหว่างการมาทำธุระส่วนตัว!

                    ไม่สิ ระหว่างที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปหาอิลฮุนอีกครั้ง เขาไม่ควรจะบังเอิญเจอคน ๆ นี้หรอกจริงไหม...

     

    “รุ่นพี่... ซอกจิน

    “ดีใจที่จำได้นะ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ มากินขนมหวานเหรอ เด็ก ๆ ติดใจร้านพี่ลู่หานอยู่เสมอ”

                    คิมซอกจินอยู่ในเครื่องแบบนักศึกษา สวมทับด้วยเสื้อช้อปสีเลือดหมูอันเป็นสัญลักษณ์ของคณะวิทยาศาสตร์ รุ่นพี่ที่แบมตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่มีทางเสวนาด้วยอีกกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า เด็กชายได้แต่ทำหน้าตาอึดอัดใจ จะให้พูดยังไงล่ะ ในเมื่อพี่มาร์คสั่งไว้ว่าถ้าเจออีก... ห้ามไปยุ่ง

     

                    แล้วแบมจะทำยังไง ต้องใช้ผ้าคลุมล่องหนทางเดียวแล้วมั้งถึงจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้

                    รุ่นพี่ซอกจินยืนดักอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ต่อให้แบมดำดินหายไป ยังไงก็หนีไม่พ้นรุ่นพี่อยู่ดี!

                    เอาไงดีง่ะ แบมแบมควรต้องทำยังไง~

     

    “กำลังคิดถึงคำเตือนของมาร์ค... ที่ไม่ให้ยุ่งกับพี่อยู่หรือยังไง”

     

                    อ้าว... ทำไมรู้

                    แบมแบมมองหน้ารุ่นพี่ด้วยความสงสัย ตากลมกระพริบปริบ ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ อีกสักพักก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร

                    แสดงว่าพี่มาร์คไม่เคยให้ใครยุ่งกับรุ่นพี่ซอกจินเลยเหรอ... ทำไมอ้ะ

     

    “เปล่านี่ครับ ผมแค่กำลังคิดว่าอยากจะเดินกลับไปหาเพื่อนแล้ว แต่รุ่นพี่ยืนขวางทางอยู่ ก็เลยไปไม่ได้สักที งั้นรบกวนรุ่นพี่ช่วยหลบทางด้วยนะครับ ผมมีธุระ ต้องไปหา...”

                    ยังดีที่ว่ากันต์พิมุกต์หยุดประโยคบอกเล่าเอาไว้ได้ทัน แต่ดูเหมือนว่าจะช้ากว่าความคิดของจินที่เดาได้ไม่ยากว่าเด็กผู้ชายคนนี้กำลังจะไปหาใคร

                    ตึกคณะวิทยาศาสตร์กับตึกวิศวกรรม... มันก็ไม่ใกล้ไม่ไกล

    “จะไปหามาร์คเหรอ ถ้างั้นเดี๋ยวพี่เดินไปส่งแล้วกัน กำลังจะไปหา... เพื่อนที่นั่นพอดี”

     

     

                    กันต์พิมุกต์ต้องไปเรียนรู้วิธีปฏิเสธคนให้มันหนักแน่นชัดเจนกว่านี้นะ!

                    กันต์พี่มุกต์ไม่ได้เรื่อง ทำไมถึงปล่อยให้รุ่นพี่ซอกจินเดินตามมาด้วยกันแบบนี้เล่า!

                    กันต์พิมุกต์กำลังจะต้องโดนพี่มาร์คดุแน่ ๆ ... แล้วกันต์พิมุกต์ก็จะต้องเจอกับพี่มาร์คโหมดไม่ปกติ... กลัวง่ะ        

     

    “รุ่นพี่ ที่จริงรุ่นพี่น่าจะเดินไปหาเพื่อน... แบบไม่ต้องรอผมเนาะ” 

                    แบมแบมพูดขึ้นระหว่างทาง เขาพยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงคิมซอกจินสารพัด ทั้งนั่งคุยกับอิลฮุนต่อพักใหญ่ เกือบจะหยิบการบ้านมานั่งทำฆ่าเวลาให้ผู้ชายคนนี้ไปก่อนด้วยซ้ำ แต่พอเหลือบมองนาฬิกา แบมก็ได้แต่ตาโตด้วยความตกใจเพราะมันปาเข้าไปสี่โมงเกือบจะครึ่งอยู่แล้ว

     

                    แน่นอน... อิลฮุนก็ต้องกลับบ้านเช่นกัน ความหวังที่จะให้เพื่อนร่วมห้องเดินร่วมทางไปด้วยกัน... เป็นศูนย์

                    และแน่นอน... รุ่นพี่ซอกจินยังคงเหนียวแน่นอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งแบมต้องจำใจเดินดุ่ม ๆ มาพร้อมกับคนที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ยุ่ง... จนได้

     

                    แบมไม่ผิดนะ!

     

                    อีกอย่าง... คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง พี่มาร์คยังไม่ได้ติดต่อมาหาเขา สงสัยคงเอาแต่ทำงานอยู่แน่ ๆ เลยไม่ได้สนใจว่าแบมจะไปนั่งรอหรือว่านั่งเล่นอยู่ที่ไหน

                    ไม่ได้น้อยใจนะ ชูสามนิ้วด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญเลยว่าไม่ได้น้อยใจ

                    แบมแบมไม่มีสิทธิ์คิดอะไรแบบนั้นได้หรอก... เป็นแค่เด็กที่มารบกวนพี่มาร์ค จะกล้าทำตัวมีปัญหาได้ยังไง...

     

    “ไม่เป็นไร อยากมีเพื่อนคุยตอนเดินไป เพื่อนพี่ไม่ว่างเลยสักคน แบมไม่ใช่เด็กใจร้ายใช่ไหม... แค่เดินไปด้วยกัน มาร์คมันไม่ว่าอะไรแบมหรอก เชื่อพี่สิ”

     

                    อย่ามาคิดแทนคนอื่นหน่อยเลยเหอะ!

                    แบมไม่ใช่เด็กใจร้าย... แน่อยู่แล้วเพราะแบมเป็นเด็กดีเสมอเลยนะ.. .แต่ประเด็นมันใช่เรื่องนั้นที่ไหนเล่า เขาไม่อยากจะผิดคำพูดที่ให้ไว้กับพี่มาร์ค

                    แบมไม่อยากกลายเป็นตัวสร้างปัญหา

     

    “ถ้างั้น... จะรบกวนรุ่นพี่มากไปหรือเปล่าครับ ถ้าเกิดว่าเราจะแยกกันตรงนี้ เพื่อนของรุ่นพี่คงไม่บังเอิญเรียนวิศวะโยธา แล้วก็อยู่ที่ภาคอินเตอร์หรอก... จริงไหมครับ”

                    แบมแบมพูดกับรุ่นพี่ผู้เป็นตัวอันตรายหมายเลข 1 ด้วยน้ำเสียงติดจะเอาแต่ใจ เขาเชื่อมั่นว่าคงไม่มีความบังเอิญขั้นเลวร้ายอยู่บนโลกใบนี้...

     

                    คิมซอกจินก็เช่นเดียวกัน ไม่มีหรอกความบังเอิญที่ว่าจะมาหาเพื่อนที่เรียนอยู่วิศวะคนไหน... มีแต่ความจงใจที่เขาอยากจะอยู่กับเด็กคนนี้ มีแต่ความตั้งใจจะทำให้น้องชายของเขาได้เห็นว่าพวกเราไม่มีทางหนีกันพ้นต่างหาก

     

    “อ๋อ... พอดีว่าคนที่พี่มาหา คนเดียวกับที่น้องแบมกำลังจะไปหาเลยล่ะ บังเอิญดีจัง... เพื่อนรุ่นน้องน่ะ มาร์ค ต้วนเป็นเพื่อนรุ่นน้องของพี่...”

     

                    แบมไม่เคยคิดว่าคน ๆ นี้จะมีนิสัยร้ายกาจแบบนี้เลยนะ!

                    ไอ้รุ่นพี่นิสัยเจ้าเล่ห์ คิมซอกจินนิสัยไม่ดี!

     

    “ถ้างั้นคงมีเหตุผลมากพอให้พี่ไปกับน้องแบมได้แล้วใช่ไหมครับ...”

     

                ไม่พอ!!!!!

                    มันไม่พอแต่แบมห้ามรุ่นพี่ได้ที่ไหนกันเล่า!!!

     

                    คณะวิศวกรรมศาสตร์ในยามเย็นยังคงเต็มไปด้วยนักศึกษา แบมแบมตัวน้อยที่มีสีหน้าบูดสนิทเดินจ้ำเข้าไปยังตึกของภาควิชาโยธา ตามมาด้วยรุ่นพี่ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างที่ยังคงมีรอยยิ้มอารมณ์ดีอยู่บนใบหน้าไม่เปลี่ยนไป

     

    “อ้าว น้องแบม!

    โอเซฮุนเป็นคนแรกที่ได้เห็นน้องชายของเพื่อนร่วมภาควิชาเดินเข้ามา รุ่นพี่ตัวขาวยิ้มกว้างให้กับรุ่นน้องเพื่อเป็นการต้อนรับ แล้วรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสดใสของชายหนุ่มก็กลับกลายเป็นใบหน้าเครียดขรึมลงไปทันที ใบหน้ายียวนเคยคุ้นของรุ่นพี่ที่พวกเขาเคยสนิทสนม...

     

     เซฮุนพอจะเดาได้แล้วว่าทำไมน้องแบมถึงได้เดินเข้ามาในคณะด้วยสีหน้าหงุดหงิดแบบนั้น

    ทำไมเซฮุนจะไม่รู้... คนใกล้ตัวมาร์คทุกคนไม่มีใครยุ่งกับไอ้รุ่นพี่ซอกจิน        

    ยิ่งเป็นเด็กอย่างน้องแบม... ยิ่งไม่ควรยุ่งหรือเข้าใกล้ เด็กที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอ่อนต่อโลกมากแค่ไหน ถึงมาร์คจะไม่เคยพูดว่าเป็นห่วงหรือแสดงท่าทีอะไร แต่หลังจากที่พวกเซฮุนได้รู้ว่าซอกจินเคยเจอแบมแล้ว แถมไอ้รุ่นพี่คนนี้ยังมีเรื่องทิ้งท้ายกับมาร์คอีกต่างหาก

     

    บอกได้คำเดียว... สัญญาณอันตราย

     

    “สวัสดีครับพี่เซฮุน”

                    กันต์พิมุกต์รีบวิ่งเข้ามาหารุ่นพี่ หยุดลงข้าง ๆ เซฮุน จงใจหลบเลี่ยงคิมซอกจินที่เดินตามมาติด ๆ ด้วยการเดินเข้ามาแทรกอยู่ระหว่างรุ่นพี่เซฮุนและรุ่นพี่แจบอมที่ยืนทำงานอยู่ใกล้ ๆ กัน

                    ได้ผลหรือว่าไม่แบมแบมเองก็สรุปไม่ได้ รู้เพียงแค่ว่ารุ่นพี่ซอกจินกำลังทักทายพี่เซฮุนอยู่... ด้วยท่าทางที่บอกได้คำเดียวว่า... กวน...

     

                    อีกครั้งที่แบมต้องย้ำ... เขาไม่ได้อยากว่ารุ่นพี่เลยสักนิดนะ

     

    “ไงเซฮุน งานเยอะเหรอ ไม่ยักรู้ว่าเด็กภาคอินเตอร์อย่างพวกนายต้องมานั่งทำงานอะไรแบบนี้ด้วย”

    “เรียนหนังสือ ก็ต้องทำงานทั้งนั้นแหละครับ ไม่ได้มีเวลาว่างไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น... ไม่ได้ว่างถึงขนาดเอาเวลาไป...”

                    ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้พูดตอกหน้ารุ่นพี่คนเดิมกลับไป เสียงของแจบอมที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นานก็แทรกขึ้นมา

    “อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลยมึง จบ ๆ ไปซะ ยังไงคนอย่างรุ่นพี่คิม... ก็คงคิดมากอยู่แล้ว”

     

                    แบมแบมไม่เข้าใจ... สถานการณ์ที่เรียกได้ว่ามาคุขั้นเลวร้ายตอนนี้

                    ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว

     

    “แล้วนี่มาร์คไปไหนซะแล้วล่ะ ตั้งใจจะมาหาน้องชายคนนั้นโดยเฉพาะเลยนะ น่าเสียดาย... ถ้าหมอนั่นไม่อยู่”

    ดูเหมือนว่าคิมซอกจินจะไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าทั้งเซฮุนและแจบอมจู่โจ่มเขาด้วยคำพูดมากแค่ไหน ไม่ได้สนใจว่าเคยมีความผิดติดตัวที่ทำให้มิตรภาพระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องเปลี่ยนไป

     

    ความเกลียดชังที่เซฮุนและแจบอมมีให้กับซอกจินมากแค่ไหน... คูณไปสิบเท่าร้อยเท่า... คงได้ความเกลียดที่มาร์ครู้สึกกับคิมซอกจิน

                   

    “กูไม่มีเรื่องต้องคุยกับมึง”

    “กำลังอยากเจออยู่พอดี”

                    ซอกจินหันหลังไปหาต้นเสียง แล้วก็ยกยิ้มกว้างราวกับว่ากำลังอารมณ์ดี ทั้งที่มาร์ค ต้วนกำลังมีท่าทางเหมือนอยากจะตะบันหน้าใครสักคน

     

                    คน ๆ นั้นย่อมไม่พ้นคิมซอกจิน

                    คน ๆ นั้นคงไม่พ้น... คนที่ทำร้ายผู้หญิงที่มาร์ครัก... สุดหัวใจ

                    คนที่ทำให้ผู้หญิงของเขาจากไป... เธอไม่มีวันกลับมา  

     

    “มาร์ค มึงพาแบมกลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวเรื่องงานกูจัดการให้ ไม่ต้องอยู่ละ บรรยากาศแย่ชิบ” โอเซฮุนบอกเพื่อน ตามด้วยเสียงสบถหยาบคาย ไม่ไว้หน้ารุ่นพี่ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

     

                    ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือเขตของมหาลัย โอเซฮุนพูดได้เลยว่าเขากับแจบอมจะไม่รอช้า... ไอ้ซอกจินต้องโดนต่อยหน้าให้หายหมั่นไส้... ครั้งเดียวไม่พอด้วย

     

    “เอ่อ พี่มาร์ค ก... กลับบ้านเนาะ แบมกำลังหิวพอดี กลับกันดีกว่า ไปน้า พี่เซฮุน พี่แจบอม แบมกลับก่อนนะครับ เอาไว้ค่อยเจอกันใหม่ วันนี้ยังไม่ได้คุยอะไรเท่าไหร่เลย”

     

                    ทางแก้ไขที่ดีที่สุดสำหรับกันต์พิมุกต์ในเวลานี้คือทำตัวให้เป็นปกติ ถึงเขาจะมึนงงรวมทั้งนึกกลัวสายตาของพี่มาร์คแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มสู้เข้าไว้...

     

                    แบมแบมเดินเข้าไปหาพี่ชายรูมเมท ตั้งใจจะจับข้อศอกของอีกฝ่ายแล้วดึงให้เดินออกไปด้วยกัน แต่ก็ต้องสะดุ้งและรู้สึกตัวชาในวินาทีต่อมา...

     

                    มาร์คสะบัดมือของแบมแบมออกอย่างแรงโดยไม่คิดใส่ใจ

                    ชั่ววินาที... ที่แบมแบมคิดว่าเป็นครั้งแรกที่อยากจะร้องไห้ออกมา...

                    ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย

     

    “ไอ้ซอกจิน มึงจะเอายังไง!!

                    มาร์ค ต้วนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีเด็กบางคนยืนมองเขาอยู่ด้านหลัง คอเสื้อของซอกจินถูกคว้าอย่างแรงพร้อมกับเสียงตะคอกของมาร์คที่ดังลั่นใต้ตึกคณะ แน่นอนว่าหลายคนพากันมองมาด้วยความสนใจ...

     

                    หลายคน... รู้เพียงแค่ทั้งสองเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทสนม

                    หลายคน... รู้เพียงแค่มาร์คและซอกจินมีเรื่องบาดหมางจนเกลียดกันเข้าไส้

                    แต่หลายคนไม่เคยรู้... ว่าสาเหตุมาจากเรื่องอะไร

     

    “เปล่า แค่อยากมาทักทาย พอดีเจอน้องแบมที่คณะ เลยอยากพามาส่ง... ให้ถึงมือนายไง มาร์ค”

    “กูบอกว่าอย่ายุ่งกับแบม!

    “ไม่มีเหตุผลที่กูจะต้องเลิกยุ่งกับน้อง ถ้ากูรู้สึกชอบน้องแบมขึ้นมา...”

                   

                    โอเซฮุนแทบจะต้องติดปีกเข้าไปรั้งเพื่อนเอาไว้ ไม่ต่างจากแจบอมที่วิ่งเข้าไปแยกคนสองคนที่กำลังตั้งท่าจะมีเรื่องกันได้อยู่ตลอดเวลา ถ้าหากเซฮุนมาถึงตัวมาร์คช้ากว่านี้อีกสักนิด เชื่อได้เลยว่าหน้าหนังสือพิมพ์ของมหาลัยต้องมีเรื่องนี้พาดหราอยู่อย่างแน่นอน

     

                    คนดังต่อยกัน สำคัญกว่าหุ่นยนต์ที่ไปแข่งชนะมาจากประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว เชื่อเซฮุนได้เลย

     

    “ไอ้ซอกจิน เลิกยุ่งกับคนของกูซะ”

     

                    ทุกคนที่อยู่ในชีวิตของมาร์ค ต้วน...

                    ทุกคนที่เขารู้จักจะต้องไม่แปดเปื้อนและสกปรกเพราะความเลวร้ายของคิมซอกจิน

     

    “เหอะ ขอฟังอีกรอบได้ไหม... น้องแบม... เป็นคนของมึงงั้นเหรอมาร์ค เรื่องซูจีกูพอจะเข้าใจ แต่เด็กคนนี้ก็เป็นแค่ใครไม่รู้ที่มึงต้องดูแล... ไม่ใช่เหรอวะ”

    “อย่ายุ่งกับแบม ถึงเด็กคนนี้จะเป็นคนอื่น แต่ถ้าแบมต้องอยู่ใกล้กับคนอย่างมึง กูไม่มีทางยอม”

     

                คนอื่น...

                    ยังไงแบมก็เป็นแค่คนอื่นอยู่ดี

                    ไม่ควรคาดหวังอะไรเลยสินะ

     

    “พี่มาร์ค... แบม... อยากกลับบ้าน”

     

                    เสียงเบาหวิวของเด็กคนหนึ่งที่เป็นแค่คนอื่นของมาร์ค ต้วน... จะไปสำคัญอะไร

                    เสียง... ของเด็กคนหนึ่งที่เป็นแค่ภาระของมาร์ค... จะไปมีค่าอะไรถ้าเทียบกับผู้หญิงที่กำลังถูกพูดถึงและสำคัญกับทุกคนมากขนาดนั้น...

     

    “มึงจำเอาไว้นะไอ้ซอกจิน กูไม่มีวันให้แบมไปยุ่งกับคนอย่างมึงแน่ ไม่มีวัน!

     

    *

                   

     

    TALK TALK TALK! :

                    ทำไมอยู่ ๆ ถึงมีเรื่องดราม่าเข้ามา...

                    ตอนนี้ตอนนึงเนาะ หลังจากนี้ไม่เอาดราม่าละ กลัว ฮื่อ ตอนต่อไปเรามาเริ่มภารกิจละลายน้ำแข็งกันต่อดีกว่าเนาะ แหะ ๆ

                    เจอกันตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ โหวต ทุก ๆ อย่างที่ทุกคนให้เรากลับมาเน้อ ><

     

    ***อ่า... ต้องพูดถึงเรื่องตอนที่แล้วเกี่ยวกับโทรศัพท์น้องแบมอีกครั้ง เรายังอายไม่หาย ฮือ เข้าไปแก้แล้วนะคะ ประโยคเดียวปลิดชีพ ทั้งที่มีปมเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์แท้ ๆ แต่กลับให้น้องแบมไม่มีโทรศัพท์ซะงั้น *แกล้งหลับ*

                    ขออภัยในความเลินเล่อของเราครั้งนี้ด้วยนะคะ ฮือ ให้อภัยเราด้วย แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ท้วงติงกันเข้ามาน้า หวังว่าจะไม่หันหน้าหนี(?)เรากันไปก่อนนะคะ ฮา

                    ขอโทษอีกครั้งจริง ๆ ค่ะ T^T

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×