คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : markbam baby - 14 -100%-
GOT 7 Fiction
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 14
มีหลายสาเหตุที่ทำให้แจ๊คสัน หวังนั่งกุมขมับอยู่กับตัวเองในตอนนี้...
จะว่าเครียดมันก็ไม่ใช่ จะว่าหนักใจมันก็ไม่เชิง...
“พี่แจ๊คสัน!”
เสียงเรียกของกันต์พิมุกต์คือตัวช่วยอย่างดีที่ทำให้หวัง แจ๊คสันหลุดออกจากภวังค์ หลังจากที่ผ่านพ้นมื้อเย็นอันพร้อมหน้าพร้อมตามากที่สุด (และวุ่นวายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา) ตอนนี้แบมแบมมานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่คอนโดของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ใช่ครับ ที่นี่คือคอนโดที่น้องแบมแบมควรจะได้มาอยู่ตั้งแต่แรก... รวมไปถึงเป็นที่ที่น้องควรจะได้ย้ายข้าวของมาอยู่อย่างถาวรระหว่างที่ศึกษาต่ออยู่เกาหลีใต้
แต่ปัญหาใหญ่ยักษ์มันอยู่ที่ว่าแจ๊คสัน หวังดันรับปากน้องยองแจไปแล้วว่าตำแหน่งรูมเมทของพี่หวังยังว่าง! เออครับ แก้ใหม่ก็ได้ แจ๊คสันคนนี้เป็นคนที่เสนอหน้าและเสนอตัวไปเชิญน้องยองแจให้มาร่วมห้องเองอ่ะครับ!
แจ๊คเครียดเลย ตอนนั้นมัวแต่อยากอยู่กับน้องไม่คิด จะบอกพี่คุณยังไงวะ แล้วนี่ถ้าจะต้องให้น้องแบมแบมแก้มแตกของพี่ไปอยู่กับไอ้มาร์คต่ออีก โห... กลายเป็นว่าน้องหวังป้อนขนมแสนหวานเข้าปากพี่มาร์คเลยสินะคะ
งานงอกแล้วล่ะ พูดได้คำเดียว...
ซื้อห้องข้าง ๆ แล้วทุบทำห้องติดกันเลยดีไหมวะ แก้ปัญหาโลกแตกไปเลย...
“ว่าไงเรา” แจ๊คสันยิ้มรับ พร้อมกับดึงคอน้องชายแก้มกลมที่ทิ้งตัวลงนั่งยิ้มแป้นอยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาหาตัวเอง “โห อาบน้ำมาซะตัวหอมจนฉุนเลยนะ ครีมอาบน้ำพี่หมดขวดแล้วมั้งน้องแบม”
“ไม่ขนาดนั้นซะหน่อยน้าพี่แจ๊คสัน~ เอ้อ ละเมื่อกี้พี่แจ๊คดูหน้าเครียด ๆ มีเรื่องอะไรคิดมากอยู่หรือเปล่าครับ บอกแบมได้นะ เดี๋ยวแบมช่วยแก้ปัญหา ทุกอย่างต้องมีทางแก้ไข ชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ไปเลย!”
แน่นอนครับน้องแบมแบมของพี่ ทางแก้ไขอ่ะมีแน่ ๆ แต่พี่แจ๊คสันจะต้องโดนเฉ่งและคิดบัญชีจากพี่คุณก่อนอันดับแรกครับ ผิดไปแล้วงานนี้ พี่ยอมรับว่าพี่ผิดจริง ๆ
จะอ้างว่าจำเป็นก็ไม่ได้ละนะ... เออ ผมควรบอกพี่คุณไปตรง ๆ ว่าแจ๊คสัน หวังถึงเวลาจะต้องทุ่มเททุกอย่างให้ความรัก... โอ๊ย ไม่ง่ายเลยครับ อยากจะยกขามาก่ายหน้าผากให้รู้แล้วรู้รอดกันไป พี่คุณคงได้แซะกลับมาว่าแล้วจะรับปากดูแลน้องแต่แรกทำไม
ชีวิตไม่สิ้น ดิ้นหาวิธีการเอาตัวรอดกันต่อไปครับ
“ไม่เป็นไร๊ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” โกหกไปอีก “ว่าแต่เราเหอะ อยู่เกาหลีมาจะสามเดือนนี่โอเคดีใช่ม้ะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรืออยากบอกพี่ไหม ไหนว่ามีเรื่องจะคุยให้ฟังเยอะ มาเลยหนูน้อย พี่มีเวลาฟังทั้งคืน”
แจ๊คสัน หวังรักน้องแบมแบมมากนะครับที่จริง เห็นน้องมาตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ เด็กแก้มกลม ๆ คนนี้มีเรื่องอะไรก็เล่าให้แจ๊คฟังแทบทุกอย่าง มีห่างกันไปบ้างช่วงที่ต่างคนต่างไปเรียน แต่สุดท้ายก็ยังสนิทกันมากอยู่ดี
ย้ำอีกที... ผมรักแล้วก็เอ็นดูน้องแบมมากจริง ๆ นะ แต่แบบ... น้องยองแจจะต้องเป็นรักแท้ที่ฟ้าประทานมาให้ผมอ้ะ ถ้าผมไม่คว้าโอกาสรีบทำคะแนนตอนนี้ ผมจะมีโอกาสทองที่ไหนไปเข้าหาน้องเขาอีก!
พัง บอกได้คำเดียวว่าชีวิตและสมองของน้องแจ๊คสัน หวังกำลังจะต้องพัง
“เรื่องไม่สบายใจม่ายมี พี่มาร์คดูแลแบมดีมากกกกกกก อยู่กับพี่มาร์คสบ๊ายสบาย อยากไปเที่ยวไหน อยากทำอะไรก็ได้ไปหมด ถึงพี่มาร์คจะชอบทำเหมือนไม่อยากไป หรือไม่อยากทำให้ก็เถอะน้า” แบมแบมว่า แจ๊คสันเลิกคิ้วแล้วหัวเราะขึ้นจมูกด้วยรู้ทันถึงนิสัยซึนเดเระระดับโลกของเพื่อนรัก
มาร์ค ต้วนก็เป็นแบบนี้อ่ะครับ มันคงเป็นส่วนนึงที่ทำให้ผมไว้ใจฝากน้องไว้กับมาร์ค แต่ไอ้ที่นอกเหนือจากความคาดหมาย คือมันดันดูแลน้องผมดีเกินไปจนกลายเป็นว่ามันมากกว่าพี่น้องไง ให้ตายสิ น้องหวังถูกคนไว้ใจทำร้ายค่ะ เครียดตรงนี้
แล้วก็เครียดกว่าไอ้ตรงที่ว่า... น้องแบมแบมดูจะไม่รู้ตัวสินะครับ... ว่าตกหลุมรักความซึนของไอ้มาร์ค ต้วนที่แอบขุดกับดักเอาไว้
ต่อให้เอาหลายไอ้โอเซฮุนที่ยังไม่ขึ้นชั้นประถมมาดูอาการ ยังตอบได้เลยครับว่าน้องแบมแบมคิดยังไง
แต่เจ้าเด็กคนนี้คงยังไม่รู้ตัวล่ะมั้ง... อาจจะอยู่กับไอ้มาร์คด้วยการกระทำและชีวิตประจำวันแบบนั้นจนเคยชิน... นี่น้องหวังควรทำยังไง เครียดเรื่องตัวเองก่อนหรือจัดการเรื่องน้องชายให้มันลุล่วงไปได้ด้วยดีก่อนอ่ะครับ สับสนหัวใจไปหมดแล้ว
“ดีละ พี่เป็นห่วงแบมมากนะตอนที่อยู่ฮ่องกงอ่ะ ถึงได้คอยโทรหาโทรเช็คตลอด” แจ๊คสันพูดอย่างจริงจัง ส่วนแบมแบมก็หัวเราะตามด้วยความอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงเรื่องการคุยโทรศัพท์ของพี่แจ๊คสัน
แน่ล่ะ เด็กน้อยคงกำลังคิดถึงเวลาที่พี่มาร์คตัดสาย คุยกันบ่อยก็จริงอยู่หรอกนะ แต่คุยกันได้ไม่เคยเกินสิบห้านาทีเลยสักครั้ง
“พี่มาร์คชอบวางสายจากพี่แจ๊คแบบที่แบมยังไม่ทันได้ตั้งตัว” กันต์พิมุกต์กลั้วหัวเราะ “แบมกะจะขอคุยกับพี่แจ๊คต่อซะหน่อย กลายเป็นว่าหันมาอีกที พี่มาร์คเก็บโทรศัพท์ไปซะละ”
ไอ้มาร์คมันร้าย แกล้งวางเพราะไม่อยากให้น้องคุยกับผมป่ะวะ เดี๋ยวได้เคลียร์แน่ครับมึง
“โคตรนิสัยเสียมันอ่ะ พูดละพี่หวังโมโห” ต้องแสดงท่าทีโกรธครับ เดี๋ยวน้องไม่เชื่อ “แล้ว... แบมจะย้ายมาอยู่กับพี่ตอนไหน”
เริ่มคำถามที่น่าหนักใจที่สุดได้!
ไม่เริ่มตอนนี้ แจ๊คสันก็ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไปเริ่มตอนไหนแล้วครับ ปล่อยให้คาราคาซัง เดี๋ยวก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันพอดี... คุยเสร็จนี่ก็ต้องไปเคลียร์กับน้องยองแจต่อแล้วครับ เอ้า ก็ผมบอกน้องเอาไว้ว่าเดี๋ยวโทรหาไง...
“เอ่อ...” กันต์พิมุกต์อึกอัก เด็กหนุ่มหลบสายตาของพี่ชายที่จ้องมาเพื่อขอคำตอบอย่างลำบากใจ
แบมแบมยังอยากอยู่กับพี่มาร์ค... นั่นคือคำตอบเดียวที่ดังอยู่ในใจ ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าทั้งพี่คุณและพี่แจ๊คสันคงไม่อยากให้ทำแบบนั้น แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อแบมไม่อยากย้ายออกมา...
แบมห้ามใจตัวเองไม่ได้ แบมแบมไม่เคยคิดห้ามความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้...
ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัส ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้ ความรู้สึกที่กันต์พิมุกต์ไม่เคยเป็น... ไม่เคยมาก่อนเลย
“น้องแบมดูไม่ค่อยอยากมาอยู่กับพี่แล้วนะเนี่ย” ที่สุดแล้วก็เป็นแจ๊คสันที่เริ่มทำลายความเงียบขึ้นมา ใบหน้าของคนขี้เล่นยกยิ้มล้อเลียนน้องชายที่กำลังก้มหน้าก้มตา
นี่ไม่ได้พูดหวังผลนะครับ แต่น้องดูจะไม่อยากกลับมา... ซึ่งแบบที่จริงผมก็ลำบากใจ พอจะเข้าใจไหมครับ ใจนึงมันก็ลุ้นอยากให้น้องตัดสินใจอยู่กับมาร์คต่อไป(คือผมไว้ใจมาร์คนะ เฮ้ยผมไม่ได้ไว้ใจเพื่อนง่าย ๆ เดี๋ยวต้องมีการสอบถามรายละเอียดไงครับ) แต่อีกใจนี่ผมโคตรกลัวว่าจะโดยพี่นิชคุณสุดที่รักคิลเอาได้
ยากเย็นพอตัวครับ
“พี่แจ๊คสันก็กำลังจะมีรูมเมทมาอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอครับ?”
โดน ย้อน กลับ มา แบบ ไป ต่อ ไม่ เป็น เลย ครับ กู
“เอ่อ... ก็แบบว่า...”
“เมื่อตอนเย็นที่คุยโทรศัพท์ แบมก็ได้ยินพี่แจ๊คคุยกับใครสักคนนี่นา” แบมแบมถาม “พี่มาร์คยังถามแบมเลยว่ารู้เรื่องพี่แจ๊คสันไหม แต่แบมก็ไม่รู้อยู่ดี...”
อย่ามาจ้องพี่ตาใส ๆ แบบนั้นครับน้องแบม เมื่อกี้ยังไม่วกเข้าประเด็นนี้กันเลยนะ ทำไมอยู่ ๆ มาเข้าเรื่องรูมเมทได้วะครับ ผมควรจะต้องไล่ต้อนน้องแบมสิ ไม่ใช่ถูกไล่ต้อนถามแบบนี้
“คือ... จะพูดยังไงดีอ่ะน้องแบม”
“พี่แจ๊คสันก็พูดมาตรง ๆ ไงครับ แบมบอกแล้วว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้งายยยย ไม่ต้องคิดมากหรอกพี่แจ๊ค”
นั่น... ยิ้มตาหยีใส่พี่อีกเด็กคนนี้ เมื่อกี้ยังทำท่าคิดมากอยู่เลยนะ
ร้ายว่ะ น้องใครวะ ทำไมถึงได้มีรัศมีความร้ายกาจออกมาอย่างไม่น่าให้อภัย...
ไอ้มาร์ค มึงแอบทำให้น้องกูเป็นคนร้ายกาจใช่ไหม! เดี๋ยวเหอะมึง อย่าให้กูได้เจอหน้าอีกครั้งนะ จะจับมาสัมภาษณ์และสอบปากคำอย่างละเอียดและถ้วนถี่ อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้ พี่หวังคนนี้มีอิมแจบอมและโอเซฮุนเป็นลูกน้องผู้ภักดีนะเว้ย!
(ไปกันใหญ่แล้ว... คิดว่าสองคนนั้นจะสามารถช่วยอะไรได้มากไหม... แจ๊คสัน หวังต้องคิดให้หนัก ๆ ดูอีกที)
“มาร์คแอบฝากน้องแบมมาถามปะเนี่ย”
“แล้วทำไมต้องพี่มาร์คฝากมาด้วยอะครับพี่แจ๊คสัน แบมอยากรู้เองไม่ได้เหรอ พี่แจ๊คสันคิดว่าแบมจะไม่สนใจพี่แจ๊คเลยเหรอครับ จะน้อยใจแล้วนะ...” แค่คำพูดไม่เท่ากับการกระทำครับ น้องกันต์พิมุกต์ของพี่หวังเบ้ปากลงโดยทันทีเมื่อพูดประโยคตัดพ้อจบลง
โอย ได้โปรดเถอะน้องแบม น้องก็รู้ว่าพี่ทั้งรักทั้งแคร์น้องแค่ไหน จะตอบไปตามความจริงเดี๋ยวนี้เลยจ้า
“โอเค ๆ แบม พี่ยอมแล้ว จะเล่าให้ฟังแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจดวงน้อย ๆ ของพี่หวังคนนี้...”
กล้าพูดไหมหัวใจดวงน้อย ๆ ...
แล้วเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับชเวยองแจที่แจ๊คสัน หวังได้เกิดอุบัติรักขึ้นในฮ่องกง ก็ถูกส่งตรงผ่านปากของชายหนุ่มให้น้องชายตัวน้อยได้รับรู้เรื่องราว โดยละเอียดถ้วนถี่ ...
“โหย! พี่แจ๊คสันโคตรไวไฟ! ทำไมพี่ถึงได้กล้าลุยดะจีบพี่ยองแจขนาดนั้นน้า”
“เบา ๆ ครับเบา ๆ” ยักคิ้วให้น้องไปอีกสักที “ก็พี่ไม่ใช่พวกร้ายเงียบอย่างไอ้มาร์ค”
แบมแบมเลิกคิ้ว ก่อนจะขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าพี่มาร์คเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง...
โถ... น้องแบมของพี่หวัง ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
“แบม... ตอนนี้พักเรื่องที่พี่เล่าเอาไว้ก่อนนะ พี่ว่าเรื่องพี่กับยองแจมันไม่น่าคิดมาก... เท่าเรื่องแบมกับไอ้มาร์ค”
แจ๊คสัน หวังมีคติอื่น ๆ นอกจากตื้อเท่านั้นที่ครองโลกแล้วนะครับ...
คติที่ว่าอยากรู้อะไรให้ยิงคำถามไปตรง ๆ เท่านั้น... แล้วมันจะดีเองครับท่านผู้ชม แค่ทำให้เรื่องทุกอย่างกระจ่างขึ้นและแก้ไขอย่างตรงจุด ตรงใจ ...
เชื่อมือน้องแจ๊คได้เลย... อีกไม่นานทุกอย่างจะต้องจบลงแบบสวยงาม หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง(?) มาร์คมันปากแข็งนักใช่ไหม ได้ครับ เดี๋ยวพี่หวังจัดให้!
งานรื้อฟื้นต้องมา!
“คือ...”
“แบมเป็นน้องพี่นะ แล้วพี่ก็ทั้งรักแล้วก็เป็นห่วงแบมมาก ที่พี่ถาม พี่ไม่ได้จะห้าม ไม่ได้จะว่าอะไรทั้งนั้นด้วย แค่แบมบอกพี่มาตรง ๆ ว่าตอนนี้แบมคิดยังไงกับไอ้มาร์ค...”
ส่วนเรื่องพี่คุณนี่... เดี๋ยวค่อยว่ากันนะครับพี่ ปัญหาต้องเคลียร์ไปทีละอย่าง (ถ้าหวังเคลียร์ไม่ได้ หวังจะส่งให้ไอ้มาร์ค ต้วนไปขอขมาพี่คุณแล้วก็ขอน้องชายอย่างเป็นทางการเองแล้วกันนะครับ เข้าท่าเนอะ ผมก็ว่างั้น)
“แบมก็ไม่รู้...”
แบมไม่รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างแบมกับพี่มาร์คมันคืออะไร...
แบมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความรักอย่างที่เคยได้ยินใคร ๆ พูดถึงได้หรือเปล่า...
แบมไม่เคยมั่นใจ...
ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น...
“งั้นถ้าหากว่าพี่บอกแบม... ว่าไอ้มาร์คมีคนที่มันรักอยู่แล้ว แบมจะว่ายังไง...” แจ๊คสัน หวังถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเพียงแค่เขาได้เห็นดวงตาไหวหวั่นของน้องชายเท่านั้น เขามั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ว่าความรู้สึกของแบมแบมคืออะไร
ความรัก... เล่นตลกกับเด็กผู้ชายคนนี้เข้าซะแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่มาร์ค เป็นปัญหาของมาร์คที่จะต้องแก้ไขเรื่องทั้งหมดให้มันเข้าที่เข้าทาง ถ้าหากว่าผ่านเรื่องนี้ไปได้ ถ้าหากว่าเพื่อนรักของเขาแค่พูดตรง ๆ ออกมา
ทุกอย่างจบ... แจ๊คสัน หวังสัญญาด้วยใบหน้าหล่อ ๆ เลยว่าจะช่วยพี่มาร์คขาทุกวิถีทางให้ได้อยู่กับน้องแบมแบมไปนาน ๆ
ม...หมายความว่ายังไง... ในสมองของกันต์พิมุกต์มีเพียงประโยคนี้วนเวียนอยู่เท่านั้น
“อ... อะไรนะครับ”
“มาร์คมีคนที่มันรักอยู่แล้ว มันไม่เคยบอกแบมเรื่องนี้ใช่ไหม...”
ไม่เลย...
พี่มาร์คไม่เคยบอกแบมเลย... ว่ามีใครอยู่ในใจ...
แบมไม่เคยรู้อะไรที่เกี่ยวกับพี่ชายคนนั้นเลย... แม้แต่นิดเดียว
*
มาร์คเพิ่งจะรู้ว่าการตื่นเช้าโดยไม่ต้องเดินไปเคาะประตูห้องของแบมแบม มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ได้มากขนาดนี้...
ยอมรับว่าเขาเคยชินกับการมีน้องของแจ๊คสันอยู่ด้วยในทุก ๆ วัน
ยอมรับ... ว่าบางทีเขาอาจจะใช้ชีวิตได้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถ้าให้ไม่มีแบมแบมมาคอยพูดแจ้ว ๆ อยู่ข้างตัวให้ฟังตลอดเวลา
เหมือนกับตอนเช้าของทุกวัน มาร์คนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโดยมีกาแฟหนึ่งแก้ววางอยู่ข้าง ๆ แตกต่างจากวันอื่น ๆ ไปตรงที่ไม่มีมื้อเช้าวางรออยู่ที่โต๊ะเท่านั้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมี... ทั้งที่แบมแบมเพิ่งจะเข้ามาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
เขารู้ตัว... ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
“ให้ตายสิ” เปรยเบา ๆ กับตัวเองเมื่อเขาดูเหมือนจะไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสืออีกต่อไป ชายหนุ่มวางหนังสือลงข้างแก้วกาแฟ ก่อนที่จะหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่ใกล้ ๆ กันขึ้นมาเพื่อโทรหาแจ๊คสัน หวังตัวสร้างปัญหาของโลกนี้
ปัญหาที่ว่ามันดูจะใหญ่เกินกว่าที่มาร์คคิดเอาไว้... ปัญหาที่ขึ้นตรงกับเรื่องความรู้สึกและจิตใจ...
‘พระเจ้า! โลกจะต้องเกิดภัยพิบัติอะไรสักอย่างกับการที่มาร์ค ต้วนเป็นฝ่ายโทรศัพท์หาน้องหวังก่อนนะคะ’ ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากทักทาย เสียงตื่นเต้น(เกิดความเป็นจริง)ของหวังแจ๊คสันก็ดังกวนประสาทมาก่อนเป็นอันดับแรก
“จะให้กูไปรับแบมหรือมึงจะไปส่งแบมเอง” มาร์ค ต้วนก็ยังคงเป็นมาร์ค ต้วนคนเดิม ชายผู้ประหยัดถ้อยคำ(กับเพื่อนฝูง)ถาม ลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าและของจำเป็นเพื่อจะเตรียมตัวเดินทางไปมหา’ลัยในเช้าวันนี้
ไม่เคยชินไปแล้ว... ไม่เคยชินกับเช้าที่ไร้เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กแก้มป่องที่ต้องชวนเขาคุยจนแทบจะหาช่องว่างไม่ทัน
‘หวังไปส่งเองค่ะพี่มาร์ค ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวจะไปส่งน้องแบมให้ถึงหน้าโรงเรียนเลย แหม่! น้องชายผมทั้งคนนะครับมาร์ค ไม่ต้องห่วงน่า มึงไปเรียนได้เลยครับวันนี้ แต่...”
มาร์คเลิกคิ้ว ถึงจะไม่ปฏิเสธว่าหงุดหงิดเล็ก ๆ กับการได้ยินสิ่งที่แจ๊คสันบอก แต่เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงอาการอะไรให้มากความ แบมเป็นน้องแจ๊คสัน ไม่แปลกที่มันจะอยากดูแลให้ดีในแบบของมันบ้าง อีกเหตุผลของมาร์ค...
ยังไงตอนนี้... แบมแบมก็ยังอยู่กับเขาอยู่ดี
อีกอย่าง... ท่าทางแจ๊คสันอาจจะไม่ได้มีพื้นที่ไว้ให้น้องชายสุดที่รักแล้วล่ะ จริงไหม?
“แต่อะไร” หลังจากที่เพื่อนจอมวุ่นวายเงียบหายไปนาน มาร์คจำเป็นต้องย้ำถามอีกครั้งว่าประโยคขัดแย้งที่จะตามมาคืออะไร
คงหนีไม่พ้นแจ๊คสัน หวังมีธุระจะต้องไปจัดการ ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกที่มาร์คกำลังดีใจที่เพื่อนรักมีธุระพอดิบพอดี
‘เย็นนี้กูไม่ว่าง... แน่ะ กูรู้นะว่ามึงกำลังยิ้มไอ้ต้วน’ ดักทางไปสักทีให้พี่มาร์คเขารู้นะครับว่าน้องหวังรู้ทัน ‘มึงรับน้องกลับไปกะมึงด้วยแล้วกัน เดี๋ยวยังไงเรื่องย้ายคอนโดค่อยว่ากันอีกที’ ย้ายแน่ ๆ ในกรณีที่มึงไม่เลิกซึนเดเระนะไอ้พี่มาร์ค
ย้าย?
“อืม งั้นแค่นี้นะ”
ถึงจะอยากถามมากกว่านั้น ทว่ามาร์คเลือกที่จะตัดสายจากแจ๊คสัน หวังและเดินตรงไปยังมินิคูเปอร์พร้อมกับความคิดหลายอย่างที่ตีกันอยู่ตอนนี้
ยอมรับแต่โดยดี... มาร์คกำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้เขาได้อยู่กับแบมแบมต่อไป...
เขาเกือบลืมไปแล้ว... ว่าการที่หัวใจเต้นแรงและร้อนรุ่มเพราะกลัวความสูญเสียมันเป็นยังไง เขาเกือบลืมไปแล้วว่าความรู้สึกหวงแหนสิ่งสำคัญมันเป็นแบบไหน...
ถ้าหากไม่มีแบมแบมเดินเข้ามาในชีวิต... มาร์คอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ออกมาจากหัวใจ... มันเป็นอย่างไร...
ประติมากรรมน้ำแข็งที่ใครต่อใครคิดว่าไม่มีทางและไม่มีวันจะหลอมละลาย... กลับกลายเป็นเพียงสายน้ำที่ไหลเอื่อยอยู่รอบกายนายช่างตัวน้อย...
ประติมากรรมที่แปรเปลี่ยนสภาพด้วยฝีมือนายช่างแสนสดใส
มาร์ค ต้วนยอมรับ... เขาตกหลุมรักเด็กผู้ชายที่เดินเข้ามาในชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัว... เข้าแล้วจริง ๆ
*
“เอ้า! ไหนไอ้มาร์คบอกว่ามึงไม่ว่างไงไอ้หวัง” โอเซฮุนส่งเสียงถามเพื่อนสนิทที่กำลังเดินหน้าแป้นเข้ามาในร้านของเพื่อนสนิทอีกคน (บอกว่าร้านของแจบอมก็ได้มั้ง ไม่น่ายาก) “แล้วนี่มึงโผล่หัวมาร้านไอ้จอบอได้ไง สตรอเบอรี่อีกแล้วนะมึง!”
จี๊ดใจหวังจริง ๆ นะครับไอ้คำว่าสตรอเบอรี่เนี่ย...
“สตรอบ้านมึงสิไอ้โอ!” แจ๊คสัน หวังยอมไม่ได้ “กูไม่ว่างเมื่อตอนเย็นไง ไปทำธุระมา ไม่ว่างจริงจริ๊ง ตอนนี้ไม่เย็นแล้ว นี่บ้านเรียกหัวค่ำ ทุ่มสองทุ่มสามทุ่มงี้ แล้วพอสี่ทุ่มเข้าห้าทุ่มหรือเที่ยงคืนขึ้นไปจะเรียกว่าดึกดื่นค่ำคืน เข้าใจไหม!”
จ้า โอเซฮุนผิดเอง ไม่รู้เรื่องเลยเนาะ แค่นับเวลายังนับผิดเลย
“แล้วตกลงมึงมาทำไมวะ” หลังจากเบ้หน้าและขมุบขมิบปากกระแหนกระแหนเพื่อนรัก (อยู่ในใจ) เซฮุนโอก็ถามในสิ่งที่ค้างคาอีกครั้ง
มันมาทำไมวะ นี่ผมยังงงนะครับ ตกลงว่ามันจะให้น้องแบมอยู่กับมัน หรือมันจะทำตัวร่อนเร่พเนจรเป็นคนไร้น้องชายอยู่อย่างนี้ นี่เห็นไอ้มาร์คก็ต้องคอยดูแลน้องแบมอยู่ดีอ้ะ
แผนการของไอ้หวังแน่นแน่ แหม่ ตอนนั้นทำเป็นถามพวกผมว่าไอ้มาร์คจะชอบน้องมันจริงไหม อยากได้ไอ้มาร์คเป็นน้องเขยแล้วจะได้โขกสับสินะ ไอ้หวังแจ๊คสัน มึงมันไม่รักเพื่อนจริง!
(ใครก็ได้... ช่วยทำให้โอเซฮุนเลิกคิดไปไกลสักที ต้องหยุดความคิดของผู้ชายคนนี้เอาไว้...)
“คิดถึงพี่เซฮุน น้องหวังเลยมาหา”
“ถุย! หยุดไปเลยนะ อย่ามาทำแบบนี้ ขนลุก ชีวิตกูต้องการแค่ลู่หานเท่านั้นเว้ยที่จะมาพูดแบบนี้ด้วยได้ ส่วนมึงอ่ะกลับโรงพยาบาลไปได้ละ ลืมบอกไปเลย หมอเค้าโทรตามมึงหลายรอบละเนี่ย!”
“กูไปมึงก็ต้องไปม้ะ ไปด้วยกันนี่แหละ เอาเจ้าของร้านขนมหวานไปด้วย เค้าจะได้ทำใจยอมรับว่ามีอนาคตแฟนเป็นคนสติไม่ดี โอเค้?”
บทสนทนาของคนทั้งสองอาจจะเพี้ยนและแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่านี้ ถ้าหากว่าไร้สุภาพบุรุษนามว่าอิมแจบอมเดินเข้ามาร่วมวง
“อะไรของพวกมึงกันวะ จะกัดกันในร้านกูเหรอ” แจบอมถามขำ ๆ เขาชินกับการได้เห็นทั้งหวังแจ๊คสันและโอเซฮุนทำตัวเป็นคนสติไม่เต็มแบบนี้อยู่แล้ว
ส่วนผมอ่ะนะ ก็ดูดีพอควรอ่ะครับ ยิ่งวันนี้มาในฐานะหุ้นส่วนของร้าน ยิ่งดูหล่อมากเข้าไปใหญ่...
“กัดหน้ามึงคนแรกอ่ะ!” พูดพร้อมเพรียงได้ใจความอย่างครบถ้วน ความสามัคคีของแจ๊คสันและเซฮุนคือพัง ไม่ได้ฟังผิดครับ สองคนนี้สามัคคีกันมันคือความพัง อย่างน้อยก็ประสาทของแจบอมเนี่ยแหละที่จะพัง “นั่งลงดิ๊ เต๊ะท่าอยู่นั่นมึงอ้ะ เร็ว กูจะได้พูดให้ฟังทีเดียว” แจ๊คสันออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
โห... ไม่ต้องบอกเลยว่าอิมแจบอมและโอเซฮุนตั้งหลักว่องไวแค่ไหน นั่งเข้าที่เข้าทางพร้อมจดจ้องไปยังแจ๊คสัน หวังอย่างพร้อมเพรียงทีเดียวเชียวล่ะ
คงรู้กันดี... ไม่พ้นเรื่องพี่มาร์ค ต้วนอยู่แล้วล่ะครับ
“เรื่องน้องแบมกับไอ้มาร์ค”
“เออ กูรู้น่า ข้ามขั้นไปเลย มึงมีอะไรจะเล่าให้พวกกูฟัง”
แจ๊คสันเบะปาก ไม่อยากจะบอกว่าหมั่นไส้ไอ้พวกเพื่อนจอมรู้ทันพวกนี้ซะจริง ๆ เชียว
“เมื่อวานกูคุยกับน้อง... กูมั่นใจโคตร ๆ ว่าน้องอ่ะชอบไอ้มาร์คแน่ ตกหลุมรักแบบจริงจัง แล้วทีนี้...”
รีแอคชั่นของสองเพื่อนรักอย่างแจบอมและเซฮุนคือหรี่ตาก้มหน้าฟังอย่างตั้งใจ...
“กูเลยถามแบมไป... ว่ารู้ไหม... ไอ้มาร์คมีคนที่มันรักอยู่แล้ว...”
“เวรกรรม! มึงพูดบ้าอะไรให้น้องมึงฟังวะไอ้แจ๊ค!” เซฮุนตะโกนขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ไม่ต่างจากแจบอมที่รีบสมทบต่อทันที“เออ ไอ้เชี้ย น้องมึงคิดมากไปไหนต่อไหนแล้วมั้ง ก็กูบอกแล้วไงว่าอดีตก็ทิ้งไว้เรื่องอดีตดิวะ ไอ้มาร์คมันอาจจะลืมไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันรัก...”
“เชี่ย ฟังกูก่อนดิ ก็นี่ไง ถ้ามาร์คมันรู้ว่าแบมคิดมาก หรือถ้าแบมพูดอะไรออกไปตามประสาเด็ก ๆ ที่อาจจะอยากรู้เรื่องใช่ไหม...”
แจ๊คสัน หวังคิดว่าแผน(?)ที่คิดขึ้นมาลวก ๆ ของเขามันอาจจะสำเร็จก็ได้นะ
กระตุ้นไง เอาเรื่องในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตมายำรวมกัน (ที่ทำพูด ๆ ดีไป ผมมั่วทั้งนั้นอ่ะ คือแค่อยากให้ความรู้สึกของน้องแบมแบมแล้วก็ไอ้มาร์คมันชัดเจนสักที)
“ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับไอ้มาร์คแล้วป่ะ ว่ามันจะบอกน้องยังไง ถ้ามันรักน้อง มันก็ต้องอธิบายหรือพูดอะไรเพื่อแสดงความมั่นใจออกมา”
“เกือบฉลาดละ... แล้วถ้ามันไม่ยอมพูดอะไร หรือไอ้แผนการของมึงนี่ดันไปสะกิดใจให้มันคิดถึงเรื่องเก่า ๆ มึงจะทำยังไงฮะ ฟาย แทนที่จะได้จบสวย ๆ”
เป็นคำถามที่นับว่ามีสมองเป็นเลิศมาก... ขอลุกขึ้นปรบมือให้กับโอเซฮุนดัง ๆ เลยครับ จากอิมแจบอม
“ก็ถ้ามาร์คมันทำให้น้องกูเสียใจ กูก็ให้น้องกูกลับมาซบไหล่กูดิวะ”
“โอเค ตามนั้นนะ งั้นเอาใหม่ เชื่อเซฮุนโอกับพี่จอบอหัวโตได้เลย กูวางพนันอย่างจริงจัง ห้าแสนวอนสำหรับการเดิมพันว่าไอ้มาร์คมันรักน้องมึง ถ้ามันไม่รักนะ กูยอมจ่ายอ่ะ คูณสองเลยสัส น้องเซฮุนมั่นใจมั่กมั่ก”
“อ้าว อะไรของมึงวะไอ้โอ ก็ไหนเมื่อกี้มึงยังกลัวมันจะนึกถึงเรื่องเก่า ๆ ไงวะ”
“ไอ้สัส ก็ตอนนี้กูไม่คิดแล้วอ่ะ ใช่ไหมวะแจบอม”
อิมแจบอมยักไหล่ส่งท้าย
ก็คิดและตัดสินใจแทนกูคนนี้ไปหมดแล้วนี่ครับ จะเหลือช่องว่างอะไรให้แทรกกลางทางความคิดไปได้อีก...
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับมนุษย์หน้าเดียวอย่างมาร์ค ต้วนแล้วนะครับ ว่ามันจะเลิกซึนเดเระแล้วทำตามหัวใจของมันได้หรือยัง แสดงออกขนาดนั้น ถ้ายังไม่ยอมรับแล้วพูดออกมาตรง ๆ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วจริงไหม...
*
แบมแบมรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่สามารถทำตัวปกติเวลาอยู่ต่อหน้าพี่มาร์คได้เลย...
รู้ตัวว่านอกจากนั่งเฉย ๆ อยู่บนรถก็แทบจะไม่ได้ชวนอีกฝ่ายคุย มันผิดปกติมากจนกระทั่งถูกอีกฝายถามขึ้นมาหลังจากที่เข้ามานั่งนิ่ง ๆ อยู่ในห้องเรียบร้อย
“แบม ไม่สบายหรือเปล่า” มาร์คนั่งลงข้าง ๆ เด็กแก้มกลม คำถามที่แสดงถึงความเป็นห่วงยังไม่ชัดเจนเท่าสายตาเป็นกังวล รวมทั้งมืออุ่น ๆ ทีแนบลงบนหน้าผากของแบมแบมอย่างแผ่วเบา
แบมไม่ได้เป็นอะไร... แบมแค่ไม่รู้จะทำตัวยังไงดี...
“ไม่เป็นอะไรครับ”
มาร์คถอนหายใจ คำตอบที่มาพร้อมกับการหลบสายตาทำให้เขารู้ว่าเด็กคนนี้กำลังโกหกอย่างไม่แนบเนียนเลยสักนิด เขาไม่รู้ว่าแบมเป็นอะไร และสิ่งที่เขาต้องทำคือรู้ให้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร
เรื่องที่แบมแบมไม่สบายใจ... ถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขา เขาพร้อมที่จะแก้ไขและอธิบายทุกอย่าง
“แบมแบม เป็นเด็กโกหกไม่ดีเลยนะ เป็นอะไรครับ บอกพี่ตรง ๆ สิ ไม่งั้นพี่จะรู้ได้ยังไง...”
ทั้งคำถาม...
ทั้งสายตา...
ทั้งน้ำเสียงนุ่มทุ้มอบอุ่นที่ถามขึ้นมาแบบนั้น...
“ถ้าแบมพูดกับพี่มาร์ค... สัญญาก่อนได้ไหมว่าพี่มาร์คจะไม่โกรธ แล้วเราก็จะเป็นเหมือนเดิม จะไม่มีเรื่องน่าอึดอัดใจเกิดขึ้นระหว่างเรา ได้ไหมครับ”
กลัว... แบมแบมก็แค่กลัวว่าถ้าหากถามออกไป... ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
แบมแบมไม่รู้ว่าระหว่างตัวเขากับพี่มาร์คตอนนี้... พวกเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหน ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกและสิ่งที่เกิดขึ้นกับหัวใจ เขาควรจะจัดการอย่างไร... อาการหัวใจบีบรัดและเต้นรัวจนน่ากลัวแบบนี้... แบมแบมควรจะต้องทำยังไง
ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
“อืม”
เพียงคำเดียวสั้น ๆ จากมาร์คเท่านั้น
มาร์ค ต้วนเป็นคนรักษาสัญญา... เมื่อเขาพูดคำไหน นั่นย่อมหมายความว่าเขาจะทำให้ได้ตามนั้น
“พี่มาร์ค... มีคนที่พี่รักอยู่แล้วใช่ไหมครับ...”
แบมแบมกลั้นใจถามคำถาม ดวงตากลมใสที่เคยหลบเลี่ยงสายตาของมาร์คทำใจแข็งจดจ้องนัยน์ตาคู่คม ค้นหาคำตอบที่ทำให้เขาสงสัยและคิดครวญคำตอบมาตลอดทั้งวัน
ถ้าหากว่าพี่มาร์คมีใครบางคนที่ทำให้รักอยู่แล้ว... พี่มาร์คจะรู้ไหมว่าการทำให้แบมแบมรู้สึกตกหลุมรัก มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด
แบมแบมกำลังตกหลุมรัก... แล้วมันก็ลึกมากจนหาทางออกไม่ได้ เต็มไปด้วยความสับสน ไม่มั่นใจกับอะไรสักอย่าง พยายามปฏิเสธหัวใจหลายครั้งว่ามันเป็นความรู้สึกที่ไม่ต่างกับพี่ชายทุกคน ไม่ต่างกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามา...
แต่ไม่เลย แบมรู้อยู่กับใจว่าพี่มาร์คแตกต่างออกไป...
ต่างจากทุกคนในโลกใบนี้
“ใครบอกแบม แจ๊คสันบอกเหรอ?”
“พี่มาร์คห้ามถามแบมกลับสิครับ! แบมถามก่อนนะ!” เด็กน้อยจอมเอาแต่ใจเถียงกลับ กันต์พิมุกต์ตกอยู่ในสภาวะกดดันทว่าก็ยังแอบเอาแต่ใจจนมาร์คหลุดยิ้มออกมา
เด็กน้อยจริง ๆ เลยนะ... เด็กน้อยของมาร์ค
“แล้วแบมอยากรู้ไหมล่ะว่าคน ๆ นั้นคือใคร”
อยาก...
“นั่งนิ่ง ๆ แบบนี้พี่ตีความไม่ได้หรอกนะแบม...” มาร์คว่า ชายหนุ่มยิ้มบางให้กับเด็กแก้มกลมที่เริ่มจะขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสับสนอีกครั้ง
ที่ผ่านมาเขาผิดเองที่ทำให้ทุกอย่างไม่ชัดเจนแบบนั้น
ที่ผ่านมาเขาผิดเอง... ที่ทำตัวให้ความหวังแต่กลับไม่เคยพูดอะไรให้แบมแบมได้คิดหรือมั่นใจ
ที่ผ่านมา... มาร์คอาจจะเคยคิดถึงคน ๆ หนึ่งที่เคยรักสุดหัวใจ
ผู้หญิงที่เขาเคยรัก... คนที่หัวใจยอมรับแล้วว่าเป็นเพียงแค่อดีตและผ่านพ้นไป
มาร์คเคยรักเบซูจีมาก... ทว่าความรู้สึกพวกนั้นมันเลือนรางจางหายไปจากหัวใจเข้าหมดแล้ว ค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อม ๆ กับความรู้สึกตกหลุมรักเด็กคนหนึ่งที่เดินเข้ามา...
“แบมอยากรู้ พี่มาร์คบอกแบมได้ใช่ไหมครับ...”
“ได้สิ ถ้าแบมอยากรู้เดี๋ยวพี่จะบอกแบมนะ...”
“แล้วพี่มาร์คไม่อยากไปอยู่กับคนรักของพี่มาร์คเหรอครับ แบมเคยเจอไหม แล้ว...”
“ชู่ว...” มาร์คยกนิ้วชี้ขึ้นชิดริมฝีปากของเขา ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นว่าเด็กแก้มกลมเงียบเสียงลงไปทันที “แบมหลับตาสิ แล้วเดี๋ยวพี่จะพาไปให้รู้จัก อาจจะน่าตกใจไปสักหน่อย”
แบมแบมคงจะตกใจ...
แล้วมาร์คคิดว่าแจ๊คสัน หวังที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาก็อาจจะตกใจกับคำตอบของเขาก็ได้
กันต์พิมุกต์ที่ยังขมวดคิ้วแน่นค่อย ๆ หลับตาลงตามคำของมาร์ค แล้วเด็กแก้มกลมก็ต้องคลายปมคิ้วออกด้วยเพราะนิ้วของพี่ชายจำเป็นจิ้มลงไปอย่างจงใจ
พร้อมด้วยเสียงหัวเราะขบขัน... แบมแบมคิดว่าช่วงหลังมาเขาได้ยินเสียงพี่มาร์คหัวเราะบ่อยมากเกินไปแล้วนะ แถมยังเป็นการหัวเราะแบมอีกต่างหาก!
เดี๋ยวแบมก็จิ้มตาซะเลยนี่!
“ห้ามแอบโกงแล้วเปิดตานะ” มาร์คย้ำ ชายหนุ่มปัดมือไปมาหน้าคนเด็กกว่า ยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทำตามคำสั่งเป็นอย่างดี
แต่ไว้ใจไม่ได้... เพราะฉะนั้นมาร์คก็เลยต้องปิดดวงตาทั้งสองข้างของเด็กชายกันต์พิมุกต์ด้วยฝ่ามือของเขาเองอีกชั้น รวมทั้งค่อย ๆ พาแบมแบมที่นั่งอยู่บนโซฟาให้ลุกขึ้นและก้าวเดินไปพร้อม ๆ กัน
ก้าวเดินไปข้างหน้า... เพื่อรู้จักกับบุคคลที่มาร์ค ต้วนตกหลุมรัก...
ใช่... แจ๊คสันพูดถูก มาร์คมีคนที่รักอยู่แล้ว
“พร้อมจะเจอกับคนที่พี่รักหรือยังครับ แบมแบม”
เจ้าของชื่อพยักหน้า ในใจของแบมแบมกำลังทั้งตื่นเต้น แปลกใจ รวมถึงปวดหน่วงด้วยความรู้สึกหลากหลายในตอนนี้...
แบมได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง แบมค่อย ๆ เดินตามที่พี่มาร์คพาไป...
แบมแบมก็แค่สงสัยว่าทำไม...
ถึงยังมีแค่เราสองคน...
“งั้นพี่จะให้แบมลืมตา... แล้วแบมต้องมองคนตรงหน้าเอาไว้ให้ดี ๆ นะครับ”
มาร์คเปิดดวงตาของเด็กน้อยในอ้อมแขน... พร้อม ๆ กับที่กันต์พิมุกต์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองภาพที่ปรากฏตรงหน้า
ภาพของตัวแบมแบมเอง... ในกระจกเงา
แบมแบมที่ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกเงา... และมาร์คที่ยิ้มบาง ๆ ให้กับเขาอยู่ในตอนนี้
มีเพียงพวกเราที่อยู่ด้วยกัน...
“รู้จักคนในนั้นไหม... คนนี้แหละ คือคนที่พี่รัก...”
“พี่มาร์ค...”
“คนที่พี่รัก คนที่อยู่กับพี่ในตอนนี้... มีแค่คนเดียว”
ไม่มีประโยชน์ที่มาร์คจะเก็บความรู้สึกของเขาเอาไว้...
“แบมแบมคือคนที่พี่ตกหลุมรัก... แจ๊คสันไม่ได้บอกแบมใช่ไหมล่ะ...”
ดูท่า... แจ๊คสัน หวังอาจจะได้อัพเดทข่าวสารใหม่ที่ถูกใจมากที่สุดในรอบปี... ก็เป็นได้
รวมถึงโอเซฮุนและอิมแจบอม ที่อาจจะต้องกระโดดโลดเต้นที่ใจเพราะเซ้นส์แม่นยำยิ่งกว่าใคร แถมยังไม่ต้องเสียเงินห้าแสนวอนที่ใช้วางเดิมพัน
เพราะเวลานี้... ประติมากรรมน้ำแข็ง... ได้หลอมละลายโดยสมบูรณ์แบบ... อย่างแท้จริง
*
TALK:
ละลายละลายละลาย
พูดได้แค่นี้สำหรับพาร์ทนี้นะคะนะ ฮิฮิฮิ
ใครอยากได้พี่มาร์คขอให้ยกมือขึ้น!
ปล.ทิ้งท้าย สำหรับคนอยากเป็นเด็กพี่มาร์ค... หรืออยากได้น้องแบมแบมไปไว้ในครอบครอง(?) ขอเช็คเสียงอย่างพร้อมเพรียง(?)อีกครั้งนะคะ ใกล้ได้เวลาเก็บเงินแล้วน้า~~~ ฮา~
เจอกันตอนหน้านะคะ ♥
ความคิดเห็น