คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : markbam baby - 9
GOT 7 Fiction
Adorable baby Mark x Bambam
By bpuppyy_
Markbam
Baby 9
“อ้าว ไอ้มาร์ค ทำไมวันนี้มึงจะออกไปรับน้องแบมเร็วจังวะ นี่มันยังไม่สองโมงเลยนะ” โอเซฮุนไม่ได้อยากรู้มากแต่อย่างใด เขาก็แค่ลองถามดู เผื่อฟลุ๊คว่าจะได้คำตอบจากเพื่อนชื่อมาร์ค สกุลต้วนเท่านั้น
ซึ่งส่วนใหญ่... จะไม่ค่อยได้อะไรกลับมานะ ครั้งนี้เรามาลุ้นกันครับ
“เออ นั่นดิ” แจบอมสำทับ
“มึงรู้ได้ไง... ว่ากูจะไปรับแบม” มาร์คตอบเพื่อนทั้งสองคนกลับด้วยคำถาม เซฮุนกลอกตา ก่อนที่จะหันไปมองหน้าจอบอเพื่อนรักแล้วยักไหล่บุ้ยปากให้เป็นคนพูดแทน
แน่นอน... อิมแจบอมจัดให้ตามนั้น
“ชีวิตมึงจะมีเรื่องให้ทำอยู่กี่อย่าง ตั้งแต่ไอ้หวังฝากฝังน้องแบมไว้กับพี่มาร์ค ผมก็เห็นพี่มาร์คเข้าออกโรงเรียนสาธิตเป็นว่าเล่นอ่ะครับ ไปบ่อยกว่าตึกหลักของวิดวะอีกมั้ง หรือจะเถียง”
ฟันธงครับว่ามันคงเถียงอะไรอยู่สักอย่าง...
แต่การเถียงของมาร์ค ต้วนคือความเงียบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแจบอมกับเซฮุนรู้ดีว่ามันก็มีค่าเหมือนไม่เถียงอยู่ดี มีเพื่อนชื่อมาร์คนี่ก็ดีนะครับ เดาไม่ยาก ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่ต้องลำบากเดา มันเอาความเงียบเข้าสู้อย่างเดียวถ้าไม่อยากพูดอะไร
ไอ้พระเอกประหยัดคำพูด ไอ้ซั๊ซ กับเพื่อนกับฝูงไม่เห็นจะพูดมากเหมือนเวลามีน้องแบม!
น้องเซไม่ไหวจะเพลียใจ
“ถ้ามึงรู้แล้วมึงจะถามทำไมวะ”
“อ้าวไอ้... ขอด่าหยาบ ๆ จากใจ ไอ้เหี้ย กูถามเหตุผลว้อย กูไม่ได้ถามว่าไปรับน้องแบมใช่ไหม มึงฟังอีกทีนะไอ้มาร์คครับ ทำไมวันนี้ไปรับน้องแบมแบมเร็วจังครับ ปกติออกไปสี่โมงไม่ใช่เหรอ ชัดยัง” เซฮุนย้ำ ชายหนุ่มตัวขาวจัดกำลังนั่งท้าวแขนอยู่บนไหล่ของเพื่อนแจบอม พร้อม ๆ กับที่กัดปลายหลอดกระดิกเท้าด้วยท่าทางสุดแสนจะกวนใจ
ถ้าไม่ติดว่าสนิทกัน มาร์คคงจะเดินเข้าไปด่าหยาบ ๆ สักคำแล้วก็ตบหัวด้วยความหมั่นไส้สักที แต่นี่เป็นเพราะสนิท ไม่ใช่เกรงใจ แต่รู้ว่าทำไปก็เท่านั้น เพื่อนของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนนิสัยได้อยู่ดี
ทำตัวให้ชินคงง่ายกว่า
“วันนี้โรงเรียนมีประชุมครู กูเลยบอกให้แบมมานั่งเล่นรอที่คณะ” มาร์คตอบ พอเห็นว่าแจบอมกับเซฮุนเลิกคิ้วเหมือนอยากจะได้รับคำอธิบายมากกว่านี้ เจ้าของฉายาประติมากรรมน้ำแข็งเดินได้จึงจำเป็นต้องพูดต่อไป “ภาคบ่ายวันนี้เรามีวิชาภาค แล้วอาจารย์คิมก็สั่งงานเอาไว้ ไม่ต้องเข้าเลคเชอร์ สรุปคือว่าง เข้าใจยัง”
“ครับพี่มาร์ค เข้าใจแล้วครับ เชิญไปรับเด็ก เอ๊ย ไปรับน้องแบมมานั่งเล่นกับพวกผมได้เลยครับ”
“กูไปรับน้องให้มารอกูกลับบ้าน... ไม่ได้มาเล่นกับพวกมึง”
แหม... หวงด้วยนะ อิมแจบอมอยากจะอัดเสียงไปฝากแจ๊คสัน หวังซะจริง ๆ
เชื่อสิ โอเซฮุนที่นั่งขยับปากล้อเลียนอยู่ข้าง ๆ ก็คงจะคิดไม่ต่างกัน
*
มาร์ค ต้วนจอดรถตรงหน้าฝ่ายมัธยมปลายของโรงเรียนในเครือมหา’ลัย ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาพับแขนเสื้อและกางเกงเดฟสีซีดยังสะกดสายตาทุกคนได้เสมอ
เริ่มเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว... กับการได้เห็นรุ่นพี่ต้วนคนดังมานั่งรอรับเด็กม.ปลายปีหนึ่งเกือบทุกวัน
“พี่มาร์ค!”
เด็กชายกันต์พิมุกต์วิ่งตรงเข้ามาหาพี่ชายพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส นอกจากวันนี้โรงเรียนของแบมจะเลิกเร็วกว่าปกติ พี่มาร์คยังว่างมารับแบมไปนั่งเล่นที่คณะได้อีกต่างหาก ไม่ต้องนั่งรถฟรีของมหา’ลัย รอนานแถมยังคนเยอะด้วยอ้ะ ทั้งเบียดทั้งร้อน ไม่อยากฟ้องเลย~ (แบมขี้เกียจแย่งคนอื่น บู้ว) แล้วก็ไม่ต้องทรมานเดินขาลากไปถึงวิศวะ (แต่ก็แอบเสียดาย... ไม่งั้นแบมก็คงได้แอบแวะไปกินขนมร้านพี่ลู่หาน)
สรุป... ยังไงการที่มีพี่มาร์คมารับถึงโรงเรียน มันก็ดีกว่าทุกทางเลือกเป็นไหน ๆ!
“อ่าฮะ เป็นไง วันนี้สบายเลยสิ เรียนแค่ครึ่งเช้า” มาร์คถาม ยื่นมือไปรับหนังสือที่ถูกถือเอาไว้ในมือของแบมแบมหลายเล่ม ถ้าหากว่าไม่หยิบออกมาช่วยถือบ้าง น่ากลัวว่ามันจะหล่นลงมา
มาร์คคิดว่าการที่แบมวิ่งมาหาเขาแล้วไม่ล้มลงพร้อม ๆ กับกองหนังสือพวกนี้... มันก็ดีแค่ไหนแล้ว
“จริง ๆ ก็ควรจะเรียนแค่ตอนเช้า แต่เมื่อกี้ครูเฟยเพิ่งจะออกไปจากห้องเองครับ แวะมาสั่งงาน...” แบมแบมเล่า ใบหน้าของเด็กหนุ่มมีรอยยิ้มแหย ๆ อย่างเด็กรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อจะพูดประโยคต่อไป “แล้วก็แอบมากระซิบแบมด้วย...”
“ว่า?”
“อาทิตย์นี้จะมีงานที่บ้าน... ถ้าเป็นไปได้อยากให้แบมกับพี่มาร์คไปด้วยกัน... ชวนเพื่อนพี่มาร์คไปด้วยก็ได้นะ คุณครูของแบมฝากมาแบบนี้...”
“หยุดความคิดนั้นไปได้เลย” มาร์คสวนกลับทันที ตามด้วยการแกล้งใช้หนังสือเล่มบาง ๆ เคาะลงไปบนศีรษะกลมของคนเด็กกว่าด้วยความหมั่นเขี้ยว “หรืออยากไป” มาร์คถามต่อ
แบมแบมกระพริบตาปริบ ๆ อยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบคำถามของมาร์คด้วยความมั่นใจ…
“แล้วแต่พี่มาร์คครับผม”
มั่นใจ... ซะที่ไหนล่ะ!
เอาจริง ๆ นะครับ แบมก็อยากไป... แต่แบมก็จะเชื่อฟังพี่มาร์คถ้าหากว่าพี่มาร์คไม่ให้ไป จริง ๆ นะ! ไม่โกรธพี่มาร์คด้วย แบมเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังผู้ปกครองทู้กกกอย่าง
“มีให้ตัดสินใจสองทาง” มาร์คพูด พร้อม ๆ กับที่เดินนำเด็กชายกันต์พิมุกต์เพื่อไปขึ้นรถที่จอดเอาไว้ ส่วนเด็กน้อยที่ถูกทำให้สงสัยได้แต่เดินตามด้วยความมึนงง
แบมไม่ค่อยชอบตัดสินใจเท่าไหร่ ทำไงดี... กลัวเลือกอันนั้นแล้วจะเสียดายอันนี้อ้ะ
“ตกลงให้แบมเลือกอะไรอ้ะพี่มาร์ค” กันต์พิมุกต์ถามทันทีที่นั่งข้างคนขับเรียบร้อย ดวงตาใสแป๋วจ้องใบหน้าของผู้ปกครองจำเป็นด้วยความฉงนใจ
“ตั้งใจจะพาไปเที่ยว เลือกเอาแล้วกัน จะไปบ้านเฟยหรือไปเที่ยวด้วยกัน”
คำตอบของกันต์พิมุกต์ดังขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องกลัวเลือกข้อนี้แล้วจะเสียดายอะไร...
“ไปเที่ยวกับพี่มาร์คคคคคคคคคคค”
เลือกยากที่ไหนกัน... จริงไหม
*
“ไงน้องแบม วันนี้เลิกเรียนเร็วเหรอเรา” พี่ชายแสนดีที่ชื่ออิมแจบอมทักทาย ชายหนุ่มยิ้มให้กับน้องชายของเพื่อนด้วยความเอ็นดู ยอมรับเลยว่าถ้าได้ดูแลเด็กหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ต่อให้มีสาวสวยรออยู่ในคลับยามค่ำคืน แจบอมก็คงยอมให้พวกหล่อนไปหาชายอื่นได้ตามสบาย...
เลี้ยงเด็กดูเข้าท่ากว่าเยอะครับ... อย่าบอกไอ้หวังกับพี่มาร์คนะว่าผมแอบคิดแบบนี้ ยังไม่อยากโดยต่อย
“ครับผม โรงเรียนประชุมครู แบมก็เลยได้เลิกเร็ว จริง ๆ ไม่อยากเลิกเลยนะเนี่ย อยากเรียนมากกว่า ฮ่า ๆ” กันต์พิมุกต์พูดพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่ง โดยมีมาร์ค ต้วนตามมาติด ๆ ลงนั่งลงข้างกัน
“ขยันจริงนะเรา”
“เปล่าครับ แบมล้อเล่น จริง ๆ ดีใจแทบกระโดดตอนรู้ว่าได้หยุดครึ่งวัน แหะ ๆ ตอนบ่ายมีเรียนเลข แบมเบื่อสุด ๆ”
“ว่าละ ฮ่า ๆ ไม่ซึมซับความเทพของพี่มาร์คไปบ้างเหรอครับ โคตรเก่งเลขเลยนะพี่ชายแบมอ่ะ มันชอบเรียน พี่ก็เลยชอบให้มันเรียนแทน...” แจบอมแกล้งแซว การลากมาร์ค ต้วนให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับบทสนทนาระหว่างเขาและน้องแบมคือสิ่งที่ขาดไม่ได้
ให้มันรู้กันไปครับ ไอ้มาร์คคคคคค
“เกี่ยวกันที่ไหนวะ แล้วนี่ไอ้เซฮุนไปไหน...” มาร์คเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่เห็นว่าการที่อยู่ด้วยกันแล้วจะต้องซึมซับนิสัยการเรียนหรือความชอบส่วนตัวมาใช้... มันจะสัมพันธ์กัน...
ถึงมาร์คจะรู้ตัวว่าติดนิสัยพูดมากของแบมแบมมาไม่น้อย... แต่มันไม่เกี่ยวหรอก เชื่อสิ
ไม่เกี่ยวเลย...
“ไม่รู้มัน ไปร้านขนมหวานมั้ง เห็นตอนมึงลุกไป ไม่ถึงสิบนาทีมันก็ออกไปอ่ะ บอกว่าแป๊บนึงเดี๋ยวกลับมา แต่ไปเป็นชาติละเนี่ย แม่งยังไม่โผล่หน้ากลับมาเลย” บ่นยาวครับ ได้ทีแจบอมต้องบ่นยาว โอเซฮุนทิ้งงานเอาไว้ที่เขา แล้วอยู่ ๆ ก็บอกว่าจะเดินออกไปข้างนอก ใช้ได้ที่ไหน
ไอ้ซ๊าซ แจบอมขอด่าอย่างหยาบคาย กูก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดจะทำงานล่วงหน้าให้พวกมึงได้ไหม มึงก็ต้องกลับมานั่งทำกับกูอยู่ดีว้อย
“ร้านพี่ลู่หานเหรอครับ แบมอยากกินขนม!” ถ้าหากจะบรรยายให้เห็นภาพ คงต้องบอกว่าเวลานี้เด็กชายกันต์พิมุกต์ยิ้มกว้าง ดวงตาใสแป๋วดูเป็นประกายวาววับเพราะคิดถึงร้านขนมใต้คณะวิดยาที่เลื่องชื่อ...
แต่ก็ต้องทำหน้างอง้ำในเวลาต่อมา... เพราะถูกพี่ชายชื่อมาร์คสกัดดาวรุ่ง(?)ทันที
“นั่งลงเลยแบม ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ” มาร์คขัด ใช้ทั้งคำพูดสั่งห้ามและดึงข้อมือของแบมแบมให้ลงมานั่งที่เดิม โดยมีท่าทางขำ ๆ ของอิมแจบอมเป็นพื้นหลัง(?)ตลอดเวลา
ใครไม่รู้... แต่อิมแจบอมรู้ครับว่าเพราะอะไร แต่จะให้โอกาสมาร์ค ต้วนได้แก้ตัวก่อน เรามาดูกันครับว่ามันจะให้เหตุผลที่ไม่ให้น้องแบมไปว่าอะไร...
“ถ้าแบมจะเดินไป เดี๋ยวก็สวนกับเซฮุน มันคงกำลังจะกลับมา”
มาร์คมันไม่พูดความจริงหรอกครับว่ามันห่วงน้องแบม... ห่วงทำไมน่ะเหรอครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะ...
“งั้นพี่มาร์คก็ถามพี่เซฮุนให้หน่อยสิครับ อยู่หนายยยยย จะกลับหรือว่ายังไม่กลับ แบมจะได้เดินไปหา นะนะนะ” มีหรือที่กันต์พิมุกต์จะยอม ถึงคณะวิศวะของพี่มาร์คกับคณะวิดยาจะไม่ได้อยู่ใกล้กันนัก แต่ยังไงก็อยากไปกินขนมอยู่ดี เด็กน้อยเกาะแขนพี่ชาย ก่อนที่จะออกแรงเขย่าเบา ๆ เพื่อเป็นการอ้อนให้ใจอ่อนเหมือนอย่างที่แบมชอบทำ แล้วส่วนมากก็จะทำสำเร็จทุกครั้ง... “ไม่งั้นพี่มาร์คก็ไปด้วยกัน โกโก!”
“ไม่ไป พี่ต้องทำงาน” ยกเว้นครั้งนี้ แบมแบมเสียใจ!
โอเค... แจบอมเข้าใจในประเด็นนี้ แหม เพื่อนผมนี่ขี้หวงนะครับ พี่มาร์คสามารถใช้ท่าไม้ตายให้น้องแบมหยุดแล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ได้แล้วครับ บอกว่าจะทำงานปุ๊บ แบมแบมก็นั่งนิ่งปั๊บ ถึงจะทำหน้าตางอง้ำเพราะถูกขัดใจอยู่บ้าง เพื่อไม่ให้น้องแบมคิดมากไปกว่านี้ แจบอมก็เลยสละโน้ตบุ๊คส่วนตัวให้น้องแบมได้เล่นแต่โดยดี
ไม่เป็นไรครับ งานอยู่ที่เครื่องไอ้มาร์คกับไอ้เซฮุน ส่วนเครื่องผม... มีไว้เล่นเกม
“ขอบคุณครับพี่แจบอม งั้นแบมเล่นเกมก็ได้~ พี่มาร์คตั้งใจทำงานน้า~” แบมแบมพูดขึ้นแค่นั้น ก่อนที่จะจดจ่อกับหน้าจอโน้ตบุ๊คโดยไม่ได้คุยอะไรกับมาร์คอีก
ให้คำจำกัดความได้คำเดียวครับ... เด็กงอน
“ไอ้มาร์ค จริง ๆ มึงพาน้องไปร้านพี่ลู่หานก่อนก็ได้นี่หว่า ไอ้เซฮุนมันคงยังไม่กลับ...”
“กูไม่ไป”
ครับ... สั้น ๆ ง่าย ๆ สไตล์มาร์ค ต้วน สงสัยใช่ไหมครับว่าทำไม ปกติแล้วไม่ค่อยเห็นมาร์คขัดใจน้องแบมใช่หรือเปล่า มันก็มีแต่เรื่องนี้เท่านั้นแหละครับ ถึงจะน้องแบมจะขอไปไม่บ่อย แต่ก็ไม่เคยได้รับคำอนุญาต...
มาร์คแทบจะไม่เคยไปเหยียบคณะวิทยาศาสตร์ เพราะเหตุผลที่ว่าคิมซอกจินเรียนอยู่ที่นั่น มันมากพอที่จะทำให้คนอย่างมาร์คปฏิเสธทุกครั้งที่ถูกชักชวน แน่นอนครับ ถึงขนมหวานจะอร่อยมากและคนขายน่ารักมาก แต่มันได้ผลกับมาร์คที่ไหนล่ะครับ
เห็นทีจะมีแต่ไอ้เซฮุนที่ติดใจเป็นจริงเป็นจัง ส่วนผมอ่ะนะ... ไปบ้างครับ พอดีชอบกินหวานเย็น
เข้าใจพี่มาร์คกันแล้วนะครับ... มันไม่อยากเจอซอกจิน หรือจะอธิบายให้ลึกซึ้งกว่านั้น แจบอมคิดว่ามันคงไม่อยากให้น้องแบมเจอซอกจิน
ง่าย ๆ ครับ... มาร์คมันหวงน้อง… แจบอมก็ไม่อาจฟันธงได้ว่าระหว่างมันเกลียดซอกจินมากกับมันไม่อยากให้ซอกจินเจอแบม... เรื่องไหนคือเรื่องใหญ่ เรื่องไหนคือเรื่องรอง
ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนตอบได้เต็มปากว่าเพราะมันเกลียดไอ้รุ่นพี่คนนั้น แต่ตอนนี้... ไม่รู้สิครับ
อาจจะมีเหตุผลอื่นสำคัญมากกว่า...
“เออ ๆ เรื่องของมึง น้องแบม พี่แจบอมของีบแป๊บนะครับ ไอ้มาร์คมึงทำงานไปก่อนนะ ไว้ไอ้เซฮุนมากูจะลุกมาช่วย เคนะ โอเคครับ ขอบคุณครับมาร์ค”
ถามว่ามีคำตอบจากปากของมาร์คบ้างหรือยัง...
ก็ไม่นะ อิมแจบอมถามเองตอบเองทั้งนั้นแหละ
พักใหญ่ที่โต๊ะใต้ตึกวิศวกรรมโยธาเต็มไปด้วยความเงียบ เพราะมาร์คใช้สมาธิกับการทำงาน ส่วนน้องแบมที่ยังแอบงอน(?)เรื่องร้านขนมหวาน ก็เอาแต่นั่งเล่นเกมไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายเกมที่แบมเคยคิดว่าสนุกดีกลับกลายเป็นน่าเบื่อเสียอย่างนั้น เด็กชายกันต์พิมุกต์ปิดโปรแกรมก่อนจะนั่งมองหน้าจอ (ที่เป็นรูปรวมของพี่แจบอม พี่มาร์ค พี่เซฮุน แล้วก็พี่แจ๊คสัน ตลกดี แบมชอบ) แล้วก็ตัดสินใจเปิดหน้าต่างอินเตอร์เน็ตขึ้นมาในที่สุด...
แบมไม่ได้ตั้งใจจะเข้าเฟสบุ๊คของพี่แจบอมนะ!
แต่หน้าแรกมันเป็นเฟสบุ๊คอ้ะ! แบมเปล่าส่องน้า
“โอ๊ะ...”
อยู่ ๆ เสียงชวนประหลาดใจของเด็กชายกันต์พิมุกต์ก็ดังขึ้น มาร์คละสายตาจากงานตรงหน้า หันมามองแบมแบมที่ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วจ้องรูปใครสักคนบนหน้าจอโน้ตบุ๊คของอิมแจบอม...
“เป็นอะไรแบม ทำไมทำเสียงแบบนั้น”
“เอ้อ... คือแบมแบบว่าเข้าบราวเซอร์มา แล้วทีนี้เฟสบุ๊คของพี่แจบอมขึ้นพอดี...” กันต์พิมุกต์รีบแก้ไขความเข้าใจผิดเป็นอันดับแรก เด็กชายไม่อยากให้มาร์คเข้าใจว่าเขาแอบเสียมารยาทสวมรอยเข้ามาเล่นของพี่แจบอมโดยพลการ มาร์คพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะยักคิ้วให้แบมพูดต่อไป “แล้วทีนี้ รูปของพี่ผู้หญิงสองคนนี้ก็ขึ้นมา แล้ว...”
“แล้ว...?”
“พี่มาร์คจำที่แบมเคยบอกว่ามีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาคุยกับแบมได้ไหมครับ...”
“อืม จำได้ ทำไมล่ะ” มาร์คตอบ ก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ กับเด็กม.ปลายที่นั่งอยู่หน้าจอมากกว่าเดิม...
“รุ่นพี่คนนี้อ่ะครับ... แบมว่าแบมน่าจะจำไม่ผิดน้า พวกพี่แจบอมรู้จักกับ...”
ยังไม่ทันที่กันต์พิมุกต์จะได้ถามจนจบประโยค เสียงแหบห้าวของโอเซฮุนที่หายหัวไปแสนนานก็ดังลั่นตึกแทรกขึ้นมาเสียก่อน...
“เซฮุนกลับมาแล้วจ้า! ว่ายังไงครับน้องแบมมมมมมมมม คิดถึงจัง สบายดีไหม อ่ะ พี่มีขนมมาฝากด้วยนะ!”
ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่ปีสาม เด็กวิศวะที่นั่งอ่านหนังสืออยู่คงเดินเข้ามาด่าทอมนุษย์หน้ามึนให้หายมึนไปสักที (หรืออาจจะมากว่าหนึ่งที และทุกคนมีคำถามอยู่ในใจเสมอ รุ่นพี่โอเซฮุนนี่เป็นมนุษย์ประเภทไหนกัน)
“พี่เซฮุน~~~ ขอบคุณมากครับ แบมอยากกินอยู่พอดีเล้ย ตอนแรกว่าจะไปซื้อแล้ว แต่พี่มาร์คอ้ะไม่ยอมพาไป... อ่า ช่างเถอะครับ งั้นแบมจะกินให้อร่อยเลยน้า” แบมแบมพูดด้วยรอยยิ้มสดใส ดวงตากลมโตหยีลงจนแทบจะกลายเป็นเส้นเดียวเมื่อมีขนมอยู่ในมือ
ส่วนมาร์ค...
“แบม ตกลงว่าจะพูดอะไรให้พี่ฟังต่อ คนไหนกันแน่... ที่เข้ามาคุยกับแบมวันนั้น”
“คนไหนอะไรวะ เกิดอะไรขึ้นอ่ะน้องแบม พี่เซฮุนพลาดอะไรไปหรือเปล่าครับ ช่วยเล่าให้ฟังที เดี๋ยวพี่ประติดประต่อเรื่องราวไม่ถูก...”
โอเซฮุนไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่... อาจจะเคยรู้ไปแล้วก็ได้นะ แต่ว่าอาจจะลืม... หรืออาจจะไม่เคยรู้วะ ช่างเถอะ ให้น้องแบมเล่าใหม่แล้วกัน ไม่หวังพึ่งไอ้มาร์คหรอก เชอะ
“เรียกไอ้แจบอมให้ลุกขึ้นมาด้วย” มาร์คว่า เป็นเพราะเขารู้ดี ถ้าหากไม่ปลุกแจบอมให้ตื่นตอนนี้ ถ้ามันรู้สึกตัวเมื่อไหร่ คงต้องมานั่งเล่าให้ฟังใหม่อีกรอบแน่ ๆ
จะพูดหลายรอบทำไมให้มากความ
“ไอ้เชี้ยจอบอ! ตื่นดิ๊ไอ้ซั๊ซ ชาวบ้านชาวช่องไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว!”
“พ... พี่เซฮุนเบา ๆ ก็ได้มั้งครับ คือ... คนอื่นหันมามองกันหมดแล้ว แหะ ๆ” เด็กชายกันต์พิมุกต์ที่ดูจะไม่ค่อยเคยชินกับสถานการ์แบบนี้เท่าไหร่รีบขัดจังหวะ ต่างจากคุณชายสกุลต้วนที่ทำเพียงแค่นั่งท้าวคางมองโอเซฮุนปลุกอิมแจบอมเท่านั้น
เคยอายเมื่อสามสี่ปีก่อนตอนคบพวกมันแรก ๆ ... ถามว่าตอนนี้อายไหม ก็คงตอบแบบขอไปทีว่าเฉย ๆ
“เออออออ รู้แล้ว ตื่นแล้ว”
“ดีมาก เกิดเรื่องละสัส!”
“เรื่องอะไรของมึงไอ้เซฮุน มึงบ้าป้ะเนี่ย มาถึงก็มาโวยวาย กูไม่ใช่ไอ้แจ๊คสันนะว้อยจะได้ตื่นตูมไปกับมึง” นั่น แบมแบมได้แต่นั่งขำที่พี่ชายผู้อยู่ไกลถึงฮ่องกงถูกพูดถึงอีกครั้ง ควรจะดีใจหรือเสียใจแทนพี่แจ๊คสัน นามสกุลหวังที่มีเพื่อนคอยคิดถึงตลอดเวลาเช่นนี้
คิดถึงแต่ละทีก็ทำให้แบมขำได้ตลอดเวลา... แบมก็ไม่เช้าใจว่าทำไมพี่แจ๊คสัน (และผองเพื่อน) ถึงได้เป็นคนเฮฮา... มากขนาดนี้
“เรื่องอะไรไม่รู้ กูกำลังจะฟังน้องแบมเล่า”
“ไอ้เหี้ย!” แจบอมสบถด่ากลับไปทันที ไม่ลืมที่จะหันไปบอกน้องแบมว่าขอโทษตามระเบียบ “น้องแบมอย่าใส่ใจนะครับ ตกลงมีเรื่องอะไรกัน...”
“เด็กที่ถ่ายรูปกับอึนจี... เป็นใคร?” มาร์คเป็นคนที่เริ่มต้นถามคำถาม... จากที่ตอนแรกแบมแบมจะพูดด้วยตัวเอง แต่เหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว...
แจบอมเลิกคิ้วด้วยความมึนงงสงสัย ไม่ต่างกับเซฮุนที่ได้แต่มองหน้ามาร์คที มองน้องแบมที แล้วสุดท้ายก็มามองเพื่อนสนิทชื่อย่อว่าจอบอทีด้วยความไม่เข้าใจ
รูปอะไรวะ น้องเซฮุนงง
“รูป?”
“แบมหันโน้ตบุ๊คให้แจบอมดูดิ” มาร์คว่า เป็นเพราะทั้งแจบอมและเซฮุนนั่งอยู่ด้านตรงข้าม รูปภาพที่ปรากฏอยู่จึงมีเพียงแค่มาร์คและแบมแบมเห็นเท่านั้น
ทันทีที่ได้เห็นรูปภาพ... ทั้งเซฮุนและแจบอมก็ร้องอ๋อออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“เด็กคนนี้เป็นน้องอึนจีมั้ง กูไม่เคยเห็นตัวจริง แต่... ดูจากเครื่องแบบ ก็เรียนอยู่ที่สาธิตเหมือนน้องแบมนี่นา... ทำไมวะ มาจีบน้องแบมเหรอ อั่นแน่ะ มีความรักเหรอเรา” แจบอมแกล้งแซว ก่อนจะถามด้วยโอเซฮุนที่ล้อเลียนเต็มแม๊กซ์มาเป็นลูกคู่ทันที “น้องแบมของพี่เซฮุนน่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจหวายยยยย”
ผิดประเด็นไปไกลแล้วนะครับ... พี่แจบอมพี่เซฮุน
“เปล่า... ไม่ใช่ครับพี่ คือว่า...”
“เมื่ออาทิตย์ก่อนเด็กคนนี้เข้ามาคุยกับแบม แล้วพูดจาไม่เข้าท่านิดหน่อย แบมเพิ่งจะบอก... ว่าเป็นน้องของอึนจี” เซฮุนและแจบอมได้แต่พยักหน้าตาม พร้อมด้วยความสงสัยไม่ต่างจากมาร์คว่าเด็กคนนี้ทำไปเพื่ออะไร รู้จักกันส่วนตัวหรือก็ไม่ เออ มันก็จริงอยู่ที่ว่าอึนจีเคยมาสารภาพรักกับมาร์คแล้วถูกหักอกไป...
แล้วยังไงวะครับ เหตุผลแค่เนี้ยต้องมาหาเรื่องพูดจาไม่ดีกับเด็กที่ไม่ได้เกี่ยวอะไร โคตรไร้สาระ ไม่ไหว ๆ
แต่... เรื่องที่น่าสงสัยมากกว่า...
ไอ้มาร์คนี่ดูจะแอบเดือดร้อนอยู่ลึก ๆ นะครับ ว่าไหม?
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะครับน้องแบม ใครจะว่าอะไรอย่าไปสน น้องแบมเป็นน้องของไอ้หวัง มาร์คไม่ว่า พวกพี่ไม่ว่า แล้วจะมีใครหน้าไหนทำอะไรได้ครับ ไม่มี๊ จริงไหมวะไอ้แจบอม”
“ล้านเปอร์เซ็นต์ น้องแบมอย่าใส่ใจ” อิมแจบอมสำทับกับเพื่อนพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง ส่วนน้องแบมแบมขวัญใจของทุกคนก็ยังคงยิ้มหวานและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใสว่าไม่เป็นอะไร
แบมไม่ได้โกหกนะ... แต่แบมเลิกคิดมากตั้งแต่พี่มาร์คบอกว่าแบมไม่ใช่ภาระแล้ว...
ถึงจะตามด้วยคำว่าแบมเป็นเด็กอ้วนก็เถอะ
“ก็แบบนี้อ่ะครับ ผู้หญิง... ค่อนข้างจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบอิจฉา...” โอเซฮุนก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยตามที่ใจคิด ไม่ได้นึกถึงเรื่องบังเอิญที่ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ว่ามายืนอยู่ใกล้ ๆ ...
ซวยชิบหายครับ มนุษย์ผู้หญิงชื่ออึนจีที่เรียนคณะนิเทศแม่งมายืนอยู่หลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่
“นายกำลังว่าใครขี้อิจฉางั้นเหรอ... เซฮุน”
“อ๋อ เปล่า เธอหูฝาดแล้วม้าง เมื่อกี้ยังไม่ได้พูดอะไรอิจฉาเลยนะ แค่บอกว่าเป็นผู้หญิงนี่ดีนะ แล้วบอกว่าหน้าร้อนอยากกินขนมปังสังขยา อิจฉาอะไร ไม่มี๊”
ถือว่าแก้ตัวให้มันผ่าน ๆ ไป อย่าใส่ใจเลยนะครับทุกคน
“สัส ข้อแก้ตัวโคตรเหี้ย ละอึนจีแม่งมาตอนไหนวะ ทำไมกูไม่เห็นจะรู้” แจบอมกระซิบกับเพื่อนรักด้วยความสงสัย แน่นอนว่าถึงจะเป็นประโยคยาว ๆ แต่ก็แนบเนียนและแผ่วเบาตามสไตล์ของนักเที่ยวและเพลบอยตัวยง
คนกลางคืนมีทริคเยอะครับ...
“จะรู้ป้ะ นั่งอยู่กับมึงเนี่ย แม่ง กลายเป็นว่าด่าผู้หญิงเฉยเลยครับสัส กูมึน”
ส่วนคนสติก้ำกึ่งไม่เต็มร้อย... ก็ยังรักษาระดับน้ำเสียงให้ก้ำกึ่งดังก้ำกึ่งค่อยเหมือนเดิม สรุปคือถ้าอึนจีมีประสาทหูที่อยู่ในระดับคนปกติ หล่อนคงได้ยินอยู่แล้วว่าโอเซฮุนพูดอะไร
ใช่ว่าจะต้องสนใจ... ในเมื่อเธอแค่บังเอิญผ่านมา แล้วก็โชคดีซ้ำสองที่ได้เจอคนที่เธอเคยชอบนั่งอยู่กับเด็ก... ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ตอนนี้
แบมแบม?
“ไม่เจอกันนานนะมาร์ค”
“อืม”
“เป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้ยังอ่านหนังสือเยอะเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า... ฉันไม่ค่อยเห็นนายในห้องสมุดเท่าไหร่”
“อืม เหมือนเดิม”
“แล้วไม่ค่อยได้เข้าไปห้องสมุดเหรอ ช่วงนี้คนเข้าไปใช้ห้องสมุดน้อยลงเพราะนายนะ ฮะ ๆ ตลกดีที่ได้ยินคนพูดว่าเป็นเพราะมาร์ค ต้วนไม่ค่อยไปยืมหนังสือ... กำลังใจในการไปนั่งอ่านเลยลดลง”
“คงงั้น ไม่มีเวลา”
โอเซฮุนและอิมแจบอมลงความเห็นตรงกัน... ถ้าหากพูดกับไอ้มาร์คยาว ๆ หลายประโยคต่อกันแบบนั้น แล้วยังได้รับแค่คำตอบโคตรสั้น ผมสองคนจะไม่ชวนให้มีการสนทนาอะไรต่อทั้งนั้นครับ
รู้สึกเหมือนพูดคนเดียว
ส่วนเด็กชายกันต์พิมุกต์ที่ถูกละเลยจากคนมาใหม่อย่างจงใจ...
“แบม พี่ทำงานเสร็จแล้ว อยากกลับหรือยัง”
“อ่า... แบมยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่พี่มาร์ค ถ้าหากว่ายังมีธุระต้องคุยก่อน...”
“ไม่ล่ะ เซฮุน แจบอม กูส่งไฟล์งานเอาไว้ให้พวกมึงแล้วนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหากูแล้วกัน” มาร์คทิ้งท้ายไว้ให้กับเพื่อนรักทั้งสองคนแค่นั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเก็บของและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง...
โดยมีเด็กชายกันต์พิมุกต์ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ไปไหน
และมีสายตาของหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม...
“แบมแบมใช่ไหมเรา...”
“ผม...?” เจ้าของชื่อทวนย้ำ ก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้รุ่นพี่ที่เพิ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรก...
อย่าหาว่าแบมคิดมากอย่างนั้นอย่างนี้... แต่รุ่นพี่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับแบมเท่าไหร่
แบมไม่ได้อยากรู้สึกแบบนั้นเลยนะครับ เชื่อแบมนะ แต่ว่ามันก็มีหลายเรื่องให้แบมคิดได้จริงไหม ไหนจะเรื่องของรุ่นพี่ที่เข้ามาพูดกับแบมวันนั้นเป็นน้องของพี่อึนจี...
แต่ช่างเถอะ มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญเฉย ๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะแปลกเลยเนาะ พี่แจ๊คสันยังเคยบอกเลยว่าคนชอบพี่มาร์คเยอะมาก... แถมอันตรายอีกต่างหาก ให้แบมระวังตัวเอาไว้
โหย... ยังกับละคร
“ดีจังที่ได้เจอกัน พี่ชื่ออึนจีนะจ๊ะ น้องแบมแบม.... น่ารักเหมือนที่พี่ซอกจินเคยบอกพี่เลยนะคะ”
โดยมิได้นัดหมาย... อิมแจบอมและโอเซฮุนอยากยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากพร้อม ๆ กัน
ใครใช้ให้คุณผู้หญิงพูดชื่อต้องห้ามครับ แล้วยังจะพูดว่ามันชมน้องแบมอีก โว้ย เดี๋ยวรู้เรื่องเลย
“อ่า... เหรอครับ” แบมแบมตอบรับ เหลือบไปมองมาร์คที่กำลังเก็บของและยกกระเป๋าขึ้นพาดไหล่ด้วยอารมณ์ที่เดาได้ไม่ยากเลยว่าคงไม่ปกติในตอนนี้...
ถ้าพี่อึนจีไม่ใช่ผู้หญิง ไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าพี่มาร์คจะระงับอารมณ์ได้ไหม
“เมื่อวันก่อนฉันเพิ่งจะเจอพี่ซอกจินมา...”
“แบม กลับบ้านได้แล้ว เซฮุน แจบอม กูกลับแล้วนะ” มาร์คพูดโดยไม่คิดจะฟังหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวอีก เขานับหนึ่งถึงร้อยในใจ ดีมากแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ตะโกนใส่หน้าของอึนจีว่าอย่าพูดเรื่องคิมซอกจินให้ได้ยินอีก
มันไม่มีสิทธิ์... แม้แต่จะพูดถึงแบม
มันไม่มีสิทธิ์... ยุ่งกับคนของเขาไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำ
“มาร์ค!”
“อ... เอ่อ... พี่มาร์คน่าจะคุยกับพี่อึนจีให้จบก่อน... นะครับ”
“ไม่ล่ะ แล้วถ้าจะดีกว่านั้น แบมแค่เดินตามพี่มา ไม่ต้องไปสนใจใครอีก แค่นั้นก็พอ” มาร์คพูด เอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมของเด็กในปกครอง พร้อม ๆ กับทำในสิ่งที่แบมแบมคิดว่าเป็นครั้งแรกว่าเขามั่นใจว่าได้เห็นอย่างเต็มตา...
พี่มาร์คยิ้ม...
ยิ้มให้แบมจริง ๆ นะครับ
“เอางั้นก็ได้... กลับบ้านกันเนาะ!”
“อืม รีบเดินสิ หยุดเดินมาตั้งนานละเนี่ย... เมื่อไหร่จะถึงรถ”
เขาก็ไม่รู้ว่าความคิดแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง รู้ตัวอีกที เขาก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว แค่ให้แบมแบมสนใจเขาคนเดียว... มาร์คแค่อยากให้น้องชายของแจ๊คสัน หวัง... ฟังคำพูดและความคิดของเขาแบบนี้
งี่เง่าจริง ๆ
มาร์ค ต้วนไม่เคยรู้ว่าเขาจะเป็นได้มากขนาดนี้เลย... ไม่เคยรู้เลย
*
TBC… chapter 10
TALK: ร้อยเต็มร้อยเต็ม ♥
ก็พี่มาร์คหวงน้องแบมกว่าใคร... จะมีคำไหนอธิบายดได้ดีไปกว่าน้าน~~~5 55555
ทำไมบทพูดของแจบอมกับเซฮุนเยอะจัง ฮา~ แต่เราชอบสีสันของเรื่องเสมอนะคะ ถ้าขาดพวกเขาเหล่านี้ไปคงขาดสีสันไปเยอะเล้ย~ ส่วนแจ๊คสันหวังก็ยังคงโผล่มา แล้วฮุนฮานก็ยังแอบมา ฮ่า ๆ ส่วนคู่แท้ของพี่แจบอมจะมีหรือไม่ ต้องติดตามนะคะ *เปิดโหวต* อ๊ะ พี่หวังก็ยังไร้คู่นี่นา... 5555555
ตอนหน้าจะมีพี่ชายใครมาหาน้า~~~ เดี๋ยวเจอคนหวงน้องมากกว่า พี่ต้วนจะทำอย่างไร~~~
อีกเรื่องนะคะนะ น้องแบมมีบอทแล้วนะ! สามารถไปติดตามความน่ารักอีกแบบฉบับของน้องแบมได้ที่ @bambam_adbb นะคะ รับรองว่าเด็กอ้วนจะชวนทุกคนคุยแบบนอนสต๊อปแน่นอน ฮา ส่วนพี่ชายผู้สร้างเรื่องอย่างแจ๊คสัน หวังก็ไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะต้องถูกระเห็จไปไกลและมีบทผ่านเพียงโทรศัพท์ แต่แจ๊คสัน หวังก็จะขอเปิดทวิตเตอร์ (ถึงแม้นางจะไม่มีเวลาเล่นเท่าไหร่) เอาไว้ ขอเชิญให้ไปชวนนางคุยได้ที่ @jackwang_adbb นะคะนะ!
มีอีกหลายตัวละครที่รอให้ทุกคนเข้าถึง... ถ้าหากใครอยากลองสวมบทบาทใดใดใน #ฟิคเด็กพี่มาร์ค ลองถามกันมาได้นะ! พี่มาร์คคนประหยัดคำพูด คู่หูโอเซจอบอ หรือจะเป็นพี่ซอกจินศัตรูของพี่มาร์ค ขอให้ลองค่ะ เรารอให้ทุกคนมาสร้างสีสันอยู่น้า
ขอบคุณทุกการติดตามเช่นเคยนะคะ เจอกันได้ใน #ฟิคเด็กพี่มาร์ค รวมไปทั้งทวิตเตอร์ คอมเม้นท์ โหวต และทู้กกกกกอย่างเล้ย!
ขอบคุณค่ะ♥
ความคิดเห็น