ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {GOT7} BELIEVE :: [Mark x Yug x Bam// BNOIR//JACKJAE]

    ลำดับตอนที่ #9 : . . .b e l i e v e . . . CHAPTER : 6

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 57


    26 Dec. 2014  //                                                   [update]

     



    CHAPTER : 6






    ชะตาขีวิตของชายทั้งเจ็ดคนจะดีหรือร้ายอย่างไร ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงอีกสองชั่วโมงที่จะถึงในเร็วๆนี้ ใช่แล้ววันนี้เป็นวันเดบิวท์ของพวกเขาเอง

     

     

     "ขานายโอเคแล้วใช่ไหม"

     

     "นายอย่ากังวลว่านายจะทำมันไม่ได้นะ นายต้องทำมันได้"

     

     "นายไหวใช่มั้ย ถ้านายจะทำอะไรให้คิดถึงความปลอดภัยเป็นหลักนะ"

     

     

     "นายตื่นแล้วใช่ไหม นายโอเคยัง"

     

     

     "นายต้องทำมันได้เชื่อใจตัวเองนะ"

     

     

     คำพูดเหล่านั้นมันออกมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนจากลีดเดอร์ ที่พยายามทำให้เมมเบอร์ที่เหลือมั่นใจและไม่ประหม่ากับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ แม้ว่าตัวของเจบีเองจะรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย เขาเดินไปทั่วห้องแต่งตัวซ้ำแล้วซ้ำอีก กับสิ่งที่พวกเขาต้องทำด้วยสปิริทของผู้นำ จนเขาเองก็เริ่มจะท้อและเหนื่อยกับสิ่งที่เป็น

     

     

    "ฮยองเปลี่ยนไปมากจริงๆ" ยูคยอมเดินมาพูดกับเจบีเมื่อเห็นสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจบีจะยังคงซ้อมอย่างหนักคนเดียวหรือไม่ก็พูดอะไรสักอย่างกับตัวเอง แต่วันนี้เขากลับประหม่าและวิ่งไปทั่วห้องเพื่อทำให้สมาชิกสบายใจ มันเกิดอะไรขึ้นนะ

     

    เมื่อพูดจบเจบีที่ได้ฟังก็ทำสีหน้าเย็นชาใส่ เขาเดินไปที่ประตูทางด้านหลังของห้อง เขาเปิดมันและเดินตรงไปนั่งกอดเข่าที่พื้นทางเดิน

     

    'ทำไมการเป็นลีดเดอร์มันยากขนาดนี้นะ ทำไมลุงผักถึงเลือกให้ฉันเป็นลีดเดอร์ทั้งๆที่มาร์คฮยองอายุเยอะกว่าฉัน ทำไมทุกคนชอบบอกว่าฉันเปลี่ยนไป ทำไม ทำไม ทำไม'

    คำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมองของเจบีแต่เขากลับไม่สามารถที่จะรู้และเข้าใจมันได้เลย

     

     

     

     'แอ้ดด...'

    .

    .
    .

     

    ประตูหลังห้องถูกเปิดออกด้วยชายคนปริศนาซึ่งเห็นเป็นเงาดำจากแสงที่ส่องมาจากด้านหลัง

     

     

     "ฉันว่าแล้วเชียว..ว่านายจะต้องมาอยู่ที่นี่" เสียงใสใสของจูเนียร์ทำให้คนที่กำลังท้อรู้สึกดีขึ้นแม้ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากมาย จูเนียร์เดินเข้าไปใกล้เจบีแล้วนั่งลงตรงหน้าเขา

     

     

     

     "นายเป็นอะไรไปอีกล่ะ เมื่อกี๊นายยังวิ่งเตือนคนนู้นคนนี้อยู่เลย นายเป็นอะไร" จูเนียร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงคนนั่งหน้าเบื่อโลกตรงหน้า

     

     

     "ฉันเปลี่ยนไปมากนักหรอ ฉันเปลี่ยนไปตรงไหน ทำไมทุกคนบอกว่าฉันเปลี่ยนไป ถ้าฉันจะเปลี่ยนไปจริงๆมันผิดด้วยหรอ" น้ำในตาของเจบีมันกำลังจะไหลออกมาด้วยความไม่เข้าใจ จูเนียร์จึงจับมือทั้งสองข้าง

     

     

     "ใช่ นายเปลี่ยนไป...แต่นั่นดีขึ้นนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ฉันป้อนขนมนาย นายจะปัดมือฉันออกแล้วบอกว่ากินเองได้ ทุกครั้งที่นายโมโหนายมักจะพูดและปล่อยมันออกมากับการทำร้ายคนอื่น ซึ่งคนคนนั้นคือ..."

     

     

     

    "นาย.." เจบีพูดคำที่จูเนียร์ยังพูดไม่จบออกมาและน้ำตาของเขากำลังจะหยดลงมาอีกครั้ง จูเนียร์จึงใช้มือเช็ดน้ำตาให้เจบี

     

     

     

    "แต่ฉันไม่เคยโกรธนายเลยนะ นายไม่รู้หรอกว่านายเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สำหรับฉันนายก็ยังเป็นเจบี เจบีคนที่ฉันอยากจะคุยด้วย อยากจะเล่นด้วย อยากจะทะเลาะด้วยเสมอนะ" ถึงแม้ว่าคำพูดของจูเนียร์จะไม่ได้ทำให้เจบีดีขี้นมา แต่จูเนียร์ก็รู้สึกดีที่ได้พูดมันออกมา จูเนียร์ใช้มือข้างขวาจับมือข้างซ้ายของเจบีและนำมันมาวางที่อกข้างซ้ายของเขา

     

     "นายต้องเชื่อฉันนะ" เจบีรู้สึกตกใจมากแต่เขาก็ไม่อยากที่จะสบัดมันทิ้งในตอนนี้เลย จูเนียร์ยังคงจับมือของเจบีไว้เหมือนเดิมแต่ว่าย้ายมือนั้นไปอยู่ตรงใจของเจบีแทน

     

     "แล้วนายก็เชื่อในตัวของนายด้วย" จูเนียร์ยิ้มให้เจบีอย่างจริงใจ

     

     

     "เอ..นั่นมันสิ่งที่ฉันชอบพูดนี่นา..... นายนี่มันจริงๆเลย" เจบีรู้สึกเหมือนถูกย้อนคำพูดจึงเผลอตีแขนจูเนียร์ไปเบาๆ       'แปะ'

     

     

     "อ้าา..นั่นมันเจ็บมากๆเลยนะ นายไม่ได้เปลี่ยนไปเลยอ่า ชิชิ ฉันจะงอนแล้วนะ" จูเนียร์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

     

     

     "ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหรอกน่า" เจบีพูดยิ้มๆ

     

     

     

     "นี่มันจะได้เวลาขึ้นเวทีแล้วนี่นา เรารีบไปกันเถอะ" ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปข้างนอกเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดบิวท์

     

     

     

    ...เมื่อลงจากเวลาเดบิวท์ก็เช่นเคย เหมือนมีใครบางคนจะรู้ทันว่าคนร่างสูงจะต้องร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เพราะตอนนี้พวกเขาเตรียมเซอร์ไพรซ์น้ำช็อคโกแล็ตปั่นแก้วใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้ว

     

     

     

     "นายร้องไห้อีกแล้วนะ เด็กน้อยของออมม่า" จูเนียร์แปลงร่างเป็นแม่ในทันทีที่เด็กน้อยตัวใหญ่ร้องไห้

     

     

    "ออกไปนะ ผมโตแล้ว อย่าทำเหมือนว่าผมเป็นเด็กๆสิ" ยูคยอมพูดแต่เขากลับกอดออมม่าไว้แน่น

     

     

     "โอ๋ๆ เด็กน้อยมาอยู่กับป้าเถอะหลาน" แจ๊คสันพูดพร้อมกับดึงคนร่างสูงไปหายองแจ

     

     

     "ยองแจฮยองเป็นป้าตั้งแต่เมื่อไหร่??"

     

     

     "นายเล่นอะไรของนายเนี่ย!!" ยองแจตีแขนของแจ๊คสัน

     

     

     "แจ๊ครู้แล้วว่าอะไรจะทำให้คยอมมี่ของพวกเราดีขึ้น แท่น แทน แท๊น...การเต้นไง!!" เมื่อคนหน้ากวนพูดจบเสียงดนตรีก็ดังขึ้นทันที ตอนนี้เหมือนกับจัดคอนเสิร์ตเล็กๆในห้องอย่างไรอย่างนั้น เพราะเวทีเต้นตรงนั้นพวกเขาได้ยึดครองและวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานไปแล้ว

     

     

     

    "มาร์คฮยอง เห็นยูคไหมครับ เขาหายไปอีกแล้ว" คนร่างเล็กพูดเพื่อถามคนแมนที่อยู่ตรงหน้าด้วยเสียงน่ารักแบบสงสัย

     

     

     

    "เอ่ออ..เหมือนจะไปทางสระบัวนะ เวลาที่เขาเครียดเขามักจะไปที่นั่น ....แต่ยูคไม่ได้เครียดนี่นา"

     

     

     "แบมว่า แบมจะไปที่นั่นครับ"

     

     

     "ให้ฮยองไปเป็นเพื่อนนายดีกว่าไหม มันอันตรายนะ" คนแมนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

     

    "ไม่เป็นไรครับ แบมดูแลตัวเองได้ เชื่อแบมสิ" เมื่อคนตัวเล็กพูดจบก็ยิ้มให้มาร์คและรีบวิ่งไปที่สระบัวทันที

     

     

     

     

     

     

     

    -สระบัวหลังตึกJYP -

     

     

    แบมแบมค่อยๆย่องเข้าไปหาคนร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่ที่ขอบสระบัวช้าๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว

     

     

     

     "แบมแบม! นั่นนายอีกแล้วหรอ" คนตัวเล็กตกใจไม่น้อยเมื่อคนร่างสูงหันมาแล้วพูดแบบนั้น พูดจบยูคยอมก็หันหน้ากลับไป แบมแบมจึงเดินเข้าไปแล้วจับไหล่ของยูคยอม

     

     

     

     "น..นะ..นา..นาย เครียดอยู่หรอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้หละ" แบมแบมยังฝืนยิ้มและพูดต่อไป

     

     

     "เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว" พูดจบยูคยอมก็ปัดมือของแบมแบมที่วางบนไหล่ออกไปทันที..

     

     

    "นายเป็นอะไร ฮะ!! เมื่อก่อนนายก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ" ร่างเล็กพูดออกไปและเริ่มมีน้ำใสใสคลออยู่ที่ตาทั้งสอง

     

     

     "นี่มันปัจุบัน อย่าหวังเลยว่าทุกอย่างมันจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีก อย่าแม้แต่ตะคิดเลย" คนร่างสูงยืนขึ้นและผลักร่างเล็กล้มลงกับพื้น ...แต่มือของร่างเล็กเหมือนจะสัมผัสอะไรที่ผิดปกติ แถวๆนั้น

     

     

     "นี่มันอะไรกัน..."

     

    "อะไร!!" คนร่างสูงพูดย้ำเพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกผิดและรู้สึกแปลกๆกับสถานที่ตรงนั้นอยู่หลายอย่าง ร่างเล็กค่อยๆลุกจากการนอนกับพื้นโดยมียูคยอมช่วยประคอง ทั้งคู่ค่อยๆขุดตามรอยของบางสิ่งที่อยู่บนพื้น เขาค่อยๆขุดมันไปเรื่อยๆจนเป็นรูปร่าง และดึงมันขึ้นมา

     

     

     "สร้อยเส้นนี้นี่มันคุ้นมากๆเลยนะ ว่ามั้ย"

     

     

    "นี่มันสร้อยของนายที่ให้กับ ริอันไว้หนิ" ยูคยอมพูดเตือนความจำของแบมแบม

    ..เมื่อประมาณ6เดือนที่ผ่านมาที่แบมแบมได้ให้สร้อยนี้กับริอันในวันเกิดของเธอ  ตอนนั้นริอันกับแบมแบมและยูคยอมยังคงเป็นเด็กฝึกธรรมดาที่วิ่งเล่น สนิทและรู้จักกัน ทั้งสามคนสนิทกันมากๆจนหลายๆคนก็คิดว่าอาจจะไม่ได้เป็นแค่เพื่อน

     

     

     

    "ยูคแบม   รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร" ริอันคนเสียงหวานถามด้วยหน้าตารื่นเริงแต่ทั้งคู่กลับทำเป็นลืมมันไปเสียสนิท

     

    "วันนี้ก็วัน..."

     

    "วัน..." ริอันพูดทวนด้วยความตื่นเต้น

     

    "วันพุธไง!!" ทั้งคู่ทำเอาน้ำตาของริอันเริ่มคลอเหมือนจะไหลลงมา ริอันทุบที่แขนของทั้งคู่แล้วพูดบางอย่างด้วยเสียงน้อยใจ

     

     

     "วันนี้วันเกิดฉันไง ทำไมจำไม่ได้ ใช่สิก็ฉันมันไม่สำคัญไง"

    ทันใดนั้นเองริอันก็น้ำตาไหลออกมา...
    แต่มันไม่ได้เป็นเพราะสองคนนั้นจำวันเกิดของเธอไม่ได้...

     

     

     

    มันเป็นเพราะ....

     

     " (แซ็ง อิล ชุก ฮา ฮัม นิ ดา)

    (แซ็ง อิล ชุก ฮา ฮัม นิ ดา)

    리안 (ซา ราง ฮา นึน ริอัน ชิ)

    (แซ็ง อิล ชุก ฮา ฮัม นิ ดา)"

     

    เมื่อร้องเพลงจบทั้งคู่ก็เดินไปหยิบกล่องของขวัญที่ซ่อนเอาไว้หลังกระถางต้นไม้ริมหน้าต่างของห้องนั้นแล้วเดินกลับมายื่นให้ริอัน น้ำตาของเธอไหลออกมาเรื่อยๆ เพราะมีความสุข

     

     

     "พวกนายนี่มัน..จริงๆเลย" ทั้งสามคนกอดกันแน่น

     

     

     

     "ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีค่ามากมายอะไรแต่แบมก็ตั้งใจที่จะหามันมาให้ริอันนะ" คนตัวเล็กพูด

     

    "ใช่ๆ ของยูคก็เหมือนกัน มันอาจจะไม่ได้มีค่ามากมายแต่ยูคตั้งใจที่จะทำมันเพื่อยัยตัวแสบคนเนี้ย" คนร่างสูงพูดพร้อมดับชี้นิ้วไปจิ้มแขนของริอัน ทำให้ตัวของริอันโยกเยกไปมา

     

     

     "ถ้างั้น..อันขอแกะเลยนะ"

     

     

    "ได้สิ แกะเลย แบมก็อยากรู้ว่ายูคให้อะไรกับริอัน งั้นแกะของยูคก่อนนะ" ริอันค่อยๆแกะห่อของขวัญสีฟ้าอ่อนที่มาจากยูคยอมมันบ่งบอกถึงความเป็นตัวของเขาจริงๆ เธอเริ่มแกะมันไปเรื่อยๆ สิ่งๆนั้นมีรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดพอดีมือ แล้วเธอก็เปิดกล่องนั้นออก

     

     

     "นี่มันสมุดนี่นา.." ริอันพูดเหมือนกับหมดหวังแต่เธอก็ยิ้มออกมาเมื่อเปิดอ่านข้อความข้างใน

     

     

     "นายนั่งเขียนมันเพื่อฉันหรอ" ริอันพูดแล้วก็น้ำตาไหลออกมา เพราะข้อความข้างในนั้นมันเป็นเหมือนกับไดอารี่ของเธอแต่เพียงเธอไม่ได้เป็นคนเขียนมันเอาไว้ด้วยตัวเอง

     

     

     "ยูคนั่นนายมองยัยริอันตลอดเวลาเลยหรือยังไง" แบมแบมถามด้วยความสงสัย

     

     

     "ป่าวสักหน่อย ก็ปกตินั่นแหละ แต่แค่ แบมกับอันจำมันไม่ได้ต่างหากล่ะแล้วว..." คนร่างสูงยังพูดไม่ทันจบเสียงหวานๆก็แทรกขึ้นมา

     

     

     "ริอันนั่งอยู่ที่เก้าอี้สีชมพูริมหน้าต่าง แสงสีเหลืออ่อนยามสายสะท้อนให้เห็นภาพของริอันนั่งมองนกบนท้องฟ้าอย่างเพลิดเพลินพร้อมกับฮัมเพลงไปเบาๆ ตอนนั้นเธอดูสวยมากๆเลย เธอรู้หรือป่าวเวลาเธอไม่แต่งหน้ามันดูดีมากๆเลยล่ะ. นั่นนายคิดแบบนั้นจริงๆหรอ ในวันนั้นมันเป็นวันที่ฉันอารมณ์ดีมากๆเลยนะเพราะว่าลุงผักชมว่าวันนี้เสียงของฉันมันเข้ากับคีย์เพลงพอดี ฝันนั้นฉันเลยลองนั่นฮัมเพลงไปเบาๆในใจ เดี๋ยวนะอันจำได้ว่าอันฮัมเป็นในใจ แต่ทำไมนายได้ยิน" เสียงของริอันเริ่มเต็มไปด้วยความสงสัย

     

     

     "เธอไม่เคยรู้เลยหรอ ว่าเวลาที่เธอมีความสุขเธอจะร้องมันออกมาโดยไม่รู้ตัว มันไม่ใช่แค่ในใจของเธอแน่นอนเลย" ยูคยอมตอบกลับด้วยเสียงของผู้ไขความลับของริอัน

     

    "เธอลองไปอ่านๆดูแล้วกัน มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลย วันหลังอ่ะเธอก็หัดจดอะไรไว้บ้างนะ เธอจะได้รู้ว่าวันนึงเธอทำอะไร เจอใคร เคยสัญญาหรือพูดอะไรออกไปบ้างอ่ะ...จะว่าไปเรายังไม่ได้แกะของขวัญของแบมแบมเลยนี่นา มาแกะกันเถอะยูคก็อยากรู้" เมื่อคนร่างสูงพูดจบริอันก็ลงมือแกะกล่องนั้นทันที กล่องของแบมแบมเป็นกล่องสีทองเงาๆมีลายที่ห่อของขวัญเขียนไว้รอบๆว่า 'ปิกาจู' ซึ่งเป็นชื่อของของเล่นโปรดของแบมแบม กล่องใบนั้นเป็นกล่องเล็กๆขนาดเท่ากับกล่องใส่แหวน แต่เมื่อริอันเปิดกล่องนั้นออกมา

     

     

    "สร้อย!! นี่มันสร้อยจริงๆด้วย ว่าแต่ AYB นี่มันหมายความว่าไงอ่ะแบม"

     

     "A ย่อมาจากริอัน Y ย่อมาจากยูคยอม ส่วนB ก็แบมแบมไง" ร่างเล็กตอบกลับด้วยเสียงมั่นใจและภูมิใจกับสิ่งที่ได้ให้กับริอัน

     

     

     "แล้วทำไมนายถึงได้เรียงเป็น AYB ล่ะ ปกติแแล้วนายชอบอยู่ตรงกลางหรือไม่ก็หน้าไม่ใช่หรอ ตอนนั้นนายกำลังคิดอะไรอยู่บอกมานะ

     

     

    " ริอันเริ่มคาดคั้นเอาความจากแบมแบม แต่แบมแบมก็ยอมตอบโดยดี

     

     

    "ก็เราอยู่ค่าย เจวายพี ใช่มั้ย แบมเลยคิดว่าสร้อยนี่น่าจะเขียนว่า เอวายบี ไงจะได้คล้ายๆกัน" ทั้งคู่ได้แต่อึ้งกับความคิดของแบมแบม ที่ปกติเขามักจะทำอะไรโดยใช้ความคิดของตัวเองเป็นหลักน้อยครั้งที่เขาจะคิดอะไรละเอียดถี่ถ้วนแบบนี้ แล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายไปซ้อมในห้องที่อยู่ใกล้ๆกัน

     

     

     

    "สร้อยนี่มันของริอันจริงๆหรอ...ทำไมเธอถึงได้ทิ้งมัน ทั้งๆที่ฉันจำได้เธอใส่มันไว้ติดตัวตลอดนะ ทำไมกัน" ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แต่คนร่างสูงก็ปลอบแบมแบมเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าเขาเริ่มไม่ชอบหน้าแบมแบมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทุกครั้งที่พูดถึงริอันยูคยอมก็มักจะใจอ่อนกับแบมแบมทุกครั้งไป..

     

     

     "ไม่หรอกน่า บางทีริอันอาจจะมาที่นี่บ่อยๆเหมือนยูคแล้วก็สะดุดล้มเหมือนแบมแล้วสร้อยก็หล่นก็ได้นะ" คนร่างสูงปลอบคนร่างเล็กที่กำลังน้อยใจและน้ำตาไหลรินออกมาจากตาทั้งคู่ของเขา

     

     

     "แปลกนะ ทำไมอยู่ๆริอันก็ส่งจดหมายมาบอกยกเลิกสัญญาการเป็นเด็กฝึกซะเฉยๆ ทั้งๆที่ริอันเองก็กำลังจะเดบิวท์ การได้เดบิวท์มันคือความฝันของทุกๆคนไม่ใช่หรอ แต่ทำไมเธอกลับทิ้งมัน ไปพร้อมๆกับสร้อยเส้นนี้นะ ทำไม" แบมแบมพูดออกมาแต่ตอนนี้ในสมองของเขามันเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ถูกแล้วจริงๆเขารู้สึกสับสนกับชีวิตในตอนนี้เอาเสียมากๆ

     

     "โอ้ย!... ปวดหัวจังง " แบมแบมเริ่มจับหัวของตัวเอง คนร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงข้ามจึงตกใจและรีบพาแบมแบมไปพักที่หอทันที แบมแบมนอนพักและตื่นมาอีกทีในตอนเย็นด้วยความหิว แบมแบมเดินออกไปที่โต๊ะอาหารซึ่งทุกคนกำลังรอเขาอยู่ ร่างเล็กค่อยๆนั่งลงโดยมีมาร์คเลื่อนเก้าอี้ให้ แต่สายตาของคนที่นั่งตรงข้ามกับเขามันช่างแตกต่างกับเมื่อตอนบ่ายเสียเหลือเกิน

     

     'ทำไมทุกครั้งมันต้องเป็นแบบนี้นะ ทุกอย่างมันกำลังกลับไปเป็นเหมือนเดิมตลอดไปไม่ได้เลยหรอ' ร่างเล็กคิดในใจและนั่งกินต่อไป

     

     

     

     

     

    -ห้องของแบมแบมและยูคยอม-

    "ยูค นายจะนอนหรือยัง" ร่างเล็กถามขึ้นทันทีเมื่อบรรยากาศในห้องเงียบไป

     

     

     "เดี๋ยวก็นอนแล้วล่ะ" เสียงนั้นตอบอย่างเย็นชา แต่แบมแบมก็ยังพยายามที่จะชวนคุยอยู่ดี

     

     "สร้อยนั่นอยู่ไหนหรอ" เมื่อพูดถึงริอันบรรยากาศอันแสนอบอุ่นนั้นมันก็เหมือนจะกลับมาอีกครั้งแม้ว่าริอันจะไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยก็ตาม

     

     

     "อ้อ.. ฉันเก็บมันไว้ให้นายแล้วล่ะ อยู่บนตู้น่ะ ในกล่องเล็กๆสีฟ้าของฉันเอง " เสียงน่าฟังและดูไร้เดียงสาของยูคยอมคนเดิมกลับมาอีกครั้ง มันทำเอาคนตัวเล็ก ยิ้มไม่หุบ

     

     

    "วางไว้บนตู้หรอ แล้วฉันจะหยิบมันถึงได้ยังไง..." แบมแบมพูดด้วยเสียงหัวเราะแบบแซะตัวเอง

     

     

     "ลืมไปเลย ขอโทษนะ งั้น เอาไว้ที่ไหนดีล่ะ ที่หน้ากระจกแล้วกัน นายชอบส่องกระจกนี่..นายจะต้องไม่ลืมมันแน่ๆ" พูดจบยูคยอมก็เอื้อมมือไปหยิบกล่องจากบนตู้มาวางไว้หน้ากระจกตามที่ตัวเองบอก

     

     

     'นายรู้ว่าฉันชอบส่องกระจก จริงๆแล้วนายก็มองฉันอยู่ตลอดสินะ' แบมแบมคิดเข้าข้างตัวเองและเผยยิ้มนั้นออกมาจนบางทีก็ดูมากไป

     

     

     "แบม นั่นนายกำลังยิ้มอะไรอยู่น่ะ บอกมานะ" แบมแบมหุบยิ้มทันทีเมื่อมี่คนรู้ทัน

     

     

     "คือ ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยน่ะ ...งั้นฉันนอนก่อนนะ"

     

     

    "นายยังไม่หายดีอีกหรอเนี่ย นายนอนหลับให้สบายเลยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะปลุกนายเอง อ้อ!! พรุ่งนี้มีงานฉลองการเดบิวท์ด้วยนะ เราต้องสนุกกันแน่ๆเลย ฝันดีนะเด็กน้อย" ยูคค่อยๆเดินมานั่งที่ขอบเตียงและห่มผ้าห่มให้แบมแบม คนร่างสูงลูบหัวร่างเล็กที่นอนยิ้มอยู่จนหลับไปในที่สุด
     

    ---------------------------------------------------------

    สวัสดีค่าา
    ริอันเป็นใคร อะไร มาจากไหน 
    ยังไงก็อย่าลิมติดตามตอนต่อไปด้วยนะค่าา
    ชีวิตของเขาทั้ง 7 คนจะเป็นยังไง หลังการเดบิวต์
    งุงุ

    เมนชั่นหรือ inbox มาคุยกับไรท์ได้น้าา
    เมนชั่น  >>ABP'NN<<
    inbox >>>ABP'nn<<<

    มี hashtag กะเค้าด้วยยน้าาา   --->  #ฟิคบีลีฟ

    ไปละน้าา

    ปย๊งง!!

    ::@บ๊งค์ @แอ๋ @แหนม::

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×