ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {GOT7} BELIEVE :: [Mark x Yug x Bam// BNOIR//JACKJAE]

    ลำดับตอนที่ #8 : . . .b e l i e v e . . . CHAPTER : 5

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 57




    22 Dec. 2014 // 0:18 am                                             [UPDATE]
     





    CHAPTER : 5









    ...เช้าวันสดใสได้เริ่มขึ้น มีเสียงนกร้อง เสียงลมพัดอันแผ่วเบา และ แสงที่ลอดผ่านม่านบางๆเข้ามา มันทำให้คนหน้าหล่อค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆอย่างงัวเงีย มาร์คพยายามจะขยับตัวทันทีที่ลืมตา แต่เขากลับรู้สึกว่ามือของเขา สัมผัสเข้ากลับอะไรบางอย่าง ...นั่นก็คือขาของคนร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆ

     



    "นี่นายเห็นฮยองเป็นหมอนข้างหรือไงเนี่ย" คนแมนพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะจริงจังแต่หน้าเขาก็กลับแดงขึ้นมา.. เขาพยายามที่จะแกะมือและขาของแบมแบมออกจากตัวอย่างช้าๆ เพราะกลัวว่าแบมแบมจะตื่นขึ้นมา เขาพยายามจะลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆแต่แบมแบมก็มาจับแขนของเขาไว้

     

     "ฮะ!!" มาร์คอุทานด้วยความตกใจ พยายามจะแกะมือน้อยๆนั้นออกแต่มันดูแน่นเหลือเกิน แบมแบมค่อยๆพลิกตัวช้าๆและดึงมาร์คข้ามผ่านตัวเขาไป มานอนข้างๆและ กอดคนหน้าหล่อราวกับว่าเขาเป็นหมอนข้างอย่างไรอย่างนั้น

     

     

     'นายเอาแรงมาจากไหนเนี่ย ฮยองจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ฮยองไม่อยากทำแบบนี้นะ อย่าทำให้ฮยองหวั่นไหวสิแบมแบม'

     มาร์คคิดในใจกลัวคนร่างบางที่กอดเขาอยู่จะตื่น มาร์คพยายามจะขยับตัวให้หลุดไปจากการเป็นหมอนข้างของแบมแบม แต่แบมแบมกลับกอดเขาแน่นขึ้นทุกทีๆ

     

     

     

     "อย่าไปนะ อยู่กับแบมสิ อย่าเป็นแบบนี้สิ" เสียงน่ารักๆนั้นมันออกมาจากปากอันน่าสัมผัสของคนตรงหน้า  แต่เขายังไม่ตื่น... คำที่แบมแบมพูดออกมามันทำให้มาร์ครู้สึกสงสัยว่าทำไมคนร่างบางถึงพูดแบบนั้นออกมา อยากจะปลุกเจ้าตัวมาถามซะให้รู้เรื่อง แต่นั้นมันไม่ถูกนี่นาจะไปคาดคั้นเอาคำตอบจากคนที่หลับอยู่ได้ยังไง แบมแบมเริ่มจะคลายมือจากการกอดคนแมนตรงหน้าให้หลวมลง แต่ตอนนั้นมาร์คเองก็เริ่มจะคุมสติไม่อยู่กับหน้าใสใสของคนตรงหน้า เขาไม่รู้เลยว่ากอดนั้นมันไม่แน่นเหมือนตอนแรกแล้ว หน้าของเขามันเริ่มขยับไปใกล้หน้าของแบมแบมมากขึ้นเรื่อยๆ ....

     

     

     

    อยู่ๆผมก็รู้สึกราวกับถูกไฟดูด มันรู้สึกร้อนและชาไปทั้งตัวแล้วสินะ หน้าของเราทั้งคู่มันก็ใกล้กันมากขึ้นทุกที แต่ขาและมือของคนร่างบางก็ถีบ และ ผลักหมอนข้างหน้าหล่อจนตกเตียงไปทันที

     

     

     'ตุ๊บบ'

     

     "โอ้ยย แบมแบมนายผลักฮยองทำไมเนี่ย ...?....แต่ก็ดีแล้วขอบคุณนะแบมแบม" มาร์คพูดออกไปแล้วมันก็ทำให้เขาคิดได้ว่ามันดีแล้วมาร์คจึงค่อยๆเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าในตู้ข้างๆกับโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินไปห้องน้ำทันทีโดยไม่โกรธคนที่ทำให้เขาตกเตียงเลย

     

     

    ........................................................................................................................

     

     

    ....จูเนียร์ตื่นค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะแสงแดดอ่อนๆยามเช้าแต่เขาก็ไม่เห็นว่าใครนอนอยู่ข้างๆเขาแล้ว จูเนียร์จึงค่อยๆลุกไปเข้าห้องน้ำแต่เขาก็สังเกตเห็นว่ามีร่างใหญ่อีกรคนนอนอยู่ข้างล่าง

     

     

     "นายคงนอนตกเตียงสินะ แต่..นายชอบบอกว่าฉันนอนดิ้น...หรือว่าฉันจะถีบนายตกเตียงกันนะ โอ้ว! ไม่จริงอ่ะขอโทษแล้วกันนะ" ออมม่าค่อยๆเดินไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้คนชิคที่นอนหนาวอยู่ข้างล่าง เขาค่อยๆห่มผ้าให้เพราะกลัวว่าคนชิคจะตื่นขึ้นมา

     

     

    'ทำไมเวลาที่นายนอนมันน่ารักแบบนี้นะ นี่นายนอนยิ้มหรือเปล่านะ เพราะนายเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงอยากจะอยู่กับนายไม่ว่าวันนั้นนายจะงี่เง่าหรือกวนประสาทฉันแค่ไหน"

    เจบีพลิกตัว มันทำให้ออมม่าตกใจไม่น้อย

     

     'ตายแล้วเจบีจะได้ยินที่ฉันพูดไหมนะ ไม่นะ' แต่เจบีก็ยังไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมาจนทำให้ออมม่าสบายใจและคิดว่าเจบีคงไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกไป จากนั้นเขาจึงเดินไปอาบน้ำด้วยหน้าตายิ้มแย้มราวกับได้รับพรจากนางฟ้า

     

     

     

     

    มาร์คเดินออกจากห้องนั้นมาทันที  แล้วรีบตรงไปที่ห้องของยูคยอม ยูคยอมเปิดประตูออกมาโดยที่เห็นคนหน้าหล่อยืนอยู่หน้าห้อง

     

     

     

     "วันนี้ฮยองจะมาปลุกผมหรอ ฮยองพลาดแล้ว..วันนี้ผมตื่นเองครับ" ยูคยอมพูดเสียงสดใสที่ดูจริงใจผสมกับความไร้เดียงสาของความเป็นเด็ก

     

     

     "นายยังไม่โตจริงๆเลยนะ" มาร์คพูดและยิ้มพร้อมกับมองหน้าคนร่างสูงที่มันทำให้เขาอดอิจฉากับความสูงนั้นไม่ได้

     

     

     

     "ไปปลุกยองแจจอมขี้เซากันเถอะฮยอง" ยูคยอมพูดด้วยเสียงที่สดใสไม่แพ้กับเช้าวันสดใสแบบวันนี้เลย ทั้งคู่เดินไปที่หน้าห้องนอนของยองแจและแจ๊คสัน มาร์คค่อยๆเปิดประตูอย่างช้าๆ แต่สิ่งที้มันทำให้เขาตกใจคือคนที่อยู่ตรงหน้าแจ๊คสัน!

     

     

     

    "แจ๊คว่าแล้วว่าฮยองจะมาปลุกยองแจใช่ไหมล่ะ ผมปลุกเรียบร้อยแล้วครับ

     

     

    "นายปลุกยองแจหรอ" ทั้งคู่พูดพร้อมกัน เพราะการปลุกยองแจให้ตื่นจากการหลับนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากต่อให้วันไหนแผ่นดินไหว ไฟไหม้หรือน้ำท่วมคนอย่างยองแจยังไม่รู้เรื่องเลย

     

     

     "เอ่อ ว่าแต่นายปลุกยองแจยังไงอ่ะ" มาร์คถามด้วยความสงสัยเพราะเขาเองไม่เคยปลุกยองแจสำเร็จเลยสักครั้ง เพราะคนที่ปลุกยองแจได้คือเจบีเท่านั้นตั้งแต่ที่เขารู้มา

     

     

     

     "ผมก็แค่ปลุกเค้าให้เค้าพอจะรู้ตัว ...ก็เลยร้องเพลงเสียงดังๆ เต้นไปรอบๆตัวยองแจ เตะเขาแต่เขาก็ยังไม่ตื่น ผมก็เลย..."

     

     "เลย..." ทั้งคู่พูดด้วยเสียงอยากรู้และลุ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า

     

     

     "จูบยองแจครับ ตอนนี้ยองแจกำลังล้างหน้าอย่างหนักเลย ก็มันไม่มีวิธีนี่นา" คำว่าจูบมันทำให้มาร์คกับยูคยอมแทบจะทรุดไปตรงนั้น แต่มันทำให้มาร์คนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าในห้องก่อนที่จะโดนถีบตกเตียงได้

     

     

     "แบมแบม" ชื่อของคนคนนั้นมันทำให้มาร์คหน้าแดงขึ้นมา

     

     

     

     "แบมแบมตื่นหรือยังครับฮยอง ผมอยากเล่นกับแบมแบมแล้ว วันนี้จะเล่นอะไรดีนะ ขี่หลังเที่ยวรอบค่ายดีไหมนะ" แจ๊คสันคิดไปเรื่อยๆแล้วเดินไปที่ห้องของแบมแบม

     

     

     "แบมแบม ตื่นได้แล้ว" เสียงของแจ๊คสันพูดซ้ำๆและดังขึ้นเรื่อยแต่แบมแบมก็ไม่มีท่าทีที่จะลุก  ได้แต่งัวเงียอยู่ตรงที่นอน

     

     

    "แบมแบมถ้านายไม่ยอมตื่นฮยองจะพานายไปดูเลือดนะ" คำว่าเลือดมันทำให้แบมแบมสะดุ้งขึ้นมาและรีบวิ่งไปอาบน้ำทันทีจนเกือบลืมหยิบเสื้อผ้าไปด้วย แจ๊คสันจึงเดินออกไปนอกห้องนั้นและตรงไปที่ครัวทันที

     

     

     

     

     "ออมม่าวันนี้มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า" แจ๊คสันพูดและยิ้มอย่างสดใสยิ่งกว่าพระอาทิตย์ยามเช้าวันนี้เสียอีก จนออมม่าเริ่มจะกลัวอยู่นิดๆ

     

     "เจบีฮยองตื่นหรือยังเนี่ย ผมจะได้ไปปลุก" ออมม่านึกได้ว่ายังไม่ได้ปลุกเจบี ขืนให้นายนี่ไปปลุกคนชิคได้อารมณ์เสียโวยวายแต่เช้าแน่ ยิ่งเจอวิธีการปลุกของนายนี่เจบีคงอยากตายเต็มที

     

     

    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปปลุกเค้าเองดีกว่า" ออมม่ารีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีเพราะกลัวว่าคนขี้เหงาอย่างแจ๊คสันจะวิ่งตามมา ยังไม่ทันทีที่ออมม่าจะเปิดประตู  เจบีก็เปิดประตูมาพอดี จูเนียร์ที่รีบวิ่งมาไม่ทันทีจะเบรกก็ล้มทับตัวของเจบีลงพอดี เจบีตาโตมองคนตรงหน้าและพยายามหลบตา

     

     

     "นายทำอะไรเนี่ย ฉันหนักนะ ออกไปได้แล้ว" จูเนียร์พยายามที่จะไม่มองหน้าเจบีเหมือนกัน

     

     

     "ก็นายกอดฉันไว้อ่ะ ฉันจะออกไปได้ยังไง" ทั้งสองมองหน้ากันแล้วรีบออกห่างกันทันที เจบีเริ่มใจเต้นแบบแปลกๆจนพูดไม่ถูก 'ผมเคยใจเต้นแบบนี้กับใครไหมนะที่ไม่ใช่จูเนียร์'

     

     

    "เอ่อเรา... ออกไปกินอะไรข้างนอกกันเถอะ" ออมม่าพยายามจะพูดโดยที่ไม่มองหน้าเจบีแต่ก็ยังอยากที่จะอยู่ตรงนั้นในบรรยากาศแบบนั้นอยู่ดี

     

     

     "วันนี้มีอะไรกินบ้างล่ะ" เมื่อพูดถึงของกินมันทำให้เจบีเริ่มจะหิวขึ้นมาทันที ทั้งสองเดินออกมานอกห้องพร้อมกัน และตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารพูดคุยและกินด้วยกันอย่างสนุกสนาน  บรรยากาศตอนนี้มันมีแต่ความสุขไม่มีใครเลยที่จะนั่งเงียบแม้แต่คนพูดน้อยอย่างมาร์คที่หัวเราะและพูดเล่นกับน้องโดยไม่ถือตัวเลย ถึงแม้ว่าแบมแบมกับยูคยอมจะไม่ทะเลาะกันในตอนนี้แต่ตอนนี้เขาทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันเลย ทำไมสองคนนี้ถึงปรับความเข้าใจกันไม่ได้สักทีนะ

     

     

     "วันนี้ใครจะเก็บ"

    คำพูดของเจบีทุกครั้งที่อาหารเกลี้ยงโต๊ะมันเป็นคำที่ติดปากเขาไปแล้วสินะ

     

     

     "วันนี้แจ๊คจะเก็บเอง" ทุกคนมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย เพราะแจ๊คสันไม่เคยอาสาที่จะเก็บเลย จนบางครั้งก็หาข้อแก้ตัวจนได้

     

     

    "แต่ว่า..แจ๊คจะเก็บกับยองแจ" คำๆนั้นทำเอายองแจแทบจะนอนฟุบลงไปกับโต๊ะเพราะเขาเริ่มจะไม่แน่ใจกับชะตาชีวิตในวันนี้แล้วซะแล้ว

     

     'วันนี้มันจะมีเรื่องอะไรแย่ไปกว่านี้อีกไหมนะ' ยองแจคิดอะไรไปเรื่อยๆยองแจก็หน้าแดงขึ้นมาแต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะเก็บล้างจานพวกนั้นกับแจ๊คสัน ทุกคนเริ่มเดินไปที่ห้องซ้อมปล่อยให้ยองแจและแจ๊คสันอยู่ด้วยกันสองคน

     

     

     "วันนี้นายเป็นอะไรฮะ ทำไมไม่คุยกับฉัน" แจ๊คสันถามด้วยเสียงสงสัยเพราะยองแจไม่เคยเงียบแบบนี้เลยสักครั้งเดียว

     

     

    "ก็ไม่มีอะไรนี่นา รีบๆล้างจานพวกนี้แล้วไปซ้อมกันเถอะ" ยองแจตอบด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเหมือนไม่อยากจะเจอคนที่ขโมยจูบเขาในวันนี้อีกแล้ว

     

     

     "ทำไมล่ะ เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานเลย อย่าเพิ่งมาเบื่อกันสิ" แจ๊คสันพูดขึ้นมาแต่ปรากฏความสงสัยบนใบหน้าและเริ่มขยับหน้าเข้าหายองแจเรื่อยๆในขณะที่เขายืนล้างจานอยู่ข้างๆกัน

     

     

     "อ๊ะ! นี่นายจะทำอะไรอีก ที่จูบฉันเมื่อเช้ายังไม่พออีกหรอ" ยองแจพูดด้วยความตกใจกับสีหน้าท่าทางของคนกวนประสาทข้างๆ 'นี่ผมพูดอะไรออกไปนะ ไม่น่าเลย'

     

     

     

     "อ๋ออ เรื่องนี้นี่เองที่ทำให้นายไม่ยอมคุยกับฉัน" พอได้ยินแจ๊คสันก็สวนกลับไปทันดีเหมือนต้องการคำตอบนั้นมานาน ยองแจหันหน้าไปอีกด้านหนึ่งเพราะความอาย แต่แจ๊คสันกลับค่อยๆเดินอ้อมตัวยองแจมาอีกด้านหนึ่ง

     

     "ขอโทษนะ"

     

     "ฮยองจะมาขอโทษผมเรื่องอะไร" ยองแจถามไปทั้งๆที่ตัวเองก็รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว

     

     

     "ช่างเถอะ เราล้างจานพวกนี้ต่อแล้วไปซ้อมด้วยกันนะ" แจ๊คสันไม่อยากจะตอกย้ำในสิ่งที่ยองแจเองก็รู้ไปอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ล้างจานจนเสร็จก็เดินไปซ้อมในห้องรวม

     

     

    "พวกนายตั้งใจซ้อมกันหน่อยสิ เราจะต้องเตรียมตัวให้ดีที่สุดสำหรับการเดบิวท์ในอีกสองวันนะ" ลุงผักพยายามที่จะทำเสียงดุชายเจ็ดคนที่ยังวิ่งเล่นกันเหมือนเด็กๆ แต่ก็ยังไม่มีใครฟังในสิ่งที่ลุงผักพยายามจะพูดเลย ตอนนี้เจบีกับจูเนียร์เล่นวิ่งไล่จับกัน ยองแจ ยูคยอมและแจ๊คสันกำลังเล่นเกมส์กันอยู่ ส่วนมาร์คกับแบมแบมก็คุยกันและหัวเราะเสียงดัง

     

     

     

     "ถ้าวันนี้พวกนายตั้งใจซ้อมพวกนายจะได้กินไก่กับพิซซ่า พวกนายคงไม่อยากจะกินมันสินะ" เมื่อลุงผักพูดถึงอาหารที่พวกเขาชอบกินเสียงก็เงียบลงทันทีสามารถได้แม้แต่เสียงลมที่พัดผ่านไปมา

     

     

     "วันนี้พวกนายต้องตั้งใจซ้อมอย่างจริงจังนะไม่ใช่ว่าพอมาเป็นศิลปินแล้วพวกนายจะไม่ต้องซ้อม นายต้องซ้อมหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะเหล่าแฟนคลับของนายก็อยากเห็นผลงานดีดีของพวกนายด้วยเหมือนกัน ค่ายของเราไม่ได้เลือกศิลปินที่หน้าตา เราเลือกกันที่ความสามารถและคติของแต่ละคน ความเป็นตัวของพวกนายนั่นแหละมันจะสามารถทำให้นายไม่กลัวกับสิ่งที่จะผจญในอนาคต พวกนายต้องตั้งใจซ้อมและทำมันให้ดีที่สุดนะ สู้ๆ" เมื่อลุงผักพูดจบก็เดินออกไปจากห้องซ้อมทันทีและปล่อยให้เด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนมองหน้ากันกับคำพูดของคนที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อไม่นานนี้

     

     

     

     "ลุงผักหมายความว่าไงอ่ะ ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหม"แบมแบมพูดขึ้นทันทีที่ลุงผักเดินออกไป

     

     

    "นั่นมันหมายถึงให้เราตั้งใจซ้อมและทำงานของเราให้ดีที่สุดด้วยความเป็นตัวของเราเอง" เจบีพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ดูนิ่งและไร้ซึ่งแววตาจนทำให้ห้องนั้นเงียบไปเพราะคำพูดของคนชิค

     

     

     "ซักวันนายจะเข้าใจมันเองแหละ นายแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ" เขาพูดต่อเมื่อบรรยากาศในตอนนั้นมันเอื้อให้ได้อธิบายคำพูดพวกนั้นเต็มที

     

     

     

     "พวกเราไปซ้อมกันดีกว่านะ อีกแค่สองวันเองเราก็จะต้องเดบิวท์แล้ว สู้ๆ" จูเนียร์พูดพร้อมกับยิ่นมือไปข้างหน้า ให้เหล่าสมาชิกที่เหลือวางมือต่อขึ้นไป

     

     

    "เราทำได้ G.O.T.7 fighting " ทุกคนพูดพร้อมกันและต่างซ้อมกันอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าขาของแบมแบมมันจะไม่เอื้อต่อการเต้นแต่แบมแบมก็พยายามที่จะทำมันให้ดีที่สุดไม่ต่างจากเมมเบอร์คนอื่นด้วยเช่นกัน

     

     

     

     

    ....หลังจากการซ้อมจบลงเพราะเสียงท้องร้องของเมมเบอร์ทั้งเจ็ดในยามเย็นที่กำลังจะค่ำได้เริ่มขึ้น พวกเขาจึงไปที่โต๊ะอาหารอย่างพร้อมเพรียง แต่ยังมีใครบางคนที่ยังมาไม่ถึงจนมาร์คต้องเดินเข้าไปหา

     

     

     "แบมไหวหรือป่าว ฮยองช่วยไหม" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแต่กลับถูกปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าจากแบมแบมที่พยายามจะเดินด้วยตนเอง

     

     

    "เร็วๆกันหน่อยได้ไหมครับ พวกเราหิวกันแล้วนะ" ยูคยอมพูดเสียงใสแต่ตาของเขามันเหมือนกับเย้ยแบมแบม  หลังจากพูดเสร็จก็หันไปยิ้มให้มาร์คที่ยืนอยู่ข้างๆ

     

     

     "ว่าไงล่ะ ให้ฮยองช่วยแล้วกัน" มาร์คพยายามที่จะให้แบมแบมขี่หลังแต่แบมแบมกลับไม่สนใจและพยายามที่จะเดินต่อไป

    คนร่างสูงลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงมาหาแบมแบมที่กำลังเดินเหมือนคนจะล้ม

     

     

     "นายเลิกงี่เง่าแบบนี้ซักที มันไม่น่ารักหรอกนะ" คนร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนประชด แต่เมื่อยูคยอมเริ่มมองไปที่ข้อเท้าของแบมแบมมันทำให้เขาอยากจะถอนคำพูดนั้นและทิ้งมันไป

     

     

     ...ข้อเท้าของแบมแบมมันบวมและแดงกว่าเมื่อวานเอาเสียมากๆจนน่าเป็นห่วงจริงๆ คนร่างสูงจึงตัดสินใจที่จะอุ้มแบมแบมไปนั่งที่เก้าอี้ทันที เมื่อทุกอย่างมาถึงโต๊ะครบแล้วยูคยอมก็นั่งกินไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ปล่อยให้มาร์ค เจบี และแจ๊คสันมองหน้ากันโดยที่ไม่เขากลับไม่พูดอะไรเลย

     'วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย เมื่อวานยังผลักเขาเรื่องนมที่แบมแบมทำให้แต่ก็มารอแบมแบมที่หน้าห้องแล้วเขาเองที่เป็นคนอุ้มแบมแบมมาที่ห้อง  ตอนที่แบมแบมไปตามให้มากินขนมแล้วเมื่อไม่นานมานี้ยังมองแบมแบมด้วยสายตาที่เยือกเย็น แต่เขากลับอุ้มแบมแบมมานั่งและไม่พูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้' ความคิดของเจบีหยุดลงด้วยเสียงของยองแจที่กำลังกินไก่อย่างเอร็ดอร่อย

     

     

     "มองกันอยู่นั่นแหละ ไม่กินกันแล้วหรอ งั้นเดี๋ยวผมกินเองครับ" ยองแจพูดพร้อมกับจะหยิบไก่ในจานของแจ๊คสัน แต่คนมือไวเอามือมาขวางแผนการชั่วร้ายนั้นไว้เสียก่อน

     

     

     "ยองแจนายอย่ามาเนียนอาศัยจังหวะนี้เลยนะ ฉันรู้แผนการของนายหมดแล้วนะ" แจ๊คสันพูดแซะและยื่นมือไปเขกหัวยองแจพร้อมกับหัวเราะ

     

    "ฮยองอ่ารู้ทันตลอดเลย" ยองแจพูดเหมือนปลอบใจตัวเอง มันทำให้บรรยากาศในตอนนั้นไม่เงียบเหมือนที่ผ่านมา แต่ยูคยอมยังพยายามที่จะทำหน้านิ่งถึงแม้ว่าในใจของเขามันจะหัวเราะตามบรรยากาศรอบตัวของเขาก็ตาม อาหารมื้อเย็นของเหล่าเมมเบอร์ผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับเรื่องที่ยูคยอมอุ้มแบมแบมมานั่งที่โต๊ะ

     

     

     "ผมรู้แล้วว่าเราลืมอะไรกัน" คนร่างสูงพูดเมื่อจำอะไรบางอย่างได้

     

     

     "อะไร!!? " เหล่าเมมเบอร์ที่เหลือพูดพร้อมกันด้วยความอยากรู้

     

     

    "รูมเมทไง เมื่อวานผมนอนคนเดียวเหงามากเลย กลัวด้วย งั้นวันนี้เรามาจับฉลากเลือกรูมเมทกันเถอะนะครับ" คำพูดที่ดูไร้เดียงสาของคนร่างสูงมันทำให้ใจของออมม่าแตกสลายไปในพริบตา

     

     

     'นี่เราจะไม่ได้นอนกับเจบีจริงๆหรอเนี่ย'

     

     

     "ไม่หรอกน่า" เจบีพูดออกมาแต่มันทำให้จูเนียร์ตกใจไม่น้อย

     

     

     "นะ นั่น นายหมายคะ ความ ว่าไง" จูเนียร์พูดเสียงสั่นและตะกุกตะกักเหมือนใจที่เต้นแรงในตอนนี้และก้มหน้าลง

     

     

     "ก็หมายถึงในนี้มันไม่น่ากลัวหรอกน่านายจะกลัวอะไร แล้วนี่นายเป็นอะไรไปอีกล่ะนั่งก้มหน้าทำไม" เจบีพูดพร้อมเอื้อมมือไปจับคางของคนขี้งอนที่กำลังก้มหน้าให้เงยขึ้น

     

     

     

     "บางทีวันนี้...เราจับคู่ให้พ่อกับแม่ของพวกเราเลยดีไหมนะ" ยูคยอมพูดออกมาแบบไม่คิดโดยไม่สนใจคนที่กำลังใจเต้นแอย่างจูเนียร์ในตอนนี้เลย

     

     

    "ดีมาก เอ้ย!ไม่ได้นะ นายทำแบบนั้นไม่ได้นะ" จูเนียร์เผลอพูดบางอย่างออกไปแต่ดีที่ไม่มีใครฟังทัน

     

     

     

     "นั่นแน่..... ทำไมออมม่าต้องยิ้มแบบนั้นด้วยล่ะ ถ้าไม่ได้คิดอะไร" แจ๊คสันหันไปมองคนนั่งยิ้มแล้วพูดมันออกมา

     

     

     "งั้นเรามาจับฉลากกันเลยดีกว่านะ" พี่ใหญ่รีบตัดบทเมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่ค่อยดี ทุกคนเริ่มจับหมายเลยซึ่งมีอยู่4 เลข 7ใบ ขึ้นมาคนละใบ

     

     

     

     "ยูคได้เลข1ครับ ยูคไม่ต้องนอนคนเดียวใครแล้วว....ได้เลขอะไรกันบ้าง ใครได้เลขหนึ่ง"

     

     

    "ผมได้เลข4 อ่า" แจ๊คสันพูดพร้อมกันหันไปมองกระดาษของคนทั่วโต๊ะ

     

     

     "มาร์คฮยองได้เลขเดียวกับผมเลย" มาร์คดูหน้านิ่งไปเมื่อรู้ว่าเป็นรูมเมทของคนยียวนคนนี้ 'ต่อไปนี้นายจะเจออะไรต่อไปบ้างนะมาร์ค' ผมไม่ค่อยมั่นใจกับอนาคตที่จะเกิดขึ้นเลยจริงๆ

     

     

     

     "เย่ ผมได้นอนห้องเดียวกับเจบีฮยองด้วย ผมจะปลุกฮยองทุกวันเลยนะเพราะฮยองอ่ะตื่นสาย"

     

     

    ."นายตื่นสายกว่าฮยองอีกนะยองแจ... งั้นเรามาดูกันว่าพรุ่งนี้ใครจะตื่นก่อนกัน" ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างกินเลือดกินเนื้อกับคำท้าทายที่ประเดิมด้วยการตื่นนอนของเมมเบอร์ทั้งสอง

     

     

    "งั้นตอนนี้ก็เหลือออมม่ากับแบมแบม ออมม่าเป็นรูมเมทของผมใช่ไหมครับ ดีใจจังเลย" คนร่างสูงดีใจแล้ววิ่งมากอดจูเนียร์จากข้างหลังเหมือนเด็กน้อยอ้อนแม่อย่างไรอย่างนั้น

     

     

     

     "คือฉันได้เลข3 ...แบมแบมนายได้เลข3หรือเปล่า ได้เลขเดียวกับฮยองเถอะนะ"

     

     

     

     "คือ...แบมได้เลข1" หัวใจของยูคยอมเต้นผิดปกติไปเพราะคำพูดของคนเพียงคนเดียว 'นี่ฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ หนักแน่นหน่อยสิ แบมแบมเป็นคนที่นายไม่ชอบไม่ใช่หรอ จะไปรู้สึกแบบนี้กับเขาได้ยังไง' คนร่างสูงพยายามจะคิดปลุกใจตัวเองแต่หน้าของเขามันกลับแดงออกมาโดยไม่ปรึกษาความคิดของเขาเลย

     

     

    "ยูค นายหน้าแดง...." ออมม่าพูดขึ้นหลังจากรู้สึกผิดหวังที่ได้นอนคนเดียว

     

     

     "คือผมง่วงแล้ว ผมไปนอนก่อนนะ" คนร่างสูงรีบตัดบทแล้วเดินตรงไปที่ห้องใหม่ของเขาทันที.

     

     

    "เราไปจัดห้องกันเถอะนะมาร์คฮยอง" แจ๊คสันพูดพร้อมกับลากตัวพี่ใหญ่ไปที่ห้อง

     'นายนี่จะเป็นอันตรายกับชีวิตของฉันเหมือนกับวันแรกที่พาฉันไปเจอทุกๆคนในทุกๆที่หรือเปล่านะ' มาร์คนั่งลงที่เก้าอี้มุมห้องและมองคนยียวนที่ดูร่าเริงเต้นไปจัดของไปอย่างปลงๆเหมือนไม่มั่นใจและไม่เข้าใจโชคชะตาของชีวิตตัวเองสักเท่าไหร่

     

     

     

     "ฮยองดีจังเลย อยู่ห้องเดิมไม่ต้องวุ่นวายจัดห้องเหมือนผม"

     

     

     "ใช่ แต่มันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกนะ"

     

     

     "ฮยองหมายความว่าไง" แจ๊คสันเดินเอาหน้ามาใกล้ๆคนที่กำลังนั่งเหมื่อและพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อโลก

     

     

     "นายจะทำอะไรฮยองอ่ะ" มาร์คพูดพร้อมผลักหน้าของแจ๊คสันออก

     

     

     "จะว่าไปคนซึนๆแบบฮยองก็ดูน่ารักดีนะ"

     

     

     

     

     "นายหมายความว่าไง อย่าทำให้ฮยองรู้สึกกลัวแบบนั้นสิ" มาร์คพูดพร้อมกับรีบเดินไปที่มุมห้องเพราะกลัวคนขี้แกล้งจะทำกับเขาเหมือนที่ทำกับยองแจ

     

     

     

    "โถ่ ฮยองอ่า ผมแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองกลัวไปได้น่า" แจ๊คสันพูดพร้อมกับเดินตามมาที่มุมห้องที่คนมาดแมนกำลังจิกกำแพงด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับจับคางของคนแมนเชยขึ้น หมุนไปซ้ายทีขวาทีโดยที่ไม่สนใจแววตาอันหวาดกลัวของคนตรงหน้าเลยแม่แต่น้อย

     

     

     "แกล้งฮยองไม่สนุกเลย ไปจัดห้องต่อดีกว่า" แจ๊คสันวิ่งไปจัดของต่ออย่างร่าเริงแต่มาร์คกลับยิ่นแข็งทื่อราวกับวิญญาณได้หลุดลอยไปแล้ว

     

     

     

     

    -ห้องของยูคยอมและแบมแบม-

     

     

     

    "ยูค คือว่า...ฉันขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย" คนตัวเล็กพูดอย่างไม่มั่นใจว่าจะได้คำตอบกลับมา

     

     

     

     "อืม ถ้าตอบได้ก็จะตอบ" คนร่างสูงพูดอย่างไร้เยื่อใยเหมือนกับทุกๆครั้ง

     

     

    "ทำไมนายเปลี่ยนไป..." คนตัวเล็กพูดออกมาและเริ่มมีน้ำไหลอาบแก้มของเขา

     

     

     

     "ใครกันแน่ที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แบมหรอที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้" ยูคยอมพูดโดยไม่มองหน้าคนตัวเล็กที่เหมือนจะร้องไห้

     

     

     

    "ฉันทำอะไร ทำไมนายต้องเกลียดฉัน เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอ เหมือนวันนั้นไง วันที่เรายังเล่นด้วยกัน วันที่เราจับมือกัน วันที่เราไปซื้อขนมด้วยกัน นายลืมมันไปแล้วหรอ!! ฮืออ ฮืออ..." คนตัวเล็กพูดเสียงสั่น น้ำในตาไหลออกมาไม่หยุดและเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

     

     

     "แล้วนายจำไม่ได้หรือไงว่านายทำอะไรลงไป นายทำกับฉันเหมือนฉันไม่มีตัวตน นายคิดว่าคนอย่างนายจะทำอะไรกับใครก็ได้งั้นหรอ!!" เสียงของคนร่างสูงดูแข็งกร้าวและดังลั่นห้องจนได้ยิ้นเสียงสะท้อน บรรยากาศในตอนนั้นเงียบสงัด

     

     

     

     "แบมทำอะไร ยังไง ตอนไหน บอกมาสิ บอกฉันมา" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับทุยแขนของคนที่นั่งข้างๆด้วยความน้อยใจ แต่คนร่างสูงกลับไม่ว่าอะไรเหมือนไม่รู้สึกเจ็บ น้ำตาของเขาทั้งคู่เริ่มจะไหลออกมาพร้อมๆกันอีกครั้ง แต่ยูคยอมพยายามที่จะกลั้นมันไว้

     

     

     

     "ก็ตอนที่ไปสวนสนุกก่อนงานกระชับมิตรนั่น2สัป.." คนร่างสูงพูดยังไม่ทันที้จะจบเขาก็รีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ทันที 'แบมแบมจะรู้จุดอ่อนของฉันไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด หวังว่าจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกนะ

     

     

     

     "ทำไม ตอนนั้นมันมีอะไร บอกมาสิ บอกมา ฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นแบบนี้อีกต่อไปแล้ว" คนตัวเล็กพูดไปร้องไห้ไปและทุบแขนของคนร่างสูงไม่หยุดด้วยความไม่เข้าใจ

     

     

     

    "นายก็ไปหามันเอาเองสิ อย่ามางี่เง่าแบบนี้นะ ไม่มีใครทนนายไปได้ตลอดหรอก" คนร่างสูงพูดพร้อมกับผลักคนตัวเล็กลงไปอยู่ที่พื้น

     

     

    "โอ้ยย ขา ขาฉัน   โอ้ยย เจ็บ" แบมแบมร้องด้วยความเจ็บปวดและพยายามที่จะลุกขึ้นมาแต่ขาจองเขามันไม่อำนวย แบมแบมจึงพยายามที่จะร้องไห้คนที่ผลักเขาช่วยแต่มันเปล่าประโยชน์เลยที่จะทำ เพราะคนร่างสูงแกล้งหลับอย่างสบายใจไปแล้ว แบมแบมจึงพยายามที่จะพาตัวเองไปนอนบนเตียงให้ได้

     

    ...เมื่อแบมแบมจะเองตัวลงบนเตียงคนร่างสูงก็วางแขนบนหมอนของเขาและนอนเต็มพื้นที่เสียแล้วแบมแบมจึงแกล้งนอนทับแขนนั้นลงไปราวกับว่าไม่เห็นและเขาทั้งคู่ก็นอนหลับเช่นนั้นไปจนถึงเช้า
     



    ----------------------------------------
    สวัสดีค่าาา
    วันนี้อัพช้ามากถึงมากที่สุดด 555
    กะว่าจะอัพก่อนถึงเที่ยงคืน แต่ไม่ทันน..555

    ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ติดตาม เข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเมนท์นะคะ

    ถ้ามีข้อสงสัย หรือ อยากจะอ่านสปอยล์ตอนต่อไปก่อนใครในโลกก(?)

    ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยค่าาา
    ปล.เมนชั่นมาไรท์จะสะดวกกว่าค่ะ...

    เมนชั่น  >>ABP'NN<<
    inbox    >>ABP'nn<<

    h a s h t a g --> #ฟิคบีลีฟ


    ไปละน้าาา


    ปย๊งง!!

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×