คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : . . .b e l i e v e . . . CHAPTER : 10
17 JAN . 2015 // [update]
CHAPTER : 10
'ก๊อกๆๆ’
.
.
.
“ตื่นกันได้แล้วนะ สายแล้ว" เสียงของใครบางคนที่มักจะดังขึ้นในทุกๆเช้า.. ใช่แล้วคนคนนั้นคือมาร์คคนแมนที่กำลังเคาะประตูห้องของเจบีและยองแจ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสองคนนี้ต้องมานอนห้องเดียวกันเพราะทั้งคู่มีนิสัยการนอนที่แย่มากทั้งตื่นสาย ปลุกยาก ขี้เซา ร้องเพลงก่อนนอน หลับลึกเกินไป ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือยองแจชอบนอนกรน และเจบีชอบนอนละเมออยู่บ่อยๆ
.. มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจบีละเมอเดินออกจากห้อง ตรงไปที่ลิฟต์แต่เขาเดินลงบันไดที่อยู่ข้างๆลงไปชั้นหนึ่งและเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ห้องน้ำในห้องก็มีและเดินกลับขึ้นมานอน.. สาบานได้เลยว่าเขานอนละเมอเพราะกล้องวงจรปิดจับหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนว่าตาเขายังปิดอยู่
..น่าตลกเหมือนกันนะที่สองคนนี้มานอนห้องเดียวกัน อีกอย่างโอกาสที่ทั้งคู่จะตื่นก็ยากขึ้นไปอีก มาร์คยังเคาะประตูห้องนั้นต่อไปโดยไม่มีวี่แววว่าคนในห้องจะตื่นขึ้นมา นาทีที่มาร์คตัดสินใจเสียมารยาทบิดมือหมุนลูกบิดประตูนั้นเป็นนาทีเดียวกับที่เงาดำหนึ่งทาบทับมาเบื้องหลัง บังแสงยามเช้าของพระอาทิตย์ให้เริ่มมืด คนแมนคิดอะไรได้บางอย่างและตัดสินใจหมุนตัวไปหักแขนของคนลึกลับข้างหลังอย่างรวดเร็ว! และเขาได้ยินเสียงนั้นร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด
"โอ้ย!...พี่มาร์คหักแขนวีทำไม" คนแมนตกตะลึง แล้วค่อยๆปล่อยมือออกจากแขนของวี
"เฮ้ยย วี! พี่ขอโทษนะ เดินมาข้างหลังแบบนี้พี่ก็ตกใจอ่ะดิ คิดว่าใครซะอีก" คนแมนพูดเสียงสั่นและเบาเหมือนยอมรับความผิด
"หูยย เจ็บอ่า ไม่น่าเล่นแบบนี้เลย ว่าจะมาทำให้ตกใจเล่นเจ็บตัวเลยอ่า ใจร้ายที่สุด ชิ!" วีสะบัดผมแล้วทำเหมือนจะเดินกลับ
'แอ๊ดด...'
"ทำอะไรกันเสียงดัง" สุดท้ายเสียงของทั้งคู่ก็สามารถทำให้คนชิคตื่นนอนขึ้นมาท่าทางงัวเงีย
"พี่เจบีตื่นแล้วหรอคะ วีไม่น่าเสียงดังเลย.."
"นี่แหละสิ่งที่ผมต้องการ เจบีนายตื่นมาจนได้สินะ" มาร์คพูด
"ดีเหมือนกัน ตอนนี้ฉันชนะยองแจแล้ว วันนี้ยองแจต้องเป็นทาสของฉันสินะ" ว่าแล้วเจบีก็เดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับเขย่าตัวของยองแจราวกับเกิดแผ่นดินไหวจนเขาตื่น
"ยองแจ ฮยองตื่นก่อน ฮยองชนะ"
"ไม่จริงอ่ะ นี่แจแพ้อีกแล้วหรอเนี่ย จะให้ทำอะไรว่ามาเลย.." คนที่เพิ่งตื่นงัวเงียพูดด้วยเสียงตัดพ้อ
"ฮยองยังไม่ให้ทำตอนนี้หรอก รอไปก่อนนะ" พูดจบเจบีก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินไปอาบน้ำ
"มีอะไรกันหรอคะ พี่ยองแจ" เสียงของวีดังขึ้นด้วยความสงสัย
"เมื่อคืนอ่ะ ท้ากันว่าถ้าใครตื่นทีหลังจะต้องเป็นทาสหนึ่งวัน แล้ววันนี้พี่ก็ตื่นสายอ่า มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย วันนี้จะเจออะไรบ้างเนี่ยย.. คราวที่แล้วเจบีฮยองใช้ให้ล้างจาน จัดห้อง เอาขนมไปให้ แย่งไก่ ใช้ไปปิดไฟ มันจะมีอะไรโหดร้ายไปกว่านั้นไหมนะ เฮ่อ.." ยองแจส่ายหน้าเมื่อพูดถึงสิ่งที่เคยเจอ
"อ้อใช่ วี พี่มีอะไรจะปรึกษาวีด้วย ไปกับพี่ก่อนนะ" วียังไม่ทันจะตอบอะไร มาร์คก็ดึงตัววีเดินไปที่ห้องของมาร์คไปที่ห้องแต่งตัวตัวรวม คนแมนค่อยๆปิดประตูห้องนั้นเบาๆ แล้วเดินมาคุยกับวีที่กลางห้องนั้น
"วีนั่งก่อนสิ" มาร์คลากเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่มุมห้องมาให้วีนั่ง ส่วนมาร์คนั่งบนโต๊ะวางเครื่องสำอางตรงหน้าวี
"พี่มาร์คมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมเราต้องมาคุยกันที่นี่ด้วย"
"วีจำวันที่วีไปนอนห้องพี่ได้หรือเปล่า" คนแมนถาม
"ค..คะ..ค่ะ แล้วไงต่อคะ" วีตอบเสียงสั่นเพราะรู้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นมันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
"คือว่าหลังจากนั้นพี่เดินไปข้างนอกห้อง แล้วเจอกระดาษติดไว้ที่เสื้อของเจบี เขียนประมาณว่านี่เป็นเพียงเริ่มต้น ซึ่งคนข้างนอกหลับกันหมด พี่คิดว่าคนร้ายคงจะเอายานอนหลับใส่ลงไปในแก้วให้ดื่ม แต่แก้วของวีและแบมเป็นยาเลิฟ ซึ่งคนที่เอามาให้คือยูริ แต่ยูริก็นอนหลับอยู่ที่นั่นด้วย" การวิเคราะห์ของมาร์คเริ่มต้นขึ้น
"แล้วจะให้วีทำยังไงเหรอคะ" เสียงสงสัยออกมาจากปากของเด็กซื่อ
"พี่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับเจบีโดยตรง ซึ่งวีเป็นหมอต้องรักษาพี่เจบีอยู่แล้ว วีคือคนที่ใกล้ชิดเขาที่สุด ดังนั้นวีต้องสืบให้ได้ว่าเจบีมีอะไรปิดบังเราหรือว่าเคยทะเลาะกับใครอยู่หรือเปล่า"
"พี่มาร์คคะ วีมีอะไรจะสารภาพค่ะ" เสียงของวีดูไม่มั้นใจ ว่าคนตรงหน้าจะยอมรับมันได้หรือไม่
"คือว่า จริงๆแล้ววีไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้เรียนหมออะไรหรอกนะคะ ที่วีมาอยู่ที่นี่เพราะว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำเหมือนกัน เกี่ยวกับการสืบอะไรบางอย่าง วีไม่ต้องการที่จะโกหกทุกคนหรอกนะคะ แต่ถ้าไม่ทำวีก็คงจะช่วยใครไม่ได้ อีกอย่างถึงแม้ว่าวีจะอยากช่วยสืบเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่วีคงทำมันไม่ได้หรอกค่ะ" วีเริ่มก้มหน้าลงเรื่อยๆเมื่อพูดจบ
"วีเธอทำได้ เธอต้องทำได้แน่ๆ ถ้าพี่จินยองให้เธอมาอยู่กับเราได้ นั่นหมายถึงเขาเห็นอะไรในตัวของวี แล้วพี่ก็เชื่อว่าวีทำได้ เรื่องที่วีไม่ได้เป็นหมอมันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ใครต้องโกรธวีหรอกนะเชื่อพี่สิ วีทำได้" กำลังใจที่คนแมนส่งไปถึงเด็กน้อยตรงหน้ามันเริ่มทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นแม้ว่าเคสแรกของเธอมันจะยังไม่จบลงและเคสที่สองกำลังจะเข้ามาพัวพันในชีวิตของเธอ (ลุงผักจะให้เด็กฝึกและศิลปินที่อายุน้อยกว่า20เรียกว่าท่าประธานส่วนที่อายุมากกว่านั้นจะให้เรียกว่าพี่จินยอง)
"วีจะพยายามนะคะ แบบนี้งานวีก็เยอะเลยล่ะสิ"
'ตึก..ตึก..ตึก'
.
.
เสียงฝีเท้าที่อยู่นอกห้องเหมือนเริ่มใกล้เข้ามา
"พะ..พี่มาร์คทำไงดี" วีเริ่มพูดไม่เป็นคำด้วยความกลัว "แอบตรงนี้ก่อน
" คนแมนดึงแขนของร่างเล็กไปตรงมุมห้องแล้วนั่งลงข้างๆกันคนแมนเอามือปิดปากวีไว้เพราะกลัวว่าเธอจะตกใจแล้วส่งเสียงออกมา ทั้งคู่หลบอยู่หลังราวผ้าโดยมีช่องเล็กๆให้มองลอดออกไปได้ ร่างปริศนาเดินไปที่กล่องคอนแท็คเลนส์รวมและหยิบคอนแท็คเลนส์ของใครคนหนึ่งออกมา พร้อมกับหยดอะไรบางอย่างลงไปในคอนแท็คเลนส์คู่นั้น แล้วเก็บลงในกล่องให้เหมือนเดิมจากนั้นรีบเดินออกไปอย่างรีบร้อน เมื่อร่างปริศนาเดินออกไปแล้วมาร์คจึงรีบวิ่งไปที่หน้าประตูแต่ก็พบว่าคนคนนั้นได้หายไปแล้ว มาร์คจึงเดินกลับเข้ามาและล็อกห้องเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครเปิดเข้ามาได้ เมื่อหันมาก็พบว่าวีกำลังลื้อกล่องคอนแท็กเลนส์นั้นเพื่อหาว่าอันไหนคืออันที่คนปริศนาหยดบางสิ่งลงไป มาร์คเดินมาอยู่ข้างๆวีแล้วช่วยหาด้วยเช่นกัน
"พี่ว่านะ เราควรจะทำอะไรสักอย่าง เพราะหาให้ตายเราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาใส่ลงไปในอันไหนกันแน่"
"เราจะทำไงดีล่ะคะ วีว่าเราน่าจะหาอะไรที่คล้ายกับตามากที่สุด เนื้อสัตว์อะไรก็ได้ค่ะ" การวิเคราะห์ของวีที่ดูเหมือนไม่มีหลักการอะไรแต่ก็ทำให้มาร์คเดินออกไปจากห้องแล้วกลับมาพร้อมกับเนื้อหมูถุงหนึ่งขนาดใหญ่กว่ามือเล็กน้อย
"พี่ไปเอามาแล้ว ทำไงต่อดีล่ะ คุณหมอ"
"วีไม่ใช่หมอซักหน่อย ..แต่ไม่เป็นไรหรอก เรียกแบบนี้ก็ได้จะได้ดูเนียนๆ เอาไปใส่ไว้ในคอนแท็กเลนส์ดูไหมคะ แล้วดูว่าอันไหนเปลี่ยนไปมากที่สุด" คนแมนพยักหน้าพร้อมกับนำเนื้อหมูใส่ไว้ในคอนแท็กเลนส์ทุกคู่
"พี่มาร์ค มาดูนี่สิ" วีพูดด้วยความตกใจและดึงตัวมาร์คที่กำลังไปล้างมือมาดูกับอะไรบางอย่าง เนื้อหมูในคอนแท็กเลนส์คู่หนึ่งเริ่มมีสีแดงสดขึ้นเรื่อยๆจนเป็นสีม่วงและเริ่มดำ
"นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ มันไม่ใช่เรื่องดีแล้วสินะ" มาร์คปิดกล่องคอนแท็กเลนส์คู่นั้นและเห็นชื่อข้างบนกล่องที่ทำให้เขารู้สึกช็อก
"เจบี นี่มันคือกล่องของเจบี"
"ใครกันนะที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ลง เราควรทำยังไงกันดีคะ" วีพูดพร้อมกับปิดทุกกล่องลงโดยไม่ได้เอาเนื้อหมูออก
"เราเอาไปให้พี่จินยองดูกันเถอะนะ" ทั้งคู่เก็บกล่องนั้นใส่ในตะกร้าพร้อมกับนำทั้งหมดไปให้ลุงผักดูในห้องทำงาน
"ก๊อกๆๆ...ท่านประธานคะ อยู่ไหมคะ" เมื่อเด็กน้อยพูดจบลุงผักก็เปิดประตูออกมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"เข้าไปคุยในห้องเถอะนะ" ลุงผักพูดด้วยเสียงเป็นมิตร ทั้งคู่เข้าไปในห้องแล้วนั่งที่เก้าอี้ตามที่ลุงผักเชิญแล้วเล่าเรื่องที่ผ่านมาไม่นานให้ฟัง
"นี่มันเกิดเรื่องแบบนี้ในค่ายของเราได้ยังไง ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะแอบเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาติแต่ครั้งนี้มันสามรถช่วยชีวิตคนเอาไว้ได้ ผมจึงยกโทษให้นะ แต่ห้ามทำแบบนี้อีกเป็นอันขาด เข้าใจไหม" ลุงผักพูดด้วยน้ำเสียงดุเพื่อตักเตือนทั้งคู่
"วีคิดว่าสิ่งที่ใส่ลงไปเป็นพิษของสัตว์ทะเลค่ะ เพราะว่าส่วนมากพิษจากสัตว์ทะเลจะทำให้เส้นเลือดและหัวใจทำงานผิดปกติ ถ้าไม่กระตุกก็หยุดทำงานอย่างเฉียบพลันเมื่อพิษเข้าถึงและเกิดภายในครึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ใส่คอนแท็กเลนส์ เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยเพราะถ้ใช้สารเคมีอย่างน้ำกรดจะเกิดขึ้นรวดเร็วและอาจช่วยไว้ได้ทัน แต่นี่น่าจะเป็นพิษจากสัตว์ทะเลอาจจะเป็นปลาปักเป้าก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็งูทะเลต่างๆแต่พิษพวกนี้ถูกเจือจางมาแล้วจึงใสและออกฤทธิ์ช้าแต่สามารถฆ่าคนได้เช่นกัน ถ้าพี่เจบีใส่มันขึ้นแสดงตาก็จะค่อยๆพร่าลงเนื่องจากสารพวกนี้มันก็ส่งไปที่สมองและสั่งการให้หัวใจหยุดเต้น อาจชักในช่วงนั้นซึ่งจะทำให้คิดว่าพี่เจบีชักตายไม่ใช่เพราะพิษสัตว์ทะเล" วีพูดอย่างมีเหตุผลแม้ว่าเธอจะไม่ได้เชี่ยวชาญกับเรื่องพวกนี้เลยก็ตาม
"นี่ผมลืมไปได้ยังไง วีเป็นหมอนี่นา" ลุงผักพูดแบบขำๆแม้ในสถานการณ์ตึงเครียดเหมือนรู้อะไรมาก่อนหน้านั้น
"คือจริงๆแล้ววีไม่ได้เป็นหมอหรอกค่ะ วีขอโทษนะคะที่ปิดบัง" วีพูดพร้อมกับก้มโค้งลงหลายครั้ง
"เรื่องนั้นผมรู้ดี" ลุงผักพูดพร้อมกับยิ้มเชิงรู้ทัน
"พี่จินยองรู้ได้ไงครับ" คนแมนรู้สึกสงสัยเพราะหลังจากที่มักเน่ไลน์ทั้งสองบอกแบบนั้นทุกคนก็ต่างเชื่อไปตามๆกัน
"หมอที่ไหนแบมแบมกับยูคยอมจะมาขอให้อยู่ที่ค่ายเพื่อดูแลเจบีล่ะ เห็นห่วงเจบีกันจะตายเวลาเจอผู้หญิงมองเจบีนี่มองกลับเหมือนจะกิน แค่ขอให้วีมาอยู่เพื่อดูแลเจบีน่ะหรอ เชื่อก็บ้าแล้วล่ะ" เมื่อลุงผักพูดจบก็มองหน้าวีแล้วหัวเราะไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้ถามต่อว่าวีมาทำอะไรกันแน่ ทั้งคู่เดินออกจากห้องแล้วแยกทางกันไปมาร์คเดินไปที่ห้องซ้อม ส่วนวีเดินกลับไปที่ห้องของจูเนียร์แล้วบันทึกสิ่งที่เจอในวันนี้ไว้ในสมุดสีขาวเล่มเล็กๆ หน้าปกฝั่งซ้ายมีลายดอกไม้สีชมพูคาดลงมาจากด้านบนลงมาถึงด้านล่าง เมื่อเขียนจบวีก็ปิดสมุดแล้วเก็บมันลงไปในกระเป๋า
"เฮ่ออ.. อะไรกันเนี่ย เรื่องแรกยังไม่ทันจบ เรื่องที่สองก็เข้ามาอีกแล้ว ฉันจะตามหาพี่ริอันและ สืบหาคนที่ทำแบบนั้นกับพี่เจบีได้ยังไงเนี่ยย ทำไมมันถึงวุ่นวายแบบนี้.." วีเริ่มทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานแล้ววางแผนอะไรบางอย่างอยู่ในสมอง
..ทางด้านของGOT7ในห้องซ้อม
"ตั้งใจซ้อมหน่อยสิ อย่ามัวแต่เล่นกัน" ลีดเดอร์พูดขึ้นเมื่อทุกคนเริ่มเล่นกัน จนทุกคนเริ่มมีสมาธิแล้วซ้อมกันอย่างจริงจัง
"เฮ่ออ..ซ้อมเสร็จสักที เริ่มหิวแล้วนะเนี่ย กินมื้อว่างเลยได้ไหม..?" แจ๊คสันเสนอความคิดเมื่อเมมเบอร์ทุกคนนอนแผ่กันอยู่ที่พื้นหลังจากซ้อมเสร็จ
"ดีเลย ว่าแต่วันนี้ใครจะไปเอามาน้าา" เสียงน่ารักของแบมแบมดังขึ้นเหมือนมั่นใจว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน
"นายก็ไปเอามาสิ พูดแบบนี้คิดว่ามันน่ารักหรือไงฮะ!" เสียงของร่างสูงหนักขึ้นยูคยอมไม่เคยลืมมันเลยจริงๆกับเรื่องที่ฝังใจและไม่เคยบอกกับใครเลย
"เมื่อไหร่จะเลิกทะเลาะกันสักทีฮะ เราเป็นทีมเดียวกันแล้วนะ เห็นแก่พวกฮยองได้ไหม" จูเนียร์พูดด้วยเสียงดุเหมือนแม่ที่ดุลูกๆสองคนที่ทะเลาะกันไม่จบสิ้นแม้เรื่องที่นานมาแล้ว
"แต่ว่า.." ยูคยอมยังพูดไม่ทันจบ ออมม่าก็หันมากทำตาค้อนใส่ทันที
"ยองแจ ไปเอาของว่า งมาหน่อยสิ ฮยองชนะนายอยู่นะ" คนชิคพูดอย่างเย้ยหยันคนที่แพ้การท้าดวลในเรื่องการตื่นนอน
"โถ่ ฮยองอ่า ใช้อีกแล้ว" ยองแจจอมขี้เซายอมลุกไปหยิบของว่างมาแต่โดยดี
"ไปตามวีมาด้วยสิ ลืมไปได้ยังไงนะ" มาร์คพูดขึ้นแต่เหมือนไม่มีใครได้ยินจึงลุกขึ้น
"ฮยองไม่ต้อง แจ๊คไปเอง" แจ๊คสันลุกขึ้นยืนทันทีเหมิอนมีแรงผลักดันบางอย่างพร้อมกับวิ่งออกไปจากประตูอย่างรวดเร็ว
"วี โอป้าจะเข้าไปแล้วนะ" แจ๊คสันเปิดประตูเข้าไปพบว่าวีนอนหลับอยู่บนหนังสือในมือของวียังมีปากกาถืออยู่ แจ๊คสันไม่ปลุกวีแต่ว่าลากวีมาขี่หลังในขณะที่เธอหลับอยู่ไปจนถึงห้องซ้อม แจ๊คสันเดินเข้าไปในประตูห้องซ้อมที่เปิดโดยมาร์คที่ยืนขำทั้งคู่
"นี่จะไม่ปลุกเลยใช่ไหมเนี่ย 5555" คนขี้เซาพูด (คือถ้าเป็นแตงจะตื่นม้ายย)
"วีเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเนี่ย หน้าก็ไม่แต่ง ตอนนี้สภาพผมก็ยุ่งมากๆเลย คงหลับจริงๆอ่ะแว่นอ่านหนังสือยังไม่ถอดเลย555" แบมแบมพูดเมื่อเห็นเด็กที่แจ๊คสันแบกมานอนอยู่มุมห้อง
"เรามาแปลงโฉมให้วีกันเถอะ เอาสวยๆนะ" แจ๊คสันพูดพร้อมกับโชว์อุปกรณ์ที่พกมาด้วย เริ่มต้นที่ออมม่าเริ่มทารองพื้นที่หน้าของเด็กที่นอนอมยิ้มแล้วทาแป้ง ส่วนแบมแบมก็ทาปากให้ ยูคยอมกำลังยุ่งอยู่กับการหวีผมที่ยุ่งเหยิง แจ๊คสันอาสาเขียนคิ้วให้กับวีแต่จูเนียร์ไม่ให้เด็ดขาดเพราะกลัวเขียนคิ้วให้เหมือนกับตัวเอง แจ๊คสันจึงทำหน้ามุ่ยและไปติดกิ๊ฟกับยูคยอม มาร์คมีหน้าที่ถักผมข้างซ้าย ส่วนเจบีถักผมข้างขวา เมื่อถักมาจนถึงตรงกลางแจ๊คสันก็มีหน้าที่มัดส่วนยูคยอมก็ติดกิ๊ฟเพราะผมของวีไม่ได้ยาวมากนักมันยาวเพียงแค่ไหล่ของเธอเท่านั้น ยองแจช่วยเขียนตาให้กับวี เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วใส่แว่นคืนให้กับเธอ
"งั้นปลุกเลยนะ" เสียงของยองแจพูดเหมือนมันเป็นเรื่องสนุก ทุกคนเขย่าตัวของวีตนเธอรู้สึกตัว
"มีอะไรหรอคะ นี่ วีเป็นอะไรไป.. ทำไมมามุงวีเยอะจังเลย" วีพูดด้วยเสียงงัวเงียจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
" พี่มีอะไรจะให้ดูด้วยแหละ" แบมแบมพูดพร้อมกับหยิบกระจกกลมบานใหญ่กว่าหน้าวีเล็กน้อยขึ้นมาให้เธอส่อง
"อะไรกันเนี่ย นี่ใครกัน" วีพูดพร้อมกับถอดแว่นออกเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"วีจำตัวเองไม่ได้หรอ นั่นวีไง" คนชิคบอก
"คือหน้าจัดมากอ่ะ วีไม่เคยแต่งหน้าขนาดนี้นะ คิ้วเข้ม ปากแดง แก้มชมพู กรีดตาด้วยอ่ะ เอ๊ะเปียนี่อีก โบว์ นี่วีจำได้ว่าไม่เคยทำแบบนี้นี่นา" วีพูดเหมือนสับสนและคิดกลับไปว่าทำอะไรมาก่อนจะหลับไป
"พวกพี่แต่งทั้งหมดเเองแหละ" แจ๊คสันพูดพร้อมกับภูมิใจ
"จริงอ่า ขอบคุณค่ะ มันสวยเกินไปแล้วอ่า มันไม่ใช่วี นี่ถ้าล้างหน้าออกคงทำใจไม่ได้แน่ๆเลย" วีพูดเหมือนเห็นสัจธรรมของชีวิต
"เรามากินของว่างกันเถอะ จริงๆแล้วแจ๊คสันไปแบกวีมาจากห้องเพื่อพามากินเนี่ยแหละ แต่ตอยนั้นวีหลบอยู่เลยไม่ได้ปลุกแล้วพวกเราก็มาแต่งหน้าทำผมให้วี" คนแมนพูดอย่างภูมิใจ ทุกคนนั่งกินไปด้วยคุยไปด้วยอย่างสนุกสนาน ยกเว้นแบมแบมกับยูคยอมที่ไม่ยอมคุยเลยแม้เพียงประโยคเดียว
"วีไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากยูริหรอ" เสียงใสของออมม่าดังขึ้นและเริ่มสร้างความสงสัยให้กับทุกคนเช่นกัน
"ไม่มีหรอกค่ะ ยูริเป็นเพื่อนคนเดียวของวี" วีพูดด้วยสีหน้าหม่นลงแต่เธอก็ยิ้มออกมาแบบไม่มีความสุข
"ทำไมหรอ วีก็นิสัยดี คุยเก่ง ร่าเริงสนุกสนาน ทำไมไม่มีเพื่อนล่ะ" ยองแจพูดเสริม
"คือว่าวีมีอะไรที่ มันแปลกกว่าคนอื่น คือวีมีเซนส์ค่ะ แต่ว่ามันไม่มีรูปแบบที่แน่นอน บางทีก็เห็น บางครั้งก็ได้ยิน สัมผัส ได้กลิ่น บางครั้งก็ไม่มีแต่มีอย่างหนึ่งที่วีสามารถที่จะทำได้ตลอดแต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลาคือการสะกดจิตค่ะ จนเพื่อนคิดว่าวีเป็นตัวประหลาด ยูริก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ"
"ทำไมล่ะ วีต่างกับคนอื่นแค่นิดเดียวเอง เล่าให้ฟังซักเรื่องนึงได้มั้ย" คนชิคถาม
"ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเชื่อ แต่วีบอกก่อนเลยนะคะว่ามันคือเรื่องจริง" เสียงในห้องเริ่มเงียบลงและรอคอยคำพูด
---------------------
อะไรที่ทำให้เพื่อนไม่คบวี..? รออ่านกันตอนต่อไปนะค่า
twitter : @abp_nn
facebook : ABP'nn
h a s h t a g --> #ฟิคบีลีฟ
ไปละน้าา
ปย๊งง!
ความคิดเห็น