ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : องค์กรสหประชาชาติ
องค์กรสหประชาชาติ
องค์กรสหประชาชาติ
สำนักงานใหญ่ สหรัฐอเมริกา
สมาชิก 192 ประเทศเมื่อนับรวมไปถึง มอนเตเนโกร ซึ่งเข้ามาหลังสุด
ภาษาที่ใช้เป็นทางการ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสสเปน รัสเซีย จีน และอาหรับ
สหประชาชาติ
เป็นองค์การระหว่างประเทศ ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สหประชาชาติมีจุดประสงค์คือการนำทุกชาติทั่วโลกมาทำงานร่วมกันเพื่อสันติภาพและการพัฒนาโดยอยู่บนหลักพื้นฐานของความยุติธรรม ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความกินดีอยู่ดีของทุกคนนอกจากนี้ยังให้โอกาสประเทศต่าง ๆ สร้างดุลแห่งการพึ่งพาอาศัยกันและรักษาผลประโยชน์ชาติในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม มนุษยธรรม ให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน และเป็นศูนย์กลางในการร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ
เป็นองค์การระหว่างประเทศ ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สหประชาชาติมีจุดประสงค์คือการนำทุกชาติทั่วโลกมาทำงานร่วมกันเพื่อสันติภาพและการพัฒนาโดยอยู่บนหลักพื้นฐานของความยุติธรรม ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความกินดีอยู่ดีของทุกคนนอกจากนี้ยังให้โอกาสประเทศต่าง ๆ สร้างดุลแห่งการพึ่งพาอาศัยกันและรักษาผลประโยชน์ชาติในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม มนุษยธรรม ให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน และเป็นศูนย์กลางในการร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ
สหประชาชาติอยู่บนพื้นฐานของ 5 องค์กรหลัก (ไม่นับคณะมนตรีภาวะทรัสตีซึ่งยุติการปฏิบัติงานไปในปี ค.ศ. 1994) ได้แก่
· สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
· คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
· คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
· คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
· สำนักงานเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ
· ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติคือการประชุมของประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จะต้องมีการลงมติโดยประเทศสมาชิกจำนวนอย่างน้อยสองในสามเพื่อให้มีการผ่าน ไม่ว่าประเทศใดจะมีสิทธิออกเสียงได้เพียงเสียงเดียว สมัชชาใหญ่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ภายใต้ขอบเขตขององค์การสหประชาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่ดำรงรักษาสันติภาพและความปลอดภัยแก่ประเทศสมาชิก ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ของสหประชาชาติสามารถเพียงให้คำแนะนำแก่รัฐบาลของประเทศสมาชิก แต่คณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจที่จะผูกมัดประเทศสมาชิกให้ปฏิบัติตามการตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ สมาชิกถาวร 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาและสมาชิกไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย ออสเตรีย บูร์กินาฟาโซ คอสตาริกา โครเอเชีย ญี่ปุ่น ลิเบีย เม็กซิโก ตุรกี ยูกันดา และเวียดนาม สมาชิกถาวรทั้งห้าประเทศมีสิทธิ์ที่จะใช้อำนาจยับยั้งการนำไปใช้ แต่ไม่ใช่การยับยั้งมติโดยรวม ส่วนสมาชิกไม่ถาวรทั้งสิบประเทศจะอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี ซึ่งได้รับเลือกจากสมัชชาใหญ่โดยใช้เกณฑ์ตามภูมิภาค
คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติมีส่วนช่วยเหลือสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการให้ความสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติมีส่วนช่วยเหลือสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการให้ความสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
เลขาธิการสหประชาชาติ
เลขาธิการทำหน้าที่เป็นโฆษกและเสมือนเป็นผู้นำขององค์การสหประชาชาติ เลขาธิการคนปัจจุบันขององค์การสหประชาชาติ คือ นาย ปัน กี มุน ตำแหน่งเลขาธิการแห่งสหประชาชาติมีสองบทบาท คือบริหารสหประชาชาติ และนักการทูตหรือผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่างประเทศสมาชิก และหาข้อยุติให้กับประเด็นของโลก เลขาธิการสหประชาชาติมีหน้าที่ที่จะควบคุมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ การควบคุมองค์กรสากล การรวบรวมข้อมูลจากข้อตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและพูดคุยกับผู้นำรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ
เลขาธิการทำหน้าที่เป็นโฆษกและเสมือนเป็นผู้นำขององค์การสหประชาชาติ เลขาธิการคนปัจจุบันขององค์การสหประชาชาติ คือ นาย ปัน กี มุน ตำแหน่งเลขาธิการแห่งสหประชาชาติมีสองบทบาท คือบริหารสหประชาชาติ และนักการทูตหรือผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่างประเทศสมาชิก และหาข้อยุติให้กับประเด็นของโลก เลขาธิการสหประชาชาติมีหน้าที่ที่จะควบคุมปฏิบัติการรักษาสันติภาพ การควบคุมองค์กรสากล การรวบรวมข้อมูลจากข้อตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและพูดคุยกับผู้นำรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังสันติภาพ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการตัดสินปัญหาของสหประชาชาติ มีจุดประสงค์เพื่อพิจารณาความขัดแย้งระหว่างรัฐ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม การเข้าไปสอดแทรกกิจการภายในรัฐ และการล้างชาติพันธุ์ เป็นต้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1945 จากผลของกฎบัตรสหประชาชาติ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเริ่มทำหน้าที่ในปี ค.ศ. 1946
วัตถุประสงค์ขององค์กร
1. ธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงของโลกโดยการร่วมมือกัน
2. เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อช่วยกันคลี่คลายและแก้ปัญหาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสิทธิด้านมนุษยชน
3. เป็นศูยน์กลางพัฒนาความสัมพัน์อันดี และประสานงานกันระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อดำเนินงานบรรลุผลตามเป้าหมาย
2. เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อช่วยกันคลี่คลายและแก้ปัญหาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสิทธิด้านมนุษยชน
3. เป็นศูยน์กลางพัฒนาความสัมพัน์อันดี และประสานงานกันระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อดำเนินงานบรรลุผลตามเป้าหมาย
ผลการปฏิบัติงาน
ด้านความขัดแย้ง
องค์กรสหประชาชาติได้จัดการเจรจาแก้ไขปัญหา หือบางครั้งก็ใช้กองกำลังเข้าไปสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาในกรณีพิพาท หรือความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ ลัทธิทางการเมืองหรือดินแดนภายในประเทศได้หลายกรณี เช่น ปัญหาสงครามในคาบสมุทรเกาหลี ปัญหาสงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอล ปัญหาสงครามกลางเมืองในไซปรัสปัญหาสงครามแคว้นคาตังกาในคองโก ปัญหาสงครามอิรักยึดครองคูเวต
องค์กรสหประชาชาติได้จัดการเจรจาแก้ไขปัญหา หือบางครั้งก็ใช้กองกำลังเข้าไปสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาในกรณีพิพาท หรือความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ ลัทธิทางการเมืองหรือดินแดนภายในประเทศได้หลายกรณี เช่น ปัญหาสงครามในคาบสมุทรเกาหลี ปัญหาสงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอล ปัญหาสงครามกลางเมืองในไซปรัสปัญหาสงครามแคว้นคาตังกาในคองโก ปัญหาสงครามอิรักยึดครองคูเวต
ด้านเศรษฐกิจและสังคม
ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งด้านเงินทุน และบุคลากร เกี่ยวกับเรื่องของการพัฒนาคุณภาพประชากร การอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งด้านเงินทุน และบุคลากร เกี่ยวกับเรื่องของการพัฒนาคุณภาพประชากร การอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
ด้านการลดอาวุธ
เพื่อการทำลายอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธอื่นที่สามารถก่อการทำลายล้างสูงได้โดยกระทู้หลักของประเด็นการลดอาวุธอยู่ที่คณะกรรมการการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งแรก คณะกรรมาธิการการลดอาวุธของสหประชาชาติ และการเจรจาลดอาวุธ การควบคุมอาวุธอวกาศ การห้ามใช้อาวุธเคมี และกับระเบิด การลดอาวุธและระเบิดนิวเคลียร์ การกำหนดเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ การลดงบประมาณทางการทหารและความพยายามที่จะเสริมสร้างความมั่นคงสากล
ด้านสิทธิมนุษยชน
องค์กรพยายามที่จะต่อสู้และรักษาไว้ซึ่งสิทธิและอิสรภาพขั้นพื่นฐานของมนุษย์การอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
ด้านกฎหมาย
องค์กรได้ร่างกฎหมายระหว่างประเทศขึ้นไว้หลายฉบับเพื่อ รักษาความยุติธรรม ความเข้าใจอันดี และการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เช่น กฎหมายทางทะเล กฎหมายว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น