ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

    ลำดับตอนที่ #13 : ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 52


    1.ความหายนะจากภัยสงคราม อาวุธที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีประสิทธิภาพและกำลังทำลายร้ายแรงสูงกว่าในสงครามโลก ครั้งที่ 1 มาก เช่น จรวดและเครื่องบินขับไล่ที่ใช้เครื่องยนต์เจ็ต (Jet Engine) ซึ่งบินได้ระดับสูงและมีความเร็วมาก การทิ้งระเบิดทางอากาศเพื่อโจมตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ เป็นต้น เป็นผลให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าในสงครามโลก ครั้งที่ 1 หลายสิบเท่า

    2.การเกิดสงครามเย็น (Cold war) ภายหลังเมื่อสงครามโลก ครั้งที่ 2 ยุติลง ในปี ค..1945 ทั้งสหรัฐเมริกาและสหภาพโซเวียตกลายเป็นประเทศมหาอำนาจชั้นนำของโลก และแข่งขันกันเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลในทวีปยุโรป โดยให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศต่าง ๆ
    3. การแบ่งแยกดุลอำนาจทางการเมืองในยุโรป เพราะการแข่งขันอำนาจระหว่างชาติ มหาอำนาจสองค่ายซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ทำให้ประเทศในยุโรปถูกแบ่งออกเป็นสองค่ายด้วยเช่นกัน ดังนี้                 กลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกโดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกซึ่งมีสหภาพโซเวียตเป็นผู้นำ ต่างฝ่ายต่างให้การสนับสนุนพัฒนาความเข้มแข็งแก่ประเทศสมาชิกในกลุ่มของตน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร
    4. การก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่2 จะยุติลงประเทศมหาอำนาจของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสหภาพโซเวียต ได้ร่วมลงนามในกฎบัตรแอตแลนติก” (Atlantic Charter) ในปีค.ศ.1941 เพื่อกำหนดแนวทางจัดตั้งองค์การรักษาสันติภาพของโลกขึ้นจนกระทั่งเมื่อสงครามสิ้นสุดลง  ในปี ค.ศ 1945  องค์การสหประชาชาติ (UN) จึงถือกำเนิดขึ้นโดยความร่วมมือก่อตั้งของประเทศสมาชิกดั้งเดิม  51  ประเทศเพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรสากลระหว่างประเทศในการธำรงรักษาสันติภาพของโลก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×