เคยฟังผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านแชร์กับพวกเราว่า ความคิดไม่เหมือนสิ่งของ สำหรับสิ่งของถ้าเรามีของกันคนละชิ้น เอามาแลกกัน เราก็มีของกลับไปคนละชิ้น แต่สำหรับ "ความคิด" ถ้าเราเอามาแลกกัน ต่างคนก็ต่างจะมีความคิดกลับไปอย่างน้อยคนละ 2 ความคิด ใช่ ... "อย่างน้อย" เพราะจากความคิดใหม่ มุมมองใหม่ๆ ที่เราได้รับ ความคิดเดิมๆ ของเราทั้งคู่อาจจะแตกดอกออกผลออกไปได้อีกไม่รู้เท่าไหร่ ... เจ้า "ความคิด" นี่มันช่างเจ๋งจริงๆ เลย ... ว่าไหม
เบ็นชื่อเรื่องการ "คุย" กันนะ ไม่ต้องเรื่องจริงจังอะไรหรอก เรื่องเล็กๆ รอบๆ ตัวลองเอามานั่งคุยกัน เบ็นก็พบว่ามันน่าสนใจมากๆ เลย แค่ไปที่เดียวกันฟังเรื่องเดียวกัน ลองเอามาคุยกันสิ เราไม่ได้เรื่องเดียวกันกลับมาหรอก และถ้าเราเปิดใจรับฟัง เราจะโตขึ้น กว้างขึ้น และมองทุกอย่างรอบๆ ตัวได้สนุกขึ้นมามกกกกกก ... เพราะเราได้ "เรียนรู้" วิธีการมองโลกใหม่ๆ มาจากการแลกเปลี่ยน "ความคิด" กับเพื่อนๆ แล้วงัย
แล้วบางทีการขโมย "ดวงตา" ... "สมอง" ... "หัวใจ" ของคนอื่นมาใช้ก็ทำให้เราน่ารักขึ้นด้วยนะ ยังงัย??? ...
ก็เราจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้นงัย นั่นเป็นวิธีง่ายๆ ในการเริ่มต้นดูแลคนอื่นๆ ...
การเอา "ใจเขา" มาใส่ "ใจเรา" ... :)
ช่วงนี้ที่ออฟฟิศมีกิจกรรมใหม่ที่สนุกมากๆ เลย (ก็ไม่รู้ว่าเราสนุกคนเดียวหรือเปล่า 555 แต่เท่าที่สังเกตบรรยากาศดู ทุกคนก็สนุกกันนะ ^__^ ) ... ที่จริง ปกติพวกเราก็เม้าท์มอยกันตลอดเวลาอยู่แล้วนะ ออฟฟิศเราเล็กๆ อยู่กันง่ายๆ สบายๆ ทุกเที่ยงก็จะสุมหัวกันนั่งกินข้าว นั่งเม้าท์เรื่องโน้นนี้ไปเรื่ิอยๆ แต่การเม้าท์แบบนั้นมันต่างจากกิจกรรม Weekly Chitchat อันใหม่ที่เกิดขึ้นมาก ... เพราะ Lunchtime Mingle มันค่อนข้างจะเป็นการ "ได้ยิน" ไม่ใช่การ "ฟัง" และส่วนใหญ่จะไม่ได้เอาไปผ่านการประมวลผลอะไรเพิ่มเติม หรือ ที่จริงคำพูดส่วนใหญ่ก็ถูกทิ้งไว้ในจานข้าวและลงถังไปเหมือนเศษผัดกระเพราของเรานั่นแหละ ... ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะ Lunchtime Mingle มัน ดีต่อใจน่ะ และเป็นใจของกลุ่มเล็กๆ เท่าที่กินข้าวด้วยกันด้วย
แต่ Weekly Chitchat นี่ ดีต่อ "สมองและอารมณ์" ของทั้งทีมเลย
เพราะมันเกิดขึ้นในการประชุมของทั้งทีม เราตกลงกันว่าจะหาเรื่องมานั่งคุยกันทุกอาทิตย์หลังการประชุมตามงานของพวกเรา เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยแต่เป็นเรื่องที่เราอยากให้เพื่อนๆ รู้ ... ตอนแรกก็ลองดูขำๆ คือมันเริ่มต้นมาจากการ Brainstorm เรื่องงานเมื่อวีคก่อนโน้น ท้ายการประชุมให้ทุกคนลองคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีนิสัยในการทำงานแบบไหนไว้ในใจ แล้วก่อนเจ้าตัวจะเฉลย เราให้เพื่อนๆ ช่วยกันบอกก่อนว่าเพื่อนๆ คิดว่าเจ้าตัวมีนิสัยการทำงานเป็นยังงัย ... เอาจริง ... มันเด็ดมากๆ นะ แต่บอกก่อนว่าเราคุยกันก่อนว่าขอให้ "จริงใจและจริงจัง" กับการคุยเรื่องนี้ ทุกคนเลยได้รู้ข้อดีของตัวเองว่าเพื่อนๆ มองเรายังงัย เรามีข้อดีที่เห็นชัดในสายตาเพื่อนตรงไหน และถ้ามันไม่ตรงกับที่เราคิดว่าเราดี มันเพราะอะไร ... บรรยากาศการ Chitchat ดีงามมากๆ จริงๆ และเบ็นคิดว่าทุกคนได้ประโยชน์จริงๆ ... เออเนอะ ... เราก็ได้เรียนรู้ว่าไม่ต้องคิดเรื่องให้ยากเย็นอะไร อยู่ๆ ทุกคนก็ได้ "กระจกวิเศษ" บานใหญ่หลายๆ บานมาส่องตัวเอง
จากนั้นพวกเราก็คิดและเล่าถึงคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตเรา ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยน ... ปรากฏว่ามันสนุกมากเลย ทุกคนดูสนุกสนานกับการฟังเรื่องของเพื่อน และอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง คนที่ไม่เคยเสนอตัวพูดก่อน ก็ยกมือขึ้นอาสา เราเลยมีไอเดียอยากเก็บบรรยากาศสนุกๆ แบบนี้ไว้ต่อไป Weekly Chitchat จึงเกิดขึ้น
เมื่อวานเป็นครั้งที่ 2 ของ Weekly Chitchat เราคุยกันเรื่องหนังในดวงใจ มันยังสนุกเหมือนเดิม และทำให้เรารู้จักเพื่อนๆ เพิ่มขึ้นอีกรู้ว่าใครชอบ "ดู" อะไร >> ไม่ใช่ "ดูเรืิ่องอะไร" นะ "ดูอะไร" บางคนดูเรื่องเดียวกัน แต่ดูคนละอย่างกัน เล่าไม่เหมือนกัน เพราะจำมาต่างกัน ;)
เราได้ฟังว่าใครเล่าเรื่องแบบไหน ... และเรามีเพื่อนเป็น "กระจกวิเศษ" เหมือนเดิม คือหลังจากฟังแล้วเราบอกเจ้าของเรื่องด้วยว่าเรื่องมันจะสนุกขึ้นได้ยังงัย หรือเราอยากรู้อะไรเพิ่มเติมจากที่เพื่อนเล่าบ้าง นี่มันเป็นการพัฒนาทักษะการสื่อสารของพวกเราดีๆ นี่เอง ... และมันเป็นการเปิดโลกทัศน์ของพวกเราด้วย บางเรื่องที่เพื่อนเล่า เฮ้ย ... มันแจ่มแมวมาก แต่เราไม่เคยดูเลยแฮะ เพราะมันเป็น Series ญี่ปุ่นว่ะ หรือ มันดูเป็นหนังเครียดว่ะ มันไม่ใช่ทางเรา แต่...ถ้าเพื่อนเลิฟมันขนาดนี้ เราควรจะให้โอกาสมันสักหน่อยนะ ... ว่าไหม จบ Chitchat มีรายชื่อหนัง / Series ที่จะตั้งใจจะตามไปดูยาวเลย :) อย่างเช่น The Change Series และ Jacob, The Liar ...
ครั้งหน้าเราจะคุยกันเรื่องสถานที่ที่เราประทับใจ ... มันต้องสนุกกว่านี้แน่ๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ ว่า
เบ็นจะขโมยรองเท้าของเพื่อนมาขยายเขตแดนของตัวเองให้ไปได้ไกลแค่ไหน
สำหรับเบ็นโลกกว้างเท่าหัวใจเราเองค่ะ
อย่าลืมลองเอาไอเดียไปแลกกับคนอื่น แล้วขโมย "หัวใจ" คนอื่นมาใช้ดูบ้างนะคะ
รัก ...
จาก "เจ้าเบ็น ... จอมขโมย"
ความคิดเห็น