ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ### The Confession ### 🏀 KrisYeol ft. HunHan

    ลำดับตอนที่ #5 : The Confession #5

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 56


    The Confession #5








    พี่คริสกับพี่ลู่หาน

     


    ปาร์คชานยอลนั่งนิ่งในโรงอาหาร ก้มหน้าดูดโค้กไปพลาง ขณะที่โอเซฮุนยังนั่งหน้าบูดไม่ต่างกัน เขาอยากหันไปปลอบมันเหมือนกัน อยากทำตลกบ้าๆ บอๆ ใส่แต่เวลานี้มันไม่มีอารมณ์

    ละทำไมกูต้องทำตัวเหมือนอกหักตามไอ้เซฮุนด้วยเนี่ย! ร่าเริงสิวะ ร่าเริงเข้าไว้!

     

    เฮ้อ...

     

    “มีอะไรต่อปะ ถ้าไม่มีก็กลับบ้านกันเหอะ” จนปัญญาจะทำอะไร สุดท้ายเลยชวนมันกลับ “นั่งอยู่เฉยๆ มันไม่มีประโยชน์เว่ย ไปเหอะ”


    “ก็จริง” เซฮุนคล้อยตามหลังจากครุ่นคิดอะไรคนเดียวตรงนั้น “ชานยอล...แกว่า ฉันควรไปทางไหนดีวะ?”



    ชานยอลยืนฟังก็ทำหน้ามึนตาม... นี่ไอ้ติ๋มมันเป็นอะไรขึ้นมาอีก “ทางออกก็มีอยู่ทางเดียว จะให้ไปทางไหนวะ?”


    “กวน... กูหมายถึง ควรเดินหน้าหรือถอยหลังดีต่างหาก” เซฮุนว่า “อันที่จริงแล้ว...กูกับพี่ลู่ เราสองคนน่ะนะ...เราสองคนยัง...”


    “ยัง..? อะไรวะ?”



    “ยัง..ไม่เคย..คุยกันเลย”



    “ห๊ะ!!! ชานยอลอุทานหน้าเหวอ ให้ตายเหอะ นี่เขากับไอ้พี่คริสรู้จักกันแค่แปปเดียวยังไปกินไก่มาด้วยกันแล้ว ไอ้เซฮุนรู้จักพี่เขามาสองเดือนยังไม่เคยคุยกัน


    แล้วที่มันทำตัวเหมือนคนโดนปฏิเสธมาอย่างจังนี่คืออะไรวะครับไอ้โอเซฮุน!


    “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ก็แบบเวลาเจอพี่เขาทีไรมันตื่นเต้นก็เลยไม่กล้านี่หว่า แค่เห็นหน้าหัวใจก็สั่นโครมคราม” เซฮุนว่า ยกมือเกาศีรษะแก้เขิน “จริงๆ ก็เคยคุยแหละ สวัสดี บ๊ายบาย อะไรแบบนี้ รู้จักในฐานะรุ่นน้องที่ชมรม”


    “อ่าฮะ”


    “กูเลยกำลังคิดว่า ถ้าแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพี่เขามีแฟน แล้วลองเนียนๆ เข้าไปตีซี้...เข้าไปแบบว่า...จีบ...”  เซฮุนพูดไปก็นึกเขินขึ้นมาเสียเอง ทำท่าเอานิ้วชี้มาจิ้มๆ กันด้วยความเก้อเขิน


    “อา...” เขาพยักหน้าตามอย่างเข้าใจ


    “โอเค ตกลงใช่ไหม ตกลงว่ามึงจะช่วยกูนะ”


    “วอท!?


    “คือแบบ...ตั้งแต่เกิดมากูยังไม่เคยจีบใครเลย กูก็เลย...แบบว่า...”


    “อะไรนะ!??? นี่มึงไม่เคยจีบหญิงมาก่อนหรอ???”


    ไม่รู้ว่าอะไรช็อคกว่า ระหว่างไอ้พี่คริสไม่กินไก่ทอด กับเซฮุนไม่เคยจีบสาว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยักหน้าเออออกับอีกฝ่ายไป เห็นว่ามันเศร้าอยู่หรอก ไม่งั้นจะเอาไปล้อเช้ากลางวันเย็น


    “ก็กูหล่อนี่ ที่ผ่านมาก็เลยมีแต่คนมาจีบก่อนไง” โอเซฮุนยังคงมั่นหน้าเสมอต้นเสมอปลาย “เออน่ะ ช่วยกูด้วยละกัน... แล้วก็อีกเรื่องสำคัญ...” หน้านิ่งถูกเปลี่ยนเป็นสีหน้าเหี้ยมเกรียม “แกช่วยเอามันออกไปด้วยสิ”


    “หืม?”


    “ไอ้พี่คริสนั่นไง แกช่วยกันมันออกไปที” เพื่อนซี้เอามือลูบคางอย่างพิจารณา “ดูหน่วยก้านแล้วความสูงแกกับมันก็สูสี ถึงมันจะบึกกว่าก็เถอะ แต่น่าจะพอไหว”


    ได้ยินแบบนั้นชานยอลก็อยากล้มตึงทั้งยืน นี่คือตรรกะอะไร!? แต่ที่สำคัญกว่านั้น จะให้เขาเข้าไปกันพี่คริสออกมา ทั้งที่ตัวเองพยายามหลบหน้าเขาแทบตายเนี่ยนะ!


    อันตราย... นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ!


    โอเซฮุนมองเขาด้วยสายตายิ้มกริ่มเหมือนมีความหวัง ในขณะที่ชานยอลเพียงยิ้มเจื่อนๆ ให้อีกฝ่ายเท่านั้นเอง ลองเป็นแบบนี้ จะห้ามมันก็คงไม่ทันแล้ว


    ตามน้ำไปก่อน... จะยังไงค่อยว่ากันทีหลังก็แล้วกัน


    ปาร์คชานยอลคิดอย่างนั้น หากในใจรู้ดีว่าตัวเองกำลังก้าวไปสู่จุดเดิมซ้ำอีก

    หรือว่าอันที่จริง... เขายังไม่เคยก้าวออกมาแต่แรกกันแน่นะ?


     

    x o x o


     


    หน้าที่ของชานยอลเริ่มต้นในวันต่อมา


    โอเซฮุนที่ฮัมเพลง เล่นของสูงปลุกใจตลอดเวลาถูลู่ถูกังลากเขามาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์อีกครั้ง คราวนี้เจ้าตัวบอกข้อมูลที่เพิ่งสืบมาให้รู้ พี่ลู่จะนั่งโต๊ะหินตัวที่สามกับแก๊งค์เพื่อนรวมถึงพี่คริสทุกวัน มันเป็นโต๊ะประจำที่กลุ่มนี้มานั่งอยู่บ่อยๆ ในเวลาพัก


    โอเซฮุนที่ปลอมตัวด้วยหมวกแก๊ปสีดำกับแว่นตา มันพาเขามายืนด้อมๆ มองๆ ที่มุมตึก ก่อนจะเดินออกมาเมื่อเห็นพี่ลู่หานกับพี่คริสแยกจากกัน


    “ถ่วงเวลาพี่คริสไว้ เดี๋ยวพี่ลู่กูจัดการเอง”


    มันบอกอย่างนั้นพลางวิ่งหน้าแป้นไปหาพี่ลู่หาน แถมท้ายด้วยการผลักเขาออกมายืนอยู่หน้าไอ้พี่คริส!!!!!

     


    กำลังจะทำเป็นไม่เห็นหน้าแล้ว ใจมันฝ่อจนคิดว่าจะวิ่งหนีออกไปตรงนั้นด้วยซ้ำ อันที่จริงเขายังไม่พร้อมเจอหน้าไอ้พี่คริสเลยสักนิด... ไม่อยากจะกลับมารู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว


    “อ้าว น้องชานยอล?”


    กำลังจะเดินหันหลัง หากเสียงทุ้มที่เขาไม่ได้ยินมานานก็เอ่ยขึ้น เขาหันกลับไปมองจนได้ คริสมีท่าทีตกใจ แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากก็ยังแย้มยิ้มกว้างให้จนเห็นฟัน เราเจอหน้ากันตรงๆ ในระยะประชิดแบบนี้ครั้งแรกหลังจากผ่านจากไก่ทอดมื้อนั้นมาร่วมอาทิตย์


    “ส..สวัสดีครับ” เขาทักกลับ อยากจะห้ามก้อนเนื้อในอกซ้ายที่เต้นโครมครามให้มันพักหน่อยเหลือเกิน “พี่..มาทำอะไรหรอครับ?”


    “อ่า...ก็พี่เรียนคณะวิศวะ พี่เคยบอกแล้วนี่” เหมือนพี่คริสจะดูผิดหวังหน่อยๆ “แล้วชานยอลล่ะมาทำอะไร? เราอยู่มนุษย์ศาสตร์ไม่ใช่หรอ?”


    “อ่าครับ พอดีเดินมากับเพื่อน แต่ว่าโดนเพื่อนทิ้ง” เขาหัวเราะแหะๆ สมองมึนๆ พยายามนึกว่าเคยบอกอีกฝ่ายด้วยหรอว่าเรียนอยู่คณะไหน


    “งั้นหรอ...อืม แล้วเราไปไหนต่อรึเปล่า?”


    “ก็...ไม่ได้ไปไหนหรอก”


    “อา...งั้นถ้าว่างอยู่ไปกินข้าวกันไหม” เขาเห็นอีกฝ่ายชะเง้อมองไปทางด้านหลังครู่หนึ่ง ทำหน้าแปลกๆ ก่อนตาคู่คมจะกลอกกลับมาหยุดที่ชานยอลอีกครั้ง “คือ...พี่ก็โดนทิ้งเหมือนกันแหละ”


    “อ้าว...หรอครับ?” ชานยอลว่า หากในใจนึกถึงตอนแรกที่ลอบมองอีกฝ่าย จำได้ว่าคริสนั่งอยู่กับเพื่อนอีกตั้งสี่ห้าคน แถมในนั้นยังมี...พี่ลู่หาน...


    แต่สุดท้าย ด้วยความรู้สึกบางอย่าง ชานยอลก็พยักหน้าตกลงไปแบบงงๆ ...และเพียงเท่านั้นแหละ ไอ้พี่คริสก็ยิ้มกว้างจนเขาต้องหันหน้าหลบ ไม่อยากมองเลย รอยยิ้มภัยพิบัติแบบนั้น


    อีกฝ่ายแตะถูกไหล่เขาเบาๆ แค่วูบเดียวแต่เหมือนส่วนนั้นมันชาไปหลายนาที ตอนนั้นที่เราเดินออกมาจากลานคณะวิศวะ ชานยอลแอบหันไปมองโต๊ะหินอ่อนโต๊ะเดิม เห็นเพื่อนพี่คริสนั่งยังอยู่เหมือนตอนแรก


    เพื่อนก็อยู่ตั้งหลายคน สงสัยพี่คริสคงหมายถึงพี่ลู่หาน คงจะงอนที่ถูกพี่ลู่หานทิ้ง


    ความรู้สึกหม่นลงเล็กๆ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาเดินตามอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ตอนนี้เหมือนมีเดวิลกับแองเจิ้ลอยู่ข้างละฝ่าย นี่เขากำลังช่วยให้เซฮุนแย่งแฟนคนอื่น? นี่เรากำลังทำบาปอยู่รึเปล่า?


    แล้วถ้าถึงวันนั้น ไอ้พี่คริส...พี่คริสจะเสียใจไหม?


    “กินอะไรดีครับชานยอล?”


    “ห๊ะ” เหมือนถูกสะกิดจากภวังค์ เขาสะดุ้งตัวน้อยๆ ก่อนจะหันไปยิ้มแห้งๆ ให้ “กินอะไรก็ได้ครับ พี่เลือกดีกว่า ผมกินง่าย”


    “งั้น...ที่นายกินข้างสนามคราวนั้น มันคืออะไร? พี่ยังไม่เคยกิน” คริสว่า “พาพี่ไปกินหน่อยสิ”


    “ต๊อกบกกี?”


    “นั่นแหละ พี่ยังไม่เคยกินเลย”


    น่าตกใจซ้ำสองที่พี่คริสไม่เคยกินต๊อกบกกี แต่ชานยอลก็พยักหน้าให้ก่อนจะเดินนำไปร้านต๊อกบกกีเล็กๆ ริมถนนข้างมหาลัย “งั้นคราวนี้ผมเลี้ยงพี่ละกัน คราวก่อนพี่เลี้ยงไปแล้วนี่”


    “ไม่ได้ๆ เดี๋ยวพี่ออกให้เอง”


    คริสพูดไปดังนั้นแต่ชานยอลที่ยืนสั่งอาหารอยู่ก็จ่ายเงินให้เรียบร้อย ปกติเขางกอยู่หรอก แต่อาหารข้างทางแบบนี้มันแพงที่ไหนกัน อีกอย่าง จะได้ชดเชยที่พี่คริสเลี้ยงเขาคราวก่อน


    “ตอนนั้นพี่เลี้ยงผมแล้ว ครั้งนี้ให้ผมออกละกัน” เขาว่า ก่อนจะหันไปรับถาดจากแม่ค้าเดินไปนั่งที่โต๊ะ เราจดๆ จ้องๆ กันพักหนึ่ง เหมือนมีความรู้สึกเกร็งๆ อย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่ชานยอลจะกินกลบเกลื่อนราวกับหิวโซ


    “งั้น...คราวหน้าให้พี่เลี้ยงชานยอลนะ” คริสเหมือนจะลังเลที่จะพูด หากก็เอ่ยขึ้นมา


    ชานยอลทำตาโต “ว่าไงนะ?” ถามย้ำอีกฝ่าย “มีคราวต่อไปอีก..หรอ..ครับ?”



    “แล้วพี่มากินข้าวกับน้องชานยอลอีกไม่ได้หรอครับ?”



    สาบานได้ ว่าต๊อกบกกีที่เพิ่งกลืนลงคอไปรสชาติเผ็ดมาก หากตอนนี้ สมองของเขาแทบไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว


    ใครใช้ให้เรียกน้องชานยอล ใครให้เรียกตัวเองว่าพี่ ใครให้พูดลงท้ายว่าครับ

    เหมือนกำแพงเมืองจีนกำลังจะถล่ม ภูเขาน้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลาย... ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้นทั้งคำพูดทั้งรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งให้มันช่าง...น่ารัก...



    “ก็...ก็แล้วแต่พี่เลย” เขาตอบออกไปอย่างอึกอัก สีหน้าแดงจัดไม่รู้เพราะความเผ็ดร้อนหรืออาการเขิน ชานยอลก้มลงทานต๊อกในจาน เคี้ยวหนึบหนับอย่างจริงจังเพื่อกลบเกลื่อน


    นี่ถ้าพี่คริสไม่มีแฟน เขาอาจเข้าใจผิดว่าตัวเองกำลังถูกจีบ


    “อร่อยมากเลยนะ พี่กินสิ” พอปรับอารมณ์ได้ จึงหันมาพูดเร็วๆ เหมือนทุกที “ลองโอเด้งสิ อร่อยนะ” เขาทำท่าเป่าฟู่วๆ อย่างกระตือรือร้น ก่อนจะจ่อปากอีกฝ่ายเข้าให้ และคริสก็อ้าปากรับไปอย่างไม่ลังเล


    ชานยอลวางส้อมลงมือสั่น ก่อนจะหันไปดูดโคล่าอีกอึกใหญ่แก้เก้อ


    กูเผลอทำอะไรลงไปอีกแล้ว! ไม่ได้ตั้งใจเลยนะ ก็เขาทำแบบนี้กับไอ้เซฮุนบ่อยๆ นี่!!!



    “ชานยอล...” ตอนนั้นที่คริสเรียกชื่อเขาบ้าง ก่อนจะยื่นส้อมที่จิ้มต๊อกบกกีชิ้นโตยื่นมาให้ แถมท้ายด้วยรอยยิ้มกว้างของเจ้าตัว “อ้าปากสิ”


    ตามมารยาทเท่านั้นแหละ ชานยอลอ้าปากรับต๊อกบกกีที่อีกฝ่ายป้อนให้จนหมดชิ้น ก่อนจะส่งยิ้มขอบคุณอีกฝ่ายไปตามมารยาทเท่านั้น


    ตามมารยาทจริงๆ ไม่ได้อยากยิ้มออกไปเลย!

    แต่ว่า...ตอนนี้...เขา...หุบยิ้ม..ไม่ได้!


    ให้ตายเถอะ... เหมือนโลกกำลังจะแตก เลยปี 2012 มาแล้วแต่ใครจะไปรู้ว่าอนาคตจะไม่มีวันนั้นกัน



    “กินแบบนี้อร่อยดีนะครับ” พี่คริสว่าสั้นๆ แต่ชวนให้ตีความ ชานยอลอยากพูดเร็วๆ กลบเกลื่อนเหลือเกินแต่เหมือนถูกจู่โจมจนระบบคำพูดมันรวนไปหมดแล้ว


    “ครับ” เขาตอบไปแค่นั้น


    “ชานยอลรู้จักร้านอร่อยๆ เยอะดีนะ งั้นเรามากินกันบ่อยๆ เนอะ พรุ่งนี้หลังพี่ซ้อมบาสเสร็จว่างไหม?”


    “ก็...” ชานยอลอึกอัก ไม่อยากยอมรับเลยว่าใจมันแร่ดตอบตกลงแต่แรกแล้วล่ะ แต่ความละอายต่อบาปมันทำให้เขาไม่กล้าตอบตกลง “ผม..ผมยังไม่แน่ใจเลย”


    “อ่า...งั้น...เดี๋ยวพี่โทรไปนะ”


    “หา!” ยิ่งกว่าเดิมอีก เหมือนถูกหมัดฮุคเข้าต่อไม่ยั้ง


    “นี่จำได้ไหมว่าพี่มีเบอร์ชานยอลแล้ว ว่าแต่เรามีเบอร์พี่รึยัง?” คริสถามต่อ “คราวก่อน..ที่โทรมา ได้เซฟไว้รึเปล่า?”


    เขาพยักหน้ารับช้าๆ เหมือนอีกคนจะยิ้มกว้างขึ้นอีกหน่อย


    “งั้น...เดี๋ยวพี่โทรหาเรานะ”


    “อ่า...ได้ครับ”


    ชานยอลตอบรับเหมือนไม่มีสติเท่าไหร่ ใบหน้ามนตาลอยๆ ด้วยความมึนในร้านต๊อกบกกี ระบบความคิดพังไม่เป็นชิ้นดี สมองเต็มไปด้วยคำถามว่า เราสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’


    จังหวะเดียวกับที่ไอ้เซฮุนโทรเข้ามา เขาจึงตั้งสติกดรับโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง



    “เฮ้สปายยอลลี่ ภารกิจนายเป็นยังไงบ้าง?” เสียงอีกฝ่ายระรี้ระริกเข้ามาในสาย


    “ก็ดี” เขาว่าเรียบๆ ไม่ให้มีพิรุธอะไร


    “เยี่ยม วันนี้ฉันได้คุยกับพี่ลู่แล้วล่ะ ขอบใจมากนะที่ช่วยกันไอ้พี่คริสนั่นออกไป ผลดีเกินคาด”


    “แหงล่ะ นี่ปาร์คชานยอลนะ” เขาพูดอวดตนไปตามประสา


    “โอเค พรุ่งนี้เจอกัน คิก มีความสุขชะมัดเลย”


    “โอเค เจอกันในห้องเรียน” ชานยอลว่าเท่านั้นก็กดวางสาย จะว่าไปแล้ว อันที่จริงเขาแทบไม่ได้ช่วยกันอะไรไอ้พี่คริสออกมาจากพี่ลู่หานเลยด้วยซ้ำ



    “เพื่อนโทรมาหรอ?” คริสถาม เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นอีกฝ่ายกำลังมองมา


    “อ่า..ครับ” ชานยอลตอบกลับ เลี่ยงการสบตาที่ทำให้หัวใจรู้สึกแกว่งๆ อีกครั้ง


    “อิ่มรึยัง? อยากกินอะไรต่อไหม?”


    “ไม่ดีกว่า วันนี้พอแค่นี้ก่อน” ชานยอลปฏิเสธออกไป อย่าให้เขาต้องอยู่กับพี่คริสนานไปกว่านี้นักเลย หัวใจมันเต้นแรงเหมือนกำลังเหนื่อย “เดี๋ยวผมต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านอีก”


    “อ่า...ได้ งั้นไว้มื้อหน้านะ พี่จะเลี้ยง”


    คริสว่าพร้อมรอยยิ้ม ไม่อยากนับเลยว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่เขารู้สึกพัง! หากตอนนั้นที่เพลงฮิตยุคก่อนลอยแวบขึ้นมาในหัวราวกับจะฆ่าให้ตายทั้งเป็น



    เขาเป็นของคนอื่น ท่องมันไว้ในใจ~
    เขาเป็นของคนอื่น เขียนเอาไว้ข้างเตียง~


     

    ปาร์คชานยอลวัยยี่สิบหมาดๆ ตกอยู่ในความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่มันยากยิ่งกว่าข้อสอบเข้ามหาลัย ตอนนี้ราวกับกำลังอยู่บนทางเลือกที่เลือกไม่ได้ ถ้าเป็นถนนคงต้องบอกว่ามีแต่ทางตรงซึ่งไม่มีแม้แต่ที่กลับรถ!

     


    แถมดูเหมือนถนนเส้นนี้จะเป็นสีม่วงเสียด้วย!





    โอ้วม่ายยยยยยยย~~~  นี่ตกลงว่าเขาเป็นเกย์จริงๆ หรอวะเนี่ย!!!!!

     

     

     





    TBC

    นี่มันคือฟิคอะไร รู้สึกมึนตามชยอลกันไหมคะ 555 ป่วงมาก เวิ่นมาก
    ยังไงก็ขอบคุณคนอ่านทุกท่าน อิอิ
    ฝากแท็กฟิค
    #KYconfession ด้วยนะจ๊ะ <3
    ช่วงนี้กำลังจะไม่ว่าง มีภารกิจอีกมากมายที่ต้องทำ ถ้ามาต่อช้าหวังว่าจะรอกันนะคะทุกคน >.<


     

    farry 1000%
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×