คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The Confession #4
THE CONFESSION
PART IV
“หมู่นี้ไม่เข้าชมรมแล้วหรอไง?”
มื้อเที่ยงที่โรงอาหารแห่งเดิม ชานยอลเอ่ยถามเพื่อนซี้หัวสารพัดสีในระหว่างทานข้าว ช่วงนี้เขากับเซฮุนเจอกันบ่อยขึ้นกว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาที่อีกฝ่ายมักดอดไปขลุกตัวอยู่ห้องชมรมตลอด
เซฮุนชะงักก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง หรี่ตาตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย “เออ ไม่เข้า”
“อ้าว เป็นไรวะ” ชานยอลขมวดคิ้วถาม ในขณะที่อีกฝ่ายนั่งเงียบไม่ตอบเหมือนจะซึมๆ ทั้งที่เซฮุนดูจะรักชมรมเต้นของตัวเองจะตายไป “เฮ้ย เป็นไรวะ?”
“เปล่า” ปฏิเสธอย่างนั้นหากใบหน้าเรียวของอีกฝ่ายยังมีแววหงุดหงิด “ว่าแต่เป็นไรกับไก่ทอดมากปะเนี่ย ซื้อไก่ทอดมาติดกันสามวันไม่คิดจะให้กินอย่างอื่นรึไง?” เซฮุนถามขึ้นด้วยใบหน้าตงิดปนสงสัย ในขณะที่ชานยอลพยักหน้าเบาๆ ให้อีกฝ่าย
“นี่แค้นไก่ทอดมาจากไหนวะ?”
“เปล่าซะหน่อย” ชานยอลตอบเพื่อนซี้ บุ้ยหน้ากินไก่ทอดชิ้นโตต่อไป “มันก็อร่อยดีออกร้านนี้”
“ถึงจะอร่อยแค่ไหน แต่กินทุกวันก็เบื่อนะเว่ย” เพื่อนหัวสารพัดสีว่า ก้มหน้ากินต่อไปก็บ่นเสียงหงุงหงิงในลำคอ “เหมือนกูไง ถึงจะหล่อแค่ไหน แต่ถ้าเจอบ่อยๆ เข้าก็คงพาลไม่ชอบ”
คนหูไวอย่างชานยอลได้ยินดังนั้นก็คิ้วขมวดแทบชนกัน อันที่จริงเขาเองเพิ่งมาซี้กับเซฮุนตอนเรียนมหาลัย ตั้งแต่รู้จักกันมานานก็เพิ่งจะเคยเห็นมุมนี้ “เพี้ยนนะวันนี้ ผลจากยาย้อมผมหรอวะ?”
“ผลจากไก่ทอดมึงแหละชานยอล” เซฮุนพูดไปก็ทำหน้าเศร้า ก่อนจะยกมือขึ้นปัดผมหน้าม้าของตนที่เริ่มยาว “ชานยอล...กูถามอะไรตรงๆ หน่อยดิ”
“เออ ว่ามา”
“สัญญานะว่าต้องตอบตามความจริง”
“เออ”
“ถามจริงนะเว่ย กูไม่หล่อตรงไหนวะ?”
ได้ยินเท่านั้น ปาร์คชานยอลก็แทบจะสำลักน้ำจิ้มไก่ ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายแทบถลนออกมา
“มึงไปเอาความมั่นใจผิดๆ แบบนี้มาจากไหนวะติ๋ม?”
“ติ๋มพร่องซ์! ใครติ๋ม กูแมน แมนจะตายห่านแล้วเนี่ย” เซฮุนเถียงเสียงแข็ง ก่อนจะค่อยๆ ลดลงจนกลายเป็นเอื่อยอ่อย “แต่พี่เขาก็ยังไม่ชอบ แล้วแฟนพี่เขาอีก กูแอบเห็นหน้าแล้วหล่อยังกะเทพบุตร”
“ห๊ะ!”
“มึงดูสิ ขนาดกูทำผมสีเป็นนกแก้วแบบนี้เขายังไม่สนใจกูสักนิดเลย กูได้ยินมาว่าเขาไม่ชอบเด็ก เขาไม่ชอบเด็ก แล้วเขาก็มีแฟนแล้ว เขามีแฟนแล้วอะมึง ฮือ~~~”
ชานยอลยกมือขึ้นลูบหัวนกแก้วที่ก้มลงด้วยความหม่นหมอง นึกปะติดปะต่อเรื่องราวที่เพื่อนซี้เคยเล่าว่าปิ๊งรุ่นพี่ในชมรม เรื่องมันก็สองเดือนกว่าแล้ว หากเขาไม่คิดจริงๆ ว่าโอเซฮุนจะจริงจังขนาดมาร้องครวญครางแบบนี้
เขาพยายามปลอบเพื่อนที่ทำหน้าเหมือนกำลังร้องไห้ แม้ในใจตัวเองยังคงสับสนวุ่นวายอยู่กับใครอีกคนเหมือนกันสามวันที่ผ่านมา
“เพราะมึงอะสั่งไก่ทอดมา ความผิดมึง กูถึงเซ็งแบบนี้” โอเซฮุนว่าเบี่ยงไปอีกเรื่องทั้งที่สีหน้าหม่นเศร้า ในขณะที่เพื่อนรักอย่างเขา ได้แต่หงุดหงิดในใจกับเมนูอาหารตรงหน้าเหมือนกัน
อันที่จริงเขาไม่ได้พิศวาสอะไรไก่ทอดนักหนา หากชานยอลเพียงแค่อยากสั่งมันมาเพื่อกลบความรู้สึกจากไก่ทอดมื้อนั้น รวมถึงใครบางคนที่ยังตามหลอกหลอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“ชานยอล...มึง กูอยากเลิกคิดถึงพี่เขา อยากลืมความรู้สึกทั้งหมด กูจะทำไงดี?”
เซฮุนถามเสียงเอื่อย ในขณะที่เขาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี... เขาไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนซี้ หรืออันที่จริงคงต้องบอกว่าเขาตอบไม่ได้ต่างหาก
“ถ้ากูตอบได้...กูคงไม่สั่งไก่ทอดทุกวันหรอกเซฮุน”
สรุปแล้ว มื้อนั้น สองเพื่อนซี้ก็นั่งอยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง
เซฮุนกำลังดราม่า นั่งบ่นง้องแง้งงุ้งงิ้งไปตามประสา... ในขณะที่ชานยอลกำลังคิดเรื่องเดิมๆ วนไปวนมาแทบระเบิด ไอ้หล่อภัยพิบัติมันทำร้ายเขาราวกับคลื่นสึนามิ รอยยิ้มของไอ้พี่คริสซัดเข้ามาโครมใหญ่ เกิดแผ่นดินไหวให้รู้สึกใจแกว่งตามไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ก่อนจะหายลับไป ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังตรงนี้
ตั้งแต่ที่ร้านไก่ทอดวันนั้น... เขาก็ไม่ได้คุยกับไอ้พี่คริสอีก
เขาตั้งใจหลบหน้า ตั้งใจไม่ไปนั่งริมสนามเพราะอยากหลีกหนีอาการแปลกประหลาดนี้ ชานยอลเดินหนีพี่คริสทุกทีที่เห็นอีกฝ่ายในระยะไกล
และเพราะแบบนั้น จึงทำให้สายตาของเขาราวกับมีเรดาร์สอดส่ายหาไอ้หล่อนั่นตลอดเวลา
น่าตลกสิ้นดี ตั้งแต่เกิดมาเขาเองก็เพิ่งจะเคยเป็นแบบนี้ มองหาใครบางคนตลอดแต่พอเจอหน้าก็รีบหลบ ซ่อนอยู่หลังเสา ยกสมุดขึ้นบังหรือหลบข้างถังขยะบ้างก็มี
ปาร์คชานยอลหงุดหงิดตัวเองที่ต้องเป็นแบบนี้!
แต่ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่า... คือการที่เขานึกอยากให้อีกฝ่ายโทรมา หรือพยายามตามหาเขาบ้างเหมือนกัน!
ชานยอลยกมือขึ้นขยี้ศีรษะตัวเองแก้หงุดหงิดจนยุ่งเหยิง ไม่พอดังนั้นยังหันไปขยี้ผมนกแก้วของเพื่อนซี้ตัวดีจนทั้งคู่หันมาแหย่กันเล่นแทนที่จะกินข้าวต่อ
สุดท้ายไก่ทอดมื้อนี้ก็ไม่มีใครกินหมด มันยังคงวางตั้งตรงหน้าราวกับเป็นอนุสรณ์ให้คิดถึงใครบางคน
x o x o
ท่ามกลามความสับสนอลหม่าน สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือ ‘คิมจงอิน’ ไอ้พี่ดำเดินตรงมาดักไว้ก่อนเข้าเรียนคาบบ่าย วันนี้มันมาพร้อมขนมช็อคโกแลตน่าอร่อยถุงโต
“นี่ครับ น้องยอล” อีกฝ่ายว่าพลางยกยิ้ม ในขณะที่ชานยอลยังคงทำหน้าตุ่นๆ ใส่เหมือนเคย
“พี่...ถามจริงเหอะ ทำแบบนี้ไม่เหนื่อยหรอ?” เขาถามไปตรงๆ แต่มือรับขนมนั่นมาแล้ว แหงล่ะก็นั่นมันของชอบ “พี่น่ะ ไม่ได้ชอบผมหรอก”
อีกฝ่ายหุบยิ้มลงชั่วครู่ด้วยอารามตกใจ ในขณะที่ชานยอลหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ก่อนจะพูดต่อ
“เออ จริงๆ นะ พี่ไม่ได้ชอบผมจริงๆ หรอก แล้วผมก็ไม่ได้ชอบพี่ด้วย” ชานยอลยังคงนึกถึงเมื่อหลายวันก่อนตอนเจอไอ้พี่ดำกับเพื่อนที่ร้านไก่ ไม่รู้ล่ะ ไม่ว่าอีกคนกับเพื่อนจะมีซัมติงอะไรหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ชานยอลไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะชอบพี่จงอิน
ความรู้สึกมันบอก... สองสามวันที่ผ่านมาลองสบตาอีกฝ่ายจังๆ แล้ว ก็ไม่เห็นจะเหมือนสักนิดเลย
ไม่เหมือน... ตอนสบตาไอ้พี่คริสสักนิดเลย...
“ทำไมน้องยอลคิดอย่างนั้นล่ะครับ หรือว่าตอนนี้น้องยอลชอบใครอยู่?” อีกฝ่ายว่าขึ้นต่อ ในขณะที่คนฟังตอบสวนขึ้นทันที
“เปล่านะ!”
ไม่ได้ชอบเลย ชานยอลไม่ได้ชอบพี่คริส
ไม่สิ ต้องบอกว่าชานยอลไม่ได้ชอบผู้ชายตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก!
“งั้นหรอครับ”
“ใช่สิ” เขาว่าเสียงแข็ง “นี่ผมพูดจริงนะ ผมยอมรับก็ได้ว่าขนมพี่อร่อย แต่เชื่อผมเหอะ พี่เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า”
ชานยอลพูดจริงจังแม้จะนึกเสียดายดอกไม้กับขนมอยู่บ้าง แต่หากพอมองหน้าไอ้พี่ดำแล้วกลับรู้สึกเหมือนความพยายามพูดปฏิเสธในครั้งนี้มีค่าเป็นศูนย์
แม้ไอ้พี่จงอินจะตอบรับ หากริมฝีปากกลับส่งยิ้มกริ่ม ที่ชานยอลเข้าใจว่าไม่มีทางที่อีกคนจะเลิกราง่ายๆ เห็นดังนั้น ชานยอลก็หยิบลูกอมช็อกโกแลตในถุงออกมากินแก้หงุดหงิด อ้าปากเคี้ยวหงั่มๆ ก่อนจะยัดเปลือกลูกอมใส่มืออีกฝ่ายอย่างกวนๆ
“ฝากทิ้งด้วยนะพี่”
ปาร์คชานยอลเดินหนีเข้าห้องเรียนด้วยความหงุดหงิดระดับสิบ ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมไอ้คนอยากให้ไปไล่กี่ทีก็ไม่ไป แต่ไอ้คนที่อยากให้มา... รอกี่วันกี่วันก็ยังไม่เห็นมา
โอ๊ย นี่แอบคิดอะไรไปอีกแล้ววะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
x o x o
เรียนไม่รู้เรื่อง!
ภาคบ่ายเขากับไอ้เซฮุนเรียนไม่รู้เรื่อง
เหมือนตะกอนที่ตกค้างในใจมันถูกกวนขึ้นมาให้ฟุ้ง ตอนนี้ชานยอลกับเซฮุนเลยได้แต่นั่งแชทไลน์กันผ่านมือถือ ส่งสติกเกอร์กันไปมาเห็นอาจารย์ไม่เช็คชื่อ เลยนัดแนะกันโดดเรียนจนได้
โอเซฮุนชวนเขาโดดเรียนไปหาพี่ลู่ของมันที่คณะวิศวะ!
มันบอกว่าอยากแอบมองเขาเงียบๆ แบบไม่โจ่งแจ้ง แค่อยากรู้ความเป็นไปแต่ไม่อยากรบกวน โอ้วแม่เจ้า นี่โอเซฮุนหรือชเวยองโดก็ไม่รู้ มาทำตัวเป็นพระรองละครหลังข่าวไปได้
แต่ดันเป็นพระรองแอ๊บแบ๊ว ส่งสติ๊กเกอร์คิตตี้มาอ้อนขอให้ปาร์คชานยอลโดดเรียนไปตึกวิศวะด้วยกัน เผื่อถ้ามีอะไรมันจะได้มาหลบหลังเขาก่อน
จำเริญครับงานนี้...
แต่เพราะอยากโดดเรียนอยู่พอดี ปาร์คชานยอลก็เลยตกลงไป!
ตึกวิศวะผู้ชายเยอะยังกับมด
สองหน่อเดินตอกแตกเข้ามา เท่าที่มองกวาดดูเกือบ 90% ของทั้งหมดเป็นประชากรชาย ไอ้เซฮุนมันบอกว่าดีแล้วจะได้เนียนเป็นเด็กวิศวะกันไปไม่สะดุดตาคน แต่ปาร์คชานยอลอยากตบหัวมันกลับไปเหลือเกิน
ก็ดูทรงผมมันสิ
“หัวสีนกแก้วแบบนี้ พี่นางฟ้าของมึงเขาก็เห็นตั้งแต่ระยะร้อยหลาแล้ว”
“ใครเขาจะไปสนทรงผมกัน คนทำสีผมมีเยอะแยะไปหมด... เนียนออกเว่ย ดูดิแมนๆ แบบพวกเราเนียนจะตาย”
“เออใช่ แมนๆ” ร่างโปร่งว่าตามพลางพยักหน้าเออออไปด้วย ประโยคหลังชานยอลยอมรับว่าเซฮุนพูดถูกจริงๆ “ว่าแต่พี่นางฟ้าของมึงจะอยู่ไหนวะ ตึกมันมีเป็นสิบๆ ตึกจะหาเจอไหม?”
“ไม่รู้สิ กูก็เพิ่งเคยมาเดินตึกวิศวะเหมือนกัน”
“เอ๊า!”
“แต่พี่นางฟ้าชอบกินชานมไข่มุก เราลองไปนั่งที่โรงอาหารดีกว่า”
เราทั้งสองย้ายมานั่งแกร่วในโรงอาหารตึกวิศวะ
ช่วงเวลาใกล้เลิกเรียนแบบนี้คนไม่เยอะนักแต่ก็พอมีให้เห็นประปราย ชานยอลที่กำลังดูดโค้กรอได้แต่มองกวาดตาไปมา ไม่รู้หรอกว่านางฟ้าของไอ้เซฮุนหน้าตาเป็นยังไง
เพราะตอนนี้ เขามองหาคนอื่นอยู่ต่างหาก
ทันทีที่เห็นคนตัวสูงหรือผมทอง สายตาของเขาก็มักเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่คนนั้นเสมอ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็มักไม่ใช่ เขาจำไม่ได้ว่าไอ้พี่คริสเรียนคณะอะไร แต่คงไม่ใช่คณะวิศวะหรอกมั้ง หรือถ้าใช่ ป่านนี้ไอ้พี่คริสก็คงไปซ้อมบาสแล้วล่ะ
ชานยอลบอกตัวเองอย่างนั้นหากมองหาคนในความคิดไม่วางตา ในขณะที่โอเซฮุนก็ไม่แพ้กัน
เรานั่งอยู่ตรงนั้น นานเข้าจนเริ่มหน่าย ชานยอลจิ้มโทรศัพท์ตอบไลน์ไปเรื่อย ตอนนั้นที่อีกฝ่ายสะกิดแขนเขา
“ชานยอล... ชานยอล... กูเจอแล้ว กูเจอพี่นางฟ้าแล้ว”
เซฮุนเอ่ยขึ้นด้วยเสียงตื่นๆ อีกฝ่ายหยิบชีทเรียนปึกหนาขึ้นมาปิดหน้าตาเองไปกว่าครึ่ง
“ไหนวะ คนไหน?”
“ร้านชานมไข่มุก คนที่ยืนสั่งอยู่” เซฮุนพยายามกดเสียงให้เบา สายตาเศร้าๆ นั่นหลุกหลิกเหมือนคนกลัวโดนจับได้ “แต่แฟนพี่เขาก็อยู่ ฮือ...พี่ลู่ใจร้าย”
ตอนนั้นที่ปาร์คชานยอลค่อยๆ หันไปตามเสียงพูดอีกคน ชั่ววูบที่เขาเห็นใบหน้าด้านข้างของพี่ลู่ แล้วก็พบว่าพี่ลู่คนนั้นหน้าตาน่ารักจริงๆ
ก่อนจะกลอกตาไปเห็นใครอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ส่วนสูงเกินมาตรฐนานชายเกาหลี กับสีผมและใบหน้าหล่อเหลาแบบนั้น ไม่ว่ามองกี่ครั้งมันก็สะดุดตาทุกที
ไอ้พี่คริส... เล่นงานเขาแบบนี้อีกแล้ว ตอนนี้เหมือนปาร์คชานยอลโดนสึนามิถล่มรอบสองเลยล่ะ
“พี่ลู่น่ารักใช่ไหม? น่ารักเนอะชานยอล”
“อือ” เขาตอบรับ ทั้งที่สายตาจดจ้องอยู่ที่ดวงหน้าคมที่มีผมสีบลอนด์ปรกอยู่
“ส่วนแฟนพี่ลู่ ไอ้คนตัวสูงๆ หัวทองๆ นั่นแหละ เจ็บใจชะมัดเลย”
“อืม” ชานยอลตอบรับส่งๆ อย่างไม่ได้สติ
“คริส...ไอ้นั่นมันชื่อพี่คริส เป็นทั้งนักบาสทั้งเดือนมหาลัย เซ็งชะมัด สู้อะไรมันไม่ได้สักอย่างเลย”
ว่าไงนะ... พ..พี่คริส!
พอดีกับที่ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางนี้ราวกับจับได้ว่ามีคนแอบมอง เราประสานแววตากันเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ชานยอลจะเป็นฝ่ายหลบตาเสียเอง
ตอนนั้นที่หัวใจมันแทบหยุดเต้น ความรู้สึกชาๆ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
“ทำไมต้องกอดคอกันด้วย พี่ลู่ใจร้าย”
โอเซฮุนบ่นหงุงหงิงเมื่อเห็นพี่ลู่ของตนวาดมือกอดคอร่างสูงข้างๆ ไว้ คนนึงหล่อเหลาเป็นถึงเดือนมหาลัย ส่วนอีกคนก็ตัวเล็กน่ารักราวกับนางฟ้า ไม่ว่าจะเซฮุน ชานยอล หรือใครๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าทั้งคู่ช่างดูสมกันจริงๆ
“ทำไมต้องก้มลงกระซิบอะไรกันอีก คุยกันปกติไม่ได้หรอ หรือว่าไอ้พี่คริสนั่นมันหูตึง”
เพื่อนซี้ของเขานั่งบ่นเสียงเศร้า ในขณะที่เขาทำได้เพียงนั่งมองคนทั้งคู่แน่นิ่ง
หากปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้...ข้างในอกซ้ายมัน ‘เจ็บ’ ที่สุดเลย
TBC
โผล่มาอีกคู่ เป็นฮุนหาน/หานฮุน อิอิ คือไม่อยากระบุว่าใครเคะใครเมะ คิดว่าในแง่นั้นคงไม่สำคัญสำหรับคู่นี้เท่าไหร่ แต่ยังไงก็จะแต่งจากมุมของชยอลเหมือนเดิมค่า เพราะคู่เมนคือคริสยอล แต่คงมีรายละเอียดที่คาบเกี่ยวกันไป มันจะอิรุงตุงนังกันหน่อยนะคะ แหะๆ
เหมือนตอนนี้ไม่ค่อยฮา ถถถถ แต่ก็ไม่ดราม่านะ นี่ไม่ใช่ฟิคดราม่า ขอย้ำ อิอิ
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่า
ฝากแท็กในทวิตเตอร์ #KYconfession ด้วยน้า~~~
ความคิดเห็น