ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha AF8] ♀ TOM (or) BOY ♂

    ลำดับตอนที่ #21 : ♀ TOM (or) BOY ♂ - 19

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 55


    TOM (or) BOY

    19

     

     




    หมายเหตุ : ตอน 18 เราปรับเพิ่มบทน้องเต๋อเข้าไปเพราะเพิ่งรู้ว่าพี่เต๋ามีน้องชาย ย้อนกลับไปอ่านก่อนก็ได้นะจ๊ะ แต่แก้ไม่เยอะหรอก

    ถ้าพร้อมแล้วก็อ่านโลดดดดดดดดด








     

    ฟ้าสว่างแล้ว...

                เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดมองคนที่ตนเผลอกกกอดไว้ทั้งคืนโดยไม่รู้ตัว... ผิวขาวจัดจนดูซีด ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เส้นผมหยักศกที่ดูยุ่งเหยิงหน่อยๆ หากแต่กลับดูเป็นธรรมชาติ...  ยอมรับเลยว่าเต๋าเป็นคนที่ดูดี จนหลายครั้ง...หรือแม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไมอีกคนถึงได้รู้สึกแบบนั้นกับเขา ทั้งๆ ที่เต๋ายังมีตัวเลือกอีกเยอะแยะ

                แต่เรื่องแบบนี้ต้องการเหตุผลด้วยหรอ? ในเมื่อคชาก็หาเหตุผลให้ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เช่นกัน

    ตาคู่เรียวยังคงลอบมองคนที่ตนกอดเอาไว้ นึกอายเล็กๆ ที่เผลอไปกอดอีกคนเข้าในยามหลับ หากแต่ความอบอุ่นที่เขาได้รับ สัมผัสทางกายมีผลกระทบต่อก้อนเนื้อในอกซ้ายอย่างน่าประหลาด...

    มันมากมายเสียจนที่คชาฉวยกอดอีกคนไว้แน่นกว่าเดิม

    ขอหลับต่ออีกนิดนึงนะ...


     

    - - -


     

    “คิดว่าจะไม่ตื่นซะแล้ว” 

    เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นทันทีเมื่อปลายเท้าก้าวลงบันไดมาถึงชั้นล่าง  เต๋าในชุดอยู่บ้านสบายๆ นั่งลงอยู่ตรงเก้าอี้ไม่ใกล้ไม่ไกล ในมือถือแก้วน้ำเอาไว้อยู่

    “ไม่ได้ขี้เซาขนาดนั้นสักหน่อย”  คชาตอบเสียงค่อย... เพราะอันที่จริงตอนนี้มันก็สิบโมงเศษแล้ว แถมแค่ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ลงมา เสื้อผ้ายังเป็นชุดเมื่อคืนอยู่เลย

    “ไม่อาบน้ำล่ะ”

    “ไม่มีชุด”

    “หยิบๆ ใส่ไปเถอะ ของเต๋าก็เหมือนของชาแหละ”

    คนตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็ยืนนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะทำปากยื่นใส่ แกล้งเบือนหน้าหนีไปก็เห็นน้องต๋อที่กำลังนั่งยิ้มเขินๆ มองเขาอยู่

    “อือ...งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนก็ได้”  พูดเสร็จก็หันหลังกลับเตรียมหนีขึ้นบันไดไปตั้งหลักอีกที... ไม่ไหวแล้วแบบนี้ เล่นหยอดแต่เช้าเลย

    ไอ้เสี่ยวเต๋า! คนมันก็เขินเป็นนะเว้ยเฮ้ย

    “อย่าเพิ่ง มากินข้าวก่อนจะได้กินยา”  เสียงทุ้มที่พูดซะใกล้จนดูจะมากเกินไป กับแขนที่รั้งเอาไว้ยิ่งทำให้หัวใจสูบฉีดแรง และเมื่อหน้าผากถูกแตะด้วยหน้าผากมนของอีกฝ่ายเพื่อวัดไข้ ก็แทบจะทำเอาคนตัวเล็กแทบจะเป็นบ้า...

    “ตัวไม่ค่อยร้อนแล้ว”  เต๋าพูดพลางเอามือคล้องคออีกฝ่ายให้เดินไปด้วยกัน  “แต่หน้าแดงแจ๋เลย”  ประโยคหลังกระซิบบอกให้ได้ยินแค่สองคน แน่นอนว่ายังมีสายตาวิบวับของน้องต๋อเช่นเดิม พร้อมกันด้วยเสียงผิวปากเบาๆ ของน้องเต๋อที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบน

    พ่อต๋อยแม่เต่าครับ คชาอยากรู้เหลือเกิน... เลี้ยงลูกยังไงถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยได้ขนาดนี้!


     

    คำถามที่คิดเล่นๆ ในใจไม่มีโอกาสได้ถามเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองออกไปซื้อของ อาหารมื้อสายกับพี่น้องตระกูลเพียงพอทั้งสามเลยเป็นบรรยากาศเดียวกับเมื่อครู่ไม่ผิด

    พี่ชายคนโตยังทำหน้าที่เทคแคร์เขาเป็นอย่างดี ส่วนน้องๆ ก็...

    “พี่สะใภ้~

    มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงักไปในทันที  ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองคนพูด

    คราวนี้ไม่ใช่ต๋อ... แต่เป็นเต๋อ! น้องชายหน้าหล่อผิวขาวถึงจะแพ้พี่ชายไปหน่อยก็ตาม

    “พี่คชาหันมาด้วยอ้ะ ขนาดพูดลอยๆ นะเนี่ย”  ส่วนน้องสาวพูดเสริมซะจนเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน

    “ก็....”  คชาพูดตอบด้วยเสียงไม่ดังนัก  “อย่าเรียกแบบนี้เลย เรียกพี่คชาดีกว่านะ”

    “เขินอ้ะดิ ต๋อรู้น่ะ”

    “เปล่าครับ”  พูดทั้งๆ ที่ใบหน้าขึ้นสีจางๆ  “แต่เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดหมด”  กลัวที่สุดก็คงเป็นพ่อแม่ของสามพี่น้องนี่แหละ

    ไม่อยากนึกเลย... ถ้าพ่อต๋อยแม่เต่ามาได้ยินเข้าจะทำหน้ายังไงกัน

    นาทีเงียบงันบนโต๊ะอาหารถูกทำลายลงด้วยกับข้าวบนจานของคชาที่พี่ชายคนโตตักมาให้  ใบหน้าหวานหันไปมองอีกคนที่แม้นั่งนิ่งไม่พูดจาแต่ก็ดูแลเขาไม่ขาดหายเขาไม่รู้ว่าเต๋ากำลังคิดอะไร หากแต่คชามีคำตอบให้กับสถานะครึ่งๆ กลางๆ ในตอนนี้แล้วหลังจากนอนคิดเมื่อคืน

     

     

    “เต๋า...เราอย่าเพิ่งเป็นแฟนกันเลย” 

    เสียงเล็กเอ่ยกับอีกคนในห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ ตาเรียวช้อนมองอีกคนอย่างมีความหมาย มันไม่ได้ตัดขาดเยื่อใย หากแต่ฉายแววความกังวลบางอย่างอยู่ในนั้น

    “ทำไม?”  ถามกลับสั้นๆ

    “มันยังเร็วไป”  คนตัวเล็กตอบ  “เดือนเดียวเองที่เรารู้จักกัน”

    ไม่ได้นับเวลาผิดเลย... คชานับแล้วนับอีกดูให้ถี่ถ้วนแค่ไหนมันก็ 28 วันเท่านั้นเอง

    “แล้วต้องรอถึงเมื่อไหร่?”  เต๋าทรุดตัวลงนั่งข้างๆ อีกคนบนเตียงนุ่ม  “ชาก็รู้...ว่าความรู้สึกมันเกินคำว่า เพื่อนไปแล้ว”

    “ก็ไม่ได้ให้รอนานขนาดนั้นหรอก”  พูดเสียงอ่อยเมื่ออีกฝ่ายกอดตัวเอาไว้ราวกับจะอ้อน  “แต่อย่างน้อย เราก็น่าจะรู้เรื่องของอีกฝ่ายมากกว่านี้”

    ท้ายประโยคเสียงแผ่วลงเมื่ออีกฝ่ายดันหลังเขาลงนอนบนเตียงสีขาว คชาเบือนหน้าหนีจมูกยาวที่คอยไล่ต้อนสูดดมกลิ่นของเขาไปทั่วตั้งแต่แก้มใส ใบหู ลามลงมาถึงซอกคอ

    “เต๋า...ทำอะไร?”  เขาส่งเสียงปรามคนเจ้าเล่ห์ ถึงแม้มันจะไม่ได้หนักแน่นเท่าที่ควรก็ตาม

    “ข้ามขั้น” คำพูดสั้นๆ ที่อีกคนตอบทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  “ไม่ต้องเป็นแฟนกันก็ได้ ข้ามไปเป็นอย่างอื่นเลย”

    คำพูดกำกวมนั้นทำเอาคนฟังนิ่งคิดอยู่วูบหนึ่ง ก่อนจะเอ็ดอีกคนทันทีเมื่อพิจารณาในความได้  “ทะลึ่ง!

    “เปล่าทะลึ่ง... ไม่อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้หรอชา?”

    ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่ฝ่ามือไม่ได้ทำให้ใจคนฟังเต้นระส่ำเพราะเริ่มคุ้นชิน หากแต่คำถามนั้นกับสีหน้าอ้อนๆ นั้นน่ะสิ แทบเอาเขาละลายไปทั้งตัว  เขานอนนิ่งรับริมฝีปากที่โน้มลงมาแตะชิมกลีบปากตัวเองเพียงแผ่วเบา  หากแต่ไม่ยอมให้อะไรเลยเถิดไปกว่านั้น มือทั้งสองก็ดันใบหน้าอีกคนออกห่างก่อนจะลุกขึ้นนั่งตามเดิมเพื่อให้พ้นจากสถานการณ์อันตราย

    ขืนอยู่เฉยต่อไปได้เกิดเหตุแบบเมื่อคืนแน่... แล้วตอนนี้เขาก็สบายดีเสียด้วยสิ

    “อย่าเพิ่งรุกเยอะดิเต๋า...”  กว่าจะรวบรวมความกล้าเพื่อเปล่งคำพูดนี้ออกมาได้ก็ใช้เวลาหลายวินาที  จ้องกันอย่างกับจะกลืนเข้าไปทั้งตัวแบบนี้มันชวนขนลุกอยู่นะ ยิ่งสีหน้าแบบนั้นด้วยอีก... ถ้าเต๋าเป็นเสือก็คงจับเขากินไปเรียบร้อยแล้ว

    “เราปรับตัวไม่ทันอะ ขอเวลาก่อนนะ ถือซะว่าค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป”  เพราะอันที่จริง เขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเต๋ามากมาย ไม่ต่างจากฝ่ายนั้นเลย

    อ้อมแขนหนาโผเข้ากอดอีกคนเข้าอีกครั้ง คชาได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเบาๆ ว่า  “ก็ได้”  เพียงเท่านั้นก็ริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มออกมา

    “งั้นบ่ายนี้ ไปดูหอใหม่กันไหมเต๋า? เรานัดเพื่อนไว้แล้ว”

     


    ไม่ใช่คชาไม่เห็นว่าเต๋ามีสีหน้าอย่างไรเมื่อได้ยินว่าจะไปดูหอใหม่ เขาเองไม่ได้อยากขัดใจอีกฝ่ายหรอกในขณะที่ความสัมพันธ์มันเพิ่งเริ่มต้นแบบนี้ แต่เพราะคชาเองก็อยากมีมุมส่วนตัวและอยู่ได้ด้วยตัวเองบ้างน่ะสิ

    สุดท้ายเลยต้องตบปากรับคำไปว่าจะมานอนด้วยทุกอาทิตย์ อีกคนถึงได้ดูอารมณ์ดีขึ้นมา

    เฟรมเดินออกมารับเขากับเต๋าที่ยืนรออยู่ที่ริมถนนใหญ่  เขาแนะนำเฟรมให้เต๋ารู้จักอย่างเป็นทางการ แอบเห็นรอยยิ้มล้อๆ ของเพื่อนซี้ที่ส่งมาก็อยากจะตั๊นท์หน้ามันเหลือเกิน  ยืนทักทายกันไม่นานนัก เฟรมก็นำอีกสองคนเดินไปยังหอพักของของตัวเอง มันไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านของเต๋าซะทีเดียว หากแต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินมาห้านาทีถึง

    หอพักของเฟรมเป็นตึกสูง 15 ชั้น ไม่ใช่แค่ตึกแถวทั่วไปแบบหอพักเพียงพอ ถึงภายนอกจะดูเก่า แต่ภายในดูเหมือนจะเพิ่งทาสีใหม่ เฟรมเดินตรงเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่หอก่อนจะให้เธอเดินนำพวกเขาไปยังห้องที่เป็นจุดหมาย

     

    - 603 -

    ห้องนอนสีขาวดูเรียบง่ายสบายตา แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่ก็นับว่าน่าอยู่ทีเดียว พื้นที่ใหญ่กว่าห้องเบอร์ 23 ห้องนั้นพอสมควร หนำซ้ำยังมีระเบียงเล็กๆ ที่โผล่ออกไปตากเสื้อผ้าแล้วก็นั่งมองฟ้ามองดาวเรื่อยเปื่อยได้อีก

    “คราวนี้ไม่มีคนตายใช่ไหมไอ้เฟรม?”  เสียงใสรีบถามขึ้นทันทีหลังจากสำรวจแล้วว่าโอเค  ห้องนี้ดีและครบครัน แต่ถ้ามีคนตายแบบห้องนั้นที่เคยจะไปอยู่เขาก็ไม่ไหวนะ

    “ไม่มีเว้ย... พี่ที่เคยอยู่เขาได้งานใหม่พอดีเลยย้าย ไม่เกี่ยวกับคนตายแล้ว”

    “แน่นะ”

    “เออ แน่สิ”

    “เจอเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ไม่ใช่พี่เขาเป็นวิญญาณไปแล้วนะ”  คชาถามด้วยสีหน้าจริงจัง  เห็นแบบนั้นเฟรมก็แทบกุมขมับ

    “เจอเมื่อสองวันก่อนนี่แหละ... เอาเป็นว่า ถ้าเจออะไรแปลกๆ ก็มาเคาะห้องกูละกัน ห้อง 507 อยู่ข้างล่างนี่เอง รับรองว่าพี่เฟรมจะดูแลน้องทอมอย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย”

    “เออ”

    “งั้นเดี๋ยวพี่เฟรมขอไปเทสมาตรฐานชักโครกก่อนละกัน ปวดอีกละ เดี๋ยวมา”

    หนุ่มหน้าสิวพูดปุ๊บก็เดินเข้าห้องน้ำอย่างฉับไว โดยคชาไม่ลืมที่จะตะโกนทิ้งท้ายให้อีกคนเปิดพัดลมปรับอากาศด้วย  คนตัวเล็กหันมาหาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงปลายเตียง... ตั้งแต่มาที่นี่เต๋าก็ไม่ได้พูดอะไรมากสักเท่าไหร่ สงสัยเจอความเกรียนของไอ้เฟรมเข้าไปล่ะมั้ง

    “ห้องนี้ดีไหม?”  คชาพูดพลางนั่งลงที่ปลายเตียงหันหน้ามองอีกคน

    “อืม ก็ดี”

    ตอบสั้นจัง... ความคิดแรกที่ผุดเข้ามาในหัวคือแค่นั้น หากแต่ใบหน้านิ่งเฉยของคนตรงหน้าที่แสดงออกมันกลับตอกย้ำว่าคนตรงหน้าไม่ได้ปกติดี

    “เป็นไรเต๋า?”

    “หึง”  ไม่จำเป็นต้องปกปิดความในใจ เมื่อคชาถามเต๋าก็ตอบไปตามตรง  “สนิทกันจังนะชา”

    ถึงจะเขินเล็กๆ ที่ได้ยินคำคำเดียวจากปากอีกคน หากแต่ก็กังวลเมื่อสีหน้าอีกฝ่ายยังคงนิ่งสนิท  “ก็เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ คิดมาก”  มือบางเอื้อมไปดึงมือหนาของอีกคนมาจับไว้คล้ายจะง้ออยู่ในที  “เฟรมเป็นเพื่อนคนแรกของเราในกรุงเทพเลยนะ”

    “แต่เต๋าเป็นแฟนคนแรกใช่ไหม?”

    วกเข้าเรื่องเดิมจนได้สิน่า... คชาไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากส่งยิ้มบางๆ  “รอก่อนนะเต๋า” 

    แม้คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ แต่พอได้เห็นสีหน้าอ้อนๆ แบบนั้นแล้วใครจะไปทำใจแข็งลง  ไม่รู้ไปหัดทำตัวน่ารักมาจากไหน  สุดท้ายเต๋าก็ย้ายก้นมานั่งข้างอีกคนแทน  มือหนาขยี้เส้นผมอีกคนเล่นอย่างพอใจ ก่อนจะดีดแก้มใสดัง แป๊ะอย่างหมั่นเขี้ยว

    “โอ๊ย!”  คชาร้องก่อนจะหันไปหยิบหมอนใบนุ่มเป็นอาวุธ แล้วจัดการประทุษร้ายอีกคนคืน... มือบางจัดการฟาดมันลงบนใบหน้าอีกคน ยิ่งเห็นเต๋านั่งเป็นเป้านิ่งก็ยิ่งฟาดใส่อีก

    เคยเล่นแบบนี้กับน้องๆ ที่โคราช แล้วคชาก็ไม่ได้เล่นนานแล้วน่ะสิ

    แต่บนเตียงมีหมอนใบเดียวเสียเมื่อไหร่ แล้วอย่างเต๋ายอมหรอที่จะเป็นผู้ถูกกระทำ...


    ไม่ปล่อยไว้นานนัก หมอนอีกใบก็ถูกมือยาวฉวยมาตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปบ้าง คชาดูจะสนุกกว่าเดิมเมื่อเขาเล่นตอบแบบนี้  มือฟาดไม่ยั้งแถมตัวก็พยายามเอี้ยวหลบไปด้วย ส่วนเต๋าน่ะหรอ... สู้ยิบตาไม่เคยถอย จะโดนหมอนฟาดใส่ยังไงไม่มีหลบ ยังไงมันก็แค่หมอนนุ่มๆ ถึงอีกฝ่ายจะลงแรงไม่ยั้งก็ตาม

    ไม่นานหลังจากปล่อยให้อีกคนได้โจมตี มือหนาก็ใช้ความสงบนิ่งแย่งเอาหมอนของอีกฝ่ายมาถือไว้ในมือได้สำเร็จ ก่อนจะโยนมันทิ้งไป แล้วทำการรุกฆาตเสียเลย

    หมอนใบเล็กถูกใช้ลูบใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ แทนการตี... แผ่นหลังคชาในตอนนี้แนบสนิทกับเตียงเล็กอีกครั้ง ก่อนที่เต๋าจะก้มหน้าลงไปใกล้

    สถานการณ์คุ้นๆ นะ...ว่าไหม?

    ยิ่งเห็นอีกคนทำตาโตตกใจเต๋ายิ่งสนุกกับการได้แกล้ง จมูกโด่งฉวัดเฉวียนอยู่แถวแก้มใส กลิ่นหอมที่ดมทีไรก็ไม่รู้จักเบื่อ

    จะว่าเต๋าฉวยโอกาสก็ยอม แต่เวลาคชาเขินมันน่ารักจะตาย!

    “ดีจังที่ชาค่ะเป็นผู้ชาย”  ไม่ได้พูดเสียงดังเพราะมันไม่จำเป็นสักนิดกับระยะห่างเพียงแค่นี้  ตรงกันข้าม เสียงแผ่วเบาที่ข้างหูกลับนั้นชวนจั๊กจี้ซะมากกว่า

    “จริงหรอ?”  คชาถามกลับ... แม้จากตำแหน่งในตอนนี้จะเสียเปรียบ หากแต่คำพูดของอีกคนกลับทำเขาดีใจเป็นลิงโลด

    นอกจากเต๋าจะไม่โกรธ เต๋ายังดีใจซะอีก... ที่ผ่านมาคงมีแต่เขาที่คิดเองเออเองไปโดยไม่ฟังเสียงคนอื่นเลย

    “เราดีใจที่ชาค่ะคนนั้นเป็นผู้ชาย...”  ตาคู่คมจ้องมองลึกลงไปในดวงตาเรียวซะจนเข้าของยกมือขึ้นจับศีรษะด้วยความเก้อเขิน  เต๋าแอบอมยิ้มไปกับภาพนั้นก่อนจะพูดต่อ

    “จะได้ไม่ท้องไงชา”

                ไอ้ หื่น เอ๊ย!

    จะบอกว่ามือไวก็ไม่ผิดเมื่อหมอนที่ถูกทิ้งเอาไว้ถูกยกขึ้นตีใส่หน้าอีกคนไม่ยั้ง... ไอ้เราก็หวังจะได้ยินคำพูดซึ้งๆ เสียหน่อยดันมาทำหื่นใส่จนได้  แล้วยังรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก

    มือรัวหมอนใบเดิมใส่หน้าอีกคนหลายๆ ทีและไม่มีทีท่าว่ายกนี้คชาจะยอมให้ง่ายๆ อีกแล้ว... ก็ดูสิ...ไอ้เต๋ามันแกล้งโผมมมมมม!!!

    “โอ๊ยชา เบาหน่อยสิ... ล้อเล่นนิดเดียวเอง”  เสียงคนกะล่อน

    “ไม่! จะตีให้หายทะลึ่ง”  เสียงคนหน้าบึ้ง

    “เห้ย... จะสวีทอะไรกันแถวนี้วะ”  และเสียงคนผิดจุด!


    เหมือนทั้งคู่จะลืมไปแล้วว่าตอนที่กำลังเล่นจ้ำจี้ตีหมอนใส่กันบนเตียงยังมีอีกคนที่แว้บไปเข้าห้องน้ำ และคนคนนั้นก็เพิ่งจะเดินออกมาอยู่ตรงหน้านี้

    “โหย... หวานไม่เกรงใจเพื่อนฝูงเลยนะน้องทอม”

    “เดี๋ยวเหอะไอ้เฟรม!”  คชาที่ลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วพูดปากยื่นใส่เช่นเคย  “หุบปากไปเลย”  ไม่ได้หมายถึงแค่ตอนนี้ แต่หมายถึงกับคนอื่นด้วย... กลัวจริงๆ ว่ามันจะเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าเขากับเต๋างู้นงี้กันน่ะสิ  ทว่าแม้เฟรมจะได้ยินคำพูดของอีกคนชัดเจนทั้งสองหู แต่รอยยิ้มทะเล้นที่ส่งมากลับไม่ทำให้คนตัวเล็กไว้วางใจสักนิดเดียว

    “เฟรม... ความผิดที่แกพาผู้ชายหน้าตาดี(?)ไปทิ้งไว้หอหญิงวันก่อนเปิดเทอมยังจำได้อยู่ใช่ไหม?”  คชาพูดเสียงขู่  “เต๋า...ไอ้นี่แหละที่พาเราไปอยู่หอพักเพียงพอ”  คนเดียวไม่พอแต่ยังสะกิดแขนคนข้างๆ พลางเอ่ยฟ้อง  “ถ้าจะโทษใครก็โทษมันนี่แหละ พาวุ่นวายไปหมด”

    “แกก็สมยอมเองด้วยเหอะชา”

    “ก็ไม่มีทางเลือกนี่หว่า หออื่นแพงจะตาย”

    “นั่นไง ก็พอกันแหละ ทำมาเป็นฟ้องสามี

    “ไอ้เฟรม!

    สงครามย่อมๆ ส่อแววจะก่อตัวอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กเริ่มโวยวายขึ้นมา หากแต่บุคคลที่สามอย่างเต๋าฉุดข้อมือคนข้างกายไว้ก่อนจะพูดขึ้นบ้าง

    “เฟรม...อย่าพูดแบบนั้น คชาเสียหาย”

    ได้ยินดังนั้นเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มกวนใส่เพื่อนซี้ตัวแสบ  ยิ่งเห็นเฟรมมีท่าทีหงอๆ ก็ยิ่งรู้สึกสะใจ ...โดนซะบ้าง อยากล้อดีนัก!

    “ไว้เป็นสามีจริงๆ เมื่อไหร่จะบอกละกัน... ยังไงก็ขอบคุณนะที่พาคชาไปอยู่หอพักเพียงพอ ไม่งั้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกัน”

    ไอ้ บ้า เอ๊ยยยยย ! T//T

     

    - - -

     

    หลังจากคชาตกลงเซ็นสัญญาเช่าห้อง 603 นั้นเป็นที่เรียบร้อย เขาก็กลับมาเดินเตร่ที่ตรอกหอพักเพียงพอพร้อมกับลูกเจ้าของหอคนเดิม  ถึงแม้หอใหม่จะเข้าอยู่ได้เลยหากแต่ของส่วนหนึ่งอยู่ที่บ้านโปเต้ อีกส่วนก็ฝากไว้ที่ห้องแพรวา แถมของที่เต๋าให้มาก็ยังกองอยู่ที่ห้องเบอร์ 23 เหมือนเดิม

    เต๋าบอกเขาว่า... ให้ไปแล้วไม่ได้ต้องการเอาคืน

    ประตูห้องเบอร์ 23 ในหอพักหญิงถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามา ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ต่างจากภาพสุดท้ายในความทรงจำเลยสักนิด ทุกอย่างยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับจะรอวันนี้ที่เขาจะเดินกลับมาหามัน

    รอวัน... ที่เขารู้ใจตัวเองเสียที

    กาต้มน้ำที่อีกคนยกมาให้ พัดลมตัวเดิมยังมีมุกแฟนติดเอาไว้อยู่ ขนมสองสามห่อยังคงสภาพเดิมไม่ได้เน่าเสีย ส่วนดอกลิลลี่ที่แห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลากลับดูมีค่ามากมาย

    นิ้วยาวของอีกฝ่ายตรงเข้ามาสัมผัสที่ใบหน้าของเขา ใต้ดวงตาที่มีหยดน้ำใสๆ ไหลออกมา... อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

    มันคงล้นเอ่อออกมาจากหัวใจ...

    เต๋าปาดน้ำตาหยดน้อยที่ไหลรินราวหยาดน้ำค้าง ก่อนจะเป็นหลักให้อีกคนโผเข้ากอดเต็มแรง

    “ขอบคุณนะเต๋า”

    เขาคงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากกว่านี้

    ขอบคุณจริงๆ  ขอบคุณที่ไม่เคยทิ้งกัน...








    TBC


    >w<
    ตอนนี้มันอาร๊าย แอบมึนไหมอะ หรืออยากให้ปรับอะไรไหม กลัวคนตามอารมณ์ไม่ทัน เดี๋ยวหื่นเดี๋ยวหวานเดี๋ยวซึ้ง
    ใกล้จบแล้ว(มั้ง) อนาคตไม่แน่ไม่นอน ไม่แน่ว่าตอน 20 อาจจะเป็นตอนจบ รอลุ้นต่อไป 5555
    ขอบคุณทุกคนที่ไม่เคยทิ้งกัน (ประโยคคุ้นๆนะ) 555

    อ้อ... ฝากฟิคสั้นความลับด้วยนะ เราแต่งเอง
    http://writer.dek-d.com/taokachafic/writer/viewlongc.php?id=820839&chapter=5
    ตามไปอ่านกันได้จ้า (แต่หลายคนคงจะอ่านแล้วมั้ง)

    ป.ล. วันนี้วันเกิดเราเอง ไม่ขออะไรมาก แค่ใครสะดวกเม้นก็เม้นกันหน่อยสิ
    คืออยากรู้ว่ามีฟีดแบคยังไง (เม้นฟิคนะ ไม่ได้หมายถึงอวยพรวันเกิด แต่ถ้าใครจะอวยพรก็น้อมรับจ้า) 

    สุขสันต์วันวิสาขบูชานะทุกคน (จะสุขสันต์ยังไงนะ?) ใครทำบุญอย่าลืมเผื่อแผ่มาให้คนแต่งด้วยนะ 5555


     
    เผื่อใครไม่รู้จักน้องชายพี่เต๋า "น้องเต๋อ" น่าร้ากกกกกก เครดิตบนรูปนะจ๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×