คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Confession #2
THE CONFESSION
PART II
โรงอาหารยามเที่ยงวันเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านเช่นเคย ยิ่งเป็นโรงอาหารรวมของทุกคณะที่ขึ้นชื่อว่ามีของกินอร่อยๆ มากมายด้วยแล้วล่ะก็...แทบจะเต็มไปด้วยสงคราม!
ปกติเขามักทานข้าวคนเดียวด้วยเพราะเพื่อนรักอย่างเซฮุนชอบดอดไปห้องพักชมรมในช่วงกลางวัน ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้ติดใจนักหนา แต่วันนี้ดูจะไม่เป็นอย่างนั้น เที่ยงนี้เซฮุนจึงรับหน้าที่ในการหาที่นั่ง หน้าที่ของเขาคือการไปทำตาแป๋วๆ อ้อนวอนขอ พอได้แล้วจึงนั่งอยู่ตรงนั้นเพื่อรอเพื่อนซี้
ส่วนชานยอล...ปากสุนัขเรียกพ่ออย่างเจ้าตัวคงไม่เหมาะสำหรับหน้าที่นี้ เขาแค่จัดการเบียดเสียดคนเพื่อซื้ออาหารมาสองที่ ก่อนจะมองหาหัวสารพัดสีของเซฮุน แล้วเดินตรงเข้าไปหา
ท่ามกลางแถวที่ยาวเหยียด ปาร์คชานยอลก็ถึงคิวหลังจากยืนรอจนเมื่อย วันนี้เขาได้อาหารมาเป็นเบอร์เกอร์ชีสกับเฟรนช์ฟรายและโค้กอย่างละสองที่ กลิ่นเฟรนช์ฟรายร้อนๆ เข้าเตะจมูกจนต้องเผลอกลืนน้ำลาย เขาถือถาดอาหารกลับหลังหันเดินออกจากร้านด้วยความหิวโหย ตากลมกวาดมองปราดเดียวก็เห็นเพื่อนซี้หัวสารพัดสีนั่งรออยู่ที่มุมตรงโน้น ก้าวขาเดินด้วยความรีบร้อน ตอนนั้นเลยชนเข้าพอดีกับนักศึกษาที่ยืนอยู่
ก็เป็นแบบนี้ซะทุกวัน เขาพูดขอโทษไปตามมารยาท หากอีกฝ่ายยังคงยืนขวางทาง หากเงยหน้ามองอีกฝ่ายเท่านั้น ชานยอลก็ตกใจจนเผลออ้าปากเหวอ
ไอ้หน้าหล่อเสาไฟฟ้า!
“อ้าว ไงครับ”
ตกใจนิดๆ ที่เจอคนที่อยู่ในความคิดเมื่อครู่นี้ เขาแค่เผลอคิดนิดเดียวเอง ว่าไอ้หน้าหล่อนี่มันจะชอบกินเบอร์เกอร์แบบเขากับเซฮุนรึเปล่า
“นี่ ขวางทาง” ชานยอลว่ากลับไป หากอีกฝ่ายยังคงส่งยิ้มมุมปาก วินาทีนั้นเขารู้สึกเหมือนหัวใจแกว่งๆ อย่างน่าประหลาด คงเพราะเหม็นเบื่อรอยยิ้มของมันแน่ๆ ตั้งแต่เกิดมาปาร์คชานยอลไม่เคยเห็นยิ้มใครกวนประสาทเท่านี้มาก่อน อธิบายด้วยเหตุผลคงยาก หากชานยอลรู้สึกว่ารอยยิ้มไอ้หมอนี่มันทำให้ปั่นป่วน
มันเป็นยิ้มภัยพิบัติ!!! ...ไม่งั้นปาร์คชานยอลไม่รู้สึกเหมือนโดนไฟช๊อตแบบนี้หรอก!!!!!
“นี่ จะหลีกได้ยัง?” เขามองอีกฝ่ายตาขวาง “ขวางทาง อ้อ แล้วเสื้อผมน่ะ ซักแล้วก็เอามาคืนด้วย”
“ได้” อีกฝ่ายตอบรับหากยังไม่หยุดมองหน้า ชานยอลเดินกระแทกส้นเท้าหนี แต่ไม่พ้นจากตรงนั้นสามก้าวดี ก็เจอกับนักศึกษาผิวคล้ำที่มายืนดักไว้
มาอีกละ! ปาร์คชานยอลโคตรหน่ายใจ
“น้องชานยอลครับ...สำหรับวันนี้”
“อะไรอีกเนี่ย” ถามไปแบบนั้นทั้งๆ ที่ตากลมโตเบิ่งมองช่อกุหลาบสีขาวตรงหน้าที่วันนี้เพิ่มออปชั่นด้วยตุ๊กตาหมีน่ารักกุ๊กกิ๊กคิกขุโนเนะไม่เบา
“ชอบไหมครับน้องยอล?”
“งั้นๆ ไอ้พี่ดำ” ปากกรรไกรว่ากลับไปแบบนั้น ไอ้พี่ดำตรงหน้าก็ถึงกับหน้าชาไปสามวิ พอตั้งสติได้แล้ว หนุ่มรุ่นพี่จึงค่อยๆ พูดขึ้นใหม่
“พี่ชื่อ คิมจงอิน ครับ น้องยอลเรียกให้ถูกซะทีสิ”
“อะๆๆ พี่จงอิน” ขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด ชานยอลจึงตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าจะให้ก็วางลงใส่ถาด ผมไม่มีมือรับ” พูดเสียงแข็งไปก็เท่านั้น เมื่อตากลมโตทั้งสองเรียกได้ว่ามองดอกไม้ในมืออีกฝ่ายตาแทบไม่กะพริบ
“ชอบล่ะสิ” จงอินว่าพลางยิ้มกริ่ม
“ชอบอะไร ใครชอบ?” ชานยอลปฏิเสธเสียงเขียว ยอมรับออกไปตรงๆ ก็ขายหน้าน่ะสิ
“ชอบดอกไม้สิครับ เอ๊ะ หรือว่าน้องยอลจะบอกว่าชอบเจ้าของ” จงอินว่าพลางหัวเราะในลำคอ เสียงดังเสียจนคนรอบข้างเริ่มหันมามอง
“เหอะ ก็บอกแล้วไงวะว่าไม่ชอบผู้ชาย” ร่างโปร่งว่าพลางเบะปาก เริ่มหัวเสียไม่น้อยที่อีกคนชอบพูดจาเอะอะมะเทิ่ง ถึงจะเริ่มชินชาก็ตามที “ตกลงจะให้ไหม ให้ก็วาง ไม่ให้ก็หลีกว้อย หิวข้าว”
เห็นแบบนั้นคิมจงอินก็หัวเราะด้วยแววตาสนุกสนาน ก่อนจะวางช่อกุหลาบลงบนถาดสีดำจนได้ “งั้นไปละ กินข้าวให้อร่อยนะน้องยอล” ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มกวนประสาทเดินออกไป ในขณะที่ปาร์คชานยอลแค่เพียงมองไล่หลังตาม
พอไอ้ดำไปแล้ว เสียงซุบซิบหึ่งๆ ก็เริ่มจางไป ทุกคนกลับไปกินข้าวเหมือนเดิมและเลิกสนใจเขา...
เว้นเสียก็แต่แววตาเรียบนิ่งคู่หนึ่งที่ยังคงมองมา ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปเพื่อรับถาดข้าวจากแม่ค้า
ไอ้หน้าหล่อเดินดิ่งทางโน้นไปพร้อมถาดอาหาร แววตาเย็นชาที่ปรากฏทิ้งท้ายทำเอาปาร์คชานยอลเบะปากอย่างขัดใจ ไม่รู้ทำไม ข้างในอกมันถึงรู้สึกแกว่งๆ อีกครั้ง
แต่เพียงอึดใจต่อมา ร่างโปร่งก็สะบัดหน้าหนีตบเท้าเดินตรงเพื่อไปหาเซฮุนที่รออยู่... ใครจะเป็นอะไรทำไมต้องแคร์! นี่มันใช่เรื่องที่ไหนกัน!!!!
หากชั่ววูบหนึ่ง ชานยอลยอมรับว่าอยากโยนดอกไม้นั่นทิ้งเสียจริงๆ
x o x o
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด~~ พี่คริส”
“ทำไมเขาเท่มากขนาดนี้นะ ท่าชู้ตสามแต้มนั่นทำเอาฉันละลาย”
“ท่ากระโดดแย่งลูกนั่นก็เท่จนแทบเป็นลม... อร๊ากกกกกกกกกก ดูเสื้อเขาสิ มันชื้นเหงื่อจนชุ่มหมดแล้ว เธอว่าเขาจะถอดเสื้อออกไหมนะ”
ปาร์คชานยอลได้แต่ส่ายศีรษะพลางทำหน้าเอียนๆ กับเสียงบรรดากองเชียร์ทีมบาสเกตบอลของมหาลัยที่คอยพากย์แทบทุกสามวิ อยากเดินไปอุดปากสาวๆ พวกนั้นซะที ข้อหาส่งเสียงกรีดร้องทำลายบรรยากาศการกินต๊อกข้างสนาม
เย็นวันนี้... ปาร์คชานยอลมาสูดอากาศเย็นๆ ที่นี่อีกครั้ง หลังจากไม่ได้มาอยู่หลายวันเพราะต้องรีบกลับบ้านไปปั่นรายงาน ตากลมๆ มองตามหนุ่มร่างสูงผมทองในสนาม หลังจากวันนั้น เขาก็บังเอิญเจอหมอนั่นอยู่หลายหน แต่ไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักครั้งเดียว
ก็หมอนั่นไม่ทักเขาก่อน แล้วปาร์คชานยอลก็ไม่เห็นความจำเป็นที่เข้าไปทักก่อนด้วย เข้าใจไหมว่ามันเสียศักดิ์ศรี!!!!!
“พี่คริส...ผู้ชายอะไรมีเสน่ห์ชะมัด”
“กรี๊ดดดดดดด... พี่เขามองมาทางนี้ด้วยแหละ เขามองมาที่ฉัน”
ได้ยินเสียงสาวๆ กลุ่มเดิมว่า ชานยอลก็เผลอมองตามไปในสนามจนได้ และแทบไม่ต้องมองหาให้มากความ ทันทีทันใดนั้น แววตาของเขาก็ประสานเข้ากับตาคมคู่นั้นเสียแล้ว
“โอ๊ยแววตาพิฆาต ฉันว่าฉันกำลังจะตาย” สาวๆ กลุ่มเดิมว่า
ใครตายวะ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร....
ชานยอลนึกหากสายตายังคงมองหยุดนิ่งที่อีกฝ่าย มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่หยุดมองไม่ได้ ใช่แล้วไง! …ชานยอลบอกแล้วว่าไอ้พี่คริสนี่มันเป็นภัยพิบัติของแท้ เจอทีไรก็ทำเอาเขาเหมือนไฟช็อต ส่วนในวันนี้ สายตาของมันไม่ต่างอะไรกับหลุมดำ!
เขายังคงวิจารณ์อีกฝ่ายในใจอย่างนั้น ใจมันเต้นแรงแปลกๆ หากเขาคิดเพียงมันเป็นผลกระทบจากหลุมดำที่ว่า เสี้ยววินาทีสุดท้ายที่อีกฝ่ายส่งยิ้มมุมปาก ตอนนั้นแหละ ที่ปาร์คชานยอลเหมือนกำลังถูกดูดเข้าไปในนั้นเข้าอย่างจัง
ก่อนจะ........บู๊มมมมมมมมมมม กลายเป็นโกโก้ครันช์!!!!!!!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ฉันจะตายแล้วยูราเอล”
“ฉันก็จะตายเหมือนกันอีโบนา ทำไมพี่คริสถึงเป็นคนแบบนี้”
ได้ยินเท่านั้น ใบหน้ามนก็หันไปมองสองสาวพลางทำหน้าแหยง นอกจากรำคาญเธอๆ กลุ่มนั้นยังนึกหมั่นไส้ไอ้หล่อนั่นขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ปาร์คชานยอลนั่งกระดิกเท้าพลางเคี้ยวต๊อกบกกีที่เหลือ ท่ามกลางเสียงสาวๆ ที่คอยพากย์รายงานสดไอ้หน้าหล่อตลอดเวลา
ขมวดคิ้วย่นปากเคี้ยวต๊อกหนึบหนับ แม้ตาเสมองที่อื่น แต่จินตภาพกลับเป็นไปตามเสียงพากย์นั้น
“กรี๊ด พี่คริสยกมือซ้ายขึ้นปาดเหงื่อได้เท่สุดๆ โอ๊ย ทำไมต้องเอานิ้วโป้งปาดปากแบบนั้นด้วย เท่ยังกะบอยแบนด์”
“เสื้อเลิ่กขึ้นมาด้วย โอ๊ย!!!!! สะดือของเขาช่างน่าค้นหาอะไรขนาดนี้”
"ขนาดกกหูยังดูดีเลยนับประสาอะไรกับสะดือเล่า"
เผลอนึกตามเป็นฉากๆ ก่อนจะเหยียบเบรกดังเอี๊ยดให้กับความคิดตนเองอย่างกะทันหัน มันจะอะไรนักหนาวะ! นี่เขาอยากหาที่สงบๆ นั่งชิลล์ไม่ใช่หรอ! แล้วทำไมเขาต้องมานั่งฟังเสียงน่ารำคาญพวกนี้กัน!
ราวกับเพิ่งนึกออก ปาร์คชานยอลลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเป้พร้อมด้วยกุหลาบขาวช่อโตจากไอ้พี่ดำจงอิน ตั้งแต่วันนั้น มันยังเอากุหลาบขาวมาให้เขาทุกวันพร้อมกับรอยยิ้มกริ่มและเขาก็รับมาด้วยความเสียดายของ
ปาร์คชานยอลก้าวขาไวๆ เดินออกจากตรงนั้น หากไปไม่พ้นขอบสนาม ลูกบาสเกตบอลสีส้มก็กลิ้งหลุนๆ มาก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้า
ไม่ทันได้เอื้อมมือไปเก็บลูกบาสด้วยซ้ำ ร่างสูงลิ่วก็วิ่งมาตัดหน้าเขาไว้ มือยาวคว้าลูกบาสนั้นไว้ด้วยความไวแสง
“กลับบ้านแล้วหรอ?” อีกฝ่ายว่า แววตาคู่นั้นดูเปล่งประกายสว่างไสวแปลกๆ
“เออ” เขาตอบเสียงแข็ง “ทำไม?”
“เปล่า อยู่ก่อนสิ อีกเดี๋ยวก็เลิกซ้อมแล้ว แล้วจะเอาเสื้อมาคืนให้”
“งั้นหรอ” เขาตอบไว้ท่า ไม่ได้บอกตกลงหรือปฏิเสธอะไร
“อือ ไม่ได้รีบกลับใช่ไหม?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วถาม “หรือน้องชานยอลมีธุระอะไรต่อไหม?”
ร่างโปร่งยืนนิ่งค้างไปชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ ได้สติ แค่คำเรียกชื่อ ‘น้องชานยอล’ มันทำให้เขาเกือบน้ำท่วมปากไปแล้วจริงๆ
ภัยพิบัติ! เห็นไหมล่ะ เจอหน้าไอ้หล่อทีไรเป็นได้เจอภัยพิบัติ!!!
“ว่าไงครับ น้องชานยอลรีบไปไหนรึเปล่า?”
“ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นแหละ ว่าง” เขากระชากเสียงตอบไวๆ วินาทีนั้นอยากให้อีกคนหุบปากเงียบ เขาไม่อยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายเรียกชื่อตัวเองแถมยังมาพูดครับใส่อีก
ไม่สุภาพเกินไปหน่อยหรอ หรือยังไงดี ไม่รู้ล่ะแต่ตอนนี้มันจิ๊กกะดิ้ววี้ดวิ้วชักกระดุ๊กชักกระดิ๊กในช่องท้องเอามากๆ! เหมือนมีแมลงไต่อยู่ในท้องไปมา จะหยิบเอาออกก็ไม่ได้!!!
“งั้นรอพี่ก่อนนะ”
“เออๆๆ รออยู่แถวนี้ล่ะ”
เขาพยายามพูดเร็วๆ ตัดบทอีกครั้ง กับการเรียกตัวเองว่า ‘พี่’ ชานยอลก็รู้สึกแพ้
หรือทางที่ดี เขาคงต้องอุดปากมันไว้ไม่ให้พูดอะไรออกมาสักคำ!
คริสส่งยิ้มบางก่อนจะวิ่งกลับไปซ้อมต่อที่สนาม ชานยอลยืนนิ่งค้างตรงนั้นไม่นานราวกับไม่รู้จะก้าวขาไปนั่งรอตรงไหน จนแล้วจนรอด ใบหน้ามนก็แอบเหลียวหลังกลับไป ไม่ทันที่สมองจะสั่งการอะไร ตากลมโตก็โฟกัสไปที่หัวทองๆ ทุกท่วงท่าจังหวะการเดินของร่างสูงนั้นราวกับกำลังมีแผ่นดินไหว มันค่อยๆ สั่นคลอนข้างในปาร์คชานยอลให้รู้สึกแกว่งไปมาอีกครั้งและอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ ต่อไปนี้เขาจะเรียกมัน(ในใจ)ว่า ‘ไอ้หล่อภัยพิบัติ!!!’
ขยับริมฝีปากอิ่มมุบมิบนินทาอีกคนไปก็เท่านั้น แต่ในใจกลับพองๆ ฟูๆ อย่างกับลูกบอลลูน เมื่อนึกได้ว่าในที่สุดไอ้พี่คริสนั่นก็มาทักเขาก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายทักไป
จะยังไงไม่รู้ล่ะ ถึงจะแพ้คำว่าครับหรือแพ้การเรียกชื่อ แต่เกมนี้ปาร์คชานยอลรู้สึกว่าชนะไอ้หล่อภัยพิบัตินั่นไปแบบใสๆ
ให้มันรู้กัน ว่าใครจะแน่กว่าใคร...
TBC
มาต่อแล้ว อิอิ ขอบคุณทุกคอมเม้น ดีใจมากๆ เลยคิดว่าจะไม่มีซะละ 555 >.<
ถ้ามีเวลาจะรีบมาต่อนะ ตอนแรกคิดว่าคงสองสามตอนจบแต่ไปๆมาๆคิดว่าคงไม่
เอาเป็นว่าเรื่อยๆ มาเรียงๆ ละกัน อ่านกันขำๆ ไป อย่าคิดมาก คลายเครียดจ้ะ
ตอนละนิดตอนละหน่อยพอหอมปากหอมคอเนอะ 5555
ใครอยากทวิตถึงฝากแท็ก #KYconfession ละกันนะคะ
จุ๊บๆ
ความคิดเห็น