ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ปรสิตสีเขียว 2
คำพูดของหมออัครชัยที่บอกทำให้สองพ่อลูกถึงกับตะลึงงันจนพูดไม่ออก กานต์คิดอยากจะ
แย้งว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ มันเกินความจริงมากไป แต่เรื่องที่ผ่านมามันก็พิลึกพิลั่นเกินที่จะมี
ความเป็นไปได้ทั้งนั้น ประกอบกับสิ่งที่หมออัครชัยพูดมาก็มีเหตุมีผลและมีหลักฐานประกอบ
แทบจะทุกอย่าง คงเดช เองก็อื้ง เขาเคยคิดว่าเรื่องแปลกประหลาดทั้งหมดที่ดินแดนนั้นได้ยุติ
มานานแล้ว ไม่คิดว่าจะตามมาหลอกหลอนและมีผลพวงต่อพวกเขา อย่างที่หมออัครชัยสงสัย
และหมออัครชัยก็กล่าวต่อ
" ผมคิดว่า มันเป็น ปรสิตที่ฝังอยู่ในตัวเรา ไม่รู้ว่าตอนนี้มันได้อะไรจากร่างกายของเราบ้าง รู้แต่ว่าเราได้
แสดงอาการของมันผ่านทางร่างกายคือเกิดแผลสะเก็ดเมื่อฤดูที่มันจะผลิใบ เราต้องดื่มน้ำกัน
มากๆเพื่อเป็นอาหารให้มัน และพ่อผมที่หนีออกมาจากคลื่นยักษ์ไม่ทัน เพราะมันได้ยึดร่างเขา
กับพื้นดินไว้ ผมคิดว่าพ่อผมอาจจะเสียชีวิตเพราะพวกมันก็เป็นได้ และพวกเราทุุกคนอาจจะไม่
ปลอดภัยถ้ามันยังฝังอยู่ในตัวเราแบบนี้ "
สองพ่อลูกยังคงอึ้งคำพูดของหมออัครชัย แม้ย้งพิสูจน์ไม่ได้ แต่ เหตุผลและเหตุการณ์ที่
สอดคล้องต่างๆมีส่วนเป็นไปได้อย่างสูงทีี่จะเป็นเช่นนั้น อย่างที่เขาสรุป
" ผมคิดว่า มันเป็น ปรสิตที่ฝังอยู่ในตัวเรา ไม่รู้ว่าตอนนี้มันได้อะไรจากร่างกายของเราบ้าง รู้แต่ว่าเราได้
แสดงอาการของมันผ่านทางร่างกายคือเกิดแผลสะเก็ดเมื่อฤดูที่มันจะผลิใบ เราต้องดื่มน้ำกัน
มากๆเพื่อเป็นอาหารให้มัน และพ่อผมที่หนีออกมาจากคลื่นยักษ์ไม่ทัน เพราะมันได้ยึดร่างเขา
กับพื้นดินไว้ ผมคิดว่าพ่อผมอาจจะเสียชีวิตเพราะพวกมันก็เป็นได้ และพวกเราทุุกคนอาจจะไม่
ปลอดภัยถ้ามันยังฝังอยู่ในตัวเราแบบนี้ "
สองพ่อลูกยังคงอึ้งคำพูดของหมออัครชัย แม้ย้งพิสูจน์ไม่ได้ แต่ เหตุผลและเหตุการณ์ที่
สอดคล้องต่างๆมีส่วนเป็นไปได้อย่างสูงทีี่จะเป็นเช่นนั้น อย่างที่เขาสรุป
" แต่มันก็เคยช่วยชีวิตพวกเรานะหมอ จะว่ามันมีแต่โทษอย่างเดียวคงไม่ได้ "
คงเดชกล่าวแย้งขี้นหลังจากที่เห็นว่า สิ่งที่หมออัครชัยสรุป เกี่ยวกับปรสิตต้นไม้ นั้นเกี่ยวกับ
พฤติกรรมของมันบางอย่างเร็วเกินไป
"
พฤติกรรมของมันบางอย่างเร็วเกินไป
"
ผมว่ามันเป็นความบังเอิญที่พวกเราไปกินมันเข้ามากกว่าครับ สัญชาติญาณของมันคงต้องการ
ฝังปรสิตของมันโดยการให้เรากินมันเข้าไปในร่างกายโดยเชิญชวนเราจากรูปร่างและรสชาติ
อย่างทีลุงและพ่อผมสัมผัสได้ว่ารสชาติ ของมันอร่อยมากและเมื่อมันเข้าไปในร่างกายเราได้แล้ว เมื่อ
ถึงตอนนี้คงเดชเริ่มเห็นด้วย เมื่อร่างกายมีอะไรแปลกประหลาดเข้ามาอาศัยอยู่การที่เอามันออก
ไปคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องคอยมาระแวง
"แล้วเราจะทำยังไงที่จะให้มันออกไปได้ล่ะครับ แล้วตอนเอ็กซเรย์ไม่เห็นมันเหรอครับหมอ ถ้า
เราไม่เห็นมันเราจะเอามันออกไปได้ยังไง "
กานต์ถามความเห็นขึ้นด้วยความสงสัย
" จะว่าไม่เห็นก็ไม่เชิงนะครับ จากฟิล์มเอ็กเซร์ของลุงเดชกับพ่อผม มีผิดปรกติจากคนทั่วไป คือ
มีสิ่งที่เราเห็นแต่สงสัยว่ามันเป็นเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกายของเรา สีขุ่นๆมากกว่าคนทั่วๆไป
" ทำไงล่ะครับไม่สามารถสืบหาได้เจอกับไครสักคนเลย เหมือนงมเข็มในทะเลยังไงยังงั้น "
หมออัครชัยกล่าว น้ำเสียงเขาแสดงอาการท้อแท้ และเหนื่อย เหมือนอาการสิ้นหวังจะเริ่มกลับ
" ถ้าเราไม่สามารถหาคนทั้งหมดได้เจอและนำพวกเขามาตรวจได้เ ราจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นเลือด
นั้นมีเฉพาะพวกเราหรือว่าเราติดต่อตามโรงพยาบาล และถามเรื่องฟิล์มเอ็กซเรย์ลักษณะแบบนี้
มีที่ใหนบ้างได้ใหมครับ "
กานต์ได้ถามหมออัครชัยขึ้น
" ไม่ได้หรอกครับงานใหญ่เกินไป อีกทั้งเรื่องฟิล์มเอ็กซเรย์โรงพยาบาลทั่วประเทศ มีไม่รู้กี่ร้อย กี่พัน
แห่งบางโรงพยาบาลเขาก็ถือว่าเป็นความลับไม่ให้กันง่ายหรอก ถึงทำได้ ถ้าคนที่เราตามหาทั้งหมดไม่
หมออัครชัยอธิบายเสนอ พร้อมกล่าวต่อ
" คุณพ่อก็ไม่อยู่ซะแล้วด้วยนะสิครับจะได้เอามาเปรียบเทียบกับลุง ว่ามีอะไรแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป
นอกจากภาพของเส้นเลือดในฟิล์ม "
" จะมีก็เราสองคนนี่แหละหมอที่จะเปรียบเทียบกันได้ เพราะเป็นรุ่นทายาท เราดูสิว่ามีอะไร
เหมือนกันบ้างโดยที่ไม่เหมือนคนอื่นทั่วไป "
กานต์แสดงความเห็นขึ้นหลังจากที่ได้พิเคราะห์แล้วถึงเรื่องที่ว่าจะมีการเปรียบเทียบและ
หาความแตกต่างจากคนอื่น
" ผมเกิดมาสามสิบห้าปีแล้วยังไม่พบเลยว่าตัวเองมีอะไรแปลกนอกจากโรคที่มีสะเก็ดนั้นนอก
นั้นผมเหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง จะมีก็เรื่องกินน้ำมาก แต่ถ้าเราจะไปหาไครที่กินน้ำมากก็จะเห็น
เป็นเรื่องตลกซะมากกว่า เพราะคนบางคนหิวมากก็กินน้ำมากได้ "
หมออัครเดชกล่าวพร้อมติดตลก แต่ได้สะดุดความคิดหนึ่งของกานต์เข้า
" สามสิบห้าปี อย่างน้อยเราก็มีอายุที่เหมือนกัน เท่ากัน แต่คนที่มีอายุ สามสิบห้าปีมีไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
กานต์ต้องข้อสังเกต
"ผมเกิดวันที่ สิบสอง เมษายน เวลาเก้าโมงเช้า สี่สิบเอ็ดนาทีครับ ห้าวินาทีตามใบเกิดครับ "
หมออัครชัยตอบ
คำตอบของอัครชัยทำให้กานต์รู้สึกตกใจและเเปลกใจมาก
" เราสองคนเกิด ปี วันและเวลารวมทั้งนาทีตรงกันไม่มีผิดเพี้ยนเลยครับ เป็นไปได้ใหมว่าทุกคน
ที่เราตามหา มีลูกจะเกิดตรงกับเราสองคน คุณหมอพอจะสืบได้ใหมครับว่าจะมีไครเกิดวัน
และเวลาตรงกับเราสองคนเเบบนี้บ้าง เผื่อจะเป็นลูกของคนที่เราตามหา "
กานต์เสนอแนะน้ำเสียงของเขาตระหนก
หมออัครชัยก็แปลกใจเช่นกัน รวมทั้งคงเดช เขาเองอยากมีลูกมานานแต่ไม่มีสักทีจำได้ปีนั้น
ฝังปรสิตของมันโดยการให้เรากินมันเข้าไปในร่างกายโดยเชิญชวนเราจากรูปร่างและรสชาติ
อย่างทีลุงและพ่อผมสัมผัสได้ว่ารสชาติ ของมันอร่อยมากและเมื่อมันเข้าไปในร่างกายเราได้แล้ว เมื่อ
ร่างกายเราบาดเจ็บแบบนั้นมันคงต้องการได้ร่างกายพวกเราสมบูรณ์ที่สุด เพื่อจะได้แพร่ขยายในร่างกาย
เราเพื่ออาศัยร่างเราทำอะไรสักอย่าง แม้ว่ามันจะไม่กินเราเหมือนปรสิตที่เป็นสัตว์ต่างๆ แต่สักวันหนึ่ง
เมื่อมันเห็นว่าร่างเรากายหมดความหมายกับมันเมื่อใด มันอาจทำลายร่างกายเราเหมือนที่ผมสงสัยว่า
เกิดกับคุณพ่อผมตอนที่ท่านเสียนะครับ หรือเรื่องที่สงสัยว่ามันทำกับแม่ผม เอาเป็นว่ายังไงถ้าเป็นไป
ได้พวกเราต้องหาทางเอาพวกมันออกจากร่างกายของพวกเราก่อน และคิดว่าถ้ากำจัดมันออกไปได้จะ
ปลอดภัยที่สุด "
ถึงตอนนี้คงเดชเริ่มเห็นด้วย เมื่อร่างกายมีอะไรแปลกประหลาดเข้ามาอาศัยอยู่การที่เอามันออก
ไปคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องคอยมาระแวง
"แล้วเราจะทำยังไงที่จะให้มันออกไปได้ล่ะครับ แล้วตอนเอ็กซเรย์ไม่เห็นมันเหรอครับหมอ ถ้า
เราไม่เห็นมันเราจะเอามันออกไปได้ยังไง "
กานต์ถามความเห็นขึ้นด้วยความสงสัย
" จะว่าไม่เห็นก็ไม่เชิงนะครับ จากฟิล์มเอ็กเซร์ของลุงเดชกับพ่อผม มีผิดปรกติจากคนทั่วไป คือ
มีสิ่งที่เราเห็นแต่สงสัยว่ามันเป็นเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกายของเรา สีขุ่นๆมากกว่าคนทั่วๆไป
เส้นเลือดเหล่านั้นที่เพิ่มมาอาจเป็นพวกมันที่แฝงตัวอยู่ ถ้าจะให้แน่เราสองคนจะต้องเอ็กซเรย์ด้วย และ
ทั้งหมดที่ไปกับพ่อผมและลุงเดชพวกเราต้องติดตามพวกเขามาตรวจด้วยถึงจะแน่ใจ ใหนๆเขาก็คงเป็น
อย่างพวกเราแน่ จะได้มาช่วยกันหาวิธีแก้ไขกัน "
คงเดชและกานต์เห็นด้วยกับอัครเดช แต่จะไปตามทุกคนทั้งหมดได้อย่างไร ทั้งหมดไปอยู่ที่
ใหนมีครอบครัวและทายาทเหมือนเขาหรือไม่หรือไม่อย่างไร หรือบางคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
" เอาเป็นว่าตามนี้นะครับ พรุ่งนี้เราจะหาวิธีตามหาพวกเขาที่แยกกับลุงเดชและพ่อผมไปเพื่อมา
ตรวจ ถ้าโชคดีเราคงได้รู้เรื่องกัน คืนนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ผมไม่มีเวรตรวจ จะมาคุยด้วยแต่เช้า
และหาวิธีกันตอนนั้น คิดว่าคืนนี้คงจะหลับไม่เป็นสุขหรอกครับ คงเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดทั้งคืนละ
ผม แต่ก็จะพยายามข่มตาให้หลับล่ะครับ "
คงเดชพยักหน้ารับ รู้สึกหนักสมองกับเรื่องที่คุยกันนี้เช่นกันเขาคิดว่าลูกชายก็คงไม่ต่างจาก
คงเดชและกานต์เห็นด้วยกับอัครเดช แต่จะไปตามทุกคนทั้งหมดได้อย่างไร ทั้งหมดไปอยู่ที่
ใหนมีครอบครัวและทายาทเหมือนเขาหรือไม่หรือไม่อย่างไร หรือบางคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
" เอาเป็นว่าตามนี้นะครับ พรุ่งนี้เราจะหาวิธีตามหาพวกเขาที่แยกกับลุงเดชและพ่อผมไปเพื่อมา
ตรวจ ถ้าโชคดีเราคงได้รู้เรื่องกัน คืนนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ผมไม่มีเวรตรวจ จะมาคุยด้วยแต่เช้า
และหาวิธีกันตอนนั้น คิดว่าคืนนี้คงจะหลับไม่เป็นสุขหรอกครับ คงเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดทั้งคืนละ
ผม แต่ก็จะพยายามข่มตาให้หลับล่ะครับ "
คงเดชพยักหน้ารับ รู้สึกหนักสมองกับเรื่องที่คุยกันนี้เช่นกันเขาคิดว่าลูกชายก็คงไม่ต่างจาก
เขาทุกคนถ้าตกอยู่ในสถานะการเช่นนี้ จะเป็นอย่างพวกเขาทุกคนแน่
ทั้งสองเห็นด้วยกับอัครเดช เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะต้องตามหาคนทั้งหมดมาตรวจเพื่อหาสาเหตุ
ความผิดปรกติ และช่วงเวลาก็ดึกพอสมควรแล้ว เกรงใจคนไข้ เตียงข้างๆ เพราะเป็นช่วงที่เขา
จะต้องพักผ่อนแล้ว สมควรจะต้องยุติการคุยเรื่องนี้ไปก่อนและเเยกกันไปพักผ่อน ไว้ตอนเช้า
ค่อยมาปรึกษากันต่อไป
รุ่งเช้า ทั้งสามมาปรึกษากันอีกครั้งเกึ่ยวกับเรื่องที่ว่าจะสืบหาคนทั้งหมดที่เป็นเป้าหมาย
ทั้งสองเห็นด้วยกับอัครเดช เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะต้องตามหาคนทั้งหมดมาตรวจเพื่อหาสาเหตุ
ความผิดปรกติ และช่วงเวลาก็ดึกพอสมควรแล้ว เกรงใจคนไข้ เตียงข้างๆ เพราะเป็นช่วงที่เขา
จะต้องพักผ่อนแล้ว สมควรจะต้องยุติการคุยเรื่องนี้ไปก่อนและเเยกกันไปพักผ่อน ไว้ตอนเช้า
ค่อยมาปรึกษากันต่อไป
รุ่งเช้า ทั้งสามมาปรึกษากันอีกครั้งเกึ่ยวกับเรื่องที่ว่าจะสืบหาคนทั้งหมดที่เป็นเป้าหมาย
ของพวกเขา แต่เมื่อดำเนินงานตามวิธีการต่างๆ โดยสุ่มเอาตามรายชื่อที่เป็นชื่อเดิมของทุก
คนจนกินเวลามาสามสี่วันก็ยังไม่สามารถหาคนทั้งหมดเจอได้ แม้แต่คนเดียว อีกทั้งไม่มีชื่อ
หรือรู้ว่าทั้งหมดใช้ชื่ออะไร และอีกหลายวิธีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอ จนคงเดชอาการเริ่มทุเลา
ลง และเเข็งเเรงพร้อมจะกลับบ้านได้แล้ว ระหว่างที่คงเดชจะได้กลับบ้านทั้งสามจึงมาปรึกษา
กันอีกครั้ง
" ทำไงล่ะครับไม่สามารถสืบหาได้เจอกับไครสักคนเลย เหมือนงมเข็มในทะเลยังไงยังงั้น "
หมออัครชัยกล่าว น้ำเสียงเขาแสดงอาการท้อแท้ และเหนื่อย เหมือนอาการสิ้นหวังจะเริ่มกลับ
มาอีกครั้ง
" มันก็ไม่ใช่เรื่อง ง่ายๆเหมือนกันนะที่จะหาพวกเขา หลายปีมาแล้ว พวกเขาอาจจะไปเปลี่ยนชื่อแล้ว
ก็ได้ หรือไม่จะมีใครได้ตายไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ "
คงเดชเสริม
คงเดชเสริม
" ถ้าเราไม่สามารถหาคนทั้งหมดได้เจอและนำพวกเขามาตรวจได้เ ราจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นเลือด
นั้นมีเฉพาะพวกเราหรือว่าเราติดต่อตามโรงพยาบาล และถามเรื่องฟิล์มเอ็กซเรย์ลักษณะแบบนี้
มีที่ใหนบ้างได้ใหมครับ "
กานต์ได้ถามหมออัครชัยขึ้น
" ไม่ได้หรอกครับงานใหญ่เกินไป อีกทั้งเรื่องฟิล์มเอ็กซเรย์โรงพยาบาลทั่วประเทศ มีไม่รู้กี่ร้อย กี่พัน
แห่งบางโรงพยาบาลเขาก็ถือว่าเป็นความลับไม่ให้กันง่ายหรอก ถึงทำได้ ถ้าคนที่เราตามหาทั้งหมดไม่
เคยตรวจด้วยฟิล์มล่ะก็ไม่เจออยู่ดี "
อัครชัยตอบพร้อมด้วยยกตัวอย่างข้อจำกัดที่กานต์แนะให้กระทำ
" มีอยู่อย่างหนึ่ง เราต้องหาจุดที่เรามีเหมือนกันกับพวกเขาเพราะเราเป็นโรคเดียวกัน อย่างเรื่องสะเก็ด
อัครชัยตอบพร้อมด้วยยกตัวอย่างข้อจำกัดที่กานต์แนะให้กระทำ
" มีอยู่อย่างหนึ่ง เราต้องหาจุดที่เรามีเหมือนกันกับพวกเขาเพราะเราเป็นโรคเดียวกัน อย่างเรื่องสะเก็ด
แผลลายเหมือนต้นไม้ น่าจะมีให้เห็นอยู่
กานต์ เสนอความเห็น หมออัครครุ่นคิดตาม
" อันนี้ผมเคยลองแล้วมีคนที่มีอาการเหมือนพวกเราเยอะอยู่เหมือนกัน โรคผิวหนังบางอย่างอาการ
เหมือนพวกเรามาก คนทั่วไปถึงไม่ได้เป็นโรคนี้ ก็มีสะเก็ดได้ จึงจะถือว่าเป็นจุดเด่นไม่ได้ต้องลองช่วย
กันคิดสิว่าเราน่าจะมีอะไร ที่เราสามารถมีแล้วคนอื่นไม่มี โดยที่พวกเรารู้ได้เองไม่ต้องไปถามใคร "
หมออัครชัยอธิบายเสนอ พร้อมกล่าวต่อ
" คุณพ่อก็ไม่อยู่ซะแล้วด้วยนะสิครับจะได้เอามาเปรียบเทียบกับลุง ว่ามีอะไรแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป
นอกจากภาพของเส้นเลือดในฟิล์ม "
" จะมีก็เราสองคนนี่แหละหมอที่จะเปรียบเทียบกันได้ เพราะเป็นรุ่นทายาท เราดูสิว่ามีอะไร
เหมือนกันบ้างโดยที่ไม่เหมือนคนอื่นทั่วไป "
กานต์แสดงความเห็นขึ้นหลังจากที่ได้พิเคราะห์แล้วถึงเรื่องที่ว่าจะมีการเปรียบเทียบและ
หาความแตกต่างจากคนอื่น
" ผมเกิดมาสามสิบห้าปีแล้วยังไม่พบเลยว่าตัวเองมีอะไรแปลกนอกจากโรคที่มีสะเก็ดนั้นนอก
นั้นผมเหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง จะมีก็เรื่องกินน้ำมาก แต่ถ้าเราจะไปหาไครที่กินน้ำมากก็จะเห็น
เป็นเรื่องตลกซะมากกว่า เพราะคนบางคนหิวมากก็กินน้ำมากได้ "
หมออัครเดชกล่าวพร้อมติดตลก แต่ได้สะดุดความคิดหนึ่งของกานต์เข้า
" สามสิบห้าปี อย่างน้อยเราก็มีอายุที่เหมือนกัน เท่ากัน แต่คนที่มีอายุ สามสิบห้าปีมีไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
พ่อผมบอกว่าพ่ออยากมีลูกมานานแต่ไม่ได้สักที แต่กลับมามีตอนเราอายุมาเท่ากันได้ ไม่บังเอิญไป
หน่อยเหรอ หรือ ว่า ใหนหมออัคร ลองบอกเดือน และ วัน ขอเวลาเกิด
กานต์ต้องข้อสังเกต
"ผมเกิดวันที่ สิบสอง เมษายน เวลาเก้าโมงเช้า สี่สิบเอ็ดนาทีครับ ห้าวินาทีตามใบเกิดครับ "
หมออัครชัยตอบ
คำตอบของอัครชัยทำให้กานต์รู้สึกตกใจและเเปลกใจมาก
" เราสองคนเกิด ปี วันและเวลารวมทั้งนาทีตรงกันไม่มีผิดเพี้ยนเลยครับ เป็นไปได้ใหมว่าทุกคน
ที่เราตามหา มีลูกจะเกิดตรงกับเราสองคน คุณหมอพอจะสืบได้ใหมครับว่าจะมีไครเกิดวัน
และเวลาตรงกับเราสองคนเเบบนี้บ้าง เผื่อจะเป็นลูกของคนที่เราตามหา "
กานต์เสนอแนะน้ำเสียงของเขาตระหนก
หมออัครชัยก็แปลกใจเช่นกัน รวมทั้งคงเดช เขาเองอยากมีลูกมานานแต่ไม่มีสักทีจำได้ปีนั้น
น้ำท่วมใหญ่ฝนตกตั้งแต่ต้นปี และปีนั้นภรรยาเขาตั้งท้อง
"จะลองดูครับผมมีเพื่อนอยู่สำนักทะเบียนราษฎ์คนนึง นี่ก็คอยอาศัยเขาอยู่เหมือนกันคาดว่าน่าจะไม่ยาก
"จะลองดูครับผมมีเพื่อนอยู่สำนักทะเบียนราษฎ์คนนึง นี่ก็คอยอาศัยเขาอยู่เหมือนกันคาดว่าน่าจะไม่ยาก
อะไรเรื่องสืบหาคนเกิดพร้อมกันเราสองคน แต่ไม่รู้ว่าคนเกิดพร้อมพวกเราจะมีกี่ร้อยคนในประเทศถ้าไง
เราค่อยไปแยกแยะคนที่น่าจะใช่กันอีกที งั้นผมขอตัวไปสืบก่อนละกันชักใจร้อนและไว้ถ้าไม่ใช่ยังไง
ค่อยมาหาวีธีอื่นกันอีกทีนะ "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น