ลำดับตอนที่ #39
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : ปีกสยาย กระหายเลือด
ด้าน ปิเยพิษทารี
" เสียงอะไร พวกท่านได้ยินใหม "
ปิเยพิษทารีหันมาถามพวกของปู่อินทร์ ที่เดินมาข้าง
" รู้สึกว่าพวกท่านจะไม่พูดอะไรบ้างเลยนะ ได้ยินใหมเหมือนสัตว์อะไรร้อง แว่วมาแต่ไกลๆ "
พิษทารี บอกกับทุกคนอีกครั้ง
" เงียบ มันเงียบเกินไป ไม่พูดอะไรกันบ้างเลย ผิดสังเกต ""
ปิเยพิษทารีคิดในใจ เขาเริ่มสงสัยความผิดปรกติแล้วเขานำหน้าทุกคนมาแต่ทุกคนกลับเงียบไม่มีเสียง
" ข้าก็แกล้งบ่นไปอย่างนั้นแหละที่จริงต้องขอบใจพวกเจ้าที่เป็นห่วงข้า ข้าเข้าใจดี ว่าแต่นี่มัน
อะไรกัน ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ทำไมพวกนี้ทีแรกมันกลายเป็นพวกเจ้าได้ งงจริงๆ "
พูดเลยซึ่งผิดปรกติวิสัย
และตอนนี้ผู้ที่มากับเขาก็จะรับรู้ว่าร่าง ที่พวกมันแปลงมาเป็นคนตอนนี้ จะถูกจับได้แล้ว
ปิเยพิษทารี มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรเปลี่ยนไปจากร่างที่เดินอยู่ข้างๆเขา พิษทารีหันมามองทันที
"โฮ่งๆ ๆแฮ่ๆ "
ร่างที่เห็นเป็นพวกของปู่อินทร์และคนทั้งหมดเมื่อสักครู่นี้ได้หายไป แต่บัดนี้กลับมีร่างหมาป่าหก ตัว
ขนาดมหีมาแทน ในจำนวนที่เท่ากัน เขาเดาได้ทันที ปิเยพิษทารีถอยกรูด แต่ด้วยความลนลานทำให้
สะดุดรากไม้รากหนึ่งจนหงายท้อง หมาป่ายักษ์ ได้โอกาสมันทุกตัวกระโดดเข้าขย้ำเหยื่อที่
เสียหลักหงายท้องของมันโดยทันที
ด้านปู่อินทร์
สะดุดรากไม้รากหนึ่งจนหงายท้อง หมาป่ายักษ์ ได้โอกาสมันทุกตัวกระโดดเข้าขย้ำเหยื่อที่
เสียหลักหงายท้องของมันโดยทันที
ด้านปู่อินทร์
" เจอแล้ว รอยเท้านี่ไงของท่านพิษทารี และมีรอยเท้าเหมือนมนุษย์พวกเราหลายรอยด้วย
แสดงว่าท่านพิษทารี คงโดนพวกมันหลอกด้วย จะเป็นไงบ้างไม่รู้ "
แสดงว่าท่านพิษทารี คงโดนพวกมันหลอกด้วย จะเป็นไงบ้างไม่รู้ "
ปู่อินทร์ชี้ให้ดูรอยเท้า ที่พึ่งหาพบหลังจากที่ตะเวนหาอยู่พักหนึ่ง เขานำทั้งหมดตามรอยนั้นไป
อย่างรวดเร็ว
อย่างรวดเร็ว
" พวกเราต้องพูดกันบ่อยบ่อยนะ ตอนนี้พวกเราเองก็ไว้ใจกันเองไม่ได้ สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่อย่างที่
เป็นก็ได้ การพูดนี่เเหละจะทำให้พวกเรารู้ว่ายังเป็นพวกเดียวอยู่ "
เป็นก็ได้ การพูดนี่เเหละจะทำให้พวกเรารู้ว่ายังเป็นพวกเดียวอยู่ "
ปู่อินทร์กล่าวอีก
" โอ๊ โอ๋มเอ้อ แอ้ อะอิ "
เสียงอ้อแอ้มาจากอรัญ เขาเป็นคนที่บาดเจ็บจากการต้องปล้ำกับเจ้าหมาป่ายักษ์เมื่อสักครู่ ปาก
ของเขาบวมเป่งเพราะไปกระแทกกับหัวของเจ้าหมาป่ายักษ์อย่างจังตอนที่โดดเข้าไปตะครุบมัน
ดุจปรายเองก็ไม่ได้สังเกตุแฟนหนุ่มตั้งแต่ตอนแรก เมื่อได้ยินเสียงอ้อแอ้และเห็นปากที่บวมเป่ง
เธอก็อดขำไม่ได้เธอจึงหัวเราะร่วน รวมถึงทุกๆคนด้วย อรัญค้อนขวับที่จริงปากบวมของเขาก็
ไม่ค่อยได้เจ็บเท่าไร เพียงแต่ทำให้เสียงที่เปล่งออกมาไม่ชัดเท่านั้นเอง เขารู้ว่าเดี๊ยวมันก็คงหายเพราะ
ของเขาบวมเป่งเพราะไปกระแทกกับหัวของเจ้าหมาป่ายักษ์อย่างจังตอนที่โดดเข้าไปตะครุบมัน
ดุจปรายเองก็ไม่ได้สังเกตุแฟนหนุ่มตั้งแต่ตอนแรก เมื่อได้ยินเสียงอ้อแอ้และเห็นปากที่บวมเป่ง
เธอก็อดขำไม่ได้เธอจึงหัวเราะร่วน รวมถึงทุกๆคนด้วย อรัญค้อนขวับที่จริงปากบวมของเขาก็
ไม่ค่อยได้เจ็บเท่าไร เพียงแต่ทำให้เสียงที่เปล่งออกมาไม่ชัดเท่านั้นเอง เขารู้ว่าเดี๊ยวมันก็คงหายเพราะ
อะไรที่มีในตัวเขาจะประสานแผลให้ได้
" อ๋อ เมื่อกี้พี่อรัญว่า ผม ก็แย่ใช่ใหม เพราะปากพูดไม่ได้ นึกว่าพูดว่าอะไร อ้ออ้อ แอ้แอ้ ฮิฮิ "
ดุจปรายยังหยอกไม่เลิก อรัญรู้ว่าดุจปราย แกล้งแหย่เขาเเต่คำพูดของเธอก็ถูกต้องอย่างที่เขาพูดเลยที
เดียวเขาจึงพยักหน้าและเปล่งเสียงที่ไม่ค่อยจะมี รับว่าเป็นอย่างที่ดุจปรายแปลให้
" อื้อ "
" เป็นไปได้ใหมปู่ ว่าท่านพิษทารี อาจเสียทีพวกมัน ดูรอยเท้านี้สิเหมือนคนหลายคน ถ้าเป็นหมาป่าที่
แปลงมาพวกมันน่าจะมี มากหลายตัวด้วยนะ "
อัครชัยถามปู่อินทร์ขึ้น
" ข้าก็เป็นห่วงเหมือนกัน การที่มีพวกมันสามารถปลอมเป็นพวกเราได้มันต้องมีจำนวนเท่ากับ
พวกเราทั้งหมด ท่านพิษทารีจึงจะไม่สงสัย มันแปลงไดถึงหกคน ก็เท่ากับท่านพิษทารี ต้อง
เจอกับร่างแฝงของพวกมันถึงหกตัว เขี้ยวของมันสามารถทำลายร่างของท่านพิษทารีได้ไม่ยาก
เพราะจำนวน และขนาดที่เหนือกว่าเขาเยอะ แต่รอยเท้าตอนนี้ยังมีการเดินที่ราบเรียบ และยัง
เป็นรอยเท้าที่เป็นมนุษย์ อยู่ ยังไม่รอยการต่อสู้ใดๆ ภาวนาว่าพวกเราจะเจอ เขาก่อนที่มันจะ
แสดงตัว เอ๊ะ "
พวกเราทั้งหมด ท่านพิษทารีจึงจะไม่สงสัย มันแปลงไดถึงหกคน ก็เท่ากับท่านพิษทารี ต้อง
เจอกับร่างแฝงของพวกมันถึงหกตัว เขี้ยวของมันสามารถทำลายร่างของท่านพิษทารีได้ไม่ยาก
เพราะจำนวน และขนาดที่เหนือกว่าเขาเยอะ แต่รอยเท้าตอนนี้ยังมีการเดินที่ราบเรียบ และยัง
เป็นรอยเท้าที่เป็นมนุษย์ อยู่ ยังไม่รอยการต่อสู้ใดๆ ภาวนาว่าพวกเราจะเจอ เขาก่อนที่มันจะ
แสดงตัว เอ๊ะ "
ปู่อินทร์ได้หยุดพูดลงอย่างกระทันหันเขาทำจมูกฟุดฟุด ฟิดฟิด คล้ายดมกลิ่นอะไร
" มีอะไรหรือปู่อินทร์ "
อรัญเห็นอาการของปู่อินทร์เช่นนั้นจึงถามขึ้น
" ข้าได้กลิ่นสาบสางของพวกมัน อยู่ข้างหน้าไม่ไกลไปนี้กลิ่นแรงมากด้วยข้าจำกลิ่นมันได้ ตอนที่ไอ้
ตัวนั้นมันเปลี่ยนร่างไปเป็นหมาตัวข้าก็ได้กลิ่นแบบนี้ หรือเรามาช้าไป "
ปู่อินทร์กล่าว
" ปู่อินทร์หมายถึงว่าพวกมันปรากฏตัวแล้วเหรอ "
อัครชัยย้อนถามอีกครั้ง
" ใช่พวกมันทั้งหมดปรากฏตัวแล้วแน่ๆ หลายตัวด้วย เพราะกลิ่นมันแรงมาก ข้าสัมผัสมันได้ "
ปู่ อินทร์ตอบ และตอนนี้ ทุกคนก็เริ่มได้กลิ่นนั้นกันทุกคนแล้ว
" ระวังตัวกันให้ดีทุกๆคน ข้างหน้าไม่ไกลนี่แหละ เราจะได้เจอกับพวกมันแล้ว "
ปู่อินทร์ร้องสั่ง ทั้งหมดกระชับมีดในมือมั่น เมื่อสักครู่ หมาป่าที่เขาเจอเพียงตัวเดียว เขาถึงล้ม
มันได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้มันคงมีจำนวนอย่างใกล้เคียงตัวต่อตัวกับพวกเขาแล้วตอนนี้ ผลจะเป็น
อย่างไร ปู่อินทร์ย่องไปข้างหน้าอย่างเงียบกริบ พวกเขาแปลกใจ ว่าเขาทำไปได้อย่างไร สม
แล้วที่เป็นพรานป่าชั้น หนึ่ง พวกเขาเองถึงจะพยาย่องเพียงไรก็มีเสียงอยู่ดี
มันได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้มันคงมีจำนวนอย่างใกล้เคียงตัวต่อตัวกับพวกเขาแล้วตอนนี้ ผลจะเป็น
อย่างไร ปู่อินทร์ย่องไปข้างหน้าอย่างเงียบกริบ พวกเขาแปลกใจ ว่าเขาทำไปได้อย่างไร สม
แล้วที่เป็นพรานป่าชั้น หนึ่ง พวกเขาเองถึงจะพยาย่องเพียงไรก็มีเสียงอยู่ดี
" ท่านพิษทารี "
เสียงดุจปรายอุทานเบา น้ำเสียงหดหู่ สิ่งที่ทุกคนเห็น หมาป่ายักษ์ขนาดใหญ่หกตัว มันใช้
อุ้งเท้าที่ใหญ่โตของมัน กดร่างของปิเยพิษทารีไว้นิ่ง มันบังจนแทบไม่เห็นร่างของเขา
ปู่อินทร์ ก็เห็นภาพนั้นเช่นกัน ความโกรธแค้นที่ได้เห็นภาพนั้น เห็นภาพของผู้ที่เดินทางร่วมมา
กับเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทำให้เขาโมโหจนลืมตัวกลัวตาย เขากระโจนเขาใส่ เจ้าหมาป่าจาก
ด้านหลังทันที
อุ้งเท้าที่ใหญ่โตของมัน กดร่างของปิเยพิษทารีไว้นิ่ง มันบังจนแทบไม่เห็นร่างของเขา
ปู่อินทร์ ก็เห็นภาพนั้นเช่นกัน ความโกรธแค้นที่ได้เห็นภาพนั้น เห็นภาพของผู้ที่เดินทางร่วมมา
กับเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทำให้เขาโมโหจนลืมตัวกลัวตาย เขากระโจนเขาใส่ เจ้าหมาป่าจาก
ด้านหลังทันที
" ปึ๊ก "
เสียงคมมีดปู่อินทร์ ที่ปักลงที่บั้นท้ายของหมาป่าตัวหนึ่ง เขาคิดว่าถ้ามันสะดุ้งขึ้นมา เป้าหมาย
ต่อไปของมันคือลำคอของมันแน่ เขาลืมคำพูดที่จะทำไม่ให้มันตายไปแล้วด้วยความโมโหสุด
ขึด ทุกคนเหมือนแบ่งงานกันทำเป้าหมายคือทุกตัวถูกแบ่งกันจับจองจนหมดด้วยปรายคมมีด
ของแต่ละคน
ต่อไปของมันคือลำคอของมันแน่ เขาลืมคำพูดที่จะทำไม่ให้มันตายไปแล้วด้วยความโมโหสุด
ขึด ทุกคนเหมือนแบ่งงานกันทำเป้าหมายคือทุกตัวถูกแบ่งกันจับจองจนหมดด้วยปรายคมมีด
ของแต่ละคน
" โอ๊ย "
ปู่อินทร์ชะงัก เขาได้ยินเสียงถนัดชัดเจน
" พวกมันพูดได้ร้องได้เหมือนคนด้วย เป็นไปได้ไง "
ปู่อินทร์เริ่มสับสน และยิ่งสับสนยิ่งขึ้น ที่ร่างหมาป่านั้นไม่ได้สะดุ้งขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอย่าง
ที่เขาคิด ซึ่งทุกคนก็เช่นกัน ร่างหมาป่าทุกตัวคงอยู่ในอาการสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านต่อคมมีดที่
พวกเขาแทงเข้าไป
ที่เขาคิด ซึ่งทุกคนก็เช่นกัน ร่างหมาป่าทุกตัวคงอยู่ในอาการสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านต่อคมมีดที่
พวกเขาแทงเข้าไป
" ช่วยข้าด้วย "
เสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้นอีก แต่คราวนี้ ปู่อินทร์จำเสียงได้
" ท่านพิษทารี ท่านไม่เป็นอะไรใช่ใหม "
ปู่อินทร์ รอ้งถาม น้ำเสียงของเขาแสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
" ไม่เป็นไร แต่ลุกไม่ขึ้น ไอ้หมาป่าพวกนี้มันทับร่างของข้าไว้ลุกไม่ได้ พวกเจ้าช่วยผลักมันออก
ไปที "
ไปที "
เสียงปิเยพิษทารี ตอบ
" แต่หมาป่าพวกนี้มัน เออ "
เสียงปู่อินทร์ขาด ปิเยพิษทารี รู้ ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เขาคงเกรงร่างหมาป่านั้นจะลุกขึ้น
มาต่อสู้
มาต่อสู้
" ตอนที่พวกมันโดดขย้ำข้า ข้าได้สลักพิษทัน พวกนี้ทุกตัวมันสลบหมดแล้วและความตกใจของข้าตอน
นั้นทำให้สลักพิษเกินไป ไม่นานพวกมันก็จะตายหมด "
ปู่อินทร์พึ่งจะถึงบางอ้อและเข้าใจทุกอย่างได้หมด ทุกคนก็เช่นกัน เขาช่วยกันพลิกร่างหมาป่าที่
หมดสติอยู่ออกไปจากร่างทีี่ทับอยู่บนร่างของปิเยพิษทารี
หมดสติอยู่ออกไปจากร่างทีี่ทับอยู่บนร่างของปิเยพิษทารี
" โอ แทบแย่เหมือนกัน ได้หมาป่าพวกนี้ตั้งแต่เกิดมามันเคยทำความสะอาดท้องมันหรือเปล่า
เหม็นจริงๆ ถ้าพวกเจ้ามาช้ากว่านี้อีกหน่อยข้าเป็นลมก่อนแน่ "
เหม็นจริงๆ ถ้าพวกเจ้ามาช้ากว่านี้อีกหน่อยข้าเป็นลมก่อนแน่ "
ปิเยพิษทารีบ่นทันที่ที่ร่างกายรอดพ้นจากการถูกทับ เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยน้ำลายของหมาป่า
พวกนั้น
พวกนั้น
" พวกเจ้าก็ไม่ได้ดูเลยมาถึงก็โถมเข้ามากันอีก ลำพังไอ้สองสามตัวที่ทับอยู่บนร่างข้าก็แย่อยู่
แล้ว "
แล้ว "
ปิเยพิษทารียังบ่นไม่เลิก แต่น้ำเสียงดีขึ้น
" ตอนนั้นเรากำลังโกรธที่เห็นพวกมันรุมท่านอยู่นึกว่าท่านเสียท่ามันแล้ว ก็เลยฟิวขาดด้วยความโมโห
เลยไม่ได้ดูอะไรให้ดี "
ปู่อินทร์ กล่าว
" ข้าก็แกล้งบ่นไปอย่างนั้นแหละที่จริงต้องขอบใจพวกเจ้าที่เป็นห่วงข้า ข้าเข้าใจดี ว่าแต่นี่มัน
อะไรกัน ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ทำไมพวกนี้ทีแรกมันกลายเป็นพวกเจ้าได้ งงจริงๆ "
ปิเยพิษทารีกล่าว
" ที่จริงพวกเราก็งงเหมือนกันมันอีกตัวก็ปลอมเป็นท่านไปหลอกให้พวกเราหลงไปเหมือนกัน แต่ก็เคยมี
ที่โลกมนุษย์เราเป็นเรื่องเล่ามานาน ว่ามีสัตว์สามารถแปลงร่างเป็นคนได้ แต่ที่นั่นมีแต่ว่าเป็นเสือทำได้
เท่านั้น ไม่คิดว่าหมาป่าที่นี่จะทำได้ด้วย "
ปู่อินทร์กล่าว
" ดีนะเราไม่เจอเสือ ปลอมตัวมา ตัวมันคงใหญ่กว่าหมาพวกนี้มาก "
แสงดาวกล่าว
" พวกไอซ์โดร์น บอกว่า ที่นี่มีทั้งหมาป่าและเสือด้วย แสดงว่าเราประมาทไม่ได้ ว่าพวกนี้
มันจะโผล่มาอีกเมื่อไรอีก และคงแฝงร่างมาด้วย "
มันจะโผล่มาอีกเมื่อไรอีก และคงแฝงร่างมาด้วย "
กานต์กล่าวเขาจำคำนั้นได้
" ใช่ อุ๊ย "
ปิเยพิษทารี สะดุ้งเมื่อเขาหันไปเห็นหน้าของอรัญ เขาพยายามจะถอยเล็กน้อย ดุจปรายเข้าใจ
อาการนั้น
อาการนั้น
" ท่านพิษทารี หน้าอรัญเป็นเช่นนี้ เพราะต่อสู้กับหมาป่าอีกตัวทางด้านโน้นจะ ไม่ใช่ว่าเป็นตัว
อะไรแปลงมาหรอก ฮิฮิ "
อะไรแปลงมาหรอก ฮิฮิ "
และเธอก็อดหัวเราะไม่ได้อีก
" นึกว่าเออ.. ไม่เป็นไร ..พอตอนนี้เจออะไรแปลกแบบนี้ก็ระแวงไปหมด "
ปิเยพิษทารีกล่าว
" ท่านพิษทารีคิดว่าอรัญเป็นพญาครุฑ ปลอมตัวมาละสิ "
แสงดาวยังหยอกต่อ อรัญค้อนอีก ที่โดนคนแกล้ง พอได้หัวเราะบ้างทำให้บรรยากาศดีขึ้น
" อยู่ใกล้ข้าไว้ละกันครานี้ อย่าห่างกันเหมือนเมื่อกี้นี้เด็ดขาด ข้ายังรู้สึกว่ามีอะไรคอยแอบจ้อง
มองเราอยู่อีก "
มองเราอยู่อีก "
ปิเยพิษทารีกล่าว พวกเขาเสียเวลากับตรงนี้ไปนานพอสมควร พอเดินทางมาได้สักพักท้องฟ้า
ก็เริ่มมืด
ก็เริ่มมืด
" เราเสียเวลาตรงนั้นมากเลยวันนี้คิดว่าวันนี้คงยังเดินทางไม่พ้นเขตพวกมันนะ คงจะมืดซะก่อน
แล้ว เห็นทีคืนนี้ต้องนอนบนปิเยกัน ข้างล่างไม่ปลอดภัยแน่ "
แล้ว เห็นทีคืนนี้ต้องนอนบนปิเยกัน ข้างล่างไม่ปลอดภัยแน่ "
ปิเยพิษทารีกล่าวทุกคนก็เห็นดว้ยดังคำเขา พอเริ่มสลัวหนทางข้างหน้าเริ่มจะไม่ชัดเจน
ทั้งหมดก็ตัดสินใจ ปีนขึ้นที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ทั้งหมดก็ตัดสินใจ ปีนขึ้นที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
" โฮ๊กๆ "
เสียงเสือดังขึ้นไม่ไกลเท่าไรนัก
" นั่นไงว่าแล้วอย่างที่ท่านพิษทารีห่วงจริงๆดีนะทีเรารีบขึ้นมาก่อน บรรยากาศ โพล้เพล้
แบบนี้เเหละที่ไอ้ลายสมิงมันจะออกล่าเหยื่อตามที่คนโบราณบอก "
แบบนี้เเหละที่ไอ้ลายสมิงมันจะออกล่าเหยื่อตามที่คนโบราณบอก "
ปู่อินทร์กล่าว และระหว่างที่ขึ้นมา เกือบถึงกิ่งไม้ กิ่งที่คาดว่าน่าจะอาศัยนอนได้ เสียงป่าก็ดัง
สวบสาบ เหมือนมีอะไรเดินเข้ามาหาต้นไม้นี้ ทั้งหมดรีบสาวมือเร่งขึ้นไปที่กิ่งไม้เป้าหมายอย่าง
เร่งด่วน และพยายามไม่ให้มือหลุดจากกิ่งไม้ เกรงจะหล่นไปเบื้องล่าง
สวบสาบ เหมือนมีอะไรเดินเข้ามาหาต้นไม้นี้ ทั้งหมดรีบสาวมือเร่งขึ้นไปที่กิ่งไม้เป้าหมายอย่าง
เร่งด่วน และพยายามไม่ให้มือหลุดจากกิ่งไม้ เกรงจะหล่นไปเบื้องล่าง
" พวกท่านขึ้นไปบนนั้นทำไมกันน่ะ หนีอะไรเหรอ "
เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น ปู่อินทร์เป็นคนแรกที่ขึ้นไปถึงกิ่งไม้นั้นก่อนใคร จึงให้สามารถมองลงมา
เบื้องล่างได้สะดวกพอจะมองเห็นร่างใครคนหนึ่งได้ชัด
เบื้องล่างได้สะดวกพอจะมองเห็นร่างใครคนหนึ่งได้ชัด
" ท่านดิวาเกรดสอง โอ..มาได้ไงเนี่ย "
ปู่อินทร์อุทานเสียงดัง พวกที่ปีนอยู่ชะงักเล็กน้อย
" พวกท่านลืมของไว้ ข้าเลยตามเอามาให้ "
เสียงนั้นกล่าวดังขึ้นมาอีกครั้ง
" รอก่อนนะเดี๋ยวพวกเราขึ้นมาอยู่บนนี้หมด จะบอกทางให้ท่านขึ้นมาคุยกันบนนี้ ข้างล่าง
อันตราย "
อันตราย "
ปู่อินทร์ ตะโกนสวนตอบลงไป เขาพยายามดึงมือทุกคนขึ้นไปบนกิ่งไม้ให้หมด จนกระทั่งถึง
ปิเยพิษทารี
ปิเยพิษทารี
" ท่านดิวามาได้ไงดีนะที่เขาส่งเสียงมาก่อนไม่งั้นคงคิดว่ามีตัวอะไรมาอีกแน่ โอ ..ข้าอดสูใจจริง ที่ปิเย
อย่างข้า ต้องลนลานหนีภัยขึ้นมาอาศัยปิเยที่นี่ บนนี้"
พิษทารีกล่าวกับปู่อินทร์
" ไม่เป็นไรนี่ท่านท่านก็มีพิษสง มากพออยู่แล้ว พวกมันคงทำอะไรท่านไม่ได้หรอก คืนนี้ท่านพัก
ข้างล่างต้นไม้นี้ก็ได้ ดีจะได้ให้ท่านรับของที่ดิวาเกรดสองด้วย "
ข้างล่างต้นไม้นี้ก็ได้ ดีจะได้ให้ท่านรับของที่ดิวาเกรดสองด้วย "
ปูอินทร์กล่าว
" ไม่เอาล่ะข้าก็พูดไปอย่างนั้นแหระ ที่จริงข้าไม่ลังเลที่จะขึ้นมากับพวกท่าน ก็เพราะข้าก็กลัวอยู่
เหมือนกัน ข้าก็พึ่งรู้ว่าข้าจะไว้ใจตัวเองทุกอย่างไม่ได้เลย เมื่อเจอเหตุการณ์เมื่อบ่ายนี้ ส่วนท่าน
ดิวาเดี๋ยวก็ให้เขาปีนขึ้นมาบนนี้แหละ ข้างล่างจะมืดสนิทแล้ว พวกเราลงไปไม่ปลอดภัยแน่ "
เหมือนกัน ข้าก็พึ่งรู้ว่าข้าจะไว้ใจตัวเองทุกอย่างไม่ได้เลย เมื่อเจอเหตุการณ์เมื่อบ่ายนี้ ส่วนท่าน
ดิวาเดี๋ยวก็ให้เขาปีนขึ้นมาบนนี้แหละ ข้างล่างจะมืดสนิทแล้ว พวกเราลงไปไม่ปลอดภัยแน่ "
ปิเยพิษทารี กล่าว เมื่อทั้งหมดขึ้นมาได้แล้ว
" ปู่ ท่านดิวาเกรดสองเอาอะไรมาให้พวกเราหรือ ก็ไม่เห็นว่าเราจะลืมอะไรกันเลยนะ "
ดุจปรายถามอย่างสงสัย
" ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงต้องเป็นอะไรที่สำคัญแน่ ไม่งั้นคงไม่มา แต่ก็น่าแปลกอยู่ ทำไมไม่มีผู้คุ้ม
กันที่เป็นเกรดสิบมา หรือมีแต่เราคงไม่เห็น เพราะข้างล่างตอนนี้ก็มืดแล้ว เพราะท่านดิวาเกรด
สองบอกว่าไม่ค่อยได้ออกมานอกอุโมงค์ เพราะกลัวพวกเดฟโดรนเห็น แสดงว่าหลังจากนี้ ท่าน
คงไปที่นี่จริงจึงไม่ห่วงใครเห็นแล้ว เอาไว้เขาขึ้นมาแล้วค่อยถามให้พวกเราสงสัยแล้วกัน "
กันที่เป็นเกรดสิบมา หรือมีแต่เราคงไม่เห็น เพราะข้างล่างตอนนี้ก็มืดแล้ว เพราะท่านดิวาเกรด
สองบอกว่าไม่ค่อยได้ออกมานอกอุโมงค์ เพราะกลัวพวกเดฟโดรนเห็น แสดงว่าหลังจากนี้ ท่าน
คงไปที่นี่จริงจึงไม่ห่วงใครเห็นแล้ว เอาไว้เขาขึ้นมาแล้วค่อยถามให้พวกเราสงสัยแล้วกัน "
ปู่อินทร์สรุป
" ท่านดิวา ท่านมาทางด้านนี้เลยพวกเราขึ้นมาด้านนี้ "
ปู่อินทร์ตะโกนสั่งลงไป เพราะเห็นว่าเงาตะครุ่มด้านล่างยืนอยู่ไม่ตรงจุดที่น่าจะขึ้นต้นไม้ต้นนี้ได้
สะดวกกว่า
สะดวกกว่า
" ทางนี้ไช่ใหม "
เสียง คนข้างล่างกล่าวพร้อมกับเดินอ้อม มาตรงจุดที่เขาคาดว่า น่าจะเป็นเป้าหมายที่คนข้างบน
บอก
บอก
" ปู่..อินทร์สงสัยสิ่งที่ท่านดิวาจะเอาอะไรมาให้เราน่าจะลักษณะ เป็นเชือกหรือเถาวัลย์นะ ตอน
เสียงเดินมาด้านนีมีเสียงลากมาด้วย "
เสียงเดินมาด้านนีมีเสียงลากมาด้วย "
อัครชัยแสดงความเห็น ปู่อินทร์ช่วงนั้นไม่ทันได้ฟังเพราะจดจ่ออยุ่กับการบอกทางดิวาเกรดหนึ่ง
"พวกเราลืมเชือกเหรอ คงไม่ใช่มั้ง พวกเราไม่ได้ลืมนะ มันอยู่ในเป้ตลอด เขาจะลากอะไรเดี๋ยวก็
ก็คงได้รู้ "
ก็คงได้รู้ "
ปู่อินทร์กล่าว
" คงไม่ใช่เชือกหรอกถ้าถือเชือกมาด้วยเขาคงปีนไม่ได้คล่องแคล่วอย่างนี้ ดูสิขึ้นมาได้เยอะแล้ว
ท่านดิวาก็ปีนต้นไม้เก่งเหมือนกันนี่ "
ท่านดิวาก็ปีนต้นไม้เก่งเหมือนกันนี่ "
ปิเยพิษทารีกล่าวพลางชึ้ให้ทุกคนดู และทันทีที่ปู่อินทร์ เห็นท่าทางการปีนต้นไม้ของดิวาเกรด
หนึ่งถนัด
หนึ่งถนัด
" ข้ารู้แล้วล่ะท่าทางการปีนต้นไม้แบบนี้ เมื่อกี้เขาลากอะไร "
ปู่อินทร์กล่าว
" ปู่อินทร์ เก่งขนาดเห็นแค่ท่าทางการปีนต้นไม้ของท่านดิวาเกรดสองแล้วรู้เชียวเหรอว่าเขาลาก
อะไรมา มุกเปล่าปู่
อะไรมา มุกเปล่าปู่
แสงดาวกล่าวอย่างติดตลก เธอยังไม่เข้าใจความนัยคำพูดของปู่อินทร์
" ไม่มุกหรอก เรื่องชีเรียส ท่านดิวาที่เราเห็นนี้ ข้าสงสัยว่าเขาจะลากหางมา "
ปู่อินทร์ตอบ แต่คำตอบ กลับทำให้ทุกคนยังไม่รู้ทัน
" ลากหางอะไรละปู่ ท่านดิวาไม่มีหางจะลากได้ไง "
แสงดาวซักต่อ
" ท่านดิวาไม่มีหางก็ถูก แล้วอะไรล่ะที่มีหาง และมันชอบลากหาง จนทำให้เราต้องหนีขึ้นมาพักกันอยู่
บนนี้ พวกเจ้าดูทางทางการปีนต้นไม้ขึ้นมาสิ นั้นมันท่าทางเสือชัดๆ นั่นไม่ใช่ท่านดิวาหรอก เราได้เจอ
กับสมิงแล้ว "
ปู่อินทร์ตอบ
" เสือสมิง "
ทั้งหมดอุทานขี้นพร้อมกัน ด้วยเสียงค่อนข้างด้ง พร้อมกับสดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
" โฮ๊กๆ "
ทันที ที่สัตว์ร้ายที่แฝงร่างมารู้ว่าทั้งหมดรู้แล้วว่าเป็นมัน เจ้าสมิงร้าย ร้องข่มขู่ทันที่ และร่าง
ที่เเฝงมาในร่าง ดิวา ก็คืนร่างเดิม ทั้งหมดตกใจเพราะจู่ๆร่างที่เขาเห็นเมื่อครู่กลับกลาย
เป็นเสือลายพากกลอนขนาดยักษ์ เกาะอยู่ที่ต้นไม้นั้น
ที่เเฝงมาในร่าง ดิวา ก็คืนร่างเดิม ทั้งหมดตกใจเพราะจู่ๆร่างที่เขาเห็นเมื่อครู่กลับกลาย
เป็นเสือลายพากกลอนขนาดยักษ์ เกาะอยู่ที่ต้นไม้นั้น
" ไม่ต้องกลัวมัน พวกเราอยู่ที่สูงกว่า และมันก็ต้องใช้ขาเกาะต้นไม้ด้วย ตะปบเราไม่ถนัด ให้มัน
ขึ้นมาเหอะ "
ขึ้นมาเหอะ "
ปู่อินทร์ตะโกนลั่น เจตนาให้เจ้าสมิงร้ายร่างยักษ์ได้ยินด้วย เพื่อข่มขวัญมันในที แต่เจ้าเสือไร้
กลับไม่หวั่น และที่ร้ายกว่านั้น
กลับไม่หวั่น และที่ร้ายกว่านั้น
" เจ้าไม่ต้องมาข่มขวัญข้าเสียให้ยาก วันนี้ ข้าต้องได้อาหารเท่านั้น เจ้าพวกหมาตัดหน้าข้ามาที
หนึ่งแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยอาหารให้หลุดมือข้าแน่ "
หนึ่งแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยอาหารให้หลุดมือข้าแน่ "
" โอ..เเม่เจ้าโว้ย มันพูดได้ ทั้งร่างแปลงและร่างจริง อย่างนี้นี่เองเราถึงได้ไม่สงสัยมันเลยตั้งแต่แรก "
ปู่อินทร์กล่าว
"ให้มันพล่ามไปก่อนเหอะ ขึ้นมาอีกนิด ข้าจะให้มันลงไปนอนหลับอยู่ข้างล่างเอง "
ปิเยพิษทารีกล่าว ทุกคนเข้าใจทันทีว่าเป็นสิ่งที่ ปิเยพิษทารีทำได้จริงอย่าที่พูด แต่เจ้าเสือร้าย
มันไม่รู้ มันมั่นใจในพิษสงของมัน ร่างขนาดใหญ่และกรงเล็บอันแหลมคม ทุกก้าวที่มันปีนขึ้นมา
คมเล็บได้ฝังเข้าไปในเนื้อไม้ อย่างฝังแน่นและมั่นคงยิ่งนัก ทำให้มันเหิมเกริมและโดยที่มันไม่รู้
ตัว และเมื่อมันเข้ามาใกล้อีกนิดเดียวจะถึงเหยื่อของมันร่างกายของมันเริ่มหมดสติ ไม่มีแรงแม้
จะยึดเกาะต้นไม้ไว้ได้ ทำให้ร่างมันลอยละลิ่วร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่าง
มันไม่รู้ มันมั่นใจในพิษสงของมัน ร่างขนาดใหญ่และกรงเล็บอันแหลมคม ทุกก้าวที่มันปีนขึ้นมา
คมเล็บได้ฝังเข้าไปในเนื้อไม้ อย่างฝังแน่นและมั่นคงยิ่งนัก ทำให้มันเหิมเกริมและโดยที่มันไม่รู้
ตัว และเมื่อมันเข้ามาใกล้อีกนิดเดียวจะถึงเหยื่อของมันร่างกายของมันเริ่มหมดสติ ไม่มีแรงแม้
จะยึดเกาะต้นไม้ไว้ได้ ทำให้ร่างมันลอยละลิ่วร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่าง
" ตุ๊บ "
ทันทีที่ล่างนั้นถึงพื้น
" ฮึ. นึกว่าแน่ "
จามิกรกล่าวหลังจากที่เห็นร่างเสือเป็นเช่นนั้น
" มันจะตายใหม "
แสงดาวถาม
" ไม่หรอก ความสูงแค่นี้ เทียบกับขนาดร่างกายที่ใหญ่โตของมัน"
ปู่อินทร์กล่าว
" แต่มันคงหลับไปอีกหลายชั่วโมงเเหระ ข้าสลักพิษไว้ค่อนข้างเยอะ ให้มันนอนเฝ้าโคนปิเยนี้
ไว้ด้วย คงไม่มีอะไรกล้าเข้ามาอีกคืนนี้ "
ไว้ด้วย คงไม่มีอะไรกล้าเข้ามาอีกคืนนี้ "
ปิเยพิษทารีกล่าวเสริม
" ตัวมันใหญ่จริงๆนะ ถ้าเราเจอตัวนี้ก่อนคงลำบากแน่ เขี้ยวของมันใหญ่กว่าดาบพวกเราอีก "
ดุจปรายกล่าว เธอรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนักจากการที่ได้เห็นมันใกล้
" เสือมันคงต้องใหญ่กว่าหมาอยู่แล้ว แต่เหมือนกันทุกที่ มีการแย่งชิงกันระหว่าง สองเผ่าพันธุ์
นี้ ที่โลกเราก็เป็น หมาก็ล่าเป็นฝูง "
นี้ ที่โลกเราก็เป็น หมาก็ล่าเป็นฝูง "
ปู่อินทร์แสดงความเห็นและได้สั่งกำชับต่อ
" คงไม่น่าเป็นห่วงแล้วนะคืนนี้ เฝ้าเวรยามกันบนนี้ ผลัดละคนสองคน คอยดูว่าจะมีพวกมันปีนขึ้น
มาหรือเปล่า ไม่ต้องไว้ใจสิ่งที่เห็นทั้งนั้น ใครมาเรียกก็ให้สงส้ยไว้ก่อน เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่า
ถ้าเป็นเสือสมิง มันปลอมตัวและพูดได้ ด้วย"
มาหรือเปล่า ไม่ต้องไว้ใจสิ่งที่เห็นทั้งนั้น ใครมาเรียกก็ให้สงส้ยไว้ก่อน เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่า
ถ้าเป็นเสือสมิง มันปลอมตัวและพูดได้ ด้วย"
เมื่อเข้าใจแล้วทั้งหมดก็ขยับไปคนละที่บนกิ่งไม้นั้น ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มาก
ทำให้มีที่พอสำหรับการพักของคืนนี้
ทำให้มีที่พอสำหรับการพักของคืนนี้
อากาศเย็นมากยามดึกสงัด อรัญบอกให้ดุจปรายพักเพราะเขาจะเป็นหูเป็นตาให้เองเพราะตอน
นี้เป็นเวรผลัดของทั้งสอง อรัญก้มลงดูเบื้องล่าง ร่างเจ้าเสือร้ายยัง คงนอนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น
เขาคิดว่าอีกไม่นานคงสว่างแล้ว และระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น
นี้เป็นเวรผลัดของทั้งสอง อรัญก้มลงดูเบื้องล่าง ร่างเจ้าเสือร้ายยัง คงนอนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น
เขาคิดว่าอีกไม่นานคงสว่างแล้ว และระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น
" พรึ๊บๆ "
อรัญได้ยินเสียงหนึ่งแต่เขาไม่รู้ว่ามันมาทางใหน เขาก้มมองฝ่าความมืดลงเบื้องล่าง รู้สึกได้ว่า
ต้องมีอะไรผิดปรกติแน่ แต่เบื้องล่างยังคงเงียบสนิท ต้นไม้ไม่ไหวติงทำให้รู้ว่าไม่มีตัวอะไร
เคลื่อนใหวอยู่ข้างล่าง ความเงียบและความเป็นปรกติดีของเบื้องล่างทำให้อรัญคิดว่าเขา เขาคง
หูฝาดไป เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้คงเป็นเสียงของลมพัดโดนกิ่งไม้นั่นเอง และเขาก็ได้หันมามองแฟนสาวอีก
ต้องมีอะไรผิดปรกติแน่ แต่เบื้องล่างยังคงเงียบสนิท ต้นไม้ไม่ไหวติงทำให้รู้ว่าไม่มีตัวอะไร
เคลื่อนใหวอยู่ข้างล่าง ความเงียบและความเป็นปรกติดีของเบื้องล่างทำให้อรัญคิดว่าเขา เขาคง
หูฝาดไป เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้คงเป็นเสียงของลมพัดโดนกิ่งไม้นั่นเอง และเขาก็ได้หันมามองแฟนสาวอีก
ครั้งเพื่อดูว่าเธอหลับสบายดีหรือไม่ แต่เมื่อเขาหันมา
" อุ๊ย แสงดาว "
อรัญอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจ ในความมืดสลัว แสงดาวมาอยุ่ตรงข้างๆเขาตั้งแต่เมื่อไร
" มีอะไรหรือ "
อรัญถามแสงดาว แต่เธอกับส่ายหน้า และสิ่งที่อรัญไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แสงดาวเอื้อมมือมากอด
คออรัญไว้ อรัญรู้สึกอึดอัดใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจมาแต่ตอนนี้ เขาพยายามเหลือบมอง
ดุจปรายที่นอนอยู่ข้าง กลัวเธอจะตึ่นขึ้นมาเห็นภาพในขณะนี้เข้า เเต่ก็โล่งใจเพราะเห็นเธอยัง
คงหลับสนิทอยู่ พยายามมองไปที่อัครชัย ที่นอนห่างออกไปกับแสงดาวก่อนหน้านี้ เขาเกรง
อัครชัยจะเข้าใจผิดเช่นกัน
คออรัญไว้ อรัญรู้สึกอึดอัดใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจมาแต่ตอนนี้ เขาพยายามเหลือบมอง
ดุจปรายที่นอนอยู่ข้าง กลัวเธอจะตึ่นขึ้นมาเห็นภาพในขณะนี้เข้า เเต่ก็โล่งใจเพราะเห็นเธอยัง
คงหลับสนิทอยู่ พยายามมองไปที่อัครชัย ที่นอนห่างออกไปกับแสงดาวก่อนหน้านี้ เขาเกรง
อัครชัยจะเข้าใจผิดเช่นกัน
" แสงดาว ทำอะไรเนี่ย เป็นอะไรเปล่า "
เขาพยายามถาม แต่เธอก็ส่ายหน้าอย่างเดียวหนำซ้ำยังกระชับวงกอดแน่นขึ้นไปอีก อรัญเริ่ม
อึดอัดใจ แสงดาวได้เอาจมูกของเธอมาคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขา และทันใดอรัญก็ต้องตกใจ
เขาเหลือบไปเห็นอัครชัยเริ่มเข้ามาที่เขาอีกคนแล้ว
อึดอัดใจ แสงดาวได้เอาจมูกของเธอมาคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขา และทันใดอรัญก็ต้องตกใจ
เขาเหลือบไปเห็นอัครชัยเริ่มเข้ามาที่เขาอีกคนแล้ว
" ใจเย็นๆนะหมอ เป็นเรื่องเข้าใจผิด "
อรัญบอกเสียงสั่น กลัวอัครชัย จะสะเทือนใจภาพที่เกิดขึ้น และเขายิ่งตกใจหนักขึ้นอีกเขา
เห็นอัครชัยถือมีดมาด้วยและแสงดาวเองก็ยังคงไม่สนใจ ยังคงคลอเคลียอยู่ที่ลำคอเขาอยู่อย่าง
นั้น
เห็นอัครชัยถือมีดมาด้วยและแสงดาวเองก็ยังคงไม่สนใจ ยังคงคลอเคลียอยู่ที่ลำคอเขาอยู่อย่าง
นั้น
" เฮ้ยๆ ไม่ "
อรัญร้องห้าม อย่างตกใจสุดขีด เขาเห็นอัครชัยเงี้อมีดสุดมือ
" ฉึก "
แผ่นหลังของแสงดาวคือเป้าหมายนั้น แสงดาวสะดุ้งสุดตัวเธอผงะและไม่คาดคิดร่างของเธอ
เสียหลักผลัดจากกิ่งไม้ด้วย อรัญหันหลังไปคว้าร่างเธอไม่ทัน โดยที่อัครชัยก็ยืนดูไม่ยอมคว้า
ร่างเธอไว้ ทำให้ร่างของเธอหล่นลงสู่เบื้องล่างทันที
เสียหลักผลัดจากกิ่งไม้ด้วย อรัญหันหลังไปคว้าร่างเธอไม่ทัน โดยที่อัครชัยก็ยืนดูไม่ยอมคว้า
ร่างเธอไว้ ทำให้ร่างของเธอหล่นลงสู่เบื้องล่างทันที
" ไอ้หมอ แกทำบ้าอะไร "
สิ้นคำด้วยความโมโหอรัญกระโจนเข้าหาร่างอัครชัยทันที แต่เนื่องจากอยู่บนกิ่งไม้ทำให้เขา
ทำร้ายอัครชัยไม่ได้ถนัดนัก
ทำร้ายอัครชัยไม่ได้ถนัดนัก
" แก ฆ่าแสงดาวทำไม "
อรัญตะโกนลั่นอีกครั้ง ครานี้ทุกคนตื่นกันหมด
ดุจปรายตื่นมาเห็นว่าแฟนของเธอมีอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่ง และพยายามจะทำร้ายอัครชัย เธอจับตัว
ดุจปรายตื่นมาเห็นว่าแฟนของเธอมีอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่ง และพยายามจะทำร้ายอัครชัย เธอจับตัว
เขาไว้และเขย่าพร้อมกับถาม
" พี่ อรัญ พี่อรัญ..มีอะไร "
อรัญโผเข้ากอดดุจปราย ครานี้ เขาเริ่มสะอื้นไห้
" ปราย ปราย ไอ้หมอ มันฆ่าแสงดาว "
" หา ..เรื่องอะไรพี่หมออัคร จะไปฆ่าแสงดาวทำไม พี่อรัญเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หรือว่าพี่อรัญ
เผลอหลับไป แล้วละเมอ หรือฝันว่า .
เผลอหลับไป แล้วละเมอ หรือฝันว่า .
ดุจปรายพูดได้แค่นั้นกลับถูก อรัญ ตวาด เสียงเเข็ง
" ไม่ได้หลับ ไม่ใช่ความฝัน นี่เรื่องจริง ไอ้หมอมันก็อยุ่นั้นไง ทุกคนถามมันสิว่ามันทำอย่างนั้น
ทำไม บอกมันแล้วว่าภาพที่เห็นมันเข้าใจผิด "
ทำไม บอกมันแล้วว่าภาพที่เห็นมันเข้าใจผิด "
" พี่อรัญนั่นแหละ เข้าใจผิด "
เสียงหนึ่งดังขึ้น อรัญ จำเสียงนั้นได้ดีเขาแปลกใจมาก
" แสงดาว นี่เธอไม่เป็นไรหรือนี่ แล้วเมื่อกี้นี้ ที่ถูกแทงแล้วร่วงไป เออ.."
อรัญ ถามอย่างเเปลกใจ เขามั่นใจว่า เหตุการณ์เมื่อกี้นี้ เขาไม่ได้ตาฝาด และไม่ได้ฝันไปแน่ๆ
" อรัญไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไปหรอก แต่ร่างที่อรัญเห็นนั้นไม่ใช่ แสงดาว "
อัครชัยเริ่มกล่าวอธิบาย
" ไม่ใช่แสงดาวหรือว่า มีอะไรแปลงร่างมา.เออ.."
อรัญเริ่มจะเข้าใจ
" ใช่แล้ว ระหว่างที่ผม และแสงดาวแยกไปพักและส่งการเฝ้าระวังให้อรัญและดุจปรายนั้น ผม
และแสงดาวยังไม่ทันได้หลับ เราสองคนสังเกตุเห็นมีสัตว์ ชนิดหนึ่งตัวใหญ่มากบินไปมา เรา
ทั้งสองไม่กล้ากระดุกกระดิกตัว แต่สังเกตุได้ว่ามันน่าจะเป็นค้างคาวยักษ์ ก็พอดีเห็นมันบินอ้อมไป
ด้านที่อรัญนั่งอยู่เลย ตามไป เห็นมันเกาะข้างอรัญ และเปลี่ยนร่างเป็นแสงดาว และ มัน
พยายามจะกัดลำคอ ของอรัญ ก็เลยรีบเข้าไปช่วยอย่างที่เห็น "
และแสงดาวยังไม่ทันได้หลับ เราสองคนสังเกตุเห็นมีสัตว์ ชนิดหนึ่งตัวใหญ่มากบินไปมา เรา
ทั้งสองไม่กล้ากระดุกกระดิกตัว แต่สังเกตุได้ว่ามันน่าจะเป็นค้างคาวยักษ์ ก็พอดีเห็นมันบินอ้อมไป
ด้านที่อรัญนั่งอยู่เลย ตามไป เห็นมันเกาะข้างอรัญ และเปลี่ยนร่างเป็นแสงดาว และ มัน
พยายามจะกัดลำคอ ของอรัญ ก็เลยรีบเข้าไปช่วยอย่างที่เห็น "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น