ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะนาวศรี

    ลำดับตอนที่ #26 : สายลม มรณะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 273
      5
      8 ก.ค. 62

     


    นั่นคือเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทุกคนไม่สามารถเดาได้  

    พลพรรค ปิเยหิริณ ที่รอดชีวิต ยินดีสวามิภักดิ์ กับ ติอากอ และจะสอนต้นไม้ที่อยู่ในความดูแลของ

     ติอากอ เรื่องการใช้อาวุธต่าง ๆ อย่างเช่นลูกดอกและคันยิง  และเนื่องจากตะเนยา มีต้นไม้ใหญ่มาก  

    การสร้างคันยิงและลูกดอกขนาดใหญ่ จึงเกิดขึ้น  เมื่อมันถูกสร้างเสร็จ ลูกดอกสามารถยิ่งได้ไกล 

    เป็นกิโลเมตร   ปิเยหิริน บอกต้นไม้ที่ มัจติส  เมือง ของมัจเจเดิมก่อนเดินทางออกมานี้  เดี๋ยวนี้ไม่มี

    ต้นไม้ใหญ่แล้ว มัจเจทำลายอะไร  ที่คิดว่าไม่น่าจะมีประโยชน์กับมันไปหมด  มัจเจมันไม่กลับไปที่นั่น

    อีกแล้วและเมื่อผ่านมาที่ใด  อะไรที่มันมองว่าน่าจะไม่มีประโยชน์ มันก็จะไม่ปล่อยไว้  จะทำลายด้วย

    ความคึกคะนองและ ก้าวร้าว  และการไปที่ โลกคือจุดหมายใหม่ ที่เดียวของมัน  มันล่วงรู้มาแล้ว ว่า

    เรคาของมันทั้งหมดเมื่อประสานพลังกัน  สามารถยกแผ่นดินให้สูงขึ้นได้ และเมื่อเรคา ยกพื้นดินไต้

    น้ำมัน ก็แรงพอที่จะทำให้ ทะเล ปั่นป่วน จนเกิดการเคลื่อนมวลน้ำ ให้กลายเป็นคลื่น ขนาดยักษ์ ได้  

    และจะทำให้กวาดต้อนมนุษย์โลก  ให้สิ้นชีวิต และเพื่อสำหรับ  เป็นอาหารของมัน การ

    ที่บอกว่า จะให้ ติอากอ ได้ดูแลที่นี่ เป็นเพียงคำหลอก  มัจเจจะทำลายที่นี่หลังจากที่มันมั่นใจ

    ว่าเดินทางไปโลกสำเร็จแล้ว และที่นั่น มันจะเป็น อมตะหลังจากที่ได้รับสารอาหารจากเลือด

    เนื้อของของมนุษย์โลก จำนวนมากๆ  และนี่คือคำ ที่ปิเยหิรินทั้งหลาย บอกเป็นเสียงเดียวกัน

    แจ้งให้ ติอากอ ทราบ    


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ณ . กองกำลัง มัจเจ


    "  อะไรนะ ปิเยพิษเซลล่า เสียท่าพวก ติอากอ เหรอ แล้วเจ้าก็เกือบเสียท่ามันเหมือนกัน

    ใหนปิเยพิษเซลล่าคุยนักคุยหนาว่าจะ ล้าง ติอากอ ร่างเดียวได้ แต่ทำไม ถึงแม้ข้าส่ง พล หิริน

    ไปช่วยตั้งเป็นพันร่าง ยังกลับเพลี้ยงพล้ำได้ "    


    ปิเย มัจเจ เดือดดาลยิ่งนักเมื่อ เรคารียะ ได้เดินทาง มาจาก ตะเนยา และเข้ามารายงาน


    " นายท่านข้าเองก็เกือบสิ้นชีตะเหมือนกัน พิษเรคิน ของ ติอากอ ทำข้าปวดแสบปวดร้อนไป

    หมด   ข้าไม่สามารถส่งกระแสสัมผัสเรื่องราวต่างๆมายังท่านได้  จึงต้องเดินทางมาด้วยร่างตัว

    เอง  ข้าต้องขอโทษที่ทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ "

     
    เรคารียะ ร่างที่ประกอบเข้าด้วยกันจากการที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่อน โดยน้ำมือของอรัญ ได้

    กลับเข้ามาหา มัจเจ  หลังจากที่เห็นว่าร่างของมันไม่สามารถส่งกระแสจิต เรื่องราวต่างๆให้

    มัจเจทราบได้  



    "  ไม่เป็นไรเจ้าทำถูกที่สุดแล้ว เจ้าเองยังดีนะ เป็นเพียงสาขา ของร่างข้า แต่เจ้ากลับควบคุมซากร่าง

    มนุษย์นี้เดินทางมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่ชั่วยามเจ้าก็สามารถ มาถึงที่นี้ได้ ส่วนข้าไม่รู้อีกกี่เดือนจะเดิน

    ทางถึง ตะเนยาถ้าข้าเคลื่อนใหวได้อย่าง ติอากอ นะ ป่านนี้ข้ายึดคลองโลกสำเร็จไปแล้วล่ะ  นี่แหละ 

    ได้อย่างเสียอย่าง  แต่ถึงช้า แต่เขาก็สร้างให้มีสิ่งที่ข้าเหนือกว่าปิเยอื่นอื่น มากมายมาทดแทน ข้าก็ต้อง

    ทำให้ได้  จ้าไม่ต้องไปที่ ตะเนยา อีกแล้วประสานรวมกับร่างข้าไว้ เรคารียะ อีกหลายร่าง ยังคงทำกา

    รอยุ่ที่นั่น   ปิเย พิษเซลล่า มันผยองเกินไป ทำให้มันพลาดความโกรธเกรี้ยวของมันมากจนไม่มีสติที่จะ

    ไตร่ตรองว่าฝ่ายนั้น จะเตรียมการตอบโต้หรือเปล่าแต่จะว่าไปพิษของมันก็ ยังใช้การได้ดี เพียงแต่ว่า 

    ฝ่ายนั้นรู้จักการต้านพิษเท่านั้นเอง   จะได้ให้มันรู้กันไป ว่า ติอากอ มันจะยังหาวิธี ป้องกันพิษได้อีกใหม  

     ถ้ามันไม่รู้ที่มาที่ไป ว่าพิษนั้นมันมาจากใหน "  


    คำ พูดของมัจเจ เรคารียะร่างนี้ไม่อาจเข้าใจได้ และมันเห็นว่าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพราะมัน

    ไม่ต้องไปทำการที่ ตะเนยา แล้ว มัจเจ จะทำอะไรก็ช่าง  



      มัจเจเคลื่อนไพร่ พล ต้นไม้ที่ลงมาทางไต้เรื่อย ๆ ตัว มัจเจ เอง ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วนัก

    เรคา ที่กระจายไปทั่ว ทำให้ต้องเคลื่อนไปได้ทีละน้อย เหมือนปลาหมึกที่มีหนวดยาว ยิ่งนัก

     ตลอดทางที่ผ่านมา มันได้พบซากสิ่งมีชีวิตใดที่ตายไปแล้ว ที่ร่างกายพอที่เป็นรูปเป็นร่างได้

    จะปลุก โดยใช้ เรคารียะ เข้าควบคุม และร่วมเดินทางไปพร้อมกับมัน    

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หลังจากที่ร่างอมนุษย์สิ้นฤทธิ     พวกของอัครชัย ก็สบายใจขึ้น พวกเขานำร่างที่แห้งกรังอีก

    ครั้งไปฝังอีก แต่คราวนี้ พวกเขาปรีกษากันว่า จะแยกชิ้นส่วน ร่างที่ค่อนข้างแห้งป่นนั้น กระจาย

    แยกชิ้นส่วน กันไปฝังหลายๆที่  เพื่อป้องกันการรวมตัวของร่างกายพอที่จะทำให้ เรคารียะ เข้า

    มาควบคุมได้   ทั้งหมดคิดถึงร่างอีกร่างหนึ่งที่ถูกฝังไว้โดยพวกเขาอีกที่หนึ่ง นั่นคือร่างของเมีย

    ของร่างนี้  พวกเขาขออนุญาติ ติอากอ ไปดู   และสิ่งที่พวกเขาเห็น บริเวรที่ฝังศพไว้ มีร่องรอย

    อย่างหนึ่ง พร้อมการ หายไปของร่างที่พวกเขาฝังไว้ เหมือนเจ้าของร่าง จะลุกขึ้นมาได้  ไม่

    ต้องสงสัยเลย ว่าร่างนั้นคงถูกควบคุมเหมือนร่างนี้  แต่การหายไปนั้น  มันคงรู้ว่าถ้าเข้ามา ก็จะ

    ไม่มีประโยชน์  คงไม่สามารถทำอะไรพวกมนุษย์โลกได้ดังเช่นตัวอย่างร่างหนึ่งที่ได้ทำมาก่อน

    หน้านี้แล้ว    



    " เป็นไปได้ใหมว่า มันอาจจะควบคุมร่างงู จงอาง ทั้งสองตัวนี้ได้  "

     
    อัครชัยถามขึ้นด้วยความสงสัย หลังจากกลับขึ้นมาข้างบน และอยู่ท่ามกลางวงปรึกษาแล้ว


     " ข้าว่า ไม่น่าจะได้นะ เรคารียะ ตัวเล็ก คงไม่สามารถควบคุมร่างที่ใหญ่ขนาดนั้นได้ นอกเสีย

    จากมี เรคารึยะ ที่มีขนาดใหญ่พอที่มันจึงจะสามารถควบคุมร่างงูจงอางนี้ได้ และอีกอย่างการ

    สร้างเลือดเนื้อให้จงอางที่มีขนาดใหญ่ขนาดนั้นเป็นเรื่องใหญ่ การสร้างเลือดเนื้อให้กับสิ่งต่างๆ

    ที่ตายไปแล้ว เราก็เห็นว่า มันใช้ เรคา ธรรมดาเป็นผู้สร้างเลือดเนื้อ และให้ เรคา รียะ เป็นผู้

    ควบคุมอีกที  คงไม่ใช่เรื่องง่าย อาจต้องใช้เรคา จำนวนเท่าได้กว่าจะเสริมเลือดเนื้อให้มาก

    พอที่ เรคารียะ จะเข้าควบคุมร่างได้  และอีกอย่างมันควบคุมได้ก็จริงแต่ร่างนั้นก็ไม่ได้คล่อง

    เเคล่วเท่าที่ควร ที่สุดพวกเรารู้ก่อน มันก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่ดี  "


    ปิเยอิสทิส กล่าวเพราะเห็นว่าโอกาสที่ อัครชัย สงสัยเป็นไปได้น้อยมาก  


    "  ใช่ ปิเยอิสลาทิส พูดถูก ไม่น่าเป็นห่วงหรอก เรื่องงูสองตัวนี่ แต่น่าห่วงสิ่งที่เรายังไม่รู้ว่าจะเจอ

    กับอะไรต่อไปอีกมากกว่า   มัจเจมันต้องส่งอะไรที่มันร้ายกาจกว่าเดิมขึ้นอีกแน่ๆ  ปิเยหิริน ที่

    รอดชีตะ ได้บอกว่า แผนการต่อไปของมัจเจ ไม่มีใครร่วงรู้แล้ว การประชุมสรุปแผนที่ได้คุยกันมี

    ไว้แค่นี้ ต่อไปนี้ อยู่ที่มัจเจมันจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร   "  


    ปิเยทาร์ กล่าวเสริมหลังจากที่ได้สอบถามจากปิเยหิริน ที่ได้ยอมสวามิภักดิ์กับเขาด้วย  

     
    " ข้าไม่อยากจะพูดคำเดิม คือระวังตัวกันให้มาก แต่ก็จะเป็นต้องย้ำ และย้ำ คำเดิมๆ  เพราะมัน

    เป็นสิ่งเดียวที่เราจะทำได้ตอนนี้   มีอะไรน่าสงสัยแจ้งบอกกันทันที แม้แต่เรื่องเล็กน้อย นี่ก็หน้า

    ฝนด้วย  ชีร่าจะผยองฤทธิแล้ว เราคงเจอศึกสองด้าน ใหนจะต้องระวัง ชีร่าที่ไม่รู้ว่าปีนี้จะมาใน

    รูปแบบใด  ซึ่งก็พอๆกับพวกมัจเจมันเหมือนกันที่ไม่รู้ว่ามันจะมากันในรูปแบบใดเหมือนกัน

    ภาวนาอย่างเดียว ขอให้มัจเจ มันได้ร้บผลจาก ชีร่า ไปบ้างจะได้ตัดกำลังมันไปบ้าง "  


    ติอากอกล่าวและ แสดงความวิตก   และคำว่า ชีร่า ดุจปรายไม่เคยได้ยิน เธอจึงได้ถาม        

    ติอากอขึ้น  


    " อะไรเหรอ ชีร่า พวกท่านมีศัตรูอีกพวกเหรอ ทำไมพวกเราไม่เห็นรู้มาก่อนเลย "


    "  จะว่ามันเป็นศัตรูของเหล่าปิเยเราก็ว่าได้ แต่มันเป็นศัตรูตามธรรมชาติ ชีร่าจะเกิดจากพื้นดินมา

    กัดกร่อนทำร้ายพวกปิเยเราแทบทุกปีช่วงหน้าฝนนี้ บ้างมากน้อยมากแล้วแต่ภูมิอากาศจะเหมาะสมอย่าง

    ไร แต่มันไม่เพียงแต่ทำร้ายแต่ปิเยเราเพียงเท่านั้น ทุกปิเย รวมทั้งมัจเจ ก็ได้รับผลกระทบจากชีร่าได้

    เช่นกัน "


    คำอธิบายของติอากอค่อนข้างชัดเจน ทำให้ดุจปรายคลายสงสัยลง และขณะนั้น ฝนก็เริ่มตก

    เหมือนรู้ว่ามีไครกำลังพูดถึงมัน ปิเยทั้งหลายที่ตะเนยา รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที แม้จะมีความวิตกอยู่

    บ้างเรื่อง ชีร่า ก็ตาม    

     สามวันสามคืนแล้ว ที่ฝนตกตลอด  พวกของอัครชัย อาศัยถ้ำบนยอด ตะเนยาเป็นที่พักและ

    หลบฝน พวกเขาไม่เคยเห็นฝนตกนานอย่างนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจ ว่าอาจเป็นเพราะความ    

    ชุ่มชื้นทีมีเยอะ  เพราะมีแต่ต้นไม้นั่นเอง แต่ ติอากอ เริ่มวิตก และที่หน้าถ้ำนั้น ติอากอได้เข้ามา

    คุย



    "  น่ากลัว ฝนตกนานแบบนี้ เหมือนปีหนึ่ง เราเสียปิเยไปหลายร่าง เพราะติดเชื้อจากชีร่า ถ้าอีก

    สองวันไม่หยุด คงซ้ำรอยแน่ "      



    คำพูดของติอากอ ทำให้พวกของอัครชัยหวั่นอยู่เหมือนกัน  พวกเขานึกถึงเวลาที่โลกมนุษย์

    เกิดโรคระบาด และทำให้ผู้คนสิ้นชีวิตเป็นจำนวนมาก และยิ่งยังไม่รู้วิธีการรักษาด้วยแล้ว คง

    วิตกกังวล เหมือนกันกับ ติอากอ ตอนนี้    แต่เหมือนปาฎิหาร ฝนที่ตกมาสามวันเริ่มซาเม็ดและ

    หยุดตกในที่สุด  พวกเขาได้ยินเสียง ติอากอ เคลื่อนออกไปสั่ง ให้ต้นไม้ทุกต้น รับแสงแดดให้

    มากที่สุด และทำให้ลำต้นแห้งไว้ เพื่อป้องกันตัวเอง   ส่วนพวกของอัครชัย ได้ออกมาข้างนอก

    เพื่อรับลมที่พัดเอื่อยๆภายนอกบ้าง พวกเขารู้สึกโล่ง หลังจากที่อุดอู้อยู่ในถ้ำ มาตลอดสามวัน

    แต่ทันใดนั้น เขาได้เห็นต้นไม้ต้นหนึ่งเข้ามาที่ ติอากอ อยู่ ลักษณะเห็นได้ชัดว่าต้นไม้ต้นนั้นรีบ

    เร่ง พวกเขารู้ทันที ว่าคงมีสิ่งทีเกิดขึ้นแน่ พวกเขาจึงรึบเดินเข้าไป  และได้ยินต้นไม้ต้นนั้น

    รายงาน


     "  ติอากอ ท่าน ปิเยเรามีล้มหลังจากฝนหยุดตก คาดว่าได้รับ เชื้อ ชีร่า ร้าย ที่มากับลมเพราะ

    คำสั่งท่านให้ต้องแดดและลม ขอให้ท่านรุดไปดูด้วย เผื่อจะแก้ไขได้บ้าง "  


    " นี่สิ่งที่ข้ากลัว กำลังจะเกิดขึ้นหรือนี่  ไปมนุษย์โลกไปดูกัน เจ้าจะได้เห็นมัน "


    ติอากอ กล่าวพร้อมออกเคลื่อนนำหน้าไป  ลงมาจากยอดเขาได้ไม่นาน พวกเขาก็ได้มาถึงลาน

    ที่พวกเขาเคยอยู่ก่อนที่จะย้ายขึ้นไปข้างบนเขา  เบื้องหน้ามีต้นไม้ห้าหกต้น ล้มลง พังพาบ

    กับพื้น        


    "  นี่ไงท่านติอากอ มีล้มหลังจากที่ข้าไปตามท่านอีกด้วย สามร่าง "


    ต้นไม้ต้นเดิมที่ได้ขึ้นไป รายงานเรื่องนี้ ได้กล่าวขึ้นอีกหลังจากที่ ติอากอ มาถึง


    "  อาการ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง  รู้สึกอย่างไร "


    ติอากอ ถามหลังจากที่ได้เห็นต้นไม้ที่ล้มเเละเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย


    "  ข้าไม่มีเรี่ยวแรงเลยท่าน ติอากอ เห็นทีอีกสักครู่ข้าคงสิ้นชีตะแน่ รู้สึกร่างข้า เหมือนมีอะไร

    ชอนไชไปทั่วร่าง หลังจากที่ออกมาต้องลม ต้องแดดนั้น  สงสัยเชื้อชีร่าปีนี้ คงร้ายแรงนัก ข้า

    ต้องเชื้อ ชีร่า ทุกปี ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย  "


    ต้นไม้ที่ล้ม อยู่ต้นหนึ่ง กล่าว  

     
    " ดีนะที่ตอนนี้ มัจเจ มันยังคงมิได้ส่งผู้ใดเข้า โจมตีปิเยเรา  หรือไม่มันเอง ก็คงดูลาดเลาอยู่

    เหมือนกัน   ชีร่า ก็เคยมีผล ต่อ มัจเจ และพลพรรคมัน เหมือนกัน มีหลายปิเยในมัจติส เคยสูญ

    พันธุ์ จากชีร่า นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ มัจเจมันอยากไปอยู่โลก เพราะที่นั่นคงไม่มี ชีร่า ร้ายที่

    คอยทำลาย ปิเยเหมือนที่นี่ "



    คำกล่าวของ ติอากอ ทำให้ ปู่อินทร์ฉงนยิ่งนัก การที่มีต้นไม้อย่างเดียวในที่นี้ก็ไม่ใช่ว่าดีอย่าง

    เดียว การสะสมของจุลินทรีย์ นั่นเอง ก่อให้เกิดเชื้อราที่มีผลร้ายแรง และมันอาจเข้าทำลาย

    ต้นไม้ อย่างคาดไม่ถึง  และความคิดเขาก็สะดุด เมื่อได้ยินเสียงของ ดุจปรายอุทาน  

     
    "  ปรายก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะคะ ตอนที่รู้สึกว่ามีแรงลมประทะร่าง รู้สึกได้ว่าเหมือนมีอะไร

    แหลมๆ เล็กๆ พยายามเหมือนจะเจาะร่างของปรายเข้าไป มันรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ นิดๆ เหมือนจั๊กจี้

    อะไรอย่างนั้น คนอื่นเป็นใหมคะ
    "  


    ได้ยินคำดุจปราย  ทุกคนก็นึกขึ้นมาได้ จริงๆแล้วทุกคนก็เป็นเหมือนกันแต่คิดว่าตัวเองอุปทาน

    ไป  และคิดว่าอาการเล็กน้อย การเกิดจากการแพ้อากาศก็ได้จึงไม่ได้มีใคร พูดถึงแต่แรก

     
    " แสดงว่าพวกเจ้า ก็คงต้อง ชีร่า เหมือนกัน แต่แปลก พวกเจ้ามีผิวหนังและเนื้อที่อ่อนกว่า

    ปิเยข้าอีก ทำไม ชีร่า จึงไม่สามารถเข้าสู่ร่างพวกเจ้าได้ เหมือนปิเย ข้า  แต่อีกอย่างหนึ่ง ชีร่า

    คงไม่มีอะไรที่ตายตัว มันคงเป็น ชีร่า ที่ทำลายได้ เฉพาะ ปิเย กระมัง  ปิเยทาร์ จงสั่งการไปให้

    ปิเยเรา ระวังการต้องลมไว้  ข้าคิดว่า ชีร่า คงมีพิษอยู่กับสายลมทั่วไป  ถ้าไม่ต้องลมแล้ว ชีร่า

    คงไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้  "


    คำสั่งของติอากอ ที่สั่งให้ ปิเยทาร์ ทำนั้น ฟังดูเหมือนง่าย แต่ที่จริงแล้ว ไม่ง่ายเลย การที่จะอยู่

    ในที่ โล่งแจ้งแล้ว ไม่ให้โดนลมนั้น คงไม่ง่าย  แต่ปิเยทาร์ ก็นำความแจ้งไป ตามคำเตือนของติ

    อากอ และระหว่างที่เดินทางไปบอกนั้น ปิเยทาร์ ก็ได้พบ ต้นไม้ที่มีอาการแบบนั้นไปทั่ว  หลาย

    ร้อยต้น และทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  


     
    "   ท่านพี่ ติอากอ  ปิเยเราคงแย่แน่ พวกเราต้อง ชีร่า จำนวนมากนัก และมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย

    ข้าเกรงว่า เราจะสูญเสีย กำลังปิเยเรา ไปมากนัก คราวนี้  "  


    ปิเยทาร์ เข้ามาอีกครั้ง หลังที่ไปแจ้งข่าว และได้พบเหตุการณ์ มา  


    " อืม ข้าก็หวั่นวิตกเหมือนกัน  ถ้าเป็นภัยจากศัตรู อย่างมัจเจ ข้าคงสบายใจมากกว่านี้ แต่นี่เป็น

    ภัยจากธรรมชาติ  ได้ข่าวว่า พลพรรค มัจเจ มันไม่ต้อง ชีร่า ด้วยสิ มันคงฮึกเหิมมาก และมันคง

    รู้ว่า ปิเยเรากำลังอ่อนแอ  แต่แปลกนัก ทำไมปีที่แล้ว อากาศเราก็เหมือนปีนี้  ปีที่แล้วฝนตก

    นานวันกว่านี้ด้วยซ้ำไป ทำไม ชีร่า ถึงไม่ร้ายเท่าปีนี้  ข้ายังคิดหาทางแก้ไขไม่ออกเหมือนกัน"


    ปิเยติอากอ กล่าว


    " เราขอออกความเห็นหน่อยได้ใหมท่าน ติอากอ "  


    ด๊อกเตอร์ จามิกร กล่าว  


    " ได้สิ ต้องการอยู่ทีเดียว ตอนนี้ข้าไม่มีทางออกเลยจริงๆ "


    ติอากอ ตอบ ตอนนี้เขารู้สึกอยากให้มีไครคิดช่วยหาทางออกให้บ้าง ไม่มากก็น้อย  


    " ถ้ามีเชื้อราจริง มันต้องมีจุดกำเหนิดที่ใหนสักที่หนึ่ง  แล้วลมคงพัดมันออกมาที่นี่ ได้ เราเห็น

    ว่าตอนนี้ ต้นไม้ของท่าน ที่ได้รับเชี้อนี่เข้าไป ยังไม่ตายซะทีเดียว พวกเขาแค่อ่อนแรงอย่างมาก

    ถ้าเป็นคนก็คงเหมือนคนบาดเจ็บสาหัส อาจมีทางรักษาได้ ท่านอย่าพึ่งท้อใจไป พวกท่านพอ

    จะรู้ไหมล่ะว่า จะมีที่ใหนบ้างที่มันจะเป็นที่อยู่ของเชื้อราเหล่านี้ได้ "  



    คำพูดแสดงความเห็นของ จามิกร ทำให้ติอากอ คิด  


    "  ดินแดนนี้กว้างใหญ่ไพศาลนักจะรู้ได้ยาก แล้วเราก็คงไม่รู้ว่า ลมมันพัดมาจากที่ใด ข้าก็คิด

    อยู่เหมือนเจ้าเหมือนกัน ถ้าคิดไม่ออกว่าน่าจะเป็นที่ใด ปิเยทาร์ เจ้าสงสัยใหม ว่าน่าจะมีที่ใดที่

    เป็นต้นตอชีร่านี้ "  


    แล้วติอากอ ก็ถามความเห็น ของปิเยทาร์ ด้วยเผื่อปิเยทาร์จะคิดออก ในสิ่งที่เขาคิดไม่ออก  

    ปิเยทาร์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาได้ตอบ ติอากอ ขึ้น  


    " อย่างท่านพี่บอกแหละ หลายที่หลายแห่ง เหมาะสมที่จะทำให้เกิดชีร่า ได้ทั้งนั้น คงจะ

    เจาะจงสงสัยยากอยู่  ข้าก็คิดไม่ออกเหมือนกัน  "      

    "  ตอนที่ ปราย อยู่ทางเหนือนะคะ ที่นั่นต้นไม้ก็เยอะ ถ้าเป็นจุดทีมีเชื้อรา มากจุดนั้นจะมีเห็ด

    ขึ้น จะสังเกตุได้ ที่นี่จะเหมือนกันหรือเปล่า  "  


    คำพูด ของดุจปรายทำให้ ทุกคนคิด  ติอากอ ก็เช่นกัน


    " ปิเยทาร์ แล้ว ตะเนยา เราตอนนี้มี เฮดาร่า บ้างใหม  จะลองดูตาม แม่หนูคนนี้ ดีกว่าพวกเรา

    จะไม่ได้ทำอะไรเลย  ข้าไม่สบายใจมากเลย ที่เห็นปิเยเรา ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ "    

     
    "  มีอยู่สี่ร่างพี่ท่าน อยุ่สี่ทิศเลย  โผล่เมื่อสามวันก่อนตอนนี้ บานเต็มที่แล้ว  มีปิเยเรา แจ้งไว้ ข้า

    เห็นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เลยไม่ได้แจ้งพี่ท่าน เฮดาร่า ที่ขึ้นมันทุกปี แต่ปีนี้รู้สึกว่าดอกของมัน

    ใหญ่หน่อย  "  


    ปิเยทาร์ ตอบ  


    " เราจะลองไปดูกันไม๊ ไกลไม๊ ท่านปิเยทาร์ เผื่อเราจะไปดูว่าใกล้ที่มันขึ้น ว่าจะมีอะไรตามที่เราสงสัย

    หรือเปล่า ดีกว่ามาอยู่อย่างนี้  "  


    ดุจปรายถามต่อ  


    " ไม่ไกลหรอก ห่างไปจุดละประมาณสองกิโลเมตรได้  "  


    ปิเยทาร์ตอบ  และก่อนที่จะทันได้พูดอะไรต่อ แสงดาว กับสะดุดคำพูดของปิเยทาร์  


    " แต่..เอ..รู้สึกไหมคะ  ที่ท่านปิเยทาร์ บอก ว่าเห็ดมันขึ้น ทั้งสี่ทิศของที่นี่ และห่างจากที่นี่ไป

    จุดละประมาณสองกิโลเมตร  มันบังเอิญไปใหมคะ  ว่าแต่ละจุดที่มันขึ้น จะพอเหมาะพอเจาะกัน

    ขนาดนี้จะเป็นไปได้ใหมว่า มันตั้งใจขึ้น อย่างนี้ แสงดาวรู้สึกว่าเรากำลังพักอยู่ในวงล้อมของเห็ด

    ยักษ์ หรือเปล่าคะ "  


    คำพูดของแสงดาวทำให้ทุกคนฉุกคิดขึ้นมาทันที  ทิศทางและระยะทางที่พอดีกันนี้จริงอย่างที่

    เธอตั้งข้อสังเกตมันเหมาะเจาะ จนเกินจะเป็นแค่ความบังเอิญไปหรือเปล่า....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×