ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะนาวศรี

    ลำดับตอนที่ #30 : ซากมัจจุราชดึกดำบรรพ์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 195
      5
      8 ก.ค. 62

    ..





     เจ้าของเต้นก์ทุกหลังผุดลุกขึ้น เหมือนเตรียมพร้อมไว้ทันที และพรวดพราดออกมาพร้อมต่าง

    คว้าอาวุธ มีดพร้าออกมาเตรียมพร้อม ทั้งๆที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งใดมา


    " พวกเราดูสิ ตะวันออกโน่นหญ้าเคลื่อนไหวมีอะไรแหวกเข้ามา เห็นหลังมันผลุบโผล่

    ตัวอะไรสักอย่างหนึ่งมันกระโดดเข้ามา "  


    ทุกคนมองทางนั้นตามที่อรัญ และดุจปรายบอก และพวกเขาก็เห็น หญ้าสูงถูกแหวกเหมือนมี

    อะไรผ่านมา และเห็นสิ่งหนึ่งผลุบโผล่มาตามรอยหญ้า ที่แหวกนั้น  ปู่อินทร์ พยายามมองว่าเป็น

    สิ่งใด และพยายามฟังเสียงของมัน 



    "   มันไม่ได้มาทางนั้นทางเดียวนะ มันมาทุกทางข้าสัมผัสเสียงแหวกหญ้าของมันได้  "


    คำพูดของปู่อินทร์ ทำให้ทุกคนพยายามมองไปรอบๆ และก็เห็นอย่างที่ปู่อินทร์ บอก รอบๆ ที่

    พวกเขาอยู่บัดนี้ มีการแหวกหญ้า เข้ามา แต่เเรกพวกเขาไม่เห็นเพราะว่า ทุกด้านมีต้นไม้ที่สูง

    กว่าด้านตะวันออกนี้ และเห็นสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหลังสัตว์อะไรสักอย่างหนึ่งผลุบโผล่ อยู่กลาง

    รอยหญ้า ที่แหวกนั้น และมันมุ่งตรงมาทางที่พวกเขาอยู่  พวกเขาเตรียมพร้อมอีกครั้ง ทั้งหมดรู้

    ได้เลย ถ้ามาลักษณะนี้ สิ่งที่มามันคงไม่ได้มาดีแน่


    " ลักษณะการกระโดดของมันเหมือนจิงโจ้นะปู่ อินทร์ "  


    กานต์ บอกสิ่งที่เริ่มสังเกตได้ชัดขึ้น หลังจากที่สิ่งนั้นเข้ามาใกล้ แต่ยังคงเห็นไม่ค่อยชัดเพราะมี

    ความสูงของหญ้าบังอยู่


     
    "จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะ ถ้ามันมาร้าย ตอนนี้พวกเราต้องช่วยตัวเองแล้ว ต้นไม้ของติ อากอ ไม่

    สามารถเข้ามาในนี้เพื่อช่วยพวกเราได้  อาวุธมีเท่าไรขนออกมาจากเป้ให้หมด เผื่อมันหลุดมือ

    บ้างระหว่างต่อสู้  "


    ปู่อินทร์ตอบและสั่งทุกคนเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์  ทุกคนเริ่มเงียบกริบปู่อินทร์สั่งให้ทุก

    คนหันไปทุกทิศทุกทาง และเตรียมพร้อมจับจ้องไปตามจุดที่เห็นสิ่งนั้นเคลื่อนเข้ามา แม้มันจะ

    เข้ามาในระยะใกล้แล้ว แต่ทุกคนก็ยังไม่เห็นได้ชัดเจน ต้นหญ้าทั้งหลายยังคงบังสิ่งนั้นอยู่  แต่

    ด้านตะวันตกนั้นมีหญ้าต่ำแต่แรก เมื่อสิ่งนั้นเข้ามาใกล้ ปู่อินทร์และอรัญซึ่งจ้องมองดูอยู่ฝั่งนั้น

    จึงได้มองชัดขึ้น


     
    " ตัวอะไรน่ะปู่ เหมือนนกกระจอกเทศก็เหมือนแต่ร่างแข้งขาหนากว่ามาก เหมือนจิงโจ้ แต่ปาก

    เหมือนนก  "


    คำพูดของอรัญที่บอก ทำให้ปู่อินทร์เพ่งพิจาราณาอีกครั้ง อรัญพูดถูก แต่เขาไม่เคยเห็น

    สัตว์ชนิดนี้เหมือนกันทั้งที่อยู่ป่ามานาน มันวิ่งสองขา ความเร็วของมันและร่างที่หนาทำให้มอง

    เหมือนกระโดดในที  อัครชัย และทุกคนได้ยินเสียงอรัญพูดขี้น จุดที่พวกเขาดูอยู่สิ่งที่มายังไม่

    ปรากฏกายให้เห็นเด่นชัด เพราะมีหญ้าที่หนากว่า พวกเขาจึงพร้อมกันหันกลับไปดูสิ่งที่อรัญ

    พูด  



    """เหมือนเคยเห็นที่ใหน ..ในหนัง.."""


    กานต์ คิดในใจ  


    " โอ...ใช่.. ใช่แล้วไอ้ตัวนี้เหมือนในหนัง อะไรนะไดโนเสาว์ แร๊พเตอร์ ตัวแรพเตอร์ "


    คำอุทาน ของกานต์ทุกคนได้ยิน ถนัด และนึกถึงได้ว่าสิ่งที่กานต์อุทานนั้นคืออะไร


    " ใดโนเสาร์ เหรอ  อ้าวใหน ท่านตะเคียน่า บอกว่ามันจะไม่มาในวันสองวันนี้ไงล่ะ "


     จามิกร กล่าว เธอยังจำสิ่งที่ ตะเคียน่า บอกได้ดีทุกอย่าง


    " ที่ท่านตะเคียน่ะบอก ว่าไดโนเสาร์ ตัวใหญ่นะ แต่นี่เป็นขนาดเล็ก พวกมันอาจเสียชีวิตอยู่แถบ

    นี้ และเรคารียะ คงควบคุมมัน ให้เข้ามาทำร้ายพวกเราน่ะ แหละ แต่ทำไมดูมันวิ่งคล่องแคล่วจัง

    ไม่เหมือน กับตอนที่มันควบคุมซากศพร่างที่เราเจอคืนนั้นเลย "  


    อัครชัยกล่าว เขาสังเกตุสิ่งที่เห็น เจ้าซากไดโนเสาร์ เเร๊พเตอร์ นี้ดูคล่องแคล่ว ราวกับมีชีวิตเอง

    ไม่ได้ถูกควาบคุมแต่อย่างใด   และเมื่อมันเข้ามาใกล้เต็มทีแล้ว ทุกๆด้าน ก็ได้ปรากฏร่างของ

    พวกมันอีกหลายตัวโผล่ออกมาจากจุดที่ทุกคนพยายามมองไว้แต่แรก  ทั้งหมดถอยมารวมกัน

    หลังชนกันไว้และบัดนี้ ทั้งหมดได้อยู่ในวงล้อมของมันแล้ว  



    " ตายล่ะ ถึงมันจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังใหญ่กว่าเรามากนะ ขาใหญ่หนา และดูปากของมันสิ มัน

    พร้อมจะจิกและฉีกเนื้อพวกเรานะ "


    ดุจปรายรำพันบอกทุกคน เธอพยายามเบือนหน้าไม่อยากมองมัน  อรัญก้มลงหยิบมีดสั้นที่เสียบ

    ไว้ในซองที่ปลายขากางเกงมาถือมันไว้ในมือ และเขาก็สลัดมันออกไปทันที  

    .....ฉึก.......    เสียงคมมีดประทะเข้ากับลำคอที่หนา ของเจ้า สัตว์ร้ายตัวที่อยุ่ข้างหน้าใกล้พวก

    เขาที่สุดอย่างจัง แม่นเหมือนจับวาง มันปักเข้าไปลำคอ ของเจ้าสัตว์ร้ายเกือบมิดด้าม   แต่

    ทันใดทุกคนก็ต้องผิดหวัง เจ้าสัตว์ร่างนั้น ไม่ได้สะทกสะท้านและแสดงอาการว่าได้รับบาดเจ็บ

    แต่อย่างใด



     " โอ..ขนาดมีดปักขนาดนี้ยังทำอะไรมันไม่ได้เลย "


    อรัญ อุทาน   และยังไม่ทันที่ทุกคนจะพูดหรือทำอะไรกันต่อ เจ้าสัตว์ร่างหนานั้น ก็กระโจนเข้า

    โจมตีกลุ่มพวกเขาทันที มันพุ่งส่วนหัวของมันเข้ามา ทั้งหมดระวังตัวอยู่แล้ว ต่างฉากออกจาก

    รวมกลุ่มอยู่ ทันที แต่ปู่อินทร์ ก็ได้ตวัดปลายมีดเข้าร่างมัน ก่อนจะออกมา .แต่.ดุจปราย ขณะจะ

    แยกตัวออก เธอได้ประทะ กับร่างของ อัครชัย ทำให้ไม่สามารถขยับตัวออกไปจากที่นั้นได้ ร่าง

    บางของเธอตอนนี้จึงกลายเป็นเป้าประทะของมันทันที  ....บึก....ร่างดุจปราย กระเด็นตามแรง

    กระแทก ของส่วนหัวสัตว์ร้ายนั้น  ไปกลิ้งอยู่กับพื้นเธอรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง ตอนนี้เธอไม่มี

    เรี่ยวแรงเหลืออยู่แล้ว  และทันใดนั้น เจ้าสัตว์ ร้ายก็มองเห็นสภาพเธอขณะนั้น มันอีกตัวหนึ่งอ้า

    ปากกว้าง วิ่งตรงเข้าไปหาร่างบาดเจ็บของเธอที่นอนอีกทันที   อรัญเห็นเช่นนั้นเขารู้ดีว่าจะเกิด

    อะไรขึ้นกับแฟนสาว เขากระโดดขึ้นข้างหลังเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นทันที เเรพเตอร์ร้าย รู้ว่าบนร่าง

    มันขณะนี้มีสิ่งหนึ่งเกาะอยู่ มันหยุดก่อนถึงร่าง ดุจปรายซึ่งนอนบาดเจ็บอยู่เล็กน้อย มันพยายาม

    สลัดสิ่งที่อยุ่บนหลังของมันก่อน ที่จะสนใจดุจปรายแล้วตอนนี้ อรัญจ้วงแทงร่างสัตว์ร้ายอย่าง

    ไม่ยั้ง อีกมือหนึ่งก็เกาะหลังของมันไว้ แต่บาดแผลจากมีดที่ทำให้เนื้อหนังของเจ้าสัตว์ร้ายหลุด

    ลุ่ยได้ มันกลับไม่ได้ทำให้ร่างของมันสงบได้เลย และสุดท้าย อรัญก็ถูกสลัดกระเด็นตกจากหลัง

    ของมัน  ทันทีที่ร่างเขาถึงพื้น เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้น ไม่ปล่อยโอกาศให้หลุดมือมัน กระโจนเข้า    

    คล่อมร่างของเขา ไว้ทันที อรัญรู้ถึงภัย เขาพยายามตั้งสติ และทันทีที่มันก้มลงมาหมายจะจิก


    เขา เข้าก็คว้าจงอยปากหนาของมันไว้ได้ทัน  เขาพึ่งสังเกตุเห็นว่าในจงอยปากหนานั้น มีเขี้ยว

    และฟันเรียงกันเป็นตับ หน้าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เจ้าแร๊พเตอร์ พยายามสลัดให้มือเขาหลุดจากการ

    จับ เพื่อจะได้จัดการเขาได้ง่ายขึ้น แต่เขาก็จับไว้แน่นสุดฤทธิ์ เขารู้ดีว่าถ้าเขาปล่อยมืออะไรจะ

    เกิดขึ้นกับเขา  และขณะนั้นเขาก็ชำเลืองตามองคนอื่นๆ ดุจปรายยังคงนอนอยู่ตรงนั้น แต่บัดนี้

    เธอแน่นิ่ง อรัญคาดว่าเธอคงสลบไป  และอีกหลายคนก็กำลังประทะกับเจ้าสัตว์ร้ายสี่ห้าตัว แต่

    ส่วนใหญ่ พวกเขาจะเพลี้ยงพล้ำกันเสียมากว่า หลายคนกระเด็นกระดอนขณะต่อสู้ เพราะสัตว์

    ร้ายไม่สะทกสะท้านใดๆเลยแม้ทุกคนจะสามารถแทงมันได้หลายครั้ง   สัตว์ร้ายไม่มีทีท่าว่าจะ

    เหนื่อยอ่อน ซึ่งต่างจากพวกเขา  อรัญมือหลุดจากปากของสัตว์ร้าย ข้างหนึ่งเพราะมือข้างนั้น

    ของเขากำมีดไว้ด้วย เลยจับไม่ถนัด และเขาก็ต้องตกใจ มือข้างนั้นหล่นไปใกล้ร่างของดุจปรา


    เขาชักมือกลับทันทีเพราะกลัวปลายมีดจะไปทำอันตรายร่างแฟนสาว แต่ก็ไม่พ้น ตามแรงสะบัด

    ของสัตว์ร้าย ปลายมีดนั้นได้เสียบเข้าไปในร่างของดุจปรายอย่างจัง ถึงแม้ไม่แรงนักแต่ก็ฝัง

    เข้าไปลึกพอสมควร  อรัญเห็นเช่นนั้น เขาน้ำตาซึม เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ทำร้ายจิตใจเขายิ่งนัก เขา

    ตะโกนขึ้นด้วยความแค้น  


    " กูไม่ไหวแล้วโว้ย "  


    อรัญ ดึงมีดออกจากร่างแฟนสาว เขากระหน่ำแทงไปที่ร่างของสัตว์ร้ายอย่างบ้าครั่ง  เขาคิดว่า

    ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว  แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจร่างแรพเตอร์ ครานี้สะท้านทั้งร่าง และมัน

    ไม่ดึงดันเหมือนแต่แรก และร่างที่กระสันต์ที่จะทำร้ายเขาเมื่อกี้นี้ ก็กลับล้มตึงลงด้วย  อรัญลุก

    ขึ้นยืน เขาดีใจที่ล้มมันลงได้ แต่ก็แปลกใจ ที่ทำไม่เขาสามารถทำได้ตอนนี้ ทั้งที่แต่ก่อน สัตว์

    ร้ายทำไมไม่เป็นอะไรจากคมมีดของเขา  เขามองไปที่ร่างแร๊พเตอร์นั้น และก็เห็นสิ่งหนึ่ง มัน

    เหมือนหนอนแต่มีขนาดใหญ่ เท่ากับลำแขนของเขา และที่สำคัญมันแห้งกรัง และถึงมันจะใหญ่

    กว่าที่เขาเคยเห็นมามาก แต่เขาก็จำมันได้ดี



      """ เรคารียะ มันควบคุมร่างพวกนี้จริงๆด้วย แต่ว่ามันสิ้นฤทธิ์ได้ยังไง ไปโดนเรคินที่ใหน """


    อรัญอุทานในใจเขามองร่างสัตว์ร้ายที่แน่นิ่ง สลับกับ ร่างแห้งกรังของ เรคามียะ และหันกลับมา

    มองมีดที่ใช้จัดการกับมันเมื่อกี้นี้ และเขาก็สังเกตเห็นอะไรอย่างหนึ่งที่ปลายมีด มันเป็นสีแดงระ

    เรื่อ


    "" มีดไปเปื้อนอะไรมา หรือว่า ใช่แล้วนี่มันเลือดของดุจปราย"""


    อรัญอุทานในใจอีก และเขาก็นึกขึ้นได้  


    """เลือด ดุจปรายมีอะไรหรือว่า ใช่แล้วร่างกายของพวกเราเคยได้ล้าง เรคินมาแล้ว"""


    ความคิดหนึ่งเกิดขึ้น  อรัญพรวดพราดพุ่งไปข้างหน้า เขาพยายามจะตะโกนบอกเรื่องราวอย่าง

    หนึ่งกับทุกคนแต่ทว่ากลับเห็น  แสงดาวถูกแร็พเตอร์ตัวหนึ่งลากถูลู่ถูกังไปตามพี้น เนื้อตัวเธอ

    เปื้อนและเสื้อผ้าขาดวิ่น มีดในมือหลุดไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันลากไปจนเห็นว่าเธอไม่สามารถ

    ช่วยตัวเองได้แล้ว จึงได้ปล่อยลง และทำท่าจะงับไปที่คอของเธอ ไวเท่าความคิด อรัญพุ่งไป

    ทันทีและอีกเพียงเสี้ยววินาที่นั้น ก่อนที่จงอยปากจะถึงลำคอของเธอ สัตว์ร้ายก็ต้องสะดุ้งสุดตัว

    ปลายมีดของอรัญ นั้นเสียบพรวดเข้ากลับบั้นท้ายของมัน สัตว์ร้ายดิ้นเร่าๆ ล้มร่างลงไป และ    

    แสงดาวก็ยังมีแรงพอที่จะเบี่ยงตัวหลบ ก่อนที่จะโดนร่างของมันทับ  



    " อรัญทำได้ไง มันตายได้ยังไง "  


    แสงดาวระระล่ำระรักถามเพราะความอยากรู้ ทั้งที่เหนื่อยอ่อน  


    " เลือด ในเลือดของพวกเรามี เรคิน มีดเอาชุบเลือดพวกเรา ฆ่ามันได้ มันทุกตัวมี เรคารียะ  

    ของมัจเจ ควบคุมอยู่  "


    อรัญตอบ บัดนี้เขาแน่ใจแล้ว หลังจากที่ใช้วิธีนี้ได้ผลกับเจ้าสัตว์ร้ายนี้อีกตัวหนึ่ง  


    " ทุกคนรู้ยัง...อรัญ "


    แสงดาวถามขึ้นอีก


    " ยังเลย "


    อรัญตอบ


    " งั้นไปบอกเอ็ยไปช่วยพวกเขา เลย เดี๋ยวไม่ทันการณ์ "


    แสงดาวลุกขึ้นทันที เธอรู้ว่าร่างกายเธอตอนนี้มีเลือดออกจากร่างกายบ้างแต่ ตอนนี้เธอไม่

    สนใจแล้ว เธอวิ่งหามีดที่ตกอยู่แต่หาไม่เจอ จนกระทั่งวิ่งไปถึงร่างของดุจปราย มีดเล่มหนึ่งของ

    ดุจปรายตกอยู่ข้างร่างเธอที่แน่นิ่งนั้น แสงดาวคว้ามันขึ้นมาในมือทันที และจรดปลายมีดลงไป

    แตะที่ลิ่มเลือด ที่ซึมอยู่ตามร่างกายเธอ ยังไม่ทันที่จะทันทำอะไร เธอกระรู้สึกว่ามีอะไรกระแทก

    มาจากด้านหลังของเธอ  เธอถึงกลับหัวทิ่มตามแรงประทะนั้น แสงดาวรู้ทันทีว่าอะไรกระแทก

    เธอ ทันทีที่ทรงตัวได้เธอหันกลับไปมอง จริงดังคาดแร๊พเตอร์ร่างหนึ่งยืนจังก้าอยู่ แต่ทว่า

    สายตามันตอนนี้ กลับจับจอ้งไปที่ร่างของดุจปราย มันกระโดดเข้าไปที่ร่างดุจปราย และก้มหัว

    ลง ไปที่ร่างเธอ แต่ทว่าการก้มหัวของมันลงไปในครั้งนี้ มันกับไม่มีโอกาสได้ยกหัวขึ้นมาอีก

    แล้ว



    "  ฉับ "


    มีดในมือของแสงดาบฟันเข้าที่ก้านคอมันอย่างแรง เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาเรี่ยวแรงมาจาก

    ใหน ตอนนี้มีแต่ความโมโหและเครียดแค้นมาก ส่วนหัวของเเรพเตอร์ แยกส่วนกับ ร่างมันทันที

    และแสงดาวยังได้เห็น ตัวหนอนแห้งกรัง ถูกคมมีดผ่ากลางลำตัวมันใปด้วย


    " สะใจ จริงๆ เล๊ย"


    แสงดาวตะโกนลั่น  อย่างสะใจ และแสงดาว ก็เอามือไปอัง ที่จมูกดุจ ปราย เมื่อเห็นว่าเธอยังมี

    ลมหายใจอยู่

    "
     รอก่อนนะดุจปรายอย่าพึ่งเป็นอะไรนะ  ขอไปช่วยทุกคนก่อน แล้วจะกลับมาดูเธอ "


    แสงดาวกล่าวกับร่างดุจปรายที่แน่นิ่งนั้น ที่จริงใจเธออยากจะทำมากกว่านี้นอกจากแค่ดูด

    อาการเข้าดูอาการ ของดุจปราย แต่นึกถึงว่า คนอื่นคงกำลังลำบาก อย่างไรเสียดุจปรายก็ไม่ได้

    มี สัตว์ร้ายเหล่านั้นทำร้ายแล้ว ขณะนี้

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ..." เสริมกำลังมันเข้าไปอีก มัจเจ ถึงมันจะใช้เลือดทำลาย เรคารียะ ของเจ้าได้ ลองดูซิ ว่าถ้า

    ดิโนสิก น้อยพวกนั้น และเรคารียะ ของเจ้า มีนับหลายร้อยร่าง พวกมนุษย์ โลกพวกนั้น มันจะ

    ใช้เลือดกันจนหมดตัวได้ใหม  ถิ่น สะมันพรี ปิเยทั้งหลายไม่สามารถเข้าไปได้ไม่มีไครช่วยพวก

    มัน เจ้าต้องจบเรื่อง กับมนุษย์พวกนั้นที่นั่นให้ได้  "


     โอ๊คคาระ สั่งมัจเจ หลังที่ทราบความเคลื่อนไหวจากแดนไกล และผลของการต่อสู้ ในถิ่นสะมันพรี

    นั้น   โอ๊คคาระรู้ดีว่าบริเวรนั้น มี ซากแรพเตอร์  ที่พร้อมจะปลุกมาจัดการกับพวกของอัครชัย หลายร้อย

    ร่าง เพราะก่อนหน้านี้ นับหลายล้านปีเมื่อคราที่ เผ่า ดิโนสิก ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันยังได้อาศัย

    และรู้จักสมุนไพรจากถิ่นนี้ พวกมันรู้ว่า ต้นพืชที่นี่รักษาโรค ต่างๆให้พวกมันได้มันจึงดำรงเผ่า

    อยู่ในบริเวรเขตนี้จำนวนมาก  


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    .ย้อนกลับมา...

     แสงดาวกระชับดาบในมือมั่น เธอวิ่งเข้าหากลุ่มฝุ่นที่ตลบอบอวลที่มองเห็นทันที เธอรู้ดีว่า ตอน

    นี้ พวกที่เหลือคงกำลังลำบาก หลังจากที่แต่ละคน คงกำลังเสียที่เจ้าสัตว์ร้าย เธอภาวนาให้

    อย่างถึงกับว่า จะต้อง  เสียใครไปก่อนที่เธอจะทันได้ช่วยเลย  

    อัครชัยนอนนิ่ง หายใจแผ่วอย่างเหนื่อยและอ่อนแรงเขายิ้มที่มุม   ปากนิดๆ หล้งจากที่เห็น เจ้า

    สัตว์ร้าย ล้มลง และอรัญซึ่งได้ดึงมีดออกจากร่างมัน เข้ามาหา  ก่อนหน้านี้ เข้าได้ต่อสู้กับเจ้า

    ตัวนี้ ตัวที่มีมีดปักที่คอของมันโดยฝีมืออรัญเมื่อก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่สามารถสู้มันได้ จริงอยู่เขา

    แทงมันได้หลายแผล แต่อย่างที่รู้ สุดท้ายกำลังเขาก็หมด แขนสองข้างถูกกัดอย่างเหวอะหวะ

    และกำลังปลงตกด้วยซ้ำเมื่อสักครู่ว่าเขาอาจจะต้องตายอยู่ร่อมร่อ ก่อนที่อรัญจะเข้ามาช่วยเข้า

    ไว้อย่างทันการ



    " เป็นยังไงบ้างหมอ ไหวไม๊  "


    อรัญถามพร้อมประคองหัวเขาขึ้น  อัครชัยขยับจะพูด แต่เขากลับสำลักเลือดออกมา


    " ไม่ต้องพูดแล้ว หมอพักเถอะ เดี๋ยวขอไปจัดการกับมันสองตัว  ที่เหลือก่อน ขอเลือดหน่อย

    นะ "  


    อัครชัยไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งทีอรัญทำ เห็นอรัญเอามีดไปแต่เลือดที่เขาสำลักออกมา และ

    อรัญยังไปดึงมีดที่ปักอยู่ที่ลำคอของแรพเตอร์ ที่สิ้นฤทธิ์อยู่ออกมา และนำมาแตะที่เลือดอีก

    แต่เขาไม่มีแรงพอที่จะถามแล้วตอนนี้  แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเห็นคือสิ่งนั้นแห้งกรังที่ตกอยุ่ข้างร่าง

    แร๊พเตอร์ ทำให้เขาพอเข้าใจมากขึ้น  และเเล้วมีดสั้นของอรัญก็ถูกใช้อีกครั้ง แต่คราวนี้มันได้

    ผล แม้จะโดนร่างแรพเตอร์ เพียงแค่เฉี่ยวๆ เท่านั้น



    " นี่แน่ะ นี่ๆๆๆๆ "


    แสงดาวกระหน่ำแทงซากแรบเตอร์เต็มแรงทั้งที่มันล้มลงแล้วแต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุด จนอรัญบอกให้เธอ

    พอ

    แสงดาวหยุด ตัวเธอโยนด้วยความเหนื่อยจากการกระทำเมื่อกี้นี้ แร๊พเตอร์ ทั้งหกตัวสิ้นฤทธิ์

    หมดแล้ว แต่พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บแบบสาหัสไปสองคน คือ อัครชัย และดุจปราย ที่แน่นิ่งอยู่

    ตอนนี้ ทั้งหมดรีบเข้าไปดูทั้งสอง


    " โอ....บาดแผลฉกรรจ์มากเลยหมอ "


    ปู่อินทร์ อุทานหลังจากที่ได้เห็นสภาพของอัครชัยในตอนนี้  เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างเหมือน

    กัน เจ้าแรพเตอร์นั้น ทั้งกระแทกทั้งชน ยังดีที่มันไม่ได้กัดเขาได้เสียก่อน ที่อรัญจะเข้ามาช่วย

    ไม่อย่างนั้นสภาพของเขาก็คงไม่ต่างจากอัครชัย  ส่วนกานต์ และจามิกร โชคยังดี ที่เจ้าแรพ

    เตอร์ นั้นมีตัวเดียวที่เข้าโจมตีคนทั้งสอง เขาจึงพยายามหลอกล่อมันไปมาให้มันสับสนได้ จน

    แสงดาวเข้าไปช่วยไว้



    " บาดแผลสาหัส ทั้งสองคนเลยนะ ดุจปรายก็โดนกระแทกอย่างจัง ไม่รู้กระดูกกระเดี้ยวข้างใน

    เป็นยังไงบ้างไม่รู้ ไอ้พวกนี้มีกำลังมาก  "

     
    ปู่อินทร์พยายามดูบาดแผล แต่ยังมิทันจะได้พิเคราะห์อะไรละเอียด


    "  เอ๊ะ... "  


    เสียงหนึ่งดังเข้าโสตประสาทปู่อินทร์


    " ทุกคนฟังสิ...เสียง"


    ปู่อินทร์ได้ยินเสียงหนึ่งเขาพยายามบอกทุกคน และมองหาต้นเหตุของเสียง


    " เออ..เสียงโน๊น..โน่นไง "


    เมื่อเห็น เขาก็บอกกับทุกคน  ทุกคนพยามหันไปดูจุดที่ปู่อินทร์ชี้มือบอก พวกเขาได้เห็น เบื้อง

    ตะวันตกนั้น บัดนี้ ทุ่งหญ้าราบเป็นหน้ากอง พร้อมทั้งมีอะไรผลุบโผล่มาทางนั้น พวกเขาจำมัน

    ได้



    " พวกมันมากันอีกแล้ว คราวนี้มาแบบมืดฟ้ามัวดินเลย  เราคงต้านไม่ใหวแน่เยอะขนาดนี้และ

    พวกเราก็บาดเจ็บด้วย ถอยก่อน พยายามกลับไปที่เราเข้ามาให้ได้ เราต้องมีตัวช่วยแล้ว เรา

    ต้องแบกคนบาดเจ็บไปด้วย "



    เสียงปู่อินทร์ระร่ำระลัก สั่ง อรัญฉวยเข้าคว้าร่างไม่ใหวติงแฟนสาวขี้นพาดบ่า เข้ารู้ว่ามันอาจจะ

    ไม่ปลอดภัย หากเคลื่อนย้ายร่างดุจปรายไปในขณะที่ไม่รู้ว่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ แต่

    เขาไม่มีทางเลือก จะต้องหนีแล้ว  กานต์ กระโดดเข้าช้อนร่างของอัครชัยเช่นกัน แต่ปู่อินทร์

    ห้ามไว้



    " ให้สองสาว ประคองหมอไปจะดีกว่า เราสองคนต้องต้านด่านหน้าของพวกมัน เราหนียังไม่ทัน

    ถึงใหนหรอก พวกมันต้องตามมาทันก่อน "


    ปู่อินทร์ บอก แสงดาว และ จามิกร เข้าประคองร่างอัครชัยตามที่ ปู่อินทร์บอกทันที กานต์ก็

    เตรียมพร้อมมีดหลายเล่มถูกแตะที่เลือดจนหมดและปู่อินทร์กับกานต์ ก็ได้นำมาถือไว้ เพื่อให้

    ทุกคนที่พาคนเจ็บได้เดินทางสะดวก และทั้งหมดก็ถอยกลับออกมาจากที่นั่นทันที













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×