ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อนาสตาเซีย แห่งการเริ่มต้น

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 2 ต้นเหตุมาจาก..

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      14
      27 ก.พ. 61

     Яυbɥ Thємє V.² !


    ตอนที่ 2

    " เจ้าคิดดีแล้วหรือ ยังไม่ได้บอก 'เขา' ใช่ไหม?" เสียงทุ้มที่เปล่งออกมานั้นแฝงด้วยความกังวล

    " ทำไมข้าต้องรายงานเขาเสียทุกเรื่องด้วยเล่า หรือว่าท่านเห็นเขาสำคัญกว่าข้า ท่านพ่อฮาเดส " ใช่เหตุใดนางจะทำอะไร แล้วจะต้องบอกเขาก่อนด้วยเล่า และอีกอย่างในเมื่อตัวนางเดินเข้าประตูมิติเข้ามาแล้ว เรื่องอะไรจะต้องไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นด้วย คิ้วบางขมวดเข้าหากันอย่างเอาแต่ใจ

    " ตามใจเจ้าละกัน ในเมื่ออย่างไรในไม่ช้านี้ 'เขา' ก็ตามเจ้าเข้ามาอยู่ดี " แต่คงไม่ทันอีกตามเคย เจ้าของร่างสูงที่กำลังยืนคุยกับนางในประตูมิติได้แต่ถอนหายใจและกล่าวอย่างจนใจ เหอ นี่พวกเขาทั้งสามก็ร่วมกันสร้างมาทั้งสิ้น แต่ทำไมถึงได้นิสัยเจ้าชู้จากพี่ชายและน้องชายของเขาไปอย่างเต็มเปี่ยมเล่า ทั้งที่เขาไม่ได้เจ้าชู้เลยแม้แต่น้อย ทำไมนางไม่ได้นิสัยเขาตรงข้อนี้ไปบ้างนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเหนื่อยใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อนางก็เป็นความสุขของพวกเขา และพวกเขาเองก็อยากมีหลานด้วยเหมือนกัน

    เป็นเพราะนางมีพลังที่แข็งแกร่งจนเกินไปจนเด็กไม่สามารถมาเกิดได้ แม้นางจะเคยตั้งครรภ์บ้าง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจำต้องมีเหตุให้นางเป็นต้องแท้งเสียทุกรายและทุกครั้งนางจะท้องไม่เกินสี่เดือนทั้งนั้น มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่นางตั้งท้องได้นานถึงแปดเดือนอาจจะด้วยผู้เป็นพ่อที่มีพลังแข็งแกร่งพอตัวด้วยก็อาจจะเป็นได้ เด็กในท้องจึงดวงแข็งไปด้วย แต่ก็มีเหตุให้ต้องเสียเด็กไปอีกเช่นเคย

    นึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาก็ยังสะเทือนใจไม่หาย เขานั้นสงสารนางจับใจ แต่ถ้าจะเนรมิตลูกขึ้นมาให้นางก็ทำไม่ได้ เพราะอัญมณีที่สร้างนางมานั้นมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสำคัญของบิดาของพวกเขาซึ่งพวกเขาได้ร่วมมือกันโค้นอำนาจและถูกแยกร่างไปแล้ว จึงทำได้แค่เพียงรอ และช่วยเหลือนางต่อไปเท่านั้น โดยทุกๆสิบปีประตูมิติจะถูกเปิดออกโดยต้องใช้อัญมณีที่หายากและพวกเขาทั้งสามจะมีคนใดคนนึงที่จะคอยส่งนางไปในดินแดนต่างๆ ตามที่นางต้องการ ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม เพราะชีวิตพวกเขาเป็นนิรันดร์ทำให้มีเวลาว่างมากเกินไป จนต้องหาเวลามาทำอะไรยามว่าง ส่วนโชคชะตาจะเป็นตัวกำหนดว่าเนื้อคู่ของนางในแต่ละภพจะเป็นใคร เนื้อคู่ของนางทุกคนนั้นถูกสรรหามาเป็นอย่างดี ล้วนแล้วแต่มีรูปโฉมงดงามตามที่นางชอบ หล่อเหลาไปคนละแบบ และยังมีความสามารถที่แตกต่างกันอีกด้วย ดูทุกอย่างเหมือนจะดูดีไม่หมด แต่ก็ไม่มีลูกของใครที่สามารถลืมตามาดูโลกได้ และบางคนก็ไม่แม้แต่จะมีโอกาสขึ้นมาบนนี้ด้วยซ้ำ ไอที่มีอยู่ในปราสาทของนางนั้นก็ยากเย็นแสนเข็ญเหมือนกันกว่าจะรอดเงื้อมมือของ " เขา " มาได้

    " ท่านก็อย่าบอกเขาเสียซิ หรือไม่ก็บอกว่าข้าไปตรวจตราดินแดนด้านล่างก็ได้นี่หน่า " แววตาที่ส่งออกมานั้นวาววับ เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง ทั้งยังยิ้มประจบ

    " เบลล่า เจ้าก็รู้ว่าประตูนี้เมื่อเปิดใช้แล้วจะเลือกภพที่จะไปได้แค่ครั้งละภพเท่านั้น แล้วอีกอย่างคิดว่า 'เขา' จะไม่รู้หรอกหรือว่าเจ้าจะทำอะไร หืม เด็กโง่ " ไม่รู้ว่าเขาถอนหายใจบ่อยจนอายุขัยที่เป็นอมตะของเขาจะสั้นลงมาบ้างหรือเปล่า

    " ... " หญิงสาวเพียงหยักไหล่เป็นคำตอบ

    " ครานี้เจ้าเอาอะไรมาแลก "

    " พลัง ภพนี้ข้าจะไม่มีพลัง " เสียงหวานเปล่งออกมาหลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง

    " แค่นั้นหรือ " จ้าวแห่งนรกถาม ดูเหมือนนางจะไม่ได้เตรียมของมาแลกซินะ แต่แค่นี้คงยังไม่พอ

    ใบหน้างามยิ้มหวานอ่อนมา

    " ความทรงจำ " แล้วกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ สร้างความไม่พอใจในบุรุษตรงหน้าทันที

    " ข้าว่าเจ้ากลับไปหาของมีค่ามาแลกเสียดีกว่า เจ้าไปเพื่อกำราบปีศาจ อย่าลืมเสียสิ ไร้ซึ่งพลังก็ว่าหนักแล้ว หากไรซึ่งความทรงจำ เจ้าจะรู้หน้าที่ได้อย่างไร " ใช่แล้วภารกิจหลักในแต่ละครั้งนั่นก็คือคอยหยุดยั้งเหล่าปีศาจ และอสูรกายที่พยายามแหกคุกออกมายังโลกมนุษย์ทางช่องโหว่ต่างๆ เรื่องอื่นนั้นเป็นเพียงเรื่องรอง

    " ท่านก็ให้ข้าจำเพียงภารกิจ เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องจำ " นางยังยืนยันหนักแน่น ทำให้เขาต้องถอนให้ใจออกมาอีกหน

    " อพอลโล่ทำนายมาว่า ครั้งนี้เจ้าต้องมีชีวิต 500 ปี " เสียงของเขาเคร่งขรึมขึ้นทันที เมื่อบอกเรื่องนี้ออกไป

    " เพราะเหตุใด มนุษย์คนใดบ้างมีชีวิตถึง 500 ปี จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทำไมไม่บอกข้า " หญิงสาวเปลี่ยนท่าทีไปในบัดดล ดวงตาแฝงความจริงจังและขึงขัง ไร้ซึ่งแววล้อเล่นดังเดิม

    " รู้แค่ว่าครานี้จะเป็นศึกหนัก คำทำนายบอกอะไรไม่ได้มากเจ้าก็รู้ "

    " หรือจะเป็นเรื่องของโคร.. "

    " อย่าได้เอ่ยนาม!!! แค่นามก็มีอำนาจยิ่งใหญ่เกินกว่าเจ้าจะคะเนได้ ข้าห้ามเจ้าไม่รู้จะกี่ครั้งแล้วหะ เบลล่า อย่าได้มั่นใจในพลังของตนมากนัก ต่อให้เจ้ามีพลังมากเพียงใดแต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้ามีพลังเหนือกว่าหรือทัดเทียมกับเขาหรือเปล่า จงอย่าได้เสี่ยงเอ่ยนามนี้อีกเด็ดขาด " เสียงอันแข็งกร้าวดังไปทั่วพื้นที่ จนหญิงสาวตรงหน้ายังตกใจ ดวงตาของจ้าวแห่งนรกฉายแววหวั่นวิตกออกมาเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลบสายตาไปทางอื่น

    เหตุใดเมื่อใดที่เธอเอ่ยถึงผู้นั้นท่านพอทั้งสามต้องแสดงความวิตกออกมาถึงเพียงนี้

    " ขออภัย ท่านพ่อ ข้าลืมตัวไป " ใบหน้างดงามขาวซีดลงทันตา เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าอย่างที่ไม่ค่อยจะเกิด

    " เอาล่ะ เจ้าเข้าไปต่อรองกกับตาแก่ขี้ลืมนั้นดีกว่า เสียเวลามามากพอแล้ว "

    หลังจากผ่านเข้ามาอีกมิติหนึ่ง ก็พบกับชายสูงอายุ เสื้อผ้าล้วนเป็นสีเทา ทั้งยังเส้นผมที่ขาวโพลนไปทั้งศีรษะ หนวดบนมุมปากนั้นก็ยังไม่เว้น ให้ความรู้สึกหม่นหมองชอบกล แต่กลับมีกลิ่นอายน่าเกรงขามออกมา บ่งบอกให้รู้ว่าชายผู้นี้ล้อเล้นด้วยไม่ง่ายนัก รอบกายมีหม้อขนาดใหญ่เรียงอยู่มามายนับไม่ถ้วน ในหม้อแต่ละใบก็มีทางเข้าไปสู่มิติอื่นๆหลากหลายที่ ตอนนี้เขากำลังมองไปที่หม้อใบหนึ่ง ก่อนจะสัมผัสได้ถึงผู้มาใหม่จึงเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองไปยังหญิงสาวผู้มีความงามเป็นหนึ่ง ซึ่งเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    " ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ ท่านยังงดงามไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ มานี้ซิท่าน " หญิงสาวเพียงยิ้มออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายสูงอายุที่กวักมือเรียกหยอยๆ ใบหน้ายิ้มแป้นออกมาทิ้งความเงียบขรึมไปเสียสิ้น เหมือนเด็กน้อยเรียกเพื่อนก็ไม่ปาน

    " ข้าได้เตรียมการรอท่านไว้แล้ว ด้วยรู้ว่าท่านต้องมาแน่ๆ " แกนนอนพูดออกมาทั้งยังรู้สึกภูมิใจไม่น้อย เบลล่ามองไปยังหม้อขนาดยักษ์เบื้องหน้า ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยรู้สึกแปลกใจ

    " ความจำของท่านคงดีขึ้นมาก " นางพูดยิ้มๆ ไม่ยักรู้ว่าเขาก็สนุกไปกับนางด้วย

    " ข้าจะลืมเรื่องของท่านไปได้อย่างไรเล่า หน้าที่นี้สำคัญยิ่ง ไม่รู้ด้วยเหตุใด ประตูมิติที่ลงไปยังทาทารัสถึงผุดขึ้นมากมาย ทำให้เจ้าพวกนั้นพากันลักลอบแอบหนีกันขึ้นมาบนแดนมนุษย์ แต่เรื่องมันยังไม่ได้เกิดขึ้นทันทีในดินแดนนั้น ด้วยคำทำนายทำให้เราได้รู้ก่อน หากแต่ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรจะหลุดมาบ้าง หรือ'ใคร'จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ " เสียงของเขากล่าวขึ้นอย่างเป็นกังวล ก่อนจะเอ่ยต่อ

    " ได้ยินมาว่าคำทำนายคือท่านจะมีอายุไขถึง 500 ปี ข้าว่าคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ " แล้วทุกเสียงก็เงียบไป แกนนอนทำเพียงลูบหนวดของตนอย่างใช้ความคิด

    " ช่างเถิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่ต้องดูแลความสงบของทุกภพ ท่านมีอะไรจะต้องแจ้งข้าหรือไม่ " รู้สึกลังเลยิ่งนัก ด้วยใครก็รู้ว่าบุรุษเบื้องหน้านางนั้นขึ้นชื่อเรื่องความขี้ลืม ไม่เข้าใจเสียเลยว่าเหตุใดจึงได้รับหน้าที่มาดูประตูมิติมากมายขนาดนี้ แต่เขาก็ยังทำหน้าที่ได้ดี จนต้องยอมรับ

    " เป็นยุคโบราณสมัยราชวงศ์ ราชวงศ์หนึ่ง จะมีพลังที่เรียกว่าวรยุทธ์ ลมปราณที่ใช้กัน และในเมื่อท่านมีอายุถึง 500 ปี คู่ครองของท่านที่ได้เข้าพิธีปฏิญาณคำสัตย์ต่อกันแล้วเขาจะมีอายุยืนเท่ากับท่าน " มนุษย์มีอายุ 500 ปีมันคงไม่แปลกมากหรอกกระมัง หญิงสาวคิด

    " ข้าไปที่นั้นในฐานะอะไร " คงไม่รันทดมากนักใช้หรือไม่ แต่คนอย่างนางลำบากแค่ไหนก็เจอมาแล้ว

    " ท่านเป็นบุตรีของเสนาบดีกลาโหม เอ่อ เป็นยศของมนุษย์ ณ ดินแดนนั้น มีพี่ชายเป็นแม่ทัพสูงสุด เอ....รู้สึกว่าท่านจะมีศักดิ์เป็นองค์หญิงพระราชทาน ใช่ๆ เป็นดินแดนที่ชายเป็นใหญ่ด้วย เอ แต่เหมือนข้าจะลืมอะไร " เมื่อเห็นชายสูงอายุตรงหน้าเหมือนจะเริ่มสับสนในตนเอง เบลล่าก็ถอนหายใจออกมาอย่างปรงๆ

    เหอะ ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็นตาแก่ขี้ลืมอยู่วันยังค่ำ

    " ช่างมันเถอะ รอข้าไปเจอด้วยตัวเองก็แล้วกัน จะได้ท้าทายดี "

    " เอ่อ ก็ดีเหมือนกัน ฮ่าฮ่า " หลังจากทะเลาะกับตัวเองอยู่พักหนึ่ง เมื่อหญิงสาวผู้ยิ่งใหญ่ก้าวออกมาเช่นนั้น เขาก็เออออทันที

    " อ่อ จริงซิ แล้วของแลกเปลี่ยนเล่า " เขาเกือบลืม

    " ข้าไม่มี มีแต่ความทรงจำ และพลัง เจ้าต้องการแค่ไหนเล่า " นางกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย ไปแบบความทรงจำไม่มี ไร้ซึ่งพลังก็คงสนุกไม่น้อย

    เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ชายแก่ก็ตกใจไม่น้อย

    " ข้าว่าท่านออกไปหา... " ยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแทรงขึ้นมา

    " อย่าเลย ขืนข้าออกไปก็คงไม่ได้กลับเข้ามาแล้วล่ะ เจ้าก็รู้นิสัย 'เขา' นี้ "

    " อืมม ข้าลืมไปเสียเลย ขอเวลาข้าคิดซักครู่" นี่นางก็คงจะหนีเข้ามากระมัง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาเมื่อนึกถึง 'เขา' คนนั้น เห็นทีคงต้องปิดประตูมิติไม่ให้ใครเข้ามาที่นี้ซักพักกระมัง

    " เฮ้อ เอาเช่นนี้ ข้าจะดึงพลังของท่านมาครึ่งหนึ่ง แต่ก็จะมอบอาวุธติดกายไปให้ไว้ใช้ และท่านต้องร่ายเวทย์ทุกครั้ง อ่อ แหวนวงนี้ใช้เปิดประตูมิติให้เหล่าทหารของท่านออกไปช่วยหากศึกมันหนักเกินไป เพียงปักลงดินแล้วเอ่ยขานผู้ที่ต้องการเรียก เขาจะได้ยินคำขอของท่าน หากแต่เรียกได้แค่ครั้งละร้อยคนเท่านั้น ทั้งเวลายังจำกัด เอาไว้ข้าจะส่งสารไปให้รองแม่ทัพที่อนาสตาเซียให้เตรียมตัว " พูดจบเขาก็ยื่นแหวนวงหนึ่งใปให้ เบลล่าหยิบมาสวมทันทีโดยไม่ลังเล ด้วยคุ้นตาดีว่ามันคือแหวนเปิดมิติ เขาคงถอดชิ้นส่วนของแหวนของตัวเองมาให้เธอบางส่วน เมื่อสวมเสร็จแหวนนั้นก็หายวับไปในทันที แกนนอนเห็นเช่นนั้นก็กล่าวต่อ

    " แต่ท่านก็ยังได้พลังชำระล้างติดตัวไปด้วย คงไม่ต่างกับการรักษา ส่วนเรื่องความทรงจำนั้น ท่านมีอายุมาจะ 3,000 ปีแล้วกระมัง ข้าจะผนึกความทรงจำของท่านไป 800 ปี ความทรงจำของท่านก่อนหน้านี้ 800 ปีจะถูกเก็บไว้ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ท่านพลังเลยขั้นสูงสุดไปแล้ว ศึกครั้งนั้นก็จบไปซักพักนึงแล้ว ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นช่วงอสูรการอาละวาดพอดี เอ ช่วงนั้นท่านรับสวามีรองคนที่ 5 พอดีกระมัง " แล้วเขาก็เข้าสู่ความคิดของตนอีกครั้งด้วยท่าทางคิดหนัก จนเบลล่าต้องกรอกตาขึ้นฟ้า

    " ช่างเรื่องนั้นเถอะ " ทำให้เขาหลุดออกจากความคิด

    " เหอ แต่นั้นก็ยังไม่พออยู่ดี อืมม เอาเช่นนี้ข้าขอดึงความทรงจำระหว่างท่านกับ 'เขา' เก็บไว้ก็แล้วกัน คงจะเพียงพอพอดี " เขาคำนวณดูแล้ว

    " หืม เจ้ามั่นใจหรือว่าจะรองรับความพิโรธของเขาได้หากเขารู้เข้าน่ะ "

    " ตายหละหว่า ข้าลืมคิด แต่ถ้าเอาส่วนนั้นมามันจะพอดีเลยหละ "

    " เจ้าก็บอกว่าเจ้าดึงความทรงจำข้าไปเกือบหมดก็สิ้นเรื่อง " ยิ่งพูดยิ่งมาความ

    " อ่า เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ท่านจะรับรู้ถึงภารกิจในครั้งนี้ติดตัวไปด้วย "

    " ข้าจะไปได้หรือยัง " เบื่อขี้หน้านี่จะแย่ อีกอย่างยิ่งอยู่นานยิ่งอันตราย ถ้า'เขา'เข้ามาก่อนล่ะจะแย่

    " อะ ได้ๆ เชิญท่านเอลล่า " พร้อมทั้งผายมือไปยังหม้อที่อยู่เบื้องหน้า

    สิ้นเสียงนั้นหญิงสาวก็หน้าเมื่อยรู้สึกคิ้วกระตุกขึ้นมา แต่ก็ยังเดินเข้าไปใกล้หม้อใบโต

    " นามข้าคือเบลล่า แกนนอน " แกนนอนก็ยังเป็นแกนนอนวันยังค่ำ

    " ฮ่าฮ่า ขอให้โชคดีนะท่านเบลล่า " เขาขำแก้เก้อสองสามทีก่อนจะเตรียมทำพิธี

    เป็นดินแดนแบบไหนกันหนอ " เสียงหวานพูดเสียงเบา คล้ายพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลง แล้วร่างทั้งร่างก็กลายเป็นเพียงแสงสีขาวสายหนึ่งลอยเข้าไปในหม้อมิติ

    ผ่านไปซักพักเขาก็ลืมตาขึ้น สายตาเหลือบไปเห็นถาดทองคำที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ก่อนจะเบิกตากว้าง

    " อ่าวแล้วเนื้อคู่เล่า "

    ชายชราจึงเดินเข้าไปหยิบมา ในมือของเขาถือถาดสีทอง ด้านในมีลูกแก้วหลากสีจำนวนหลายสิบลูกเรียงกันเป็นระเบียบ เป็นดวงวิญญาณชายหนุ่มซึ่งเป็นเนื้อคู่ของนางทั้งสิ้น มนุษย์เหล่านี้มีดวงชะตาคู่กับเบลล่าทุกคน แต่เพราะนางไม่ได้ไปเวียนว่ายตายเกิด พวกเขาจึงไร้คู่ ดังนั้นจึงต้องเลือกบุรุษให้มาเป็นเนื้อคู่ของนางตอนนี้หนึ่งคน แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เลือก เขาก็ส่งนางไปเสียแล้ว

    แกนนอนถือถาดด้วยมือซ้ายและเดินไปยังหม้อที่เหมือนมีน้ำวนเบื้องหน้าที่พึ่งส่งหญิงสาวเข้าไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด สงสัยข้าต้องเป็นคนเลือกเองกระมัง

    " ครึก " เสียงดังสนั่นไปทั่วมิติ พร้อมทั้งเกินแรงสั่นสะเทือนอันรุนแรง เป็นเหตุให้เจ้าของร่างในชุดเทาสั่นครอนไปด้วย ลูกแก้วในถาดเกิดการไม่สมดุลทำให้เทลงไปในหม้อเบื้องหน้าเสียเกือบครึ่งถาด ยังดีที่เขาเอื้อมมือขวาไปประคองถาดและลูกแก้วที่เหลือได้ทัน จึงไม่ได้คว่ำไปทั้งถาด และรอบด้านก็หยุดสั่นคลอนพอดี

    " จ๋อม จ๋อม " ลูกแก้วเกือบสิบลูกตกลงไปในน้ำวนในหม้อทันที ตาเฒ่าได้แต่มองเหตุการณ์เบื้องหน้าตาปริบๆ

    " ข้าไม่ได้เป็นคนทำนะ ท่านเบลล่า "

    ผ่านไปไม่นานหลังจากเบลล่าเข้าไปหาแกนนอน ในมิติที่มีแต่สีขาวโพลนแห่งนี้ก็ปรากฏกายของชายซึ่งมีใบหน้างดงามหากแต่คมเข้มสมชาย ก้าวเดินเข้ามาเรื่อยๆด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ฉับพลันม่านมิติก็โผล่ขึ้นพร้อมกับชายคนเดิมปรากฎอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะตัวเดิม

    " หาได้ยากยิ่งที่บุตรชายของข้าจะมีสีหน้าอื่นนอกจาก 'เย็นชา' "

    " ครานี้ เป็นท่าน " ร่างสูงหยุดเดินแล้วมองไปเบื้องหน้า เมื่อเห็นก็ก้มหัวทักทาย ไม่ได้ให้ความสนใจประโยคข้างต้น

    " รู้ไหม ถ้าหากเจ้ายิ้มบ่อยๆเสียหน่อย บางทีนางอาจจะหลงเจ้าจนโงหัวไม่ขึ้นก็ได้นะ บุตรแห่งข้า " เห็นหน้าบุตรชายเพียงคนเดียวของตนทีไร ให้รู้สึกห่อเหี่ยวทุกทีเลยซิหน่า ใบหน้าก็ออกจะงดงามเหนือผู้ใด แต่กลับดึงดูดนางผู้นั้นไว้ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าเขายังไม่ดีพอหรือเพราะนางไม่รู้จักพอกันแน่หนอ

    " ท่านปล่อยให้นางไปหรือ? " เขาไม่ตอบแต่กลับถามเสียงเย็นออกมา และมองมาที่ตนเย็นเหยียบ

    เจ้านี้ ถึงแม้จะเป็นบุตรของข้า แต่กลับช่างดูเย็นชา และดุดันกว่าเขาเช่นนี้ คนเป็นพ่ออดที่จะเศร้าใจไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเขากับหญิงอันเป็นที่รัก นี่ยังเห็นเขาเป็นพ่ออยู่หรือไม่

    "เจ้าก็รู้ว่ายังไงข้าก็ห้ามนางไม่ได้ เหตุใดต้องมาส่งสายตาประนามข้าเช่นนั้นด้วยเล่า ฟินิกซ์ " เป็นเขาเองแหละทำให้ทั้งสองได้เจอกัน บุตรของเขานั้นเกิดหลังจากที่พวกเขาสร้างเบลล่าสำเร็จแล้ว

    เขานั้นพาฟินิกซ์ที่ยังแบเบาะขึ้นมาฝากให้นางซึ่งเริ่มโตเป็นสาวแล้วเลี้ยงบ่อยๆ โดยอ้างว่ากลัวลูกเหงา แต่เป็นเขาเองต่างหากที่ขี้เกียจเลี้ยงลูก บวกกับอยากมีเวลาอยู่กับคนรักนานๆ จนถูกชายาของตนต่อว่าบ่อยๆด้วยห่วงลูก แต่เบลล่าเองก็ไม่ได้รังเกียจ หรือรำคาญเด็กน้อยแต่อย่างใด เมื่อเขาเริ่มเติบโต ก็เป็นเบลล่าที่คอยสอนเขาในเรื่องต่างๆ เพราะฟินิกซ์เป็นลูกชายของเขาซึ่งเป็นหนึ่งในมหาเทพ และได้รับพลังไปค่อนข้างมาก รวมถึงมีสมองที่ชาญฉลาดอีกด้วย ทำให้เรียนรู้ได้ไว แต่ตั้งแต่เด็ก ฟินิกซ์จะเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ทำเพียงแสดงสีหน้าเรียบเฉยมาตลอด อาจจะเป็นนิสัยที่ได้มาจากเขา แต่เมื่อได้อยู่กับเบลล่าแล้ว ดูเหมือนเขาจะดูมาความสุขมากทีเดียว และเมื่อเติบโตมาเรื่อยๆ อิซเบลล่าก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ฟินิกซ์เองก็ไม่มีอะไรให้ต้องเรียนแล้วนอกจากศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง อยู่ดีๆฟินิกซ์ได้ขอไปฝึกตนอยู่ในภูเขาในแดนนรกลูกหนึ่ง และห้ามใครรบกวน ทำให้ทั้งคู่เริ่มไม่เจอหน้ากัน และเริ่มห่างเหิน

    แต่ก็นะ สุดท้ายแม้จะมี"เรื่องบางเรื่อง"เกิดขึ้น ตอนนี้บุตรชายของเขาก็ได้เป็นพระสวามีเอกของนางสมใจอยากแล้ว

    " ภารกิจครั้งนี้ไม่ธรรมดา " เสียงของฮาเดสนั้นเคร่งขรึมขึ้นทันตา

    " ปึง!! ท่านรู้ แต่ท่านยังปล่อยให้นางไปเพียงลำพัง " ฝ่ามือของชายหนุ่มกระแทกลงบนโต๊ะใหญ่เบื้องหน้าจนแหลกละเอียด เป็นเหตุให้สั่นสะเทือนไปทั่วมิติ รวมถึงมิติด้านข้าง ให้ตายสิ ถึงว่าทำไมทุกอย่างรอบกายเขามันถึงได้ดูวุ่นวายจนเขาปลีกตัวออกมาไม่ได้ ที่แท้ก็เป็นแผนของนาง ใบหน้าของชายหนุ่งจึงเริ่มดำทมึน

    ยังดีที่เขากระโดดออกมาทัน ผู้เป็นพ่อถอนหายใจอย่างโล่งอก ชักจะไม่มันใจแล้วซิว่าใครเป็นพ่อกันแน่

    สุดท้ายเขาก็เอ่ยเสียงเย็นออกมาไม่ต่างจากบรรยากาศรอบข้าง

    " มันเป็นดวงชะตาของนาง ฟินิกซ์ "



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×