ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อนาสตาเซีย แห่งการเริ่มต้น

    ลำดับตอนที่ #38 : ตอนที่ 30 แค่หลับตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 66
      6
      7 ก.ค. 61


    ตอนที่ 30

    “ ... ” สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอันดับแรกคือม่านสีขาวสะอาดตาซึ่งทิ้งตัวลงมาเกี่ยวกับเสาของเตียงนอนทั้งสี่มุม เมื่อไล่สายตาลงมาก็เจอกับสภาพรอบข้างอันแสนคุ้นตาไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ หรือตู้ รวมถึงสิ่งของต่างๆที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีสีขาวและน้ำเงินเป็นหลัก รวมถึงผ้าห่มผืนนี้ที่เป็นสีน้ำเงิน

    จะไม่ให้คุ้นตาได้อย่างไร ในเมื่อที่แห่งนี้คือห้องนอนของนาง

    หญิงสาวค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหมอนดวงตากระพริบปรับแสงช้าๆในขณะที่สมองกำลังประมวลผลอย่างเร็วรี่

    นางกลับมาที่นี่ได้อย่างไร?

    ภารกิจเสร็จสิ้นแล้วหรือ?

    แต่สิ่งสุดท้ายที่ตนรับรู้คือ..

    นางสลบ

    ข้าสลบไปมิใช่รึ สิ่งสุดท้ายที่เห็นก่อนจะวูบไปก็คือ ใบหน้าแตกตื่นอันหาได้ยากยิ่งของบุรุษหน้าน้ำแข็งนั่นมิใช่รึ

    หรือเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่ความฝันตื่นหนึ่ง

    อ่าา...มันคงเป็นความฝันแน่ เพราะจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะแสดงสีหน้าเช่นนั้นออกมา

    ในขณะที่สตรีผู้มีจินตนาการกว้างไกลกำลังนั่งวิเคราะห์สถานการณ์อยู่บนเตียงอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่หน้าประตูก็มีเสียงขึ้นก่อนที่มันจะเปิดออก ทำให้สายตาปะทะเข้ากับร่างของผู้ที่หญิงสาวคิดว่าตนพึ่งจะฝันถึงเมื่อคืน

    บนเตียงปรากฏหญิงสาวผู้มีใบหน้างามล้ำ เส้นผมสีดำสนิทที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแทบจะปกคลุมไปทั้งร่างส่วนบน ดวงตากลมโตทว่าปลายหางตานั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยแผ่กลิ่นอายทรงเสน่ห์อันลึกลับออกมาให้ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้ามาในภาพมายาซึ่งพร้อมจะลวงหลอกให้ตกหลุมพรางเอาได้ง่ายๆ และตอนนี้นางกำลังมองตรงมายังผู้มาใหม่ทั้งยังกระพริบปริบๆ เสมือนยังไม่ได้สติดี จึงเกิดความเงียบในชั่วอึดใจ ก่อนที่บุรุษที่พึ่งก้าวเข้ามาจะกล่าวทำลายความเงียบ

    “ ไง ”

    “ ไง ” เสียงหวานที่ติดแหบเล็กน้อยจากการขาดน้ำตอบกลับมาอัตโนมัติ คล้ายกับเป็นสิ่งที่ต้องทำจนเคยชิน

    ฝั่งชายหนุ่มยังคงไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมานอกจากหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันก่อนจะคลายออก แล้วเดินไปรินน้ำใส่แก้วแล้วส่งให้ถึงเตียง

    เบลล่าที่เหมือนว่าความง่วงยังไม่หมดสิ้น จึงได้แต่จ้องมองชายหนุ่มและยื่นมือไปรับแก้วน้ำมาดื่มเสียหลายอึกก่อนจะส่งมันคืน

    “ ข้าพึ่งฝันถึงเจ้าแท้ๆ ไม่ทันไรเจ้าก็โผล่มาเสียแล้ว ” เบลล่ากล่าวอย่างอารมณ์ดี

    “ ฝันว่าอย่างไร ”

    “ ฮ่าฮ่า ไม่มีอันใดหรอก ” ขืนเล่าออกไปว่าในความฝันตนว่างแผนหนีเขาไปเที่ยวมีหวังศพไม่สวยแน่

    เมื่อเก็บแก้วเข้าที่ ร่างสูงก็ทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนข้างกายหญิงสาวพลางสบตากันโดยไร้ปฏิกิริยาอื่น จนในที่สุดนางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปเอนกายเข้าหาคนตัวใหญ่กว่า แล้วอิงกายหลับตาลงซบร่างที่กำลังทำหน้าที่เป็นพนักพิงที่ดีโดยการขยับแขนเพื่อประคองร่างอันอ้อนแอ้นนั้นเข้าสู่อ้อมแขนของตน

    “ ง่วงจัง ” เสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้นข้างซอกคอ ก่อนที่จะยกมือกอดเอวของเขาแล้วจัดท่านอนให้ตนสบายที่สุดโดยที่อีกฝ่ายยังนั่งพิงหัวเตียงอยู่เช่นเดิม

    นี่นางจะหลับอีกแล้วหรือ ดวงตาสีรัตติกาลหลุบลงมองใบหน้าที่ชวนให้ต้องมนตร์สะกดนั้น โดยที่ไม่ได้ขยับกายแต่อย่างใด ยังคงโอบประคองเอวบางนั้นไว้อย่างเบามือ

    ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะตระหนักได้ว่าตนควรจะทำอะไร

    “ ยังนอนไม่พออีกหรือ ” เสียงนั่นปลุกให้แมวขี้เซาถูใบหน้ากับแผงอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแล้วเงยขึ้นอย่างเกียจคร้าน ชุดกระโปรงสายเดี่ยวที่ใช้สำหรับใส่นอนนั้นบางและนุ่มลื่น หญิงสาวมักจะสวมใส่เวลากลางคืนนั้น เวลานี้จากการขยับกายและเสียดสีไปมาทำให้สายของมันทั้งสองข้างไหลลงจากลาดไหล่สิ่งที่เกี่ยวไม่ให้ชุดนั้นร่วงหล่นลงไปมีเพียงสิ่งเดียวก็คือหน้าอกที่ใหญ่โตพอจะเหนี่ยวรั้งมันไว้ได้

    แต่ฝ่ายชายหนุ่มที่มองอยู่ก็รู้ได้ว่าอีกไม่นานมันต้องไหลลงไปอีกแน่เพราะตอนนี้หน้าอกหน้าใจของเบลล่าเริ่มล้นทะลักโผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาแล้ว แต่ก่อนที่มันจะเป็นเช่นนั้นมือใหญ่ก็จับสายทั้งสองข้างขึ้นมาเกี่ยวกับไหล่บางอีกครั้ง แล้วจัดแจงให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในท่าที่สบายจะได้เลิกขยับไปมาเสียที

    “ เจ้าพูดเหมือนกับข้าได้นอนมาเป็นพันๆปี ” หากเป็นเช่นนั้นน่าจะเบื่อแย่ ตื่นขึ้นมาทีคงได้กระโดดโลดเต้นไปทั่วดินแดน หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง

    “ แค่สามร้อย ” เงียบไปนานก่อนจะมีเสียงตอบกลับมา

    “ หืม ” อยู่ดีๆก็พูดอะไรของเขาอีกล่ะ

    “ อะไรรึ ” หญิงสาวงึมงำ ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตาด้วยซ้ำ

    “ ท่านหลับไปแค่สามร้อยปี ” สิ้นเสียงราบเรียบนั่น หัวคิ้วของหญิงสาวก็ขมวดกันมุ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับบุรุษเจ้าของอ้อมกอด

    “ ทำไมข้าจึงหลับ ” ความง่วงเริ่มจะบินจากไปจนแทบไม่หลงเหลือ

    ไม่จริงหน่า

    “ ท่านสลบ ” ทว่าเหมือนฟ้าไม่เป็นใจเส้นลมหายใจสุดท้ายคล้ายกับถูกตัดฉับ

    “ อย่าบังอาจล้อเล่นกับโชคชะตา ”

    เสียงนั่นเหมือนกับดังขึ้นในหัวอีกครั้ง เมื่อรับรู้ถึงชะตากรรมที่พึ่งจะเผชิญมาดวงตาก็สว่างวาบ เด้งตัวออกจากอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นนั่นอย่างไม่นึกเสียดาย แล้วยกมือขึ้นทึ้งศีรษะของตนดั่งผู้ที่สติไม่ดี โดยมีสายตาของบุรุษข้างกายมองมาด้วยความสงสัย

    “ ข้าทำอะไรลงไป ”

    “ ไม่จริงหน่า ”

    “ เป็นอันใด ” เมื่อเห็นคนรักเริ่มมีอาการแปลกไป ทำให้เขาอดที่จะยกมือขึ้นแตะไหล่บางแล้วถามด้วยความห่วงใยไม่ได้

    เป็นเรื่องจริงที่นางสลบไปกว่าสามร้อยปี ทว่าเป็นเวลาของที่นั่น พอครบกำหนดเขาจึงนำร่างของนางกลับมาพร้อมกัน ส่วนดินแดนนี้มันผ่านไปเพียงห้าวันเท่านั้นตั้งแต่หญิงสาวจากไป

    “ ฟินิกซ์ ” สตรีผู้เป็นเจ้าของเส้นผมดำสนิทคล้ายพึ่งได้สติหยุดมือแล้วหันมาคว้าหมับเข้ากับท่อนแขนของชายหนุ่ม

    “ แล้วภารกิจล่ะ เป็นเช่นไร ” ตายล่ะ ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท หล่อนสลบไปเช่นนี้ก็แปลว่าภารกิจล้มเหลวงั้นซินะ แววตาคาดหวังถูกส่งออกไป

    “ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ”

    นั่นไงล่ะ มีสามีดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ฮ่าฮ่า หลังจากได้รับคำตอบที่ตนคาดหวังก็ยิ้มหน้าบานโถมกายเข้าหาใส่ผู้ที่ตัวโตกว่าอย่างออดอ้อน สูดกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเขาเข้าเต็มปอด

    น่ารักที่สุด

    แม้จะไม่ทันตั้งตัวอยู่บ้าง ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาบางเบาแล้วก็ลูบศีรษะสตรีในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู

    อยากให้นางเป็นเช่นนี้บ่อยๆจัง

    “ แล้วตกลงเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ” เมื่อตั้งตัวได้เบลล่าก็นั่งประจันหน้ากับเขา แล้วถามถึงบทสรุปของภารกิจ

    “ ภารกิจมีเพียงไล่ล่าและปิดรอยแยก แต่เรื่องอื่นยังไม่พบร่องรอยใดอีกตั้งแต่ท่านสลบไป ” สิ่งที่ได้รับรู้ทำให้อาการลิงโลดในใจ สลายหายไปทันทีแทนที่ด้วยความกังวล

    “ แล้วพวกเขามีท่าทีเช่นไร ” หญิงสาวชี้มือขึ้นไปด้านบนสื่อถึงตำแหน่งของโอลิมปัส

    งานยังไม่ทันจะเสร็จกลับสลบเหมือดไปเสียก่อน  แม้ภารกิจจะมีแค่นั้นทว่าหน้าที่หลักของนางคือปกป้องความสงบสุขของโลกทั้งใบ การที่ปล่อยปละละเลยสิ่งเหล่านี้ถือว่าผิดมหันต์

    “ พวกเขาไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้ ”

    “ ไม่คิดว่ามันแปลกๆหรือ ” ปกติหากมีเรื่องน่าสงสัยก็ต้องรีบส่งเทพไปตรวจสอบซิ

    เขาเองก็รู้สึกแปลกใจไม่ต่างกัน เกิดเรื่องน่าสงสัยเช่นนี้ตาแก่เหล่านั้นยังนิ่งอยู่ได้ ทว่าก็เปลืองแรงเกินไปที่จะไถ่ถาม

    “ อาจจะหมอบหมายงานให้ผู้อื่น ”

    “ หรือไม่ก็ปิดบังอะไรไว้ ” และนางไม่ชอบให้ผู้อื่นทำเหมือนนางโง่เช่นนี้เลย ดวงตาทั้งสี่สบกันสื่อความนัยอะไรบางอย่าง

    “ จริงซิ แล้ว..คนที่รู้จักข้าอ่า..ครอบครัวล่ะ มันคงจะแปลกๆถ้าข้าหายตัวไป ” คำถามที่เลี่ยงจุดสำคัญไปนั้นถูกปล่อยออกมาเมื่อพึ่งนึกถึงเรื่องหนึ่งออก แม้เรื่องนี้จะสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตตนเองแต่หญิงสาวก็ถามไปด้วยสีหน้าปกติ

    อ่า อย่างน้อยนางก็คิดว่าปกติล่ะหน่า

    “ ให้แกนนอนจัดการแล้ว ” คำตอบและสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนสีของเขาทำให้นางเบาใจลงบ้าง

    “ อย่างไรรึ ” พอคำถามถูกปล่อยออกไป ก็เหมือนเอาลมหายใจของนางลอยขึ้นสูงไปด้วย คิดถูกไหมหนอที่ยังจะถามออกไปอีก นั่น นั่น ทำไมเขาดูเหมือนจะยิ้มออกมาล่ะ แววตาเป็นประกายเช่นนั้น

    “ ไม่มีตั้งแต่ต้น ” .....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×