คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 21 พายุหิมะ
ตอนที่
21
บนระเบียงชั้นสี่ของโรงเตี๊ยมหยกซ่อนบุปผาสาขาสิบมีร่างเพรียวบางของสตรีนางหนึ่งซุกตัวอยู่ในผ้าคลุมขนจิ้งจอกหนานุ่ม
ไร้สิ่งปิดบังใบหน้าเผยให้เห็นความงามราวประติมากรรมชั้นเลิศ ผิวสวยตอนนี้ขาวซีดไม่น้อยแต่มันขับเน้นให้ริมฝีปากนั้นแดงปลั่งยิ่งขึ้น
ควันลอยเข้าออกตามการหายใจ ที่ตรงนี้หากมองไปด้านล่างถนนจะมองได้เป็นมุมกว้าง
โดยที่คนด้านล่างไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามอง
แม้อากาศจะหนาวเย็นเพียงใดทว่านางก็ยังยืนอยู่ที่เดิมมองผู้คนเดินกันขวักไขว่
ขณะนี้เป็นเวลาเริ่มค่ำแล้วทว่าผู้คนก็ยังคงพลุกพล่าน
การค้าขายด้านล่างยังคงดำเนินต่อไป
ยิ่งมองรอยยิ้มก็ปรากฏบนเรียวปากอิ่มที่ตอนนี้มันสั่นเล็กน้อย
“ นายท่าน ” เสียงเรียกและการปรากฏตัวของชายชุดดำด้านหลังเรียกความสนใจจากสตรีที่ยืนอยู่ลำพัง
“ อืม ” เพียงขานรับเบาๆ
“ เรื่องคนทั้งสาม
จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ ”
“ ดูแลให้ดี อีกห้าวันข้าจะไปค่าย ”
หญิงสาวตอบอย่างเนิบนาบ ยังคงไม่ละสายตาไปจากภาพผู้คนเบื้องล่าง
“ ขอรับ ” คนชุดดำรับคำเสียงหนักแน่น
หมุนกายอยู่สองสามทีคล้ายลังเลแต่ก็มิได้เอ่ยวาจาใดแล้วจากไปในทันที
ลมหนาวพัดมา ทำให้ร่างในผ้าคลุมอดจะสั่นสะท้านมิได้
ทว่านางยังจมอยู่ในความคิดที่ลึกเสียจนมิได้สนใจอากาศเย็นยะเยือกรอบด้านเลยแม้เพียงนิด
การเคลื่อนไหวจากด้านหลังทำให้หญิงสาวในผ้าคลุมขนจิ้งจอกต้องหันไปมองอย่างฉงน
ด้วยนางออกคำสั่งไปแล้วว่าอย่าให้ใครมายุ่มย่ามบริเวณชั้นสี่เด็ดขาด
หากเป็นองครักษ์ซิ่นชุ่นก็มักจะขานเรียกนางก่อนจะปรากฏตัวเสียอีก การมาอย่างเงียบเชียบของคนคนนี้จึงทำให้นางระวังตัว
คว้าดาบข้างกายมาถือก่อนพลิกตัวไปมองผู้มาใหม่
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้
สบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกตใต้แพขนตายาวเข้า ใบหน้างดงามราวหยาดน้ำค้างพริ้มพราวใต้แสงจันทร์
สายตาที่มักจะมองเหยียดผู้คนตอนนี้กำลังจับจ้องมายังนางด้วยความโหยหาและไม่สบอารมณ์
เขาสวมอาภรสีขาวสะอาดตาตลอดทั้งร่าง เส้นผมยาวราวแพรไหมถูกปล่อยสยายคลอเคลียใบหน้าได้รูป
ทำให้คนมองรู้สึกเหมือนมีเทพเซียนมาปรากฏตรงหน้า
ยิ่งท่าทางเย่อหยิ่งจนเป็นนิสัยของเขายิ่งทำให้ดูสูงส่งเกินเอื้อมคว้า
ขายาวก้าวเข้ามาเรื่อยๆและหยุดยืนอยู่ตรงหน้านาง
จนเบลล่าต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตา คิ้วคมของเขาขมวดมุ่นใบหน้าเริ่มบึ้งตึง
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยถามให้หายข้องใจ ร่างเพรียวบางของตนก็ถูกรวบเข้าสู่อ้อมกอดอุ่นของเขาเสียแล้ว
ดวงตากลมเบิกกว้างแล้วยิ้มรับอ้อมกอดของคนเอาแต่ใจแต่โดยดี
“ ห้าปี ” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นบนศีรษะ
“ หืม ”
ใบหน้าเล็กยังคงซุกซบหาความอบอุ่นจากเขา
“ ท่านทิ้งข้าไปห้าปีเต็ม ”
น้ำเสียงบอกถึงความไม่พอใจของเขา ทำให้ดวงตาหงส์ต้องเงยขึ้นสบตาปริบๆ
ก่อนจะเบิกขึ้น
“ งานเยอะน่ะ ” หัวเราะแหะๆตามมา
เมื่อพบว่าเขายังไม่ลดความหงุดหงิดใจลงแม้แต่น้อย
ทว่าสัมผัสเย็นเหยียบจากคนตัวเล็กทำให้แววตาของเขาอ่อนลง
ตัดสินใจช้อนร่างนางเดินเข้าห้องไป วางหญิงสาวลงบนเตียง
ปิดประตูหน้าต่างลงมิดชิดกันมิให้อากาศหนาวเย็นเล็ดลอดเข้ามาได้
แล้วหันมาจับจ้องนางด้วยแววตาคาดโทษ
เล่นเอาคนมีความผิดนั่งไม่ค่อยจะอยู่สุขซักเท่าไหร่
นี่ล่ะ หนึ่งเหตุผลที่ตนมิได้รีบขึ้นเขาไป
เพื่อขอเวลาทำใจเสียก่อนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าตนมาถึงที่นี่เข้าเสียก่อน
หญิงสาวตัดสินใจไม่สนสายตาที่ทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆ
ลุกขึ้นถอดผ้าคลุมที่มีเกร็ดหิมะเกราะประปรายไปแขวนไว้ วางดาบในมือลง จัดเสื้อผ้าและผมเผ้าของตนเล็กน้อย
โดยมีสายตาคมกริบนั้นมองตามทุกอิริยาบถ
นางจึงยิ้มกว้างกลบเกลื่อนเดินเข้าไปหาเขา
ขยับเขยื้อนเสื้อผ้าที่เข้าที่อยู่แล้วให้เขาอย่างเอาใจ
“ เอาหน่า
ยังไงวันนี้ก็ได้มาเจอกันแล้ว อย่าเคืองไปเลย ” มือคู่เล็กรวบมือใหญ่ขึ้นมาเกยใต้คาง
สบตาเขาปริบๆ คล้ายลูกแมวน้อยที่ใครเห็นก็ต้องใจอ่อนยวบ ทว่าภูมิต้านทานของเขานั้นมีสูงแล้ว
จึงยังไม่มีท่าทีใดแต่ต้องคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อมือที่กำลังครอบครองมือใหญ่ของตนอยู่นั้นเย็นเหยียบจนน่าตกใจ
“ เจ้าไม่น่าขึ้นเหนือ ”
ในที่สุดเขาก่อนถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้
ก้มลงสวมก่อนหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนใบหน้าซุกเข้าหาลำคอขาวสูดกลิ่นที่เขาโหยหามาห้าปีเต็ม
โดยมีมือเล็กโอบร่างเขาอย่างแผ่วเบาคล้ายดั่งต้องการจะปลอบประโลมเขา
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่
แต่รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของตนก็ทาบลงบนเตียงนุ่มเสียแล้ว โดยไม่เปิดโอกาสให้หลบหนี
ร่างสูงเพรียวทว่าใหญ่กว่านางนักก็ทาบทับตาบลงมา
กักขังให้ฟางหลงมิได้ขยับเขยื้อนไปไหน
ทำได้เพียงยกมือขึ้นยันอกของเขาเอาไว้แต่คล้ายว่ามันจะมิเป็นผลเลยแม้แต่น้อย
“ เดี๋ยว ”
ปากอิ่มอ้าพะงาบๆ
มองใบหน้างามของชายหนุ่มที่บัดนี้นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีใครได้เห็นมาห้าปีเต็มแล้ว
แม้จะดีใจที่ได้เจอทว่ามันไม่ใช่เวลานี้
จะมีใครรู้บ้างไหมว่าบุรุษที่เย่อหยิ่งถือตัวเช่นเขา
จะโหดร้ายกับนางเพียงใดยามเมื่ออยู่บนเตียง
“ เอ่อ ข้ามีเรื่องจะวานเจ้า ”
น้ำลายเริ่มหนืดเหนียวกลืนลงคอได้อย่างยากลำบาก ร่างใหญ่ของเขามีแต่รุกเข้ามามิมีถอย
“ พรุ่งนี้ค่อยคุย ”
น้ำเสียงเย้าแหย่กับใบหน้างามที่เคลื่อนเข้ามาใกล้
“ หยวนจวง ” นางขานชื่อเขาเสียงแผ่ว
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนจะต้องเจอหลังจากนี้
ทำให้ต้องก้มหน้าลงมองอกแกร่งของเขาเพียงเท่านั้น
หารู้ไม่ว่าเสียงนั้นมันเข้าไปปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาเข้าให้แล้ว
ลมหายใจของเขากระชั้นถี่จนเบลล่าต้องช้อนตาขึ้นมา
แววตาหื่นกระหายนี่มันอะไรกัน
ยังไม่ทันจะได้พลิกตัวหลบหนี
ริมฝีปากร้อนก็โฉบลงมาเสียแล้ว แรกเริ่มนั้นเต็มไปด้วยความหวานและโหยหา
รสจูบหวามไหวเนิ่นนานทำให้ฝ่ามือบอบบางที่ยันกายเขาไว้เปลี่ยนเป็นโอบรอบคอของเขาไว้แทน
ทั้งสองผละออกจากกันเพื่อตักตวงลมหายใจในขณะที่จมูกโด่งสัมผัสกันอยู่
หญิงสาวยังคงขบเม้มริมฝีปากล่างของเขาอย่างหมั่นเขี้ยว
ดวงตาประสานสื่อความหมายลึกซึ้งให้แก่กัน
เป็นคนตัวใหญ่ที่ทนไม่ไหวก้มลงดื่มด่ำกับความหอมหวานจากปากแดงระเรื่อนั่นอีกครั้ง
ครานี้มันเต็มไปด้วยความหนักหน่วง มอบรสจูบที่แทบจะสูบวิญญาณซึ่งกันและกัน
เสียงหอบถี่ดังขึ้นไม่ขาดสาย ทั้งคู่เกี่ยวกวัดกันไปมาอยู่บนเตียงใหญ่
ผ้าม่านถูกปลดลงตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้
บัดนี้ดวงตาของเขามันดุดันกระหายดั่งนักล่าที่ต้องการจะตะปบเหยื่อเบื้องหน้านี้เสียให้ได้
สร้างความท้าทายให้ผู้ที่กำลังถูกควบคุมอยู่เบื้องล่างได้ไม่น้อย
ไฟที่ถูกปลุกขึ้นมาทำให้นางสบเข้ากับดวงตานั่นอย่างไม่ยอมแพ้
สองขาแกร่งได้แทรกเข้ามากลางหว่างขาเรียวเรียบร้อยแล้ว เนื้อขาวเนียนโพล่พ้นออกมาจากชายผ้ามันกำลังตวัดไปรอบเอาสอบ
เสื้อตัวนอกของเขาถูกแม่จิ้งจอกสาวจับโยนทิ้งไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้
ในขณะที่เสื้อตัวในกำลังโดนแหวกออกจนเห็นผิวนวลขาวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อด้านในร่างโปร่งบางของชายหนุ่ม
นางเองที่ตั้งแต่แรกสวมไว้แค่เสื้อตัวในก็มีสภาพไม่ต่างจากคนด้านบนนัก
เมื่อบนอกสาวเหลือไว้แค่เพียงเอี๊ยมตัวน้อยที่แถบจะปกปิดอะไรไว้ไม่มิด
ดวงตาแวววาวกระทบกับเสียงเทียนทำให้มันวาววับน่าจับตา
กำลังสาดความกระหายให้แก่กัน เรียวปากบางก้มลงมอบจูบอันอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ให้แก่นาง
ปมผ้าถูกคลายออก ทำให้เหลือแต่เพียงเนื้อร้อนที่นาบลงมา
------------------------------------------------------------------ตัดโช๊ะ----------------------------------------------------------------
ยามเที่ยงวัน
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็ลืมขึ้นมองไปรอบด้าน
รู้สึกหนักตัวจึงเหลือบสายตาไปมองต้นตอพบกับเรียวแขนขาวพาดอยู่ที่เอวบางใต้ผ้าห่มหนา
หันไปมองด้านข้างก็เจอใบหน้างามที่ดวงตาอันแสนจะเหย่อหยิ่งของเขากำลังหลับอยู่
ทำให้ได้เชยชมความงามของเขาได้ถนัดตา บนร่างของนางมีเสื้อตัวบางสวมอยู่คิดว่าเขาคงเป็นผู้จัดการให้ก่อนจะหมดแรงไป
นึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมาถึงรุ่งสางของวันนี้ก็ให้โมโหนัก
มือขาวดั่งหยกยกขึ้นบีบแก้มนุ่มของเขาอย่างมั่นเขี้ยว
โดยที่ผู้ที่ถูกกระทำมิได้ขัดขืนแต่อย่างใด คาดว่าคงจะไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ
ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุกจึงได้ลงมือทารุณร่างกายขาวผ่องของเขาทันที
ดูซิ นางไม่อยากฝากร่องรอยเอาไว้บนผิวสวยของเขา แต่คนผู้นี้กลับสร้างรอยบนผิวเนียนของนางเต็มไปหมดทั้งรอบดูดเม้ม ขย้ำต่างๆนานา ยิ่งคิดยิ่งแค้น จึงลุกขึ้นค่อมร่างสูงให้อยู่ใต้ร่าง หรี่ตาลงอย่างหมายหมาด รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้น ภารกิจลวนลามชายงามจึงเริ่มขึ้น
ความคิดเห็น