ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อนาสตาเซีย แห่งการเริ่มต้น

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 21 พายุหิมะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 91
      4
      25 ก.พ. 61


    ตอนที่ 21

     

    บนระเบียงชั้นสี่ของโรงเตี๊ยมหยกซ่อนบุปผาสาขาสิบมีร่างเพรียวบางของสตรีนางหนึ่งซุกตัวอยู่ในผ้าคลุมขนจิ้งจอกหนานุ่ม ไร้สิ่งปิดบังใบหน้าเผยให้เห็นความงามราวประติมากรรมชั้นเลิศ ผิวสวยตอนนี้ขาวซีดไม่น้อยแต่มันขับเน้นให้ริมฝีปากนั้นแดงปลั่งยิ่งขึ้น ควันลอยเข้าออกตามการหายใจ ที่ตรงนี้หากมองไปด้านล่างถนนจะมองได้เป็นมุมกว้าง โดยที่คนด้านล่างไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามอง

     แม้อากาศจะหนาวเย็นเพียงใดทว่านางก็ยังยืนอยู่ที่เดิมมองผู้คนเดินกันขวักไขว่ ขณะนี้เป็นเวลาเริ่มค่ำแล้วทว่าผู้คนก็ยังคงพลุกพล่าน การค้าขายด้านล่างยังคงดำเนินต่อไป ยิ่งมองรอยยิ้มก็ปรากฏบนเรียวปากอิ่มที่ตอนนี้มันสั่นเล็กน้อย

    “ นายท่าน ” เสียงเรียกและการปรากฏตัวของชายชุดดำด้านหลังเรียกความสนใจจากสตรีที่ยืนอยู่ลำพัง

    “ อืม ” เพียงขานรับเบาๆ

    “ เรื่องคนทั้งสาม จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ ”

    “ ดูแลให้ดี อีกห้าวันข้าจะไปค่าย ” หญิงสาวตอบอย่างเนิบนาบ ยังคงไม่ละสายตาไปจากภาพผู้คนเบื้องล่าง

    “ ขอรับ ” คนชุดดำรับคำเสียงหนักแน่น หมุนกายอยู่สองสามทีคล้ายลังเลแต่ก็มิได้เอ่ยวาจาใดแล้วจากไปในทันที

    ลมหนาวพัดมา ทำให้ร่างในผ้าคลุมอดจะสั่นสะท้านมิได้ ทว่านางยังจมอยู่ในความคิดที่ลึกเสียจนมิได้สนใจอากาศเย็นยะเยือกรอบด้านเลยแม้เพียงนิด

    การเคลื่อนไหวจากด้านหลังทำให้หญิงสาวในผ้าคลุมขนจิ้งจอกต้องหันไปมองอย่างฉงน ด้วยนางออกคำสั่งไปแล้วว่าอย่าให้ใครมายุ่มย่ามบริเวณชั้นสี่เด็ดขาด หากเป็นองครักษ์ซิ่นชุ่นก็มักจะขานเรียกนางก่อนจะปรากฏตัวเสียอีก การมาอย่างเงียบเชียบของคนคนนี้จึงทำให้นางระวังตัว คว้าดาบข้างกายมาถือก่อนพลิกตัวไปมองผู้มาใหม่

    ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ สบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกตใต้แพขนตายาวเข้า ใบหน้างดงามราวหยาดน้ำค้างพริ้มพราวใต้แสงจันทร์ สายตาที่มักจะมองเหยียดผู้คนตอนนี้กำลังจับจ้องมายังนางด้วยความโหยหาและไม่สบอารมณ์ เขาสวมอาภรสีขาวสะอาดตาตลอดทั้งร่าง เส้นผมยาวราวแพรไหมถูกปล่อยสยายคลอเคลียใบหน้าได้รูป ทำให้คนมองรู้สึกเหมือนมีเทพเซียนมาปรากฏตรงหน้า ยิ่งท่าทางเย่อหยิ่งจนเป็นนิสัยของเขายิ่งทำให้ดูสูงส่งเกินเอื้อมคว้า

    ขายาวก้าวเข้ามาเรื่อยๆและหยุดยืนอยู่ตรงหน้านาง จนเบลล่าต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตา คิ้วคมของเขาขมวดมุ่นใบหน้าเริ่มบึ้งตึง ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยถามให้หายข้องใจ ร่างเพรียวบางของตนก็ถูกรวบเข้าสู่อ้อมกอดอุ่นของเขาเสียแล้ว ดวงตากลมเบิกกว้างแล้วยิ้มรับอ้อมกอดของคนเอาแต่ใจแต่โดยดี

    “ ห้าปี ” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นบนศีรษะ

    “ หืม ” ใบหน้าเล็กยังคงซุกซบหาความอบอุ่นจากเขา

    “ ท่านทิ้งข้าไปห้าปีเต็ม ” น้ำเสียงบอกถึงความไม่พอใจของเขา ทำให้ดวงตาหงส์ต้องเงยขึ้นสบตาปริบๆ ก่อนจะเบิกขึ้น

    “ งานเยอะน่ะ ” หัวเราะแหะๆตามมา เมื่อพบว่าเขายังไม่ลดความหงุดหงิดใจลงแม้แต่น้อย ทว่าสัมผัสเย็นเหยียบจากคนตัวเล็กทำให้แววตาของเขาอ่อนลง ตัดสินใจช้อนร่างนางเดินเข้าห้องไป วางหญิงสาวลงบนเตียง ปิดประตูหน้าต่างลงมิดชิดกันมิให้อากาศหนาวเย็นเล็ดลอดเข้ามาได้ 

    แล้วหันมาจับจ้องนางด้วยแววตาคาดโทษ เล่นเอาคนมีความผิดนั่งไม่ค่อยจะอยู่สุขซักเท่าไหร่

    นี่ล่ะ หนึ่งเหตุผลที่ตนมิได้รีบขึ้นเขาไป เพื่อขอเวลาทำใจเสียก่อนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าตนมาถึงที่นี่เข้าเสียก่อน

    หญิงสาวตัดสินใจไม่สนสายตาที่ทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆ ลุกขึ้นถอดผ้าคลุมที่มีเกร็ดหิมะเกราะประปรายไปแขวนไว้ วางดาบในมือลง จัดเสื้อผ้าและผมเผ้าของตนเล็กน้อย โดยมีสายตาคมกริบนั้นมองตามทุกอิริยาบถ

    นางจึงยิ้มกว้างกลบเกลื่อนเดินเข้าไปหาเขา ขยับเขยื้อนเสื้อผ้าที่เข้าที่อยู่แล้วให้เขาอย่างเอาใจ

    “ เอาหน่า ยังไงวันนี้ก็ได้มาเจอกันแล้ว อย่าเคืองไปเลย ” มือคู่เล็กรวบมือใหญ่ขึ้นมาเกยใต้คาง สบตาเขาปริบๆ คล้ายลูกแมวน้อยที่ใครเห็นก็ต้องใจอ่อนยวบ ทว่าภูมิต้านทานของเขานั้นมีสูงแล้ว จึงยังไม่มีท่าทีใดแต่ต้องคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อมือที่กำลังครอบครองมือใหญ่ของตนอยู่นั้นเย็นเหยียบจนน่าตกใจ

     “ เจ้าไม่น่าขึ้นเหนือ ” ในที่สุดเขาก่อนถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้ ก้มลงสวมก่อนหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนใบหน้าซุกเข้าหาลำคอขาวสูดกลิ่นที่เขาโหยหามาห้าปีเต็ม โดยมีมือเล็กโอบร่างเขาอย่างแผ่วเบาคล้ายดั่งต้องการจะปลอบประโลมเขา

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของตนก็ทาบลงบนเตียงนุ่มเสียแล้ว โดยไม่เปิดโอกาสให้หลบหนี ร่างสูงเพรียวทว่าใหญ่กว่านางนักก็ทาบทับตาบลงมา กักขังให้ฟางหลงมิได้ขยับเขยื้อนไปไหน ทำได้เพียงยกมือขึ้นยันอกของเขาเอาไว้แต่คล้ายว่ามันจะมิเป็นผลเลยแม้แต่น้อย

    “ เดี๋ยว ”

    ปากอิ่มอ้าพะงาบๆ มองใบหน้างามของชายหนุ่มที่บัดนี้นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีใครได้เห็นมาห้าปีเต็มแล้ว แม้จะดีใจที่ได้เจอทว่ามันไม่ใช่เวลานี้

    จะมีใครรู้บ้างไหมว่าบุรุษที่เย่อหยิ่งถือตัวเช่นเขา จะโหดร้ายกับนางเพียงใดยามเมื่ออยู่บนเตียง

    “ เอ่อ ข้ามีเรื่องจะวานเจ้า ” น้ำลายเริ่มหนืดเหนียวกลืนลงคอได้อย่างยากลำบาก ร่างใหญ่ของเขามีแต่รุกเข้ามามิมีถอย

    “ พรุ่งนี้ค่อยคุย ” น้ำเสียงเย้าแหย่กับใบหน้างามที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

    “ หยวนจวง ” นางขานชื่อเขาเสียงแผ่ว เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนจะต้องเจอหลังจากนี้ ทำให้ต้องก้มหน้าลงมองอกแกร่งของเขาเพียงเท่านั้น

    หารู้ไม่ว่าเสียงนั้นมันเข้าไปปลุกสัญชาตญาณดิบของเขาเข้าให้แล้ว ลมหายใจของเขากระชั้นถี่จนเบลล่าต้องช้อนตาขึ้นมา

    แววตาหื่นกระหายนี่มันอะไรกัน

    ยังไม่ทันจะได้พลิกตัวหลบหนี ริมฝีปากร้อนก็โฉบลงมาเสียแล้ว แรกเริ่มนั้นเต็มไปด้วยความหวานและโหยหา รสจูบหวามไหวเนิ่นนานทำให้ฝ่ามือบอบบางที่ยันกายเขาไว้เปลี่ยนเป็นโอบรอบคอของเขาไว้แทน

    ทั้งสองผละออกจากกันเพื่อตักตวงลมหายใจในขณะที่จมูกโด่งสัมผัสกันอยู่ หญิงสาวยังคงขบเม้มริมฝีปากล่างของเขาอย่างหมั่นเขี้ยว ดวงตาประสานสื่อความหมายลึกซึ้งให้แก่กัน เป็นคนตัวใหญ่ที่ทนไม่ไหวก้มลงดื่มด่ำกับความหอมหวานจากปากแดงระเรื่อนั่นอีกครั้ง ครานี้มันเต็มไปด้วยความหนักหน่วง มอบรสจูบที่แทบจะสูบวิญญาณซึ่งกันและกัน เสียงหอบถี่ดังขึ้นไม่ขาดสาย ทั้งคู่เกี่ยวกวัดกันไปมาอยู่บนเตียงใหญ่ ผ้าม่านถูกปลดลงตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้

    บัดนี้ดวงตาของเขามันดุดันกระหายดั่งนักล่าที่ต้องการจะตะปบเหยื่อเบื้องหน้านี้เสียให้ได้ สร้างความท้าทายให้ผู้ที่กำลังถูกควบคุมอยู่เบื้องล่างได้ไม่น้อย

    ไฟที่ถูกปลุกขึ้นมาทำให้นางสบเข้ากับดวงตานั่นอย่างไม่ยอมแพ้ สองขาแกร่งได้แทรกเข้ามากลางหว่างขาเรียวเรียบร้อยแล้ว เนื้อขาวเนียนโพล่พ้นออกมาจากชายผ้ามันกำลังตวัดไปรอบเอาสอบ เสื้อตัวนอกของเขาถูกแม่จิ้งจอกสาวจับโยนทิ้งไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ ในขณะที่เสื้อตัวในกำลังโดนแหวกออกจนเห็นผิวนวลขาวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อด้านในร่างโปร่งบางของชายหนุ่ม

    นางเองที่ตั้งแต่แรกสวมไว้แค่เสื้อตัวในก็มีสภาพไม่ต่างจากคนด้านบนนัก เมื่อบนอกสาวเหลือไว้แค่เพียงเอี๊ยมตัวน้อยที่แถบจะปกปิดอะไรไว้ไม่มิด

    ดวงตาแวววาวกระทบกับเสียงเทียนทำให้มันวาววับน่าจับตา กำลังสาดความกระหายให้แก่กัน เรียวปากบางก้มลงมอบจูบอันอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ให้แก่นาง ปมผ้าถูกคลายออก ทำให้เหลือแต่เพียงเนื้อร้อนที่นาบลงมา

    ------------------------------------------------------------------ตัดโช๊ะ----------------------------------------------------------------

    ยามเที่ยงวัน ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็ลืมขึ้นมองไปรอบด้าน รู้สึกหนักตัวจึงเหลือบสายตาไปมองต้นตอพบกับเรียวแขนขาวพาดอยู่ที่เอวบางใต้ผ้าห่มหนา หันไปมองด้านข้างก็เจอใบหน้างามที่ดวงตาอันแสนจะเหย่อหยิ่งของเขากำลังหลับอยู่ ทำให้ได้เชยชมความงามของเขาได้ถนัดตา บนร่างของนางมีเสื้อตัวบางสวมอยู่คิดว่าเขาคงเป็นผู้จัดการให้ก่อนจะหมดแรงไป

    นึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมาถึงรุ่งสางของวันนี้ก็ให้โมโหนัก

    มือขาวดั่งหยกยกขึ้นบีบแก้มนุ่มของเขาอย่างมั่นเขี้ยว โดยที่ผู้ที่ถูกกระทำมิได้ขัดขืนแต่อย่างใด คาดว่าคงจะไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุกจึงได้ลงมือทารุณร่างกายขาวผ่องของเขาทันที

    ดูซิ นางไม่อยากฝากร่องรอยเอาไว้บนผิวสวยของเขา แต่คนผู้นี้กลับสร้างรอยบนผิวเนียนของนางเต็มไปหมดทั้งรอบดูดเม้ม ขย้ำต่างๆนานา ยิ่งคิดยิ่งแค้น จึงลุกขึ้นค่อมร่างสูงให้อยู่ใต้ร่าง หรี่ตาลงอย่างหมายหมาด รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้น ภารกิจลวนลามชายงามจึงเริ่มขึ้น



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×