ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
" ได้เวลาแล้วซินะ " เสียงหวานดังออกมาจากหญิงสาวเจ้าของร่างบางระหง คล้ายพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่าเพราะบริเวณนั่นไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงนางยืนอยู่หน้าอุโมงค์มิติที่กำลังส่องแสงเรืองรอง ตรงใจกลางของอุโมงค์เริ่มเกิดการบิดเบี้ยวแล้วหมุนเป็นวงกลมสีฟ้าเปล่งแสงเจิดจ้าล่อตา ให้ความรู้สึกเหมือนมันกำลังดึงดูดอะไรเข้าไป
ใบหน้างามแตะแต้มไปด้วยร้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ขณะกำลังก้าวเดินเข้าไปในนั้นเพียงอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงอยู่แล้วกลับหยุดชะงัก ด้วยประสาทรับสัมผัสที่ดี เมื่อแว่วเสียงฝีเท้าของบุคคลอื่นที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาถึงหน้าห้องที่ตนกำลังอยู่ ทำให้รอยยิ้มนั้นหุบฉับลงทันใด
เหตุใดเขาถึงได้รู้ตัวเร็วนัก คิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์นัก
นึกถึงสิ่งที่ใกล้เข้ามาก็ทำให้นึกหวั่น พยายามใช้ความคิดหาทางออกโดยเร็วที่สุด หากแต่ยังไม่ทันจะมีความคิดดีๆปรากฎ ปัญหาก็มาเยือนเสียแล้ว
" ปึง!!! " เสียงของประตูที่มีขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับผนังคริสตัลเสียงดังสนั่น
" คิดจะทำอะไร " ตามมาด้วยเสียงทุ่มของบุรุษเพศดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด ใบหน้างดงามเหนืออิสตรีหากแต่ยังคงความคมเข้มอยู่บ้างทำให้รู้ว่าคนผู้นี้คือบุรุษเพศหาใช่สตรีงามร่างใหญ่ ซึ่งปกติจะมีเพียงอารมณ์เฉยชาฉายอยู่บนใบหน้าแต่ตอนนี้มีกลับความถมึงทึงอย่างที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ดวงตาคมกริบมองตรงมาที่ร่างบางอย่างกดดัน บรรยากาศรอบข้างเหมือนจะเย็นเหยียบลงทันตา ทำให้นางตัวแข็งไปพักนึงแต่ก็ปรับเปลี่ยนท่าทีได้อย่างรวดเร็ว
" ก็เปล่าหนิ..ข้าว่างๆก็เลยว่าจะไปตรวจตราโลกมนุษย์เสียหน่อยน่ะ สนใจไปด้วยกันไหมเล่า " เมื่อรู้ว่าภัยกำลังมาเยือนจากบุคคลตรงหน้าที่เหมือนพายุลูกใหญ่ที่พร้อมจะโหมกระหน่ำได้ทุกเมื่อ ใบหน้างามก็ยิ้มหวานส่งไปให้พร้อมคำแก้ตัวส่งๆ พร้อมทั้งค่อยย่างเท้าเข้าไปหาร่างสูงที่กำลังยืนปักหลักมองตนเขม็งอย่างไม่หวาดกลัว
เหอะ ระดับนางแล้วมีหรือจะเผยพิรุธ
" .... " ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เพียงแต่เหลือบไปมองอุโมงค์มิติด้านหลังนางแวบนึงแววตาพลันดำมืดขึ้นไปอีกระดับ ก่อนจะหันกลับมาสบตาคนตรงหน้า ที่กำลังเอื้อมมือมาคล้องแขนของตนด้วยใบหน้าออดอ้อน
เล่ห์กลแบบนี้คิดว่าเขาไม่รู้หรอกหรือ ชายหนุ่มยังคงใบหน้าเรียบนิ่งไปในทางบึ้งตึงต่อไป ใช้สายตามองนางเหมือนรู้ทัน ทำให้คนถูกมองรู้สึกร้อนๆหนาวๆจนต้องเพิ่มระดับความหนาของหน้าขึ้นมาอีกขั้น
" ตามหาข้ามีอันใดรึ ถึงได้โครมครามเสียขนาดนี้ หรือว่า...คิดถึงข้าจนทนไม่ไหว " ปากบางกล่าววาจาหยอกล้อ และนำร่างกายอันทรงสเน่ห์ขยี้ใจชายของตนเบียดเข้าหาคนตัวสูงเพื่อให้พายุสงบลง เบี่ยงเบนความสนใจจากคนช่างจับผิดให้สนใจนางแทน
แต่ ณ เวลานี้มันกลับใช้ไม่ได้ผล ทำให้สตรีที่มั่นใจในความงาม(?)ของตนอย่างที่สุดเกิดอาการเสียหน้าอยู่ไม่น้อย
นี่เขาไม่คิดจะปล่อยนางไปจริงๆเรอะ เนื่องด้วยแผนหญิงงามใช้ไม่ได้ผลกับพายุหิมะลูกนี้ ทำให้ใบหน้างามที่เคยยิ้มหวานยั่วยวนเป็นยิ้มแหยๆอย่างคนถูกจับได้แทน
" แค่มีลางสังหรณ์ว่าชายาของตนกำลังจะไปหาชายชู้เพิ่ม....ก็เลยรีบมา " เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน ยังคงยืนมองร่างบางที่กำลังกอดแขนเขานิ่งๆ พร้อมเอ่ยเสียงเย็นออกมา จนหญิงสาวชะงักกายไปนิดนึงเมื่อเจอกับคำพูดตรงๆเช่นนี้
แหม่ ช่างตรงดีจริง แต่มีหรือคนอย่างข้าจะยอมง่ายๆ
" ทำไมสวามีของข้าถึงใจแคบเช่นนี้กันเหล่า ดีเสียอีกจะได้หาคนที่มีความสามารถ ไว้ช่วยงานเยอะๆไง ไม่ดีรึ ร่างกายข้าออกจะบอบบาง ทำงานมากมายขนาดนี้ไม่ไหวหรอกนะ " หญิงสาวยังคงเอ่ยวาจาเจื้อยแจ้ว กระเง้ากระงอดและพยายามหาเหตุผลร้อยแปดมาอธิบาย
" แล้วไอที่มีเป็นโขยงทั้งในปราสาทกับที่เรี่ยราดอยู่ข้างนอกนั้นยังไม่มากพอใช่หรือไม่ คิดว่าข้าจะยินดีนักรึที่ชายาของตนมีสัมพันธ์กับชายหลายคนเช่นนี้ หรือต้องให้ข้าสังหารพวกมันให้สิ้นซากเสียก่อน หะ เบลล่า!!" เมื่อเส้นอารมณ์ขาดผึ่ง ชายหนุ่มก็คว้าแขนเรียวนั้นให้เผชิญหน้ากับตนซึ่งๆหน้าอย่างเอาเรื่อง เล่นเอาคนมีความผิดพาลตกอกตกใจทีเดียว
นี่เขาไปกินอะไรมา ทำไมอารมณ์ที่เหยือกเย็นของเขาถึงหายไปง่ายเช่นนี้เล่า
" ไม่ดีๆ เจ้าใจเย็นลงก่อนเถิดนะ แต่พวกเขามีอยู่แค่ไม่ถึง 10 คนเองนี่ หาเพิ่มอีกซักคนสองคนจะเป็นไรไป " อิซาเบลล่าเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามรีบเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ทุกอย่างเกือบจะดีแล้วหากนางไม่เอ่ยวาจาคล้ายพึมพำกับตัวเองออกมาท้ายประโยค กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็สายไปเสียแล้ว
วันนี้ทำไมข้าพูดมากไปเสียจริง กำลังจะช้อนสายตาขึ้นมองปฎิกิริยาของเขาก็ต้องตกใจแทบสะดุ้ง
" อิซาเบลล่า!!! " ร่างสูงคำรามเสียงต่ำพยายามฝืนตัวไม่ให้ลงมือบีบคอหญิงสาวตรงหน้า สตรีผู้นี้ช่างชอบยั่วอารมณ์เขาได้ทุกเมื่อเลยซินะ ร่างของเขาสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ความเหยือกเย็นที่มีถูกโยนทิ้งไปเสียสิ้น
" เอาล่ะๆ ข้าขอโทษ อย่าพึ่งโมโหไปซิไปข้างนอกกันดีกว่า นะ ฟินิกซ์ของข้า " เมื่อรู้ว่ายิ่งพูดยิ่งอันตราย อยู่ที่นี้ก็มีแต่ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่เขา จึงรีบเบี่ยงเบนหาเรื่องที่ทำให้เขาอารมณ์เย็นขึ้นดีกว่าไม่งั้นแผนการของนางมีหวังเละไม่เป็นท่าแน่
ฟินิกซ์เองเมื่อเห็นว่าหากยิ่งคุยเรื่องนี้กันต่อ มีแต่จะทำให้ตนโกรธและเจ็บช้ำเสียเปล่าๆ เพราะยังไงก็เปลี่ยนความคิดคนตรงหน้าไม่ได้อยู่แล้ว จึงได้แต่ถอนหายใจและปล่อยให้หญิงสาวพาออกไปอย่างว่าง่าย
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะก้าวพ้นประตู สายตาแวววาวของร่างเล็กก็ยังมิวายหันหน้ามามองอุโมงค์มิติด้วยสายตาครุ่นคิดโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้สังเกต
ฮึ่มมม กว่าจะเปิดอุโมงค์ได้ นางต้องเสียเวลาหาอัญมณีเสียนาน ข้าไม่ยอมง่ายๆหรอก!!
ก่อนจะรีบนำตัวเองและบุรุษข้างกายออกไปในที่สุด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น