ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชื่อมรักผูกหัวใจยัยตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : การรับน้องที่แสนวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 54


     

    3

    (Aki Says)

                “อากิ ยัยฟ้าให้มาตาม”

                “ฟ้าใส?”

                “อืม”

                ยูกิเดินมาเรียกผมที่ห้อง และบอกว่าฟ้าใสให้มาตาม อ่อ...ฟ้าใสที่ผมพูดถึง เป็นเพื่อนสนิทของผมกับยูกิเอง และเป็นคนที่ดูแลเรื่องรับน้องทั้งหมด ผมรับคำ ก่อนจะเดินตามยูกิไปหาฟ้าใส...ที่ห้องประชุมของโรงแรม เห็นมันว่าอย่างนั้น

                “ฟ้า...”

                ผมผลักประตูเข้ามา ก่อนจะเรียกชื่อเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่...

                พรึบ!

                ไฟทั้งห้องประชุมดับลง ก่อนที่จะมีคนกลุ่มหนึ่งเดินถือเค้กมาทางผม และร้องเพลง Happy Birth Day ให้ผม เออใช่...วันนี้วันเกิดผมนี่นา ผมลืมไปเลย

                “อธิษฐานก่อนสิ ^^” เสียงหวานของฟ้าใสพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าผมทำท่าจะเป่าเทียน ผมจึงหลับตาอธิษฐานสักครู่ ก่อนจะเป่าเทียน

                พรึบ!

                ไฟทั้งห้องประชุมสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเห็นฟ้าใส ยูกิ แพรวา และเพื่อนคนอื่นๆที่ยืนอยู่คณะเดียวกันยืนอยู่ตรงหน้า ผมยิ้มให้เพื่อนๆ แล้วฟ้าใสจึงพูดขึ้น

                “สุขสันต์วันเกิดนะ...อากิ” ฟ้าใสยื่นกล่องของขวัญมาให้ผม ผมรับมาถือไว้ ก่อนที่ยูกิและคนอื่นๆจะยื่นของขวัญมาให้ผมบ้าง

                “ขอบใจมากนะ ^^

                “อืม (^^) (_ _)


     

    วันที่สอง

                วันนี้เป็นวันที่สองของการเข้าค่ายรับน้องปี 1 ผมจึงลงมาช่วยพวกเพื่อนๆจัดสถานที่ในการรับน้อง เพราะในช่วงเช้าจะมีกิจกรรมรับน้อง พอช่วงบ่าย เราก็จะปล่อยให้น้องๆพักผ่อน หรือทำอะไรกันก็ได้จนถึงเย็น พวกผมก็จะจัดปาร์ตี้ต้อนรับน้องๆอย่างเป็นทางการที่ริมชายหาด

                “ไปกินข้าวกัน ^^

                “อืม (_ _)

                ฟ้าใสเดินมาหาผม ซึ่งกำลังจะเดินไปห้องอาหาร และเอ่ยชวน ก่อนที่ยูกิจะเดินมาสมทบอีกคนหนึ่ง เราสามคนเดินมาที่ห้องอาหารของโรงแรม ก่อนที่ผมจะมองเห็นฮารุนั่งกินอาหารอยู่คนเดียวที่มุมหนึ่ง

                “เดี๋ยวมานะ” ผมหันไปบอกฟ้าใส และยูกิ และเดินมาหาฮารุทันที โดยที่ฟ้าใสและยูกิแย้งไม่ทัน

                “ฉันนั่งด้วยได้ไหม?”

                “อืม”

                แปลกแฮะ ปกติฮารุจะต้องโวยวายนี่นา แต่ทำไมวันนี้เธอถึงยอมให้ผมนั่งด้วยง่ายๆล่ะ วันนี้ฮารุดูหน้าซีดๆแฮะ นัยน์ตาสีดำสนิทดูหม่นหมอง เอ...ปกติฮารุมักจะไม่แสดงความรู้สึกออกมาจนเห็นได้ชัดขนาดนี้

                ร่างบางตรงหน้าเขี่ยข้าวในจานเล่นอย่างเหม่อลอย โดยไม่ได้ให้ความสนใจผมเลยสักนิดเดียว เอ่อ...แล้วผมจะทำยังไงต่อไปล่ะเนี่ย

                “ไม่สบายรึเปล่าฮารุ เธอดูหน้าซีดๆนะ -*-

                “เปล่า”

                ผมถามออกไป ก่อนที่เธอจะส่ายหัว และตอบกลับเสียงเรียบ ก็ยังดีที่เธอยังตอบคำถามของผมอยู่ ผมเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของฮารุ ก่อนที่เธอจะ...

                เพียะ!

                “อย่ามายุ่งกับฉัน -*-

                ...ตีมือของผม และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความโกรธ และเดินหนีไปทันที เอ่อ...ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย -_-?

                “แหม~ โดนหญิงปฏิเสธรึไง ^-^” เสียงยูกิพูดขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมานั่งตรงข้ามกับผม พร้อมกับฟ้าใสที่เดินตามมาข้างหลัง และหย่อนตัวนั่งข้างๆผม

                “ไม่รู้สิ ฉันก็งงอยู่เหมือนกัน” ผมยักไหล่เล็กน้อย และตอบไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้เป็นปกติมากที่สุด

                “ชอบเธอรึไง?” ฟ้าใสถามขึ้นบ้าง และบุ้ยหน้าไปทางฮารุ ซึ่งตอนนี้ไปนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงสวยหวานคนหนึ่ง คงจะเป็นเพื่อนใหม่ของเธอล่ะมั้ง

                (-_- ) ( -_-) ไม่ได้ชอบนะ แค่รู้สึก...ผูกพัน”

                “ผูกพัน? / ผูกพัน -*-

                ผมตอบคำถามของฟ้าใสกลับไปตามความรู้สึก ก่อนที่ทั้งคู่จะทวนคำตอบของผมด้วยความงง ฮ่ะๆ ก็น่างงอยู่หรอก ขนาดตัวผมเองยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น

                “อืม (_ _)

                “แล้วมันยังไงว่ะ?”

                ยูกิถามขึ้น มันคงไม่เข้าใจความหมายของคำพูดผม ส่วนฟ้าใสก็พยักหน้าตามอย่างเห็นด้วยว่าผมหมายความว่ายังไง

                “ตัวฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน รู้แต่ว่าฉันไม่ได้ชอบฮารุแบบนั้น”

                (_ _) (_ _)

                ผมอธิบายให้ยูกิ และฟ้าใสฟัง ทั้งคู่พยักหน้า และไม่คิดจะซักไซ้อะไรผมอีก เราสามคนเลิกคุยเรื่องนี้กัน ก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้า และไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย



     

                “เดี๋ยวช่วงเช้า พี่ๆจะมีกิจกรรมรับน้องอีกครั้ง แล้วพอช่วงบ่าย พี่จะให้น้องๆพักกันตามสบายเลยนะค่ะ พอช่วงเย็น พี่ๆก็จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่อย่างเป็นทางการ อย่าลืมมาร่วมงานด้วยนะค่ะ ^^” แพรวาขึ้นไปพูดบนเวทีด้วยความร่าเริง ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มอธิบายถึงกิจกรรมรับน้องในช่วงเช้านี้

                “เรามาเริ่มเกมแรกกันเลยนะค่ะ โดยเกมแรกนี้มีชื่อว่า พี่-น้องรหัสสามัคคี วิธีการเล่นก็คือ พี่จะให้พี่รหัสของน้องๆว่ายน้ำไปรอน้องๆในจุดที่พี่ปักธงไว้ แล้วให้น้องๆว่ายน้ำไปหาพี่รหัสของตนเอง ใครถึงก่อนก็ชนะ ส่วนใครแพ้ พี่ก็จะมีบทลงโทษนะค่ะ อ่อ ถ้าน้องคนไหนว่ายน้ำไม่เป็น พี่อนุโลมให้พี่รหัสว่ายแทนได้นะค่ะ แต่น้องต้องว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆนะค่ะ เพราะถ้าพี่จับได้ล่ะก็...เป็นเรื่องแน่ค่ะ ^^+” เมื่อแพรวาพูดจบ ผมจึงเดินไปหาฮารุที่กำลังเขี่ยทรายเล่นอยู่คนเดียว ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลหันมามองสักครู่ ก่อนจะหันไปสนใจพื้นทรายต่อ

                “ฮารุว่ายน้ำเป็นไหม?”

                “เป็น” ร่างบางตอบกลับเสียงห้วน ก่อนจะเดินไปตรงจุดที่แพรวาบอกไว้

                “ไหวแน่นะ?” ผมเดินตามมา ก่อนจะถาม เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

                (_ _) (_ _)” ฮารุพยักหน้ารับ ผมจึงว่ายน้ำไปตรงจุดที่ธงปักไว้ และยืนรออยู่ตรงนั้น

                ปี๊ดดดดด

                เสียงนกหวีด ซึ่งแพรวาเป็นคนเป่าดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกให้น้องรหัสว่ายน้ำออกจากฝั่งมาหาพี่รหัสตรงจุดที่ธงปักไว้

                ฮารุว่ายออกมาได้สักพัก เธอก็หยุดอยู่ตรงกลางระหว่างตัวผมกับชายฝั่ง แต่เอ๊ะ! ผมว่ามันดูแปลกๆนะ -*-

                “ช่วยด้วย!!

                “ฮารุ!

                ฮารุตะโกนขึ้นมา พร้อมพยายามตะกายขึ้นมาจากน้ำ ผมและคนอื่นตกใจสุดขีด ผมพยายามตั้งสติ ก่อนจะรีบว่ายไปตรงจุดที่ฮารุจมน้ำ และรีบอุ้มเธอขึ้นมาบนชายฝั่งทันที ผมวางเธอลงกับพื้นทราย ก่อนจะผายปอดให้เธอ

                “ตื่นสิฮารุ ตื่นๆ”

                ผมจับแก้มของฮารุเบาๆ และผายปอดให้เธออีกครั้ง ก่อนที่ร่างบางจะค่อยขยับตัว และไอเอาน้ำทะเลออกมา

                “แค่กๆ”

                “เป็นไงบ้าง...ฮารุ” ผมประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่โทคิจะเดินมาช่วยผมประคองตัวฮารุ

                “ฟ้า!!

                ผมเรียกชื่อเพื่อนสนิทด้วยความโกรธ ร่างบางสะดุ้งเฮือก และมองมาที่ผมด้วยแววตาสำนึกผิด แต่ตอนนี้ผมไม่สนอะไรอีกแล้ว เธอทำฮารุเกือบตายเชียวนะ

                “ฟ้าคิดจะทำอะไร ฉันไม่ว่าเลยนะ แต่เกมนี้มันเสี่ยงเกินไป เธอควรจะระวังมากกว่านี้ -*-

                “ฟ้า...ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ ฟ้าไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น T_T

                หมับ!

                “โอ๊ย!

                ผมบีบแขนของฟ้าใสแน่น ตามอารมณ์โกรธของตัวเอง นั่นทำให้ฟ้าใสส่งเสียงร้องออกมา นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคลอไปด้วยน้ำตา

                “ฟ้าไม่คิด หรือฟ้าไม่สนใจกันแน่ ฟ้าก็รู้ว่าฉันไม่เคยห้าม ถ้าฟ้าจะทำอะไร แต่นี่มันเกินไปนะฟ้า ถ้าสมมติว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฮารุ แต่เกิดกับคนอื่น ฟ้าจะทำยังไง ฟ้าจะรับผิดชอบเขายังไง -*-

                “ฟ้า...ฟ้า”

                “พอแล้วน่า ฟ้าร้องไห้แล้ว แกยังไม่พอใจรึไง”

                ยูกิแกะมือผมออกจากแขนของฟ้าใส และพูดขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำของไอ้ยูกิมองผมด้วยความครุ่นเคือง ก่อนที่ไอ้ยูกิขยับตัวไปกอดปลอบพี่ฟ้าใสที่กำลังร้องไห้อยู่

                “แต่...”

                “แกจะเอาอะไรอีกอากิ ฟ้าร้องไห้ขนาดนี้ แกยังไม่พอใจอีกใช่ไหม?”

                “ฮึ่ย!” ยูกิพูดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ร่างบางในอ้อมกอดของมันร้องไห้หนักขึ้น หากก็ไม่มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเลย

                “ฉันขอโทษแทนฟ้าใสด้วยนะ แล้วเธอเป็นอะไรมากรึเปล่า?”

                “ไม่ล่ะ ฉันค่อยยังชั่วแล้ว”

                ผมทอดเสียงถามฮารุอย่างอ่อนโยน ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติมากขึ้นกว่าเมื่อเช้าที่เจอกัน น้ำเสียงของเธอไม่ได้แฝงความโกรธอะไร

                “...”

                “...พี่ฟ้าอย่าร้องไห้เลยนะค่ะ ฮารุไม่เป็นอะไรแล้ว ฮารุประมาทเองค่ะ พี่ไม่ผิดหรอกนะค่ะ ^^” ร่างบางพูดกับฟ้าใส หลังจากที่เธอเงียบไปนาน ก่อนที่ร่างบางจะยันตัวลุกขึ้น และเดินไปหาฟ้าใสที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของยูกิอยู่

                “แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นความผิดของพี่ด้วย เพราะพี่ดูแลน้องฮารุไม่ดี” ฟ้าใสตอบกลับมาด้วยความรู้สึกผิด

                “ฮารุไม่โกรธพี่จริงๆค่ะ”

                “พี่ขอโทษๆ (_ _)

                “ค่ะๆ ฮารุรู้แล้ว”

                ฮารุพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินมาหาโทคิ แต่เธอก็ชะงัก และหันมายืนตรงหน้าผมซะก่อน

                “ฮารุขอบคุณอากิมากๆเลยนะค่ะ...ที่ช่วยฮารุไว้ (_ _)” เธอพูด และโค้งขอบคุณผม ก่อนจะขอตัวขึ้นห้อง เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และนอนพัก เพราะเธอรู้สึกว่าเธอจะไม่สบาย

                ความห่วงใย ความผูกพันที่ผมมีต่อฮารุ มันเหมือนกับ...มีเส้นใยบางๆเชื่อมผมกับฮารุไว้ เพียงแต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร



     

    (Haru Says)

                “ฮารุ”

                “...”

                “ฮารุๆ”

                “หือ?”

                เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าที่หัวไหล่ ทำให้หลุดจากภวังค์ ฉันหันไปมองเพื่อนสนิทข้างตัว ก่อนที่โทคิจะพูดขึ้นอีกครั้ง

                “เป็นอะไรรึเปล่า...ฮารุ -*-

                “อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษนะที่ไม่ได้ยินเสียงเรียกของโทคิ พอดีฉันเป็นห่วงพี่ฟ้าน่ะ ^^;

                “พี่ฟ้าใสน่ะเหรอ?”

                “อื้อ...ฉันเห็นพี่ฟ้าร้องไห้ เลยรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ แล้วฉันก็กลัวว่าอากิจะหาเรื่องพี่ฟ้าอีกด้วย” ฉันอธิบายให้โทคิฟัง ตามความรู้สึกของตัวเอง ร่างสูงพยักหน้า ก่อนจะเอื้ออมือมาลูบหัวฉันเบาๆ

                “อย่าคิดมากเลย...ฮารุ ยังไงพี่ยูกิก็ยังอยู่ตรงนั้น ฉันว่าพี่อากิคงไม่ทำอะไรพี่ฟ้าหรอก ^^

                “อื้ม ^^

                เราสองคนคุยกันมาตลอดทาง จนมาถึงห้องพักของฉัน เพื่อนสนิทของฉันจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง

                “ฮารุอาบน้ำ เปลี่ยนชุดใหม่เถอะ เดี๋ยวฉันไปขอยาแก้ไข้จากรุ่นพี่มาให้เธอแล้วกัน”

                “อืม ขอบคุณนะ ^^

                ฉันยิ้ม และพูดกับโทคิ ร่างสูงพยักหน้ารับคำขอบคุณของฉัน นัยน์ตาสีดำสนิทมองมาที่ฉันด้วยความเป็นห่วง หากฉันก็หลบตา และทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถึงสายตาที่เขามองฉัน ร่างสูงเดินลงไปหารุ่นพี่ที่ชายหาด ฉันยืนมองร่างสูงจนลับตา แล้วจึงเปิดประตูห้องพักของตัวเอง และเริ่มอาบน้ำใหม่ พลางนึกย้อนไปถึงตอนที่อากิช่วยฉันขึ้นมาจากการจมน้ำ

               

    ช่วยด้วย!!’

    ฉันร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อรู้สึกว่าขาของตัวเองเป็นตะคริว และขาของฉันก็แตะไม่ถึงพื้นทรายด้านล่างด้วย

                ฮารุ!’

                เสียงของอากิดังขึ้น ก่อนที่สติของฉันจะค่อยๆเลือนหายไป

     

                แค่กๆ

                ฉันไอเอาน้ำทะเลออกมา ก่อนที่สติของฉันจะค่อยๆกลับมา เมื่อกี้ฉันจมน้ำ แล้วอากิก็ตะโกนเรียกชื่อฉัน เขาคงเป็นคนช่วยฉันล่ะมั้ง

                เป็นไงบ้าง...ฮารุ

                อากิถามขึ้น ก่อนจะค่อยๆพยุงฉันให้ลุกขึ้นนั่ง

                ฟ้า!!’

                อากิเรียกชื่อพี่ฟ้าใสเสียงดัง เอ่อ...เวลาที่อากิโกรธนี่น่ากลัวชะมัดเลย

                ฟ้าคิดจะทำอะไร ฉันไม่ว่าเลยนะ แต่เกมนี้มันเสี่ยงเกินไป เธอควรจะระวังมากกว่านี้ -*-’

                อากิพูดกับพี่ฟ้าใสอีกครั้ง ในขณะที่พี่ฟ้าใสก็มองมาที่ฉันด้วยแววตาสำนึกผิด

                ฟ้า...ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ ฟ้าไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น T_T’

                หมับ!

                โอ๊ย!’

                พี่ฟ้าใสพูดขึ้น ก่อนที่อากิจะบีบแขนของพี่ฟ้าใสแน่น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของพี่ฟ้าใสคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

                ฟ้าไม่คิด หรือฟ้าไม่สนใจกันแน่ ฟ้าก็รู้ว่าฉันไม่เคยห้าม ถ้าฟ้าจะทำอะไร แต่นี่มันเกินไปนะฟ้า ถ้าสมมติว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับฮารุ แต่เกิดกับคนอื่น ฟ้าจะทำยังไง ฟ้าจะรับผิดชอบเขายังไง -*-‘

                ฟ้า...ฟ้า

                พอแล้วน่า ฟ้าร้องไห้แล้ว แกยังไม่พอใจรึไง

                ยูกิแกะมือของอากิออกจากแขนของพี่ฟ้าใส และพูดขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำของยูกิบอกความรู้สึกอะไรสักอย่าง เพียงแต่ฉันอ่านไม่ออก ก่อนที่มันจะหายไป เมื่อเจ้าตัวกะพริบตาอีกครั้ง ยูกิขยับตัวไปกอดปลอบพี่ฟ้าใสที่กำลังร้องไห้อยู่

                แต่...

                แกจะเอาอะไรอีกอากิ ฟ้าร้องไห้ขนาดนี้ แกยังไม่พอใจอีกใช่ไหม?

                ฮึ่ย!’

                อากิทำท่าจะแย้ง แต่ยูกิก็รีบสวนกลับ อากิจึงได้แต่สบถออกมา และนั่นทำให้ร่างบางในอ้อมกอดของยูกิร้องไห้หนักขึ้น หากก็ไม่มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเลย

                ฉันขอโทษแทนฟ้าใสด้วยนะ แล้วเธอเป็นอะไรมากรึเปล่า?

                ไม่ล่ะ ฉันค่อยยังชั่วแล้ว

                อากิถามฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นัยน์ตาสีดำสนิทฉายแววห่วงใยจนเห็นได้ชัด ฉันหลบตา ก่อนจะตอบออกไป

                ...

                ...พี่ฟ้าอย่าร้องไห้เลยนะค่ะ ฮารุไม่เป็นอะไรแล้ว ฮารุประมาทเองค่ะ พี่ไม่ผิดหรอกนะค่ะ ^^’

                แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นความผิดของพี่ด้วย เพราะพี่ดูแลน้องฮารุไม่ดี

                ฉันพูดกับพี่ฟ้าใส หลังจากที่ฉันเงียบไปนาน ก่อนที่ฉันจะยันตัวลุกขึ้น และเดินไปหาพี่ฟ้าใสที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของยูกิ

                ฮารุไม่โกรธพี่จริงๆค่ะ

                พี่ขอโทษๆ (_ _)’

                ค่ะๆ ฮารุรู้แล้ว

                ฉันพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินมาหาโทคิ แต่ฉันก็ชะงักขา และหันมายืนตรงหน้าอากิซะก่อน

                ฮารุขอบคุณอากิมากๆเลยนะค่ะ...ที่ช่วยฮารุไว้ (_ _)’

                ฉันพูด และโค้งตัวให้อากิ ก่อนที่โทคิจะเดินพาฉันกลับไปที่ห้องพัก

     


                แอด...

                เสียงเปิดประตูดังขึ้น หลังจากที่ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว สายตาของฉันมองไปทางผู้มาใหม่ ก่อนจะเห็นร่างบางของครีมเดินเข้ามา

                “ครีมเอายามาให้ฮารุแทนโทคิ พอดีว่าเขาโดนรุ่นพี่รั้งตัวไว้น่ะ ^^” ร่างบางพูด และยิ้มกว้าง พลางเดินมานั่งข้างฉัน...ซึ่งกำลังเช็ดผมอยู่ แล้วจึงยื่นยาแก้ไข้มาให้ตรงหน้าฉัน

                “ขอบคุณนะ” ฉันเอ่ย แล้วจึงยื่นมือไปรับยาจากมือครีม ครีมเดินไปเทน้ำใส่แก้ว และยื่นมาให้ฉัน ซึ่งฉันก็รับแก้วน้ำมา และทานยาอย่างว่าง่าย

                “เดี๋ยวครีมเป่าผมให้นะ” ครีมพูดขึ้น ฉันพยักหน้ารับ และเดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ร่างบางสาละวนกับไดร์เป่าผม ก่อนจะเริ่มต้นเป่าผมให้ฉัน ฉันมองกระจก ภาพสะท้อนดวงหน้าหวานของครีมมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

                “เป็นอะไรรึเปล่าครีม?”

                “ครีม...”

                ฉันเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง หากเจ้าตัวก็ยังลังเลที่จะตอบ ฉันใช้สายตามองครีมนิ่งๆ หากสาวเจ้าก็ยังอึกอักอยู่อย่างนั้น

                “...ครีม -*-

                “คือ...ตอนที่ฮารุเดินออกมา พี่อากิยิ่งดูโกรธเข้าไปใหญ่เลย น่ากลัวมากๆ ตอนที่ครีมขึ้นมา ยังเห็นพี่อากิทะเลาะกับพี่ฟ้าอยู่เลย (_ _)

                “ว่าไงนะครีม!!

                ฉันร้องเสียงหลง เมื่อครีมพูดจบ ร่างบางก้มหน้านิ่ง ส่วนฉันก็รีบลุกขึ้นเตรียมจะออกจากห้องพัก แต่...

                หมับ!

                “อย่าไปเลยฮารุ เธอเพิ่งจะจมน้ำมา ครีมว่าฮารุนอนพักผ่อนเถอะนะ ^^;

    ...มือบางของครีมรั้งข้อมือฉันไว้ และพูดเสียงอ่อน นัยน์ตาสีดำสนิทมองมาที่ฉันด้วยแววตาขอร้อง แต่นี่คือครีม ไม่ใช่โทคิ ฉันจึงไม่สนใจคำพูดของเธอ จึงสะบัดมือของเธอทิ้ง และรีบเดินไปที่ชายหาดทันที



               

                “ฟ้าไม่ได้ตั้งใจนะ...อากิ” เสียงหวานปนสะอื้นของพี่ฟ้าใสแว่วเข้ามา ฉันจึงรีบสาวเท้าไปยังที่ที่อากิกับพี่ฟ้าใสทะเลาะกันอยู่

                “หมายความว่า...ถ้าเธอตั้งใจ ฮารุก็คงตายไปแล้ว -_-*

                หมับ!

                “อากิ!

                “อะไรว่ะ...ฮารุ O_O

                ฉันวิ่งเข้าไปจับมือของอากิให้หันมาทางฉัน หากเจ้าตัวก็สะบัดมือของฉันทิ้ง และสบถออกมาสองสามคำ ก่อนที่อากิจะตกใจ เมื่อเห็นว่าฉันเป็นคนที่จับมือเขา ในขณะที่พี่ฟ้าใสถึงกับหน้าซีด

                “น้องฮารุ...”

                “เธอเป็นอะไรรึเปล่า...ฮารุ -*-

                “เอ่อ...”

                พี่ฟ้าใสเรียกชื่อฉันเสียงเบา หากอากิกลับไม่สนใจ เขาหันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน มือใหญ่หมุนตัวฉันไปมา เหมือนกับหาว่าฉันมีแผลอะไรรึเปล่า นั่นทำให้ฉันถึงกับใบ้กิน กรี๊ด! นายอากิ หยุดหมุนตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ มันทำให้ฉันหวั่นไหวรู้ไหม เอ่อ...ฉันปัดความรู้สึกหวั่นไหวของตัวเองทิ้ง ก่อนจะพยายามตั้งสติ ฉันมาที่นี่ เพื่อห้ามไม่ให้อากิทะเลาะกับพี่ฟ้าใส ตั้งสติหน่อย...ฮารุ ตั้งสติๆ

                พลั่ก!

                “ฉันไม่เป็นไร เลิกหมุนตัวฉันได้แล้ว”

                หมับ!

                ฉันตอบคำถามของอากิ ด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย ร่างสูงชะงัก ก่อนจะยิ้มตาหยี แล้วดึงฉันไปกอดทันที กลิ่นน้ำหอมจากตัวอากิลอยเข้ามาแตะจมูกฉัน นั่นทำให้ฉันใจเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ แถมยังรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองจะร้อนๆด้วย

                “พอแล้ว ฉันหายใจไม่ออก” ฉันผลักร่างสูงที่กอดฉันเบาๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมผละออกไปตามที่ฉันขอ ก่อนจะหันหน้าไปหาเรื่องพี่ฟ้าใสต่อ

                “พี่ฟ้าอย่าร้องไห้เลยนะค่ะ” ฉันพูดขัดอากิ หากเจ้าตัวก็ยังมาพูดขัดฉันอีก

                “แต่ฟ้าทำเธอเกือบตายเชียวนะ -*-

                “นายกำลังแช่งฉันนะอากิ และฉันก็ไม่ได้ตายจริงๆด้วย มันเป็นอุบัติเหตุ นายเข้าใจไหม?”

                ฉันเกิดอาการปรี๊ดแตก เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนอากิแช่ง ร่างสูงเงียบ หากก็ยังไม่วายเอ่ยแย้ง

                “แต่...”

                “ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ! นายเข้าใจคำว่าอุ-บัติ-เหตุไหม?”

                ฉันตะโกนใส่อากิอย่างเหลืออด และเน้นคำว่าอุบัติเหตุให้เขาฟังทีละคำ ร่างสูงชะงัก เขามองมาที่ฉันด้วยแววตาที่ฉันก็อ่านไม่ออก หากแววตาเขาก็อ่อนลงมาก อากิเงียบไปนาน ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง

                “...ฟ้า...ฉันขอโทษนะ”

                “ฟ้าไม่โกรธอากิหรอก ฟ้าเข้าใจ ^^

                พี่ฟ้าใสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นกว่าตอนแรก ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูบอบบางขนาดนี้นะ ไหนจะแววตาของยูกิที่มองพี่ฟ้าใสอีก มันดูเจ็บปวด และเจือด้วยความเป็นห่วง หากเมื่อเจ้าตัวกะพริบตาอีกครั้ง มันก็หายไปแล้ว

                “ขึ้นห้องเถอะฮารุ เดี๋ยวฉันไปส่ง ^^

                “อืม”

                โทคิซึ่งเดินมาจากไหนไม่รู้พูดขึ้น ฉันจึงทำเพียงพยักหน้ารับ โทคิเอื้อมมือมาจับมือของฉันไว้ ก่อนที่เราสองคนจะเดินขึ้นห้องพัก โดยที่ฉันไม่ทันได้สังเกตเห็นแววตาของอากิที่มองมาที่ฉันด้วยแววตาไม่เข้าใจและ...เจ็บปวด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×