ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต
2
วันรับน้อง
“สวัสดีค่ะ น้องๆทุกคน พี่ชื่อฟ้าใสนะค่ะ อยู่ปี 3 ค่ะ”
“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อแพรวาค่ะ อยู่ปี 3”
“สวัสดีค่ะ น้องๆทุกคน พี่ชื่อ...บลาๆๆ”
วันนี้เป็นวันรับน้องวันแรก ซึ่งตอนนี้พี่ๆ ปี 2 หรือปี 3 กำลังแนะนำตัวกันอยู่ แต่ฉันขี้เกียจฟังมากกกกก แถมเบื่อด้วย ฮู่ว~ ฉันตัดสินใจหันไปคุยกับเพื่อนใหม่...ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เพราะโทคิโดนรุ่นพี่ฉุด...เอ๊ย...ลากไปไหนก็ไม่รู้
จึ้กๆ
“นี่เธอ...” ฉันสะกิดเพื่อนข้างตัว และส่งเสียงเรียกเธอเบาๆ ก็ขืนเรียกเสียงดัง ฉันคงจะโดนรุ่นพี่ด่ายับ ฮู่ว~ เบื่อชะมัดเลยแฮะ
“มะ..มีอะไรเหรอ?” คนข้างตัวหันมาตามแรงสะกิด และเสียงเรียกของฉัน ก่อนจะถามฉันด้วยเสียงหวานๆ แต่ตะกุกตะกัก นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดูลอกแลก และตื่นกลัวนิดๆ พวงแก้มขึ้นสีเลือดฝาดๆ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูอ่อน ดูซีดไปถนัดตา ผิวขาวอมชมพู รับกับผมสีน้ำตาลทองที่ถูกปล่อยสยายจนถึงกลางหลัง
“เธอรู้ไหมว่ารุ่นพี่เขาแนะนำตัวกันทำไมเหรอ?” ฉันถาม และยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร (มั้ง) เธอหันหน้าไปมองรุ่นพี่ทั้งหลายบนเวที ก่อนจะหันมาตอบคำถามของฉัน
“อะ...อ๋อ รุ่นพี่พวกนี้จะเป็นพี่รหัสของพวกเราแต่ละคนน่ะ ^^;”
“พี่รหัส?”
“พี่รหัสก็เหมือนพี่ชาย พี่สาวของเราน่ะ พวกเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้เรา หรือคอยช่วยเหลือเรา เมื่อเราเดือดร้อนอะไรจำพวกนี้แหละจ้ะ ^^”
“อืม (^^) (_ _) (^^) (_ _)”
“^^”
“ฉันชื่อฮารุ เธอชื่ออะไรเหรอ?”
“ฉันชื่อครีม”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครีม ^^”
“เช่นกันจ้ะ...ฮารุ ^^”
เราสองคนคุยเรื่อสัพเพเหระกันนิดหน่อย ก่อนจะหันมาสนใจรุ่นพี่ที่กำลังพูดอยู่หน้าเวที
“น้องๆค่ะ เดี๋ยวพวกพี่จะเดินนำกล่องไปให้น้องๆทุกคนจับสลากว่าน้องๆจะได้ใครเป็นพี่รหัส โดยสลากที่น้องๆจับได้มานั้น จะมีคำอธิบายถึงรูปร่างหน้าตาของพี่รหัส ถ้าน้องๆคิดว่าเจอพี่รหัสของตัวเองแล้ว ก็ให้น้องๆนำสลากให้พี่รหัสคนนั้นดู ถ้าใช่ ก็ให้น้องๆยืนอยู่กับพี่รหัสของตัวเองก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพวกพี่ๆจะมีเกมให้เล่น ^^”
รุ่นพี่ปี 3 ที่แนะนำตัวว่าตัวเองชื่อฟ้าใสอธิบายเสียงใส ก่อนที่จะมีรุ่นพี่คนอื่นๆนำกล่องในหนึ่งมาให้พวกฉันจับสลาก ฉันและครีมหยิบสลากขึ้นมา และเริ่มเดินหาพี่รหัสของตัวเอง โดยในสลากของฉันอธิบายรูปร่างหน้าตาของพี่รหัสไว้ว่า
‘ชายหนุ่มร่างสูงลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น นัยน์ตาสีเทาเข้มจนเกือบดำ ผมยาวรากไทรสีดำ แซมเทา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูอ่อน'
เอ่อ...แล้วฉันจะรู้ไหมเนี่ย อธิบายได้รู้เรื่องมาก กรี๊ด~ แต่เอ๊ะ...ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นงั้นเหรอ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดียังไงไม่รู้แฮะ ขอให้อย่าเป็นคนเดียวกับคนที่ฉันคิดด้วยเถอะ สาธุ~
ฉันเดินหาพี่รหัสของตัวเองไปเรื่อย ก่อนจะสะดุดกับแผ่นหลังของใครคนหนึ่ง ซึ่งดูคุ้นตาเหลือเกิน ฉันเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายก็มายืนตรงหน้าเขา
“...!”
“...!”
เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าคนนี้เป็นพี่รหัสของฉัน เพราะคนตรงหน้าฉันมีรูปร่างตรงกับคำอธิบายในสลากในมือฉัน ม่ายยยยยยยย~ ต้องไม่ใช่สิ ต้องไม่ใช่ ฉันพยายามตั้งสติ ก่อนจะยื่นสลากให้ตัวเองให้กับคนตรงหน้าที่ตัวเองจับมาได้...โดยบังเอิญ (กัดฟัน)
“อืม...ฉันเองแหละ”
“ทำไมถึงเป็นนาย?”
ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับมาสั้นๆ แต่ได้ใจความสุดๆ ก่อนที่ฉันจะถามออกไป และรู้สึกว่าคำถามของตัวเองนั้น สิ้นคิดสุดๆเลย เฮ้อ~
“เอาล่ะค่ะ พี่ว่าตอนนี้น้องๆทุกคนคงเจอพี่รหัสของตัวเองแล้วใช่ไหมค่ะ? พี่มีเกมสนุกๆมาให้น้องๆเล่นกันด้วย โดยให้น้องๆทุกคนถามประวัติส่วนตัวของพี่รหัส โดยจะถามอะไรก็ได้นะค่ะ พี่ไม่บังคับ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อายุ หรืออะไรก็ได้ค่ะ พี่ให้เวลาน้องๆ 15 นาทีในการถามพี่รหัสของตัวเองนะค่ะ แล้วเมื่อหมดเวลา พี่จะเดินไปถามน้องๆสักสามสี่คน ซึ่งพี่จะเดินไปถามด้วยตัวเอง ถ้าน้องๆตอบได้ ก็รอดไป แต่ถ้าตอบไม่ได้ล่ะก็... ทั้งพี่รหัส และน้องรหัสจะต้องโดนมาเต้นหน้าเวทีนะค่ะ ^^”
พี่ฟ้าใสพูดขัดขึ้น ในขณะที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังจะตอบคำถามฉัน อ่อ...ทุกคนกำลังสงสัยใช่ไหมค่ะว่าผู้ชายตรงหน้าฉันคือใคร เขาก็คือ...ผู้ชายที่ฉันเคยทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องไร้สาระที่โรงอาหาร เมื่อวันก่อนไงค่ะ คุ้นๆบ้างรึยัง ฮ่ะๆ นี่พระเจ้าต้องการเล่นตลกอะไรกับฉันเนี่ย ถึงได้ให้ฉันจับสลากได้เขาเป็นพี่รหัส เราสองคนจ้องตากันอยู่นาน โดยไม่พูดอะไรกันเลย
พี่ฟ้าใสพูดขัดขึ้น ในขณะที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังจะตอบคำถามฉัน อ่อ...ทุกคนกำลังสงสัยใช่ไหมค่ะว่าผู้ชายตรงหน้าฉันคือใคร เขาก็คือ...ผู้ชายที่ฉันเคยทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องไร้สาระที่โรงอาหาร เมื่อวันก่อนไงค่ะ คุ้นๆบ้างรึยัง ฮ่ะๆ นี่พระเจ้าต้องการเล่นตลกอะไรกับฉันเนี่ย ถึงได้ให้ฉันจับสลากได้เขาเป็นพี่รหัส เราสองคนจ้องตากันอยู่นาน โดยไม่พูดอะไรกันเลย
“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ...ฮารุ”
“นาย...!!”
ในที่สุด คนตรงหน้าฉันก็เป็นคนเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายความเงียบเสียก่อน น้ำเสียงที่ราบเรียบ ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าคนพูดอยู่ในอารมณ์ไหน ส่วนตัวฉัน กลับรู้สึกไม่ชอบกับคำพูดประโยคนี้ของเขา เฮอะ~ ทำอย่างกับฉันอยากเจอนายอย่างนั้นแหละ แต่...
“นายรู้จักชื่อฉันได้ยังไง?”
“ก็วันที่ฉันทะเลาะกับเธอนั่นแหละ”
ฉันถามคนที่นั่งอยู่ ก่อนที่เขาจะตอบกลับด้วยโทนเสียงที่ยังราบเรียบเช่นเดิม อืม...เขาคงหมายถึงเมื่อวันก่อนที่ฉันทะเลาะกับเขา แล้วโทคิก็เรียกชื่อฉันล่ะมั้ง
“ทำไม...”
“หมดเวลาแล้วค่ะน้องๆทุกคน พี่จะเดินไปหาน้องๆบางคน เพื่อถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของพี่รหัส อย่าลืมนะค่ะว่าถ้าน้องๆตอบผิด หรือตอบไม่ได้ ทั้งพี่รหัส และน้องรหัสจะต้องขึ้นมาเต้นหน้าเวทีนะค่ะ ^^” เสียงหวานใสของพี่ฟ้าใสขัดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ฉันตัดสินใจไม่ถามคำถามบางอย่างกับคนตรงหน้า พี่ฟ้าใสเดินลงมาจากเวที ก่อนจะเดินตรงมาหา...ฉัน!!
เฮ้ย! ฉันไม่รู้ข้อมูลอะไรของคนตรงหน้าเลยนะ และดูท่าว่าคนตรงหน้าก็ไม่คิดจะบอกอะไรกับฉันด้วย โธ่เว้ย! นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย
“สวัสดีค่ะ แหม~ พี่-น้องรหัสคู่นี้ช่างสวยหล่อกันทั้งคู่เลยนะค่ะ ^^”
“...”
“...”
พี่ฟ้าใสพูดทีเล่นทีจริงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ส่วนฉันกับผู้ชายข้างตัวกลับเงียบกันทั้งคู่ เหมือนไม่ต้องการตอบรับ ก่อนที่พี่ฟ้าใสจะทำได้เพียงแค่ยิ้มเจื่อนๆ และหันมาถามคำถามกับฉันแทน
“น้องชื่ออะไรค่ะ ^^;”
“ฮารุ”
ฉันตอบสั้นๆ ห้วนๆ นั่นยิ่งทำให้พี่ฟ้าใสถึงกับหน้าเจื่อนลงไปอีก แต่คำถามต่อมาของพี่ฟ้าใสนี่สิ เล่นเอาฉันถึงกับจุก -*-
“งั้นพี่ขอถามสั้นๆง่ายๆแล้วกันนะค่ะ คือ...พี่อยากจะถามว่าพี่รหัสของน้องฮารุชื่ออะไรค่ะ ^^;”
ซวยแล้ว! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าผู้ชายข้างตัวฉันชื่ออะไร ในเมื่อตอนที่พี่ฟ้าใสให้ฉันถามประวัติส่วนตัวของเขา แต่ฉันกับเขากลับเล่นเกมจ้องหน้า และพูดกันไม่กี่ประโยคเอง ฮึ่ย!
“ไม่รู้”
ฉันตอบห้วนๆเหมือนเดิม เล่นเอาพี่ฟ้าใสถึงกับหน้าเสีย อืม...ถ้าให้ฉันเดานะ คนข้างตัวฉันก็คงจะดังน่าดูแหละ พี่ฟ้าใสถึงได้หน้าเสียขนาดนี้ เพราะคงคิดว่าทำไมฉันถึงไม่รู้จักเขาน่ะสิ เฮอะ~ ช่างเถอะ ฉันไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
“ฮ่ะๆ ^^; น้องฮารุตอบคำถามของพี่ไม่ได้นะค่ะ เราก็ควรทำตามข้อตกลงกันนะค่ะ นั่นคือให้พี่รหัส น้องรหัสไปเต้นโชว์บนเวที แต่ตอนนี้พี่รหัส กับน้องรหัสไปรออยู่บนเวทีก่อนนะค่ะ พี่จะไปถามคำถามกับคนอื่นต่อ แล้วถ้าใครตอบผิด ก็จะต้องขึ้นไปเต้นเป็นเพื่อนพี่รหัส น้องรหัสแน่นอนค่ะ ^^;”
ฉันและคนข้างตัวต่างนิ่งเงียบ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่พี่ฟ้าใสจะไปถามคำถามคนอื่นต่อ และมีบางคู่ที่ต้องมาเต้นบนเวทีเหมือนกับคู่ฉันเหมือนกัน แล้วตอนที่พี่ฟ้าใสให้ฉันกับคนอื่นๆเต้น มีแต่คู่ฉันเท่านั้นที่ไม่ยอมเต้น พี่ฟ้าใสจึงทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ และปล่อยพวกเราไป ก่อนจะบอกทิ้งท้ายว่าในวันมะรืนนี้มหา’ลัยจะมีค่ายรับน้อง ซึ่งจัดขึ้นที่หัวหิน โอ๊ย! นี่ฉันจะต้องทนอยู่กับพี่รหัสของตัวเองถึง 3 วันเลยเหรอเนี่ย เฮอะ~
แต่จริงๆแล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าฉันก็รู้สึกผูกพันกับพี่รหัสของตัวเองอย่างประหลาด เฮ้อ~
(Aki Says)
Hua Hin Resort&Spa
ตอนนี้ผม และคนอื่นๆเดินทางมาถึงหัวหินแล้ว ซึ่งโรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่พวกผมจะใช้ในการรับน้องปี 1 และเป็นโรงแรมที่พวกผมพักค้างคืนด้วย
เรื่องเมื่อวาน ผมอยากจะบอกว่าผมตกใจมากที่รู้ว่าน้องรหัสของผมคือ...ฮารุ หญิงสาวที่ผมเคยทะเลาะด้วย...เมื่อหลายวันก่อน แต่เหตุการณ์นี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น เพราะเมื่อปีก่อน คนที่เป็นน้องรหัสของผมก็คือ...ไวน์ อ่อ...ทุกคนอาจจะงงใช่ไหมครับว่าผมหมายถึงไวน์ไหน ทุกคนจำได้ไหมครับว่าเมื่อหลายวันก่อนยูกิมาถามผมเกี่ยวกับเรื่องของฮารุ แล้วมันก็บอกว่าเหตุการณ์ที่ผมเจอกับฮารุครั้งแรก เหมือนเหตุการณ์ที่ผมเคยเจอกับไวน์เป็นครั้งแรก ผมอยากจะคิดนะครับว่ามันเป็นแค่เหตุบังเอิญ ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่พอผมมาเจอเรื่องเมื่อวันก่อนอีก ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่ผมคิดรึเปล่า แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ถึงซ้ำรอย หรือมันอาจจะเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิตไว้กันแน่นะ ฮ่ะๆ ^^+
ไวน์ และฮารุเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งคู่ เพียงแต่ไวน์จะเป็นผู้หญิงที่สวยหวานๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเธอมีเสน่ห์ หากก็ดูหวานล้ำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปสีชมพูอ่อน รับกับผมสีน้ำตาลที่ปล่อยยาวถึงกลางหลังเช่นเดียวกับสีตา ในขณะที่ฮารุกลับเป็นผู้หญิงที่สวยร้าย นัยน์ตาสีดำสนิทดูหวาน แต่ก็ดูลึกลับ ล้อมกรอบด้วยขนตาที่ยาวเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน ผมยาวถึงกลางหลังสีดำสนิท เช่นเดียวกับสีตา แม้ว่าหน้าตาของทั้งสองคนจะสวยเหมือนกัน แต่นิสัยของทั้งสองคนกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะไวน์เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนหวาน ในขณะที่ฮารุกลับเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด แต่ตัวเธอจะดูสวยกว่าปกติ เมื่ออยู่กับโทคิ...เพื่อนสนิทของเธอ เพราะใบหน้าที่บึ้งตึงของเธอ มักจะมีรอยยิ้มเสมอ
แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฮารุถึงได้ยอมโทคิขนาดนี้ จะว่าเพราะโทคิเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เหตุผลมันก็ดูจะน้อยเกินไป อืม...คิดไม่ออกแฮะ
แอด...
“อากิ...” เสียงเปิดประตูห้องพัก พร้อมเสียงเรียกของยูกิ ทำให้ผมหลุดจากภวังค์
“มีอะไร?” ผมถามยูกิ เมื่อมันยื่นหน้าเข้ามาในห้อง
“ลงไปข้างล่างได้แล้ว ไปช่วยจัดสถานที่กับหน่อย อย่ามัวอู้ ^^+” ยูกิตอบกลับบมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ และยังแอบกัดผมด้วย หึๆ
“เออๆ เดี๋ยวตามลงไป”
“อืม”
(Haru Says)
วันนี้เป็นวันแรกในค่ายรับน้อง เห็นพี่ๆบอกว่าจะมีกิจกรรมช่วงบ่าย พี่ๆจึงให้พวกฉันไปอาบน้ำพักผ่อนกันก่อน ซึ่งพี่ๆจะให้พวกเราพักกันเป็นคู่ๆ ฉันจึงตัดสินใจว่าจะนอนคู่กับครีม...เพื่อนใหม่ที่รู้จักในงานวันรับน้อง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
“ครีมได้ใครเป็นพี่รหัสเหรอ?” ฉันเริ่มบทสนทนา หลังจากที่เราสองคนจัดเสื้อผ้าใส่ตู้เรียบร้อยแล้ว ครีมทำท่านึกสักครู่ ก่อนที่เสียงหวานใสจะตอบกลับมา
“อืม...ถ้าครีมจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะชื่อ...ยูกินะ ^^ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นเหมือนฮารุเลย ^-^”
ยูกิ...ชื่อพี่รหัสของครีม ทำเอาฉันชะงัก เฮ้อ~ ฉันแอบสงสารครีมอยู่เหมือนกันแฮะ ไม่น่าไปเจอพี่รหัสที่เจาชู้แบบนี้เลย
“ยูกิน่ะ...ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ครีมเห็นหรอกนะ”
“หืม? ฮารุรู้จักเขาด้วยเหรอ?”
ฉันเอ่ยเตือนเพื่อนสาวด้วยความหวังดี ครึมจึงถามกลับมาด้วยความสงสัย ไร้เดียงสาจริงๆเลย ครีมเอ๊ย
“ก็แค่คนรู้จัก ส่วนที่ฉันเตือนน่ะ เพราะยูกิเป็นคนเจ้าชู้ ฉันไม่อยากให้ครีมต้องเสียใจ”
“ขอบใจที่เป็นห่วงจ้า แล้วใครเป็นพี่รหัสของฮารุเหรอ?”
“เอ่อ...”
ครีมน้อมรับคำเตือนของฉัน ก่อนจะถามกลับมา แต่นั่นทำให้ฉันถึงกับใบ้กิน โธ่เว้ย! ฉันอุตส่าห์ไม่นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนแล้วนะ ฮึ่ย!
“หืม?”
ครีมมองฉันด้วยแววตาใสซื่อ แต่เจือปนด้วยความสงสัย เธอคงคิดว่าทำไมฉันถึงเงียบไปนาน แถมยังไม่ยอมสบตาเธออีกด้วย
“อากิ...”
“...?”
“พี่รหัสของฉันชื่ออากิ”
ฉันเอ่ยซ้ำอีกครั้ง เมื่อครีมทำเหมือนไม่เข้าใจในคำพูดของฉัน
“อืมๆ (_ _)”
“เธอไปอาบน้ำเถอะครีม”
“จ้ะ”
ฉันตัดบทด้วยการบอกให้ร่างบางไปอาบน้ำก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้สงสัยอะไร เธอเดินไปอาบน้ำสักครู่ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายไปอาบบ้าง แล้วเราสองคนจึงพักผ่อน และไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีกเลย
ช่วงบ่าย
ฉันและครีมตื่นขึ้นมาคุยเล่นกันนิดหน่อย ก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่แถบชายทะเลที่พวกรุ่นพี่ใช้ในการรับน้องอย่างพวกฉัน
“สวัสดีตอนบ่ายนะค่ะน้องๆทุกคน หลับสบายกันดีไหมค่ะ?” พี่แพรวาก้าวขึ้นมาบนเวที ก่อนจะกล่าวสวัสดีพวกฉัน และถามถึงเรื่องสับเพเหระนิดหน่อย
“หลับสบายมาก~” เสียงรุ่นพี่ รุ่นน้องตอบคำถามของพี่แพรวาดูแฝงความงัวเงียนิดหน่อย พี่แพรวายิ้มรับ ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมที่พวกฉันต้องทำในบ่ายนี้
“สวัสดีตอนบ่ายนะค่ะน้องๆทุกคน หลับสบายกันดีไหมค่ะ?” พี่แพรวาก้าวขึ้นมาบนเวที ก่อนจะกล่าวสวัสดีพวกฉัน และถามถึงเรื่องสับเพเหระนิดหน่อย
“หลับสบายมาก~” เสียงรุ่นพี่ รุ่นน้องตอบคำถามของพี่แพรวาดูแฝงความงัวเงียนิดหน่อย พี่แพรวายิ้มรับ ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมที่พวกฉันต้องทำในบ่ายนี้
“กิจกรรมที่พวกพี่เตรียมไว้มีเยอะแยะมากมาย ^^ เดี๋ยวพี่จะค่อยๆบอกน้องๆนะค่ะ ซึ่งกิจกรรมแรกก็คือ... ‘การวิ่งสามขาเชื่อมสัมพันธ์’ โดยกติกามีอยู่ว่าให้น้องๆกับพี่รหัสของตัวเองมัดข้อเท้าข้างซ้าย และข้างขวาไว้ด้วยเชือกที่พี่ๆเตรียมไว้ให้ และถ้าใครถึงเส้นชัยเป็นคู่แรก พี่ๆจะมีรางวัลให้ ส่วนใครที่มาถึงเส้นชัยเป็นคู่สุดท้าย พี่ๆมีบทลงโทษเตรียมไว้ให้ด้วยนะค่ะ ^^” พี่แพรวาพูดอธิบายถึงที่พวกฉันกับพี่รหัสจะต้องทำในช่วงบ่ายนี้ ฉันกับครีมจึงเริ่มเดินหาพี่รหัสของตัวเอง ซึ่งไปมุดหัวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
“อากิ”
“พี่ยูกิ”
ฉันและครีมต่างเรียกชื่อพี่รหัสของตัวเอง ซึ่งกำลังคุยกันอยู่ในมุมหนึ่ง อากิและยูกิหับมามองฉันและครีม ฝ่ายแรกทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร แต่ฝ่ายหลังนี่สิ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำของยูกินั้น มีประกายวิบวับแสดงออกมา หากเมื่อเจ้าตัวกระพริบตาอีกครั้ง แววตาแบบนั้นก็หายไป แต่ฉันก็ยังเห็นทันอยู่ดี ในขณะที่ครีมกลับไม่ได้สนใจอะไรเลย -_-^
พี่ๆคนอื่นนำเชือกมาให้ฉันกับครีม ก่อนที่ฉันกับครีมจะก้มลงมัดเชือกตรงข้อเท้าของตัวเองและของพี่รหัสไว้คนละข้าง ยังดีที่อากิยังมีความดีอยู่บ้างจึงช่วยมัดเชือกที่ข้อเท้าแทนฉัน
“จุดเริ่มต้นจะอยู่ตรงนี้นะครับ ส่วนเส้นชัยจะอยู่ทางโน้นนะครับ”’
รุ่นพี่คนหนึ่งเดินมาบอกพวกฉัน แลชี้ไปที่จุดเริ่มต้น ซึ่งพวกฉันต้องเดินไปอีก 2-3 ก้าว ส่วนเส้นชัยจะมีธงปักอยู่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นไปหลายก้าวเหมือนกัน พวกฉันเดินไปที่จุดเริ่มต้น ก่อนที่พี่ฟ้าใสจะเป่านกหวีด บ่งบอกว่าได้เริ่มการแข่งขันวิ่งสามขาแล้ว
ปรี๊ด!
ฉันและอากิต่างก้าวคนละข้าง ทำให้ล้มลงทั้งคู่ โชคดีที่ตรงนี้เป็นพื้นทราย ทำให้ทั้งฉันและอากิไม่เจ็บมากนัก
“เดี๋ยวเราเริ่มเดินจากเท้าซ้ายก่อนแล้วกัน” อากิเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก และด้วยความที่เขาอธิบายไม่แจ่มแจ้ง ทำให้ฉันกับเขาก้าวขากันคนละข้าง และล้มลงอีกครั้ง
“โอ๊ย! ฉันเริ่มเจ็บเข่าแล้วนะ -_-*”
“ฉันก็เจ็บไม่ต่างจากเธอหรอก -_-^”
ฉันพูดขึ้นอย่างเหลืออด เมื่อล้มลงอีกครั้ง ในขณะที่อากิก็ไม่ยอมแพ้ เพราะเขาก็เริ่มบ่นบ้าง ก่อนที่เราจะเริ่มต้นทะเลาะกันทันที
“นายพูดไม่รู้เรื่อง -_-”
“ฉันพูดไม่รู้เรื่องตรงไหน”
เขาถามกลับ ฉันถึงกับกลอกตาไปมา และถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นายบอกให้ฉันก้าวเท้าซ้ายก่อน”
“ก็ใช่ไง ^^+”
“แต่นายก็ควรก้าวเท้าขวาสิ”
“...”
ฉันตะโกนใส่หน้าอากิอย่างเหลืออด นั่นทำให้เขาถึงกับเงียบ
“เฮอะ~ ตัวเองเป็นคนผิดยังไม่ยอมรับผิดอีก -^-”
หมับ!
“โอ๊ย!”
อากิดูเหมือนจะเริ่มหมดความอดทนจึงบีบแขนฉันแน่น ทำให้ฉันเผลอส่งเสียงร้องออกมา ก่อนจะรีบเม้มริมฝีปากแน่น และเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัว -^-
“เริ่มเดินได้แล้ว ฉันไม่ได้อยากแพ้ แล้วต้องได้รับบทลงโทษหรอกนะ -_-^” อากิชักสีหน้า และยืนขึ้นเต็มความสูงของตัวเอง ก่อนจะกระชากให้ฉันลุกขึ้นยืนตามเขาอย่างแรง ทำให้ตัวฉันกระแทกกับอกกว้างของอากิ และฉันก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวอากิด้วย -///- แต่ฉันก็ตั้งสติได้เร็วจึงผลักตัวเองออกจากอกกว้าง และมายืนข้างอากิเหมือนเดิม
หมับ!
เพียะ!
“ไม่ต้องจับก็ได้ -_-^”
“ไม่ได้ ฉันไม่ได้อยากไปถึงเป็นคู่สุดท้ายหรอกนะ -_-^”
อากิถือวิสาสะมาจับเอวฉัน ซึ่งฉันก็ไวพอจึงตีมือเขาอย่างแรง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่ร่างสูงกลับพูดมีเหตุผลกว่า (เหรอ?) ทำให้ฉันต้องยอมให้เขาจับเอวพาเดินไปอย่างเสียไม่ได้
ฉันกับอากิเริ่มเดินกันอีกครั้ง โดยฉันก้าวเท้าซ้าย ส่วนอากิก้าวเท้าขวา ทำให้ครั้งนี้เราสองคนไม่ล้มอีก และสุดท้าย ฉันกับอากิก็ถึงเส้นชัย โชคดีที่ฉันและเขาไม่ได้มาถึงเป็นคู่สุดท้าย ^^ เมื่อมาถึงเส้นชัย อากิก็ก้มลงแก้เชือกที่มัดข้อเท้าของฉันและของเขาไว้ ร่างสูงลุกยืนขึ้น เมื่อแก้เชือกเสร็จ ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน ...มั้ง แต่เพียงแค่เขากะพริบตา สายตาเขาก็มองฉันเหมือนเดิม ฉันว่าฉันคงตาฝาดไปเองแหละ ^^;
“ตอนนี้เราได้ผู้ชนะมาแล้วนะค่ะนั่นคือ...คู่ของน้องจีและพี่พัทธ์ ส่วนผู้ที่มาถึงคู่สุดท้ายก็คือ...คู่ของน้องดิวและพี่ดาวค่า~ ซึ่งคู่ที่มาถึงเป็นคู่สุดท้าย จะได้รับบทลงโทษนิดๆหน่อยๆ หวังว่าทั้งพี่รหัสและน้องรหัสคงไม่โกรธกันใช่ไหมค่ะ?”
“ค่ะ”
พี่ฟ้าใสประกาศผลผู้ชนะและผู้แพ้ในเกมนี้ ก่อนจะหันไปถามคู่ที่แพ้ ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้า แต่แววตานี่อาฆาตแค้นสุดๆ ฉันละสายตาจากบนเวทีมาอยู่ที่พื้นทรายที่ฉันกำลังเขียนเล่นอยู่
“นั่งด้วยสิ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะหันไปมอง
“อ้าว...โทคิ นั่งสิ”
...และก็เป็นโทคิอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ ฉันทักเขานิดหน่อย และบอกให้เขานั่งด้วยกัน
“ทำอะไรอยู่” โทคิถามขึ้น และมองดูมือของฉัน ซึ่งกำลังเขียนทรายเล่นอยู่
“ก็อย่างที่เห็น ^^” ฉันตอบกลับอย่างกวนๆ ในขณะที่โทคิก็ไม่ถือสา เขายิ้มตอบฉัน ก่อนจะเขียนทรายเล่นตามฉันบ้าง ฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่สายตาของตัวเองจะหันไปเห็นอากิกำลังจ้องฉันอยู่ ซึ่งเขาอยู่ไกลจากฉันพอสมควร ทำให้ฉันไม่รู้ว่าเขามองฉันด้วยสายตาแบบไหน
“ฮารุ...”
“...”
“ฮารุ...”
“หือ?”
เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าที่หัวไหล่ของโทคิ ทำให้ฉันละสายตาจากอากิ และหันมามองเขาแทน
“มองอะไร?”
“ปะ...เปล่า ฉันก็มองไปเรื่อยๆ ^^;”
“งั้นเหรอ?”
“ฉันปวดหัวจัง โทคิไปส่งฉันที่ห้องหน่อยสิ”
ฉันอ้างขึ้นมา เมื่อเพื่อนสนิททำท่าเหมือนไม่เชื่อคำพูดของฉัน โทคิยื่นมือมาวัดอุณหภูมิตรงหน้าผากฉัน เขาทำหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปบอกพี่ฟ้าใสเรื่องที่ฉันปวดหัว พี่ฟ้าใสมองมาที่ฉัน แล้วจึงบอกให้โทคิไปส่งฉันบนห้องได้ โทคิเดินกลับมาหาฉัน และเดินไปส่งฉันที่ห้องพัก
“ขอบคุณนะ”
“อืม...กินยา แล้วก็นอนพักนะ”
“จ้า”
ฉันขอบคุณโทคิ ก่อนที่ร่างสูงจะกำชับให้ฉันกินยา และนอนพัก แล้วจึงเดินกลับไปร่วมกิจกรรมของรุ่นพี่ต่อ ขอโทษนะโทคิ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกโทคิเลย เฮ้อ~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น