ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชื่อมรักผูกหัวใจยัยตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : การพบกันครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 54


    1
     
    Farry University

                “โทคิ...รอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำก่อน โทคิจะเอาอะไรรึเปล่า?”

    “ไม่ล่ะ ฮารุไปเถอะ”

                “อืม”

                ฉันหันไปบอก และถามเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดเพียงคนเดียว เพื่อนชายปฏิเสธคำถามของฉัน ฉันจึงแค่พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปที่ร้านน้ำ

                สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ อาคุมะ ฮารุส่วนผู้ชายที่ฉันคุยด้วยเมื่อกี้ชื่อ อาคิระ โทคิ เราสองคนเพิ่งจะย้ายจากญี่ปุ่นมาเรียนต่อที่ไทย เพราะพ่อของฉันต้องการขยายธุรกิจของตัวเองมาที่ประเทศไทย

    ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ส่วนโทคิเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น แต่ฉันก็ไม่เคยมาเที่ยวไทยเลยสักครั้ง ส่วนมากฉันจะอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ นอกเสียจากว่าพ่อฉันจะไปขยายธุรกิจของตัวเองที่อื่น บางครั้งฉันก็ไปด้วย ถือโอกาสเที่ยวไปในตัว ส่วนครั้งนี้ที่ฉันตัดสินใจมาเรียนต่อที่ไทย เพราะพ่อบอกกับฉันว่าจะมาอยู่หลายปี แล้วฉันก็เพิ่งจะจบ High School มาได้ไม่นาน ฉันจึงถือโอกาสมาเรียนต่อที่มหาลัยในไทยเลย

                “เอาน้ำมะนาวแก้วหนึ่งค่ะ”

                “ค่ะๆ”

                ฉันสั่งน้ำกับแม่ค้า ก่อนที่แม่ค้าจะตักน้ำมะนาว และยื่นมาให้ฉัน พอฉันรับมาแล้ว จึงรีบเร่งฝีเท้าเดินกลับไปหาโทคิ เพราะถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นว่าโทคิกำลังโดนผู้หญิงรุมล้อม โดยที่เขาออกมาจากวงล้อมนั้นไม่ได้   เฮ้อ~ ทำไมเพื่อนฉันถึงได้เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้นะ

                ปึก!

                ด้วยความรีบร้อน และมัวแต่มองเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้ฉันไม่ได้มองทาง และชนกับร่างสูงที่กำลังเดินสวนมาทันที

                “นี่เธอ! เธอเดินยังไงของเธอเนี่ย ดูสิ!น้ำในมือเธอหกใส่เสื้อฉันเนี่ย -_-^” ร่างสูงตรงหน้าว่าฉันทันที เมื่อเห็นว่าน้ำในมือฉันหกรดเสื้อนักศึกษาของเขา นัยน์ตาสีเทาเข้มมองฉันด้วยความครุ่นเคือง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูอ่อน รับกับผมยาวรากไทรสีดำแซมเทา ซึ่งฉันก็พอจะมองออกว่าคนตรงหน้าก็คงเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นไม่ต่างกับฉัน

                หมับ!

                “เธอชนฉัน แล้วยังไม่คิดจะขอโทษอีกเหรอ?” ร่างสูงจับข้อมือของฉัน และบีบแน่น ฉันพยายามจะไม่แสดงออกว่ารู้สึกเจ็บข้อมือ ก่อนจะเชิดหน้ามองเขาอย่างท้าทาย

                “ฉันไม่ขอโทษ...”

                “ผม...ผมขอโทษแทนเพื่อนของผมด้วยนะครับ (_ _)

                “โทคิ!

                โทคิที่มาจากไหนไม่รู้ โผล่พรวดมากลางวง และขอโทษคนตรงหน้าแทนฉัน แถมยังก้มหัวให้ด้วย ฉันจึงเรียกชื่อเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยเสียงอันดัง

                “ฮารุ...” โทคิหันหน้ามาเรียกชื่อฉันด้วยแววตา และน้ำเสียงขอร้อง นั่นทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก โทคิ! ทำไมนายต้องยอมคนตรงหน้าฉันขนาดนี้ด้วย

                “ชิ! ฉันขอโทษ” ฉันกระแทกเสียงใส่คนตรงหน้า บ่งบอกถึงความไม่เต็มใจ ก่อนจะรีบลากแขนของเพื่อนสนิทให้รีบเดินออกวงล้อมไทยมุงทันที ถ้าไม่ติดว่า...

                “โธ่!ก็แค่เนี้ย ทำให้มันเป็นเรื่องไปได้ หึๆ”

    “นี่นาย!

                ร่างสูงที่เดินชนฉันเมื่อกี้เอ่ยขึ้นมาลอยๆ นั่นทำให้ฉันถึงกับรีบหันหลังกลับไป เตรียมจะด่าเขา แต่โทคิก็รีบดึงฉันออกมาซะก่อน ฮึ่ย!

                สาธุ~ ขออย่าได้เจอกันอีกเลย เพี้ยง~



     



                ฮารุ เธอไม่ควรไปมีเรื่องกับเขาเลยนะโทคิพูดด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ในขณะที่เราสองคนกำลังนั่งอยู่ที่หน้าตึกเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เงียบๆ และไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก

                ก็นายนั่นมาหาเรื่องฉันก่อน -_-” ฉันโบ้ยความผิดไปให้ร่างสูงที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาทันที ฉันหันหน้ามามองเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะพูดเสียงอ่อน

                ...

                โทคิก็รู้ว่าฉันยอมโทคิคนเดียวเท่านั้น (_ _)”

                หมับ!

    แต่เธอก็ไม่ควรไปมีเรื่องกับเขานะ...ฮารุ ดีนะที่ฉันไปขอโทษเขาแทนเธอก่อน ไม่งั้นเธออาจจะเจ็บตัวมากกว่านี้ก็ได้”

    “...”

    “ดูสิ...ข้อมือเธอแดงไปหมดเลย แล้วตอนที่เธอทะเลาะกับผู้ชายคนนั้นเธอไม่เห็นสายตาของผู้หญิงคนอื่นที่มามุงดูเธอกับผู้ชายคนนั้นทะเลาะกันรึไง พวกนั้นอยากเข้ามาตบเธอจะตายไป แต่ยังดีที่ฉันดึงเธออกมาก่อน ยังไงเธอก็ต้องระวังตัวด้วยนะ ฉันเป็นห่วงเธอนะ ^^

    โทคิบ่นยืดยาว และดึงข้อมือฉันไปดู ก่อนจะบ่นพึมพำๆกับตัวเองอีกหลายประโยค โทคิเป็นแบบนี้เสมอ ตั้งแต่เด็กจนโต เขาคอยเป็นห่วงฉันตลอด จนบางครั้ง เขาก็ลืมนึกถึงตัวเองด้วยซ้ำไป

    “ขอบคุณนะที่เป็นห่วงฉัน แต่ฉันดูแลตัวเองได้ และฉันก็ไม่กลัวพวกบ้าผู้ชายแบบนั้นด้วย”

    “ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน”

    “จ้า ^^




     
    (Aki Says)
                “ฮารุงั้นเหรอ...”

                ผมพึมพำชื่อของหญิงสาวที่เพิ่งทะเลาะกันเมื่อครู่ ทำไมผมถึงรู้สึกผูกพันกับเธออย่างประหลาดนะ มันบอกไม่ถูก เพียงแต่...ผมรู้สึกผูกพันกับเธอจริงๆ แต่...ผมจะผูกพันกับเธอได้ยังไง ในเมื่อเราเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ผมนี่บ้าจริงๆเลยฮ่ะๆ ^^;

                อ่อ ผมลืมแนะนำตัวไปเลย สวัสดีครับ ผมชื่อ คุตาว่า อากิ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี 3 ใน Farry University จริงๆผมอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่มีเหตุผลบางประการ ทำให้ผมตัดสินใจมาเรียนต่อที่ประเทศไทยเมื่อสองปีก่อน (ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากบอกคุณผู้อ่าน)

                “เฮ้ย!อากิ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวว่ะ”

                ทาเอดะ ยูกิ เป็นเพื่อนสนิทของผม ซึ่งตามผมมาเรียนต่อที่ประเทศไทยเหมือนกัน เพื่อนของผมคนนี้ร้ายน่าดู ถ้าใครไม่สนิทกับมันจริงๆ ทุกคนจะมองว่ามันเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ และไม่ทำร้ายจิตใจผู้หญิง แต่สำหรับผม...ที่สนิทกับมันสุดๆ อยากจะบอกว่าไอ้ยูกิน่ะ มีนิสัยตรงข้ามกับที่ทุกคนคิดสุดๆ เรื่องที่เป็นคนดีน่ะ อาจจะใช่ แต่มันก็แอบเลวนิดๆ และยูกิเป็นคนเจ้าชู้ และสับรางเก่งมากๆ แถมมันยังหักอกผู้หญิงมาแล้วนับไม่ถ้วน ผมอยากรู้จริงๆว่าถ้าวันไหน ผู้หญิงมากมายที่มันคบด้วยมาเจอหน้ากันเอง มันจะทำยังไง หึ ^^+

                “กินข้าว”

    ผมตอบคำถามของยูกิสั้นๆ ง่ายๆ แต่แอบกวนประสาท เพราะจริงๆแล้ว ผมไม่ได้กำลังกินข้าวอยู่หรอก แต่ผมกำลังเล่นเกมในมือถือต่างหาก

                “อย่ามากวน...อากิ ^^+”

                “กวนอะไร...กวนมือ หรือกวน Teen ^^+”

                “ปากแกนี่เลี้ยงสุนัขไว้กี่ตัวว่ะ”

                “ก็เลี้ยงไว้เยอะจนต้องแบ่งให้แกช่วยเลี้ยงไง ^^

                “ไอ้...”

                ^^

                ยูกิทำท่าจะด่าผม แต่คงนึกคำด่าไม่ออกจึงเงียบไป เพราะมันด่าผมยังไง ผมก็ไม่สะทกสะท้านอยู่แล้ว ผมยิ้มให้เพื่อนสนิทอย่างกวน Teen ก่อนจะหันมาสนใจเกมในมือถือต่อ

                “ทำไมตอนแกอยู่กับผู้หญิงของแกไม่เห็นปากหมาแบบนี้เลยว่ะ แต่พอแกมาอยู่ฉันนี่สิ สุนัขในปากแกออกมาเดินเพ่นพ่านใหญ่เลย...อากิ ^^+”

                “ก็...ผู้หญิงของฉัน กับเพื่อนอย่างแกมันคนละคนกัน แต่ถึงยังไง ฉันก็คบผู้หญิงทีละคน ไม่ได้คบทีเป็นโหลแบบแก ^^+”

                “แต่แกก็ไม่เคยคบผู้หญิงคนหนึ่งเกินหนึ่งอาทิตย์เหมือนกันนี่หว่า ^^+”

                “...”

                “...”

                “...แล้วแกมาหาฉันมีอะไรว่ะ...ยูกิ”

                ผมเปลี่ยนเรื่องไปเฉยๆ เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อ และเริ่มรู้สึกว่าเราสองคนคุยเรื่องไร้สาระกันมานานเกินไปแล้ว (เพิ่งรู้ตัวเรอะ -_-;)

                “เมื่อกี้ฉันไปโรงอาหารมา เห็นคนคุยกันว่าแกมีเรื่องกับรุ่นน้อง...เรื่องอะไรว่ะ”

                “ไม่มีอะไรหรอก แค่รุ่นน้องคนนั้นชนฉัน แล้วไม่ยอมขอโทษนั้นเอง เลยหวิดมีเรื่อง แต่เพื่อนของรุ่นน้องคนนั้นมาขอโทษแทน ฉันก็เลยไม่ได้ติดใจอะไร”

                ผมว่า พลางยักไหล่เหมือนไม่สนใจ ในขณะที่ยูกิมองผมอย่างครุ่นคิด และพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันมาถามผม

                “ปกติอากิไม่ใช่คนคิดมากเรื่องทำขอโทษนี่นา ติดจะไม่สนใจด้วยซ้ำ แต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ดูคิดมากเรื่องคำขอโทษจัง แล้วรุ่นน้องที่แกมีเรื่องมีเรื่องด้วย นี่ผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ -*-

                “ผู้หญิง”

                “ผู้หญิง...ผู้หญิงเนี่ยนะ เมื่อปีก่อน แกก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับรุ่นน้องที่ชื่อไวน์ไม่ใช่เหรอ? แล้วสุดท้าย แกก็เป็นแฟนกับน้องเขานี่หว่า เอ...แกคิดจะใช้แผนเดิมกับรุ่นน้องคนนี้รึเปล่าว่ะ ว่าแต่...เธอสวยไหม?”

                “สวย”

                “สวยด้วย แหม~ สงสัยฉันต้องไปดูหน้าเธอสักหน่อยแล้ว นานๆจะเห็นแกชมผู้หญิงว่าสวย แล้วน้องเขาชื่ออะไรว่ะ?”

                “ฮารุ”

                “สืบมาแล้วว่างั้น แต่เอ๊ะ...ชื่อฮารุเหรอ? เป็นคนญี่ปุ่นรึเปล่า?”

                “เปล่า เป็นลูกครึ่งไทย
    -ญี่ปุ่น”

                “อืมๆ (_ _) (_ _) นานๆจะเจอคนที่เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นเหมือนกัน ฉันว่าฉันควรจะไปทำความรู้จักกับเธอสักหน่อยดีกว่า ยังไงฉันก็ขอเอาใจช่วยให้แกจีบรุ่นน้อง...เอ๊ะ...ไม่สิ...จีบฮารุติดนะ ^^ ไปล่ะ”

                ยูกิพูดทิ้งท้าย ก่อนที่ผมจะนึกอะไรบางอย่างออก จึงเรียกมันไว้

                “ยูกิ”

                “มีไร?”

                “ระวังตัวด้วยนะ ^^+”

                “ระวังตัวอะไรว่ะ?”

                “หึๆ ^^+”

                ผมพูดเป็นปริศนา และหัวเราะทิ้งท้าย ก่อนจะไล่ให้ยูกิที่อยากทำความรู้จักกับฮารุมาก ให้ไปได้แล้ว



     
    (Haru Says)
                “น้องครับ...น้องรู้จักผู้หญิงที่ชื่อฮารุ...ที่มีเรื่องกับเพื่อนพี่...เอ่อ...รุ่นพี่ที่โรงอาหาร เมื่อตอนเที่ยงๆรึเปล่าครับ ^^

                ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผมซอยรากไทรสีน้ำตาลเข้ม รับกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ จมูกที่โด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหาฉันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม และน้ำเสียงเป็นมิตร แต่ดวงตาของเขานี่ระยิบระยับซะจนฉันมองออกว่าเขาคงไม่ได้มาหาฉันในเหตุผลที่ดีซักเท่าไหร่ เฮอะ~ เกลียดจริงๆเลย พวกผู้ชายเจ้าชู้เนี่ย

                “ฉันนี่แหละ ฉันชื่อฮารุ นายมีธุระอะไรกับฉัน”        

                “น้องชื่อฮารุเหรอครับ?”

                “อืม”

                ฉันพยักหน้ารับ เมื่อร่างสูงตรงหน้าถามอีกครั้ง ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เล่นเอาคนตรงหน้าถึงกับเหงื่อตก และพึมพำกับตัวเองเบาๆ

                “สวยอย่างที่อากิบอกจริงๆด้วย แต่ดูร้ายชะมัด”

                “คะ?”

                “คะ...คือ...พี่ชื่อยูกิ...เป็นเพื่อนสนิทของรุ่นพี่ที่น้องทะเลาะด้วยน่ะครับ ^^;

                “แล้วไง?”

                รุ่นพี่ตรงหน้าพูดแนะนำตัว และยิ้มให้ฉัน แม้จะเหงื่อตกนิดๆ นั่นทำให้ฉันยิ่งไม่เข้าใจ ก่อนจะถามกลับไปด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

                “ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่แค่อยากทำความรู้จักกับน้องเฉยๆ”

                “เพื่อ...”

                “เอ่อ...”

                “...”

                “...พี่ไปก่อนนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...น้องฮารุ ฮู่ว~ ผู้หญิงอะไรว่ะ กวนประสาทชะมัด สมแล้วที่อากิบอกให้ระวังตัว เฮ้อ~

                ยูกิตอบกลับมา ฉันจึงถามกลับไป แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะนึกคำตอบไม่ทัน จึงรีบเดินหนีไปทันที แต่ยังไม่วายพึมพำๆไปตลอดทาง

                แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นงั้นเหรอ? ทำไมวันนี้ฉันเจอพวกลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นบ่อยจังนะ รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ

                “เอ๊ะ! แล้วโทคิหายไปไหนเนี่ย?” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทของตัวเอง เพราะเมื่อกี้โทคิบอกฉันว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ฉันว่ามันนานไปแล้วนะ

                กึก!

                ฉันชะงักขาตัวเอง เมื่อเห็นว่าโทคิกำลังผู้หญิงมากมายรุมล้อม โอ๊ย! ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆจริงๆเลย ทำไมเพื่อนฉันถึงได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้เนี่ย ฮึ่ย!

                ฉันคิดในใจพลางสาวเท้าเข้าไปหาโทคิที่ยืนอยู่ตรงกลางในวงล้อมของผู้หญิงมากมาย ก่อนจะเริ่มเทศนาผู้หญิงพวกนั้นทันที

                “นี่พ่อแม่ส่งพวกเธอมาเรียนหนังสือนะ ไม่ใช่ให้พวกเธอมาบ้าผู้ชายกันแบบนี้ แล้วผู้ชายคนนี้เป็นพ่อ ญาติพี่น้อง หรือคนรู้จักของพวกเธอรึไง พวกเธอถึงได้มายืนล้อมเขาไว้แบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ หรือผู้ชายคนนี้เป็นดารา หรือว่าเขาไม่ใช่คนแบบพวกเธอ พวกเธอถึงได้มาเต้นแร้งเต้นกา แล้วก็ร้องกรี๊ดๆ ส่งเสียงปัญญาอ่อนแบบนี้ -_-^” ฉันเทศนาพวกเธอยกใหญ่ ส่งผลให้ผู้หญิงทั้งหลายตรงหน้าฉันถึงกับอึ้ง และรู้สึกเสียหน้า...ที่มาโดนรุ่นน้องแบบฉันด่า แต่คนที่ยืนตรงหน้าฉันกลับตั้งสติได้ก่อนเพื่อน จึงเริ่มด่าฉันกลับบ้าง

                “แล้วเธอเป็นใคร? อยู่ดีๆก็มาว่าพวกฉันฉอดๆแบบนี้ แม่ฉันก็ไม่ใช่ เพื่อนฉันก็ไม่ใช่ แล้ว...เธอเป็นอะไรกับผู้ชายคนนี้ ถึงได้รู้สึกเดือดร้อนแทนแบบนี้”

                “เขาเป็นเพื่อนของฉัน =^=

                “ก็แค่เพื่อน ไม่ใช่แฟนสักหน่อย ทำเป็นหวงก้างไปได้ เฮอะ~

                ฉันมองข้ามคำถามแรก แต่ก็ยอมตอบคำถามหลัง และเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี ผู้หญิงตรงหน้ามองฉันด้วยสายตาสมเพชนิดๆ ก่อนจะพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงสมเพช นั่นทำให้ฉันรู้สึกอารมณ์เสียเข้าไปอีก จึงตอกกลับคำถามของเธอด้วยคำพูดนิ่มๆ แต่กลับเจ็บลึก

                “ฉันไม่ได้หวงก้างหรอก เพียงแต่...^^

                “...”
                “...ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะกับพวกเธอเท่านั้นเอง ^^+”

                “กรี๊ด~ นี่เธอ...”

                หมับ!

                เพียะ!

                ผู้หญิงตรงหน้าเงื้อมือจะตบฉัน แต่ด้วยความที่ฉันไวกว่า จึงจับข้อมือของเธอไว้ ก่อนจะบีบข้อมือของเธอแน่น และตบหน้าเธอแทน

                “ถ้าพวกเธอยังเอาแต่บ้าผู้ชายอยู่แบบนี้ พวกเธอจะไม่มีวันได้เจอผู้ชายที่รักพวกเธอจริง...จำไว้”

                เพียะ!

                พลั่ก!

                ฉันตบผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง และผลักให้เธอล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะดึงมือเพื่อนสนิทของตัวเอง ที่กำลังยืนอึ้งอยู่...ให้เดินออกจากวงล้อมของพวกผู้หญิงที่บ้าผู้ชาย (หล่อๆ) ทันที



     
                “เธอไม่น่าไปทำขนาดนั้นเลยนะ...ฮารุ” โทคิพูดเชิงตำหนิฉันเล็กน้อย ฉันว่า...โทคิคงหมายถึงตอนที่ฉันตบผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เขาคงมองว่ามันมากเกินไปล่ะมั้ง

                “โทคิ...ความเป็นสุภาพบุรุษของโทคิน่ะ ทิ้งๆไปบ้างเถอะ ฉันถามหน่อยนะว่าถ้าฉันไม่ไปช่วยโทคิ โทคิจะทำยังไง -*-” ฉันสวนกลับไปทันที เมื่อโทคิพูดจบ ก่อนที่เขาจะยิ้ม และพูดตอบกลับมา

                “ยังไงฮารุก็ต้องมาช่วยฉันอยู่แล้ว ^^” คำพูดของโทคิทำให้ฉันถอนใจอย่างเบื่อหน่าย นี่โทคิเห็นใจเพื่อนสนิทอย่างฉันบ้างไหมเนี่ย ฉันไม่ใช่ไม้กันหมาของเขานะ ฮึ่ย!

                “แต่ฉันไม่ได้อยู่กับโทคิตลอดเวลานะ ฉันว่าโทคิควรจะหัดปฏิเสธผู้หญิงบ้าง”

                “อ่า...ฉันจะพยายามนะ (_ _)

                “ไม่ใช่แค่พยายาม แต่โทคิต้องทำให้ได้ -_-^

                เมื่อโทคิโดนฉันว่าด้วยน้ำเสียงดุๆ ทำให้เขากลับมาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก นั่นทำให้ถึงกับเซ็ง ก่อนจะพูดเสียงเรียบ และมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ

                “อะ...อืม ฉันจะทำให้ได้นะ ^^;

                “ดีมาก ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×