ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกรักข้ามกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #2 : ครอบครัว

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 58


    ตอนที่ 2 ครอบครัว

                    บ้านเศรษฐีหวัง “หลินเยว่ เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ข้าคงจะเสียใจมากถ้าลูกสาวคนเดียวของข้าเป็นอะไรไป” หวังเจิ้งโหรวสีหน้ายิ้มแย้มดีใจที่ได้เห็นหน้าลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่ง หญิงสาวอายุสิบสี่ ใบหน้างดงาม ไร้เดียงสา แต่ในร่างกลับเป็นถังเสี่ยวชิง นางแบบสาวสวย เรื่องมหัศจรรย์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน แต่มันก็เป็นไปแล้ว แล้วร่างจริงของถังเสี่ยวชิงป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ หรือจะตายไปแล้ว แล้ววิญญาณของคุณหนู หวังหลินเยว่ ไปอยู่ที่ใดกัน ยิ่งคิด ถังเสี่ยวชิงก็ยิ่งสับสน อย่างไรเสียฉันก็ได้มาอยู่ในร่างนี้แล้ว จะทำอย่างไรได้ กลับไปโลกที่ฉันจากมาก็ไม่รู้จะกลับยังไง ถึงอย่างไร ฉันก็ต้องอยู่เป็น หวังหลินเยว่นี้แหละ สวรรค์เล่นตลกอะไรเนี่ย ต่อไปนี้ฉันคือหวังหลินเยว่!! “นายท่าน มีประกาศจากวังหลวงติดไว้ที่ตลาด บอกว่าลูกสาวของทุกบ้านที่อายุครบ 15 ปีต้องส่งเข้าวังเพื่อเป็นนางกำนัลเจ้าค่ะ” เสี่ยวจิ้น สาวใช้คนสนิทของ หวังหลินเยว่วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกข่าวกับนายท่านหวังเจิ้นโหรว นายท่านมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นหลังจากได้ฟัง “หลินเยว่ เจ้าจะต้องเข้าวัง เพื่อไปเป็นนางกำนัล ใจข้าไม่อยากให้เจ้าไปเลย เจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของข้า มาห่างไกลกันเช่นนี้ ข้าต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีเจ้า..” สิ้นเสียงน้ำตาของนายท่านคลอเบ้า มองลูกสาวอย่างน่าเห็นใจเหลือเกิน ไม่เคยให้ทำงานหนัก เลี้ยงดูอย่างสุขสบายมาตั้งแต่เกิด มีบ่าวไพร่คอยรับใช้ “ท่านพ่อ ท่านอย่างกังวลไปเลย” ถังเสี่ยวชิงปลอบใจผู้ที่ตอนนี้ก็คือพ่อของร่างที่อาศัยอยู่ “เสี่ยวจิ้น เหลือเวลาอีกเท่าใด” หันไปถามสาวใช้คนสนิท”  “ตามประกาศบอกว่าอีก 3 วันเจ้าค่ะคุณหนู”

                    อุทยานในวังหลวงเต็มไปด้วยมวลบุปผานานาพันธุ์ สีสดงดงาม หลากหลายสี กลิ่นหอมของบุปผาคละเคล้าอยู่ในอากาศ ภายในศาลากลางอุทยาน จักรพรรดิหนุ่มนั่งจิบน้ำชา สายตาเหม่อลอยกำลังคิดถึงใบหน้าหญิงสาวที่เคยช่วยชีวิตไว้ ใบหน้างดงาม หมดจด ไร้เดียงสาที่ไม่เคยพบเห็น ข้างกายมีองครักษ์คนสนิทยืนอยู่ ถึงในวังจะมีหญิงงามหลากหลายคน แต่ความงามส่วนมากมาจากการปรุงแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น ภายใต้ความงามของหญิงสาวในวังมีแต่ความริษยา แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น “เจ้าว่านางจะได้เข้าคัดเลือกนางกำนัลหรือไม่ ชุ่ยเหยียงหลี่” จักรพรรดิหนุ่มเอ่ยถามองครักษ์คนสนิท แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น “ข้าหวังว่าจะได้เจอนางอีก” จักรพรรดิกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                    “ข้าชื่อ..เอ่อ..หวัง..หลินเยว่เจ้าค่ะใต้เท้า” ถังเสี่ยวชิงเอ่ยเสียงตะกุกตะกักเนื่องจากเกือบจะเอ่ยชื่อผิดเป็นชื่อของตัวเองจนนึกขึ้นได้ว่าอยู่ในร่างใด จำไว้สิ ต่อไปนี้ข้าคือ หวังหลินเยว่’ นางนึกอยู่ในใจ การรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะเข้าวังของหญิงสาวหลายต่อหลายคนดำเนินไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้น ชุ่ยเหยียงหลี่ ซึ่งกำลังสั่งทหารในวังให้เดินตรวจตราความเรียบร้อยได้เหลือบมาเห็น หญิงสาวที่จักรพรรดิและตนเองได้เคยช่วยชีวิตไว้ จึงรีบเดินกลับมุ่งหน้าไปทางตำหนักจักรพรรดิหนุ่ม “ฝ่าบาทพะยะค่ะ กระหม่อมเจอนางแล้ว” จักรพรรดิดวงตาเป็นประกายด้วยความดีใจ “พาข้าไปหานาง” องครักษ์ได้ให้ความเห็นว่า “เกรงว่าจะไม่ได้นะพะยะค่ะ นางจะตกเป็นเป้าสายตาต่อหญิงสาวคนอื่น จะทำให้นางอยู่ในวังอย่างไม่สงบนะพะยะค่ะ”

                    การคัดเลือกนางกำนัลผ่านไปด้วยดี นางกำนัลใหม่ทุกคนต้องเรียนรู้การทำงานในวัง และต้องจัดแบ่งไปยังฝ่ายต่างๆ วันแรกของการเรียนรู้งานในวัง หวังหลินเยว่ได้ถูกส่งไปยังฝ่ายเสื้อผ้า “เจ้าชื่ออะไรหรือ” นางกำนัลตำหนักไทเฮาเอ่ยถาม “ข้าชื่อหวังหลินเยว่”  

    “ข้าชื่อเสี่ยวฟางนะ เป็นนางกำนัลตำหนักไทเฮา”  

    “ยินดีที่ได้รู้จัก พี่เสี่ยวฟาง” หวังหลินเยว่เอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มบางๆอย่างเป็นมิตร ในที่สุดก็มีเพื่อนในวังหลวงอันกว้างใหญ่นี้แล้ว คงไม่ต้องเดียวดายอยู่คนเดียวอีก ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ทุกวัน

                    จนกระทั่งวันนี้ ระหว่างที่ หวังหลินเยว่เดินมาตามทางเพื่อจะไปยังฝ่ายเสื้อผ้า จึงได้พบกับนางกำนัลคนนึงซึ่งถือถาดอาหารอยู่ในมือด้วยอาการเหงื่อตกพรางพูดขึ้นว่า “เจ้า นางกำนัลใหม่ ช่วยถือถาดนี้ไปยังศาลากลางอุทยานให้หน่อย ข้าปวดท้องมาก ขอไปปลดทุกข์สักครู่” นางกำนัลมอบถาดอาหารให้หวังหลินเยว่ แล้ววิ่งหายไป นางจึงเดินไปพร้อมถามทางไปอุทยานจากคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ จนถึงศาลากลางอุทยาน ภายในศาลาปรากฏร่างชายหนุ่มหนึ่งคนนั่งอยู่ อีกหนึ่งคนยืนข้างๆ องครักษ์หนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าจึงหันหน้าไปตามเสียงนั้น สายตาจ้องมองหวังหลินเยว่อย่างตกตะลึง “ฝ่าบาทพะยะค่ะ” จักรพรรดิหันมามององครักษ์ แต่องครักษ์คนสนิทกลับไม่พูดจาเพิ่ม เพียงแต่มองค้างไปทางด้านหลัง จักรพรรดิหนุ่มจึงหันกลับหลังไปเห็น หญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอดหลายวันมานี้ นางกำลังเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามาพร้อมถือถาดอาหารว่าง เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินไปหยุดข้างๆนาง พร้อมทั้งเอ่ยขึ้น “หวังหลินเยว่ ไม่ได้พบกันหลายวัน สบายดีหรือไม่” หวังหลินเยว่วางถาดเสร็จจึงเหลือบตาขึ้นมองหน้าผู้ทักทายอย่างงุนงง “ท่านชายนี่เอง ท่านอยู่ที่นี่ด้วยหรือ ข้ายังไม่ได้ตอบแทนที่ท่านช่วยชีวิตข้าเลย ดีจริงที่ได้เจอกันอีก ท่านมีอะไรให้ข้าช่วยบอกได้เลยนะ” หวังหลินเยว่เอ่ยปากบอกกับจักรพรรดิ “เจ้าทำงานอยู่ฝ่ายใดหรือ”    

    “ข้าอยู่ฝ่ายเสื้อผ้า แต่บังเอิญเมื่อครู่ นางกำนัลคนหนึ่งเกิดปวดท้องจึงมอบถาดนี้บอกให้ข้านำมาที่ศาลาอุทยานแห่งนี้” หวังหลินเยว่เล่าให้จักรพรรดิหนุ่มและองครักษ์ฟัง “ข้าต้องไปก่อนนะ หายมานานแล้วเดี๋ยวจะโดนดุเอา หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีกนะ” สิ้นเสียงหวังหลินเยว่ จักรพรรดิหนุ่มนั่งคิดและเอ่ยขึ้นกับองครักษ์คนสนิท “บังเอิญจริงๆ ด้วยสินะ หรือว่าจะเป็นโชคชะตา ที่ทำให้ข้าได้เจอนางด้วยความบังเอิญถึงสองครั้งสองครา ครั้งที่แล้วข้ากลับปล่อยนางไป แต่ครั้งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยนางให้จากไปอีกเด็ดขาด”

                    จักรพรรดิหนุ่มออกว่าราชการตามปกติ หลังจากนั้นจึงเดินไปกับองครักษ์หนุ่มเพื่อมุ่งหน้ายังฝ่ายเสื้อผ้า เนื่องจากคิดถึงนางเหลือเกิน “ถวายบังคมเพค่ะ ฝ่าบาท” หัวหน้านางกำนัลฝ่ายเสื้อผ้าเอ่ยขึ้น

    “ลุกขึ้นเถิด” จักรพรรดิหนุ่มเอ่ยกับหัวหน้านางกำนัล “ขอบพระทัยเพค่ะฝ่าบาท ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเสด็จด้วยพระองค์เองมายังฝ่ายเสื้อผ้ามีเรื่องอันใดหรือเพค่ะ”

    “นางกำนัลที่ชื่อ หวังหลินเยว่ อยู่หรือไม่”

    “ไม่อยู่เพค่ะ นางไปที่ตำหนักไทเฮา เพื่อนำเสื้อผ้าไปส่งเพค่ะ”

    “ข้าฝากให้เจ้าช่วยดูแลนางด้วย แล้วคอยรายงานความเคลื่อนไหวของนางให้ข้าฟังอย่างละเอียด เข้าใจไหม”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×