คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เหตุเกิด
ตอนที่ 1 เหตุเกิด
สตูดิโอถ่ายแบบกำลังจัดเตรียมการอย่างวุ่นวาย ฝ่ายช่างไฟ ฝ่ายถ่ายภาพ กำลังจัดสถานที่กันอย่างเร่งด่วน ฝ่ายนางแบบชื่อดัง “ถังเสี่ยวชิง” กำลังถูกช่างแต่งหน้าและช่างทำผมรุมทึ้งอยู่ อากาศร้อนของเดือนเมษายน ซึ่งเป็น concept ชุดว่ายน้ำต้อนรับฤดูร้อน ถังเสี่ยวชิงแต่งหน้าทำผมเสร็จ ได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดว่ายน้ำทูพีชแสนเซ็กซี่ ใบหน้าสวย หุ่นดี เรียวขายาวงามได้เดินลงสระว่ายน้ำเพื่อถ่ายแบบ จากการโพสท่าถ่ายภาพอย่างชำนาญด้วยประสบการณ์การเป็นนางแบบมากว่า 3 ปีทำให้ ถังเสี่ยวชิง ทำงานได้อย่างราบรื่น ผ่านไปประมาณ 2 ชม. งานถ่ายแบบเกือบเสร็จสิ้น จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ระหว่างที่ถังเสี่ยวชิงได้เดินขึ้นบันไดสระว่ายน้ำขาข้างนึงกลับเหยียบลื่นร่างหล่นลงน้ำเนื่องจากเกิดเป็นตะคริวขึ้นกระทันหัน ถังเสี่ยวชิงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ แต่แล้วขาข้างที่เป็นตะคริวกับชาจนไม่รู้สึกอะไร ยืนในน้ำแทบไม่ไหว ปวดเหลือเกิน จังหวะนั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าถังเสี่ยวชิงกำลังจะจมน้ำ ทุกคนกำลังวุ่นเก็บของกันอยู่ ถังเสี่ยวชิงพยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด ความรู้สึกหนักแน่นที่หน้าอก จุกท้องอย่างไม่เคยเป็น หายใจเริ่มติดขัด และตาสองข้างกำลังจะปิดลง ก็เกิดได้ยินเสียงคนตะโกนเสียงดังโวกเวก “ช่วยด้วยๆ ช่วยคุณหนูด้วย คุณหนูกำลังจะจมน้ำ” เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ เอ๊ะ ใครกันคือคุณหนูที่เอ่ยถึง ถังเสี่ยวชิงนึกขึ้นตอนยังมีสติอยู่อย่างเลือนลาง จนสติที่มีอยู่ค่อยๆ หายไป
ป่าฮวาอู่ของแคว้นฉี “ฝ่าบาทพะยะค่ะ กระหม่อมเห็นควรให้หยุดพักก่อนเถิดพะยะค่ะ ทุกคนคงเหนื่อยกันมากแล้ว” องครักษ์หนุ่มพูดพลางเดินไปล้างหน้าและดื่มน้ำที่แม่น้ำแห่งหนึ่ง จักรพรรดิหนุ่มน่าตาหล่อเหลา ท่าทางเคร่งเครียดและเหนื่อยล้าได้หยุดและลงจากหลังม้า เดินตรงไปที่แม่น้ำเพื่อหวังจะชำระร่างกาย และดื่มน้ำหลังจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยจากชายแดนแคว้นฉีที่เกิดการจราจลขึ้นเพื่อกลับเข้าวังหลวง ระหว่างที่เดินไปที่แม่น้ำ กำลังก้มลงเพื่อดื่มน้ำ สายตาเหลือบไปเห็นทางซ้ายมือที่มีต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้เล็กๆ บังร่างๆหนึ่งไว้ นอนเกยตื้นอยู่บนพื้นครึ่งบน ส่วนขายังอยู่ในน้ำ จักรพรรดิหนุ่มจึงเดินไปดูและก้มลงจับร่างแบบบาง อรชรอ่อนแอ่น ให้พลิกร่างหงายขึ้น กลับตกตะลึงในความงามพริ้งเพราของสตรีนางนี้ จักรพรรดิหนุ่มยังคงนั่งตะลึกงัน จนองครักษ์หนุ่มชุ่ยเหยียงหลี่ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ “ฝ่าบาท ฝ่าบาท” ทันที่ได้ยินเสียงองครักษ์เรียก จักรพรรดิหนุ่มจึงได้สติ รีบดึงร่างของสตรีที่นอนสลบเกยตื้นมาอยู่ในอ้อมแขน “นางยังไม่ตาย รีบนำนางขึ้นหลังม้าด่วน” จักรพรรดิร้องสั่งองครักษ์คนสนิท และรีบลุกขึ้นเดินไปยังม้าของตน องครักษ์หนุ่มรีบอุ้มร่างสตรีที่สลบนั้นเดินไปวางพาดไว้บนหลังม้าของตนแล้วจึงกระโดดขึ้นบนหลังม้า ทั้งหมดรีบควบม้าอย่างเร็วเพื่อให้ออกจากป่าก่อนตะวันจะตกดิน
หลังจากคณะเดินทางของจักรพรรดิได้ย่างเข้าสู่ตัวเมือง “เป่ยกุ่ย” เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของแคว้นฉี ทั้งหมดได้เข้าพักที่โรงเตี๊ยม “กวงจื้อ” บนเตียงภายในห้องพัก มีร่างหญิงสาวนอนหมดสติอยู่ ใกล้กับร่างของหญิงสาว มีจักรพรรดิหนุ่มนั่งอยู่ไม่ไกลบนเก้าอี้ ส่วนเก้าอี้ข้างเตียงมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ “เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ นางทำไมยังไม่ได้สติหลายชั่วยามแล้ว” เสียงจักรพรรดิเอ่ยถามชายวัยกลางคนที่กำลังจับชีพจรของหญิงสาว “นางไม่เป็นไรหรอกคุณชาย แค่ร่างกายอ่อนเพลียและได้แช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานเท่านั้นเอง พักผ่อนอีกสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย พยายามให้ห่มผ้าหนาๆ และกินอาหารที่อุ่นๆ ต้มยาบำรุงให้ดื่มหลังอาหารเท่านี้อาการจะดีขึ้นเอง” ชายวัยกลางคนพูดพลางหยิบห่อยามอบให้ “ขอบคุณมากท่านหมอ ชุ่ยเหยียงหลี่ เจ้าไปส่งท่านหมอเถิด” จักรพรรดิหนุ่มเอ่ยสั่งองครักษ์คนสนิท แล้วหันหน้ากลับมามองหญิงสาวหน้าตาหมดจดงดงามที่หลับใหลไม่ได้สติ แล้วจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นาง จากนั้นก็ลุกขึ้นหยิบห่อยาไปให้พ่อครัวของโรงเตี๊ยม เวลาผ่านไปพ่อครัวของโรงเตี๊ยมก็ยกถาดยามาให้ที่ห้อง จักรพรรดิหนุ่มจึงรับมาวางไว้บนเก้าอี้ข้างเตียงแล้วจับร่างหญิงสาวขึ้นแนบอก แขนประคองศีรษะหญิงสาวอย่างทะนุถนอม เพื่อป้อนยาให้แก่นาง
แสงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้อง จักรพรรดิหนุ่มตื่นขึ้นพบว่าตัวเองฟุบหลับอยู่ข้างเตียง มองไปยังร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้านางดูมีสีชมพูระเรื่อ ผิดกับเมื่อวานที่ซีดเผือด จักรพรรดิเอื้อมมือแตะที่หน้าผาก ทันใดนั้นนางลืมตาขึ้นมองหน้าจักรพรรดิหนุ่มด้วยความงุนงง และตกใจ “คุณเป็นใคร” เสียงหญิงสาวเอ่ยถาม “ฉันอยู่ที่ไหน” ถังเสี่ยวชิงพยายามนึกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ขาเป็นตะคริวแล้วจมน้ำหมดสติไป สายตามองดูการแต่งกายของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ‘เป็นไปได้ไง นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมผู้ชายคนนี้แต่งตัวแบบนี้’ ถังเสี่ยวชิงคิดในใจพร้อมลุกขึ้นจากเตียงมองการแต่งตัวของตัวเอง พร้อมมองไปรอบๆ ห้อง “ก๊อกๆๆ ท่านชายข้าต้มยามาให้ท่านขอรับ” เสียงพ่อครัวโรงเตี๊ยมดังขึ้นหน้าประตู จักรพรรดิหนุ่มเดินไปเปิดประตูและรับถาดที่มีถ้วยยาวางอยู่ แล้วเดินมาวางบนโต๊ะพร้อมเอ่ยขึ้น “ดื่มยาซะ ร่างกายเจ้าจะได้แข็งแรงขึ้น” ถังเสี่ยวชิงเดินมานั่งที่โต๊ะอย่างว่าง่าย แล้วยกถ้วยยาขึ้นดื่ม “ท่านเป็นใคร” นางดื่มหมดก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “ข้าคือคนที่ช่วยชีวิตเจ้า ข้าพบเจ้านอนเกยตื้นอยู่ที่แม่น้ำในป่าฮวาอู่” ถังเสี่ยวชิงฟังคำตอบก็ยิ่งงุนงง ‘ฉันอยู่สระว่ายน้ำ ไฉนจึงมาอยู่ที่แม่น้ำได้’ ความคิดของถังเสี่ยวชิงที่กำลังถามตอบกับตัวเองอย่างสับสน ‘นี่ราชวงศ์อะไร แคว้นอะไรเนี่ย ถังเสี่ยวชิงเอ๋ย ทำไมฉันต้องมาเจอเหตุการณ์ย้อนอดีตอย่างนี้นะ แถมชายหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลา ดูท่าทางอ่อนโยนคนนี้คือใครกันนะ แต่ที่สำคัญเขาช่วยชีวิตฉันไว้ อย่างน้อยก็คงจะเป็นคนดีแหละ’
ฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำในป่าฮวาอู่ “หาคุณหนูพบไหม” เสียงหญิงสาวเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ชายหนุ่มส่ายหน้าเป็นแทนคำตอบ “ไปหาในเมืองดูสิ เผื่อมีใครพบคุณหนูแล้วนำส่งโรงหมอถ้าโชคดี แต่ถ้าโชคร้ายคุณหนูคงจมน้ำไปแล้ว อีกหลายวันกว่าศพจะลอยขึ้นอืด” หญิงสาวพูดพร้อมกับออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าเข้าเมืองเป่ยกุ้ย
“ท่านหมอ เมื่อวานมีใครพาผู้หญิงจมน้ำมาให้ท่านรักษาบ้างหรือไม่” หญิงสาวเอ่ยถามชายวัยกลางคนที่อยู่ภายในโรงหมอ “มีสิ ข้าได้รักษาและให้ยานางไปแล้ว อาการคงจะดีขึ้นแล้ว นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม กวงจื้อ ข้างหน้านั้น” ชายวัยกลางคนกล่าวตอบพร้อมชี้มือไปทางโรงเตี๊ยม “ขอบคุณมากท่านหมอ” หญิงสาวพูดแล้วเดินออกจากโรงหมอเดินตรงไปยังโรงเตี๊ยม “เถ้าแก่ เมื่อวานมีใครพาผู้หญิงที่หมดสติมาพักที่นี่บ้างหรือไม่” หญิงสาวเอ่ยถามเถ้าแก่โรงเตี๊ยม “มีสิ คุณชายคนนึงอุ้มผู้หญิงหมดสติเข้ามาพัก แถมยังเอายามาให้พ่อครัวต้มด้วย” เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเอ่ยตอบ “เถ้าแก่พาข้าไปที่ห้องนั่นด้วยเถิด ข้าพลัดหลงกับคุณหนูในระหว่างที่เรือล่ม ข้าต้องการพบคุณหนูของข้า” หญิงสาวอ้อนวอนเถ้าแก่โรงเตี๊ยม เถ้าแก่ไม่พูดอะไรเพียงแต่เดินนำหญิงสาวเพื่อพาไปที่ห้องพัก “ก๊อกๆๆๆ” จักรพรรดิหนุ่มเดินไปเปิดประตู “พวกเจ้าเป็นใครกัน” จักรพรรดิหนุ่มเอ่ยถาม “พวกเราเป็นคนรับใช้ของคุณหนูหวังหลินเยว่ มารับตัวคุณหนูกลับบ้าน” หญิงสาวเอ่ยขึ้น สายตากวาดเข้ามาเห็น คุณหนูนั่งอยู่ที่โต๊ะ “คุณหนู ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม ข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกิน” ถังเสี่ยวชิงได้รับรู้แล้วว่าตัวเองได้อยู่ในร่างคุณหนูสักคน จึงเอ่ยถามสาวใช้ “ข้าเป็นใครหรือ เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับข้า” สาวใช้คนสนิทได้แต่มองคุณหนูอย่างงุนงง เอ๊ะ! หรือว่าคุณหนูหวังหลินเยว่ ความจำเสื่อม สาวใช้จึงเล่าให้ฟัง “ท่านคือคุณหนูหวังหลินเยว่ เป็นลูกสาวนายท่านหวังเจิ้งโหรว ซึ่งเป็นเศรษฐี พ่อค้าเครื่องปั้นดินเผาบ้านอยู่เมือง เสวียนจิ้น เมื่อวานพวกเรานั่งเรือขนสินค้าเพื่อจะเดินทางไปส่งสินค้า แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม จึงได้พลัดหลงกับคุณหนู พวกเราได้ค้นหาคุณหนู จนไปถามที่โรงหมอ และได้มาพบกับคุณหนู ข้าดีใจมากนะที่คุณหนูปลอดภัย งั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ ป่านนี้นายท่านคงเป็นห่วงคุณหนูมากแล้ว” ถังเสี่ยวชิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด จึงถอนหายใจพร้อมกับเอ่ยขึ้น “งั้นเรากลับกันเถอะ” หันมามองหน้าชายหนุ่มแล้วยอบตัวลงพร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณ คุณชายที่ได้ช่วยชีวิตข้าไว้” จักรพรรดิหนุ่มฟังแล้วเอ่ยขึ้น “ข้าหวังว่า เราคงได้พบกันอีก”
ความคิดเห็น