คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“โธ่เว้ย!!ทนไม่ไหวแล้ว”
โจ๊กตะโกนขึ้นมาพร้อมกับวิ่งไปหาร่างมดตะนอยที่นอนอย่างสงบในศาลาวัด
“โธ่!!ไอ้โจ๊ก”
พวกเราตกใจและรีบวิ่งตามโจ๊กไปติดๆ
“ไอมด แกตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ตื่นสิ ฉันบอกให้ตื่นไงแกได้ยินไหมตื่นๆ!! ฮือๆๆๆ”
โจ๊กลงไปนั่งคุกเข่าร้องไห้และเขย่าร่างของมดตะนอยอย่างบ้าคลั่ง แต่มดตะนอยก็ยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่มีการตอบรับใดใดจากร่างไร้วิญญาณนี้อีกแล้ว
“โจ๊กใจเย็นๆ ดิวะ แกก็รู้นิว่ามดตะนอย เอ่อ.....ตายแล้ว”
“ฮือๆๆๆๆ”
“ปล่อยมันไว้สักพักเถอะ ชมพู่ เดี่ยวพอมันสงบสติอารมณ์ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง”
ฉันพูดขึ้นอย่างใจเย็น เพราะรู้นิสัยของโจ๊กดีอยู่แล้ว ว่าเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ปล่อยไว้สักพักคงจะดีเอง
“แล้วขิมล่ะ”
“ก็อยู่นี่ไง อ้าว...เฮ้ย หายไปไหนแล้วเนี้ย”
“ไปตามเลยแก ไอ้ขิมมันยิ่งเซ่อๆซ่าๆ อยู่เดี๋ยวก็หลงอยู่ในวัดนี่หรอก”
เชอรี่ไล่ฉันไปเพราะเห็นว่าเป็นคนเดียวที่น่าจะพึ่งได้ในตอนนี้ (หรือคนอื่นขี้เกียดเดินก็ไม่รู้)
“เออ!!ก็ได้ แล้วมันไปไหนล่ะเนี้ย”
10 นาทีผ่านไป ~ ~
“โอ้ย!!ไอขิมหายไปไหนของมันวะ”
“โบว์~~~”
ฉันตะโกนเรียกชื่อขิมอย่างดีใจ สงสัยเดินหลงหาทางไปศาลาไม่ถูกแน่ๆเลย เฮ้ออออ~~~
+Kim thing+
อ้าก!!มีเพื่อนเป็นห่วงฉันด้วย ดีใจ ดีใจ เดี๋ยวทำฉากให้เหมือนหนังเกาหลีก่อน ที่แบบเดินหลงทางกันและพอตามเจอ
ก็วิ่งกอดกันแบบในหนัง 55+
“อ่ะ...ไอขิม หาซะเหนื่อยเลยนะ”
“โบว์ ~~~~~”
“พลั่กกก”
“อ้ากกก!!! เจ็บนะแกมาเขกหัวเราทำไม”
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเดินเหม่อ แล้วแกก็หลงทางเนี่ย ต้องให้เราออกมาตามตลอด”
“ขอโทษ ก็พอดีมีคนถามทางไปศาลาของมดตะนอยนี่”
ฉันบอกโบว์และก็ลูบหัวป่อยๆ เจ็บชะมัดเลย มือหนักชิปเป๋ง เดี๋ยวเกิดฉี่ราดที่นอนทำไงวะเนี้ย
“แล้วไหนอะ คนนั้นที่แกพูดอะ”
“ก็เดินตามเรามานี่ไงล่ะ”
“ไม่เห็นจะมีเลย เราเห็นแกเดินมาคนเดียวนี้แหละ โกหกอีกแล้วนะแก”
“ก็นี่...ไปไหนแล้วอะเธอ”
“โห ไอ้นี่ๆ ทำเนียนๆ ไปเร็วๆเพื่อนรออยู่”
“เมื่อตะกี๊ยังเดินคุยกันมาอยุ่เลยพอเห็นแกอะ“
“เออ ชั่งแกเหอะ ไปเหอะเร็วๆ”
แล้วโบว์ก็มาลากฉันไปที่ศาลา เอ๋
ว่าแต่ว่าคนเมื่อกี๊หายไปไหนวาก็ยังเดินตามมาอยู่เลย เออ...ชั่งมันสงสัยเดินมาแล้วมั้ง คงปวดฉี่จนทนไม่ไหวไปหาห้องน้ำเข้าละสิ เหอๆ
“อ้า...โบว์กะขิมมาแล้ว”
“ไปไหนมาอะแก เป็นห่วงแทบแย่”
อ้ากก ซึ้งเพื่อนเป็นห่วง รักเพื่อนจัง 55+
“นี่ดีนะเนี้ยโบว์มันหาแกเจอก่อน เดี๋ยวหลงวัดตายแล้วต้องไปงานศพแกอีก โอ้ย!!แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว”
-*- ความซึ้งเมื่อกี๊หายไปไหนแล้ววะเนี้ย - -
“เงียบไปเลย ไอบ้าบิ่นแล้วแม่ของมดตะนอยอะ”
“ก็จะมาแล้วล่ะ แต่ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”
“ทำไมล่ะ”
“โรคหัวใจกำเริบน่ะสิ ลูกสาวคนเดียวตาย ถ้าเป็นเราก็คงเสียใจตายเหมือนกัน”
อ่า...แล้วฉันก็หันไปทางร่างของมดตะนอยที่นอนสงบนิ่งไม่ไหวติ่ง ไม่หายใจแล้วจริงๆด้วย เฮ้อ!! ถ้านี่เป็นแค่ความฝันก็ดีสินะได้โปรดเถอะ ขอให้ฉันตื่นซะที
“ไอโจ๊กล่ะ”
“น้ำค้างพาไปนั่งอยู่ที่ริมน้ำแล้วล่ะ มันจะได้อารมณ์เย็นลงหน่อย”
“พวกแกเราถามอะไรหน่อยสิ ทำไมพวกแกไม่ร้องไห้กันเสียใจกันเลยล่ะ”
“ไอเสียใจ อะ เสียใจมากด้วย แต่ที่มันไม่ร้องเพราะว่ามันร้องไม่ออกนะสิน้ำตามันไม่ไหลออกมาแล้ว”
ทุกคนตอบอย่างเศร้าๆ
“เหมือนกันเลย”
ถ้ามดตะนอยเห็นพวกเราร้องไห้ก็คงจะไม่สบายใจหรอกนะ เพราะฉะนั้นก็อย่าร้องไห้กันเลยนะ
+ Bow thing +
พวกเราก็นั่งคุยกันอยู่แถวนั้นซักพักแล้วจึงก็พากันไปนั่งที่ริมน้ำกับพวกโจ๊ก
“ทำไมมานั่งตรงนี้กันล่ะ”
น้ำค้างถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็นั่งอยู่แถวนั้นแล้ว บอกตามตรงมันทำใจลำบากเมื่อเห็นเพื่อนนอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้น”
ต้นน้ำพูดเสียงเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเศร้า
พวกเราเลยนั่งรวมกลุ่มกันที่ริมน้ำคุยเรื่องตลกกลบความเศร้า ดูเหมือนโจ๊กจะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วเลยคุยกับพวกเราอย่างสนุกสนานต่อพอตอนสายๆพวกผู้ใหญ่ก็มากันแล้ว คุณพ่อของมดตะนอยก็มาแล้วท่านจัดแจงน้ำร่างมดตะนอยใส่โลงและประดับด้วยดอกไม้ทุกคนเริ่มจัดข้าวของเตรียมรับแขกเย็นนี้
“ขอบคุณพวกหนูมากนะที่มาช่วยพ่อกันตั้งแต่เช้า”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเราเต็มใจทำอยู่แล้ว และอีกอย่างมดตะนอยก็เป็นเพื่อนรักของพวกเราเลยช่วยและก้อยากอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด”
“มดตะนอยโชคดีนะ ที่มีเพื่อนๆอยากพวกหนูยังไงก็ขอบคุณมากนะ พ่อคงต้องเตรียมตัวรับแขกแล้วล่ะ ขอตัวก่อนนะ”
“เชิญเลยค่ะ”
คุณพ่อของมดตะนอยก็เดินจากไป พอ 5 โมงเย็นแขกก็เริ่มมากันพวกเราเลยช่วยกันรับแขกและหาน้ำมาเสริฟ
“ขิม...เมื่อยอะ”
ฉันบ่น เนื่องจากว่าเดินไปเดินมาตั้งแต่เย็น แต่ตอนนี้มืดซะแล้ว
“แกก็ไปนั่งสิ เดี๋ยวเราจัดการเอง”
“เออ...ขอบคุณ”
ฉันจึงเดินมานั่งอย่างสบายใจ เฮ้อออ ปวดขาชะมัด กระดูกแทบจะหลุดออกมาแล้วเนี่ย
“แกๆ คนนั้นไงที่เมื่อเช้าเราพามาแล้วเค้าหายไปอะ แกลองไปคุยดูสิหาตาไม่ค่อยคุ้นเลยเราก็ไม่ได้ถามชื่อเค้าด้วยอะลืม....”
ขิมเดินมาบอกฉัน เป็นธรรมดาที่ไอขิมจะลืมอะไรสำคัญๆตลอดเวลา -- --
“เออๆ แกนิประจำเลยนะ”
“ทำไงได้อะ ก็มันลืมนิหว่า”
แล้วฉันก็ลูกขึ้นเดินไปหาเธอคนนั้น
“นี่ๆ เธอ...”
เธอคนนั้นหันมาตามเสียงเรียกของฉัน ว่าแต่ทำไมมานั่งไกลจัง
“โทดนะเธอเป็นใครหรอ หรือเป็นเพื่อนของมดตะนอย”
ผู้หญิงคนนั้นส่ายหัวช้าๆและพูดว่า...
“ฉันเป็นเจ้านายของมันต่างหาก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!”
ฉันกรีดร้องสุดเสียงด้วยความกลัวปนกับความตกใจ เมื่อสิ้นเสียงคำตอบสิ่งที่ฉันเห็นตรงหน้าคือร่างของมดตะนอยไม่ใช่สิ วิญญาณของมดตะนอยที่เต็มไปด้วยเลือดที่ศีรษะมีบาดแผลใหญ่เลือดและสมองไหลออกมาเก้าอี้ล้มระเนระนาดและเธอคนนั้นมีหน้าตาน่ากลัวใบหน้าขาวซีดแทบจะไม่มีเลือด ผมยาวสยายถึงกลางหลัง ดวงตาสีแดงโชนปากสีแดงสด เล็บมือสีดำสนิทและกำลังจิกผมของมดตะนอยอยู่
“ไอโบว์!!!!”
เสียงขิมตะโกนเรียกฉัน แต่ฉันไม่มีเสียงที่จะตะโกนเรียกใครได้ ทุกสิ่งทุกอย่างตีบตันไปหมด
“ดูความเจ็บปวดของเพื่อนแกซะ ดูซะให้เต็มตา”
เธอคนนั้นกระชากผมของมดตะนอยอย่างแรงฉันเห็นเลือดสดๆไหลออกมาจากแผลที่ศีรษะ ตามด้วยเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดจากร่างของมดตะนอย
“โบว์....ช่วย....เรา.....ด้วยย......กรี๊ดดดดดดดด”
“ไม่นะ ไป ไปให้พ้น อย่าทำเพื่อนฉันไม่ๆๆๆ กรี๊ดดดดดด!!!!”
ฉันตะโกนและกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ไม่นะ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยตอนนี้ทุกคนกำลังมองมาที่ฉัน ยืนดูฉันเหมือนเป็นคนบ้าแต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยฉันใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วยย
“แกรักเพื่อนแกมากไหม จะไปด้วยกันมั้ยล่ะไปอยุ่กับเพื่อนแกไง เอาไหม!!!!!”
หน้าของเธอเข้ามาใกล้ฉันห่างกันไม่ถึงคืบเดียว มือเธอกำลังจะเอื้อมมาจับตัวฉัน
“กรี๊ดดดดดด!!!!”ฉันร้องลั่น
แล้วก็มีมือหนึ่งมาดึงฉันเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นมือของใครแต่ที่แน่ๆ มือนั้นดึงฉันออกมาห่างจากร่างนั้น
“ไปให้พ้นนะ อย่ามายุ่งกับเพื่อนของฉัน”
“แก๊!!!!!!!!”
เสียงเธอคนนั้นดังสนั่นในทุกโสทประสาทของฉัน
“ไม่ได้ยินหรอ ฉันบอกให้แกไปให้พ้น!!”
อ่า...นี่มันเสียงขิมนี่
“แกๆ...ฮือๆๆ เห็นมันด้วยหรอ ช่วยเราด้วยๆ”
ฉันกอดขิมแน่นด้วยความกลัว ตอนนี้น้ำตาเกรอะกรังเต็มหน้าฉันไปหมดแล้ว
“แล้วเราจะได้เจอกันอีก!!!!”
แล้วเธอก็หายไปพร้อมทั้งวิญญาณของมดตะนอย เสียงของเธออาฆาตแค้นมาก ฉันตัวสั่นเทา
“แกมันหายไปแล้ว”
“ฮือๆๆ แกมันคือใคร เป็นใคร”
“ไม่รู้สิแต่ที่แน่ๆ มันไม่เลิกราแค่นี้แน่ๆ แต่ตอนนี้แกปล่อยเราก่อนได้มั้ย หายใจไม่ออก เรานี่แหละจะตายก่อน”
“เอ่อ...ขอโทษ”
ฉันปล่อยแขนออกแต่ก็ยังกลัวอยู่ดี เทอคนนั้นเป็นใครนะ
”โบว์ แกเป็นอะไร”
เพื่อนๆทุกคนแทรกตัวออกมาจากกลุ่มคนและเข้ามาพยุงฉัน
“กะ....”
“อ้อ มันก็แค่หลับแล้วก็ละเมอบ้าบอตามเคยนั่นแหละ” ขิมแย่งฉันพูด
“ไอที่ละเมอบ้าบอนั่นแกไม่ใช้หรอ -*-“
“ขอโทษด้วยนะค่ะ พอดีเพื่อนหนูแค่ละเมอนะคะ ขอโทษคะๆ”
ขิมหันซ้าย ขวาขอโทษแขกทุกคนแล้วดูเหมือนทุกคนจะเชื่อตามที่ขิมบอกจึงกลับไปนั่งตามเดิม
“โบว์เป็นอะไรรึเปล่าลูก”
คุณแม่ของฉันเดินเข้ามาถามอย่างตกใจใบหน้าแสดงความวิตกกังวล
“โบว์ไม่เป็นไรแล้วล่ะคะ คุณน้าพาโบว์กลับบ้านเถอะคะ”
“ใช่คะ พาโบกลับไปก่อนโบจะได้ผักผ่อน”
ทุกคนสนับสนุนตามความคิดของขิม คงเพราะคิดว่าฉันเหนื่อยเกินไปจนฝันร้าย
“เอางั้นก็ได้แล้วขิมจะกลับด้วยกันเลยมั้ยจ๊ะ”
“เอ่อ...หนูขออยุ่ช่วยงานกับเพื่อนๆก่อนก็ได้คะ”
“ไม่เป้นไรหรอกขิม แกกลับไปพร้อมไอโบนั่นแหละเดี่ยวที่เหลือพวกเราจะจัดการเอง”
“เออ...งั้นก็ได้ ขอบคุนนะพวกแก”
แล้วฉันก็กลับบ้านพร้อมขิมกับแม่ พวกเพื่อนๆก็เดินมาส่งที่รถ เหอๆใจดีกันจัง
“โบว์แกนอนให้เต็มอิ่มนะ จะได้ไม่ต้องมาละเมอทุเรศๆในงานอีก”
“ฝันเลขหวยมั้งเด่ คราวหน้าอะ”
“เออ เราไปแล้วนะ”
ฉันพูดขึ้นอย่างเหนื่อยๆ
“บ๊าย บาย เจอกันพรุ่งนี้นะ”
ทุกคนตะโกนและโบกมือจนลับตา
“เหนื่อยมั้ย”
“เหนื่อยสิ เจออะไรก็ไม่รู้ขอบใจแกมากนะที่ตอนนั้นมาช่วย”
“เออ ต้องช่วยสิใครจะปล่อยแกไว้แบบนั้น แล้วทำไมแกไม่ห้อยพระล่ะ”
“เราลืมไว้ที่หัวเตียงอะ เมื่อเช้ามันรีบๆเลยไม่ได้ใส่”
“งั้นแกก็ใส่ซะ ด้วยล่ะ”
“อือรู้แล้ว”
ขิมพูดอย่างตำหนิ ฉันเลยต้องจอบเสียงเบาๆอย่างรู้สึกผิด
“แก...เธอคนนั้นเป็นใครน่ะ”
“มันก็แค่ แขกที่ไม่ได้รับเชิญเท่านั้นแหละ ไม่ต้องถามมากหรอกเราง่วง จะนอนแล้วปลุกด้วยล่ะ”
“อือ เข้าใจแล้วความจริงเราต้องนอนไม่ใช่หรอ”
“.....” -*-
และไม่นานฉันก็หลับตามไปด้วยความเหนื่อย
หวัดดีทุกคนไม่ได้มาอัพนานมากเลยเหอๆ พรุ่งนี้จะเป้นวันเกิดของเจ๊แมลงสาปแล้ว
เฮ เฮ เฮ แล้วคงจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลย บาย บาย
ความคิดเห็น