ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายข้าวปั้นกับหนุ่มหล่อทั้งหลาย(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #23 : เต้นรำกับความวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 53


                                                                            

                                                                                    บทที่   21   

    หลังจากผมดื่มน้ำสัปประรดเข้าไปแก้วหนึ่งแล้วก็ต้องเจอกับน้ำที่ทำให้แสบคอหนักกว่าเก่า เมื่อมาเจอน้ำมะนาว น้ำสัปประรดแก้วแรกก็ต้องเยกน้ำมะนาวว่า พี่เลยละครับ แมร่งแสบยิ่งกว่าอีก  เหมือนกินน้ำโซดาไฟ มากกว่า งานเเหี้ยอะไรมีแต่ของแด๊กส์ลำบากทั้งนั้นเลยนะนี้

                    ยิ่งหยิบน้ำอื่นๆขึ้นมาผมก็เริ่มคิดว่ามันไม่เข้าท่าเข้าไปใหญ่ ยิ่งกินยิ่งเฟื้อนคอ ผมปลีกตัวออกจากพวกไอ้แบล๊กอกมาตั้งแต่ผมเจอปลาย ผมจึงเดินตามเธอมาอย่างเลื่อนลอยมีบ้างครั้ง ที่ผมเกือบจะล้มหัวทิ้มเพราะมั่วสังเกตมองแต่ปลายจนไม่สังเกตคถือถาดที่เดินสวนผมมา

    ผมมองดูเธอนานแล้วครับ นานเท่าไรไม่รู้ แต่ที่รู้ผมปลื้มเธอพอสมควรครับ คิดแต่ในใจอย่างเดียวว่า ทำไงดีหนอ ทำไงดี? จนโอกาสเป็นใจครับ เป็นใจสะทำให้ผมได้คุยกับเธอจนได้

    เป็นไงบ้างข้าง ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีไมเสียงหนึ่งทักจากผมข้างหลัง ทำให้ผมกลับหันไปมองต้นเสียงนั้น

    อ้าว ดีปลาย ก็ดี แล้วปลายละผมถามกลับอย่างตื่นตกใจอย่างยิ่ง เมื่อเจอเธอในสภาพที่น่าจะมีอยู่ในความฝันมากกว่า เพราะภาพตรงน่ามันสวยงามมากจนนึกไม่ถึง
    "ก็เรื่อยๆนะ "ปลาย บอกก่อนจะยกน้ำส้มขึ้นจิบเล็กน้อย
    "ออหรอ อืมมม....."ผมอำอึ้งอยู่เพราะอะไรนะหรอ หึๆๆๆ ก็ตามจุดมุ่งหมายละครับ
            แต่ผมก็อำอึ้งอยู่นาน จนจะเป็นอึ้งอ่างอยู่แล้วครับ แต่ก็ต้องอำอึ้งหนักกว่าเก่าอีกเมื่อมีเสียงประกาศดังขึ้น จนทำให้หูอันน้อยนิดของผมชาและตกตะลึง กับเวทีที่ประดับประดาไปด้วยไหมพรหมสีแดงขลิบทอง กับม่านผ้าเงินสะท้อนแสง กับปินโนสีดำ 1 หลัง วางไว้กลางเวที
            ทำไมหรอที่ผมจะต้องสนใจ ทำไมหรอ หึๆๆ ถ้าผมจะบอกว่า เรื่องไรจะบอก ผมจะโดนส้นทีนจากผู้อ่านหรือป่าวเนี่ย ก็เพราะผมได้ยินเสียงจากคนประกาศว่า เป็นพี่แชมป์ที่จะเล่นเปียโน ไม่ทันที่ปมคิดจะถูกแก้ ผมก็เห็นพี่แชมป์เดินขึ้นเวที อย่างสง่าโดยสทรตัวโก๋แบบนกเพนกวิน ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้เปียโน
          ทุกเสียงเงียบก่อน จะระดมเสียงด้วยเสียงคีย์ตัวแรกของเปียโนจะดังขึ้นมา ก่อนจะบรรเลงเป็นจังหวะช้า ที่ฟังแล้ว เพราะ และ นุ่มนวลอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ผมจะเล่นเปียโนหรือเครื่องดนตรีอะไรอย่างอื่นไม่เป็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รับรู้ความไพเราะของเพลงนั้น ไม่เป็น (ส่วนไอ้ไรเตอร์ ก็อย่าแอบด่าครับ ถ้า ด่าครับ เดี๋ยวเจอกับแม่ข้างนอกได้นะ ไอ้ไรเตอร์ -*-)              

    ผมกำลังเคลิ้มกับบทเพลงที่พี่แชมป์บรรเลงกับหญิงคนที่ผมชอบอยู่ก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นไอ้แบล๊กครับ ผมขอเน้นว่า ไอ้แบล๊กคร๊าบบ มันกำลังเดินขึ้นเวที(แล้วมันขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะถามใครดี ถ้าไม่ถามมัน) ก่อนจะมีพนักงานนำปินโนอีกหลังหนึ่งมา วางไว้ตรงข้ามกับหลังพี่แชมป์ ตัวขอมันสีขาวนวลครับ มันนั่งลงอย่างไม่เร่งรีบ ก่อนจะสะบัดข้อมือไปมา และเริ่มไล่คีย์ไปมาอย่างเร่งเร้า ราวกับพยายามยุยงและประชันกับปินโนสีดำ  ไม่รู้ว่าทำไม ทำไมหนอทำไม ผมจึงกล่าแสดงออกในทางความหน้าด้านต่อผู้หญิงคนนี้ได้ อย่างมั่นใจหนัก ทั้งๆที่รายงานหน้าห้องไม่เคยคิดที่อยากจะออกหรืออยากจะไปเสวนาอะไรต่างๆนาน สากกระเบื้อยันเรือลบมาเล่า แต่วันนี้กุขอ!

    จะเป็นเกียรติอย่างยิ่ง หากจะเต้นรำกับเราสักเพลง ได้ไม ปลาย?”ผมขอด้วยหัวใจที่เบาหวิวดังจังหวะเพลงที่ประชันกันบนเวที

    ได้สิ ถ้าต้องการปลายส่งยิ้มให้

                    ผมเริ่มจับมือเธอก่อนจะเดินพาเธอไปยังกลางลานเต๊นรำที่ตอนนี้ไม่มีใคร ไม่เคยคิดที่จะเปิดเฟอล์ กับชาวบ้านเลยแต่วันนี้ขอยึดสะโลว์แกนว่า กุขอ!

    ผมจับมือเธอเดินออกไปทามสายตาหลายคู่ที่จ้องมองคู่ผมสลับกับเปียโนไปมา ผมเริ่มโค้งก่อนเล็กน้อยก่อนที่ปลายจะย่อตัวลง ผมเข้าไปจับจะโพกเธอก่อนจะเริ่มจังหวะโยกไปมาอย่างช้าๆแล้วผมก็หยุดแล้วก็เอนไปข้างหน้าเพื่อให้ปลายเอนหลังลงก่อนที่ผมจะยกเธอขึ้นมาหลังตรงเหมือนเดิม

    เต้นเก่งนิ ข้าวเธอกระซิบเบาๆ ทั้งที่ผมเต้นเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น ที่เหลือมั่วกับดูหนังแล้วเอามาทำๆเอา90กว่าเปอเซนต์เลยละ โห โชคดีจัด 555+

    ผมเหลือบมองขึ้นไปบนเวที ก็เห็นพี่แชมป์กับไอ้แบล๊กส่งสายตามายังผม ก่อนจะหันหน้ามามองกันเอง ผมก็สะดุ้งกลับมามองปลายอีกครั้งเมื่อเธอถามว่า

    ไปฝึกเต้นที่ไหนมาละ  ถึงเซียนได้ขนาดนี้

    ผมได้แต่ยิ้มเล็กน้อยอย่างไว้มาด ที่แท้หรอฮึๆๆๆ กุไม่เป็นเลย

    ว้าว จังหวะเร็วขึ้นแล้ว หวังว่าคงจะเป็นจังหวะ หวังว่าคงไม่ใช่พิชกี๊แดนซ์นะ 555ปลายหัวเราะเล็กน้อย

    อะไรหวะ พิชกี๊แดนซ์ กุงง กุไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ที่รู้ๆจังหวะของผมตอนนี้เริ่มรวนครับเพราะเพลงนั้นเล่นเร็วและรั่วบรรเลงอย่างยิ่งยวด

    พร้อมยัง เตรียมตัวนะ

    ไม่ทันที่เสียงเธอจะพูดจบ ปลายก็เหวี่งตัวออกก่อนจะสะบัดสะโพกไปมา ผมไม่รู้จะทำไมเลยได้แต่ยืนนิ่งและงง ก่อนที่เธอจะเขามากอดผมอย่างเดิมแล้วก็ เริ่มก้าวเร็ว มีหลายครั้งที่ผมเกือบจะเหยียบนิ้วเท้าเธอ

    ข้าวเต้นไม่เก่งหรอ จังหวะนี้อะปลายถาม

    ออ ช่ายย เราไม่ชอบผมพูดปลดอย่างแรงครับ จะจังหวะนั้นกระผมก็ไม่เป็นหรอกครับ

    เดียวปลายสอน จำไว้สะบัดสะโพกไว้นะ เอ้า! เริ่มเธอเหวี่ยงออก ผมก็สะปัดไปมาอย่างไม่รู้ไม่ฉี่ ราวกับปลาหมึกได้น้ำ

    เยี่ยม! มากเลยไอ้ข้าว วี๊ดดดดดด!!!!”ไอ้พาสพิ้วปากครับ

    สาดดด! มันกำลังทำให้ผมรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆครับ มีหลายครั้งที่ท่าของปลายนั้นเซ๊กซี่ จนเล่นผมเอาเกือบหัวใจจะวายกับการเต้นของเธอ ผมได้แต่ภาวนาให้มันจบลงโดยเร็วที่สุด แล้วก็ดูเหมือนความคิดนั้นจะเป็นจริงเมื่อเสียงนั้นหนักและเร็วขึ้น จนในที่สุดมันก็จบลงด้วยการกดคีย์ตัวสุดท้ายพร้อมกันทั้งเปียโน2หลังที่อยู่บนเวที

    ทันทีที่สิ้นสุด เสียงตลบมือและเสียงโห่ร้องก็ก้องไปทั่ว เมื่อผมและปลายยื่นอยู่บนเฟอล์เต้นรำ บางคนชูแก้วที่มีน้ำอะไรโง่ๆๆอยู่ในนั้น บางคนก็เป่าปากให้ ผมโค้งเล็กน้อยเมื่อเห็นปลายโค้งนิดหนึ่ง

    ด้วยความอายผมจึงรีบเดินออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดแต่....

    โอ๊ยยย! ม่ายยยย! พลั้ก!...

     สะดุดกระโปรงค๊าาาาาาาาาาผมตระโกนลั่น

                    ผมจึงหั่นไปมองเจ้าสิ่งที่ทำให้เกิออุบัติเหตุของใครไม่ ของใคร แต่ดันเป็นของคู่เต้นรำกับผมนี้สิครับ ชิบหาย!!! โอ๊ย! กุลมจะจับ

    ก๊ากกกกกกกเสียงหัวเราะใครละครับ มีตัวเดียว ไอ้เชี๊ยพาสสสส!!!

    เออ ข้าวขอตัวก่อนนะ ขอโทดนะปลายที่ทำให้เธออายผมรีบบอกโดยไม่มองหน้าก่อนจะรีบวิ่งออกจากตรงนั้น สู่ภายนอกงานที่แสนอับอายที่เกิดขึ้นเพราะไอ้พาสตัวเดียง ผมนั่งอยู่ขอบสระตรงไหนสักแห่งของบ้านไอ้แบล๊กมันนี้ละ ผม ไม่รับรู้ และไม่คิดจะรู้ด้วยว่างานมันจะจบเมื่อไร แต่ที่รู้คืออยากอยู่เงียบๆชิวๆตรงนี้จนกว่าคนในงานจะกลับไปหมด

    เย็นดีจังผมนั่งหลับตาพลิ้ม รับกับอากาศที่แสนสดชื่น

     

    เห่อ ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้าวมันจะกล้าไปขอปลายเต้นรำเสียงหนึ่งดังแววมาแต่ไกล

    เออ ก็ว่างั้นละ แต่เมื่อไร ทันจะรู้สักทีว่าเราก็แอบชอบมันอยู่นะอีกเสียงดังตามพร้อมรอคำตอบกลับจากอีกเสียง หูผมเริ่มกระดิ๊กราวกับพยายามจะรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรา

    ถ้าเป็นไปได้นะครับ ผมก็อยากจะทำตั้งแต่ตอนนี้เลยแต่ ไม่สิ มันยังไม่ถึงเวลาเสียงที่3ดังขึ้น

    ก่อนที่เสียงนั้นจะหายไป แล้วทิ้งไว้แต่ความมึนงงให้ผมแบกรับไว้ ผมมองดูนาฬิกาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ก็เห็นว่า00.30

    กลับงานดีกว่างานน่าจะเลิกแล้วผมพูดกับตัวเองพร้อมสะบัดเศษหญ้าที่ติดมากับสูทรให้ออกไป ก่อนจะยืดหลังให้หายเมื่อยแล้วเดินกลับไปที่งาน เพราะคิดว่างานหน้าจะเลิกแล้วละ(มั่ง)

    พอเดินกลับไปก็ต้องสบถเบาๆเลยละครับ

    ให้ ตายเถอะ งานมันยังไม่เลิกอีกหรอฟะผมสบถเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในงานอย่างหัวเสีย แต่ก็ต้องรีบสะบัดความเซงออกเมื่อเจอแม่ของไอ้แบล๊ก

    คุณแม่ ทำไมมาอยู่แถวนี้คนเดียวละครับผมถามด้วยสีหน้าสงสัย

    ก็แม่ เป็นห่วงข้าวนิ เห็นรีบวิ่งออกจากงานไป นี้แนะของตีที่1เถอะ ที่ทำให้แม่เป็นห่วงไม่ทันพูดจบคุณแม่ก็ตีผมจะแทบจะไม่ระคายเตืองผิวของผมอันหนาด้านเลย 5555+ มันน่าภูมิใจตรงไหนฟะ

                ครับ ขอโทดครับ คุณแม่ผมตอบพลางยิ้มร่า ก่อนจะเดินตามโดยมีคุณแม่ลากมือให้เดินตาม ไปติดๆ อย่างไม่ให้ไปไหน

                    ผมมองตามทางที่มีคุณแม่ลาก กระผมไป บางคนกำลังตะยกเครื่องดื่ม ที่มีน้ำสีน้ำตาลโง่ๆ กลิ้งไปมาอยู่ในแก้ว บางแก้ว ก็สีม่วง บางแก้วก็สีฟ้า ดูราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่พร้อมจะทำลายอีกชีวิตหนึ่งที่ดื่มมันเข้าไป

                    ก่อนที่ผมจะหันมาสนใจคุณแม่ที่พากระผมเดินกระเซอะกระเซิงกระแทกคนนู้นคนนี้ที แล้วก็หันไปขอโทษ แต่ดูราวแล้วพวกคนที่ผมชนคงจะไม่ค่อยสนใจสะเท่าไรนอกจากจะสนใจเหล้าและเพื่อนที่เดินด้วยกัน

    เห่อ ผมถอนหายใจ อย่างเบื่อหน่าย ไม่ใช่เบื่อที่คุณแม่มาลากจูงผม แต่เบื่อที่งานบ้าๆนี้ทำผมน่าแหกและแตกยับเยิน นี้สิครับ เห่อชีวิตหนอ ชีวิต ไอ้เผือก!

    เดินได้สักพักก็ต้องเริ่มงุดหงิดกับการเบียดเสียดแทรกต้องนู้นนี้ นั้นนี้นะโวยยยยย!!!รำคาญคนโวยย แต่ก็ต้องทนครับ คนแมร่งโครตเบียดอย่างกับจัดคอนเสริตงาน(วัด)(ขอกราบอภัยคุณแม่ไว้ที่นี้ด้วยนะครับ อะอ่างล้อเล่ง) แล้วในที่สุดผมก็พบกับสัจธรรมแห่งชีวิตว่า ความซวย อยู่กับเราทุกเวลา -.-*

    แมร่ง ไอ้พาส ไอ้แบล๊ก ครบเซ๊ต ตัวป่วน+น่ารำคาญ แต่ มันกำลังนั่งกิน ค๊อกเทล กันอย่างร่าเริง รวมทั้ง พี่แชมป์ คุณไวท์ และนั้น ปลาย คนที่ผมหมายปองไว้ ราวมทั้ง ไอ้แสบทั้ง3 ไอ้กอล์ฟ ไอ้ปิน และไอ้ตางค์ กำลังนั่งซดน้ำเมา กันอย่างเมามัน เหอะๆๆๆ

    ข้าว แม่มาส่งแค่นี้นะลูก ทำตัวๆดีๆอยู่กับแบล๊กลไวท์ไปก่อนนะ อย่าไปไหน ให้แม่เป็นห่วงอีกนะคุณแม่บอกกล่าวเดินจากไปท่ามกลางฝูงคน ที่แน่นขนัด ทิ้งไว้ให้ผมคนเดียว ที่ต้องเผชิญชะตากรรมกรรมกับเพื่อนที่กำลังเมาตัวพ่อ

    เห่อชีวิตผมถอนหายใจก่อนเดินเข้าไปหาโต๊ะที่น้ำเมาหากสีสันต์ให้เลือกดื่ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×