คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ลมหายใจที่ขาดหาย
บทที่ 17
ไม่เคยคิดเลยว่า ชีวิตนี้จะต้องตกเป็นเป้าปืน หากไม่ใช่บุคคลสำคัญ แล้วไมหรอ ผมใช่บุคคลสำคัญหรอ ผมเป็นคนไม่ดีขนาดนั้นเชียวหรอ ถึงต้องโดนกำจัดทิ้ง ถ้าพูดตอนนี้ ตามหลักวิทย์ศาสตร์ลูกกระสุนคงจะเร็วหลายกิโลเมตร/ชั่วโมงเลยละ แต่ ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันช้ากว่าหอยทากที่กำลังจะเคลื่อนไปข้างหน้าสะอีก
“ข้าวววว”เสียงนี้กล้องกังวาลในหูของผมมาก ไม่รู้ว่าเสียงใคร แต่คงจะเป็นเสียงของคนที่ห่วงใย
ผมไม่รู้ว่าใครวิ่งเข้ามา แต่ใบหน้าที่ขาว เนียน และดูราวกับเทวดากำลังวิ่งมาหาผม ถึงแม้ตอนนี้ใบหน้าเทวดานั้น ตรงจมูกจะมีรอยช้ำสีแดง ก็ยังทำให้หัวใจผมเต้นตูมตามได้ตลอดแม้ยามอยู่ใก้ล ไม่รู้สิตอนนี้ผมคิดไรไม่ออก แต่ที่รู้ๆ ผมกำลังจะตายสินะ
ซวบ!!เสียงลูกกระสุนเจาะเนื้อสู่อวัยวะ ภายในที่พร้อมจะสะบั้น ฉีกขาด
ไวท์วิ่งเข้ามารับลูกกระสุนแทนผม เลือดสีแดงข้น สาดกระจายเลอะพื้น ไวท์หันมาก่อนจะส่งยิ้มให้ผม
“ไม่เป็นไรใช่ไม ข้าว”ไวท์พูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนและอ่อนแรง
“ม่ายยยย”ไอ้แบล็ก ร้องลั่น ผมไม่รู้ว่ามันตื่นขึ้นมาเมื่อไร แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันช่างตาละปัด ไปหมด ไม่รู้อะไรเป็นอะไร? ทำไม? เกิดอะไร? รู้ไม? และเพราะอะไร? ปัง!!!
เสียบงปืนดังขึ้นอีกหลายหน มีอยู่นัดหนึ่งเฉียด ตัวผมไป เพราะแบล๊กรีบเข้าไปสู้กับไอ้ฆาตรกรถือปืนที่พยายามที่จะยิงไวท์ซ้ำ แต่ก็ต้องพลาดไป ผมรีบเข้าไปประคองไวท์ที่ล้มลง ราวกับเทวดาโดนหักปีก
“ไวท์ อย่าเป็นอะไรนะ กุโกรธ จริงๆนะ ไอ้เชี้ย! อย่าหลับนะโว้ย”ผมตบหน้าไอ้ไวท์
มันเพียงพยักหน้า ไปมา ราวกับหุ่นไม้รูปงาม
ปัง!!! เสียงปืนดังขึ้นมาอีกรอบ
“อัก! แก เอาไปแด๊กส์ สะ ไอ้สาด”ไอ้แบล๊กกัดฟันพูด ก่อนจะยัดหมัดให้ไอ้โจร1ดุ้น ผมเห็นฟันมันหลุดไป
“เห้ย! ไอ้ข้าวเกิดไรขึ้น”พวกไอ้ตางค์ มาพร้อมกับคนมาช่วยครับ ทุกคนล้วนวิ่งหน้าตาตื่น ตรงมาที่พวกผม
พวกโจรก็รีบกระโจนข้ามประตู ก่อนจะรีบ ขึ้นรถ มันรีบขับรถส่ายไปมา ก่อนจะหยิบปืนออกมาข้างนอกอีกรอบหนึ่ง ปรืน~~~~~
“พวกแก! จำไว้ พวกฉันไม่พอแค่นี้หรอก ”เสียงหนึ่งตะโกนดังลั่น
ปัง!ปัง!ปัง!!
“ระวัง ข้าว ไวท์ เฮือก อึก!”พี่แชมป์เข้ามาคลุ้มผมและข้าว
“เห่อ ค่อยยังชั่ว”พี่แชมป์ลุกขึ้นยื่น หันมามองผม และรถที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา
“เร็วว! หลบ ”พี่แชมป์เข้ามาอุ้มไวท์ออกจากมือก่อนจะกระโจนออกไปข้างทาง
“ไอ้ข้าว ลุกขึ้นสิ”ไอ้พาสตะโกน ตัวผมอยากลุกใจจะขาดครับ แต่ ขามัน เลือดออก ขามันไม่ยอมขยับ!
“ไอ้ข้าว!”ไอ้พาสวิ่งเข้ามาก่อนจะชนผมให้กระเด็นกลิ้งไปข้างทาง
ป้างงงง!!!!~~~~~~~
ไอ้พาสลอยครับ ลอยละลิ้ว ก่อนจะนอนสลบ คาพื้น เลือดมันออกชโลมตัวครับ ผมตาเหลือก กับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกไอ้ ตางค์ ไอ้กอล์ฟ ก็ตะลึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น รถพยาบาล มาได้ทันใจผมจริงๆๆ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาไอ้พาส พี่แชมป์ตามผมมาติดๆ ไอ้แบล๊กยังคงดูไวท์ ซึ่งตอนนี้ผมทำไรไม่ถูกแล้ว ไอ้แต่มองสลับไปมา
“เชื่อพี่ ข้าว ทุกคนจะไม่เป็นอะไร”พี่แชมป์พูดด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ถึงแม้ผมรู้ว่ามันจะเป็รแค่คำปลอบใจผมก็ตาม
พลุบ!! วูบ~~~~พี่แชมป์ล้มลงไปกองกับพื้น
“พี่แชมป์ พี่ๆ พี่เป็นอะไร”ผมเขย่าตัวพี่เขาแรงๆ
“พี่ไม่เป็นไร แค่แผลนิดหน่อย”พี่เขาพยายามทำท่าสบายดี
“เลือด!!พี่แชมป์ พี่โดนยิง ทะลุอก ”ผมฉีกเสื้อ ก่อนจะรีบห้ามเลือดพี่แชมป์อน่างเร่งด่วน
“ช่วยด้วย!! ทางนี้!!”ผมตะโกนดังลั่นทีสุดในชีวิต
ไอ้ ตางค์รีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะสมทบด้วย ไอ้แบล็กซึ่งเอาไวท์ขึ้นรถพยาบาลแล้วออกไปเรียบร้อยแล้ว ท้ะงหมดรีบ พะยุง พี่แชมป์ ขึ้นรถพยาบาลที่เหลือ เสียงล้อรถพยาบาลเคลื่อนที่อย่างเร่งด่วน
วี๊ หว่อ วี๊ หว่อ~~~~~
ขวัญอ่อนของผม ซึ่งทุกครั้งยามปรกติผมได้ยินเสียง ไซเรนของรถพยาบาล ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกแย่ เศร้า กระวนกระวาย และร้ายกาจอย่างโหยหวนครั้งนี้ เสียงมันช่างทำให้อารมณ์ผมรู้สึกแย่ทุกที่ เมื่อคิดถึง ทุกหน้า ทุกคนที่ช่วยชีวิตผม ทำไม เรื่องร้ายจะต้องเกิดขึ้นกับพวกผมด้วย ก่อนที่ผมจะหยุดคิดผมจึงมองหน้าไอ้แบล๊กที่เครียดและกังวล จัด จนสังเกตได้จากคิ้วเข้มของมันที่ขมวดเข้าหากัน
ผมไม่กล้ามองหน้ามันครับ ไม่อยากสู้หน้า ไม่กล้าแม้จะขอโทด ไม่กล้าทำไรทั้งสิ้น กลัวครับ ผมไม่เคยกลัวไรขนาดนี้มาก่อน มื่อของผมเริ่มสั่นไปมา ก่อนจะเอามือมาลูบผม ไอ้ตางค์ก็มาตบบ่าผมเบาๆ ราวกับว่ามันรู้ว่าในใจของผมคิดไรอยู่
รถพยาบาลจอด ก่อนจะนำร่างไร้สติของพี่แชมป์ลง ด่อนจะพาเข้าห้องผ่าตัดเร่งด่วน เช่นเดียวกับไวท์ และพาส
ผม ไอ้แบล๊ก ไอ้ปิน ไอ้ตางค์ ไอ้กอล์ฟ รีบตาลี ตาเหลือก วิ่งไปรอหน้าห้องพยาบาล ผู้ช่วยวิ่งเข้าออกเป็นว่าเล่น ราวกับวิ่งไล่จับกัน
“คุณ หมอครับ น้องผมเป็นไงบ้าง?”แบล็กกระเสือกกระสนที่อยากระรู้
“ออ คุณอัสกร หรอครับ เสียเลือดมาก เราต้องการเลือดหมู่ เอ ด่วนเลยครับ”คุณหมอรีบบอก
“ผมเลือดหมู่เอ ครับ”แบล๊กรีบพูดกว่า
“ผมดีกว่าครับ”ผมรีบเข้าไปแทรก
“อ่าครับ ตามนางพยาบาลตรงนั้นไปนะครับ แล้วเดี๋ยวเขาจะจัดการให้คุณเอง”คุณหมอรีบหายเข้าไปในประตูผ่าตัด
“แบล๊ก นายให้ฉันช่วยเถอะ ขอร้องละ นายพักบ้าง”ผมรีบเดินออกจากตรงนั้นตรงยังนางพยาบาล และรีบ ให้เลือด
ระหว่างที่ผมให้เลือด ผมคิดตระหนัก และเวลามันช่างดูขมขื่น และอย่างไงนะหรือ ผมก็บอกไม่ถูกว่ามันยังไง แต่รู้อย่างเดียวว่ามันเหี้ยมาก มันไม่ดีเลย มันไม่อบอุ่นเหมือน4-5ชั่วโมงที่ผ่านมา มันราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ
พอเสร็จ ผมก็รีบ เดินออกจากห้อง แล้วเดินตรงไปหาไอ้แบล็ก และไอ้ปิน ซึ่งไอ้ตางค์กำลังโทรบอกพ่อแม่ของพวกผมกันอยู่
“เดี๋ยว ฉัน มาฉันไปห้องน้ำก่อน”ไอ้แบล๊ก เดิน เซ เล็กน้อยครับ ผมรีบเข้าไปประคองมัน
“ไม่ต้องมาช่วย!”มันตะคอกใส่ครับ มันดูโกรธ เครียด และอื่นที่ผสมราวกับสับสน
มันรีบเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนที่ผมจะเดินมามันมาติดๆๆ
“กุ ขออยู่คนเดียวได้ไหม”
......ผมเงียบ และเงียบ ไม่รู้จะทำยังไงดี
“อ๊ากกกก”แบล๊กมันกลุ้มหัว ไปมา มัน กรีดร้องไปมา ราวกับคนที่พร้อมจะบ้าคลั่ง ผมรีบเข้าไปกอดมันก่อนจะเรียกให้คนช่วย ที่ท้ายทอยมันมีรอบช้ำอยู่ ที่ขาก็มีรอยกระสุนปืน ส่วนขาผมที่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำแผล ขามันช่างอ่อนแรง และคิดว่าสักพักก็คงจะต้านแรงโน้มถ่วงโลกไม่ไหวแน่ มันดิ้นสะขนาดแผ่นดินไหวขนาดนี้
นายบุรุษพยาบาลรีบเข้ามาช่วยอย่างเร่งรีบ เขาทั้งจับล๊อกแบล๊กไว้ แต่แรงไอ้แบล๊กก็ไม่ใช่แค่คนเดียวจะเอาอยู่หรอก หากร่างกายไม่ฟิตมาจริงๆ แต่มันก็ต้องหยุดเมื่อโดนยาสลบไป1เข็ม ทำให้อาการมันนิ่ง ราวกับก้อนหินเงอะงะ ก่อนที่นายบุรุษพยาบาลจะพาผมไปทำแผลลึกที่ขาผม ซึ่งผมลืมไปสนิทเลยระหวง่าที่ห้ามไอ้แบล๊ก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนผมทำไรผิดไปหมด
ผมเดินออกไปตามทางเดินเพื่อกลับไปหาห้องผ่าตัด ผมก็เห็นแม่แบล๊กนั่งเครียด ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผม พร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา
“ข้าว ไวท์และแบล๊ก.... ฮืออ~~”คุณแม่ร้องไห้ ก่อนจะซบอกผมราวกลับหาที่พึ่งไม่ได้
“คุณแม่ครับ พวกเขาจะต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆครับ” คำๆนี้มันออกจากปากผมได้ไงเนี่ย คนที่อยู่รอดปลอดภัย หนี้รอดเพียงคนเดียว คนที่เห็นแก่ตัวมากที่สุดอย่างผม มันก็พูดได้อยู่แล้ว
“แม่เชื่อ”คุณแม่พูดสั้น ก่อนจะรีบหั่นไปมองประตูห้องผ่าตัด
ผมนั่ง ดูห้องผ่าตัดซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของผม
“ข้าว ลูกเป็นไงบ้าง”เสียงหนึ่งดังขึ้น ผมหันไปมองต้นเสียง เป็นใครไม่ได้ เสียงที่อบอุ่นที่พึ่งสุดท้ายของผม แม่ แล้วก็พ่อ
“ไม่เป็นไรนะ ข้าว”แม่เข้ามากอดผม พ่อด้วยเช่นกัน
“เดี๋ยว แม่ขอไปคุยกับแม่ของไวท์และแบล๊กหน่อยนะลูก กอล์ฟ ตางค์ ปิน ฝากข้าวด้วยนะ”คุณแม่ละพ่อ รีบเดินเข้าไปหาคุณแม่แบล็ก แน่นอนมีหลายครั้งที่ผมแอบชำเรือง เห็นแม่แบล็กร้องไห้ ระหว่างคุยกับพ่อแม่ผม และแน่นอน ว่าพ่อแม่ไอ้พาสก็มาเช่นกัน รวมทั้ง แม่นมพี่แชมป์ พ่อแม่ของพี่แชมป์มาไม่ได้ก็เพราะ ติดธุระอยู่ที่ต่างประเทศ
ไม่รู้ว่าวันนี้มีเรื่องอะไรวุ่นวายมากมาย แต่ผมกลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ง่วง แต่ มันเศร้า และทำไรไม่ถูก มากสุดก็แค่งีบสัก10นาที ก็ต้องตื่น เพราะผมกลัวว่าคนเหล่านี้จะจากไป หรือมันจะเป็นจริงๆ ผมไม่อยากจะคิดเลย ผมได้แต่ออกไปเดินสวนของโรงพยาบาลคนเดียว และนั่งทำใจร้องไห้ หยดน้ำตาที่มันไหลออกจากตาผมคงจะเทียบกับคนอื่นๆที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อปกป้องผม ผมควรจะทำยังไงดี ผมควรจะทำยังไง?
มันดังก้องกังวาน บ้างทีเราควรจะหายไปเลย หรือป่าว เพื่อที่คนอื่นจะได้พักผ่อนและสบายใจขึ้นบ้าง
มันจะดีไมนะ ผมนั่งคิดเรื่องนี้ทั้งคืน ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ผมนั่งมองมันอย่างเลื่อนลอย และคิดว่ามันก็คงเศร้า เพราะไม่คอยมีใครขึ้นไปเยี่ยมไปหามันบ่อยนัก
และผมคิดว่ามันก็คงน่าจะใช่ ผมน่าจะทำยังงี้ เพื่อทุกคน ผมรีบเดินไปตรงระเบียง ก่อนจะยืนมองสายลมที่พักแรงๆปะทะหน้าผม ผมสูดอากาศที่เย็นช่ำปอดเข้าไปด้วย กลิ่นท่อไอเสียรถจากข้างล่าง ผมรีบก้าวต่อ อย่างนึกเศร้า ก่อนจะรีบถอดรองเท้าและปินรั้วกันตก นั่งคิดอยู่บนรั้วอย่างเหม่อลอย และลอย
ความคิดเห็น