ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู ตอน 9 น้ำหวานสอบสวน พี่เบียร์เดือด
เสียงรถจอด ทำให้เบียร์ละสายตาจากที่ดูโทรทัศน์อยู่ เขาแปลกใจที่ทำไมยัยตัวเล็กถึงได้กลับเร็วนัก เพราะบอกกับเขาว่าจะทานข้าวเย็นกับเพื่อน ๆ ซึ่งปกติไม่เคยกลับเร็วขนาดนี้ เพื่อนกลุ่มนี้เขายอมให้คบกับน้องสาวเขาได้เพราะตรวจสอบประวัติทุกคนมาหมดแล้ว และด้านนิสัยเขาก็เคยจับตาดูอย่างใกล้ชิดจนแน่ใจได้ว่าเพื่อนพวกเธอเขาวางใจที่จะให้ช่วยดูแลน้องสาวเขาได้ ตอนแรกแซนด์อาจจะดูไม่ผ่านมาตรฐานไปบ้างแต่พอสังเกตจริง ๆ แล้วจึงรู้ว่าถึงแม้เธอจะเปรี้ยวหรือชอบเที่ยวแค่ไหนแต่ไม่เคยคิดชักนำน้องสาวเขาไปในทิศทางนั้นเลย เด็กคนนี้เป็นคนฉลาดทันคนมีเพื่อนอย่างนี้ยัยตัวเล็กจะปลอดภัยจากพวกจอมเจ้าชู้เพราะเธอรับมือได้หมด ดีกว่าเจ้าฝ้ายที่โผงผางเสียอีก ส่วนสองสาวเทียมนั่นเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ว่ากันว่าสาวประเภทนี้รักเพื่อนมาก ถ้าใครกล้าแตะพวกเธอลุยแหลกเหมือนกัน ฉะนั้นเพื่อนยัยตัวเล็กทุกคนจะสนิทกับเขาพอควรเพราะคอยเป็นหูเป็นตาและรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เขารับรู้ตลอด
“น้องไวน์ ทำไมกลับเร็วจังครับ” เบียร์เอ่ยถามน้องสาวเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในบ้าน โดยไม่สังเกตว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ ทันทีที่ได้ยินเสียงพี่ชายเธอจึงถลาเข้ามากอดเขาร้องไห้อย่างหนัก โดยมีสามสาวเดินเข้ามาสวัสดีเขาอย่างเงียบ ๆ
“เป็นอะไรไปคนเก่งของพี่ ใครทำอะไรเราบอกพี่มาเดี๋ยวพี่จัดการมันเอง” เบียร์ถามอย่างตกอกตกใจ น้องสาวของเขาร้องไห้หนักขนาดนี้เพราะอะไร หัวใจเขาหายแวบไปทันทีเมื่อเจอน้ำตาสาวน้อย ยัยตัวเล็กยังเงียบไม่ตอบอะไร มีเพียงเสียงสะอื้นบ่งบอกว่าเธอยังไม่หยุดร้องไห้
“ว่ายังไงครับ ใครกล้าทำน้องสาวพี่ บอกพี่สิครับ” เขาลูบผมเธออย่างอ่อนโยน ยิ่งทำให้ยัยตัวเล็กร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ส่วนเพื่อน ๆ เธอนั้นได้แต่นั่งกันตัวลีบไม่กล้าพูดหรืออธิบายให้เขาเข้าใจซักคน ซึ่งตอนนี้เบียร์พึ่งสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของสามสาว เขาจึงเริ่มรู้ว่าคงมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ แล้วอีกสามคนล่ะหายไปไหน ปกติพวกเธอถ้าเกิดเรื่องจะต้องอยู่กับครบทุกครั้งไป แต่วันนี้ทำไมหายไปตั้งสามคน
“โอ๋ ๆ เด็กดี อย่าร้องเลยนะครับ พี่ทำอะไรไม่ถูกแล้ว” เบียร์ทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ นั่นแหละ เขาแพ้น้ำตาน้องสาวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกคนในบ้านต่างรู้เรื่องนี้กันดี เขาจูบขมับน้องสาวเบา ๆ เพื่อปลอบยัยตัวเล็กที่น้ำตาไม่หยุดไหลเสียที ดีนะที่พ่อกับแม่เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศไม่อย่างนั้นทั้งบ้านคงต้องโกลาหลแน่ แต่ไม่มีแม่อยู่ก็ไม่ดีอยู่อย่าง คือ เขาจะทำยังไงให้สาวน้อยหยุดร้องไห้ล่ะเนี่ย
“ไวน์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” ซักพักเธอก็ผละจากพี่ชายช้า ๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาอีก ไวน์รู้ว่าทำให้พี่ไม่สบายใจแต่เธอทนไม่ไหวจริง ๆ พอได้ยินเสียงอ่อนโยนของพี่ชายจึงเข้ามากอดเพื่อหาไออุ่นทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคิดว่าจะกลับเข้ามาแล้วตรงขึ้นห้องทันทีไม่ให้พี่ชายได้เห็นน้ำตาเธอ สาวน้อยหอมแก้มพี่ชายเบา ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและหันมาห้ามไม่ให้เพื่อนตามเธอไป เธออยากอยู่คนเดียวจะร้องไห้แค่วันนี้เท่านั้น จะไม่ทำให้คนอื่นต้องมาทุกข์ใจกับเธอด้วย วันพรุ่งนี้เธอจะไม่ร้องไห้เรื่องของเขาอีก แฟนคนแรกที่ใจร้ายเหลือเกินอย่างพี่เบสท์ เพียงแค่คิดน้ำตาก็คลอเบ้าเธอต้องรีบไปก่อนที่คนอื่นจะรั้งเธอไว้
“นี่มันอะไรกัน ใครทำยัยไวน์เสียใจ บอกพี่มาซิ” เมื่อลับร่างสาวน้อย พี่เบียร์ก็หันมาเล่นงานสามสาวที่ตอนนี้เริ่มจะนั่งไม่ติดเพราะกันชนอย่างไวน์หนีขึ้นห้องไปแล้ว และคนที่จะรับมือกับอารมณ์ของพี่เบียร์อย่างฝ้ายก็ยังมาไม่ถึงซะที
“พี่เบียร์ใจเย็นก่อนนะคะ รอฝ้ายมาเล่าดีกว่าค่ะ อีกซักพักก็คงมาถึงแล้ว” แซนด์ทำใจกล้าตอบแทนสองสาวที่ตอนนี้สั่นเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว
“หมายความว่ายัยฝ้ายเป็นต้นเหตุอย่างนั้นเหรอ” พี่เบียร์ถามเสียงน่ากลัว จนสามสาวรีบสั่นหัว
“ไม่ใช่ค่ะ แต่รอฝ้ายดีกว่านะคะ พวกเราเล่าไม่ถูกหรอกค่ะ” แซนด์ปฏิเสธไว้ก่อน ทำให้พี่เบียร์หงุดหงิดที่ยังไม่ได้ความจริงซะที
เสียงรถจอดทำให้สามสาวรีบวิ่งแจ้นไปที่ประตูทันทีอย่างกับกลัวว่าพี่เบียร์จะลุกขึ้นมาเขมือบพวกเธอ ฝ้ายมองหน้าเพื่อนแล้วพอจะเข้าใจว่าพายุลูกใหญ่กำลังรออยู่ข้างใน คราวนี้หกสาวยกโขยงกันมานั่งให้เบียร์สอบสวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ฝ้าย มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมยัยไวน์ถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น พี่ถามสามคนนี่ เขาบอกให้รอถามเรา ว่าไงบอกพี่กันได้รึยังว่ามีเรื่องอะไร” เบียร์ถามอย่างร้อนใจ แต่ฝ้ายหันไปทำตาขุ่นใส่สามสาวที่มาก่อน เล่นโยนระเบิดไว้ให้เธอรับเละคนเดียวเลยนะ
“ไวน์เขาไม่ได้บอกอะไรเลยเหรอคะ” ฝ้ายถามหยั่งเสียงก่อนจะได้รู้ว่าจะตอบยังไง
“ไม่ พี่ถามอะไรก็ไม่ตอบซักอย่างแล้วก็หนีขึ้นบ้านไป”
“คือว่า ...” ฝ้ายติดอ่างขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้จะบอกเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายจอมหวงคนนี้รู้ได้อย่างไรโดยไม่มีใครโดนพายุถล่มซะก่อน
“คืออะไร รีบบอกมาก่อนที่พี่จะหมดความอดทน” เสียงพีเบียร์แข็งขึ้นเรื่อย ๆ
“คือ ยัยไวน์ถูกตบมาค่ะ” ฝ้ายตอบตรงที่สุดแต่ทำคนอื่นตกใจจนต้องร้องประสานเสียงออกมา
“เฮ้ย ฝ้าย”
“อะไรนะ” พี่เบียร์ลุกขึ้นยืนพร้อมตะโกนถามด้วยความตกใจยิ่งกว่า คำตอบที่ได้รับทำเอาเขามึนไปเลย คนอย่างยัยตัวเล็กใครถึงกล้าตบเธอได้ลงคอ ออกจะน่ารักและอ่อนหวานขนาดนั้นไม่น่าทำให้ใครโกรธได้เลย
“พี่เบียร์ใจเย็นค่ะ” แป้งกับอ้อสองสาวที่เกือบเป็นใบ้ไปแล้วตั้งแต่เข้ามาพยายามทำให้พี่ชายเพื่อนอารมณ์เย็นลง
“ใครจะเย็นได้ เกิดเรื่องขนาดนี้ แล้วใครมันกล้ามาทำน้องสาวพี่” เขานั่งลงพยายามระงับโทสะ
“ชื่อเจนนี่ค่ะ แต่ยังไม่ทราบมากไปกว่านี้” ฝ้ายตอบทันทีเหมือนกัน เธอจะต้องให้ผู้หญิงคนนั้นชดใช้ที่กล้ามาตบไวน์เพื่อนของเธอ
“แล้วอยู่ดี ๆ เขามาตบน้องพี่ทำไม” พี่เบียร์คาดคั้น ไม่มีเหตุผลที่คนไม่รู้จักกันจะมาทำร้ายน้องสาวผู้แสนอ่อนโยนของเขา
“คือว่า ...” หกสาวเงียบอีกเหมือนเคย เพราะคำตอบคราวนี้จะทำให้พวกเธอซวยไปตาม ๆ กัน เลยไม่มีใครกล้าพูด แม้กระทั่งฝ้ายเองก็ยังไม่กล้า ซึ่งพี่เบียร์จับทางได้เลยจี้ถามไปที่คนตกใจง่ายที่สุด
“ฮันนี่ ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมาตบไวน์” ด้วยเสียงอันดังที่จู่ ๆ ก็ถามขึ้นมาในภาวะความเงียบที่พวกเธอไม่ตั้งตัวทำให้ฮันนี่หลุดปากบอกความจริงออกไป
“เขาหาว่าไวน์แย่งแฟนเขาค่ะ” พอรู้ตัวฮันนี่รีบตะปบปากตัวเองพร้อมหันไปขอโทษขอโพยเพื่อน ๆ เป็นการใหญ่
“ว่ายังไงนะ เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยพวกเราน่ะ” พี่เบียร์มองกราดไปที่ทุกคนอย่างเอาเรื่อง และทุกคนก็หลบตาเขา แสดงว่ามันมีเรื่องไม่ชอบมาพากลที่ปิดบังไม่ให้เขารู้แน่ ๆ
“บอกพี่มาแล้วพี่จะยกโทษให้ แต่ถ้าเอาแต่เงียบกันทุกคนอย่างนี้ เราคงมีเรื่องกันแน่” เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ยอมปริปากบอกอะไรเพราะกลัวเขาจนหัวหด ทำให้เขาต้องใช้ไม้อ่อนไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ความจริงกันพอดี
“พี่เบียร์คะ ตามพี่น้ำหวานกับพี่ลูกชิดมาได้ไหมคะ” แซนด์หาทางรอด เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้พี่เบียร์ตบะแตกได้ ถ้ามีสองคนมาช่วยพวกเธออาจจะเละน้อยหน่อย
“ก็ได้ แต่ทันทีที่สองคนนั่นมา พี่ต้องได้รู้เรื่องทั้งหมดเข้าใจไหม” เขาตอบตกลงโดยไม่ลังเล เพราะดูจากท่าทางของหกสาวตรงหน้า เรื่องนี้คงไม่ธรรมดาแน่ ขนาดร้องหาตัวช่วยกันซะขนาดนี้ แต่มันจะเป็นเรื่องเล็กไปได้อย่างไรในเมื่อน้องสาวเขาโดนตบข้อหาแย่งผู้ชาย ถึงแม้จะเชื่อว่าน้องสาวไม่มีวันทำเรื่องอย่างนั้นแน่ แต่มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่โดยที่เขาไม่รู้ความจริง และคนตรงหน้าทั้งหลายก็กลัวอารมณ์เขาเกินกว่าจะกล้าเล่าออกมา
“ลูกชิดนายอยู่ที่ไหน ... ดี อยู่กับน้ำหวานพอดีใช่ไหม นายรีบมาหาพี่ที่บ้านด่วนเลยนะ ... ไม่เป็นไร พาหนูนามาด้วยก็ได้ ... ใช่ เรื่องด่วน ด่วนมาก ... ยัยไวน์โดนตบเนี่ย ด่วนพอไหม ... ดี แล้วเจอกัน” เบียร์วางสายหลังจากที่โทร.ไปตามทั้งสองคนอย่างที่หกสาวต้องการ ลูกชิดและน้ำหวานเป็นเหมือนคนในครอบครัว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องปิดบัง ส่วนหนูนาแฟนของลูกชิดอีกไม่นานก็คงจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จึงควรมารับรู้เรื่องนี้ด้วย เผื่อจะต้องช่วยกัน ฟังจากน้ำเสียงของลูกชิดแล้วก็รู้ว่าตกใจไม่แพ้เขาที่ได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก เขาเชื่อว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงทั้งสามคนจะต้องมาถึงที่นี่อย่างแน่นอน
“มันเกิดอะไรขึ้นคะพี่เบียร์ แล้วน้องไวน์อยู่ที่ไหนคะ” น้ำหวานถามขึ้นทันทีที่ย่างเข้ามาในห้องที่พวกเขานั่งรอกันอยู่ เธอร้อนใจเมื่อรู้เรื่องไวน์ แน่นอนอยู่แล้วที่เธอต้องห่วงสาวน้อยคนนี้ก็เธอเป็นเหมือนพี่เลี้ยงของไวน์มาตั้งแต่เด็ก เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของหนูน้อยที่มีพี่ชายที่อายุห่างกันเป็นสิบปี
“พี่ก็ตอบเราไม่ได้เหมือนกัน แต่ไวน์น่ะอยู่บนห้อง” เขารับไหว้ผู้มาใหม่ก่อนที่จะตอบคำถามของน้ำหวานที่ทำท่าจะขึ้นไปข้างบนตามที่เขาบอก
“หวานขึ้นไปดูไวน์ก่อนนะคะ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกน้ำหวาน ไวน์ไม่เปิดประตูให้หรอก พี่ว่าเรามาช่วยพี่เค้นความจริงจากพวกนี้ดีกว่า” เบียร์หันไปทำตาดุใส่เพื่อนน้องสาวที่ตอนนี้ใจมาอีกนิดเมื่อเห็นคนมาช่วยให้รอด ส่วนน้ำหวานถึงจะยังห่วงคนข้างบนแต่ก็ยอมนั่งลงตามคำสั่งของพี่เบียร์
“ตกลงใครจะบอกพี่ได้บ้างจ๊ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” น้ำหวานทำหน้าที่ทูตเจรจาด้วยเสียงใจดี ทำให้ทั้งหกคนรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
“เราไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนดีค่ะ” แซนด์ตอบเสียงอ่อย
“ไม่เป็นไรจ้ะ เอาเป็นว่าตอบพี่ทีละคำถามก็ได้ เริ่มจาก พวกเรารู้ไหมว่าใครทำร้ายน้องไวน์”
“เขาชื่อเจนนี่ค่ะ แต่ฝ้ายไม่ทราบว่าเขาเป็นใครมาจากไหน”
“จ้ะ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาสืบกันอีกทีก็ได้ แล้วเรื่องมันเกิดที่ไหน”
“ร้านอาหารค่ะ” แป้งเป็นคนตอบ
“แล้วทำไมพวกเราถึงปล่อยให้ไวน์โดนทำร้ายได้” พี่เบียร์ถามเสียงดุ เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกนี้ปกป้องยัยตัวเล็กอย่างกับอะไรดี ทำไมถึงปล่อยให้โดนรังแก
“คือ ตอนนั้นมีแค่แป้งกับอ้ออยู่กับไวน์ค่ะ ที่เหลือไปห้องน้ำกันหมด” แซนด์ให้ความกระจ่าง เพราะสองสาวหวานอยู่แค่สองคนนี่เอง คนอื่นถึงกล้า ถ้าเป็นสี่คนที่ไม่อยู่เนี่ยอยู่สิ พวกนั้นคงกระเจิง
“อ้อ ขอโทษค่ะที่ช่วยไวน์ไม่ได้เลย” สาวหวานคนแรกยกมือไหว้ขอโทษพร้อมน้ำตาทำเอาอีกคนก็ยอมรับผิดเช่นกัน
“แป้งด้วยค่ะ ทั้ง ๆ ที่เราสองคนอยู่ด้วยแท้ ๆ แต่ไวน์ก็ยังโดนทำร้ายได้”
“ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกครับ พี่เชื่อว่าเราทั้งสองคนคงพยายามช่วยแล้ว แต่ช่วยไม่ได้ใช่ไหมครับ” ลูกชิดปลอบใจสองสาว
“ค่ะ พวกเขามากันสี่คน เราทั้งคู่โดนจับไว้เลยไปช่วยไวน์ไม่ได้” แป้งเป็นคนตอบ
“จ้ะ ไม่ต้องคิดมากนะ พี่อยากรู้ว่าเขามาทำร้ายหนูไวน์ทำไม” น้ำหวานค่อย ๆ ตะล่อมเข้าสู่ประเด็น
“เขาหาว่าไวน์แย่งแฟนเขาค่ะ” แป้งตอบโดยไม่เอะใจคิดแต่ฝ้ายกับแซนด์เริ่มหน้าซีดแล้วหาทางหนีทีไล่ทันที
“เขาเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า ก็น้องไวน์ยังไม่มีแฟนนี่จ๊ะ แล้วจะไปแย่งใครได้ล่ะ” น้ำหวานถามเรียบ ๆ
“คือว่า ...” คนที่ตอบเจื้อยแจ้วอยู่เมื่อครู่ถึงกับติดอ่าง แถมเพื่อนที่เหลือก็ยังหาคำตอบเหมาะ ๆ ไม่ได้
“คืออะไร พวกเรามีอะไรปิดพี่อยู่ใช่ไหม” พี่เบียร์ที่นั่งฟังน้ำหวานสอบสวนเริ่มหงุดหงิดที่พวกแสบทั้งหลายไม่ยอมคายความจริงออกมาซะที
“คือว่า...” อ้อพยายามที่จะตอบแต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ฮันนี่ ปิดอะไรพี่ไว้ บอกมา” ด้วยเสียงที่ทั้งดุทั้งดังปานฟ้าผ่า คนที่บ้าจี้และไม่ทันตั้งตัวอย่างฮันนี่เลยหลุดปากออกมา
“ยัยไวน์แอบมีแฟนค่ะ” พูดไปก็นั่งตัวลีบแถมเพื่อน ๆ ยังขว้างค้อนมาให้กันใหญ่ ข้อหาที่เปิดเผยความจริงที่จะนำพาความซวยมาให้ รู้อยู่แล้วว่าต้องเล่าให้ฟังแต่มันก็ควรค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่โพล่งออกมาซะหมดเปลือกขนาดนี้ แล้วคราวนี้จะเอาหัวไปไว้ที่ไหนกัน
“อะไรนะ” เสียงผู้อาวุโสทั้งสี่ดังขึ้นพร้อมกัน แต่เสียงของพี่เบียร์ดังกว่าเพื่อนและผสมความโกรธที่ใครได้ฟังก็รู้ว่าโกรธมากแค่ไหน เพราะนอกจากเสียงแล้วพี่เบียร์ยังกระเด้งตัวขึ้นคล้ายจะพรวดมาหาจำเลยทั้งหกดีว่าน้ำหวานคว้าให้นั่งไว้ทัน
“ใจเย็นค่ะพี่เบียร์ เดี๋ยวก็ไม่ทันรู้เรื่องกันพอดี” น้ำหวานตั้งสติได้ก่อนเพื่อน
“ได้ พี่จะพยายามเย็นไว้ละกัน แต่พวกเราต้องเล่ามาให้หมด อย่าได้คิดปิดพี่อีกเชียวนะ ไม่งั้นน่าดู” เบียร์ตวัดสายตาอันน่ากลัวไปให้จำเลย ที่ตอนนี้เอาแต่หลบตา
“ว่ายังไงครับ เล่ากันมาได้รึยัง ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นยังไง ถ้ายังปิดอีก พี่ก็ไม่รู้จะช่วยพวกเรายังไงแล้วนะครับ” ลูกชิดถามอย่างใจดี เพราะเห็นว่าทุกคนต่างกลัวพี่เบียร์กันหงอไปแล้ว ในที่สุดก็มีหน่วยกล้าตายปริปากเล่าออกมาจนได้
“ฝ้ายแล้วก็เพื่อน ๆ ต้องขอโทษพี่ทุกคนด้วยนะคะที่ปิดเรื่องนี้เอาไว้ พวกเราคอยดูพฤติกรรมนายนั่นมานานแล้วค่ะ ถึงยอมให้คบกับไวน์”
“ปล่อยให้คบกันมานานแค่ไหนแล้ว” พี่เบียร์ถามอย่างอดทน
“เดือนกว่าค่ะพี่” ฝ้ายตอบเสียงเบา
“ตั้งเดือนกว่าเชียวเหรอ พวกเราคิดจะปิดพี่ไปถึงเมื่อไหร่ แล้วหมอนั่นเป็นใคร” พี่เบียร์เริ่มเดือดอีกเมื่อเห็นว่าพวกตัวแสบปิดบังตนมานาน
“เขาชื่อ นายเบสท์ เป็นหนึ่งค่ะ” แซนด์เป็นคนตอบให้ โดยเลี่ยงคำถามอื่น
“ชื่อมันคุ้น ๆ อยู่นะ” พี่เบียร์รู้สึกสะดุดกับชื่อที่คุ้นหูนี้พอดู
“ก็คนนี้ที่พี่เบียร์เคยให้ผมไปสืบเมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วไงครับ” ลูกชิดเองก็นึกขึ้นมาได้
“ครึ่งปีเหรอ หมายความว่าพวกเราปิดพี่มามากกว่าเดือนหรือไง เดี๋ยวนี้หัดโกหกพี่แล้วเหรอ” พี่เบียร์หันไปตวาดใส่จำเลย ที่พร้อมเพรียงกันส่ายหน้า
“ไม่ใช่นะคะ ไวน์เพิ่งคบกับเขามาได้เดือนกว่า ๆ แต่ว่าเขามาตามจีบไวน์ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ” แซนด์ตอบเสียงอ่อยในตอนท้ายอย่างยอมจำนน
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิดหมอนี่มันเพลย์บอยควงผู้หญิงไปทั่วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงปล่อยให้ยัยไวน์คบกับคนแบบนี้ได้”
“ก็ตอนนั้นเราพยายามกันกันเองแล้วค่ะ อีกอย่างคนพวกนี้ถ้าโดนขวางมาก ๆ ก็ไปหาคนใหม่ไม่มาตื๊อนานนักหรอก พวกเราก็เลยไม่บอกพี่ค่ะ” ฝ้ายตอบ
“แล้วเป็นไงล่ะฝ้าย กันอีท่าไหนถึงปล่อยให้คบกันได้ พี่ผิดหวังมากนะที่เราไม่ยอมรายงานให้พี่รู้ พี่ไว้ใจคนผิดใช่ไหม” พี่เบียร์ว่าเสียงเครียด
“ฝ้ายขอโทษค่ะ ฝ้ายไม่คิดว่าจะดูคนผิด พวกเราก็ช่วยกันทดสอบแล้วนะคะ”
“ใช่ค่ะ แชมเปญยืนยันได้ว่าพวกเราช่วยกันทดสอบทุกรูปแบบแล้ว แต่พี่เบสท์ก็อึดผ่านมาได้ค่ะ พวกเราเลยใจอ่อน เวลาตั้งครึ่งปี มันไม่น้อยเลยนะคะที่เราจะใช้ดูคนบางคน” แชมเปญพยายามช่วยเพื่อนและช่วยตัวเองไปด้วย เพราะท่าทางพี่เบียร์ที่โมโหขนาดนี้พวกเธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“ครึ่งปีเหรอ พวกเราใช้เวลาแค่นี้เองเพื่อแลกกับความไว้วางใจของพี่” พี่เบียร์ดุเสียงดัง
“โธ่ พี่เบียร์คะ พวกเราขอโทษ พวกเราผิดไปแล้วจริง ๆ ยกโทษให้พวกเราเถอะนะคะ” ฝ้ายยกมือไหว้ก่อนที่คนอื่นจะทำตาม
“พี่ผิดหวังกับพวกเรามาก บางทีพี่ว่าพวกเราห่างยัยไวน์ซักพักดีไหม” พี่เบียร์ไม่ยอมยกโทษให้ง่าย ๆ จนจำเลยร้องอย่างตกใจที่พี่เบียร์ตัดสินอย่างนี้
“พี่เบียร์” เสียงประสานที่คนพูดหน้าซีดไปตาม ๆ กัน
“อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะพี่เบียร์ ไม่มีประโยชน์หรอก ยิ่งทำอย่างนี้น้องไวน์จะยิ่งเสียใจนะคะ” น้ำหวานช่วยห้ามทันที
“ใช่ครับ พี่เบียร์อย่าลืมนะครับว่าน้องไวน์กำลังต้องการกำลังใจและคนคอยปลอบ ถ้าพี่ไปตัดเพื่อน ๆ เขาออกไป น้องไวน์จะรู้สึกโดดเดี่ยวได้นะครับ” ลูกชิดช่วยอีกคน เพราะสงสารบรรดาจำเลยที่ตอนนี้เริ่มนั่งไม่ติดกับคำตัดสิน
“หนูนาก็ว่า ให้น้อง ๆ ได้ทำคุณไถ่โทษดีกว่านะคะ พี่เบียร์”
“หวังว่าคงไม่มีครั้งหน้าอีกนะ” พี่เบียร์สงบอารมณ์อยู่นานกว่าจะยอมลงให้ตามเสียงส่วนใหญ่ เหล่าจำเลยคิดถูกจริง ๆ ที่หาตัวช่วยเป็นสองพี่น้องคู่นี้ ไม่อย่างนั้นคงโดนลงโทษกันไปแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” ทุกคนพร้อมใจกันไหว้ขอบคุณทั้งพี่เบียร์และพี่คนอื่น ๆ ที่ช่วยให้พวกเธอรอดพ้นวิกฤต
“พี่จะให้พวกเราไถ่โทษ เล่าความจริงมาให้หมด ทำไมพี่ถึงไม่ผิดสังเกตเรื่องนี้ได้ ปกติก็เห็นยัยไวน์กลับบ้านตรงเวลา แล้วพวกเราก็มาส่งทุกครั้ง ไม่เคยนอกลู่นอกทาง แล้วหมอนั่นเอาเวลาที่ไหนมาเจอกับไวน์” พี่เบียร์เค้นเรื่องที่คาใจ เขาก็พอเห็นอยู่หรอกว่ายัยตัวเล็กถือช่อดอกไม้เข้าบ้านมาค่อนข้างบ่อยในช่วงหลังมานี้ แต่ตั้งแต่เข้าปีหนึ่งมาเขาก็เห็นว่าเธอมีดอกไม้กลับบ้านมาบ่อยครั้ง ก็น้องสาวเขาอ่อนหวานขนาดนี้ พอมีใครเอาดอกไม้มาให้ก็รับไว้หมดเพราะกลัวเขาจะเสียน้ำใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าเดี๋ยวบรรดาเพื่อนเธอก็จัดการให้เอง จึงไม่ได้นึกเอะใจที่พักหลังน้องสาวจะได้ดอกไม้ถี่ขนาดนี้
“ช่วงแรก ๆ ที่นายนั่นมาจีบ พวกเราก็คอยกันกันทุกวันค่ะ ไม่ให้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน แล้วก็คอยแกล้งสารพัดจะได้ถอย ๆ ไปซะ ที่ไหนได้นายนั่นกลับมีลูกอึดทนได้ตั้งนาน พอพวกเราใจอ่อนยอมให้คบกันได้ก็เลยทำข้อตกลงกับนายนั่นไว้ว่าจะไม่ให้มารับมาส่งไวน์เด็ดขาดแล้วก็จะมีเวลาอยู่ด้วยกันได้เฉพาะมีพวกเราอยู่ด้วย” ฝ้ายสารภาพเสียงอ่อย
“อ๋อ วางแผนกันไว้อย่างดี มิน่าล่ะพี่ถึงจับไม่ได้ ตอนแรกที่ให้ลูกชิดสืบก็คิดว่านายนั่นจะมาจีบยัยไวน์แต่พี่ไม่เห็นยัยไวน์มาพูดอะไรก็นึกว่าจะไม่มีอะไรซะอีก เลยปล่อย ที่ไหนได้ มีพวกเรารู้เห็นเป็นใจช่วยกันปิดนี่เอง” พี่เบียร์ประชด
“พวกเราก็แค่อยากให้ไวน์มีความสุขเท่านั้นแหละค่ะ ตอนที่ได้เจอกับพี่เบสท์ยัยไวน์ยิ้มหน้าบานทุกที” แชมเปญให้ข้อมูลที่ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเลย
“แล้วสุขไหมล่ะนั่น ร้องไห้ตาช้ำไปหมดแล้ว เห็นรึเปล่า” พี่เบียร์ตอบเสียงกระแทกจนบรรดาน้อง ๆ จ๋อยกันเป็นแถว
“พอเถอะค่ะพี่เบียร์ น้อง ๆ เขาก็รู้ตัวแล้วว่าทำผิด พี่ก็อย่าว่าเขาอีกเลยนะคะ หวานว่าเรามาช่วยกันหาทางแก้ไขเรื่องนี้กันดีกว่า ดีนะคะที่คุณลุงคุณป้าไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ ต่อไปเราคงต้องดูยัยไวน์กันให้ใกล้ชิดกว่านี้”
“พี่เบียร์คะ ฮันนี่ขอบอกอะไรนิดนึงนะคะ” ฮันนี่แทรกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“มีอะไรก็ว่ามา” เสียงพี่เบียร์ดูผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ฮันนี่กล้าที่จะพูดต่อ
“คือว่า พี่เบสท์เขาบอกเขาจะไม่ยอมปล่อยยัยไวน์ไปค่ะ ยังไงเขาก็จะมาหาไวน์ให้ได้ไม่ว่าพวกเราจะขวางยังไงก็ตาม เขาก็จะมาเจอยัยไวน์ให้ได้ค่ะ”
“มันกล้าดียังไงถึงมาพูดอย่างนี้” พี่เบียร์ว้ากขึ้นมา จนทั้งห้องสะดุ้ง อารมณ์ที่นิ่งสงบไปได้ชั่วครู่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธขึ้นมาอีก เมื่อเจอคำท้าทาย ถึงแม้จะไม่ได้ยินกับหูแต่เขาก็รู้ว่าไอ้บ้าที่บังอาจทำน้องสาวเขาเสียใจคงพูดจริง มีใครบ้างที่ได้หัวใจของน้องสาวเขาแล้วจะยอมปล่อยไปง่าย ๆ ใครทำอย่างนั้นก็โง่เต็มที แต่ไอ้คนที่มันกล้าเอาหัวใจน้องเขาไปแล้วทำให้บอบช้ำอย่างหมอนี่ยังไงเขาก็คงต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น