คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู ตอน 8 หนูไวน์ถูกตบ !!!!!
แชมเปญสะกิดฮันนี่เพื่อนรักเบา ๆ เมื่อรู้สึกผิดสังเกตกับสามสาวที่นั่งโต๊ะห่างออกไปจากที่พวกเธอนั่งสามสี่โต๊ะ เพราะเห็นตั้งแต่แม่ชะนีทั้งหลายเข้ามาในร้านตอนที่พวกเธอเตรียมจะสั่งของหวานแล้ว
“ฮันนี่ แกเคยเห็นหน้ายัยพวกนั้นรึเปล่า” แชมเปญพยักเพยิดไปทางโต๊ะเป้าหมายเพื่อส่งสัญญาณ
“ไหนยะ ยัยหน้าจืดโต๊ะนั้นน่ะเหรอ ฉันจะไปรู้จักได้ไงล่ะแก ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ก็ว่าไปอย่าง”
“แต่ยัยพวกนั้นแอบมองพวกเราตั้งแต่เข้ามาในร้านเลยนะ แกไม่เคยเห็นจริง ๆ อะ” แชมเปญให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะปกติฮันนี่เป็นพวกคนรู้จักเยอะ และจำคนแม่น
“ไม่นะแก ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย หรือว่าเขาอาจจะมองพี่เบสท์ก็ได้นะ หนุ่มหล่อลากดินอย่างพี่เบสท์น่ะ สาวที่ไหนเห็นก็ต้องเหลียวมองทั้งนั้นแหละแก” ฮันนี่ตอบแบบไม่จริงจังนัก
“มันก็จริงของแก แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี สายตายัยพวกนั้นมันดูไม่เป็นมิตรยังไงไม่รู้สิ” แชมเปญยังรู้สึกไม่สบายใจ จนแซนด์ที่นั่งติดกันโผล่หน้ามาคุยด้วยอีกคน
“แชมเปญเป็นอะไรรึเปล่า หน้าดูไม่ค่อยดีเลย”
“แซนด์ แกเคยเห็นยัยพวกโต๊ะนั้นรึเปล่า” แชมเปญถามเหมือนเดิมเพราะรู้สึกข้องใจมาก
“ไม่เคยเห็นนะ มีอะไรรึเปล่า” แซนด์ถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร สงสัยฉันจะคิดมากไปเอง”
“แน่นะแก มีอะไรก็บอกได้ ถ้ามีปัญหาจะได้ช่วยกันลุย”
“ไม่มีอะไรจ้า สงสัยแซนด์จะเริ่มติดเชื้อยัยฝ้ายแล้วนะเนี่ย ไม่พูดพร่ำทำเพลงจะลุยท่าเดียวเลย” แชมเปญหัวเราะนิด ๆ ให้กับท่าทางของเพื่อนรัก ทำให้แซนด์ยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นเพื่อนหัวเราะ เพราะปกติแล้วแชมเปญไม่ใช่คนคิดมาก แต่เมื่อกี๊ทำท่าเหมือนมีอะไรในใจ ทำให้เธอไม่สบายใจไปด้วย
“ไปห้องน้ำกันไหม เอาออกก่อนจะได้มีที่บรรจุของหวาน” แซนด์ชวน
“ก็ดีเหมือนกัน เพื่อน ๆ จ๊ะ ใครไปห้องน้ำบ้าง” แชมเปญหันไปชวนคนอื่น และได้พวกไปเพิ่มอีกสองคน คือ ฮันนี่คู่ซี้ กับฝ้ายที่ตอนนี้เริ่มแน่นเลยอยากออกไปเดินย่อยซักหน่อยก่อนจะมาเขมือบของหวานต่อ
หลังจากวางโทรศัพท์จากเพื่อนรักที่โทร.มาส่งข่าว เจนนี่ก็รีบคว้ากระเป๋าแล้วเหยียบรถบึ่งมาที่ห้างดังทันที แต่การจราจรในกรุงเทพฯก็ไม่เป็นใจเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่เป็นวันอาทิตย์แต่ทำไมรถถึงได้ติดนักก็ไม่รู้ แค่ธรรมดาเจนนี่ก็อารมณ์เสียจะแย่ยิ่งวันนี้อารมณ์เธอก็เดือดเกินร้อยพร้อมจะทำลายล้างสิ่งที่ทำให้เธอขุ่นเคืองใจจนอยู่ไม่ติดคอนโด
“เบสท์ คุณกล้าดียังไงที่ทิ้งฉัน แล้วยัยหน้าด้านนั่นเป็นใคร ไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายคนนี้มันของฉัน” เจนนี่กัดฟันพูดเสียงลอดออกจากริมฝีปากแสดงอารมณ์โกรธจัด ตั้งแต่เกิดมาคนอย่างเจนนี่ไม่เคยโดนผู้ชายคนไหนทิ้งมาก่อน มีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นผู้ชายเป็นของเล่นพอเบื่อเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนไปหาคนใหม่ และตอนนี้เธอก็ยังไม่เบื่อนายเบสท์ซักหน่อย เขากล้าดียังไงที่ควงผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เธอ แถมเพื่อนที่โทร.มารายงานยังบอกอีกด้วยว่าท่าทางของชายหนุ่มช่างพะเน้าพะนอเอาใจยัยผู้หญิงคนนั้นอย่างกับอะไรดี ชนิดที่ว่าเขายังไม่เคยเอาใจเธอขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้าข่าวรั่วออกไปเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ในเมื่อสองเดือนก่อนเธอเพิ่งให้ข่าวว่ากำลังคบหาดูใจกับลูกชายคนโตเจ้าของห้างดังมาได้ซักระยะแล้วอยู่แหมบ ๆ วันนี้ดันมียัยมือดีที่ไหนมาหักหน้าควงเขาไปทานข้าวกันซะหวานเจี๊ยบชนิดน้ำตาลยังเรียกพี่ นี่ใช่ไหมเหตุผลที่เบสท์หายหน้าหายตาไปในช่วงเดือนหลังและไม่ว่าเธอจะพยายามติดต่อไปหายังไงก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมออกมาเจอเธอ ทั้งก่อนหน้าที่เธอจะไปเยี่ยมครอบครัวที่อังกฤษและถือโอกาสไปเที่ยวฝรั่งเศสเกือบเดือน เธอชะล่าใจที่ปล่อยเขาทิ้งไว้ที่เมืองไทย เลยทำให้เขาหลุดจากมือเธอเหรอ ไม่มีทางเธอไม่มีวันยอมง่าย ๆ เด็ดขาด
ทันทีที่ลงจากรถ เจนนี่ก็รีบไปที่ร้านอาหารที่เพื่อนโทร.มาบอกโดยไม่สนใจกรีดกรายเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้านเหมือนปกติ และเมื่อเข้ามาในร้านเธอก็เห็นเป้าหมายพอดี ภาพของชายหนุ่มที่หัวร่อต่อกระซิกกับสาวหน้าใสอย่างเบิกบานเกินเหตุ ทำให้อารมณ์เธอยิ่งเดือดเข้าไปอีก เธอไม่สนคนอื่นในร้านอีกแล้ว เธอรีบตรงดิ่งไปที่โต๊ะนั้นทันที
“ไหน ขอดูหน้าผู้หญิงหน้าด้านแย่งแฟนคนอื่นชัด ๆ หน่อยซิ” เจนนี่กระชากแขนไวน์เพื่อจะได้เห็นหน้าสาวหน้าใสที่บังอาจแย่งของเล่นเธอ
“เจนนี่” เบสท์อุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นสาวสวยบุกประชิดแฟนตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังบีบแขนหนูไวน์ซะแน่นพอปล่อยมือก็เห็นเป็นรอยแดงชัดเจน
สาวน้อยตกใจจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่มองหน้าผู้ประสงค์ร้ายอย่างไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร ส่วนอีกสองสาวหวานก็ตะลึงกับการกระทำของนางแบบสาวจนตัวแข็งไปทั้งคู่ แถมยังมีสามสาวเพื่อนนางแบบมาสมทบรุมล้อมสาวน้อยอีกต่างหากจนคนในร้านต่างมองมาเป็นตาเดียวแต่เธอก็ไม่แคร์สายตาชาวบ้านเลยซักนิด
“ขอโทษนะคะ คุณทักผิดคนรึเปล่าคะ” ไวน์ถามผู้ไม่หวังดีอย่างอ่อนหวานโดยไม่ได้สังเกตหน้าแฟนหนุ่มเลยว่ารู้จักกับผู้หญิงที่เข้ามาเล่นงานเธอคนนี้
“หนอย นังนี่ แย่งแฟนคนอื่นแล้วยังมาย้อนถามเขาตาใสอีก หน้าตาก็ออกจะดี ท่าทางก็น่าจะรวยไม่เบาไม่มีปัญญาหาแฟนเองหรือไง ถึงต้องมาแย่งของคนอื่นเขา” เจนนี่ตะคอกเสียงดังตามแรงอารมณ์
“คุณพูดอะไร ไวน์ไม่เข้าใจ”
“ยังจะโง่อีกเหรอ ก็ผู้ชายที่แกออดอ้อนอยู่นี่น่ะแฟนฉัน แกกล้ามากนะที่จะมาแย่งเขาไปจากฉัน”
“คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะ ไม่จริงใช่ไหมคะพี่เบสท์” สาวน้อยถามเสียงสั่นน้ำตาคลอหันไปมองชายหนุ่ม เธอตกใจมากที่อยู่ ๆ ก็มีคนมาประกาศตัวเป็นแฟนเขา แถมยังพ่วงข้อหาแย่งผู้ชายให้เธออีกด้วย
“ไม่จริงครับหนูไวน์ อย่าไปฟังเขาพูด” ชายหนุ่มรีบตอบ จนเจนนี่หันมามองหน้าเขาอย่างไม่พอใจก่อนที่จะหันไปตวาดสาวน้อยจนเธอสะดุ้ง
“นังหน้าด้าน นี่ต่อหน้าฉันแกยังกล้าอ้อนเบสท์อีกเหรอ อย่างนี้มันต้องตบสั่งสอน” ไม่พูดเปล่า เจนนี่กระชากไวน์ให้ลุกขึ้นและจับไว้แน่นไม่ให้ขยับไปไหน ส่วนแป้งกับอ้อที่จะขยับมาช่วยเพื่อนก็ถูกสองสาวล็อคแขนไว้ให้อยู่กับที่ เบสท์ลุกพรวดจะเข้ามาช่วยก็ถูกเพื่อนอีกคนของเจนนี่ขวางไว้เช่นกัน เธอใช้แรงทั้งตัวเพื่อเหนี่ยวเขาไว้เลยทีเดียว
“เพียะ” เสียงฝ่ามือกระทบกับแก้มใสอย่างแรงจนหน้าสาวน้อยหันไปตามแรงตบ น้ำตานองหน้าด้วยความเจ็บและอาย สามคนที่อยู่ที่โต๊ะช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย จนเกือบจะโดนตบครั้งที่สองแต่เจ้าของฝ่ามือนั้นถูกผลักอย่างแรงจนล้มกระแทกกับพื้นพร้อมกับเพื่อนของเธออีกสามคน ฝ้าย แซนด์ ฮันนี่ แชมเปญ เข้ามาเห็นเหตุการณ์ตอนสาวน้อยโดนตบพอดี จึงรีบวิ่งเข้ามาช่วย ฝ้ายถลาจะเข้าไปซ้ำคนที่บังอาจมาตบหน้าเพื่อนรัก ดีที่ว่าแซนด์คว้าไว้ทันไม่อย่างนั้นเจนนี่คงสะบักสะบอมแน่
ไวน์ใช้มือกุมหน้าน้ำตาร่วง เธอไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะโดนตบ คุณหนูผู้ถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอมแค่ซักแปะเดียวก็ไม่เคยโดนตีกลับโดนผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาตบข้อหาแย่งผู้ชาย ถ้าพ่อแม่รู้เข้าคงเสียใจมาก เธอทนอายผู้คนทั้งร้านที่ตอนนี้มองมาที่เธออย่างอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว แถมบางคนก็ซุบซิบพูดอะไรกันเธอก็ไม่ได้ยินแต่จากท่าทางคงไม่พ้นนินทาเธอเป็นแน่ สาวน้อยหันไปมองหน้าคนรักด้วยสายตาเสียใจอย่างสุดซึ้งและผิดหวังในตัวเขามาก เขาปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้มาแตะต้องตัวเธอได้อย่างไร ไวน์ตัดสินใจวิ่งออกจากร้านโดยไม่รอใคร
“แป้ง อ้อ ตามไวน์ไปเร็ว” ฝ้ายหันมาสั่งสองสาว ซึ่งทั้งคู่รีบคว้ากระเป๋าของตัวเองและของไวน์แล้ววิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวเพื่อนจะเตลิดไปไกล ส่วนด้านฝ้ายก็ขวางชายหนุ่มไว้ไม่ให้ตามเพื่อนรักเธอไป
“ฝ้าย ขวางพี่ทำไม พี่จะไปตามหนูไวน์” เบสท์พูดอย่างขัดใจและไม่ได้ระวังตัวเลยโดนหมัดของฝ้ายเข้าเต็ม ๆ ที่จมูก เขาเซไปเล็กน้อยแล้วใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ไหลออกมา
“เบสท์” เจนนี่ร้องเสียงหลงพร้อมกับรีบถลาเข้ามาประคอง แต่ชายหนุ่มสะบัดเธอออก เจนนี่หันไปจะเล่นงานฝ้าย แต่เจอแซนด์เข้ามาขวางหน้าซะก่อน
“อย่างเธอมันต้องเจอฉันนี่” แซนด์ตบเจนนี่ที่เดินดุ่มเข้ามาจนหน้าหัน สามสาวคิดจะมาช่วยเพื่อนเลยโดนฮันนี่กับแชมเปญแท็คทีมกันตบซะกระเด็นข้อหาบังอาจสมรู้ร่วมคิดกับยัยนางแบบหน้าสวยมาทำร้ายเพื่อนพวกเธอ
“กรี๊ด แกกล้าดียังไงมาตบฉัน” เจนนี่จะวิ่งเข้าใส่แซนด์แต่เจอตบสวนมาอีกที
“แล้วเธอล่ะกล้าดียังไงมาตบเพื่อนฉันก่อน อ๊ะ ๆ ๆ ๆ อย่านะ ถ้าลองเข้ามาอีก ฉันจะปล่อยให้ยัยฝ้ายต่อยให้สลบเลย” เจนนี่เงื้อมมือค้างท่าทางเลิกลั่กเพราะเห็นแล้วว่าสาวทอมบอยคนนั้นคงมือหนักไม่ใช่เล่น เห็นได้จากชายหนุ่มที่โดนชกจนเลือดไหล
“แซนด์พอก่อน ตามไวน์ไป แล้วเจอกันที่บ้านไวน์นะ” ฝ้ายหันมาสั่งเพื่อให้เพื่อนรีบตามไปดูอาการของสาวน้อยเพราะรู้ดีว่าสองสาวที่ไปก่อนหน้านี้อย่างมากก็ทำได้แค่ช่วยไม่ให้ไวน์เตลิดไปไหนแต่คงจัดการอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น
“ได้ แล้วแกรีบตามไปล่ะ” แซนด์หันไปหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกไปอีกคน ทิ้งสองสาวเทียมไว้เป็นผู้ช่วยฝ้ายรับมือกับพวกกระจอกไม่เจียมตัว
“จะไปไหน” ฝ้ายหันมาทันกระชากตัวเบสท์ที่ทำท่าจะตามแซนด์ออกไปอีกคน
“ฝ้าย ปล่อยพี่นะ พี่จะไปอธิบายให้หนูไวน์ฟัง”
“เบสท์ นี่คุณยังคิดจะตามเด็กนั่นไปอีกเหรอ” เจนนี่เข้ามากระชากแขนเขาอย่างไม่พอใจ
“ปล่อยผมนะเจนนี่” ชายหนุ่มสะบัดเธอออกอย่างแรงจนเซไปชนกับเพื่อน ๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“คุณทำกับเจนนี่อย่างนี้ได้ไง เจนนี่เป็นแฟนคุณนะ” เธอถามเขาด้วยความไม่พอใจ พวกฝ้าย ฮันนี่ และ แชมเปญยืนรอดูหนังสดกันอย่างสบายใจ อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายตรงหน้าจะจัดการปัญหาอย่างไร
“คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเจนนี่ ตั้งแต่เกิดมาผมมีแฟนแค่คนเดียวและคนนั้นก็คือหนูไวน์ไม่ใช่คุณ” เบสท์ตอบเสียงเย็นอย่างเชือดเฉือนความรู้สึกคนฟัง เขาโกรธมากที่เธอมาแตะต้องคนที่เขารักแต่ที่ไม่รุนแรงมากไปกว่านี้ก็เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง
“กรี๊ดดดดดดดดดด คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไงเบสท์ แล้วที่ผ่านมาตั้งหลายเดือนเราสองคนเป็นอะไรกัน อย่าบอกว่าเพื่อนนะคะ เพราะมันมากกว่านั้นคุณก็รู้” เจนนี่กรีดร้องอย่างไม่พอใจ เธออับอายที่โดนผู้ชายปฏิเสธต่อหน้าผู้คนตั้งมากมาย เธอจึงตรงเข้าทุบตีเขาเพื่อระบายอารมณ์ เบสท์จับมือเธอไว้ทั้งสองข้างบีบแน่นก่อนจะสะบัดอีกครั้งจนเธอเกือบล้มดีที่ว่าเพื่อน ๆ เข้ามารับไว้ทัน เขาเหลืออดกับเธอแล้ว สงสัยความเป็นสุภาพบุรุษที่รักษาไว้คงใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงคนนี้
“คุณน่าจะรู้ดีนะว่าผมหมายความว่ายังไง ถ้าจำไม่ผิดผมไม่เคยพูดซักครั้งว่าเราเป็นแฟนกัน ส่วนเรื่องของเรามันเกิดจากความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย มันก็แค่เรื่องสนุกที่คุณเองก็เห็นด้วยไม่ใช่เหรอ ขอโทษนะ ผมก็ไม่อยากพูดแบบนี้แต่คุณทำให้ผมพูดออกมาเอง” ชายหนุ่มตอบอย่างเย็นชาและไม่ไว้หน้าเธอเลย
“เบสท์ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย คุณพูดอย่างนี้ต่อหน้าคนอื่นได้ยังไง” เสียงเจนนี่บ่งบอกถึงความโกรธจัด
“ผมไม่เคยคิดจะพูด แต่คุณบีบให้ผมต้องพูด จะหาว่าผมเป็นยังไงก็ได้ ขอแค่ผมสามารถเคลียร์ตัวเองกับแฟนผมได้ก็พอ”
“ได้ คุณต้องการแบบนี้เองนะ รักนังนั่นมากใช่ไหม ดูแลกันให้ดี ๆ ล่ะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน คนอย่างเจนนี่ไม่ยอมให้ใครมาหยามฟรี ๆ หรอก คุณกับเด็กนั่นต้องชดใช้” เธอขู่ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินจากไปแต่ก่อนที่จะพ้นตัวเขา เธอก็ได้ยินเสียงแสดงอารมณ์ข่มขู่เธอเช่นกัน
“อย่าได้ไปแตะหนูไวน์เชียวนะ ผมเตือนไว้ก่อน ถ้าไม่ฟังกัน คุณจะรู้ว่าเวลาผมร้ายขึ้นมาอะไรก็ขวางผมไม่ได้ทั้งนั้น จำเอาไว้” เจนนี่ไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดแต่กลับจ้องด้วยสายตาวาววับในเชิงท้าทายก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเธอ
เมื่อนางแบบสาวไปแล้ว คนในร้านก็เลิกสนใจกับโต๊ะที่เมื่อครู่มีฉากเด็ดให้ดูทันที พนักงานร้านที่ไม่กล้าเข้ามาร่วมวงเมื่อซักครู่ถูกชายหนุ่มเรียกมาคิดค่าอาหารและค่าเสียหายทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เพราะเขาต้องการจะไปอธิบายให้สาวน้อยของเขาฟังอย่างเร็วที่สุด วินาทีที่เห็นเธอโดนทำร้ายเขาอยากจะช่วยเธอแต่ก็ทำไม่ได้ ตอนที่เห็นน้ำตาของเธอเขาอยากจะเช็ดน้ำตาและปลอบโยนเธอ แต่ก็ต้องมาติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องและก็พวกผู้พิทักษ์ที่อยู่หน้าเขาอีกสามคนนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่เขาต้องแก้เหมือนกัน
“น้อง ๆ ครับ บ้านหนูไวน์อยู่ไหนครับ” เบสท์ถามทั้งที่รู้ดีว่าคงไม่ได้รับคำตอบ เขาทำตามสัญญาว่าจะไม่ไปรับไปส่งหนูไวน์ และไม่สืบที่อยู่ของเธอด้วย ฉะนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน อันที่จริงแล้วจะหาบ้านเธอคงไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่แต่มันก็ต้องใช้เวลาไม่สามารถรู้ได้ทันทีเดี๋ยวนี้อย่างที่ใจต้องการ ยิ่งปล่อยเวลาให้นานไปเขากลัวว่าหนูไวน์จะไม่ยอมรับฟังเขาอีก เธอจะต้องถูกเป่าหูจากบรรดาเพื่อน ๆ ทั้งหลายแล้วก็คงถูกปกป้องยิ่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก แค่ก่อนหน้านี้เขายังต้องเวลาตั้งครึ่งค่อนปีกว่าจะได้ใกล้ชิดกับเธอ แล้วตอนนี้ล่ะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเปิดใจเธอได้อีกครั้ง เขากลัวเหลือเกิน เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนเดียวจะมีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้ ครั้งแรกที่จีบเธอก็เห็นว่าน่ารัก ใส ๆ ดีหรอก แต่ยิ่งนานวันประกอบกับต้องพยายามอย่างมากที่จะจีบเธอ ทำให้เห็นเธอมีคุณค่าไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมา และยิ่งนาทีนี้เขาก็รู้เลยว่าเธอสำคัญกับเขามากขนาดไหน เขาคงทนไม่ได้ถ้าต้องเสียหนูไวน์ไป
“เสียใจนะคะพี่เบสท์ เราไม่บอก” แชมเปญเป็นคนตอบคำถามนี้เอง ถึงแม้ว่าเธอกับฮันนี่จะเข้าข้างเขามาตลอดแต่วันนี้เขาทำเพื่อนเธอเจ็บก็อย่าคิดว่าจะได้รับความช่วยเหลืออีกเลย
“พี่ทำพวกเราผิดหวังมาก ไวน์มีค่ามากกว่าที่พี่จะปล่อยให้ยัยนั่นมาทำร้ายได้” ฮันนี่สำทับด้วยความโกรธ เธอคิดผิดที่ช่วยเขามาตั้งแต่ต้น
“อย่าเข้าใจพี่ผิดสิครับ พี่ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเลย พี่รู้ว่ามีความผิดที่ปล่อยให้หนูไวน์โดนทำร้าย แต่อย่าเพิ่งลงโทษพี่ได้ไหมครับ ขอเวลาพี่ไปหาหนูไวน์ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน”
“ไม่จำเป็น นายไม่มีสิทธิ์ที่จะเจอไวน์อีกแล้ว” ฝ้ายสวนกลับทันทีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะฝ้าย” ชายหนุ่มถามอย่างตกใจเพราะอาการของสามคนตรงหน้าบอกชัดว่าที่เธอพูดจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
“พวกเราเคยบอกแล้วใช่ไหมว่านายจะต้องไม่ทำให้ไวน์เสียใจ แต่วันนี้ไม่ใช่แค่เสียใจแต่ไวน์โดนทำร้ายด้วย ฉะนั้นนายก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เจอไวน์อีก”
“พวกฝ้ายห้ามพี่ไม่ได้หรอก ยังไงพี่ก็จะหาทางไปเจอหนูไวน์ให้ได้” เบสท์บอกอย่างไม่ยอมแพ้
“อย่าฝันไปเลย นายระวังตัวไว้ดีกว่า อีกไม่นานนายต้องถูกสั่งสอนแน่ คอยดู” ฝ้ายขู่ก่อนที่จะกระแทกเขาเดินผ่านไป
“ฮันนี่ก็ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับไวน์จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่รับรองความปลอดภัยของพี่เหมือนกัน” เธอเดินตามเพื่อนไปก่อนเพราะแชมเปญก็มีเรื่องจะบอกเขาเช่นกัน
“เชื่อพวกเราดีกว่าค่ะ ถ้าพี่ยิ่งไปให้ไวน์เห็นหน้า ไวน์จะยิ่งเจ็บมากกว่านี้ หวังว่าพี่จะเข้าใจนะคะ ถ้าพี่รักไวน์จริงคงไม่อยากเห็นไวน์เจ็บใช่ไหมคะ อย่างน้อยวันนี้แชมเปญก็หวังว่าจะไม่ได้เห็นหน้าพี่อีก”
เบสท์หมดแรงนั่งลงกับเก้าอี้อย่างคนคิดอะไรไม่ออก แชมเปญพูดถูกเรื่องหนูไวน์ เธอเป็นคนอ่อนไหวถ้าวันนี้เขาไปหาเธอจะยิ่งทำให้เธอเสียใจ แต่จะให้เขาปล่อยเธอไปได้ยังไง เขาทนไม่ได้ที่จะเสียเธอไป แน่ล่ะวันนี้เขาอาจจะไม่ไปให้เธอเห็นหน้าเพราะเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปหาเธอได้ที่ไหน อย่างน้อยเวลาหนึ่งวันคงช่วยให้เธอใจเย็นยอมรับฟังเขาบ้าง แต่เขาสิตอนนี้ใจร้อนจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ทำไมเดตแสนหวานของเขาถึงต้องจบลงอย่างนี้ด้วย เซ็ง ๆ ๆ ๆ โว้ยยยยยยยยยย
ความคิดเห็น