ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #6 : วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู ตอน 6 เป็นแฟนกันเถอะ กับ เงื่อนไขของผู้พิทักษ์

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 52


        “ตกลงเรื่องพี่เบสท์ แกให้ผ่านแล้วใช่ไหมฝ้าย ฮันนี่ผู้ใจอ่อนกับหนุ่มหล่อเชียร์อย่างออกหน้าออกตาโดยมีอีกหนึ่งสาวเทียมอย่างแชมเปญเป็นลูกคู่ชั้นดีคอยสนับสนุนเต็มที่

                    นั่นสิแก พี่เขาออกจะเสมอต้นเสมอปลายซะขนาดนี้ ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง พวกเราว่ายังไง พี่เขาก็ไม่เคยขัด แกก็ใจอ่อนซะทีสิวะ

                    สองหนุ่มหัวใจสาวพยายามเกลี้ยกล่อมฝ้ายเพื่อนที่หัวแข็งที่สุดและเป็นกำลังหลักของพี่เบียร์มากที่สุด ในการประชุมวาระด่วนตอนเย็นวันหนึ่งหลังจากเปิดเทอมสุดท้ายมาได้เดือนกว่า ๆ หัวข้อก็คือการอนุมัติให้พี่เบสท์มาจีบสาวไวน์คนสวยได้อย่างเป็นทางการ โดยการแอบนัดเจอกันครั้งนี้เจ้าของเรื่องก็ยังไม่รู้ตัว

                    แล้วแป้งกับอ้อว่ายังไง ฝ้ายหันไปถามสาวหวานที่ไม่ค่อยมีปัญหากับใครเขาเท่าไหร่

                    อ้อ ไม่ว่ายังไงหรอก แล้วแต่ทุกคน

                    แป้งยังไงก็ได้ แต่ให้พูดจริง ๆ พี่เขาก็โอเคนะ ครึ่งปีมาเนี่ยพฤติกรรมถือว่าใช้ได้ ดีกว่าพวกแล้ว ๆ มาตั้งเยอะ พวกนั้นใจฝ่อจะตาย เจอพวกเรานิดหน่อยก็ท้อซะแล้ว แต่พี่เขาทนพวกเรามาได้ตั้งนาน แป้งว่าให้โอกาสเขาหน่อยก็ได้มั้ง ยังไงก็อยู่ในสายตาพวกเราอยู่ดี

                    เมื่อสองสาวเห็นด้วย ฝ้ายเลยหันไปหาแนวร่วมอย่างแซนด์ว่าจะเอาอย่างไรดี ในเมื่อเธอเป็นคนที่หาข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มได้ง่ายที่สุดเพราะเป็นนักเที่ยวคนเดียวของกลุ่ม

                    เราให้ผ่านนะฝ้ายเพราะเท่าที่ฟังมาตอนนี้ พี่เบสท์ก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแล้วด้วยอาจมีสังสรรค์บ้างแต่ไม่ถี่แบบทุกวันเหมือนเมื่อก่อน ใคร ๆ เขาก็พูดกันว่าต้องทำงานจริง ๆ จัง ๆ ซักทีเลยเลิกทำตัวเหลวไหล แต่บางข่าวก็ลือกันให้แซดว่าเพลย์บอยไฮโซท่าทางจะกลับใจเพราะกำลังจีบสาวที่คาดว่าจะเป็นตัวจริงไม่ใช่แค่คบเล่น ๆ อย่างที่ผ่านมา ฉะนั้นในเกณฑ์เราตอนนี้พี่เขาก็ผ่านนะ แล้วเราคิดว่าฝ้ายก็น่าจะให้ผ่านด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงถึงหูพี่เบียร์ไปนานแล้วแหละ จริงไหม แซนด์ถามกลับอย่างรู้กัน เพื่อนทุกคนของไวน์จะถูกพี่ชายเช็คประวัติมาหมดแล้ว อย่างเธอก็เหมือนกันถึงแม้ตอนแรกพี่เบียร์จะไม่ชอบหน้าเท่าไหร่เพราะเป็นเด็กเที่ยวแต่พอออยู่ ๆ ไป ถึงรู้ว่าเธอไม่เคยคิดจะดึงเพื่อนให้มาเป็นอย่างเธอ และเธอก็เป็นคนที่รักเพื่อนมากด้วย อย่างไรซะก็ไม่มีทางทำให้เพื่อนเสียเด็ดขาด

                    ฝ้ายก็ว่างั้นแหละ แต่คงต้องอยู่ในสายตาพวกเราเหมือนเดิมแค่ไม่ไปเป็นเป็นก้างเหมือนทุกวัน ไหน ๆ เราก็จะจบกันแล้ว อีกหน่อยพวกเราก็ไม่มีใครมาคอยเฝ้าไวน์เหมือนตอนนี้ ถ้ามีคนมาช่วยดูแลเพิ่มอีกคนก็คงดี แต่คงต้องช่วยกันปิดพี่เบียร์กันไปก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเราเนี่ยแหละจะซวยเป็นด่านแรก พอเรียนจบก็คงต้องให้พี่เบสท์หาวิธีเข้าหาผู้ใหญ่เอาเองแล้วล่ะ ถ้าไม่มีปัญญาก็คงช่วยอะไรไม่ได้ จริงไหม

                    เมื่อทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ ฝ้ายเองก็ไม่คิดคัดค้านอะไรเพราะเท่าที่ผ่านมาครึ่งปี นายเบสท์ก็พิสูจน์ตัวเองได้ว่าคิดจริงจังกับเพื่อนพวกเธอ ดังนั้นทุกคนจะขวางความสุขของไวน์ไปทำไม ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่บอกออกมาว่าชอบเขาแต่การแสดงออกก็ชัดเจนเหลือเกิน เพราะทุกครั้งที่ชายหนุ่มคนนี้มาหาเพื่อนรักก็จะดูมีความสุขล้นปรี่เป็นรัศมีเรืองรองออกมา แก้มขาว ๆ ก็ขึ้นสีเรื่อทุกครั้ง รอยยิ้มที่คอยส่งให้ก็ช่างหวานสนิท

                    ไชโย แสดงว่าแกเห็นด้วยแล้วใช่ไหม งานนี้ต้องรีบคาบข่าวไปบอกพี่สุดหล่อซะก่อน ฮันนี่ร้องลั่นด้วยความดีใจ จนฝ้ายอดประชดไม่ได้

                    ฝ้ายไม่ได้ให้เขาแต่งกันซะหน่อย ดีใจเว่อร์ไปเปล่า อีกอย่างคนที่พี่เขาจีบน่ะไวน์นะ ไม่ใช่แก จะดีใจอะไรนักหนา

                    เป็นธรรมดาอยู่แล้วล่ะ ก็ยัยฮันนี่รับสินบนไว้อื้อ ถ้าแกให้ผ่านยัยนี่ก็เปรมน่ะสิ แชมเปญช่วยไขข้อข้องใจให้เลยได้รับค้อนวงโตมาแทน พร้อมกับโดนแฉกลับ

                    ไม่ต้องมาพูดดีเลยแก โยนความผิดให้ฮันนี่คนเดียวได้ไง ก็พี่เขาบอกไม่ใช่เหรอว่าถ้าสำเร็จเมื่อไหร่ จะพาไปเลี้ยงมื้อใหญ่ทุกคน แถมจะมีของกำนัลให้คนละชิ้นน่ะ

                    ใจป้ำดีแฮะ แต่ว่าทุกวันพี่เขาก็เลี้ยงอยู่แล้วหนิยังจะมีมื้อใหญ่กว่านี้อีกหรือไง เข้าใจคิดจริง ๆ แซนด์เอ่ยชมชายหนุ่มที่เข้าใจหาวิธีหลอกล่อสองสาวให้มาช่วยได้ มิน่าล่ะ เชียร์จัง พี่เบสท์ดีอย่างโน้น พี่เบสท์ดีอย่างนี้ ที่แท้ก็มีเบื้องหลัง

                    ที่แท้ก็เห็นแก่กินกับของที่เขาเอามาล่อ ฝ้ายอดกัดสองสาวเทียมไม่ได้

                    ไม่ต้องมาว่าแต่พวกเราเลยนะแก พี่เบสท์สัญญาว่าจะให้ทุกคน นั่นก็คือพวกแกก็ได้ด้วย เห็นไหมว่าเราสองคนทำเพื่อเพื่อน ๆ นะเนี่ย ฮันนี่ตอบแบบใช้สีข้างตอบ คนอื่น ๆ ถึงกับส่ายหน้ากับวิธีการเอาตัวรอดของเพื่อน ในเมื่อหาข้อสรุปอันเป็นที่น่าพอใจได้แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยฮันนี่อาสาจะโทรแจ้งข่าวดีนี้ให้ชายหนุ่มได้รับรู้

                    เสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาตามทาง ทำให้เจ็ดสาวต้องหันไปดูทางต้นเสียง หลังจากเลิกเรียนแล้วบรรดาเพื่อน ๆ ของหนูไวน์พยายามเตะถ่วงไม่พาไปส่งบ้าน เพราะตอนเช้าฮันนี่คนสวยได้แอบกระซิบบอกแล้วว่าวันนี้พี่เบสท์มีประชุมอาจเข้ามาช้าหน่อยแต่ยังไงก็มาแน่ ๆ ให้รอก่อน เนื่องจากหลัง ๆ มานี่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถึงกับมาทุกวันแต่ก็แทบทุกวันอยู่ดี โดยกฎของสาว ๆ คือ ถ้ามาช้ากว่าพวกเธอเลิกเรียนก็ไม่มีการมานั่งรอ ถ้าอยากเจอก็ต้องมาให้ทัน แต่วันนี้ถือว่าเป็นกรณีพิเศษเลยอนุโลมให้

                    ต้นเหตุของเสียงกรี๊ดเดินหน้าบานมาโดยไม่สนกับสายตาที่มองมาตลอดทางเดิน แน่นอนทุกคนต้องสนใจแน่ในเมื่อนายเบสท์อยู่ในชุดทำงานที่เต็มยศเพียงแต่ไม่ได้สวมสูทเท่านั้น เขาหอบช่อลิลลี่ช่อโตตรงดิ่งมาทางทิศทางที่เจ็ดสาวนั่งอยู่ ระยะหลังมาถึงชายหนุ่มจะเป็นแขกประจำที่คนในคณะพอคุ้นหน้าอยู่บ้างเนื่องจากหน้าตาอันหล่อเหลาที่ใคร ๆ เห็นคงไม่ลืมแต่ก็เลิกฮือฮากันไปนานแล้ว มีเพียงวันนี้ที่เขามาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ที่ไม่ว่าสาวไหนก็ต้องอิจฉาคนรับอย่างแน่นอน

                    สวัสดีครับทุกคน สวัสดีครับหนูไวน์ ดอกไม้สำหรับคนสวยครับ เบสท์ทักทายทุกคนก่อนที่จะยื่นดอกไม้ไปให้สาวน้อยคนสวยที่ตอนนี้อายม้วนต้วนไปแล้ว เพราะใคร ๆ ต่างก็ส่งเสียงแซวกันเป็นแถวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกันหรือคนรู้จักที่ชอบหยอกกันเล่นเป็นประจำ

                    ขอบคุณค่ะ เนื่องในโอกาสอะไรคะ ไวน์ยื่นมือไปรับด้วยความเขินอาย เธอยิ้มให้น้อย ๆ แต่คนเห็นถึงกับใจละลายกับความน่ารักของเธอ

                    สำหรับวันพิเศษกับคนพิเศษครับ คำตอบที่ดูธรรมดาสำหรับชายหนุ่ม แต่ทำเอาสาวน้อยแก้มชมพูขึ้นทันตา จนเพื่อนๆ ถึงกับส่ายหน้า จะเขินอะไรกันนักหนาในเมื่อพี่เบสท์คนนี้ก็ขายขนมจีบอยู่ทุกวี่ทุกวัน น่าจะมีภูมิต้านทานได้แล้ว แต่ก็ไม่เลยซักนิด เธอยังแพ้คำหวานของชายหนุ่มคนนี้อยู่เลย

                    ไปกันเลยไหมครับ วันนี้พี่ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อเย็นซักมื้อนะครับ

                    ที่ไหนค้า ถ้าไม่ดีไม่รับพิจารณานะคะ แชมเปญถามอย่างไม่รอช้า เรื่องของฟรีใครก็ชอบทั้งนั้นแหละ

                    ร้านโปรดของทุกคนเป็นไงครับ ไม่ได้ทานกันนานแล้วนี่นา เบสท์รีบเสนอร้านที่สาว ๆ ลงมติว่าชอบที่สุด เพื่อไม่ให้มีใครปฏิเสธ

                    งั้นก็โอเคค่ะ เจอกันที่ร้านนะคะ ไปพวกเราไปกันเหอะ หกสาวลุกขึ้นอย่างกับจรวดจนหนูไวน์ลุกไม่ทัน แล้วก็ไม่มีใครรอเธอเลยทุกคนวิ่งปรู๊ดไปที่รถของฝ้ายกับแซนด์ทันทีโดยไม่สนเสียงเรียกของไวน์ จนสาวน้อยได้แต่หันมาหาชายหนุ่มที่ยืนรอด้วยรอยยิ้ม ในใจก็นึกขอบคุณที่สาว ๆ เปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้ชิดกับสาวน้อยตรงหน้า

                    พี่ว่าหนูไวน์คงต้องไปกับพี่แล้วล่ะครับ เบสท์ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น เขายังรวบหนังสือบนโต๊ะมาถือให้ โดยเหลือเพียงช่อลิลลี่ให้ไวน์ถือเท่านั้น สาวน้อยก้มหน้าก้มตาเดินไม่กล้ามองคนข้างตัวที่ตอนนี้ยิ้มแก้มปริด้วยความชอบใจ แล้วเขาก็ได้รับโทรศัพท์มาเตือนว่าถ้าไปถึงหลังจากพวกสาว ๆ ที่ขึ้นรถไปแล้วเกิน 15 นาที รับรองได้ว่ามีเรื่องแน่ ดังนั้นเขาจึงโอ้เอ้ไม่ได้ ทั้งที่ในใจอยากยืดเวลาออกไปอีกหน่อย แต่พอมาถึงที่ร้านก็แทบอยากจะกระโดดกอดเพื่อนหนูไวน์ทีละคนเลยทีเดียว ในเมื่อพวกนั้นเปิดทางให้เขาเต็ม ๆ โดยการแยกโต๊ะนั่งให้นายเบสท์กับหนูไวน์ได้นั่งกันเพียงลำพังส่วนที่เหลือแยกไปนั่งอีกโต๊ะที่ไม่ไกลกันมากนัก ฝ่ายชายหน้าบานเป็นจานเชิงส่วนฝ่ายหญิงส่งสายตาอ้อนวอนไปหาเพื่อน ๆ ที่ตอนนี้ไม่มีใครสนเธอเลยซักคน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สั่งอาหารกันหมด ทำให้เธอต้องนั่งกับเขาเพียงสองคน

                    ทำไมเงียบจังครับหนูไวน์ เบสท์เอ่ยถามหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยแต่สาวน้อยของเขาก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย ปกติถ้านั่งกันหลายคนยังพอได้ยินเสียงเธอคุยโต้ตอบกับเพื่อนบ้างและอาจมีลืมตัวคุยกับเขาบ้างแต่นั่งกันอยู่แค่สองคนเธอเลยไม่ยอมให้เสียงหวาน ๆ หลุดออกมาให้เขาได้ยินบ้างเลย

                    เปล่านี่คะ ไวน์ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เธอก้มหน้าตอบเสียงสั่น จนเขาได้แต่คิดว่าเขาน่ากลัวมากหรือไงถึงได้ไม่กล้ามองหน้าเขา

                    ถ้าอย่างนั้นก็เงยหน้ามาคุยกันสิครับ หรือว่าฝืนใจที่จะคุยกับพี่ เบสท์ตัดพ้ออย่างไม่จริงจังนัก แต่สาวใสซื่ออย่างไวน์ก็ตามไม่ทัน รีบตอบชายหนุ่มเพราะกลัวเขาจะเสียใจ

                    ไม่ใช่นะคะ พี่เบสท์อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ ไวน์พูดพร้อมกับเงยหน้ามามองเขา ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างหนึ่ง เพราะทันทีที่เงยหน้ามาก็พบกับสายตาของเขาที่มองอยู่ก่อนแล้ว แววตาที่สาวคนไหนเห็นก็ต้องใจสั่นทั้งนั้น เธอก็เช่นกันนอกจากแก้มจะมีเลือดฝาด หน้าร้อนผ่าว ใจก็เต้นระรัวแล้ว เสียงยังสั่นอีกด้วย

                    พี่เบสท์มองอะไรคะ

                    มองหนูไวน์ไงครับ

                    แล้วมองทำไมคะ

                    มองว่าทำไมหนูไวน์ถึงได้น่ารักอย่างนี้ รู้ตัวรึเปล่าว่าพี่ไม่เคยเจอใครที่น่ารักเท่าหนูไวน์มาก่อนเลย

                    ไม่จริงหรอกค่ะ ไม่เอาแล้วไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เธอเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวยิ่งพูดไปเธอจะยิ่งถูกต้อนไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถโต้อะไรได้

                    แล้วอยากคุยอะไรล่ะครับ พี่ยอมทั้งนั้น วันนี้เป็นวันแรกเลยนะครับที่พี่ได้ยินเสียงหนูไวน์ยาว ๆ อย่างนี้ เขาบอกพร้อมมองเธอตาเชื่อม จนไวน์ต้องหลบสายตา

                    ทำไมวันนี้เราไม่นั่งทานด้วยกันกับทุกคนล่ะคะ

                    เพราะวันนี้พิเศษกว่าทุกวันไงครับ

                    พิเศษยังไงคะ หรือว่าวันนี้เป็นวันเกิดพี่เบสท์ น่าจะบอกกันก่อนนะคะ ไวน์เลยไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้เลย ไวน์เดาไปนู่น ทำให้คนฟังต้องอมยิ้มกับความน่ารักของเธอ

                    ไม่ใช่วันเกิดพี่หรอกครับ

                    แล้ววันอะไรล่ะคะ

                    คือว่า.... เขาเว้นจังหวะเพราะยังหาคำพูดดี ๆ ไม่ได้ ไอ้ที่เตรียมไว้ก็ลืมไปหมด ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าคนอย่างนายเบสท์จะขอใครเป็นแฟนซักคนอะไรจะยากขนาดนี้ ตื่นเต้นจนสมองจะไม่ทำงานเอา นี่ถ้าเพื่อนเขารู้เข้าคงหัวเราะกันฟันร่วงแน่

                    คืออะไรคะ เธอถามเร่งโดยไม่รู้ความลำบากของชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้สังเกตด้วยว่าเพื่อน ๆ ที่นั่งอีกโต๊ะพยายามเงี่ยหูฟังพวกเธอพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ

                    คือ หนูไวน์ให้เกียรติคบกับพี่ได้ไหมครับ เมื่อโดนเร่งมากเข้า สมองก็นึกไม่ออก คำพูดสวยหรูหายไปหมดกลายเป็นคำขอแบบดื้อ ๆ ตรง ๆ ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย แต่เพียงเท่านี้สาวน้อยตรงหน้าที่รอฟังอยู่ถึงกับอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก แก้มที่ว่าแดงอยู่แล้วตอนนี้ถ้าใครเอาสีแดงมาเทียบคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ สาวน้อยพูดอะไรไม่ออก ทิ้งช่วงจนชายหนุ่มเริ่มตั้งสติได้ จึงสรรหาคำไพเราะเสนาะหูเจอ

                    ได้ไหมครับ ขอโอกาสให้พี่ได้ดูแลหนูไวน์มากกว่านี้ ได้เป็นคนพิเศษที่คอยอยู่ข้าง ๆ หนูไวน์ เวลามีความทุกข์ขอให้พี่ได้ร่วมแบ่งเบา หรือว่าเวลามีความสุขก็ขอให้ได้ร่วมแบ่งปันกัน ให้พี่เป็นคนสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ขอให้เราสองคนมีโอกาสสร้างความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน คบกับพี่นะครับหนูไวน์ เสียงของเบสท์ที่เอ่ยถ้อยคำออกมาฟังดูอบอุ่นไม่เหมือนกับบุคลิกขี้เล่นของเขา สายตาเวลาพูดก็บ่งบอกถึงความจริงใจ มั่นคงกับความหมายที่พูดออกมา ประโยคที่ใช้ขอสาวน้อยเป็นแฟนของเขานั้นดูยิ่งใหญ่อย่างกับต้องการจะขอผู้หญิงซักคนแต่งงาน แต่นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้ ทุกคำพูดล้วนมาจากใจไม่ได้ปั้นแต่งคำเพื่อล่อหลอกให้สาวน้อยหลงกลแต่อย่างใด

                    สาวน้อยผู้ถูกถนอมยิ่งกว่าไข่ในหินได้แต่ตะลึงงัน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้พูดอย่างนี้กับเธอซักคน เพราะถ้าไม่ถูกพี่ชายสกัดดาวรุ่ง ก็ต้องเจอเพื่อนของเธอตีซะกระเจิงทุกราย มีเขาเป็นคนแรกที่ผ่านด่านมาได้ หัวใจสาวน้อยเต้นแรงอย่างกับจะทะลุออกมาข้างนอกให้ได้ เสียงที่ว่าหวานนักหวานหนาตอนนี้ก็ไม่รู้หายไปไหน จนต้องเสหยิบแก้วขึ้นมาดื่มน้ำกลบเกลื่อนความเขินอายที่ไม่รู้จะตอบคำถามเขาอย่างไร แต่มีหรือชายหนุ่มจะปล่อยให้เธอเลี่ยงได้ เขายื่นมือมาจับมือสาวน้อยเบา ๆ จนเธอสะดุ้งต้องรีบวางแก้วแต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเธอ แถมยังเร่งขอคำตอบที่เธอไม่กล้าจะตอบ ความรู้สึกของเธอใครก็ดูออกทั้งนั้น เธอชอบเขาแน่นอน ไม่มีใครทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอย่างนี้ได้ ทุกครั้งที่เจอหน้าเธอก็จะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เสียงของเขาทำให้เธอยิ้มได้ ยามว่างก็ยังคิดถึงเขาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าเธอคิดอย่างไรกับเขาแต่จะให้ตอบนี่สิ เธอไม่กล้าที่จะพูดออกมา

                    นะครับ หนูไวน์ เสียงเบสท์ออดอ้อนบีบหัวใจคนฟังนัก พวกแนวร่วมที่แอบฟังก็นั่งไม่ติดรอลุ้นจนตัวโก่ง ส่วนสาวน้อยที่อยู่ตรงหนก็อึกอักไม่สามารถตอบได้ มีเพียงแววตาที่เธอส่งถึงเขาที่ทำให้ชายหนุ่มมั่นใจในคำตอบและเข้าใจความหมายนั้น

                    แค่พยักหน้าก็ได้ครับ ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้

                    สาวน้อยพยักหน้าให้ แล้วก็ก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของเขา สองสาวเทียมส่งเสียงเฮจนคนอื่นในร้านหันมามอง เจ้าตัวต้องรีบขอโทษแทบไม่ทัน สี่สาวที่เหลือได้แต่ส่งยิ้มให้กันอย่างโล่งอก แต่ไม่ว่าใครก็คงจะไม่เท่าเขา

                    ขอบคุณครับ หนูไวน์ ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่นะครับ เสียงของชายหนุ่มบอกถึงความดีใจที่ปิดไม่มิด และด้วยความเคยชินของเพลย์บอยอย่างเขา จึงก้มลงจุมพิตที่มือสาวน้อยที่ยังกุมไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเบา ๆ เป็นการแสดงความรู้สึก แต่นั่นทำให้หลายคนตกใจ เริ่มจากสาวน้อยที่ดึงมือกลับไม่ใช่เพราะรังเกียจเพียงแต่ตกใจ ตามมาด้วยเสียงเรียกชื่อเขาประสานมาจากอีกโต๊ะ

                    พี่เบสท์ หกสาวประสานเสียงด้วยความตกตะลึง เพราะไม่คิดมาก่อนว่าชายหนุ่มจะทำอย่างนี้ แล้วทัพหน้าอย่างฝ้ายก็ตรงรี่มาก่อนเลย

                    ทำอะไรน่ะพี่เบสท์ เสียงของฝ้ายดุจัด จนชายหนุ่มหน้าจ๋อยด้วยกลัวว่าแค่วันแรกก็อาจจะพังตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มซะแล้ว

                    ขอโทษครับ พี่ดีใจจนลืมตัวไปหน่อย สีหน้าที่สำนึกผิดของเขาทำให้อารมณ์ที่วูบขึ้นมาเมื่อกี๊เย็นลงได้ พร้อมกับอีกสองสาวหวานคู่หูที่มาประกบเพราะกลัวว่าฝ้ายจะเกิดเลือดร้อนขึ้นมา

                    ครั้งนี้ให้อภัยค่ะ แต่ครั้งหน้าถ้ามาทำรุ่มร่ามกับเพื่อนเรารับรองมีเฮแน่ค่ะ แซนด์เป็นคนตอบให้เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูตึงเกินกว่านี้ เพราะขืนให้ฝ้ายเป็นคนตอบคงจะแรงกว่านี้แน่แม้ว่าความหมายจะเหมือนกันก็เถอะ

                    เอาน่า พี่เบสท์เขาไม่ทำแล้วล่ะ พวกเราไปฉลองให้เพื่อนกันเหอะ ปล่อยให้เขาได้มีโอกาสฉลองกันสองคนบ้าง ฮันนี่ผู้เข้าข้างผู้ชายเสมอรีบแยกพวก แชมเปญก็เห็นดีเห็นงามด้วยช่วยกันต้อนสาว ๆ ไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม ปล่อยให้คู่รักคู่ใหม่ได้มีเวลาคุยกันมากขึ้น

                    ให้พี่ไปส่งนะครับ หนูไวน์ เบสท์รีบเอ่ยขอเมื่อออกมายืนหน้าร้านเตรียมตัวจะกลับบ้าน ทุกครั้งที่มาด้วยกันตอนเย็น เขาไม่เคยได้ไปส่งเธอที่บ้านเลยแต่ตอนนี้เขาเลื่อนมาเป็นแฟนเธอแล้วนะ น่าจะได้สิ

                    ไม่ได้ค่ะ เสียงห้ามดังประสานอย่างตกใจ ไม่ใช่มาจากสาวน้อยคนสวยแต่มาจากพวกผู้พิทักษ์ทั้งหลายต่างหาก

                    ทำไมล่ะครับ เบสท์ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องรีบห้ามกันเสียงหลงขนาดนั้น

                    เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่ได้ค่ะ ไวน์ต้องกลับกับฝ้ายหรือแซนด์ไปก่อน พูดมาถึงขั้นนี้ก็ดีแล้ว เรายังไม่ได้ทำข้อตกลงกันเลยนะคะพี่เบสท์ ฝ้ายนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องเลย

                    แล้วน้อง ๆ ว่ายังไงล่ะครับ เบสท์ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยอมอ่อนข้อให้พวกนี้ด้วย ในเมื่อคนที่เขาคบยังไม่ว่าอะไรซักคำ แต่เอาเถอะ ไม่ว่าอะไรเขาก็ต้องทำทั้งนั้นไม่อย่างนั้นคงหมดสิทธิ์

                    ฝ้ายจะตกลงอะไรกับพี่เบสท์หรือจ๊ะ สาวน้อยช่วยถามแทนแฟนหมาด ๆ ทำให้เขายิ้มได้ที่หนูไวน์ใส่ใจเขาอยู่เหมือนกัน

                    ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พวกเราไม่มีใครทำอะไรพี่เบสท์ของไวน์หรอก แซนด์เอ่ยแซวทำให้สาวน้อยแก้มแดงอีกแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะเป็นโรคหัวใจกะทันหันหรือเปล่า เพราะขยันสูบฉีดเลือดเหลือเกิน

                    ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่เบสท์จะพาไวน์ไปไหนก็ได้แต่ต้องเป็นที่ที่สมควร และพวกเราก็ต้องไปด้วย โอ๊ยยย พี่ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น พวกเราไม่มานั่งเฝ้าพี่หรอก แค่ไปด้วยเฉย ๆ เพื่อความมั่นใจเท่านั้นแหละว่าพี่จะไม่หลอกเพื่อนเราไปขาย แล้วไวน์ก็ต้องให้เราไปส่งที่บ้านเองพี่ห้ามไปเด็ดขาด เพื่อสวัสดิภาพของตัวพี่เองนะ พี่น่าจะเข้าใจ สุดท้ายเลยนะพี่เบสท์ พี่ต้องสัญญาด้วยเกียรติลูกผู้ชายของพี่ว่าจะไม่ทำอะไรรุ่มร่ามกับไวน์ เพราะพวกเราเชื่อใจพี่ไม่คิดจะตามไปคุมให้เสียบรรยากาศ อ้อใช่ ที่สำคัญสุด คือห้ามทำให้ไวน์เสียใจเด็ดขาด ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ไม่อย่างนั้นพี่คงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แค่นี้เองพี่ทำได้ไหมคะ ฝ้ายสาธยายข้อตกลงที่พวกผู้พิทักษ์ทั้งหลายได้เห็นชอบร่วมกันแล้ว และกำลังจ้องชายหนุ่มเพียงคนเดียวเพื่อรอฟังคำตอบ รวมถึงสาวน้อยเองก็เหมือนกัน เธอเชื่อในตัวเขาแต่ก็ยังอยากได้ยินคำสัญญาที่เขาจะต้องรักษากับเพื่อนรักทุกคนที่ต้องการให้เธอมีความสุข

                    ครับ พี่สัญญา พี่จะให้เกียรติหนูไวน์เสมอและจะไม่ทำอะไรให้หนูไวน์เสียใจเป็นอันขาด เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงมั่นคง สร้างความพอใจให้กับทุกคนโดยเฉพาะสาวน้อยเจ้าของหัวใจของเขาที่มอบยิ้มหวานให้เป็นรางวัลกับคำสัญญาของเขา

    เมื่อตกลงกันได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่ฝ้ายรับหน้าที่ไปส่งไวน์เหมือนเช่นทุกวัน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนก็คือความรู้สึกพองฟูในอกของหนึ่งสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มที่ได้เลื่อนสถานะให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×