คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู ตอน 4 ขบวนการพิทักษ์หนูไวน์
“ว่าไงจ๊ะสาว ๆ” สองสาวส่งเสียงมาก่อนตัว เมื่อเดินตรงมายังโต๊ะนั่งเล่นที่มีทั้งสาวแท้และสาวเทียมกลุ่มใหญ่นั่งคุยกันอยู่ใต้ตึกคณะ
“พี่เบนซ์ พี่เบลล์มาได้ยังไงคะ” สาวน้อยผู้อ่อนหวานทักทายเสียงใสเพราะยังไม่เห็นอีกหนึ่งหนุ่มที่เดินตามมาข้างหลัง
“พี่มาหาอาจารย์น่ะจ้ะ แต่เผอิญว่าจะมาฝากคนขับรถไว้กับน้อง ๆ หน่อยไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว จะรบกวนเกินไปรึเปล่าเอ่ย” เบลล์หยอดถามสาวน้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้เรากำลังว่างพอดี มีเรียนอีกรอบก็ตอนบ่ายค่ะ”
“ถ้างั้นก็ขอบใจสาว ๆ มากเลยจ้ะ พี่ขอแนะนำให้รู้จักกับพี่ชายของพี่นะจ๊ะ เพิ่งกลับจากนอกใหม่ ๆ เลย ชื่อพี่เบสท์จ้ะ” เบนซ์ลากตัวพี่ชายมายืนอยู่หน้าโต๊ะเพื่อแนะนำให้รุ่นน้องได้รู้จัก และแน่นอนสายตาของเขาต้องทอดมองสาวน้อยที่ตอนนี้แก้มแดงระเรื่อจนผิดสังเกตเลยทีเดียว
“พี่เบสท์ นี่รุ่นน้องของเบลล์เอง ชื่อน้องไวน์ น้องแป้ง น้องอ้อ น้องแซนด์ น้องฝ้าย น้องแชมเปญ น้องฮันนี่ เฮ้อออออ เหนื่อย” เบลล์ไล่แนนำไปทีละคนโดยเริ่มจากเป้าหมายของพี่ชายก่อน ถัดไปก็สุดสนิทของไวน์ 2 คน คือ แป้งและอ้อ เพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถม นิสัยคล้าย ๆ กันคือเรียบร้อยอ่อนหวาน ส่วนอีก 4 คน เพิ่งมาเจอกันเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย คนชื่อแซนด์ออกแนวเปรี้ยว เป็นสไตล์ที่เบสท์ชอบเลยทีเดียว ส่วนฝ้ายจะออกแนวทอมบอย นิสัยโผงผางคล้ายผู้ชาย ส่วนที่เหลือเป็นหญิงเทียมนิสัยร่าเริง คนแรกชื่อ แชมเปญ แต่จริง ๆ แล้วชื่อแชมป์ต่างหาก อีกคนก็ไม่น้อยหน้า พ่อแม่ตั้งมาให้ชื่อหาญ แต่มันฟังมาดแมนเกินไป คุณเธอเลยให้เพื่อนเรียกฮันนี่ ไม่อย่างนั้นมีโกรธ
“ต๊าย พี่เบลล์ขา มีพี่ชายหล่ออย่างนี้ ทำไมไม่บอกกันบ้างล่ะค้า” แชมเปญกระดี๊กระด๊าเป็นคนแรก เมื่อเห็นชายหนุ่มถนัดตา
“แล้วอย่างนี้รับสมัครพี่สะใภ้ไหมคะ ฮันนี่จะได้ลงคนแรก” เมื่อเห็นแชมเปญเริ่มแทะโลมหนุ่มหล่อ ฮันนี่ก็ยอมแพ้ไม่ได้
เบสท์ไม่ได้แสดงทีท่ารังเกียจสองสาวเทียมเพียงแต่ยิ้มรับลูกเดียว แต่เขาให้ความสนใจกับอีกสาวที่เอาแต่เงียบไม่ทักไม่ทายกันเลยมากกว่า
“สวัสดีครับหนูไวน์ จำพี่ได้ไหมครับ” เสียงหวานหยดจนเพื่อน ๆ ต่างหันขวับมาจ้องสาวน้อยกันเป็นแถว จนเจ้าตัวต้องตะกุกตะกักทักชายหนุ่ม
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานช่างทักได้สั้นจนน่าน้อยใจดีแท้ แต่ไม่ทันที่จะได้ทักท้วง คู่แฝดก็ออกปากขัดมาซะก่อนเพราะเสียเวลามาพอสมควรแล้ว
“แสดงว่ารู้จักกันมาก่อนน่ะสิ งั้นก็ดีเลย น้องไวน์คะ พี่ฝากพี่เบสท์ไว้ด้วยนะคะ พี่ต้องรีบไปแล้ว” เบนซ์รีบเปิดโอกาสช่วยพี่ชายทันทีเพราะถ้าไม่รีบพูดสงสัยเหล่าขบวนการผู้ช่วยกีดกันทั้งหลายคงตั้งตัวและเริ่มทำงานกันเป็นแน่
เป็นที่ขึ้นชื่อว่า คุณหนูไวน์ นอกจากจะมีพี่ชายสุดหวงน้องสาวแล้ว ยังมีเหล่าเพื่อนสนิทเป็นแขนขาคอยช่วยพี่ชายกีดกันหนุ่ม ๆ ที่มาเข้าใกล้สาวน้อยอีกต่างหาก เห็นดูเป็นมิตรอย่างนี้แต่ทั้งหกคนร่วมมือกันตีพวกเกาะแกะแตกกระเจิงมาแล้วนับไม่ถ้วน
“นะจ๊ะน้องไวน์ พวกพี่ต้องไปแล้วจริง ๆ” เบลล์รีบกำกับซ้ำอีกคนเพื่อบีบบังคับสาวน้อยทางอ้อม ในใจก็ได้แต่ขอโทษขอโพยที่ต้องใช้วิธีนี้
“ค่ะ พี่สองคนไปเถอะค่ะ” ถึงใจจะเต้นแรงแค่ไหน แต่ไวน์ก็ไม่กล้าปฏิเสธรุ่นพี่ทั้งสองคนได้ จึงต้องรับปาก อย่างน้อยตอนนี้เพื่อนเธอก็อยู่กันเพียบ ชายหนุ่มคงไม่กล้าสนิทสนมให้เธอหวั่นไหวมากไปกว่านี้หรอก
“ขอบใจจ้ะ พี่เบสท์อยู่กับน้อง ๆ เบลล์ไปก่อนนะ ไว้กลับเมื่อไหร่จะโทร.ไปหา” เมื่อไวน์รับปากแล้วเธอสองคนก็รีบเผ่นทันทีก่อนที่บรรดาเพื่อนฝูงของสาวน้อยจะหากระบวนยุทธมาแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
เมื่อไม่มีน้องสาวคอยช่วยแล้ว ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขาที่จะจัดการต่อไปเอง ชายหนุ่มลงนั่งข้างแชมเปญที่รีบเขยิบให้หนุ่มหล่อนั่งข้างตัว ฮันนี่ได้แต่ฮึดฮัดขัดใจที่โดนตัดหน้าแต่ไม่ได้โวยวายอะไร ฝ้ายเห็นว่าตั้งแต่มาถึงพี่เบสท์ของพี่แฝดเอาแต่มองไวน์แค่คนเดียวแถมถ้าดูไม่ผิด ผู้ชายคนนี้มองเพื่อนเธอด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจอีกต่างหาก
“ใจคอพี่เบสท์ จะจ้องแต่ไวน์ใช่ไหมคะ” ฝ้ายทะลุกลางป้องขัดการส่งสายตาของชายหนุ่ม เพื่อเรียกร้องความสนใจ และเป็นการส่งสัญญาณเตือนเพื่อน ๆ ด้วยว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีแปลกปลอมเข้ามา
“นั่นสิคะ ไม่เห็นทักคนอื่นบ้างเลย” ฮันนี่รับสัญญาณและแทรกขึ้นมาบ้าง ถ้าพูดถึงกันชนชั้นหนึ่งก็ต้องเป็นฝ้าย แต่มือรองก็คือสองสาวเทียมเนี่ยล่ะ สองสาวหวานเป็นพวกตั้งรับไม่ใช่จู่โจมเพื่อนว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน ส่วนสาวเปรี้ยวอย่างแซนด์จะผ่อนปรนที่สุด แต่ถ้าถึงเวลาจะดัดหลังจริง ๆ คนนี้คือตัวการใหญ่เลยทีเดียว
“เปล่าครับ พี่รู้จักหนูไวน์ก่อนก็ต้องทักก่อนเป็นธรรมดา แล้วนี่ว่างกันใช่ไหมครับ ถ้ายังไงให้พี่เป็นเจ้ามือเลี้ยงไอศกรีมได้ไหมครับ พอดีตอนขับเข้ามาเห็นมีอยู่ร้านหนึ่ง” เบสท์เริ่มรู้ตัวว่าจะแสดงออกมากเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องคุย พาไปหาของทานก็น่าจะเป็นวิธีหนึ่งในการผูกมิตร จากที่เขาสัมผัสได้ สงสัยจะไม่ใช่แค่พี่ชายเท่านั้นที่เขาต้องผ่าน เท่าที่ดูเนี่ยคงต้องมีอีกหกที่ต้องฝ่า
ฝ่ายสาวน้อยก็ได้แต่เงียบไม่ช่วยให้อะไรมันง่ายเลยซักนิด จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็ตอนนี้เธอตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว แค่เห็นเขาวันนี้ก็ทำให้ใจสั่นไปหมด เมื่อวานที่ไปงานเขาดูดี แต่วันนี้กลับดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อวานเสียอีก แล้วเธอล่ะ เมื่อวานก็คงสวยอยู่หรอก แต่วันนี้สิดูธรรมดาจะตายไม่มีอะไรน่ามองซักนิด แต่สาวน้อยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองน่ารักแค่ไหนในสายตาของเขา เมื่อวานเธออาจสวยอ่อนหวาน แต่วันนี้เธอช่างน่ารักไร้เดียงสาในชุดนักศึกษาธรรมดา คิดดูสิแค่ชุดนักศึกษายังทำเอาใจเขาหวิว ๆ ได้ขนาดนี้ ถ้าจับแต่งตัวให้เปรี้ยวแบบที่เขาชอบจะชวนระทึกขนาดไหน เบสท์แปลกใจตัวเองมากเมื่อคิดอย่างนี้ ไม่เคยเลยซักครั้งที่เขาจะมีอาการกับเด็กใส ๆ แต่ไม่รู้ทำไมหนูไวน์ถึงเป็นข้อยกเว้นไปได้
“ดีเลยค่า แชมเปญชอบไอติม ไปกันเลยไหมคะ” ไม่ว่าเปล่าเธอรีบลุกขึ้นและดึงหนุ่มหล่อไปด้วย ส่วนที่เหลือก็ได้แต่เออออ ของฟรีมีให้กินใครจะไม่ชอบ
“แล้วเราจะไปกันยังไงล่ะจ๊ะ ตั้งหลายคนอย่างนี้ไปคันเดียวไม่หมดแน่” แป้งถามขึ้นมาก่อนที่สมาชิกจะออกเดินทาง
“ง่ายมาก ให้แชมเปญกับฮันนี่ไปกับพี่เบสท์ ส่วนพวกเราไปรถฝ้าย แค่นี้ก็หมดเรื่อง” ฝ้ายชิงตอบขึ้นมาก่อนที่เบสท์จะมีโอกาสอ้าปากพูด และเขาก็มีมารยาทพอที่จะไม่แก้ให้สองสาวเทียมไม่พอใจ อย่างไรซะก็ทำคะแนนไว้ก่อนดีกว่า ดีเหมือนกันหว่านเสน่ห์ใส่สองคนนี้ก่อนจะได้ลดคนกีดกันให้น้อยลงอีกสองก็ยังดี
รถสองคันขับตามกันมาจนถึงที่หมาย ทั้งแปดคนยกโขยงกันเข้าไปในร้าน กลุ่มผู้เข้ามาใหม่ตกเป็นเป้าสายตาพอควรเพราะทั้งร้านส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงทั้งนั้น พอมีหนุ่มหล่อเข้ามาก็ต้องอยากมองเป็นธรรมดา เมื่อได้ที่นั่ง เบสท์ก็รีบเลื่อนเก้าอี้ให้ไวน์นั่ง แต่พอสาวน้อยนั่งปุ๊บฝ้ายก็นั่งประกบฝั่งขวาแล้วแซนด์ก็นั่งประกบฝ่ายซ้ายทันที แล้วเขาจะทำอะไรได้นอกจากนั่งฝั่งตรงข้ามก็ยังดี คราวนี้เลยมีฮันนี่กับแชมเปญเข้าขนาบเหมือนเดิม ส่วนอ้อกับแป้งที่ไม่มีปากเสียงกับใครเขาก็เลือกที่นั่งที่เหลืออย่างไม่คิดมาก
แน่นอนว่าตลอดเวลา เขาต้องพยายามจะคุยกับหนูไวน์ให้ได้ แต่ทุกครั้งก็จะต้องมีคนคอยขัดอยู่ร่ำไป ขนาดเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ อย่างอ้อและแป้งก็ยังร่วมวงขัดขวางกับเขาด้วย บทสนทนาผูกขาดอยู่ที่สองสาวเทียมซะส่วนใหญ่ แต่พอเรื่องไหนที่เขาแสนจะพยายามให้เฉียดไปหาสาวน้อยล่ะก็ อีกสี่คนจะรีบเข้ามาตอบแทนทันที จนเขาเองก็ไม่รู้จะงัดมุกไหนมาใช้แล้วเหมือนกัน เท่าที่ทำได้ก็คือพยายามส่งตาหวานไปให้แต่ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่าก็ในเมื่อแม่คุณเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานไม่ยอมมองหน้าเขาเลยซักนิด
แล้วเสียงโทรศัพท์ของเบสท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะการเมาท์ของสาวฮันนี่ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็น้องสาวฝาแฝดสุดที่รักของเขานั่นเอง ทั้งคู่เสร็จธุระเรียบร้อยแล้วพอลงมาที่โต๊ะไม่เจอใครเลยโทร.มาตาม เมื่อเป็นบัญชาของน้องบังเกิดเกล้ามีหรือพี่อย่างเขาจะขัดใจ ดังนั้นทั้งหมดจึงเคลื่อนขบวนกันกลับไปหาคู่แฝด
ทันทีที่นั่งในรถเรียบร้อยและพี่ชายก็เคลื่อนรถออกจากที่จอด เบนซ์ก็รีบถามความคืบหน้าทันทีแบบไม่ปิดบังไว้ฟอร์มกันเลย
“เป็นไงบ้างพี่เบสท์ น้องเขาว่าไงบ้าง”
“อยากรู้จริงอะ” ถึงคำถามจะดูหยอกล้อแต่สีหน้าคนตอบกลับไม่มีแววล้อเล่นให้เห็น
“ใช่ดิ รีบบอกมาน่าอย่าโยกโย้ได้ไหม” เบลล์เร่งบ้างเมื่อเห็นพี่ชายไม่ยอมตอบให้ตรงคำถาม
“เออ บอกก็บอก เราสองคนรู้ไหมว่าวันนี้ทั้งวันพี่ได้ยินหนูไวน์พูดแค่สวัสดี ตอนเราสองคนอยู่เท่านั้นแหละ ทีเหลือไม่ได้ยินอีกซักแอะเดียว” เบสท์ตอบอย่างหงุดหงิด และยิ่งงุ่นง่านมากขึ้นเมื่อยัยแฝดหัวเราะขำอย่างสะใจ ไม่ได้มีสงสารพี่ชายกันบ้างเลย
“จริงเหรอ ตลกดีแฮะ” เบลล์ซ้ำเติม
“ไม่ตลกเลยนะ พี่จะบ้าตาย อยู่ด้วยกันเป็นชั่วโมงแต่ได้ยินแค่คำว่า สวัสดีค่ะ แค่เนี้ย”
“แล้วไหงเป็นงั้นล่ะ” เบนซ์พยายามกลั้นหัวเราะและถามต่อ
“ก็เพื่อนของหนูไวน์น่ะสิ ส่งเสียงแจ๋ว ๆ ไม่ได้เว้นช่องให้หนูไวน์พูดเลย พอพี่จะหาเรื่องคุยแต่ละทีก็มีพวกคอยสอดตอบแทนทุกทีไป จนพี่ไม่ได้คุยกับหนูไวน์ซักคำ” น้ำเสียงเบสท์ออกอาการตัดพ้อ
“สมน้ำหน้า เบลล์เตือนแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับน้องเขาก็ไม่เชื่อ”
“พี่เบสท์คงไม่รู้ล่ะสิ ว่านอกจากพี่ชายจะหวงแล้วเนี่ยเพื่อนเขาก็หวงไม่แพ้กันหรอกนะจะบอกให้” เบนซ์รีบซ้ำเติมเมื่อมีโอกาส
“ยัยแฝด ไม่ช่วยแล้วอย่ามาซ้ำจะได้ไหม ไอ้ที่ให้คนละแสนเนี่ยอย่าเอามันเลย” เบสท์เริ่มพาลกับน้อง
“ได้ไง ก็ตกลงกันแล้วนี่ว่าเราสองคนจะเปิดโอกาสให้ที่เหลือพี่จะจัดการเองนี่นา” เบนซ์โวยทันทีเมื่อเห็นแววว่าจะไม่ได้เงิน
“นั่นดิ ไม่มีน้ำยาแล้วมาลงกับน้องได้ไง ไม่รู้ล่ะถ้าพี่เบสท์ไม่ให้ เบลล์จะไปฟ้องพ่อ” เบลล์เริ่มใช้พ่อมาขู่ซึ่งแน่นอนว่าต้องได้ผล
“เออ ไม่ต้องมาขู่ ให้ก็ได้ แต่เซ็งโว้ย เซ็ง ๆ ๆ ๆ” เมื่อเห็นว่าทำอะไรคู่แฝดไม่ได้ก็ได้แต่ระบายอารมณ์กับคันเร่งที่ตอนนี้เหยียบจนเกินร้อยไปเยอะแล้ว แต่สองสาวไม่สนใจเอาแต่หัวเราะสมน้ำหน้าพี่ชายไม่เลิก
รถคันงามที่วิ่งฉิวอย่างไม่กลัวจะโดนใบสั่ง มีทั้งอารมณ์รื่นเริงของสองสาวกับอารมณ์บูดสุดขีดของหนุ่มหล่อวิ่งตรงกลับคฤหาสน์หลังงามเพราะสารถีไม่มีอารมณ์จะไปไหนต่อ
ความคิดเห็น