ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #2 : วุ่นนัก...หลงรักคุณหนู ตอน 2 นายเบสท์รุก หนูไวน์เขิน พี่เบียร์ขวาง

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 52


    สวัสดีครับ เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยดังทักในระยะประชิดขนาดนี้ ทำให้ไวน์ทำอะไรไม่ถูก เพราะเธอไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกับผู้ชายแปลกหน้าตามลำพังนัก ยิ่งผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้ยิ่งทำให้เธอสั่นเข้าไปใหญ่ แต่ด้วยความเป็นเจ้าของงานที่ดี ทำให้เธอต้องทักตอบไปตามมารยาท

    สวัสดีค่ะ เสียงของเธอสั่นจนรู้สึกได้ เพลย์บอยอย่างเบสท์เลยรู้ทันทีว่าเธอช่างเป็นหนูน้อยผู้ไร้เดียงสาเสียจริง

    ผมเป็นหนึ่งครับ เรียกเบสท์ก็ได้ แล้วคุณ...

    ไวน์ ปานหทัยค่ะ

    ยินดีที่ได้รู้จักสาวสวยอย่างคุณนะครับ เขาหยอดคำหวานพร้อมรอยยิ้มที่สาวคนไหนเห็นก็ใจละลายกันทั้งนั้นไปให้ ไวน์เองก็ไม่รอดเช่นกัน เธอหน้าแดงขึ้นมาจนเห็นได้ชัดเพราะความที่เป็นคนขาว สีเลือดจึงเห็นชัดกว่าคนทั่วไป ยิ่งส่งให้เธอดูน่ารักขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นกอง ขนาดจอมเจ้าชู้อย่างเบสท์ยังใจแกว่งเมื่อเห็นท่าเอียงอายของเธอ เขาอดใจไม่ได้จนต้องคว้ามือของสาวน้อยขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ เป็นการทักทายแบบฝรั่ง ไวน์ตกใจรีบชักมือออกห่าง และด้วยความเขินอายเธอยิ่งก้มหน้างุดเข้าไปอีก

    เบสท์อมยิ้มกับปฏิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติของเธอ เพราะมันแสดงให้รู้ว่าไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้ใกล้ชิดเธออย่างเขามาก่อน เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นท่าทางของเธอโดยการชวนคุยไปเรื่องอื่นเพื่อเรียกร้องความสนใจ

    คอนโดเขาน่าสนใจดีนะครับ

    ขอบคุณค่ะ ถ้าคุณสนใจ ไวน์จะให้พนักงานมาให้ข้อมูลเป็นพิเศษ พออีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุย ไวน์จึงพอตั้งตัวได้บ้าง พอเห็นเป็นเรื่องงานจึงสามารถหาเสียงตอบกลับไปได้ ถึงแม้จะยังไม่กล้าสบสายตาคู่สนทนาก็ตาม

    คุณไวน์ ทำงานที่นี่หรือครับ เบสท์ถามทั้งที่รู้สถานะเธออย่างดี เพื่อเป็นการวางกับดักให้เธอตายใจว่าเขาไม่ได้มีจุดมุ่งหมายสืบประวัติเธอมาก่อน

    จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ เพราะอนาคตไวน์ก็จะต้องมาทำงานที่นี่อยู่แล้วค่ะ ไวน์เป็นลูกสาวพ่อกลด เจ้าของโครงการนี้ค่ะ เมื่อเห็นท่าทางชายหนุ่มดูเป็นมิตรเธอจึงผ่อนคลายมากขึ้นและกล้าที่จะตอบคำถามของเขา

    ตายล่ะ นี่ผมปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มเลยเหรอเนี่ย คุยกับเจ้าของยังไม่รู้ตัวอีก เขาทำท่าทีตกใจได้แนบเนียนมาก เรียกรอยยิ้มของสาวน้อยได้ เขายิ่งได้ใจใหญ่ เพราะนั่นหมายถึงสาวน้อยลดกำแพงระวังตัวเองลงอีกนิดแล้ว เขาเลยเริ่มรุกอีกครั้ง

    คุณไวน์ไม่บอกกันบ้างเลยนะครับ ปล่อยผมปล่อยไก่ทั้งเล้าเลย เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าคุณกลดมีลูกสาวคนเล็กที่ยังเรียนอยู่อีกคน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นสาวสวยขนาดนี้ นึกว่ายังเป็นเด็กอยู่ซะอีก ผมคิดว่าคุณไวน์คงอ่อนกว่าผมอยู่หลายปี ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตเรียกหนูไวน์ได้ไหมครับ ฟังแล้วน่ารักเหมาะกับคุณดี เบสท์ใช้น้ำเสียงอ้อนที่ฟังแล้วใจสั่นอีกรอบจนไวน์ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงได้แต่รับคำด้วยเสียงเบาหวิว

    แล้วแต่คุณเบสท์สิค่ะ

    “เรียกพี่เบสท์ดีกว่านะครับ ฟังดูดีกว่ากันเยอะเลย หรือหนูไวน์ว่าไงครับ” ไม่เพียงคำพูดเท่านั้นที่แสดงความสนิทชิดเชื้อ แววตาของเขาที่มองมานั้น ทำให้สาวน้อยหวั่นไหวจนไม่กล้าสบตามองคนพูด ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่ยอมถอยง่าย ๆ ต้อนมาขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องให้จนมุมให้ได้ เพราะจะได้เดินแผนขอเบอร์ได้สะดวกมากขึ้น

    “ว่าไงครับ จะให้เกียรติเรียกผมว่าพี่อีกคนได้ไหมครับ” เสียงฟังดูออดอ้อนชนิดคนฟังใจละลาย ไวน์จึงอ้อมแอ้มเรียกชายหนุ่มด้วยเสียงแผ่วเบาชนิดที่ไม่ตั้งใจฟังคงไม่ได้ยินเป็นแน่ แต่ระดับนายเบสท์มีเหรอจะไม่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ถ้าไม่ถอยซักก้าวเหยื่อก็ตื่นกันพอดี ดังนั้นเขาจึงรีบรวบรัดเข้าข้างตัวเองซะก่อน

    “ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติพี่ รู้ตัวไหมครับว่าคืนนี้หนูไวน์สวยสะดุดตากว่าใครเลยนะครับ ตอนแรกพี่ยังคิดว่าฝันไปที่เห็นนางฟ้าอยู่ท่ามกลางฝูงชนซะอีก” ปากหวานอย่างนายเบสท์สาวที่ไหนได้ฟังก็ต้องหลงคารมกันทั้งนั้น ซึ่งหนูไวน์ก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้น

    “พี่เบสท์อย่ามายอเลยค่ะ” ถึงแม้จะปฏิเสธไปอย่างนั้นก็ตาม แต่ในใจของสาวน้อยก็พองฟูจวนเจียนจะระเบิดออกมาให้เห็นซะแล้ว ยิ่งแก้มนวลขาวยิ่งแล้วใหญ่เห็นขึ้นสีแดงระเรื่อชวนมองยิ่งนัก ความใสไร้เดียงสาของสาวตรงหน้าทำเอาคนหยอดคำหวานเป็นกิจวัตรใจแกว่งไปได้เหมือนกัน เพราะสาว ๆ ที่เขาเคยพบส่วนใหญ่ไม่มีซะล่ะที่จะมาหน้าแดงด้วยคำหวานเพียงแค่นี้

    ก่อนที่นายเบสท์จะดำเนินการไปได้มากกว่านี้ พี่เบียร์ยอดพี่ชายที่เห็นน้องสาวยืนคุยอยู่กับชายแปลกหน้าที่ทางกรุ้มกริ่มไม่น่าวางใจก็รีบปรี่เข้ามาทันทีหลังจากที่หาทางสลัดพวกลูกค้าทั้งหลายที่กรูกันเข้ามาหาเขาอย่างกับจงใจออกไปได้อย่างแนบเนียน

    “ไวน์ คุยกับใครอยู่ครับ” พี่เบียร์ที่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับน้องสาวแต่สายตาที่มองไปที่ชายหนุ่มกลับเย็นชาน่ากลัวนัก ถ้าเป็นคนอื่นคงเผ่นไปแล้ว แต่เผอิญคนอย่างเป็นหนึ่งไม่เคยกลัวใคร ไม่มีซะหรอกที่จะหนี เขาจ้องตากลับอย่างไม่เกรงกลัว

    “พี่เบียร์คะ นี่คุณเบสท์ค่ะ เขาสนใจคอนโดของเราด้วยนะคะ” ไวน์ตอบเสียงใสโดยไม่ได้รับรู้เลยว่ามีสงครามสายตาฟาดฟันกันอยู่

    คนอย่างนายเบียร์จะมองไม่ออกเชียวเหรอว่าผู้ชายหน้าหล่อที่ดูแล้วอายุคงจะไล่ ๆ กับลูกชิดที่ยืนตรงหน้าต้องการอะไร มันก็แค่หาข้ออ้างมาคุยกับน้องสาวสุดที่รักของเขาเท่านั้นแหละ ไม่ได้สนใจคอนโดอย่างปากว่าหรอก เหมือนกับนายเบสท์เองก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คงรู้ทันเขา เพราะสายตาที่ส่งมาให้นั้นไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย แต่อย่างว่าแหละยิ่งหวงอย่างนี้ เขายิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก มันเป็นเรื่องท้าทายดีสำหรับเขา มีอะไรสนุก ๆ ทำแก้เซ็งก่อนที่จะเข้าไปเริ่มงานก็ดีเหมือนกัน

    “ขอบคุณมากนะครับที่สนใจ ถ้าอย่างนั้นผมเรียกเจ้าหน้าที่มาอธิบายจะดีกว่านะครับ เพราะน้องสาวผมไม่ทราบรายละเอียดหรอกครับ” เบียร์รีบหันไปเรียกคนแถวนั้นทันทีโดยที่เบสท์ยังไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธ และลูกน้องของเขาก็ช่างทำงานไวดีแท้ เรียกปุ๊บมาปั๊บเลยทีเดียว

    จากนั้นเขาก็หันไปขอตัวกับลูกค้าเจ้าเล่ห์ด้วยสีหน้าของคนที่กำชัยชนะไว้ในมือ สร้างความขุ่นเคืองให้กับเบสท์ยิ่งนัก แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้ จึงได้แต่ยิ้มให้ตามมารยาทแต่จงใจโปรยยิ้มเป็นพิเศษให้กับสาวน้อยที่ยิ้มให้เขาก่อนที่จะเดินตามพี่ชายไป

    เหล่าพลพรรคทั้งหลายเข้ามาสอบถามผลทันทีที่เห็นทั้งคู่ผละออกไป จะรีบเข้ามาดูสถานการณ์ใกล้ ๆ ก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงโดนคุณเบียร์ตามเช็คบิลทีหลังแน่ ข้อหาสมรู้ร่วมคิด

    “เป็นไงวะ ถึงขั้นไหนแล้ว”

    “ไม่ถึงไหนทั้งนั้นแหละ ยังไม่ทันทำอะไรเลยไอ้พี่ชายนั่นก็โผล่มาซะก่อน” เบสท์ตอบแบบขัดใจที่ไม่ได้อย่างที่หวัง

    “โทษทีว่ะ พวกเราก็จนปัญญาเหมือนกัน” หนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจกันพี่ชายจอมหวงออกจากวงโคจรรับผิดเสียงอ่อย

    “เฮ้ย เราไม่ได้ว่าพวกนาย แค่นี้ก็ขอบใจมากแล้ว ตามสัญญาพวกนายเอาเบอร์สาว ๆ ไปได้เลย” เขาตอบอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางจ๋อยสนิทของเพื่อน ๆ ทั้งหลายที่คิดว่าทำหน้าที่ไม่สำเร็จแล้วจะชวดเบอร์หญิง เขายื่นมือถือที่เม็มเบอร์ไว้ส่งให้ไปดูตามสบาย ส่วนตัวเองก็จิบเครื่องดื่มพร้อมกับครุ่นคิดหาทางตีสนิทสาวน้อย

    ทางฝั่งของสองพี่น้องที่เดินออกมาห่างพอควรแล้ว พี่เบียร์ก็ถามเสียงเข้มจนน้องสาวที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของพี่ชายยังสะดุดกับน้ำเสียงที่ไม่ค่อยได้ยินนัก

    “น้ำหวาน กับ ลูกชิดไปไหน” เบียร์ถามถึงสองพี่น้องที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงของน้องสาวด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องเมื่อเห็นว่าทั้งคู่ปล่อยให้น้องสาวเขาต้องอยู่ตามลำพังจนมีพวกไม่น่าไว้วางใจมาเกาะแกะ

    น้ำหวาน หรือ วรรณวิสุทธิ์ และ ลูกชิด หรือ วสุรักษ์ สองพี่น้องบ้านชนะเดช ลูกของคุณนพฤทธิ์ คนสนิทของคุณกลด กับ คุณวริญญา เลขาของคุณครีม ที่เมื่อตอนเด็กมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของน้องไวน์ ซึ่งโตมาต่างคนก็ต่างมีงานที่ต้องทำแต่ก็ยังเหมือนมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเหมือนเดิมเพราะน้องน้อยไม่ยอมโตซะที

    น้ำหวาน เปิดห้องเสื้อในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งโดยร้านนี้เป็นของขวัญวันสำเร็จการศึกษาจากคุณครีมกับคุณกลดนั่นเอง ดังนั้นเสื้อผ้าที่ออกงานทั้งหมดของคนบ้านนี้จะเป็นหน้าที่ของน้ำหวานที่คอยดูแลให้ และในบางเวลาเธอก็จะมาช่วยงานแม่ของเธอดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ อีกด้วย ส่วนลูกชิด ปัจจุบันเป็นมือขวาของคุณเบียร์ ชนิดที่ว่าไม่ต้องสั่งก็รู้ว่าต้องทำอะไร เพราะเขาเรียนรู้นิสัยใจคอของเจ้านายมาตั้งแต่เด็ก

    “ก็พี่เบียร์ให้ไปคอยดูความเรียบร้อยรอบ ๆ งานไม่ใช่เหรอคะ แล้วโกรธอะไรมาคะ ทำไมทำเสียงเขียวอย่างนั้นล่ะ ใครขัดใจอะไรรึเปล่า บอกไวน์มาเดี๋ยวไวน์จัดการให้” เสียงหวาน ๆ ของยัยตัวเล็กของพี่ชายช่วยทำให้เบียร์ใจเย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่ควรไปลงกับคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องด้วย เสียงจึงอ่อนลง

    “เปล่าครับ พี่แค่เห็นว่าไวน์อยู่คนเดียว ไม่มีใครอยู่ด้วยเลยหงุดหงิดไปหน่อย”

    “โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร แค่แป๊บเดียวเอง ก่อนหน้าไวน์ก็อยู่กับพี่เบียร์ไงคะ ลืมแล้วเหรอ”

    “จริงด้วย พี่ก็ลืมไป แล้วนี่หมอนั่นมาคุยอะไรกับไวน์บ้างครับ” เมื่อนึกได้ว่าตัวเองนั่นแหละที่ปล่อยให้ยัยตัวเล็กต้องอยู่คนเดียว เขาก็รีบเปลี่ยนเรื่อง

    “หมอนั่นไหนกันคะ ก็ไวน์แนะนำแล้วนี่นาว่าเขาชื่อคุณเบสท์” ไวน์อมยิ้มเมื่อเห็นอาการรวนของพี่ชายที่มักเป็นอย่างนี้เสมอเมื่อมีผู้ชายมาเข้าใกล้เธอ

    “นั่นแหละ เขามาพูดอะไรกับเราบ้าง” เบียร์ยอม ๆ ไปด้วยเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นยัยตัวเล็กของเขาแก้แทนหมอนั่นที่ตอนนี้ดีกรีความไม่ถูกชะตาทะลุสเกลวัดไปเรียบร้อยแล้ว

    “ไม่มีอะไรนี่คะ แค่แนะนำตัวเองกันเฉย ๆ แล้วก็เห็นเขาแสดงท่าทางว่าสนใจคอนโดเราเท่านั้นเอง” แม้จะตอบไปอย่างนั้นแต่ท่าทางของเธอเมื่อคิดถึงบทสนทนาระหว่างทั้งคู่ก็ทำให้แก้มขึ้นสีเรื่อโดยไม่รู้ตัว แต่มันไม่ได้หลุดรอดจากสายตาพี่ชายจอมหวงไปได้ ดังนั้นเบสท์จึงถูกขึ้นบัญชีดำไปโดยปริยาย

    “อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร พี่ว่าเราไปหาคุณพ่อคุณแม่กันดีกว่านะ” เบียร์ไม่โวยวายออกมาเพื่อไม่ให้ยัยตัวเล็กตกใจ แต่ในความคิดเขานั้นตอนนี้ได้เริ่มวางแผนกำจัดผู้ชายคนนั้นให้พ้นไปจากวงโคจรของสาวน้อยทันที

    ______________________________________
    สวัดดีค่ะ ขอขอบคุณนะคะที่อ่านหรือดูจนจบนะคะ
    희열 

    ผู้แต่ง__________공주사랑
           
                 กงจูซารัง   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×