คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ท่ามกลางสายตาประชาชี เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
ตอนที่สาม : ท่ามกลางสายตาประชาชี เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
คำเตือน : ตอนนี้แอบรั่วนะเฮ้ย!
ยามเช้าที่แสนสดใสในฮอกวอตส์ไม่ได้ทำให้เจมส์ พอตเตอร์คนดังอยากลุกขึ้นมาจากที่นอนเลยแม้แต่น้อย เมื่อวานเขาลากสังขารตัวเองกลับมา โดยไม่สนใจเสียงทักทายอันแสนสดใสของเพื่อนๆเลยสักนิด จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงสี่เสาของตนอย่างหมดอะไรตายอยาก ใบหน้าที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตาของสเนปยังคงติดตาไม่หาย จนเช้าแล้วเจมส์ก็ยังคงวนเวียนแต่เรื่องของสเนปอยู่
“แฮก…แฮก…พอได้แล้วพอตเตอร์…” สเนปหอบจนตัวโยน
“ไม่พอจนกว่านายจะยอมไปกับฉัน แล้วอย่าเสียงดังมากซะล่ะเดี๋ยวฟิลช์จะมาเห็น” พูดจบเจมส์ก็ใช้มือสอดไปใต้กางเกงแล้วกำส่วนนั้นอย่างช้าๆ และมากเรื่อยๆจนคนด้านล่างรู้สึกอึดอัด
“ไม่…ไม่..อย่าเลยพอตเตอร์…ฮึก.. เอามือออกไป ฉะ…ฉันเจ็บ…” เจมส์ยังคงใช้มือบีบส่วนนั้นไม่ยอมปล่อยจนสเนปเริ่มทุรนทุราย ใบหน้าขาวประปรายด้วยน้ำตา
“บอกสิว่าจะไปกับฉัน” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วโน้มหน้าลงไปขบที่ใบหู รูดมือขึ้นลงช้าๆ อย่างเนิบนาบ
“อ๊า..อือ พอแล้ว!!...ฮึก…ฉันจะไปกับนาย…หยุดได้แล้วพอตเตอร์!ฉันยอมแล้ว!!” สเนปตะโกนลั่นเมื่อเจมส์กำลังจะสอดนิ้วเข้ามาทางช่องทางร้อนของเขา ตอนนี้เขายอมแล้ว ยอมไม่ให้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไปมากกว่านี้ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนอย่างเจมส์ พอตเตอร์จะทำเรื่องน่ารังเกียจพรรณนี้ได้ลงคอ
“อึก!” ร่างสูงนอนขดเป็นก้อนกลมบนเตียงอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงการกระทำอันเลวทรามของตน ถึงทุกวันนี้เขากับซิเรียสจะแกล้งสเนปกันบ่อย….บ่อยมาก แต่มันไม่เคยออกมาในรูปแบบนี้เลย
“เจมส์!ตื่นรึยัง เราจะลงไปกันแล้วนะ” เสียงใสของรีมัส ลูปินเหมือนลอยเข้ามาจากที่ห่างไกลโพ้น
“….พวกนายไปกันก่อนเลย วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะ” เจมส์ตอบกลับไปด้วยเสียงแหบห้าว
เมื่อซิเรียสได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกเอะใจเล็กน้อย ปกติเจมส์ไม่เคยอ้างว่าป่วยถ้าอยากจะโดดเรียน แล้วก็ไม่เคยบอกใครว่าป่วยด้วย หรือว่าเมื่อวานจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา?
“เฮ้ย นายเป็นอะไรรึเปล่าเขาแหลม?” กว่าซิเรียสจะรู้ตัวว่าไม่ควรถามก็หลุดพูดออกไปเสียแล้ว แต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากร่างที่อยู่บนเตียงนั่น
“ไปเถอะซิเรียส เดี๋ยวก็หายเองแหละ” ลูปินเดินมาดึงแขนซิเรียสให้ไปสมทบกับปีเตอร์ เขาลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมตามลงไป
‘ดีแล้วล่ะ ปล่อยฉันไว้คนเดียวสักพักเถอะนะ’ เจมส์คิดในใจอย่างอ่อนล้า แต่ก่อนจะหลับตาพริ้มไปก็มีบางอย่างแหลมๆมาทิ่มที่สีข้างของเขา
“หืม? อะไรน่ะ” เขาคลำไปบนเตียงแล้วก็สัมผัสกับอะไรบางอย่างที่เป็นไม้แหลม
“ไม้กายสิทธิ์ของสเนป?”
“เซเวอร์รัส เช้าแล้วนะ” ชายหนุ่มร่างสูงสง่า มีใบหน้าหล่อเหลา สะบัดผมสีเงินยวงที่รวบเอาไว้อย่างองอาจ “คนอื่นลงไปหมดแล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก” มือเรียวยาวดึงม่านที่เตียงของใครบางคนออก แสงอาทิตย์สว่างจ้าส่องให้เห็นร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง
“ลูเซียส…” ร่างนั้นปรือตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ไม่มีท่าว่าจะลุกขึ้นมา “ไปก่อนเลย ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไป” แล้วสเนปก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงเพื่อตัดบท ทำเอาลูเซียส มัลฟอยยืนสตั๊นอยู่อย่างนั้น
“แล้วอาหารล่ะ?” เมื่อถามไปร่างบางก็ส่ายหัวในผ้าห่มเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธ
“ตามใจนะ ฉันไม่ยุ่งเรื่องของนายแล้วกัน ไปล่ะ” เสียงฝีเท้าของลูเซียสย่ำออกไปเบาขึ้นเรื่อยๆจนได้ยินเสียงปิดประตู สเนปพลิกตัวกลับมาจ้องเพดาน ขอบตาสีแดงช้ำกระพริบถี่อย่างไร้อารมณ์
“ใช่แล้ว อย่ายุ่งกับฉันเลย ไม่มีใครเค้าอยากยุ่งกันหรอก” ร่างบางพูดกับตัวเองเบาๆ เขายังไม่พร้อมจะออกไปเผชิญหน้ากับพอตเตอร์ตอนนี้ รวมถึงเพื่อนของมันด้วย เมื่อวานคงจะเอาเรื่องของเขาไปนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเลยล่ะสิ
ทำไมต้องถึงกับสั่งเขาให้ไปงานด้วย ขอกันดีๆไม่เป็นหรือไง ความรักต่อลิลี่เป็นมีมากมายถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? มือเล็กขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างรุนแรงจนเกือบขาด จากนั้นจึงเอื้อมไปที่โต๊ะเพื่อจะคว้าไม้กายสิทธิ์มาเสกคาถา ‘คอลโลพอร์ตัส’ ใส่กลอนประตู เขาจะได้อยู่คนเดียวอย่างสงบเสียที
แต่ทว่า….โชคชะตากลับเล่นตลกกับเซเวอร์รัสคนนี้เสียแล้ว…
“หายไปไหน!!!!” ร่างบางตะโกนเสียงดังพร้อมกับลุกพรวดจากที่นอนจนผ้าห่มลงไปกองกับพื้น ดวงตาสีดำกรอกไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อมองหาไม้คู่ใจของตน
“โธ่เว้ย….” เขาครางอย่างหมดหวังเมื่อหาที่ไหนก็ไม่เจอ ความรู้สึกของคนทำของหายนี่มันไม่รู้สึกดีเอาเสียเลย
สเนปเดินวนไปมาอย่างหงุดหงิดในห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธีริน และค่อยๆฟื้นความทรงจำที่ไม่อยากจะนึกออกมาและหาว่าเขาใช้ไม้กายสิทธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
“นายต้องไปงานเลี้ยงกับฉัน!” ใช่ พอตเตอร์บังคับเขา
“ไม่!!! ฉันไม่ไป!!” แล้วเขาก็ปฏิเสธ
“แต่นายต้องไป พูดสิ” แล้วมันก็บังคับเขาอีก
“ไม่!!! ถึงนายจะบังคับยังไงฉันก็ไม่มีทางทำให้นายสมหวังหรอก พอตเตอร์ อย่านะ!”
ตอนนี้แหละ!ตอนที่เขาพูดว่าอย่านะ เจมส์เอาไม้กายสิทธิ์ของเขาไป!!!
เมื่อได้ข้อสรุปที่ไม่น่าพอใจแล้วสเนปก็ทรุดอย่างหมดแรง
‘ต้องไปหามันทั้งๆที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์ แล้วก็ต้องขอไม้กายสิทธิ์คืนด้วยเนี่ยนะ?’ เขาคิดอย่างโอดครวญ
ไม่น่ามีงานเต้นรำขึ้นมาเล้ย…..
ห้องโถงใหญ่ในยามเช้าจอแจไปด้วยเด็กๆทั้งสี่บ้าน และศาสตราจารย์หลายคน หนึ่งในนั้นมีแก๊งตัวกวนที่สมาชิกขาดไปหนึ่งคนอยู่ด้วย
“นายว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจมส์” ซิเรียส แบล็กผู้มีใบหน้าหล่อเหลาถามคำถามนี้รอบที่ร้อย แล้วยกจานที่วางขนมปังปิ้งไว้ห้าแผ่นมากระแทกลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด คิ้วได้รูปของเขาขมวดอย่างเคืองใจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังหล่ออยู่ดี
“วางใจเถอะเท้าปุย ฉันว่านะอาจจะเกี่ยวกับชวนเอฟเวนส์ไปงานเต้นรำไม่สำเร็จก็ได้” รีมัส ลูปิน เด็กหนุ่มผู้มีเลือดหมาป่าหากแต่ใบหน้าอ่อนหวานราววีล่าตอบคำถามอย่างเซ็งๆ เขาตอบแบบนี้มารอบที่ร้อยแล้วเหมือนกัน ซึ่งมันก็ถูกอยู่ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
“เอ่อ…ฉันว่า ฉันว่าคนเก่งอย่างเจมส์ต้องมีผู้หญิงอยากไปงานด้วยเยอะจะตายไม่ใช่เหรอ นายก็เหมือนกันซิเรียส” ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ละล่ำละลั่กตอบเพราะมีอาหารอยู่เต็มปาก ซึ่งความคิดของเขาก็ถูเช่นกันเพราะเช้านี้มีผู้หญิงหลายคนส่งจดหมายมาหาซิเรียส ไม่ก็เดินมาถามตรงๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดายเมื่อซิเรียสบอกว่ามีคู่แล้ว ส่วนที่เหลือก็แอบมองมาที่พวกเขาอย่างผิดหวังเมื่อไม่เห็นหนุ่มแว่นจอมวางแผนแห่งฮอกวอตส์ เจมส์ พอตเตอร์
“ช่วยไม่ได้ ก็ฉันมีคู่แล้วนิ…..” ซิเรียสยอมเปลี่ยนเรื่องได้อย่างอารมณ์ดี แล้วใช้สายตาหวานเยิ้มโลมเลียลูปิน “ ใช่ไหม…จันทร์เจ้า?”
“บ้า!” ใบหน้าหวานของลูปินเจือลีชมพูจางๆ เขาไม่อาจต้านทานสายตาเจ้าเล่ห์ของเจ้าหมาสีดำนี่ได้เลย
“เอ่อ….ย้ายมานั่งฟากฉันมั้ยรีมัส…นายจะได้อยู่ใกล้ซิเรียส?” ปีเตอร์ถามลูปินที่นั่งตรงข้ามกับเขาและซิเรียสอย่างกล้าๆกลัวๆ ซึ่งทำให้ซิเรียสนั้นขำก๊าก
“อุ๊บ…ก๊ากๆๆๆฮ่าๆ ถูกใจมากหางหนอน!”
“โธ่เอ๋ย พอเลยเท้าปุ้ย….” ลูปินตอนนี้หน้าแดงเถือกไปแล้ว แต่ปีเตอร์ยังคงทำหน้ามึนๆเหมือนกับไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนพูดไปมีความหมายว่าอย่างไร
ระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังหัวเราะเสียงดังอยู่นั้นก็มีใครบางคนขัดขึ้น
“ขอโทษที” น้ำเสียงเย็นชาและกดต่ำให้ดูหมิ่นถึงที่สุดดังออกมาจากด้านหลังของซิเรียสและปีเตอร์ “พวกนายเห็นเจมส์ พอตเตอร์บ้างไหม?” เรกูลัส แบล็กใช้หางตาแลดูพี่ชายของตนราวกับคุยกับโทรลล์ ซิเรียสยืนขึ้น เขาสูงกว่าน้องของเขาคืบนึง
“ขอโทษที” เขาเลียนเสียงน้องชาย แต่จงใจทำให้แหลมเหมือนผู้หญิงจนปีเตอร์หลุดขำออกมาพรูดใหญ่ “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะอยากเจอเจมส์ พอตเตอร์ทำไมหรือครับ หรือว่า….จะชวนไปงานเต้นรำเหรอ?” เมื่อสิ้นเสียงเรกูลัสหน้าแดงซ่านระหว่างที่ปีเตอร์ชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น แต่ยังคงรักษาอีโก้ไว้ไม่ให้เสีย
“เปล่า…” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นกว่าเดิม “เซเวอร์รัสฝากให้มาถามต่างหาก! ไม้กายสิทธิ์ของเขาอยู่ที่พอตเตอร์!!”
“จะบอกทำม้าย….” มีอีกเสียงหนึ่งดังมาจากโต๊ะฝั่งสลิธีริน ซิเรียสคาดว่าคงเป็นเสียงของสเนป
“อ๋อ!” ซิเรียสอุทาน “เพราะอย่างงี้นี่เอง เข้าใจละ เจมส์คงไปแกล้งเจ้าสนิฟเวลลัสแล้วยึดไม้มาสิท่า มิน่าล่ะมันถึงกลับมานอนซึมอย่างกับเพิ่งฆ่าใครตายมา!” ซิเรียสพูดเสียงดังกึกก้องอย่างมีชัยชนะ ในที่สุดปริศนาก็คลี่คลายแล้ว!
แต่ทว่าเสียงของคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ก็โผล่ออกมา….
“แล้วแกจะไปบอกทำไมเล่า ไอ้เท้าปุย!!!” เจมส์ พอตเตอร์ที่แอบยืนฟังอยู่ตั้งแต่แรกโผล่ออกมาจากมุมตึกอย่างลืมตัวจนทุกคนในห้องโถงหันไปมองเป็นตาเดียวกัน……เขายังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย….
“หาเจมส์…? ไหนว่าจะไม่ลงมาไง” ลูปินถามอย่างงงๆ
“อาฮ่า!!! มาพอดีเลยพอตเตอร์” ส่วนสเนปที่นั่งแอบอยู่ใต้โต๊ะสลิธีรินก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างลืมตัวเช่นเดียวกัน(หัวของเขาชนกับขอบโต๊ะดังโป๊ก) แล้วทุกคนในห้องโถงก็หันกลับไปจับจ้องสเนปแทน……เอิ่ม ชุดนอนลายหมีน้อย…..
“ไหนว่าไม่ลงมาไงเซเวอร์รัส?” ลูเซียสก็ถามอย่างงงๆเช่นกัน แต่สเนปไม่สนใจ เขาเดินตรงเข้าไปหาเจมส์ ลืมเรื่องที่เจมส์จะข่มขืนเขาเมื่อวานไปหมด
“ไม้กายสิทธิ์ของฉันอยู่ไหนพอตเตอร์?” สเนปยื่นมือไปตรงหน้าเจมส์ คิ้วขมวดติดกัน ทุกคนรอบข้างยังคงเงียบงันราวกับเป็นแบ็กกราวด์ รวมถึงศาสตราจารย์ทั้งหลายด้วย
“สเนป….นายไม่โกรธฉันเหรอ?” เจมส์ถาม ดวงตาสีน้ำตาลใสขึ้นอย่างมีความหวัง ที่เขาตัดสินใจลงมานี่ทั้งชุดนอนก็เพราะอยากรู้อาการของสเนปจากเมื่อวานที่ได้ทำลงไป แต่ใครจะไปคิดล่ะ ว่าหมอนี่ก็แอบลงมาทั้งชุดนอนเหมือนกัน
“เรื่องนั้นค่อยคิดหลังจากฉันสามารถสาปนายได้ เอาไม้ของฉันคืนมานะ!” เขาตะโกนคำหลังเสียงกึกก้อง ในใจคิดว่าไม่น่าฉุกละหุกโผล่มาทั้งแบบนี้เอาเสียเลย….เต่มันก็เป็นไปแล้วนี่ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
“ขอบคุณสวรรค์สเนป นายไม่โกรธฉัน!” เจมส์รวบร่างตรงหน้าเข้าไปกอดอย่างลืมตัว เขาลืมตัวจริงๆว่ากำลังยืนอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชีทั่วทั้งฮอกวอตส์ และลืมไปจริงๆ ว่าตรงหน้าของเขาคือเด็กหนุ่มนามเซเวอร์รัส สเนป ผู้เป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในฮอกวอตส์แล้ว
ทุกอย่างราวกับถูกคาถาสตูเปฟาย(สะกดนิ่ง) เหล่าศาสตราจารย์งงเป็นไก่ตาหลุดออกจากเบ้า ส่วนใหญ่นักเรียนที่ถูกสั่งกักบริเวณเพราะทะเลาะจนลงไม้ลงมือกันก็คือเด็กสองคนนี้นี่ แต่ทำไม…..
“…..พอตเตอร์?”
“งั้นวันนี้เราไปซ้อมเต้นรำกันเถอะนะ!นะสเนป!” เจมส์ที่เห็นสายตางุนงงเช่นเดียวกับคนอื่นของลิลี่ก็อดขำไม่ได้ ต้องใช้จังหวะนี้แหละที่จะทำให้เธอเห็นว่าเขากำลังจะชนะ
โดยไม่รอคำตอบ เจมส์ พอตเตอร์ฉวยโอกาสตอนที่สเนปกำลังสตั๊นยกร่างบางขึ้นมาอุ้มในท่าแบกกระสอบ(บร๊ะ!?) สเนปเบากว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก เมื่อได้ท่าที่ถนัดแล้วเจมส์ พอตเตอร์จึงออกวิ่งทันที
“เดี๋ยวพอตเตอร์!!!! จะพาฉันไปไหนน่ะ แล้วไม้กายสิทธิ์ของฉันล่ะ ว้ากกกกก” สเนปร้องลั่นเมื่อเจมส์เกือบจะเอาหัวเขาไปฟาดกับมุมตึก เสียงโวยวายของเขาไกลออกไปเรื่อยๆจนกระทั่งเงียบไปในที่สุด เจมส์ พอตเตอร์กับคู่อริ เซเวอร์รัส สเนปได้จากไปแล้ว แต่พวกเขาจะไปไหนกันล่ะ?
“เมื่อกี้ฉันได้ยินพอตเตอร์พูดกับสเนปว่าไปซ้อมเต้นกันเถอะ…ใช่มั้ย?” เด็กสาวบ้านเรเวนคลอที่ตั้งสติได้คนหนึ่งถามออกมาอย่างประหลาดใจ นี่เธอคงได้ยินอะไรผิดไปใช่ไหมเนี่ย?
“ใช่…ฉันก็ได้ยินนะ” ซิเรียสพูดเบาๆจนแทบกระซิบ แต่ก็ดังพอให้ทุกคนได้ยิน และเมื่อเขาตั้งสติได้ก็แหกปากเสียงแปดหลอดออกมา “ฉันมีเพื่อนแล้วโว้ยยยยย”
อีกด้านหนึ่งของปราสาท เสียงฝีเท้าหนักๆนั้นวิ่งสม่ำเสมอกัน โดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวพอตเตอร์ ฉันเวียนหัว!จะพาไปไหนเนี่ย” สเนปที่ถูกพาดบนไหล่แกร่งจนเลือดไปตกอยู่ที่หัวเปล่งเสียงบู้บี้ออกมา
“ห้องต้องประสงค์”
“ห้อง….เอ่อ..อะไรนะ?”
“ห้องที่มีทุกอย่างที่เราต้องการไงล่ะ ฉันรู้กับซิเรียสแค่สองคน นายรู้แล้วก็ห้ามนำไปบอกใครเข้าใจไหม?” เจมส์อธิบายเสียงหอบๆ เหงื่อชักไหลลงมาบนใบหน้าเมื่อวิ่งเป็นเวลานาน
“เข้าใจ….แต่เอ๊ะ ทำไมฉันต้องฟังคำสั่งของนายด้วยไม่ทราบ พอตเตอร์ ปล่อยฉันลงนะ!!” สเนปบ่นออกมาอีกรอบ
“ทำไมฉันต้องฟังคำสั่งของนายด้วยไม่ทราบ สนิฟเวลลัส?” เจมส์ย้อนด้วยน้ำเสียงกวนๆที่เขาชอบทำ แล้วเขาก็หยุดวิ่ง
“ฟังนะ นายต้องมายืนตรงนี้แล้วก็คิดในใจว่าต้องการห้องแบบไหน เข้าใจไหม?” เขาถาม “เข้าใจ แต่นายห้อยหัวฉันอยู่แล้วฉันจะเห็นมั้ยว่าที่เรายืนกันอยู่นี่มันที่ไหน เจ้างั่ง!” สเนปขู่ฟ่อๆอย่างดุร้าย เจมส์จึงค่อยๆวางสเนปลง ร่างบางเซทันทีที่ขาแตะพื้นทำให้ใบหน้าของเขาซุกลงที่อกแกร่งของเจมส์ สเนปยันตัวออกอย่างรวดเร็ว
พวกเขายืนอยู่หน้ากำแพงว่างเปล่ายาวเหยียดที่อยู่ตรงข้ามกับม่านปักผืนมหึมาเรื่องความพยายามโง่ๆของบาร์นาบัสจอมเพี้ยนที่ฝึกสอนโทรลให้เต้นบัลเล่ต์
“นี่มันชั้นเจ็ด” สเนปพูดขึ้นขณะสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
“ใช่แล้ว”เจมส์กระแอม “นายต้องเดินผ่านกำแพงนี้สามหน ตั้งสมาธิอย่างหนัก นึกถึงสิ่งที่เราต้องการ”
“แล้วเราต้องการอะไรกันล่ะ” สเนปถามแบบโง่ๆ แต่รอยยิ้มมีเลศนัยนั้นบอกให้รู้ทันทีว่าเขากำลังกวนใจเจมส์เล่น
“ก็ห้องที่เราสองคนสามารถทำอะไรด้วยกันได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นไงล่ะ….” เจมส์พูดน้ำเสียงกะล่อน พร้อมกับยื่นมือมาจับตรงเอวของสเนป “เดินตามผมนะครับ คุณผู้หญิง….”
เขาเดินตามเจมส์ด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน เลี้ยวกลับที่หน้าต่างเลยกำแพงว่างเปล่าไปอีกหน่อย แล้วก็เลี้ยวอีกตรงแจกันใหญ่ขนาดเท่าตัวคนที่ปลายกำแพงอีกด้าน เจมส์หลับตาเบาๆขณะตั้งสมาธิ สเนปจึงทำตาม
เราต้องการที่สำหรับฝึกเต้นรำ…เขาคิด ที่ที่มีทุกอย่างสำหรับฝึกเต้นรำ…
“ได้แล้วสเนป!” เจมส์ร้องด้วยความดีใจ เมื่อประตูขัดเป็นมันวับปรากฏอยู่ที่กำแพง สเนปเอื้อมมือออกไปและผลักมันให้เปิดออก ทำให้เห็นห้องขนาดกว้างใหญ่ ภายในนั้นมีเครื่องเล่นเพลงขนาดยักษ์อยู่
“ว้าว” สเนปอุทานอย่างพึงพอใจ “มีหนังสือสอนการเต้นรำให้ด้วยแฮะ…อ๊ะ!ทำอะไรน่ะ!!” เขาร้องเสียงหลงเมื่อเจมส์เข้ามากอดจากทางด้านหลัง
“เป็นบ้าไปแล้วหรือไงพอตเตอร์! ทำไมพักนี้นายชอบทำอะไรลามกชะมัด ฤดูผสมพันธุ์รึไง?” สเนปตวาดใส่คนด้านหลังที่กอดเค้าแน่น
“ฉันคงบ้าไปแล้วล่ะ สเนป”เจมส์กระซิบที่ข้างหูเบาๆ “ฉันขอโทษ….เรื่องเมื่อวาน นายกลับไปร้องไห้ตลอดทั้งคืนเลยใช่ไหม?”
ราวกับคำพูดนั้นแทงใจดำร่างบางในอ้อมกอด สเนปจึงสะบัดตัวออกมา แล้วถอยหลังไปไกล
“เหอะ เพิ่งจะรู้สึกผิดเอาตอนนี้เหรอ พอตเตอร์?” เขาแค่นเสียง “นายจะขอโทษฉันได้ก็ต่อเมื่อมีพันธะที่ต้องจัดการกับฉัน ใช่มั้ยล่ะ? นายทำข้อตกลงกับเอฟเวนส์ไว้นี่….ความจริงถ้าตอนนี้ฉันมีไม้กายสิทธิ์ล่ะก็ ฉันคงสาปนายให้ลืมเรื่องทั้งหมดไปซะ” สเนปทำเสียงเยาะเย้ย แต่เจมส์รู้สึกได้ว่ามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาจึงปล่อยให้ร่างบางพูดต่อไป
“ทำไมต้องแกล้งฉันด้วย? ทำไมต้องทำรุนแรงกับฉันด้วย? สำหรับนาย ฉันคือตัวอะไรกัน ตัวตลกของพวกนายงั้นเรอะ” สเนปเบือนหน้าหนี ไม่ให้เจมส์เห็นน้ำตา นี่เขาร้องไห้อีกแล้วเหรอ ทำไมพักนี้อารมณ์มันอ่อนไหวได้ง่ายแบบนี้นะ
“นายไม่ใช่ตัวอะไรทั้งนั้น เซเวอร์รัส” เจมส์ก้าวเข้าไปหา “นายก็คือนาย นายคือเซเวอร์รัส สเนปสุดยอดนักปรุงยาแห่งฮอกวอตส์” เขาจับที่ไหล่ของสเนป นี่เจมส์ พอตเตอร์กำลังปลอบเขาอยู่เหรอ
“หึ ใช้คำพูดซะสวยหรู แล้วทำไมสิ่งที่นายทำมันตรงข้ามกันจังล่ะ พอตเตอร์ เกลียดฉันนักเหรอ?งั้นขอถามหน่อยเถอะ ฉันไปทำอะไรให้นาย?” สเนปเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยเสียงที่หนักแน่นกว่าเดิม ตอนนี้เจมส์เห็นชัดๆแล้วว่าร่างตรงหน้ากำลังร้องไห้
“ฉัน….ไม่ได้เกลียดนาย” เขาเรียบเรียงคำพูดในสมอง “ไม่เคยเกลียดเลย แต่ฉันเองก็ไม่รู้….ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งนาย…” เจมส์จ้องลงไปในดวงตาสีดำของสเนปอย่างสับสน
“ไอ้…โรคจิต”
“ใช่ ฉันมันโรคจิต เพราะงั้นยกโทษให้ฉันด้วยเถอะ เซเวอร์รัส” พูดจบเจมส์ก็ดึงไหล่อันสั่นเทาของคนตรงหน้าเข้าไปกอดอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน นั่นทำให้สเนปยิ่งร้องไห้ด้วยความรู้สึก โกรธ เกลียด รำคาญ แต่ก็…มีความสุขพอๆกัน
“ขอโทษนะ” น้ำเสียงอ่อนโยนของเจมส์นั้น ได้ละลายน้ำแข็งในหัวใจของสเนปไปจนหมดแล้ว
“โธ่เว้ย ฉันเกลียดนายเจมส์….” ร่างบางซบหน้าเข้ากับอกแกร่ง มือเล็กขวนขวายหาความอบอุ่นตรงหน้า เจมส์รู้สึกถึงน้ำเย็นๆที่ซึมผ่านชุดนอนเข้ามา ทั้งคู่กอดกันไปอย่างยาวนานในห้องต้องประสงค์ โดยไม่มีใครอยากพูดอะไรออกมาอีก
‘เฮ้อ’ เจมส์คิดในใจ ‘ไว้พรุ่งนี้ค่อยเริ่มซ้อมแล้วกัน’ เขาก้มลงมองร่างบางตรงหน้าที่หยุดร้องไห้แล้วอย่างสุขใจ เดาได้เลยว่า สเนปคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาอีกแล้วแน่ๆ
“ว่าแต่ เมื่อไหร่นายจะปล่อยฉันซักทีเนี่ย สนิฟเวลลัส”
“..........เมื่อนายคืนไม้กายสิทธิ์”
“เหอะ งั้นก็เชิญดมฉันต่อไปซะเถอะ”
.......................
นี่มีนอะไรกัน!? อัพสามตอนรวดในวันเดียว....ตาแหกแล้ววว (เห่อฟิคใหม่จัด=w=)
คอมเม้นท์มาแล้ว เย้! ขอบคุณมากนะค้าาาา
ปล.รีเควสรูปมาได้นะถ้าท่านต้องการ (รับรอง ไม่เผาเหมือนรูปด้านบน)
พรุ่งนี้จะมาอัพต่อค่า><
ความคิดเห็น