คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ลองชุด ซ้อม และถ้อยคำบอกรัก (แก้ไขคำผิด;w;)
ตอนที่ห้า : ลองชุด ซ้อม และถ้อยคำบอกรัก
เจมส์ พอตเตอร์…..
ไอ้บรม!!!!
สเนปนั่งอยู่ในห้องที่ต้องประสงค์เหมือนฟลอร์เต้นรำมากว่ายี่สิบนาทีแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของไอ้คนที่นัดเขา ร่างบางเริ่มเดินไปเดินมาอีกครั้ง ถึงจะรู้ว่าไม่ได้ช่วยให้เวลาเดินเร็วขึ้นแต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำนี่หว่า…..
นาฬิกาที่สวมอยู่บนข้อมือบางบอกว่านี่เป็นเวลาสี่โมง ห้าสิบห้านาทีแล้ว สเนปยิ่งเดินวนไปวนมามากขึ้น ห้องนี้ไม่มีอะไรทำเลย นอกจากเครื่องเล่นเพลงเก่าคร่ำครึขนาดยักษ์ คู่มือเต้นรำไร้ประโยชน์ และชุดเต้นรำ….หา?มีด้วยเหรอ??
สเนปพุ่งไปที่ชั้นเก็บของอย่างรวดเร็วเหมือนหนีแชมพูสระผม และรื้อค้นชุดราตรีออกมา มีทั้งของชายและหญิง หลายแบบเสียด้วย
เขาแทบลืมสนิท ว่านอกจากจะต้องเต้นรำแล้ว เราแก้ผ้าไม่ได้นี่หว่า มันต้องมีชุดราตรีด้วย ซึ่งเด็กหลายคนคงรีบส่งนกฮูกไปสั่งพ่อแม่ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ไหนๆมันมีเขาก็คงจะยืมไปซักชุด เพราะยังไงเขาก็ไม่อยากจะไปรบกวนทางบ้านอยู่แล้ว
มือบางง่วนกับการขุดค้นกล่องสมบัติ มันมีชุดหลายแบบจริงๆ ทั้งแบบที่คงจะได้รับความนิยมในสมัยเมอร์ลินยังล้างก้นเองไม่เป็น และแบบที่ทันสมัยแปลกตาเช่นติดปีกไว้ด้านหลัง(เอาไว้ทำอะไรวะ?) เขาว่าเขาควรจะเอาชุดสูทเรียบๆไม่สะดุดตาดีกว่า ไม่อยากทำตัวเด่นน่าหมั่นไส้แบบเจ้าพอตเตอร์มัน
เอ๊ะ….เดี๋ยวนะ…..
ถ้าเขาเต้นกับพอตเตอร์ที่เป็นผู้ชาย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแต่งเป็นผู้หญิงไหมนะ?
นึกแล้วก็อยากดมตดโทรลล์ตาย บ้าน่า…ถ้าเจมส์ พอตเตอร์ลงทุนแต่งเป็นผู้หญิงเพื่อลิลี่แล้วล่ะก็ เธอคงแนะนำให้เขาอนุรักษ์ไม้ป่าซะดีกว่า แล้วถ้าเขา…เซเวอร์รัส สเนป เจ้าชายเลือดผสมผู้สูงศักดิ์แต่งล่ะ? ก็คงจะถูกล้อจนป่นปี้มากกว่าเดิมล่ะสินะ…..
ร่างบางส่ายหัวอย่างเอือมๆ ทำให้แมลงวันที่มาเกาะตอนไหนก็ไม่รู้บินออกไป ถ้าจะเป็นใครที่ต้องแต่งหญิงแล้วล่ะก็ รับรองว่าเจมส์ พอตเตอร์จะบังคับเขาแหงๆ แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีไม้กายสิทธิ์เตรียมพร้อม ใครหน้าไหนก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ว่าแล้วสเนปก็ชักไม้กายสิทธิ์ออกมา
“แอ๊กซีโอ!ชุดที่เหมาะกับฉัน!!”
โดยไม่ทันตั้งตัว ชุดราตรีตัวยาวสีดำก็ถลามาคลุมตัวเขา ทำให้นึกถึงผู้คุมวิญญาณ สเนปเหยียบชายของมันจนล้มลง ทำให้ชุดนั่นรัดเป็นเกลียวที่คอหอย
“โอ๊ย!! บ้าเอ๊ย วุ่นวายชะมัด…” เขาสะบัดตัวออกจากผู้คุมวิญญาณร่างที่สองได้สำเร็จ แล้วพบว่ามันเป็นชุดราตรีของผู้หญิง ที่มีสีดำเช่นเดียวกับผมของเขา และมีลูกไม้ประดับประดาอยู่ตรงชายอย่างสง่างาม อืม…แล้วเป็นชุดเกาะอกด้วย ใส่แล้วคงจะเซ็กซี่ไม่น้อย แต่เดี๋ยว!เขามีหน้าอกให้เกาะซะเมื่อไหร่เล่า?
“ฮ่าๆๆๆๆ ฮะ…ฮะ..ก๊ากกกกก” จู่ๆ ผู้มาเยือนคนใหม่ก็เปิดตัวอย่างอลังการด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง สเนปลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว
“พอตเตอร์?” เขาถามอย่างงงๆแต่เจมส์ยังหัวเราะต่อจนเห็นลิ้นไก่….อยากตัดออกมาต้มกินจริงๆเล้ย!
“ฮึ่ย…มาสายแล้วยังทำเสียงเอะอะน่ารำคาญ……แลงล็อค!!” เมื่อสเนปร่ายคาถาที่ตนคิดเอง เจมส์ก็ยกมือกุมคอหอย อ้าปากกลืนน้ำลาย แล้วขลุกกับพื้นห้อง ทำมือเป็นเครื่องหมายหยาบคายแต่พูดไม่ได้ เพราะลิ้นถูกตรึงกับเพดานปาก
“หึ!” สเนปยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ เพียงแค่ตวัดไม้กายสิทธิ์ สภาพลิ้นของเจมส์ก็กลับคืนสู่ปกติทันที
“แคกๆ..โอย…” เจมส์ยันตัวขึ้น “อะไรกันสนิฟเวลลี่ แค่หัวเราะนิดเดียวเองนะ” เขาทำปากยื่นอย่างน้อยใจ แต่สเนปคิดว่ามันเหมือนเอลฟ์ปวดมดลูกมากกว่า
“ก็สมแล้วนิ ลุกขึ้นมา!” สเนปสั่ง
“แล้วทำไมฉันต้องฟังคำสั่งนายด้วย! คราวหน้าฉันจะเอาแชมพูอย่างดีราดหัวนาย!!” เจมส์ไม่ยอมลุก แต่คลานไปที่กองชุดที่เขารื้อไว้ แล้วหยิบชุดราตรีสีดำเมื่อกี้ขึ้นมา
“อะไรของแก…” สเนปลูบหัวเป็นมันเยิ้มที่หมักไว้หลายวันอย่างลืมตัว เพราะแอบกลัวว่าเจ้านั่นจะจับเขาสระผมขึ้นมาจริงๆ ก็ถ้าเขาหัวไม่เป็นเมือก มันก็ไม่ใช่เขาน่ะสิ!!
เจมส์พลิกชุดที่เคยพันสเนปไปมาอย่างพิเคราะห์ เหมือนกำลังหาหมัดที่แฝงตัวอยู่ แล้วก็เอาไปทาบกับตัวเอง
“แกจะใส่ไปเรอะ!??” สเนปถามเสียงหลงปนประหลาดใจ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ได้เป็นฝ่ายชายน่ะสิ เยี่ยมเลย
“จะบ้าเรอะ” เจมส์ยันตัวขึ้นอย่างเซๆ แว่นตาเอียงกะเท่เร่ โดยไม่ได้สังเกตว่าสเนปห่อเหี่ยวลงแค่ไหน เขาเดินไปหาสเนปที่ลืมถอยหนีแล้วทาบชุดลงบนตัวของร่างบาง
“พอดีเลยแฮะ! ไหนลองใส่ให้ดูดิ๊” เจมส์ร้องขึ้นอย่างเริงร่า แล้วก็ถูกสเนปตบหน้าดังผัวะ
“จะบ้าเรอะ” สเนปย้อน “ฉันก็นึกอยู่ว่าเราต้องมีใครซักคนเป็นฝ่ายหญิง….”
“นั่นหมายถึงนาย” เจมส์ขัด
“เดี๋ยว ไอ้บ้าฟังก่อน… แล้วเราใส่สูททั้งคู่ไม่ได้หรือไง?” สเนปถามอย่างมีความหวัง ทำให้เจมส์เหลือบมองชุดในมืออีกรอบ สลับกับมองหน้าสเนปไปมาอย่างครุ่นคิด ทำให้จมูกบานออกเล็กน้อย (สเนปคันไม้คันมือขึ้นมาอย่างประหลาด)
“ไม่รู้สิ….ฉันก็ไม่แน่ใจว่าคู่ของซิเรียสมันจะแต่งหญิงกันรึเปล่า….(สเนปทำหน้าเหยเกเหมือนดมก้นก็อบลิน)…แต่ตะกี้ฉันเห็นนายเสกแอ็กซีโอกับชุดที่เหมาะกับนาย แล้วแม่นี่ลอยมาโปะไม่ใช่หรือ?” เจมส์ พอตเตอร์เอ่ยขึ้นอย่างมีหลักการ โดยบุ้ยใบ้ไปที่ชุดสีดำ “อีกอย่าง ฉันว่ามันน่าจะเข้ากับสีผมนายนะเซเวอร์… โอ๊ย!”
สเนปตบเจมส์อีกรอบ แต่คราวนี้ตบตรงตำแหน่งที่ต่ำลงมาหน่อย ทำให้ร่างสูงเผยสีหน้าเจ็บปวดออกมาทันที
“อย่า-มา-เรียก-ชื่อ-ฉัน!!” สเนปเน้นทีละคำอย่างโหดเหี้ยม “แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ซ้อมเต้นกันเสียทีพอตเตอร์? ถ้ามัวแต่เลือกชุดอยู่แบบนี้ไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ” เขาพยายามเปลี่ยนเรื่องอย่างเนียนๆ(+ด้านๆ) แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อนาทีต่อมาเจมส์โยนชุดลงพื้นแล้วยื่นมือมาทางเขาอย่างว่าง่าย
“เอ้า!จับสิ….เดี๋ยวๆๆๆ ขอฉันพูดอะไรหน่อย…shall we dance?” คำพูดของเจมส์ทำให้หน้าของสเนปร้อนผ่าว เขาเอื้อมไปจับมือตรงหน้าอย่างประหม่า เธ่อ!ทำเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาไปได้….
“ผู้ชายจะเป็นคนนำเต้นนะ นายไม่เคยเต้นรำมาก่อนใช่ไหม?ถ้างั้นฉัน…..”
“ไม่!!!ฉันจะเป็นฝ่ายชาย นายไม่อยากแต่งหญิงล่ะสิพอตเตอร์?” เขาแทรกอย่างรู้ทัน เซเวอร์รัส สเนปคนนี้จะไม่มีวันเสียตัว เอ๊ย!เสียเปรียบให้เจมส์ พอตเตอร์อีกเด็ดขาด!
“แล้วนายอยากมั้ยล่ะ(สเนปสะบัดบ็อบสุดฤทธิ์ จนมันบนหัวกระเด็น) แหงล่ะ ใครมันจะไปอยากแต่งกันเล่า” เจมส์ปล่อยมือของสเนปออกแล้วเกาหัวแกรกๆ พลางมองไปที่กองชุดราตรี
“ถ้าเราตัดสินไม่ได้ว่าใครเป็นฝ่ายไหน เราก็เลือกชุดบ้าๆนั่นไม่ได้แหละ!” สเนปตะคอกใส่ ทำให้หนุ่มแว่นหันมาอย่างช้าๆ จนความกลัวแร่นริ้วไปทั่วร่างของเขา มันยากมากที่จะบังคับตัวเองให้สบตากับเจมส์ พอตเตอร์
เลนส์แว่นตาของเจมส์เป็นประกายเมื่อมันหยอกล้อกับแสงแดดจากหน้าต่าง ทำให้คนตรงหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาถนัดตา สเนปเผลอถอยหลังอย่างลืมตัว
“ไม่…ต้องพูดว่า ‘ถ้าเราเลือกชุดไม่ได้ เราก็ตัดสินไม่ได้ว่าใครเป็นฝ่ายรุกหรือรับ’ ต่างหาก” สเนปสะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่า ‘รุก’กับ ‘รับ’ ก็…ก็มันทำให้ชวนคิดลึกนี่หว่า….
“หมายความว่านายจะเลือกชุดก่อนงั้นหรือ?” สเนปถาม
“ถ้าสมองนายตีความได้แบบนั้น” เจมส์ตอบปัดๆไปก่อนจะหันหลังใส่สเนปแล้วขุดคุ้ยชุดที่เหลือออกมา
“ฉันจะเลือกชุดที่ถูกใจระหว่างที่นายไปลอง…..เจ้านั่น” เจมส์พยักเพยิดไปทางชุดสีดำ(เจ้าเก่า)ที่ถูกลืมไปเมื่อครู่
แต่มีหรือที่เซเวอร์รัส สเนปคนนี้จะยอมทำตาม
“ได้ยังไงกันพอตเตอร์!!! นายต่างหากที่ต้องใส่(เขาชี้)ไอ้ชุดบ้าๆนั่น!!”
ดูเหมือนเจมส์จะคาดเดาไว้แล้วว่าสเนปจะขัดขืน
“งั้นเอางี้….เรามาเปิดโต๊ะสนทนาถกกันด้วยเหตุผลดีกว่านะสเนป ไหนลองร่ายมาซิ ว่าทำไมฉันถึงต้องเป็นฝ่ายแต่งหญิงด้วย?”
สเนปสตั๊น
“ก็….” เขาหลุดสตั๊น “นาย….เอ่อ…นาย” สเนปพยายามหาเหตุผลที่หมอนี่ควรจะเป็นฝ่ายแต่งหญิงแทนที่จะเป็นเขา แต่ด้วยนิสัย ร่างกาย และลักษณะท่างแล้ว ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะบอกว่าหมอนี่แต่งหญิงขึ้น เมื่อสเนปนึกภาพแจมส์เต้นระบำพร้อมกับใส่ชุดราตรีที่มีลูกไม้พลิ้วไหวเป็นระลอกแล้ว คำๆเดียวก็ผุดอยู่ในหัว…. ‘กระเทยควาย’……..
“ว่าไงล่ะ!?” เจมส์รบเร้า แล้วสาวเท้าเข้ามาประชิด ทำให้หัวใจของสเนปเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนมันสะดุดรองเท้าส้นสูง
“นาย…..” สเนปกระซิบดังพอได้ยิน มือเอื้อมไปลูบใบหน้าของเจมส์ที่เข้ามาใกล้อย่างใจลอย ทั้งคิ้ว ตา จมูกและปากนั่นช่างสมบูรณ์แบบไม่แพ้ซิเรียส แบล็กเลย ยิ่งสัมผัสมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหลงใหลมากเท่านั้น…..
แล้วความต้องการก็ครอบงำเซเวอร์รัส สเนป
“เพราะฉัน…..ชอบนาย….” แต่ละคำของสเนปถูกเปล่งออกมาอย่างเลื่อนลอย เบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่มันกลับก้องอยู่ในหัวใจของเจมส์ พอตเตอร์ เขาเอื้อมไปจับมือของสเนปบนใบหน้าของเขาอย่างนุ่มนวล แต่นั่นทำให้คนตรงหน้าได้สติ
“เฮ้ย!!!!เหยดดดด ม่ายย ไม่!!กางเกงในเมอร์ลิน! ฉันพูดผิด…ปากมันไปเองน่ะ…สงสัยวันนี้คงกินมากไปหน่อยละมั้ง?” สเนปแก้ตัวน้ำขุ่นคลั่กอย่างไม่มีวันใส เขาชักมือตัวเองออกจากใบหน้าของเจมส์ทันทีที่ถูกสัมผัส รู้สึกได้ว่าตอนนี้เลือดทั้งร่างกายของเขากำลังสูบฉีด ทะยานจากเส้นเลือดเล็กๆไปยังใบหน้าขาวซีด
“อ้อเหรอ…” เจมส์ทำเสียงยานคางอย่างยั่วอารมณ์ “แล้วที่นายต้องการจะพูดจริงๆเนี่ยมันเป็นยังไงกันหา?” เขาถามซ้ำอีกรอบ รีบก้าวไปประชิดเมื่อร่างบางมีท่าว่าจะถอยหนี
“เพราะนาย…..” สเนปพยายามควานหาจุดเด่นของเจมส์ ทั้งๆที่ตอนนี้สมองตื้นตันจนกว่าจะคิดอะไรออกแล้ว
“เพราะนายใส่แว่น……” เขาพ่นคำตอบโง่ๆออกมาจนได้ ทำให้เจมส์ทำหน้าเบ้ สเนปสงสัยว่าสีหน้าของเขาตอนนี้เป็นปกติหรือยัง
“อ้อ งั้นเหรอ? เป็นเหตุผลที่น่าคิดมากเลยนะครับ มิสเตอร์สเนป…” เจมส์ลากเสียงแบบเดิมอีกครั้ง “ถ้างั้นฉันจะบอกเหตุผลที่นายควรแต่งหญิงแล้วกันนะ….”
มือแกร่งเอื้อมไปคว้าเอวบางของสเนป ทำให่เขาสะดุ้งเฮือก
“หนึ่ง…..เพราะเอวของนายคอดกิ่วเหมือนผู้หญิง”
“อะ….” เสียงของสเนปถูกปิดลงเมื่อเจมส์ใช้นิ้วของเขาแตะที่ริมฝีปากของสเนป
“สอง….. ปากของนายเป็นกระจับและเชิดขึ้น แสดงถึงความดื้อรั้น”
“แล้วมันเกี่ยว….อ๊ะ”
เจมส์ใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของสเนปเอาไว้ นี่คงเป็นฉากในความฝันของหญิงสาวหลายคน แต่นี่เขาเป็นผู้ชายนะ!แถมเป็นผู้ชายหัวดื้อที่ชื่อว่าเซเวอร์รัส สเนปด้วย แต่เพราะความอบอุ่นที่เจมส์หยิบยื่นให้ ความอบอุ่นที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนนั่น ทำให้เขายืนนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด
“สาม….. นายมีหน้าที่….เอ่อ…หวาน…” เจมส์คิ้วกระตุกเล็กน้อยเมื่อต้องใช้คำว่า’หน้าหวาน’ กับศัตรูที่เกลียดกันมาช้านาน แต่เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปไม่ได้!! เพราะสเนปเริ่มคล้อยตามแล้ว
“สี่…….เส้นผมของนายอ่อนนุ่ม…สีดำสนิท..และยาว…” เจมส์สางผมที่ยาวรุงรังระหัวไหล่ของสเนปด้วยสีหน้าหลงใหล….เขาคิดว่าเขาทำนะ ทั้งๆที่ในใจร้องอี๊แหวะ มันเยิ้มเชียว!
สเนปยังไม่พูดอะไร ปล่อยให้คนตรงหน้าบรรยายสรรพคุณตัวยาชนิดใหม่นี้ต่อไป ความจริงแล้วอยากจะโอนอ่อนและร่วมอารมณ์ไปด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของเขาคือ ทั้งหมดนี่เป็นคำโกหกคำโต ที่เจมส์ทำไปเพราะอยากให้เขาใส่ชุดนี่ไปงาน เพื่อจะได้ทำตามข้อตกลงของลิลี่ เอฟเวนส์ เมื่อนั้น เจมส์คงจะได้ไปเที่ยวกับลิลี่อย่างมีความสุข แล้วทิ้งให้เขาโดดเดี่ยวอีกตามเคย
และคงจะลืมไปเลยด้วยซ้ำ ว่าเคยขอเขามางานเลี้ยง
“ห้า…….นายรูปร่างเล็ก ผอม ฉะนั้นฉันสามารถประคองนายที่เต้นรำไม่เป็นได้จนจบเพลง” ตอนนี้มือเจมส์เลื่อนมาที่เอวอีกครั้ง แต่ยังไม่ถอนสายตาไปจากหน้าของเขา
“และสุดท้าย…..หก…. เพราะฉันก็ชอบนาย” เจมส์มั่นใจแล้วว่าตอนนี้สเนปคงจะยอมจำนงให้เขาอย่างง่ายดาย จึงโน้มใบหน้าเข้าไปอย่างช้าๆ ประกบกับริมฝีปากบางซีด ปากที่มันต่อว่าเขา พ่นคำแช่งใส่เขา แต่ทำไมมันถึงได้หวานขนาดนี้นะ
ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในปากของร่างบาง และเกี่ยวกระหวัดไปทั่ว ทำให้น้ำเชื่อมใสๆไหลลงมาที่มุมปากของสเนป สเนปพยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองไม่ให้คล้อยตามหมอนี่ แต่แขนเจ้ากรรมดันผวาไปโอบรอบคอของเจมส์ซะแล้ว
เมื่อสัมผัสได้ว่าคนด้านล่างเริ่มหายใจกระตุก เจมส์ก็ถอนตัวออกมาอย่างเสียดาย ปล่อบให้สเนปหอบอยู่พักใหญ่ แล้วใบหน้าแดงก่ำนั้นก็เงยขึ้นมา คิ้วขมวดชนกัน สเนปกำลังจะใช้ปากแสนหวานที่เขาเพิ่งจูบไปต่อว่าเขาอีกแล้วแน่ๆ
“แกมันไอ้ขี้ขลาด….พอตเตอร์” เมื่อถูกด่าอย่างนั้น เจมส์จึงเริกคิ้วด้วยความฉงน
“หยอกล้อกับความรู้สึกของคนอื่นเพื่อความต้องการของตัวเอง แกมันเห็นแก่ได้ที่สุด! เดี๋ยวแกได้ฉันก่อนงานเต้นรำ พอหลังงานเต้นรำแกก็ไปได้กับแม่เลือดสีโคลนนั่นต่อใช่ไหมล่ะ….ที่ทำไปเนี่ยเพราะเป็นข้อต่อรองของนายกับแม่นั่นเท่านั้น ส่วนฉันก็เป็นคนนอกที่ถูกลากเข้ามาด้วยอย่างไม่เต็มใจ แกมันทุเรศ……..ทำอะไรของแก๊!!!!” สเนปที่ด่ายาวเป็นชุดเหมือนเปิดก็อก แล้วก็ต้องตะโกนลั่นอีกเมื่อมือของเจมส์เลื้อยมาปลดเสื้อคลุมของเขา
“เชิญด่าต่อไปเลยคร้าบบบ ผมฟังอยู่ๆ แต่ระหว่างนั้นผมก็จะช่วยเปลี่ยนชุดให้คุณหนูไงครับ” เจมส์ตอบหน้าตาย ตอนนี้เสื้อคลุมของสเนปลอยละลิ่วไปแล้ว แต่ไปก็เสื้อเชิ้ตด้านใน…..
“ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะยอมเป็นฝ่ายหญิงเลยนะเว้ยยยย ไอ้บ้า ฉันจะแช่งนาย…เอาไม้กายสิทธิ์ม๊า!!!” เขาโดนยึดไม้กายสิทธิ์โดยเจมส์ พอตเตอร์อีกหนแล้ว และตอนนี้สถานการณ์กำลังเดจาวู เขาก็กำลังจะถูกหมอนี่ลวนลามอีกแล้ว ม่ายยย ตอนนี้เขาเหลือแค่กางเกงในสีตุ่นๆแล้วววว สมองสั่งการให้ต้องทำอะไรซักอย่าง แต่อะไรล่ะ?บีบน้ำตา?ขอร้อง?ถีบ?
“โธ่ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า แอ๊กซีโอ!ชุดราตรีของสเนป!” เจมส์ใช้ไม้กายสิทธิ์ที่เพิ่งยึดไปเรียกชุดเดรสสีดำให้ลอยมา ก่อนที่สเนปจะเริ่มสงครามน้ำลายฟูมปากต่อเขาก็รีบสวมชุดนั่นลงไปทันที
“โอ๊ย น่าอายที่สุด….” สเนปเอามือปิดหน้าเมื่อจนตรอกแล้ว
“เอาน่า….ถ้าจะให้ความร่วมมือก็ช่วยหันหลังหน่อย มันต้องรัดสายด้านหลังอ่ะ”
อึก…….
เสียวตูดตูว้อย…….
“บอกแล้วว่าฉันไม่ทำ’ไรหรอก หันหลังมาเถอะน่าคนสวย” เจมส์ทำเสียงขึ้นจมูกแล้วจับสเนปหันหลังอย่างทุลักทุเลเพราะไม่ได้ความร่วมมือจากเจ้าตัวเอาเสียเลย
มือของเจมส์ไล้ไปตามแผ่นหลังจนสเนปขนลุกวาบไปทั้งตัว ก่อนที่จะถึงสายรัดให้แน่นจนอึดอัด
“อุก…..ฉันจุกเว้ยไอ้บ้า คลายๆหน่อยก็ได้…” สเนปงึมงำในลำคอจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง เพราะเจมส์เล่นรัดสายแน่นจนไส้ของเขาเลื่อนลงไปอยู่ด้านล่าง
“ไม่ได้นะ….” เจมส์รัดแน่นเข้าไปอีก จนสเนปไม่มีอากาศหายใจ “ถ้าใส่แบบหลวมๆล่ะก็นะ จะไม่เห็นส่วนโค้งเว้าอันมีเสน่ห์ของผู้หญิงน่ะสิ”
‘ก็ฉันไม่ใช่ผู้หญิงไงฟร้า….’ สเนปตะโกนลั่นในใจ เพราะตอนนี้มันแน่นจนพูดอะไรไม่ได้แล้ว
“เอ้าเสร็จแล้ว!” เจมส์ปาดเหงื่อเม็ดเบ้งบนหน้าผาก “ส่องกระจกดูสิสเนป!ว่านายสวยแค่ไหน กระจกอยู่ทางโน้น” ร่างสูงชี้ไปยังบานกระจกอันใหญ่ ห้องต้องประสงค์นี่มีทุกอย่างจริงๆด้วย
สเนปเดินไปหากระจกอย่างเกร็งๆ มันต้องเป็นอะไรที่อุจาดมากแน่ๆ คงเหมือนพวกกระเทยตามบาร์ต่างๆแน่นอน….
แต่ไม่ใช่เลย……
ร่างที่สะท้อนอยู่ในเงากระจกถึงผมจะยุ่งรุงรังแต่ก็เป็นสีดำเงางาม ผิวพรรณดูขาวผ่องอมชมพูแทนที่จะขาวซีด ส่วนชุดเดรสสีดำยาวที่สวมอยู่ดูจะขับให้ผิวขาวขึ้นไปอีก เดรสที่ว่าเป็นชุดเกาะอก ช่วงหน้าอกทำจากผ้าชีฟอง ทำให้ปกปิดแผงอกแบนราบแบบเด็กผู้ชายไปได้ เอวของเขาถูกรัดจนเห็นส่วนโค้งเว้าแบบหญิงสาวได้ชัด ลูกไม้ตรงชายพริ้วไหวเป็นระลอกเมื่อขยับเขยื้อนอย่างอ่อนหวานจนทำให้มองข้ามความกระโดกกระเดกไปได้หมด ในสายตาสเนปผู้หญิงคนนี้สวยไม่เบาเลย
เฮ้ยเดี๋ยวนะ……
นี่มันก็เขาเองไม่ใช่เหรอ??
“ใครเอากระจกแห่งแอริเซดมาวางตรงนี้วะ?” สเนปมองหน้าในกระจกของตัวเองอย่างเก้ๆกังๆ มันก็เหมือนเดิม!! ผมอันมันเยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเขายังคงอยู่เหมือนเดิม ส่วนผิวขาวอมชมพูน่าขยะแขยงนี่ก็คงวเป็นผลจากแสงแดดทางหน้าต่างไม่ก็เขาเหนื่อยอะไรประมาณนี้แหละ แล้วที่ดูเหมือนจะมีหน้าอกขึ้นมาก็เพราะไอ้เดรสส่วนนี้มันเป็นผ้าชีฟองฟูๆต่างหาก แล้วที่มันดูสวยขึ้นมาก็เพราะนี่อาจจะเป็นกระจกแห่งแอริเซดที่จะเห็นสิ่งที่ตัวเองหวังก็ได้นี่นา!!
สเนปก้าวถอยหลังออกมาจากกระจกเพราะแพ้ความสวยของตัวเอง(?) แต่ก็ชนกับคนข้างหลังดังปั๊ก แล้วถูกดันมาอยู่หน้ากระจกเหมือนเดิม ตอนนี้เงาในกระจกสะท้อนร่างในชุดเดรสสีดำของเขาเอง และเจมส์ พอตเตอร์ที่ใส่สูทสีดำเหมือนชุดของเขา และผูกเนคไทสีขาวตัดกัน ยืนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อยู่ด้านหลัง
“นี่ไม่ใช่กระจกแอริเซดซักหน่อย เห็นไหมว่านายใส่แล้วสวยขนาดไหน……เหมือนเจ้าหญิงเลย” เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างประหลาด ทำให้สเนปไม่กล้าหันกลับไปมอง เมื่อเหลือบไปบนกระจกก็ประสานสายตากับเจมส์ ทำให้เขาก้มหน้างุดลงเหมือนเดิม
“อ้าว?ทำไมล่ะสเนป เขินเหรอ?” เสียงกะล่อนกวนๆกลับมาอีกครั้ง แล้วมืออุ่นๆของเจมส์ก็วางที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของสเนป “เงยหน้าขึ้นมามองฉันหน่อยสิ ฉันหล่อมากเลยนะเห็นไหม อุตส่าห์เลือกแบบที่เข้ากับนายเลยนา….” เมื่อเจมส์พูดจบ สเนปก็ต้องยอมรับว่าเขาเขินมากจริงๆ และรู้สาเหตุของผิวขาวอมชมพูในที่สุด
สเนปยังไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้นแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาในกระจกของเจมส์ เขาไม่อยากจะยอมรับว่าเจมส์ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด แต่ร่างที่ยืนอยู่ข้างหลังนี้ดูโดดเด่นมากจริงๆ
“สเนป….เซเวอร์รัส…” เสียงกระซิบแหบพร่าดังอยู่ที่ข้างหู “เงยหน้ามาสิ แล้วมองมาที่ฉัน…..สบตาของฉัน แล้วนายจะรู้ว่าความรู้สึกของฉันในตอนนี้ไม่เคยเสแสร้งเลย ถึงช่วงแรกฉันอาจจะยอมรับว่าชอบเอฟเวนส์จนยอมชวนนายไปงาน แต่ตอนนี้….” เจมส์เงียบไป ทำให้สเนปเงยหน้าขึ้นมามองดวงตาสีน้ำตาลอันแสนอบอุ่นโดอัตโนมัติ
“ฉันรักนายคนเดียว….เซเวอร์รัส….”
เมื่อสิ้นเสียงของเจมส์ ทุกอย่างตกอยู่ในภวังค์ ถ้อยคำบอกรักอันหวานซึ้งนั้นก้องอยู่ในหัว สเนปพยายามบอกใจตัวเองว่านี่คือคำโกหก คำโกหกคำโตที่เจมส์พูดออกมาเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวกับลิลี่ แต่พอได้สบตาสีน้ำตาลคู่นั้นแล้ว มันมีแต่ความมุ่งมั่นที่ไม่เสแสร้งอยู่เต็มเปี่ยม
กว่าสเนปจะรู้สึกตัวเจมส์ก็ก้มลงไปจนติดพื้น ทำให้เขาหันหลังกลับจากกระจกไปมองร่างจริงด้วยความสงสัย
“ยกเท้าขึ้นสิ เซเวอร์รัส” เจมส์หยิบรองเท้ามีส้นสีดำวาวขึ้นมาและใส่ให้สเนป เขารู้สึกว่าขอบตารื้นด้วยหยาดน้ำขึ้นมาทันที
“อย่าร้องไห้ให้ฉันเห็นอีกเลย….ฉันไม่อยากทำนายร้องไห้อีกแล้ว ยิ้มให้ฉันเถอะนะ” เจมส์เงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ร่างสูงยืดขึ้นมาจนสูงในระดับปกติแล้วยกมือทั้งสองข้างของสเนปขึ้นมาระดับอก
“shall we dance?”
สเนปกล้ำกลืนน้ำตาเอื้อกใหญ่ทันทีเมื่อได้ยินคำถาม ปากของเขาสั่นระริกด้วยความปิติ
“ye….yes.”
บรรยากาศในห้องต้องประสงค์ตอนนี้คลอไปด้วยเสียงเพลง ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว แต่แสงอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไป เหลือแต่แสงเทียนสีส้มที่ให้ความสว่าง พอให้เห็นร่างรางๆทั้งสองที่ฟลอร์เต้นรำ ถึงฝ่ายหนึ่งจะดูเงอะๆเงิ่นๆ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายประคับประคองให้เต้นต่อไปได้ด้วยดี
“เจมส์…..” เสียงแหบแห้งจากการร้องไห้ของสเนปดังแผ่วขึ้นมา
“ทำไมเหรอ เซเวอร์รัส?” เจมส์ถามด้วยเสียงอ่อนโยน ขณะประคับประคองร่างบางให้โลดแล่นไปตามจังหวะเพลง
“บอกฉันที….” สเนปกลืนน้ำลาย “บอกฉันทีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน”
“ถ้าเป็นความฝัน ฉันก็จะไม่ลืมว่าคืนนี้เราทำอะไรกันไปบ้าง” เจมส์หยุดเต้นแล้วดึงตัวสเนปเข้าไปกอด ปล่อยให้เพลงบรรเลงต่อไปท่ามกลางแสงเทียน
“ง่วงหรือยัง?” เจมส์ถาม
“อืม….” สเนปตอบในลำคอแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้ม ยิ้มอันสดใสที่เขาไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ซึ่งจะเป็นภาพที่ตรึงตราตรึงใจเจมส์ไปตลอดกาล
“งั้นวันนี้พอก่อนแล้วกันนะ…” เจมส์พาสเนปเดินไปนั่ง แล้วถอดชุดสูทออก
“แล้วจะทำไงกับชุดนี่ล่ะ?” สเนปก็ถอดตาม แล้วรีบคว้าเสื้อยูนิฟอร์มของตัวเองมาใส่ ยังไงเขาก็ยังอายเจมส์อยู่ดี
“เอากลับไปก็ได้มั้ง อีกแค่สองวันก็คริสมาสต์แล้วนิ” เจมส์พับชุดเมื่อครู่ของตัวเองเก็บลงไปในกระเป๋าที่เอามาด้วย แล้วยิ้มให้สเนป “อย่าเอาไปใส่โชว์ให้ใครดูก่อนวันงานล่ะ”
“ไอ้บ้า!” สเนปต่อว่าด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะกลับละ”
“เจอกันพรุ่งนี้นะ จะไปรับถึงหน้าห้องเลย” เจมส์โบกมือลาขณะมองสเนปวิ่งแบกชุดที่พับเป็นก้อนกลมๆออกไปจากห้องต้องประสงค์
“ไม่ต้องมานะเว้ย!” สเนปตะโกนก่อนออกจากห้องไป ปล่อยให้เจมส์นั่งยิ้มกับตัวเองคนเดียวอย่างปลื้มใจ
“จีบผู้หญิงไม่ติด แต่จีบผู้ชายติด ให้ได้อย่างงี้สิเจมส์!” เขาพูดกับตัวเองก่อนจะเหลือบมองห้องต้องประสงค์สุดที่รักแล้วออกไปตามสเนป ขอให้วันนี้อย่าเป็นแค่ความฝันเลย!
.......................................
มาอัพต่อแล้วค่ะ #หอบแฮกๆ ยาวจุใจเลยใช่ไหมล่ะ โอย มือหงิก=[]=!
ตอนนี้หวานกันให้เต็มที่ ตอนหน้ามีมาม่ามาเสิร์ฟนะจ๊ะ น้ำตาร่วงแน่#เว่อร์ๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามนะคะ ไปปั่นงานต่อล่ะ=w=
ความคิดเห็น