คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ในที่สุด นางฟ้าแห่งความฝันก็มาปลุก ไม่สิ...นี่มันมารร้ายชัดๆ!
ตอนที่สอง : ในที่สุด นางฟ้าแห่งความฝันก็มาปลุก ไม่สิ…นี่มันมารร้ายชัดๆ!
“อะไรกัน….นั่นพอตเตอร์ไม่ใช่หรือ” น้ำเสียงเยาะเย้ยดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทของเจมส์พอตเตอร์ อืม….ทำไมเพื่อนชาว กริฟฟินดอร์ยังไม่หลับไม่นอนกันอีกนะ
“เฮ้! จะให้ฉันเรียกฟิลช์ดีมั้ยฮะ พอตเตอร์…หึ ไอ้โสโครกเอ๊ย” เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เจมส์รับรู้ถึงแรงกระแทกที่สีข้าง คงจะไม่ใช่เพื่อนชาวกริฟฟินดอร์แล้วล่ะ
ว่าแล้วเจมส์ พอตเตอร์ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ ระยะแรกที่สายตายังไม่คุ้นเคยกับแสงไฟ เขาเห็นเรือนร่างบอบบางคล้ายเด็กผู้หญิง เรือนผมสีดำเป็นมันยาวคลอเคลียหัวไหล่ ยืนมองเขาที่นอนกองกับพื้นอยู่ อา….นางฟ้าจากสวรรค์คงมาปลอบใจเขาจากฝันร้ายใช่ไหม
“อา…นางฟ้าของผม…” เจมส์ยื่นมือไปดึงเด็กคนนั้นจนล้มลงมาในอ้อมกอดของเขา จนกลิ่มแชมพูอ่อนๆเจือเข้ามาในจมูก
“อ้ากกกกก พอตเตอร์!!!! ประสาทกลับแล้วรึไง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะว้อยยย” ร่างเล็กในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักจนน่าหงุดหงิด ทำไมนางฟ้าที่ส่งมาให้เขานี่ดื้ออย่างนี้นะ
เจมส์ดึงร่างนั้นมาประจันหน้าตรงๆเมื่อสายตาเป็นปกติแล้ว ในตอนนี้เขาเห็นใบหน้าของเด็กผู้ชายที่ซีดเหลือง มีจมูกงุ้มเหมือนตะขอ ดวงตาสีดำขลับ และเรือนผมสีเดียวกันเป็นมันเยิ้ม…..นี่มัน…..
“แว้กกกกก สนิฟเวลลัส!!!” เจมส์ผลักเด็กหนุ่มชื่อเซเวอร์รัส สเนปออกจากตัวจนกระเด็น สติสัมปชัญญะทั้งหลายแหล่กลับคืนมา เขาจำได้แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ ตอนนี้เขายังอยู่ที่เดิมคือระเบียงข้างหอคอยต่างหาก เขาเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ส่วนนางฟ้าที่สวรรค์ส่งลงมาปลอบใจนั่นก็มั่วหมดเลย มันคือสเนปที่เดินมาเจอเขากลางทางต่างหากล่ะ
“ฉันอุตส่าห์มีน้ำใจปลุกนายนะพอตเตอร์!! แต่จู่ๆแกก็ดึงฉันไปกอด พอตื่นก็ผลักกระเด็นเนี่ยนะ….เชื่อเลย!” สเนปที่กลิ้งหลุนๆไปไกลตอนนี้ยันตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก หนังสือประมาณห้าเล่มที่เขาหอบมานั้นหล่นกระจัดกระจาย จึงมีเหตุผลที่เขาจะเปลี่ยนสรรพนามใช้เรียกเจมส์จาก “นาย” เป็น “แก” ได้
“เฮอะ!” เจมส์พ่นลมออกทางจมูก “แล้วฉันไปขอนายให้มีน้ำใจมาปลุกฉันเมื่อไหร่ สนิฟเวลลัส….อ้อ นายอยากได้คำขอบใจงั้นเหรอ ก็ได้ ขอบ-ใจ! แล้วไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีกนะ ไอ้ก้อนเมือก” เจมส์เน้นคำว่า “ขอบใจ” ดังๆให้ร่างผอมบางตรงหน้าได้ยิน ซึ่งตอนนี้กำลังเอื้อมเก็บหนังสือรอบกายอยู่อย่างไม่สนใจ
“มือนายไปโดนอะไรมาสนิฟเวลลัส?” เจมส์ตะครุบปากตัวเองไม่ทันเมื่อเห็นหลังมือของสเนปมีรอยข่วนแดงเป็นทางยาว สเนปหันกลับมามองอย่างช้าๆ สายตาเต็มไปด้วยความชิงชังระหว่างที่เก็บหนังสือเล่มสุดท้าย
“เฮอะ!” สเนปพ่นลมออกทางจมูก “นายบอกให้ฉันไม่ต้องยุ่งกับนาย แล้วนายจะมายุ่งกับฉันทำไมพอตเตอร์? มันก็ได้มาตอนนายดึงฉันลงไปนั่นแหละ!!”
เจมส์เพิ่งจะรู้ตัวว่าสั่งให้สเนปไม่ต้องมายุ่ง จึงหน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อย และเจื่อนลงไปใหญ่เมื่อรอยแผลที่มือของร่างบางนั้นเป็นฝีมือของเขาเอง
“เออ…” ระหว่างที่คิดว่าควรจะขอโทษดีไหม สเนปก็ลุกขึ้นพรวดเสียแล้ว หนังสือเล่มหนาทั้งห้าอยู่ในอ้อมแขนบาง
“ฉันไม่คิดว่านายอยากจะขอโทษหรอกใช่ไหม” สเนปแค่นหัวเราะ “แน่เซ่! รีบกลับไปหาเพื่อนของนายซะเถอะพอตเตอร์ หวังว่าจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ” ช่วงเวลาที่สเนปหันหลังจากไป สมองของเจมส์ก็นึกถึงคำๆหนึ่งของลิลี่
“เธอจะต้องเต้นรำกับเซเวอร์รัส สเนป”
ในเสี้ยววินาทีที่เจมส์กำลังจะบ้า เขาคงรักลิลี่มากจริงๆถึงทำได้ เขาหันไปตะโกนใส่เท้าของสเนปที่กำลังเลี้ยวตรงมุมตึก
“เฮ้!!! สเนป!!!”
เขาเห็นเท้าที่มุมตึกของสเนปนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเจ้าตัวก็หันกลับมาให้เห็นได้เต็มตัว
“อะไรอีกพอตเตอร์” สเนปแสยะยิ้มราวกับคาดเดาสถานการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนที่จะพูดสิ่งที่เจมส์ไม่คาดคิดออกมา “หรือว่า…..นายจะขอฉันไปงานเต้นรำรึไง?”
“!!!”
เจมส์พูดอะไรไม่ออกเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่สเนปสามารถทำให้เจมส์ พอตเตอร์ผู้ไม่เคยแพ้ใครอับอายขนาดนี้ได้ ฟังจากประโยคที่พูดมาก็รู้ได้ทันทีว่าหมอนี่แอบฟังตอนที่เขาคุยกับลิลี่ เอฟเวนส์ มิน่าล่ะมันถึงมาปลุกเขาที่เผลอหลับไปเพื่อจะได้ตื่นมาฟังคำเยาะเย้ยนี่เอง ระหว่างเจมส์คิด อวัยวะภายในก็เดือดพล่าน มือล้วงไปจับไม้กายสิทธิ์ในกระเป๋ากางเกงด้วยความเคยชิน
“แกแอบฟัง….แกแอบฟังฉันคุยกับเอฟเวนส์!!!” เจมส์คำรามก้องพร้อมชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่สเนป
“ฉันก็แค่บังเอิญเดินผ่านมาเท่านั้นเอง….ไม่นึกว่าบทสนทนาของพวกนายจะมีชื่อฉันด้วยนิ” สเนปเหยียดยิ้มอย่างน่ารังเกียจ “หึ ไม่คิดว่านายจะรับข้อเสนอนะ….”
“แก!!”
เจมส์เดินตรงไปหาสเนปทั้งที่ยังชี้ไม้กายสิทธิ์อยู่ แต่สเนปกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ฉันไม่คิดว่านายจะกล้าสาปคนที่จะเชิญไปงานเลี้ยงหรอกนะพอตเตอร์” ร่างบางเลียริมฝีปากที่แห้งผากให้ชุ่มชื้นขึ้น “เอ้า! รีบขอฉันไปงานเลี้ยงได้แล้ว”
เจมส์เดินมาประชิดตัวสเนป ซึ่งดูเหมือนสเนปจะมั่นใจว่าเจมส์จะไม่กล้าทำร้ายเมื่อตนกำลังเป็นต่ออยู่จึงไม่หนีไป แต่เขาคิดผิด
ปึง!!!
“โอ๊ย”
ร่างผอมบางครางเบาๆเมื่อถูกคนตัวใหญ่กว่าดันไปกระแทกผนังที่ทำจากอิฐ
“พอตเตอร์ ปล่อย”
“นายคิดว่าฉันไม่กล้าหรือ สเนป?” เจมส์ใช้มือข้างซ้ายบีบหัวไหล่ของสเนปไว้แน่นราวคีมเหล็ก ส่วนอีกข้างก็กระชากผมสีดำเป็นมันไปด้านหลัง ทำให้สเนปไม่สามารถหลบสายตาเขาได้
“คิดว่าสวะอย่างนายกำลังได้เปรียบเหรอ หา?”
“ไม่…ปล่อย” สเนปพยายามดันอกของเจมส์ให้ไปห่างๆอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่เจมส์ยิ่งประชิดเข้ามาโดยสอดขาข้างหนึ่งเข้ามาในหว่างขาของเขา ทำให้ทั้งคู่แนบชิดติดกัน หนังศรีษะนั้นเจ็บแปล๊บเมื่อถูกเจมส์กระชากเส้นผม
“เอาล่ะ ฉันจะทำตามคำสั่งของนาย สเนป” เจมส์เลื่อนมือซ้ายที่บีบหัวไหล่มาไว้ตรงเอวบางของสเนป
“นายต้องไปงานเลี้ยงกับฉัน!” เขาออกคำสั่งแทนที่จะเป็นคำขอ ร่างในอ้อมแขนสั่นหงึกๆราวลูกนก ใบหน้าที่เคยขาวซีดของสเนปเจือสีแดงซ่านด้วยความอับอาย และนั่นสนองอารมณ์ของเจมส์ได้เป็นอย่างดี
“ไม่!!! ฉันไม่ไป!!”
“แต่นายต้องไป พูดสิ”
“ไม่!!! ถึงนายจะบังคับยังไงฉันก็ไม่มีทางทำให้นายสมหวังหรอก พอตเตอร์ อย่านะ!” สเนปครางเมื่อเจมส์พยายามหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขาไป ตอนนี้เขาไร้ซึ่งทางสู้ แต่ถ้ายอมตกลงไปก็ใช่ว่าเจมส์จะปล่อยเขาอยู่ดี
“อ้อเหรอ? ถึงจะบังคับยังไงก็ไม่ยอมใช่ไหม ไหนดูซิ ถ้าฉันทำแบบนี้นายจะทนได้อีกซักกี่น้ำ”
ก่อนที่สเนปจะรู้ว่าเจมส์คิดจะทำอะไรมือซ้ายของเจมส์ที่เอวของสเนปก็ค่อยๆล้วงเข้าไปในเสื้อของร่างบาง สัมผัสกับหน้าท้องแบนราบแล้วเลื่อนขึ้นมาด้านบน
“ไม่!ยังไงฉันก็ไม่ไป ยะ..หยุดสิฟะ” เสียงของสเนปอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
แล้วสเนปก็ครางลั่นเมื่อมือของเจมส์ไปหยอกล้อกับยอดอกสีซีดของร่างบางจนมันเจือสีชมพู ร่างบางบิดตัวอยู่ในอ้อมแขนด้วยความเสียวซ่านเพราะเจมส์ใช้ปลายลิ้นไล้เลียไปบนฐานของมัน
“ไอ้วิปริตพอตเตอร์!!!!หยุดเลย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้…อะ อืมมม” เสียงแปดหลอดของสเนปได้เงียบลงเมื่อเจมส์โน้มใบหน้าลงไปจูบเขา สเนปตะลึงงันจนเข่าทรุดฮวบ แต่เจมส์ก็ยังก้มตามลงไปประกบปากต่อ ด้วยความตกใจสเนปเผยอริมฝีปากอย่างง่ายดายเมื่อเจมส์สอดลิ้นเข้าไป เด็กหนุ่มจงใจขบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างแรงจนเลือดออก ทำให้สเนปครางในลำคอด้วยเจ็บปวดแล้วพยายามเบือนหน้าหนี
“แฮก…แฮก…พอได้แล้วพอตเตอร์…” สเนปหอบจนตัวโยน
“ไม่พอจนกว่านายจะยอมไปกับฉัน แล้วอย่าเสียงดังมากซะล่ะเดี๋ยวฟิลช์จะมาเห็น” พูดจบเจมส์ก็ใช้มือสอดไปใต้กางเกงแล้วกำส่วนนั้นอย่างช้าๆ และมากเรื่อยๆจนคนด้านล่างรู้สึกอึดอัด
“ไม่…ไม่..อย่าเลยพอตเตอร์…ฮึก.. เอามือออกไป ฉะ…ฉันเจ็บ…” เจมส์ยังคงใช้มือบีบส่วนนั้นไม่ยอมปล่อยจนสเนปเริ่มทุรนทุราย ใบหน้าขาวประปรายด้วยน้ำตา
“บอกสิว่าจะไปกับฉัน” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วโน้มหน้าลงไปขบที่ใบหู รูดมือขึ้นลงช้าๆ อย่างเนิบนาบ
“อ๊า..อือ พอแล้ว!!...ฮึก…ฉันจะไปกับนาย…หยุดได้แล้วพอตเตอร์!ฉันยอมแล้ว!!” สเนปตะโกนลั่นเมื่อเจมส์กำลังจะสอดนิ้วเข้ามาทางช่องทางร้อนของเขา ตอนนี้เขายอมแล้ว ยอมไม่ให้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไปมากกว่านี้ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนอย่างเจมส์ พอตเตอร์จะทำเรื่องน่ารังเกียจพรรณนี้ได้ลงคอ
เจมส์หยุดการกระทำนั้นอย่างเสียดาย เขานึกว่าสเนปจะยอมเสียตัวเพื่อไม่ไปงานเลี้ยงกับเขา แต่เมื่อมองใบหน้าที่เปรอะไปด้วยน้ำตาของสเนปความรู้สึกละอายใจก็ถาโถมขึ้นมา
“สเนป…ฉัน..” เขาอยากพูดว่า “ขอโทษ” แต่มันจุกอยู่ในอก จึงได้แต่มองดูสเนปจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วหยิบหนังสือข้างกายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล
“พอกันที พอตเตอร์…..” สเนปปาดน้ำตาบนใบหน้าออกแล้ววิ่งออกไป ทิ้งเขาให้อยู่ตรงระเบียงคนเดียว อย่างเดียวดาย และจมปลักกับความรู้สึกผิดของตัวเอง
นี่มันอะไรกัน…..ฝันร้ายในความจริงชัดๆ… สิ่งที่เขาทำกับสเนปนั้นเกิดจากความบ้าบิ่นของตนเองล้วนๆ นี่เขาทำอะไรลงไป? เจมส์ซุกใบหน้าร้อนผ่าวลงบนฝ่ามือที่ยังมือกลิ่มหอมจางๆของสเนปติดอยู่
เราทำไปได้ยังไงกัน?
.........
ตอนที่สองคลอดออกมาตามๆกัน(มีไฟนี่หว่า?)
แอร๊ยยย เผารูปมากมาย ความจริงแต่งไว้เยอะละ แต่ต้องมานั่งวาดรูปนี่สิ=,.=
รักคนอ่าน จุ๊บ>3<
ความคิดเห็น